ผจญมาร

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย บุญญสิกขา, 3 ธันวาคม 2009.

  1. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    หลังจากพระสิทธัตถะทรงเลิกการบำเพ็ญทุกรกิริยา ด้วยทรงเห็นว่า วิธีทรมานร่างกายนั้นมิใช่วิธีอันถูกต้องสำหรับการค้นหาสัจธรรม (เจริญอริยมรรค) และได้ทรงตั้งพระทัยว่า จงทรงเลิกการปฏิบัติดังกล่าว โดยเด็ดขาด แต่จะกลับไป บำเพ็ญเพียรทางจิตให้มากขึ้นกว่าเดิม ที่เคยปฏิบัติมาแล้วแต่หนหลัง พระองค์จึงได้ทรงเริ่มแสวยอาหารตามปกติจนพระวรกายแข็งแรงขึ้นโดยลำดับ

    [​IMG]


    ส่วนปัญจวัคคีย์ คือ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ อัสสชิ และมหานามะ ที่ตามเสด็จมาคอยให้ความดูแล เห็นพระสิทธัตถะกลับมาเสวยอาหาร ก็เกิดความไม่เชื่อถือ จึงชวนกันผละหนีไปอยู่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ใกล้เมืองพาราณสี

    [​IMG]


    เมื่อพระสิทธัตถะทรง อยู่ตามลำพัง พระองค์ก็ทรงเริ่ม บำเพ็ญเพียรทางจิต ก่อนเริ่ม ตอนเช้าทรงรับและเสวยอาหารที่นางสุชาดานำมาถวาย หลังจากเสวยแล้ว ได้ทรงนำถาดไปลอยในแม่น้ำเนรัญชราและทรงสรงน้ำที่นั่น ตอนกลางวันได้เสด็จไปพักผ่อนในดงไม้สาละ ตอนเย็นได้เสด็จมุ่งหน้าสู่โคนไม้มหาโพธิ์ ระหว่างทางทรงรับหญ้าคาจากนายโสตถิยะและเสด็จต่อไปจนถึงต้นมหาโพธิ์ ทรงลาดหญ้าปูเป็นที่นั่งต่างบัลลังก์ทางด้านตะวันออกของโคนต้นมาหาโพธิ์ และประทับนั่งบนแท่นหญ้าคานั้น ทรงตั้งพระทัยอย่างแน่วแน่ว่า “แม้เนื้อและเลือดในกายจะเหือดแห้งไป ไม่มีอะไรเหลืออยู่นอกจากหนัง เอ็นและกระดูกก็ตาม ถ้ายังไม่ตรัสรู้สัจธรรม จะไม่ยอมลุกขึ้นจากที่นั่งนี้”



    [​IMG]

    จากนั้นพระสิทธัตถะทรงเริ่มบำเพ็ญเพียรทางจิต ตามหลักฌาน ที่เคยทรงมีพื้นฐานมาก่อน ทรงตั้งพระทัยระดมกำลังจิตต่อสู่กับธรรมชาติฝ่ายต่ำ เพื่อยกระดับจิตของพระองค์ให้สูงขึ้นและเพื่อค้นหาความจิรงให้ได้ว่า ความทุกข์ของชีวิตเกิดขึ้นมาได้อย่างไร และจะทำอย่างไร คนเราจึงจะรอดพ้นจากความทุกข์นั้นได้

    [​IMG]

    แต่เนื่องจากพระองค์ยังทรงอยู่ในวันหนุ่ม ภาพแห่งอดีตที่เป็นความบันเทิงเริงรื่น ในท่ามกลางการบำรุงบำเรอของเหล่านางสนมที่พระองค์เคยได้รับในพระราชวัง ได้ปรากฏขึ้นและชักจูงพระทัยของพระองค์ให้คิดหวนกลับไปถึงความสุขสบายในหนหลัง แต่ด้วยพระทัยที่เด็ดเดี่ยวและมั่นคงต่อสัจอธิษฐาน พระองค์ได้ทรงต่อสู่กับภาพดังกล่าวด้วยกำลังพระทัยทั้งหมด ในที่สุดก็ทรงสามารถปัดเป่าความคิดอันชั่วร้ายที่เรียกว่า มาร ทั้งหลายที่เข้ามารบกวนพระทัยของพระองค์ให้สูญสิ้นไปได้ พระทัยของพระองค์จึงสงบเหมือน้ำในสระน้ำเวลาที่คลื่นลมสงบ

    [​IMG]


    จากรูปได้ความว่า พระองค์ทรงนั่งบำเพ็ญทางจิต มีพญามารนามว่าวสวัตตี ผู้ตามผจญพระองค์มาตลอด ตั้งแต่วันเสด็จออกผนวช มาปรากฏตัวพร้อมเสนามาร มีอาวุธครบครันน่าสะพรึงกลัว พญามารร้องบอกให้พระองค์เสด็จลุกจากอาสนะว่า “บัลลังก์นี้เป็นของข้า ท่านจงลุกขึ้นเดี๋ยวนี้”เมื่อพระองค์แย้งว่า บัลลังก์เป็นของพระองค์ พญามารถามหาพยาน พระองค์ทรงเหยียดพระดรรชนีลงยังพื้นดินและตรัสว่า “ขอให้วสุนธรา(พระแม่ธรณี)จงเป็นพยาน”


