ผมกำลังเจ็บครับ ไปชอบคนที่เค้ายังไม่ลืมแฟนเก่า

ขอเริ่มเรื่องราว ก่อนนะครับ คือผมยังอายุน้อยๆสอบติดรับราชการ ได้แล้ว ทำงานอยู่ในกระทรวงหนึ่ง ใน กทม. และกำลังศึกษา อยู่ ป.โท มหาลัยที่มีชื่อเสียงมายาวนาน แต่แล้ว ด้วยการที่ไปเรียน ป.โท นี้เองทำให้ผมได้ใกล้ชิดกับ ผู้หญิง คนหนึ่ง ซึ่งตอนแรก ผมเฉยๆ แต่เนื่องจาก ด้วยกิจกรรมต่างๆของมหาลัย และ งานกลุ่ม ที่ บังเอิญได้อยู่ด้วยกันตลอด ทำให้เราได้คุยกันบ่อยขึ้น จน ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างทำให้ผมเริ่มชอบผู้หญิงคนนี้ >>> แล้ว วันที่ผมทำพลาดก็คือ ผมดันแสดงออกให้เธอรู้ว่าผมชอบเธออยู่ แต่ พอสอบถามเธอ เธอบอกว่ายังลืมแฟนเก่าไม่ได้ และกำลังกลับมาคุยกลับแฟนเก่าที่คบกันมา 6 ปี แต่เธอก็ไม่อยากให้ผมหายไปแบบนี้ ,,, เมือพอผมจะบอกเธอตรงๆว่างั้นเรากลับมาเป็นเพื่อนกัน นะ เธอกลับร้องไห้ >> ซึ่งด้วยเหตุนี้เองทำให้ผมยังตัดใจจากเธอไม่ขาดซักที กลับมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันเหมื่อนเดิม โดยที่ไม่ต้องมี เบื่องหลัง กัน แบบนี้สบายใจกว่า แต่ผมทรมาน มากๆ ฟังดูเหมื่อนทำได้ง่ายๆ แต่ เอาเข้าจริงๆ ต้องเจอกันบ่อยมาก และ ทำงานกลุ่มเดียวกันตลอด จึงรู้สึกหนักใจครับ >>>>>>>>>>>>>> เลยอยากสอบถามเพื่อนๆ ใน นี้ ว่า การชอบหรือรักใครซักคน มันเป็นห้วงโซ่จากเมือก่อนรึป่าว ครับ การที่เราอาจจะเคยร่วมทำบุญกันซักชาติไหนๆ ชาติ หนึ่ง จึงทำให้เราแค่รู้สึกดีต่อกันแต่ไม่ได้เป็นอะไรกัน หรือ เป็น กรรมเก่าที่ เวลามีใครมาชอบเรา เรากลับไม่สนใจคนๆ นั้นเลย ,,, ความรัก มัก อยู่เหนือ กาลเวลา หรือ เหตุผล เสมอ หรือ ครับ ??? ช่วยชี้แจงผมทีนะครับ ผมจะได้เข้าใจห้วงโซ่ของความรักแบบนี้

 

อดีตกรรม =ผลของปัจจุบัน
ปัจจุบันกรรม = อนาคต

คนที่จะเป็นคนรักกัน หรือเพื่อนกัน หรือศัตรูกัน ล้วนมาจากอดีตและปัจจุบันรวมกันแหละครับ(คิดว่านะ) เป็นธรรมดาของวัฏสังสารที่ต้องพบเจอ...

