ผลกรรมจากการผิดศีลข้อ 3 กาเมสุมิจฉาจาร

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย KK1234, 13 กรกฎาคม 2010.

แท็ก: แก้ไข
  1. KK1234

    KK1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    2,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,515
    ศีลข้อ 3 กาเมสุมิจฉาจาร

    หมายถึง การล่วงเกินผู้อื่น จะตัดสินว่าได้กระทำผิดในข้อนี้
    โดยมีองค์ประกอบการตัดสิน คือ

    - บุคคลนั้นไม่ควรล่วงเกิน คือ นอกเหนือจากตัวเราเอง ไม่ควรล่วงเกินทั้งสิ้น
    - มีจิตคิดจะล่วงเกิน
    - มีความพยายามและดำเนินการ
    - ได้ล่วงเกินสมปรารถนา นับตั้งแต่อวัยวะถึงอวัยวะ เช่น การผิดประเวณี
    หรือ การทำร้ายร่างกาย เป็นต้น


    โดยส่วนใหญ่การกระทำผิดในข้อนี้ คนส่วนมากมักจะนึกถึงการประพฤติผิดในกาม
    หรือการล่วงประเวณี อันเป็นการกระทำลามก ซึ่งบัณฑิตทั้งหลายพึงติเตียน นั้นคือ
    การทำผิดลูกเมียเขา ซึ่งเป็นความประพฤติที่สังคมทั่วไปไม่ยอมรับ ผู้ที่กระทำจึง
    ต้องมีพฤติกรรมที่ปิดบังและซ่อนเร้น การกระทำอกุศลเช่นนี้ ผลที่จะได้รับใน
    ปวัตติกาล (ภายหลังการเกิด) คือ

    1. มีผู้เกลียดชังมาก
    เพราะการกระทำที่ผิดลูกเมียเขา ย่อมสร้างความโกรธแค้นให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้อง
    กับผู้เสียหาย ผลที่ได้รับคือ มีศัตรูและมีคนเกลียดชังมาก ในข้อนี้ทุกคนก็ต้องเคย
    ประสบมา แต่อาจเป็นเพียงเศษกรรม เช่น เวลาที่มีเรื่องขัดใจกับใคร และมีการ
    โต้เถียง ทำให้มองหน้ากันไม่ได้ หรือบางคนอาจมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง มียศถา
    บรรดาศักดิ์ แต่ไม่เป็นที่สบอารมณ์ของลูกน้อง เป็นต้น.

    2.มีผู้คิดปองร้าย
    เพราะได้เคยสร้างศัตรูสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับผู้อื่น ตัวอย่าง เช่น นักเรียน
    บางคนเรียบร้อย ไม่เคยมีเรื่องราวอะไรกับใคร แต่ถูกนักเรียนโรงเรียนอื่นรุม
    ทำร้ายจนบาดเจ็บ อันนี้ผลที่เขาถูกทำร้าย ก็เพราะอดีตชาติเคยทำปาบข้อ
    กาเมสุมิจฉาจาร และที่ต้องบาดเจ็บก็เพราะได้เคยทำปาณาติบาต มานั่นเอง
    แม้กระทั้งสามีภรรยามีเรื่องระหองแหง การใช้สายตาและคำพูดทำร้ายจิตใจกัน
    ก็ถือว่าเป็นผลของการกระทำอกุศลในข้อนี้เช่นเดียวกัน.

    3.ขัดสนทรัพย์
    ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีแต่ความฝืดเคือง เงินเดือนชักหน้าไม่ถึงหลัง ดังที่เราได้เห็น
    บางคนต้องเข้าโรงรับจำนำประจำ เพราะอดีตได้สร้างความ ไม่รู้จักพอ นั่นเอง.

    4.อดอยาก ยากจน
    เพราะการประพฤติผิดในกามหรือการล่วงประเวณีนั้น เป็นการกระทำที่ตนเอง
    เป็นผู้ไม่รู้จักพอ ไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ (สามี ภรรยา ของตนเอง) แล้วยัง
    ไปเบียดเบียนผู้อื่น จึงเป็นการสร้างทางให้ตนเองต้องอดอยาก ยากจน.

    5.เกิดเป็นหญิง
    เพราะการกระทำอกุศลกรรมบถในข้อนี้จะเป็นไปแบบปิดบังซ่อนเร้น ไม่กล้า
    เปิดเผย การกระทำที่ต้องหลบเลี่ยงเช่นนี้ จัดเป็นอำนาจอ่อนแบบที่เรียกว่า
    สสังขาริก อันจะนำไปเกิดเป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นเพศที่มีความลำบากมากว่าผู้ชาย
    มีความอับอายในบางสิ่งบางอย่างมากกว่า มีเรื่องที่ต้องปกปิดมากกว่า นั่นเอง.

