ปัญหาเรื่องวันเบา ๆ กับการเข้าวัด

.. ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยนะคะที่มาตั้งกระทู้ถามเรื่องอย่างนี้

เคยได้ยินผู้ใหญ่หลาย ๆ คนบอกมา รวมทั้งญาติผู้ใหญ่ของเราเองด้วย ว่า...ถ้าเรามีประจำเดือนไม่ควรเข้าวัด ไม่ควรจุดธูปไหว้พระ (คือยกมือไหว้ได้ แต่ห้ามจุดธูป) และไม่ควรใส่บาตรในช่วงที่เรามีประจำเดือน

ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นคะ .. หรือเราคนรุ่นใหม่ควรยึดถือว่าเป็นเรื่องของจิตใจ ถ้าเราอยากทำก็ทำ ไม่ต้องสนว่าอยู่ในช่วงวันนั้นของเดือนหรือไม่...

 

ยกมือไหว้ กราบ จุดธูป เทียนได้ตามปกติ นะ ที่ห้ามเพราะว่า......
เราว่า นะเวลาที่มีประจำเดือน แล้ว เข้าวัดอยู่ในชุดขาวนะเวลา เปรอะเปื้อนขึ้น มันไม่น่าดูมากกว่า

 

เคยถามเรื่องนี้เหมือนกันนะคะ แต่ได้คำตอบกลับมาว่า

แล้วคุณแม่ชี คุณแม่ขาว ท่านมีประจำเดือนไหม

ท่านก็อยู่วัดของท่านทุกวัน ปฏิบัติธรรมทุกวัน

ถวายอาหารแด่พระสงฆ์ทุกวันเช่นกัน

++ อันนี้ก็ไม่ทราบนะคะ แต่ถามมาได้ความอย่างนี้ เอาไว้พิจารณาเองก็แล้วกันค่ะ ++ ไม่คอนเฟิร์ม แต่ตัวเองก็ใส่บาตรปกติ ไปทำบุญที่วัดปกติค่ะ

 

ไม่น่าจะเกี่ยวกันนะคะ สำหรับการทำบุญใส่บาตรที่วัดในขณะที่มีวันเบาๆ แต่อาจจะมีผลทางด้านจิตใจ ในกรณีที่เราไปนั่งสมาธิค่ะ เพราะจะทำให้เรากังวลกลัวว่าจะเลอะเทอะ หรือรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว หงุดหงิดง่าย หรืออาจปวดท้องน้อย ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงของการมีวันเบาๆค่ะ

 

สงสัยเหมือนกัน แต่ก้อคิดว่าอยู่ที่ใจเรามากกว่า ถ้าอยากทำบุญก้อทำไปเถอะ แต่พูดถึงความสะดวกก้อไม่อยากมีในวันที่ต้องเข้าไปพักที่อื่นเหมือนกัน ไม่ได้เฉพาะแค่วัดเท่านั้น

 

เคยได้ยินเรื่องนี้เหมือนกัน ผู้ใหญ่เคยแนะนำไว้
แต่ไม่เคยเห็นมีในข้อห้ามการปฏิบัติธรรม

คงด้วยเหตุผล
- สมัยก่อน ยังมีปัญหาเรื่องผ้าอนามัย
อาจเคยมีปัญหาเรื่องเลอะเทอะ เปรอะเปื้อน ใส่พื้นอารามวัด
หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้ เกิดความรู้สึก ไม่ดีสำหรับผู้พบเห็น
แต่สมัยปัจจุบันปัญหาเรื่องนี้น้อยลง ไม่น่าเป็นปัญหาการทำบุญของสตรี แต่ด้วยความเป็นห่วง ของคนรุ่นก่อน จึงให้เราระวังไว้

- ความรู้สึกของผู้ปฏิบัติธรรม อยากให้มีบรรยากาศของความสะอาด
บริสุทธิ์ หากมีปรากฏว่าคนข้างๆ นำสิ่งแปลกปลอมเข้ามา สร้างความ รำคาญ
อาจรวมทั้งกลิ่นอื่นๆ ที่ไม่สะอาด เช่น มีผู้นำบุหรี่เข้ามาสูบ ในวัด
หรือสถานที่ปฏิบัติธรรม ความรู้สึก ก็คงเหมือนกันนี้

 

ไม่มีช่วงไหนที่ทำบุญไม่ได้เข้าวัดไม่ได้หรอกครับ ตัวไม่สะอาดไม่เป็นไร เอาใจสะอาดไปอย่างเดียวพอ

 

ฟันธงให้ว่าไม่เป็นไรครับ มีกิจกรรมทางศาสนา เข้าวัด สวดมนต์ได้เหมือนปกติ

สาเหตุใหญ่ที่มีผู้เชื่อเช่นนั้น คาดว่ามาจากวิชาที่เนื่องด้วยไสยศาสตร์ ซึ่งหลายท่านสับสน ไม่สามารถแยกแยะระหว่างพุทธศาสตร์กับไสยศาสตร์ได้ วิชาทางไสยศาสตร์มีข้อจำกัดข้อห้ามต่างๆ เพื่อให้คงความขลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อห้ามเกี่ยวกับเรื่องประจำเดือนนี่เป็นเรื่องใหญ่ ที่รู้ค่อนข้างแพร่หลายว่าสามารถทำลายความขลังของไสยศาสตร์ได้ชะงัก

พุทธะแปลว่าตื่น ในขณะที่ ไสยะแปลว่าหลับ จึงเป็นสิ่งตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง จึงไม่ต้องเป็นห่วงกังวลในกิจกรรมของฝ่ายพุทธะเลยครับในเรื่องนี้

 

ขอบคุณมากค่ะ ได้รับคำตอบที่ดีมาก ๆ และเป็นความรู้ด้วย ^^ จากหลาย ๆ ท่านเลย