ประสบการณ์ สามครั้ง เมื่อข้าพเจ้าได้เจอพญานาค

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย parnparn, 23 ตุลาคม 2008.

  1. parnparn

    parnparn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +199
    เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ แต่นึกซะว่าเป็นเรื่องเล่าสู่กันฟังเล่นๆก็แล้วกัน<O:p</O:p
    ครั้งแรก เกิดเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๘ ปีนั้น ข้าพเจ้าได้บวชที่วัดอัมพวัน สิงห์บุรี หลังจากที่ได้รับกรรมฐาน ฝึกวิปัสสนาได้หลายวัน วันหนึ่งก็เกิดปรากฎการณ์ พอเริ่มนั่งสมาธิร่างกายก็เริ่มขยับตัวนั่งขัดสมาสกระชับขึ้น ความเจ็บทรมานเริ่มชัดเจนขึ้น ก็กำหนดจิตตามไปเรื่อยๆ ความเจ็บก็มากทวีขึ้น จนหายไปเฉยๆ แล้วก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองออกมานั่งลอยนอกร่าง ขึ้นด้านบน เห็นร่างกายตัวเองอยู่ข้างล่าง จากนั้นก็ลอยออกไปไกลมาก มองเหมือนเป็นจะออกนอกจักรวาลอะไรอย่างนั้น พอศีรษะยื่นออกไปพ้นเขต หัวก็ถูกตัดขาดกระเด็นไป เหมือนโดนจักรตัด ก็พยายามเอื้อมหยิบเอาศีรษะมาต่อใหม่ แล้วก็ลอยกลับเข้าร่าง ความรู้สึกเจ็บรอบคอยังรู้สึกได้ไปเกือบเดือน ปรึกษาพระครูสังฆรักษ์ ท่านบอกว่าไม่เป็นไรหรอก ช่วงที่เดินจงกรม เดินไปเดินมาก็ง่วงมาก พยายามต่อไป ก็เห็นเหมือนยักษ์มารอะไร โผล่ออกมาจากตัวเรา ถีบอกเราแล้วก็บินไป ความง่วงก็หายเป็นปลิดทิ้ง ตอนที่เห็นภาพยักษ์เห็นเหมือนภาพซ้อนต่างมิติมีสีสรรชัดเจน เอาเรื่องไปเล่าให้พระครูฯฟังตลอด หลังเหตุการณ์นี้ รู้สึกว่าตัวเองแปลกไปมีสติที่แข็งขึ้น รู้ตัวเองทุกลมหายใจ ว่ากำลังหายใจเข้า หายใจออก กำลังเดิน กำลังกิน กำลังนอนอะไรมาสัมผัสร่างกาย เช่นแมลง ยุงกัด ดูดเลือด ก็รู้สึกได้ชัดมาก หลับก็เหมือนรู้ตัว นอนน้อย และไม่ฝัน มีความรู้บางอย่างเข้ามาในหัวโดยไม่ต้องอ่าน ไม่ต้องคิด เป็นอยู่สามวันก็เหมือนสิ่งนี้ไหลออกไปจากร่างแล้วก็เจ็บตัวมากๆ สติก็กลับเป็นปกติ แต่ความรู้ต่างๆยังเข้ามาเรื่อยๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ประกอบกับเรื่องเล่ามากมายในวัดก็ทำให้ข้าพเจ้าอยากลองของ ก่อนจะถึงเรื่องพญานาค ในกุฏิที่อยู่ชั้นบนมี ๓ ห้อง ห้องแรกเป็นห้องพระครูฯผู้ช่วยเจ้าอาวาส ห้องกลางข้าพเจ้าอยู่ ห้องริมเป็นห้องหลวงพี่ที่คอยดูแลหลวงพ่อ หลวงพี่องค์นี้ยังหนุ่ม บวชมาหลายพรรษา ท่านเล่าว่าตอนเด็กเคยตกบ่อน้ำแต่ไม่ตาย รอดมาก็เปลี่ยนชื่อ กลับมาถึงความรู้ที่เข้ามาเองเป็นเรื่องรูป นาม มีนามก็จะเกิดรูปตาม