    6.เกิดเป็นกระเทย
    ซึ่งเป็นเพศที่สังคมส่วนใหญ่ยังไม่ยอมรับ เพราะเหตุที่ได้เคยกระทำ
    กาเมสุมิฉาจาร ที่สังคมไม่ยอมรับ นั่นเอง

    7.ถ้าเกิดเป็นชายก็จะเกิดในตระกูลต่ำ
    เพราะในขณะที่ตาย จิตจับอารมณ์ที่ดีและเป็นอำนาจของ อสังขาริก คืออำนาจ
    ที่เด็ดเดี่ยว ทำให้เกิดเป็นผู้ชาย แต่เหตุที่เคยประพฤติผิดในกามที่ยังให้ผลอยู่
    จึงต้องเกิดในตระกูลต่ำและมีผลทำให้ขัดสนทรัพย์ และความอดอยากยากจน
    ก็ตามมา.

    8.ได้รับความอับอายอยู่เสมอ
    คือเป็นคนเปิ่น ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะเป็นที่ขบขันของคนอื่น พฤติกรรมที่แสดงออก
    ไปจึงทำให้ตนเองต้องอับอาย เพราะเหตุที่เคยสร้างความอับอายไว้ให้ผู้อื่นนั่นเอง.

    9.ร่างกายไม่สมประกอบ
    คือ ร่างกายพิการ หรือเป็นผู้มีส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายผิดแผกแตกต่างไปจาก
    คนอื่น เช่น มีความผิดปกติของอวัยวะบางส่วน อาจโตหรือเล็กผิดไปจากธรรมดา
    เคยมีข่าวว่าหญิงคนหนึ่งมีอวัยวะเพศใหญ่โตผิดปกติ มีคนแห่กันไปดูมากมาย
    เพราะมีร่างกายไม่สมประกอบ ซึ่งอาจทำให้ต้องได้รับความอับอายตามมา ทั้งนี้
    เพราะอดีตชาติได้เคยล่วงเกินร่างกายของผู้อื่นนั่นเอง.

    10.มากด้วยความวิตกกังวล
    เพราะเหตุที่ได้เคยกระทำกรรมที่ต้องปกปิด กลัวว่าใครจะรู้เรื่องราวที่ตนเอง
    กระทำมา จึงทำให้เกิดมาต้องเป็นคนที่มีแต่ความวิตกกังวล บางคนเมื่อมีหน้าที่
    ที่จะต้องรับผิดชอบงานชิ้นหนึ่ง ก็มีแต่ความวิตกอยู่ตลอดเวลาจนงานนั้นสำเร็จ
    นักเรียนบางคน พอใกล้สอบก็เกิดอาการท้องเสียบ้าง ปวดท้องบ้าง แต่เมื่อสอบเสร็จ
    อาการปวดท้องนั้นก็หายไป สิ่งเหล่านี้ก็เป็นผลของความเครียด หรือความวิตก
    กังวลนั่นเอง.

    11.พลัดพรากจากผู้ที่ตน รัก
    เพราะได้เคยทำพฤติกรรมที่เหมือนกับการไปพรากผู้เป็นที่รักของบุคคลอื่นหรือ
    ผู้ที่มีเจ้าของ จึงทำให้ได้รับผลต้องสูญเสียหรือพลัดพรากจากผู้ที่ตนรัก เช่น
    สามีภรรยาที่เคยรักกัน แต่ต้องมีเรื่องไม่เข้าใจกัน จนต้องเลิกร้างไปในที่สุด
    หรือหนุ่มสาวที่ต้องอกหัก และแม้กระทั้งเด็กที่ต้องกำพร้า ขาดพ่อ ขาดแม่ ล้วน
    เป็นผลจากการทำผิด กาเมสุมิฉาจาร ทั้งสิ้น.