ความรักทำให้คนเป็นทุกข์และสุขได้ในเวลาเดียวกันครับ
ต้องปล่อยวางบ้างนะครับ

 

อยู่และเห็นมันทุกวันเดี๋ยวคุณก็ ทำใจได้ อาจจะมีทั้งบวกและลบ
ขอแสดงความคิดเห็นว่า ทางที่ดีคุณควรตัดใจคะ และ บอกเธอให้ซื่อสัตว์กับตัวเองอย่าเห็นแก่ตัว
ความชอบหรือรักใครซักคนมันต้องยืนบนความถูกต้องและศิลธรรมแนะนำนะคะ
ความภาคภูมิใจมันต่างกัน

 

ความใคร่ล้วนๆครับ ถ้ารักแล้วทุกข์เมื่อไม่สมหวังเนี่ย
ไม่ได้เขามาเป็นเมีย ก็เลยทุกข์ ลองได้สักครั้งก็เลิกทุกข์
จะบอกว่ามีบางคนมารักเรา แต่เราไม่รัก ความรักไม่มีเหตุผล
จริงๆแล้วมี เพราะมันคือความใคร่
ถ้าลองสาวที่มาชอบเรา สวย หุ่นดี ราวกับนางฟ้านางอับสร
มีรึที่เราจะไม่รักตอบ ไม่จำเป็นต้องสนิท ไม่จำเป็นต้องรู้จักกันมานานเลย
แต่ที่นี้มไอ้ที่มารักเรา แล้วเราไม่รักตอบ ก็เพราะเราไม่ได้สเน่หาหน้าตาอย่างนั้นนั่นแล

จากตัวอย่าง สาวเขาไม่รักเราชัว แต่หาข้ออ้างให้ดูดี ไม่อยากทำร้ายน้ำใจของเราเฉยๆ
เหตุใดที่ยังถนอมน้ำใจ หนึ่งในนั้น อาจเพื่อประโยชน์ส่วนตน
เช่น เรื่องงานกลุ่ม เรื่องเงินทอง ฯลฯ
หมดประโยชน์เมื่อไร ก็หมาดีๆนี่เอง

จำไว้ว่า รักแท้ คือ มีความสุขเมื่อเห็นเขามีความสุข
รักแท้คือการเสียสละ ถ้าเขาไม่รักเรา แล้วเราเจ็บ เรายอมไม่ได้
นั่นคือเรารักตัวเอง
รักแท้ๆคนที่มีให้เรา เกิดมาก็เจอเลย มีสองคน
พ่อกับแม่
พ่อแม่ไม่เคยหวังอะไรจากเราเลย
เราสิมีแต่ขอตัง พ่อแม่ก็ให้ บางทีเรายังโกหกเพื่อเอาตังเลย พ่อแม่ก็รู้ ก็ยังให้
เราเจ็บป่วย พ่อแม่จะเป็นจะตาย บางทีก็ทะเลาะกับหมอซะงั้น
บางทีเราด่าเราว่าพ่อว่าแม่ ทะเลาะกัน แต่ก็ยังเรียกเราไปกินข้าว
ลองพิจารณาดูว่า หากเราอยู่ตรงจุดนั้น ถ้าคนที่กระทำกับเรา มิใช่ลูก มิใช่คนที่เรารัก
เราจะทำอย่างไรต่อไป แน่นอนคงเฉดหัวไล่ไปไหนต่อไหนแล้ว

ถ้าจะแก้ไขหรือทำยังไงให้สาวที่หลงรักลืมแฟนเก่าแล้วมารักเรา ก็คงทำไม่ได้
แต่ที่ควรทำก็คือ รักให้เป็น รู้ก่อนว่ารักแท้ คืออะไร เป็นยังไง
เรารักคนนี้ ทรมานกับคนนี้ ไม่สมหวัง แต่ในอนาคตเราเจอคนใหม่ เราก็เลิกเพ้อเลิกทรมานจากคนเก่า
เพราะอะไร? เพราะความใคร่มันหาที่ลงได้แล้วยังไงล่ะ รักแท้ๆน่ะ มันไม่แปรผัน ยังได้ ไม่ได้ รักก็ยังเหมือนเดิม

ปล่อยวางเลย วิธีเดียว
จบข่าว...