เหมือนรูปเกิดในโลกมนุษย์ นามอยูในโลกวิญญาน ชื่อก็เป็นส่วนของนาม เราสามารถอ่านที่ไปที่มาจากชื่อได้ เหมือนที่เรารู้ทุกๆเรื่องของสิ่งนั้น คนผู้นั้นจากนาม (อ่านจาก เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน) เรื่องเล่ามีอยู่ว่าในวัดมีเปรตเยอะมาก หลวงพ่อ หรือ แม่ชีก็เจอออกบ่อย ข้าพเจ้าก็อยากเห็นอยากเจอ พอคิดว่านั่งสมาธิแล้วถอดจิตได้ก็ทำ พอเริ่มนั่งจิตก็ลอยพ้นกุฏิ ก็เจอเลยมาเป็นคู่โล้ชิงช้า นั่งสวดมนต์รอฉันที่ศาลา ก็เจอเปรตหัวโตเท่าบาตรน้ำมนต์ขนาดยักษ์ กลัวก็กลัวแต่ไม่เข็ด แล้วจะช่วยพวกมันได้อย่างไร ความรู้ก็บอกว่า ทุกอย่างต้องกิน ไม่ได้กินก็ตาย มนุษย์ สัตว์ กินอาหารกินเนื้อ กินพืช เทวดา กิน(เสวย) ความสุข เทพ กิน(เสวย) ความปิติ สัตว์นรก กิน ความทุกข์(ไม่มีความทุกข์กิน หรือ พ้นทุกข์ ก็ตาย ไปเกิดใหม่) ยักษ์ กิน ความสะใจ มาร กิน ความวุ่นวาย พรหม กิน(เสวย) ความอุเบกขา แล้ว เปรตละ เปรตมันกินความอด มันกินไม่ได้ ถ้ามันได้กินมันจะตาย แล้วกลายเป็น ภูมิเทวา หรือรุกขเทวา พวกนี้ทำความดีมาก ทำชั่วก็มาก เช่นที่บอกว่าเอาของสงฆ์ก็เป็นเปรต แต่ส่วนใหญ่คนเหล่านั้น ก็มีส่วนทำคุณให้สงฆ์เหมือนกัน มีทั้งบุญและบาป เสมอกัน เมื่ออิ่มก็ได้เป็น ภูมิเทวา หรือรุกขเทวา เมื่ออดก็กลับป็นเปรตอีก พวกนี้เป็นโอปาติกะ แปลว่าเกิดแล้วโตเลย แล้วรูปนามละ ตอนแรกก็ไม่ค่อยจะเชื่อความรู้บอกว่า เสาไฟฟ้าไง บางตนคิดว่ามีตัวมีฤทธิ์ มีบุญ ก็เป็นประเภทมีหลอดไฟติด คิดดูแล้วก็พิลึกดี คืนนั้นเราเรียกเปรตมากิน ( ทาน) ที่เราให้ทานคือธรรมะ เราสวดบทธัมจักกัปวัตนสูตรให้ฟัง อธิบาย อริยสัจ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค กลับไป กลับมา พอเริ่มสวด ฟ้าก็ร้อง ลมแรงมาก ฝนตกหนักอย่างไม่มีปี่ มีขลุ่ย เอฟเฟ็คยังกับหนังสยองขวัญ แล้วพวกเขาก็ไปเกิดใหม่ เมื่อกี้บอกว่าเปรตเป็นนาม รูปก็คือเสาไฟฟ้า ถ้ามันไปเกิดหมดจะเกิดอะไรขึ้นละ สงสัยรถจะชนเสาล้มมั๊ง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ อีกสองวันเสาไฟฟ้าจากหน้าวัดไปถนนป็นสิบๆต้น โดนถอนหมด เทศบาลจะทำถนนเข้าวัดใหม่ เลยรื้อเสาไฟฟ้าทั้งหมดออก ขนลุกเลย จริงๆก็คิดว่าตัวเองบ้าไปแล้วแต่มีเรื่องแบบนี้ด้วย ยังไม่พอเท่านั้น เรื่องอยากรู้ยังมีอีก หลวงพี่เล่าว่าในแม่น้ำมีสมบัติโบราณอยู่ ลองนั่งสมาธิค้นดู แล้วก็เป็นครั้งแรกที่เจอ พอจิตข้าพเจ้าเพ่งลงในแม่น้ำ สิ่งที่เห็นคือ นาคตัวเขียวมรกตยาวมาก ว่ายเข้ามาต่อหน้า ข้าพเจ้ากลัวมากความรู้สึกกลัว