    ----------------------------------------------
    ขอขอบคุณ
    ลานธรรมจักร • แสดงกระทู้ - ผลกรรมจากการผิดศีลข้อ 3 กาเมสุมิจฉาจาร
     
  2. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    487
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,887
    ขออนุโมทนาสาธุการขอรับ...กับบทธรรมดีๆ..เพื่อ.สร้างสันติสุข...ทุกสังคม


    [​IMG]
    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา
     
  3. อรชร

    อรชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +11,465
    ......อนุโมทนา สาธุค่ะ......
    คุณผู้ชาย เจ้าชู้ พึงระวัง
    .....เผลอ เป็นโดน......(กรรม)
     
  4. ariyabut

    ariyabut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +2,415
    อนุโมทนา ครับ ตรงนี้ก็เป็นอีก ๑ ตำรา

    การกระทำอกุศลชนิดกาเมสุมิจฉาจาร

    การก้าวล่วงกรรมบถนั้นต้องประกอบด้วยองค์ ๔ คือ
    ๑. วัตถุที่เกี่ยวข้อง
    ๒. มีจิตคิดจะเสพวัตถุนั้น
    ๓. มีความพยายามเสพ
    ๔. มีความพอใจในการประกอบมรรคซึ่งกันและกัน ( เสพแล้ว)
    <O:p


    หญิงที่ต้องห้ามสำหรับชาย
    <FORM>​
    อคมนียวัตถุ ได้แก่วัตถุต้องห้ามซึ่งเกี่ยวเนื่องในกาเมสุมิจฉาจาร โดยทั่วไป
    สำหรับชายนั้น เมื่อแสดงโดยละเอียดก็ได้แก่หญิง ๒๐ ประเภท ดังที่ทราบกัน
    เท่าที่พบหลักฐานในอรรถกถามีแสดงรายละเอียดไว้ดังนี้ (ขออนุญาตคัดมาเพียงบางส่วนเฉพาะที่เกี่ยวกับกาเมสุมิจฉาจาร)

    ก็บทว่า กาเมสุมิจฺฉาจาโร นี้ ได้แก่ เมถุนสมาจาร. ความประพฤติลามก ที่บัณฑิตตำหนิ โดยส่วนเดียว ชื่อว่ามิจฉาจาร.

    แต่โดยลักษณะเจตนาที่ล่วงเกินอคมนียฐาน (คนที่ต้องห้าม) ที่เป็นไปทางกายทวาร ด้วยความประสงค์ต่ออสัทธรรม ชื่อว่ากาเมสุมิจฉาจาร.
    ได้แก่หญิง ๒๐ จำพวก คือ
    ๑. หญิงที่มีมารดาปกครองเพราะบิดาตายหรือไม่ได้อยู่กับมารดา
    ๒. หญิงที่มีบิดาปกครอง
    ๓. หญิงที่มีมารดาบิดาปกครอง
    ๔. หญิงที่มีพี่สาวปกครอง หรือมีน้องสาวเป็นผู้ดูแลรักษา
    ๕. หญิงที่มีพี่ชายปกครอง หรือมีน้องชายเป็นผู้ดูแลรักษา
    ๖. หญิงที่มีญาติเป็นผู้ปกครอง
    ๗. หญิงที่มีตระกูลเดียวกันหรือเชื้อชาติเดียวกันเป็นผู้ปกครอง (ที่ว่าเชื้อชาติเป็นผู้ปกครองนั้น หมายถึงหญิงที่ไปอยู่ในต่างประเทศและอยู่ในความปกครองของชนชาติเดียวกับตน มีสถานทูต เป็นต้น)
    ๘. หญิงที่มีผู้ประพฤติปฏิบัติศีลธรรมด้วยกันเป็นผู้ปกครอง เช่น หญิงที่บวชชี มีหัวหน้าชีเป็นผู้ปกครอง เป็นต้น
    ๙. หญิงที่กษัตริย์หรือผู้มีอำนาจได้จองตัวไว้
    ๑๐. หญิงที่มีผู้หมายมั่นไว้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ หรือหญิงที่มีคู่หมั้น
    ๑๑. หญิงที่ชายซื้อมา
    ๑๒. หญิงที่สมัครใจไปอยู่กับชาย
    ๑๓. หญิงที่ยอมเป็นภรรยาของชายโดยหวังในทรัพย์สินเงินทอง
    ๑๔. หญิงที่ยอมเป็นภรรยาของชายโดยหวังในเครื่องนุ่งห่ม
    ๑๕. หญิงที่เป็นภรรยาของชายโดยการแต่งงานที่มีพิธีเอามือเจ้าบ่าวเจ้าสาวจุ่มลงในขันน้ำ
    ๑๖. หญิงที่เป็นภรรยาของชายโดยชายนั้นเป็นผู้ช่วยให้พ้นจากการแบกทูนของบนศีรษะ
    ๑๗. หญิงที่เป็นเชลยแล้วตกเป็นภรรยาของชายนั้น
    ๑๘. หญิงที่เป็นลูกจ้างทำงานในบ้าน หรือในห้างร้านของชายนั้น แล้วชายนั้นเอาเป็นภรรยา
    ๑๙.หญิงที่เป็นทาสภายในบ้านของชายนั้น แล้วชายนั้นเอาเป็นภรรยาด้วย
    ๒๐. หญิงที่เป็นภรรยาของชายชั่วครั้งชั่วคราว