    [​IMG]


    ทันใดนั้นพระแม่ธรณีก็ผุดขึ้นจากพื้นดินปรากฏตัวบีบมวยผม บันดาลให้มีกระแสน้ำหลากมาท่วมทับพญามารพร้อมทั้งกองทัพพ่ายไปในที่สุด เป็นอันว่าพญามารพร้อมทั้งกองทัพได้พ่ายแพ้แก่พระองค์โดยสิ้นเชิง เหตุการณ์ตอนนี้ ต่อมาได้ถูกจำลองเป็นพระพุทธรูปรางหนึ่ง เป็นปางนั่งสมาธิ พระหัตถ์วางบนพระเพลา ชี้พระดรรชนีลงพื้นดิน เรียกว่า “ปางมารวิชัย” จากเหตุการณ์ดังกล่าวสามารถจะวิเคราะห์ได้ว่าการที่พระพุทธเจ้าทรงผจญมารและเอาชนะมารได้ในที่สุด



    [​IMG]


    ตีความได้ว่า มาร ก็คือกิเลส ได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ ที่มารบกวนพระทัยพระองค์ในขณะนั่งสมาธิ เสนามาร ก็คือกิเลสเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นบริวารของโลภะ โทสะ โมหะ การที่ทรงผจญมาร ก็คือ ทรงต่อสู้กับอำนาจของกิเลสเหล่านี้นั่นเอง


    ส่วน พระแม่ธรณี ก็คือ บารมีทั้ง ๑๐ ที่ทรงบำเพ็ญมา การอ้างพระแม่ธรณี ก็คือทรงอ้างถึงคุณความดีที่ทรงบำเพ็ญมา เป็นกำลังใจให้ต่อสู่กับอำนาจของกิเลส เพราะพระบารมีที่ทรงบำเพ็ญมาเต็มเปี่ยม พระองค์จึงสามารถเอาชนะอำนาจของกิเลสทั้งปวง บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่สุด


    ข้อมูล : http://www.bp-smakom.org/BP_School/Social/Bud-pachan-man.htm


    อัญเชิญเสียงพระธรรมเทศนาอบรมจิต เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช


    [MUSIC]http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=26513[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2009
  2. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    คำกรวดน้ำให้มารทั้ง ๕<O:p</O:p
    มรดกธรรม สมเด้จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน ให้สวด ๓ จบ ๕ จบ ๗ จบ
    <O:p</O:p
    <O:p
    ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ
    มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุฯ<O:p</O:p
    <O:p
    พระโลกนาถเจ้า ทรงชนะมาร พร้อมด้วยเสนามาร บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ อันสุงสุด ทรงประกาศสัจธรรม ๔ ประการ ข้าพระพุทธเจ้า ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้า พระองค์นั้น ผู้มีความแกล้วกล้ายิ่ง พวกมารทั้ง ๕ จงหลีกไป<O:p</O:p

    มารทั้ง ๕ และมานะทั้งปวง อย่าได้จำนองจองเวรแก่กันเลย จงรับเอาส่วนบุญนี้เถิดฯ
    <O:p</O:p
    <O:p
    มารทั้ง ๕ คือ <O:p</O:p
    - กิเลสมาร มาร คือ กิเลส ๑ <O:p</O:p
    - ขันธมาร มาร คือ ปัญจะขันธ์ ๑ <O:p</O:p
    - อภิสังขารมาร มาร คือ อภิสังขารที่ปรุงแต่งกรรม ๑ <O:p</O:p
    - เทวปุตตมาร มาร คือ เทพบุตร ๑ <O:p</O:p
    - มัจจุมาร มาร คือ ความตาย ๑
    <O:p</O:p
    <O:p
    เมื่อท่องบ่นพระคาถานี้แล้ว รำลึกน้อมพุทธคุณ ตั้งจิต สติมั่น ดำรงตน มารทั้ง ๕ จะได้ไม่มารบกวน<O:p</O:p
     
  3. ฮุโต๋

    ฮุโต๋ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +44,568
    โมทนาสาธุค่ะ
    มารไม่มี บารมีไม่เกิด บารมีจะเกิดขึ้นได้ต้องมีมารมาทดสอบ
    ของจริง ทำจริง ย่อมเห็นจริง รู้ได้จริง เป็นปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน
     
  4. วิชา ละ

    วิชา ละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    338
    ค่าพลัง:
    +2,416
    เป็นช่องทางบุญความดี เราบอกกล่าวเขาหรือเขาแนะนำเรา

    ขออนุโมทนาสาธุ เป็นผลชนะทุกหมู่มารเด็ดขาดด้วยเถิด ไม่กลับมาเกิดอีก
     
  5. no-ne

    no-ne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,199
    ค่าพลัง:
    +3,381
    [COLOR="deeppink[B][/B]"]อนุโมทนา สาธุเป็นอย่างสูงค่ะ มารคือผู้ขวาง ส่วนผู้สำเร็จคือเรา จิต[/COLOR]
     

แชร์หน้านี้

Loading...