มีมากกว่าเห็นสิงโตหรือเสืออยู่ตรงหน้าอีก รีบกลับขึ้นมาทันที แล้วมันเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น ความรู้บอกว่า นางนาคตนนั้นคือแม่น้ำเจ้าพระยา รูปคือแม่น้ำทั้งเส้น นามในโลกทิพย์เป็นนาคผู้หญิง ก็แม่น้ำ ก็เป็นแม่ ผู้หญิงอยู่แล้ว อีกสองวันเช้ามืด ฟังหลวงพ่อเทศน์ตอนตีห้า ข้าพเจ้านิมิตเห็น ไข่ห้าฟอง อะไรกัน พอเข้าสมาธิดู เหมือนเปิดเทปย้อนดู โอ้คุณพระช่วย นาคแม่น้ำเจ้าพระยา มาเจอนาคตัวผู้ ก็สมัยหลวงพี่เด็กๆ ตกบ่อเกือบตาย จิตของนาคมาอยู่ด้วยก็เลยเปลี่ยนชื่อ ชื่อเก่า+จิตนาค เปลี่ยนเป็น ชื่อใหม่ เรื่องชื่อถ้าใครไปเปลี่ยนมา แสดงว่ารับอะไรบางอย่างมาอยู่ด้วยกับเรา อาจให้คุณ หรือไม่ก็แล้วแต่ว่าอะไรเข้ามา บางคนเปลี่ยนชื่อที่ตำหนักทรงเจ้า ก็อาจมีเจ้านั้น หรือ บริวารเจ้าเข้ามาอยู่ด้วย บางคนเปลี่ยนชื่อกับหมอดูให้ดูว่าสถานที่นั้น มีอะไรอยู่ เช่นถ้าหมอดูอยู่หน้าเมรุเผาศพก็อาจเป็นวิญญานมาอยู่กับเราฟังแล้วหน้ากลัว ใครไปเปลี่ยนชื่อมาแล้วอยากรู้ว่าอะไรมาอยู่กับเราดี หรือไม่ดี ก็ให้ดูสถานที่เปลี่ยน สิ่งแรกที่สะดุดตา ต้องใจก็คือสิ่งนั้นและ กลับมาที่วัดต่อ ทำอะไรลงไป ข้าพเจ้ากลายเป็นพ่อสื่อให้นาคสองตนมีเพศสัมพันธ์กัน จะอาบัติมั๊ยนี่ ไม่เป็นไรปลงกับหลวงพี่ก็แล้วกัน ผ่านไปพักใหญ่ วันหนึ่งตอนบ่ายจิตบอกว่า พญาครุฑจะมากินไข่นาค เป็นเรื่องธรรมชาติ ด้วยความไม่รู้เรื่องเลย ข้าพเจ้าบอกพญาครุฑว่า อาตมาภาพขอบิณฑบาตชีวิตน้อยๆ เถิด คิดในใจว่าทำอะไรดูดี ถึงเราจะบ้าไปแล้วก็ดูดีน่า คิดดูนะครับถ้านางนาค คือแม่น้ำเจ้าพระยา ลูกๆคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากแม่น้ำ ลำคลอง หรือน้ำใต้ดิน หมายความว่าไข่ ห้าฟอง ก็คือ ทางน้ำห้าสาย เชื่อหรือไม่ ปี๒๕๓๘ น้ำท่วมหนัก และหนักต่อเนื่องกันหลายปีจริงๆ ขอโทษนะครับสำหรับความเดือดร้อนที่เกิดจาก ความรู้เท่าไม่ถึงการ วัดกลายเป็นเกาะ เป็นศูนย์รวมอาหารให้กับคนระแวกนั้น บิณฑบาตไม่ได้ แล้วทุกอย่างก็ผ่านพ้นไป ไม่มีใครอื่นรู้ หลังจากสึก ข้าพเจ้าเปิดโรงเรียนอนุบาลเล็กๆ พออยู่พอกินเพราะต้องการสัมมาอาชีพ แต่งงานแล้วมีลูกหนึ่งคน ที่โรงเรียนของข้าพเจ้าอยู่แถวรังสิต เจ้าที่หรือคุณตาคุณยาย แถวนั้นคุณตาก็เป็นพญานาคคลองรังสิต คุณยายเป็นกินรี เป็นลมที่อยู่แถวนั้น ราวปี๒๕๔๕ วันหนึ่งข้าพเจ้านั่งอยู่ที่ระเบียงชั้นสองของโรงเรียน โอ มายก๊อต อยู่ก็เห็นนางนาคมาหาอีกแล้ว คราวนี้ตัวส้มสด มองดูยาวไปจนสุดหมู่บ้านรู้สึกว่าจะโตกว่าที่เห็นคราวก่อน เป็นตัวเดียวกัน เธอบอกว่าฝากไข่ไว้ใบหนึ่งดูแลให้ดี