 

ลองอ่านบทความนี้ดู
มองความรักผ่านกฏแห่งกรรม อาจช่วยคลายทุกข์ได้เร็วขึ้น
(จริงๆ ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ก็อาศัยธรรมะเนี่ยแหละช่วยปลอบใจ)




ความรัก หรือ กรรม ทำให้คนตาบอด





เคยถามตัวเองไหมว่า “ทำไมฉันจึงรักเธอ” เมื่อเริ่มต้นรู้สึกว่ารักใครสักคนหนึ่ง บางครั้งมันอาจเป็นรักแรกพบ บางครั้งมันอาจจะเป็นความรักที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว รู้อีกทีก็รักเขาเข้าแล้ว

ในยามที่เรามีความสุขเราอาจไม่สนใจอยากหาคำตอบมากมายว่า“ทำไมฉันจึงรักเธอ”เพราะเมื่อใดที่เรามีความสุขโดยมากเรารู้สึกพอใจความรู้สึกพอทำให้ไม่ได้คิดค้นอยากหาข้อเสีย หรือคิดคำถามให้ต้องหาคำตอบ

แต่เมื่อเวลาที่เราทุกข์ ที่เราเสียใจ บางคนก็อาจมีคำถามขึ้นมาว่า ทำไมฉันจึงรักเธอหรือฉันรักเธอไปได้ยังไง(เนี่ย!) เพราะเธอนั้น หน้าตาก็ไม่หล่อเหมือนเคนธีรเดชไม่ได้รวยเหมือนบิลเกตส์ แถมยังช่างใจร้ายใจดำ ทำกันได้ลง และอื่นๆ.... (มากมายแล้วแต่ว่าอะไรจะผุดขึ้นมาในหัวเวลาโกรธ) แต่ก็ยังไม่พบคำตอบอยู่ดี ^^

ในทางพุทธศาสนา เราเชื่อว่าอะไรใดๆ ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ การที่เราจะได้เป็นคู่รัก และครองคู่กับใครนั้นย่อมมีเหตุ

“เหตุที่ทำให้เรามีคู่ก็มาจากกรรมเก่าที่เคยร่วมทำกันมา และจะคบหายืนยาวอยู่ได้ด้วยร้ายด้วยดีต่อๆไปนั้น มาจากกรรมที่ทำเอาไว้ในปัจจุบัน กล่าวกันง่ายๆ คือ จะคบแล้วมีความสุข หรือทุกข์ เป็นผลของกรรมซึ่งสะท้อนสิ่งที่ผู้รับผลนั้นกระทำมาก่อนทั้งอดีตชาติ และชาติปัจจุบันทั้งสิ้น”

ดังนั้นหากมีความทุกข์จากรักขึ้นมา ถ้าจะถามว่าทำไมเราต้องมาทุกข์ใจกับคนๆนี้ ก็ต้องตอบว่ามันเป็นผลมาจากกรรมที่คนทั้งสองได้ทำร่วมกัน และที่เราทำมา กรรมเก่าพาเราลงมาติดกับ

“กรรมมันเริ่มส่งผลตั้งแต่วันแรกที่ใจคุณเข้าไปผูกกับเขา กรรมส่งผลที่ใจให้มารัก ให้มาหลง บังตาไว้ไม่ให้เห็นความสมเหตุสมผลทั้งหลาย หรือรู้ทั้งรู้ก็ยังรัก ถูกดูดเข้าไปใช้กรรม”

“ที่ว่าความรักทำให้คนตาบอดต้องกล่าวให้เป็นธรรมขึ้นว่า ‘กรรมบังตา’ คือกรรมบังคับใจให้ไปรู้สึกติดใจ ชอบ ใช่ รัก ผูกพันกับคนที่จะนำเราไปรับผลที่เราเคยก่อไว้ทั้งดีและร้ายนั่นเอง”

เริ่มตั้งแต่ต้นที่จะรู้สึกดีกับใคร ก็กรรมกำหนด ที่จะไปได้เจอกันในเวลาที่แสนจะพอดีอย่างไรก็กรรมกำหนด กรรมจัดฉากไว้ให้ต้องไปเจอ และรู้สึกไปอย่างนั้น จนกระทั่งจิตส่งออก ทะยานออกไปเกาะเกี่ยวยึดไว้ หลงไปยึดเอาว่าของเรา คนของเรา ไปแปะป้ายว่า นี่เป็นคนที่เราต้องการ นี่เป็นแฟนเรา ต้องดีกับเรา ห้ามไปดีกับคนอื่น พอเชื่อใจ คลายความคลางแคลง มั่นใจว่าใช่แน่ๆ มอบทุกอย่างให้หมด อาจจะแต่งหรือไม่แต่งก็สุดแท้แต่ ก็จะถึงเวลาที่ของจริงส่งผล แสดงตัวจริงของจริงให้เห็น ใจก็ “จี๊ด” ขึ้นมาจนกระทั่งต้องไปถาม อาจจะเริ่มด้วยการถามเพื่อน หรือไม่ก็ไปถามเจ้าคู่กรณี ว่าเดิมไม่ใช่อย่างนี้ ทำไมเปลี่ยนไป ที่รับปากไว้ ที่สัญญาไว้ ทำไมไม่ทำ ปรับโทษ อาละวาด ตีโพยตีพาย

กรรมทั้งนั้น……

ซึ่งไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน ถ้ายังมีความเห็นยึดมั่นว่า ความรู้สึกเป็นเรา ความคิดนี้เป็นของเรา ก็จะเชื่อความรู้สึกและความคิด โดยจะหลง คิดไปเองแต่แรกว่าเขาคนนั้นต้องดีอย่างนั้นอย่างนี้ คือมีใจพร้อมจะเชื่อไปก่อนอยู่แล้ว พอเขาพูดโน่นพูดนี่นิดหน่อยก็ทึกทักเอาเองว่าต้องใช่อย่างนั้น(อย่างที่ใจขอมา)แน่นอน เราจึงพร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ เป็นคู่ มีความสัมพันธ์ หลงรักคนที่ในอนาคตต่อไปจะรานน้ำใจเราซึ่งเป็นผลจากการที่เราเชื่อความรู้สึกและความคิด (ไปเอง) “ของเรา” ที่กรรมส่งมาจนในที่สุดมาพบความจริงว่า เขาไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด เป็นเราที่เข้าใจผิดไปเชื่อใจที่สั่งมาเอง แต่กว่าจะถึงตอนนั้น แทนที่จะรู้ตัว เห็นตามจริงว่าเป็นเราที่คิดไปเอง ก็กลายเป็นโทษกันระหว่างสองฝ่ายไปแทนว่าไม่รักษาสัจจะวาจาที่เคยมีให้กันสมัยความหลงยังครอบงำอยู่ และสร้างกรรมใหม่ต่อกันไปเสียอีกโดยไม่ได้ใช้หนี้กรรมเก่าเลย

อธิบายเป็นกงกรรมกงเกวียน หรือกฎแห่งกรรมก็คือ กรรมเก่าของเรา กรรมใหม่ของเขา มันเป็นวงจร เพราะกรรม (๑) ที่เราเคยทำไว้ส่งผลให้เรามาเจอกับคนที่มีอนุสัย(นิสัย)แบบนี้เพื่อส่งผลทางใจให้เขาทำกรรม (๒) กับเรา (ตามที่เราเคยทำกับคนอื่นให้ทุกข์แบบนั้น) ซึ่งคนที่ก่อกรรม (๒) กับเราก็จะต้องไปรับผลที่ทำกรรม (๒) โดยไปเจอกับคนที่ก่อกรรม (๓) และทอดต่อๆ สืบกรรมกันไปเป็นวงจรอุบาทว์ที่ไม่มีวันจบ วนไปวนมาอย่างนี้และซับซ้อนยิ่งๆขึ้น การตัดวงจรก็ควรตัดที่ส่วนของเราให้ได้ก่อน เป็นการชิงออกจากเกมงูกินหาง โดยกรรมจะหมดช้าจะหมดเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับที่แต่ละคนสะสมไว้