ไม่งั้นจะโกรธ มาคราวนี้ชินไม่กลัวหรอก แต่ว่าผู้หญิงท้องเอาลูกมาฝากไม่ช่วยจะดีหรือ แล้วถ้าเธอโกรธจะทำยังไง ก็บอกเธอไปว่า OK แต่อย่าให้น้ำท่วมมากละเดี่ยวนักเรียนจะเดือดร้อน แต่น้ำก็ท่วมอยู่ดี เรื่องนี่ข้าพเจ้าเล่าให้แม่ยายฟัง แล้วบอกว่าถ้าเราไม่บ้าไป มีไข่มาอยู่ในโลกทิพย์ที่นี่ ที่สนามก็ต้องมีรูปของไข่พญานาคเกิดขึ้น ยังคุยกันว่าเราอาจเอาโต๊ะหรือโอ่งน้ำ ไปวางที่สนาม หลังจากนั้นพอลืมๆ ที่โรงเรียน ก็มีศาลพระพรหม แล้วก็ศาลตายายด้วย เรื่องนี้เหมือนในวรรณคดีเลย ใครเคยดูเรื่องนางอุทัยเทวี เป็นลูกนางนาค พอไข่ไว้ก็จะสำรอกออกมาคลุมไข่เอาไว้ ทายซิว่าเกิดอะไรขึ้นที่สนามโรงเรียน อะไรเหมือนกับไข่พิษ ไม่น่าเชื่อจริงๆ ตัวต่อหัวเสือ มาทำรังหุ้มศาลตายายทั้งศาล ขนาดประมาณ ๑ เมตรได้ แต่ว่าไม่เคยทำร้ายเด็กเลย หลังจากนั้นเกือบปี วันหนึ่งนาคตัวน้อย ก็บอกว่าเขาคลอดแล้ว กำลังไปแล้วนะ ก็ประจวบกลับเทศบาลมาขอร้องให้กำจัดรังต่อออกไป คนกำจัดแมลงเอายาใส่ในรัง ตัวต่อก็แตกรังมาตายทั่วสนาม นับได้ ๑๘๘ ตัว แล้วเวลาก็ผ่านไปไม่นาน ข้าพเจ้าก็ไปทำงานที่บริษัทของเพื่อนแม่ยาย ต้องมีการจัดสัมมนา หลายจังหวัด ก็เป็นครั้งที่ สามที่จะมาเกี่ยวกับพญานาค ข้าพเจ้าไปสัมมนาที่เชียงใหม่ วันนั้นนั่งรถตู้ไปมา จะไปที่ไหนก็ผ่านวัดอุปคุต นับไปนับมา๑๑เที่ยว เลยบอกกับพี่ที่ไปด้วยว่า เข้าไปทำบุญที่วัดนี้เถอะ ก็เลยทำบุญ เช่าพระบัวเข็มมา ในประวัติเล่าว่าท่านอยู่ที่สะดือทะเล วันนั้นข้าพเจ้าก็นั่งสมาธิดู จะไปกราบพระอุปคุต ในสมาธิข้าพเจ้าลงไปท้องทะเลลึกมาก ไปไม่สุดซะที ในที่สุดก็พบแทนที่จะพบพระอุปคุต กลับเป็นพญานาคขาวบริสุทธิ์ มี ๘เศียร ตัวใหญ่กว่านาคแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เคยเจอมากมาก เหมือนช้างกับมดเลย พอเจอท่านก็บอกว่าท่านคือพระบัวเข็ม ข้าพเจ้าเริ่มหายใจไม่ออกเหมือนจมน้ำ คืนนั้นข้าพเจ้าเริ่มป่วยหายใจลำบาก พอกลับถึงกรุงเทพก็เข้าโรงพยาบาล หมอบอกว่าน้ำท่วมปอด พอย้ายโรงพยาบาลไปฉีดสีที่รพ รามา ก็พบว่าหัวใจตันทุกเส้น ต้องผ่าตัดบายพาสทันที ทุกวันนี้ข้าพเจ้าไม่ได้ทำงาน แต่มาพักผ่อนที่ชลบุรี เรื่องที่เล่ามาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ ยืนยัน แต่ก็ควรต้องใช้วิจารณญานนะครับ แล้วท่านผู้มีคววามรู้ท่านใดสามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้ช่วยด้วยนะครับ อ้อจริงๆแล้วนาคที่เห็นอีกตัว คือแม่น้ำโขง เป็นนาค ๓ เศียร สีขาว เข้าใจว่าเขาถือศีล๘ ครับ<O:p></O:p>
     