กฎแห่งกรรมนั้นไม่เคยไม่เที่ยงตรง สร้างเหตุไว้อย่างไรก็ย่อมได้รับผลเช่นนั้นแน่นอน ที่จะไม่ยอมรับเพราะบอกว่าเราดีกับเขา แต่เขาไม่ดีกับเรานั้นจึงเป็นการเข้าใจผิดของเราเองที่ว่า เราทำกรรมกับคนนี้อย่างไร คนนี้จะต้องทำกรรมแบบเดียวกันกับเราคืนมาเป๊ะๆเดี๋ยวนี้ตอนนี้ (ลองคิดง่ายๆว่าเราดีกับทุกๆคนที่เข้ามาดีกับเรา ตอบแทนเขาได้เท่าที่เขาทำให้เราหรือเปล่า) เช่น เราคิดว่าเราดีกับแฟนคนนี้ แฟนคนนี้ก็ต้องดีกับเรา จึงจะเรียกได้ว่า ทำดีได้ดี ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว “กรรมจะเลือกจัดสรรให้เราได้รับผลทั้งร้ายและดีที่เราเคยทำไว้แน่นอน แต่ไม่จำเป็นต้องได้รับตอบจากคนๆ เดิมที่เราเคยทำเสมอไป”

เช่นกรรมที่เราเคยทำไว้กับพ่อแม่ อาจจะเคยพูดไม่ดีกับท่าน ทำให้ท่านเสียใจ เราก็อาจได้รับผลนี้จากแฟน จากเพื่อนที่ทำงาน และคนอื่นๆได้ เพราะเราไม่เคยแคร์พ่อแม่ เราจึงพูดไม่ดีกับท่าน และเพราะว่าเราไม่แคร์ท่าน ดังนั้นถ้าท่านพูดไม่ดีกับเรา เราก็อาจจะไม่รู้สึกเจ็บช้ำแบบเดียวกัน กรรมจึงจะจัดสรรให้เราพบ เราเจอ เรายึด เรารักคนๆใหม่ ที่จะสามารถดึงดูดให้เราต้องทุกข์ แบบเดียวกับที่พ่อแม่ทุกข์มากเพราะรัก เพราะยึดเรามาก

ดังนั้นเวลาจะกล่าวอ้างถึงกฎแห่งกรรมนี้ ก็ต้องใช้กับทั้งสองข้าง อย่าใช้ข้างเดียว อย่างที่มักจะได้ยินใครหลายคนพูดกันเป็นประจำ เวลาเผชิญกับคนไม่ดีที่มาทำสิ่งที่เขาไม่ชอบใจว่า“เดี๋ยวมันก็เห็น ว่ากรรมมีจริง” หรือ “ทำกับเราอย่างนี้ เดี๋ยวกรรมก็สนองเข้าให้บ้าง” นี่คือการเข้าใจข้างเดียวเพราะถ้าเข้าใจอย่างถ่องแท้และมองอย่างเป็นกลางจะรู้ว่า กฎแห่งกรรมได้ให้ผลกับคนที่กล่าวเช่นนั้นไปเป็นที่เรียบร้อย

จากเว็บแสงเทียน

 

ถ้าคุณคิดว่าผู้หญิงคนนั้นดีเหมาะสมทุกอย่างกับคุณ .. ผมแนะนำไปจีบต่อเลยครับ
รุกให้มากกว่านี้จนเธอลืมแฟนเก่าไปเลย

แต่ถ้าคุณคิดว่าทำไม่ได้ .. ผมแนะนำให้คุณหยุดและคิดแค่เพื่อนเพราะ?
อย่าไปทำร้ายคนอื่น แม้เค้าจะมีจิตใจไม่เข้มแข้ง โดยยกให้เขาเป็นฝ่ายตัดสินใจ
คุณต้องนำโดยตัดสินใจลงมือทำสิ่งที่ถูกต้อง