  2. wirote

    wirote Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2005
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +60
    ขออนุโมทนาสาธุ กับสิ่งที่เห็นและได้สัมผัส ด้วยนะครับ
     
  3. GROLY

    GROLY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    2,019
    ค่าพลัง:
    +8,001
    ตัวหนังสือเล็กจังมองไม่เห็นน่ะ
     
  4. มนตรา_นาคี

    มนตรา_นาคี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +179
    ..ตัวเล็กจังค่ะ..อ่านไม่ถนัดเลย..
     
  5. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,669
    ค่าพลัง:
    +9,239
    ขออนุโมทนาค่ะ
     
  6. คนไชยา

    คนไชยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +171
    ปัจจัตตัง

    รู้ได้เฉพาะตน
     
  7. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    เอ่อ คือ ตัดมาย่อหน้าใหม่ก็ได้นะคะ อ่านยากส์ ไปนิด เนื้อเรื่องน่าสนใจค่ะ แต่อย่างที่บอกอะคะ
     
  8. Ammer_moon

    Ammer_moon สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2013
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    2 เรื่องที่เห้นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ

    1. การกิน
    2. การเปลี่ยนชื่อ
    ขอแชร์ 2 เรื่องนี้ค่ะ -/\- อนุโมทนาด้วยค่ะ
     
  9. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ปกติชอบอ่านเรื่องแบบนี้นะจ๊ะ
    เพราะตัวผมเองก็ มีประสบการณ์เจอนาคในนิมิตรในความฝันมากเลยนะจ๊ะ
    เริ่มจากจะเริ่มปฏิบัติธรรมเพื่อพ้นทุกข์ ก็ได้ไปไส่บาตรทำบุญพระท่านก็ให้หินในถ้ำนาคมานะจ๊ะ 4 กอ้น สี่ตลับ พอตกกลางคืนฝันว่าเดินไปที่ศาลาท่าน้ำริมหนองหารเห็นน้ำผุดก็ รู้ละนาคเป็นแน่ ก็รีบวิ่งเพราะไม่อยากเห็น แต่ก็ไม่ทัน เพราะที่โดดขึ้นมาจากน้ำ เป็นเทพบุตรนาคแปลง สี่หนุ่ม มารุมล้อมจับแขนสองข้าง จับหัวกดลงพื้นให้นิ่ง อีกตัวเองสลิงฉีดยาอันใหญ่มากเสียบที่กลางหลังไล่จากต้นคอลงไป เสียบแล้วดึงสลิงดูดเอาของเหลวจากกระดูกสันหลังผมออกแล้วฉีดทิ้งข้างนอก แบบนี้ หลายครั้ง แล้วก็ปล่อย ผมก็ถามว่าทำอะไรกับผม เขาบอกว่า ดูดเอาความชั่วออกนะจ๊ะ
    แล้วต่อมาเอาหินนาคมาทำสร้อยแขวนคอให้ลูก ลูกทำหล่นลงน้ำได้ถุนบ้าน เพราะบ้านปลูกในสระ พอกลางคืนฝันว่า น้ำแห้ง ลงไปไต้ถุนบ้างเจองูตัวเบ้อเริ่มนอนไต้ถุนบ้าน
    ต่อมาก็ฝันว่า เห็นนาคหลายตัว ลอยน้ำอยู่ มีคนชุดขาวนั่งบนหัวนาคด้วย ก็เลยคิดว่า หินนาคนี่คงจะเป็นคนนี้แหล่ะที่ ลงไปเอามาจากถ้ำนาค นะจ๊ะ
    ตอนนี้หินนาคเหลือเพียงเม็ดเดียว นะจ๊ะ
    และยังมีอีกหลายฝันมากนะจ๊ะเกี่ยวกันนาค
    เช่นตอนที่ฝันว่าตนเองลอยพ้นพื้น เพื่อหนีคนหลายกลุ่มที่อยากได้ชุดที่เราไส่แต่เรามีชุดเดียวไม่พอแบ่งกันแน่ เราก็เลยลอยขึ้นและหนีออก ผ่านทวีปต่างๆ มีคนวิ่งตามจับดึงข้อเท้าเราไว้ เราก็ขอร้องให้ปล่อย จนพ้นแผ่นดิน ไปที่มหาสมุทร ที่เวิ้งว้าง เราก็ คิดว่าเจอแน่ๆ ไม่นานนาคเยอะแยะ ก็โผล่หัวขึ้นมา เต็มมหาสมุทรกันเลย มีตัวหนึ่งอยู่ไกล้เรา ร่างนาคแปลงเป้นร่างหญิงสาวชุดขาวก้มกราบเรา เหมือนจะลากัน แล้วตัวผมก็เริ่มลอยขึ้นๆ จะออกนอกโลกไปที่ดวงจันทร์ ผมก็รู้ตัวทันก็เลย เรียกหาอาจารย์ว่า ท่านจ๊ะผมไม่อยากไปเลยเพราะ กลัวความสูงและความเวิ้งว้าง สุดท้ายท่านไม่พาไป ท่านพาไปเที่ยวบ้านท่านแทน นะจ๊ะ
    และก็ฝันอีกฝันว่า ฝันเห็นนาคหลายเศียรเลย และไฟก็ใหม้โลกไปทั่ว เพราะพิษจากไฟนาค
    มองดูไกลๆเหมือนยนเศียรนาคจะมีไฟลูกท่วม อยุ่ตลอดเวลาเหมือน หงอนนาค ตอนเช้าเราเอามาถามอาจารย์เรา ท่านตอบว่า ภูมิของเขาเป็นเช่นนี้แหล่ะ
    ต่อมาก็ฝันอีกว่าพบงูยักษ์สีเขียวๆเหลืองๆทองๆ ตัวแปลกๆ เลื้อยมาตรงๆมาหา ต่อหน้า ตาประสานตา ปากแทบจะจุ๊บกันเลย เราก็ท่องบทแผ่เมตตากับนาคจนน้ำลายฟูมปาก กว่านาคจะยอมลดหัวลง แต่หัวนาคเหมือนหัวงูจงอางเลย ถามน้องให้เขาทำนายฝัน เขาบอกว่า หัวหน้านาคมาขอฟังธรรม นะจ๊ะ
    ฝันอีกว่าตนเองบินลอยฉวัดฉเวียนไปมาบนฟ้า ลอดต้นไม้ต่างๆ(เขาบอกป่าหิมพานต์)เราก็บินไปเจอแอ่งน้ำแปลกๆ มีหินแปลกโผล่กลางน้ำ และมีหนูตัวเล็กๆตัวหนึ่งพยายามปีนขึ้นที่หินกลางสระนั้น เพื่อกระโดดไส่เราให้ได้ เราก็บินหลบไปหลบมา ไม่นาน ก็มีอะไรในน้ำกระเพื่อม เราว่าแล้วไม้พ้นนาค เราก็ พยายามหลบ แต่นาคตัวนั้นงับเราเอาไว้ในปาก เราก็นิ่ง กะว่าจะหาทางออก กลายเป็นว่า เรากอดนาคตัวเมียอยู่ ดูใบหน้า หน้าเดียวกันเมียเรา เลย ตื่นจากฝัน ถามน้องเขาที่ทำนายฝันเขาบอกว่า ที่บินคือ ครุฑ ในป่าหิมพานต์ นั่นเองนะจ๊ะ
    ฝันอีก ว่าเดินไปเดินมา สุดท้ายมาเจอหนองน้ำ ต้องข้ามน้ำ แต่ในน้ำมีนางนาค เราคิดยังไงไม้่รู้ โกรธเลย เอาปืนไล่ยิงนาค(ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะจ๊ะ)
    เสร็จแล้วเราได้มีโอกาสถาม ไตรทศ ไตรทศบอก ว่าผมมีเรื่องต้องลงไปสะสางที่เมืองบาดาล ที่จริงผมไม่ได้กลัวนาคนะจ๊ะ แต่ผมกลัวความมืดไต้น้ำ