 

อดีตชาติเคยลักลอบเป็นชู้กันมาก่อน แต่ฝ่ายหญิงมีสำนึกดีกว่า ชาตินี้จึงไม่ยอมลงเอยด้วย
คือเค้าเลือกผัวเค้านั่นแหละ

 

ขนาดนั้นเลย หรอครับ ถึงกับขนาดแอบเป็นชู้กันเลย หรอ

 

บร๊ะ! ยังไม่ได้อะไรเลยใช่มั้ย แต่เหมือนโดยกล่าวหาเรียบร้อย ^^

 

เห็นด้วยในส่วนที่เจ้าของกระทู้จะต้องเข้มแข็งและเป็นผู้นำค่ะ
ดูจิตใจฝ่ายหญิงค่อนข้างจะไม่มั่นคงเท่าที่ควร
บางทีแม้จีบมาได้ แต่อาจมีปัญหาในภายหลัง ไม่ว่าจะสาเหตุจากแฟนเก่า(ถ้าเขากลับมาขอคืนดี) หรือมีคนใหม่มาจีบแล้วคนใหม่ดูดีกว่าคุณ

 

เป็นห่วงโซ่จากเมื่อก่อนครับ
คือไปหลงพอใจกับบางสิ่งบางอย่างเข้า บ่อย ๆ
จากนั้นเลยติดใจ ยึดมั่นถือมั่นลงไปทั้งตัวเลย
ยึดสิ่งใดก็เป็นทุกข์เพราะสิ่งนั้นแหละคุณ

ไม่ยึดก็ไม่ทุกข์ เรียนสัจธรรมบทนี้ไปก่อนก็แล้วกัน ..

 

ใช่ครับ
การรักหรือชอบใคร เกิดจาก เคยอยู่ร่วมกันมาแต่ปางก่อน

ความรักอยู่เหนือเหตุผลครับ แต่ไม่เหนือกาลเวลา

เราอาจจะเคยเข้าใจว่า เรารักใครสักคนแล้วเราสามารถจะรักเขาไปได้ตลอดชีวิต
แม้ชีวิตเรา เราอาจจะสละให้ได้ เราอาจจะเคยคิดมาแบบนี้จริง ๆ

แต่เชื่อเถอะเมื่อถึงเวลาของมัน ถ้ามันจะหมด มันจะหมดไปเอง
ทุกอย่างมันมีวาระของมัน
มันไม่มีอะไรอยู่ยงคงกระพัน แม้กระทั่งความรัก

เรื่องนี้ถ้าใครถ้าใครตีโจทย์ออก ก็ชีวิตสบายเลยครับ

ถ้าเรารักเขา แล้วเรามีแต่ความทุกข์ ทุกข์มากกว่าสุข
โปรดพึงสังวรไว้ว่า อันนั้นเป็นกรรมแล้วละ
เพราะว่า ถ้ามันเป็นวาสนาที่ดีจริง ทำไมมันมีแต่เรื่องทุกข์เล่า?
เพียงแต่ทุกวันนี้ มันมองไม่ออก เพราะกรรมเก่ามันปิดเอาไว้
เหมือนบางคน คิดยังไงก็คิดไม่ออก
ขนาดรู้ตัวว่าโดนหลอก ก็ยังจะเชื่อว่าเขาไม่ได้หลอก หรือยอมให้เขาหลอก อะไรแบบนี้
เรื่องแบบนี้ ถ้ากรรมยังไม่หมด ไปพูดให้ตายยังไง ก็คิดไม่ได้ครับ
ฟังแต่ไม่เชื่อ... เชื่อแต่ก็ทำไม่ได้
แล้วก็จะกลับไปทำพฤติกรรมเก่า ๆ เดิม ๆ