    ล่าสุดฝันว่า เดินเที่ยวตามเคย ไปสุดที่ท่าน้ำ มีนาคตัวเล็กมากมาย เราเห็นเราก็ถามว่า ทำไมนาคต้องเป็นตัวแบบนี้ด้วย เขาตอบว่า ที่เห็นคือสวมชุด แปลงเท่านั้น ที่จริงนาคไม่ได้มีตัวแบบนี้หรอก แล้วเขาก็ชวนผมไปเที่ยวอีกที่ โดยลงไปในน้ำ ผมก็ไม่ลงอีกตามเคย
    แบบนี้ทุกที นะจ๊ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2013
  10. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    เมื่อผมได้เจอกับท่านอาจารย์ ผมก็ได้รับฟังเรื่องนาค ว่า นาคคือของไทย ส่วนของจีนเรียก มังกร นาคหรือมังกร จะไม่เลื้อยเหมือนงู แต่จะเลื้อยขึ้นลงเหมือนที่ทำตัวงอตามบันไดขึ้นโบสถ์ นะจ๊ะ
     
  11. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ความรู้ก็บอกว่า ทุกอย่างต้องกิน ไม่ได้กินก็ตาย มนุษย์ สัตว์ กินอาหารกินเนื้อ กินพืช เทวดา กิน(เสวย) ความสุข เทพ กิน(เสวย) ความปิติ สัตว์นรก กิน ความทุกข์(ไม่มีความทุกข์กิน หรือ พ้นทุกข์ ก็ตาย ไปเกิดใหม่) ยักษ์ กิน ความสะใจ มาร กิน ความวุ่นวาย พรหม กิน(เสวย) ความอุเบกขา แล้ว เปรตละ เปรตมันกินความอด มันกินไม่ได้ ถ้ามันได้กินมันจะตาย แล้วกลายเป็น ภูมิเทวา หรือรุกขเทวา พวกนี้ทำความดีมาก ทำชั่วก็มาก เช่นที่บอกว่าเอาของสงฆ์ก็เป็นเปรต แต่ส่วนใหญ่คนเหล่านั้น ก็มีส่วนทำคุณให้สงฆ์เหมือนกัน มีทั้งบุญและบาป เสมอกัน เมื่ออิ่มก็ได้เป็น ภูมิเทวา หรือรุกขเทวา เมื่ออดก็กลับป็นเปรตอีก พวกนี้เป็นโอปาติกะ แปลว่าเกิดแล้วโตเลย แล้วรูปนามละ ตอนแรกก็ไม่ค่อยจะเชื่อ
    ......................
    อ่านแล้วได้ความรู้ ด้วยนะจ๊ะ เรื่องกามภพ ว่า ภูมิใดกินอะไรเป็นอาหารก็หมายถึง ภูมินั้น เพราะมีอาหารนั้นเป็นตัวหล่อเลี้ยงทำให้เกิดภพภูมิ นั้นๆ นั่นเองนะจ๊ะ กามภพ คือภพที่มีกามหล่อเลี้ยง กามก็คือ อาหารที่ว่า ชนิดต่างๆไม่เหมือนกันนั่นเอง นะจ๊ะ
     