ต้องรอให้ถูกหอก ถูกไฟลวก ทิ้ม ๆ แทง ๆ หัวใจ ให้ดิ้นพรวด ๆ พลางๆ ไปก่อน
หลาย ๆ รอบ กว่าจะเริ่มรู้สึกตัว
จะรู้สึกตัวก็เมื่อกรรมเริ่มจะหมดแล้ว

ดังนั้นถ้ามันเป็นเรื่องของ
กรรม + กาม = ยาาากส์ ครับ
พูดง่าย ๆ ว่าเกมนี้ 10-0 ครับ
โนวิน โนโฮป

ถ้าไม่อยากเป็นหมูถูกเชือด ก็ต้องออกมาจากสนามครับ
ไม่ต้องไปวิ่งแข่งกับมัน

ถ้าอยากเป็นหมูถูกเชือดก็เล่นต่อไป ตกกลางคืนมาก็น้ำตาไหลครับ
นอนน้ำตาไหลอยู่คนเดียว ไปเรื่อย ๆ นั้้นแหละครับ หมูถูกเชือด

เพราะสังเวียนนี้ ไม่มีทางชนะอยู่แล้วครับ

ไม่ชนะคือยังไง ก็คือ เริ่มต้นแบบทุกข์ ๆ ตอนจบ ก็จบแบบทุกข์ ๆ
ไม่ขอนับเรื่องความสุข อันน้อยนิด อันเทียบไม่ได้ เช่น การได้อยู่ใกล้ชิด การได้อะไร ๆ
ซึ่งเป็นแค่ตัวหลอกเฉย ๆ โปรโมชั่นนี้ ครึ่งเดือน
เมื่อเอามาเทียบกับความทุกข์ที่มี กับที่รอข้างหน้าอยู่ โอโหห...

วิธีออกสนามคือต้องฝึกปฏิบัติธรรมครับ
ปฏิบัติธรรมที่ดี ไม่ใช่แค่การท่อง สวดมนต์ ใส่บาตร ไปกราบพระ อย่างเดียว
อันนั้นได้บุญครับ แต่กว่าจะมา คงรอชาติหน้า มันมาไม่ทันชาตินี้
จะเอาชาตินี้ ต้องปฏิบัติให้เกิดปัญญา
แล้วก็ใช้ตัวปัญญานี้แหละ ทำให้หลุด จากวงโคจร ... เหล่านั้น....
ซึ่งต้องใช้ทั้งเวลาและความเพียร
แต่เชื่อเถอะครับ ยังไงก็เร็วกว่ารอให้กรรมมันหมดไปเอง ล้านนนนน เท่า

แต่ถ้าจะยอมเป็นสมุนของกรรม ก็ไม่ต้องทำอะไรครับ
อยู่เฉย ๆ ให้มันปูยี้ ปูยำ จนกว่ามันจะหนำใจเลย
กว่าจะหมดก็คงกระอักเลือดตายไปข้างหนึ่งทีเดียว
แต่ไม่ขอรับรองว่ามันจะหมดง่าย ๆ นะ
เพราะบางทีมันอาจจะมีกรรมไม่ดีที่เราทำร่วม ณ ปัจจุบันนี้อีก
รวมเข้าไปอีก... โอ๊ย.... เหนื่อย

การปฏิบัติให้เกิดปัญญาได้ทำไง
อันดับแรก ศีล 5 ก่อนเลย
แล้วถ้าได้แล้วค่อยว่ากันต่อ...

ถ้าศีล 5 ยังไม่ได้ อย่างอื่นไม่ต้องไปนับเลย
ล้มหัวทิ่มอย่างเดียว
ถ้าเขามีแฟนแล้วก็อย่าไปยุ่งครับ
เพราะยุ่ง = มีเรื่องวุ่นวายแน่นอน
กรรม 1 ยังไม่หมด ทำกรรม 2 เพิ่มไปอีก
จบแน่ ๆ ละครเรื่องนี้... (จบเห่)

ส่วนการปฏิบัติแบบสวดมนต์ ใส่บาตร์ นั้น เป็นแบบศรัทธาครับ
ถ้าอยากได้ผลเร็ว ก็ทำคู่กันไปเลยครับ
แล้วว่าง ๆ ก็ไปพบพระพุทธเจ้าบ้าง
เปิดไตรปิฎก บ้าง ชาดก บ้าง อะไรบ้าง
แล้วถ้าโชคดี ทำบุญมาดี ก็จะ มีดวงตาแห่งธรรม เกิดขึ้นมาเร็ว
ถ้าโชคร้าย ทำบุญมาน้อย ก็ต้องเปิดบ่อย ๆ หน่อย.