  12. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    โลกมนุษย์ ก็เป็นกามภพ กามที่เป็นตัวหล่อเลี้ยงให้ เกิดเป็นมนุษย์ก็คือ กามที่เสวยจาก ตาหูจมูกลิ้นกายใจ นั่นเองนะจ๊ะ กามที่ว่านี้หมายถึง ตัณหานั่นเองนะจ๊ะ เลยเรียกว่า กามตัณหา

    ส่วนกามคุณ คือ การเสพ การเสวยที่ไม่ให้โทษ แต่เสวยแล้วให้คุณ ให้คุณที่แปลว่า ไม่ได้ให้โทษ เรียกกามคุณ5 ก็คือ ผัสสะทั้ง5 ตาหูจมูกลิ้นกาย รับผัสสะ มาที่ใจเสวย แต่ใจไม่มีอุปทานไม่มีอวิชชา ก็เลย กลายเป็น กามคุณ 5 ตามที่ข้าพเจ้าได้พูดเอาไว้ นานมาแล้วว่า
    กามคุณ 5 นั่นแหล่ะ คือ มรรคแปดหรือทางสายกลาง นะจ๊ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2013
  13. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    มีครั้งหนึ่งฝันแปลกมาก ฝันว่า เจอปลาฉลามตัวเมีย ฟันนี่เต็มปากเลย แต่ตัวเป็นคนผู้หญิง เราก็เลยเป็นพระอภัยมณี กับนางฉลาม นี่แปลกมากเลย แบบนี้ก็มี
     
  14. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    และนานมาแล้วเหมือนกัน มีคนหัวเราะข้าพเจ้าเรื่องกามภพ
    เพราะโลกคือกามภพ ถูกหล่อเลี้ยงด้วยกาม
    ข้าพเจ้าเลย พูดว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกาม มีกามเป็นแดนเกิด มีกามเป็นผู้พาไป มีกามเป็นของของตน มีกามเป็นผู้ให้ผล มีกาม... เขาเหล่านั้น อ่านแล้ว พากัน หัวเราะและเย้ยหยัน ประมาณนี้แหล่ะครับ นะจ๊ะ
     
  15. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    มาขออธิบายต่อเรื่อง กามภพ นะจ๊ะ

    คำว่า กามภพ เพราะมีภพเป็นตัวหล่อเลี้ยง ภพนั้นจึงยังมีอยู่ เพราะมีผู้เสวย กับมีที่ถูกเสวย(อาหาร) เลยเกิดมีภพภูมินั้น เกิดขึ้นตั้งอยู่ และรอวันดับไป การดับไปได้ อาจมีสามสาเหตุ
    1.อาหารที่เสวยหมด เพราะกรรมหมด
    2.ผู้เสวย เปลี่ยนภพ ไปเสวยในภพอื่น แทน (เพราะภพใหม่แรงกว่า )แต่ เมื่อภพใหม่อาหารที่เสวยหมด ก็จะกลับมาเสวยภพเก่า ดังที่ว่า ไปสวรรค์ก่อนหมดบุญค่อยมานรก นั่นเอง
    3 ผู้เสวยอนัตตาไป ในโลกมนุษย์

    ขออธิบายการเสวยอารมณ์หรือการเสวยอาหารที่เป็นการหล่อเลี้ยงภพภูมิ หมายถึงเช่น การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตามอายุขัย คำว่าอายุขัยคือ ระยะเวลาที่เสวยเหตุแห่งการได้เกิดเป็นมนุษย์ นั้น หรือตัวอย่าง เช่น ถ้าพูดเรื่อง ทางวิทยาศาสตร์ เช่น เราสร้างเหล็ก หรือ ตะปู มาตัวหนึ่ง ซึ่งตะปูหรือเหล็กเกิดจากการประกอบธาตุเคมีความร้อน เข้าด้วยกัน ประกอบมาเป็น เหล็กหรือตะปู และอายุของมันขึ้นอยู่กับการย่อยสลายจากสนิม ดังนั้น การสร้างขึ้นจากการรวมธาตุหรือเรียกอย่างหนึ่งว่า เกิดปฏิกิริยารวมกัน เป็นสิ่งหนึ่ง คือ เป็นเหล็กหรือเป็นตะปู และ อายุขัยของมันก็คือ ระยะเวลาที่ยังทำปฏิกิริยาทางเคมีเป้นเหล็กหรือเป็นตะปู อยุ่นั่นเอง เมื่อถูกสนิมกัดกร่อน ก็เหมือนคนที่ เสื่อมถอยกายสังขารรอวันแตกดับ สนิมกินเหล็กคือความเสื่อม ระยะเวลาที่เหล็กเสื่อมสภาพหมดคือ อายุขัย หรือก็คือ อาหาร(ปฏิกิริยาที่รวมกันหมดไป)หมดไป ก็คือ ไม่เหลือตะปู ไม่เหลือเหล็กแล้วนั่นเอง