ยังไงสะ ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
ขอให้ตั้งมั่นอยู่ในความดีนะครับ แล้วจะเจริญเอง ในทุก ๆ เรื่อง (ที่เป็นเรื่องดี ๆ)
ครับ.

 

เข้าใจ ท่านเลย ครับ มันเหมื่อนเป็นแค่เส้นขนาน หรอ ครับ แบบนี้ ถ้าเราไปทำบุญ กฐิน กับ หลายๆคน พอมาอีกหลายชาติ เราก็จะได้รุ้สึกดี หรือ อาจจะเป็นเพื่อนร่วมงาน กัน หรอครับ กับ คนที่ทำบุญร่วมกฐิน หรอครับ ทั้งๆที่เราไม่เคยเห็นหน้าอะครับ

 

ช่วงนี้คุณได้ทำบุญบ้างไหม
แล้วตอนนี้ ศีล 5 คุณโอเคหรือยัง?

 

ก็ ทำ บ้างครับ แต่ ศีล5 คงไม่ครบในทุกวัน อ่ะครับ

 

ขอแชร์นะครับ
ผมว่าความรัก ไม่อยู่เหนือกาลเวลา และ ไม่อยู่เหนือเหตุผล นะครับ
- (กาลเวลาไม่ใช้อายุนะครับ) แต่จะมีความรักกับคนต่างภพกัน (เป็นแค่หนังเท่านั้นครับ)
- เราอยู่ภายใต้เหตุผล ถ้าเรามีสติพอ เรามีโอกาสเลือกถ้าเราเป็นคนมีสติ เลือกคนที่จะเป็นภรรยาเรา , เป็นคู่ชีวติเรา , เป็นแม่ของลูกเรา ถ้าเราคิดว่าใช้(ในระดับสติปัญญาของเรานะครับ) เมื่ออยู่ไปแล้วไม่ใช้ หาทางแก้ปัญหากันไป อยู่ภายใต้เหตุผลครับ ถ้าไม่มีเหตุผล ก็ ความใคร่ล้วนๆ

 

คุณพลาดสะแล้ว คุณไม่ได้ลาภอันประเสิรฐที่ควรได้สะแล้ว

 

บางสิ่งบางอย่างเมื่อสูญเสียไปแล้ว เราสามารถหาของใหม่มาทดแทนได้
แต่ในโลกนี้ยังมีบางสิ่งทีเมื่อสูญเสียไปแล้วไม่สามารถหาอะไรมาทดแทนได้อีก

ลองหลับตาลงแล้วฟังเสียงเต้นของหัวใจ เมื่อนั้นคุณจะได้พบกับคำตอบจากหัวใจตัวเอง

อย่าเพิ่งยอมแพ้ หากหัวใจนี้ ยังคงเต้นอยู่

 

จขก
คนบางคนที่มีเมียแล้วยังไปเป็นชู้ทางใจกับหญิงอื่น
คนบางคนก็ ว่าแต่เขา ก็นะ
555+

 

จขก
แชร์นะ
ชีวิตวุ่นวายเพราะแฟนชาวบ้านมาหลงรัก
ชีีวิตวุ่นวาย เพราะ ชายที่คิดว่าดีก็ไป ลูบคลำหญิงที่มีผัวแล้ว ตามันมีแต่ ไม่มีแวว มองยังไม่เห็นใส้ใน ยังติดใจ ของ ขาวๆ 555+