    คนก็เช่นกัน เกิดจากการรวมธาตุ มีความเสื่อมของการใช้งานของร่างกายเป็นอายุขัย หรือหมดอาหารที่เสวยก็คือ หมดบุญที่ทำเพื่อเกิดเป็นมนุษย์ ทางวิทย์เรียก หมดสิ้นการทำปฏิกิริยาทางเคมี ธาตุแต่ละธาตุแตกสลายไป นั่นเองนะจ๊ะ
     
  16. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ส่วนมนุษย์ ที่ตายแล้วเพราะเหตุหรือปัจจัยหรือการทำปฏิกิริยาทางเคมีของธาตุ หมดไป หรืออาหารที่หล่อเลี้ยงภพภูมิหมดไป หมดบุญ ก็ไปเสวยภพใหม่ได้ ถ้า ในเวลาที่เกิดเป็นมนุษย์อยู่ สะสมความอยากแต่ไม่ได้รับการ สนองในขณะที่เกิดเป็นมนุษย์ ก็คือ เป็นการสร้างภพใหม่ สร้างกามใหม่หรือ ตัณหาใหม่ สร้างอาหารใหม่ที่ชาติหน้า เป็นการสร้างทางนามทางความคิด เพื่อเวลาตายไปจะได้ เอา รูปตามไปเสวยก็คือ เปลี่ยนรูปจากมนุษย์ไปเป็น เทวดา บ้าง พรหมบ้าง นรกบ้าง นั่นเองนะจ๊ะ
     
  17. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ปฏิกิริยาทางเคมีธาตุ ทางวิทย์ ก็คือ การรวมเหตุปัจจัยให้เกิดของสรรพสัตว์(ความไม่รู้สร้างกรรม)
    อายุขัย ก็คือ ระยะเวลาที่เกิดปฏิกิริยาทางเคมีอยู่ หรือศาสนาเรียกว่า ยังเสวยกามเพื่อหล่อเลี้ยงภพอยู่ คือมีเหตุปัจจัยให้ตั้งอยู่ เสื่อมถอยอยู่
    การตายคือ หมดปฏิกิริยาทางเคมีธาตุ หรือหมดอาหารที่เสวย ไม่มีอาหารมาหล่อเลี้ยงภพภูมิ หรือหมดบุญ หมดเหตุปัจจัยที่ทำให้ตั้งอยู่ นั่นเองนะจ๊ะ

    เกิดแล้วถ้ายังมีความไม่รู้อยู่ก็ จะสร้างเหตุปัจจัยได้อีก สร้างภพใหม่รองรับ (อยาก กามตัณหา)ไปเรื่อยๆ ทางนามทางความคิด และเปลี่ยนรูปธรรมตามไปเสวย แต่ละภพตามที่ตนเองได้สร้างเอาไว้เพราะกามตัณหา หรือความไม่รู้ นั่นเอง

    ถ้าไม่อยากไปเสวยภพภูมิอื่นก็ ต้องดับ ที่ กามตัณหา นะจ๊ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2013
  18. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ที่จะล่าสุด ฝันว่า มีงูตัวใหญ่เยอะแยะมากมายมาขออยู่ด้วย ผมก็รับปาก ให้งูมาอยู่ด้วย มันดีใจใหญ่เกี้ยวรัดพันเต็มตัวเลยนะจ๊ะ สยองจ้า
     
  19. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    และมีอีกมายมายนับฝันไม่ได้เลย พิสดารทั้งนั้นนะจ๊ะ
    แบบว่า เป็นการเรียนรู้ทางจิตวิญญาณ ก็ว่าได้นะจ๊ะ
    พิลึกพิลั่น จริงๆ สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ หาใดปาน นะจ๊ะ
     
  20. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    แบบว่า มีความสามารถพิเศษ ฝันได้ทั้งคืน ลุกมาเข้าห้องน้ำแล้วฝันต่อเป็นเรื่องเป็นราว นะจ๊ะ บางทีฝันเรื่องเดียวกัน สามคืนต่อกันก็มีนะจ๊ะ แบบว่าต้องเอาให้จบเป็นเรื่องๆ ไป นะจ๊ะ
    เพราะหลังจากที่เคยฝึกสติ จนสติรู้ตัวเวลาฝัน เลยยิ่งสนุกไปใหญ่เลย นะจ๊ะ
    ทุกวันนี้ชอบฝัน ตอนจะสว่าง นะจ๊ะ ฝันไปนั่นไปนี่ แล้วแต่ว่าจะจำได้หรือเปล่า เท่านั้นเอง นะจ๊ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...