    </FORM>ชายต้องห้ามสำหรับหญิง
    จากหลักสูตรวิชาเบญจศีล-เบญจธรรม (ธรรมศึกษาตรี)แสดงถึง ชายก็เป็นวัตถุที่ห้ามของหญิงเหมือนกัน เมื่อยกขึ้นกล่าวชายต้องห้ามสำหรับหญิง มี ๒ ประเภท คือ
    <O:p
    ๑. ชายอื่นนอกจากสามี เป็นวัตถุต้องห้ามสำหรับหญิงที่มีสามีแล้ว
    ๒. ชายที่จารีตห้ามนั้น มี ๒จำพวก คือ
    ชายที่อยู่ในพิทักษ์รักษาของตระกูล เช่น ปู่ พ่อ ตา ทวด
    และชายที่อยู่ในพิทักษ์รักษาของธรรม เช่น นักพรต นักบวช
    พระภิกษุ สามเณร



    ชายที่ไม่เป็นวัตถุแห่งกาเมสุมิจฉาจารของหญิง มี ๔ คือ


    ๑. ชายที่ไม่มีภรรยา
    ๒. ชายที่จารีตไม่ห้าม
    ๓. สามีของตน
    ๔. ชายที่ทำโดยพลการพ้นอำนาจของหญิง (เช่นชายที่ข่มขืน) ดังนี้ไม่เป็นกาเมสุมิจฉาจารแก่หญิง เป็นแต่ชายฝ่ายเดียว
    <O:p
    ส่วนหญิงที่อยู่ในพิทักษ์รักษาของท่าน เมื่อลอบลักสมคบกับชายที่ไม่ต้องห้าม ในพระบาลี ท่านก็ไม่ปรับเป็นกาเมสุมิจฉาจาร




    โทษของการละเมิด ในข้อกาเมสุมิจฉาจาร เมื่อแตกกาย ทำลายขันธ์แล้ว


    [​IMG]<O:p



    สิมพลีนะนรก นรกป่างิ้ว
    สิมพลีนรก นรกต้นงิ้ว เป็นต้นงิ้วยักษ์มีพิษมาก และเป็นต้นงิ้วที่ไม่มีใบมีแต่กิ่งกับหนาม ปุ่มเล็ก ๆ นิดเดียวอยู่รอบของต้น หนามงิ้วยาว ๑๖ องคุลีนรก ( ไม่ใช่องคุลีมนุษย์เรา) ยาวมาก ใหญ่มาก มีสภาพเป็นสปริง มีความคมเป็นกรด เวลาคนมีบาปขึ้นไป ก็จะพุ่งแทงทันที เลือดของคนมีบาปแดงฉานลงมา นรกขุมนี้เขามีไว้สำหรับลงโทษ พวกคนชั่วใจชั่วเจ้าชู้ไม่เลือก ไม่รู้จักว่าผัว เมียใคร ลูกใคร ข้าทาสหญิงชายของใคร
    เรื่องนี้ไม่ได้บังคับแต่เฉพาะว่า ผัวใครเมียใครหรอก แม้แต่ลูกของเขา ถ้ายังไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปรกครอง คือบิดามารดา แม้ว่าเจ้าตัวเขาจะยินยอมก็ตามที ไม่ได้ต้องลงโทษ ต้องมานรกขุมนี้ ข้าทาสหญิงชายของบุคคลอื่นหรือบุคคลที่อยู่ในปกครอง ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปรกครองแล้วไปร่วมรักกันเข้า ท่านกล่าวว่ามีโทษตกนรกขุมนี้
    เอาละมาดูว่าที่นรกขุมนี้มีอะไรบ้างทำอย่างไรกับสัตว์นรกนี้บ้าง โคนต้นงิ้วจะมีนายนิริยบาลถือหอกใหญ่โตมาก มีความคม แล้วก็มีสุนัขคอยยื้อและกัดสัตว์ใจบาป และบนยอดงิ้วก็มีแร้งมีกาตัวใหญ่ ๆ ปากเป็นเหล็กคอยรออาหารอยู่ ต้นงิ้วในนรกขุมนี้ดูสะพรั่งไปหมด และไม่มีต้นไหนเลยที่จะว่างเว้นจากสัตว์นรกเลย มีทั้งผู้หญิงผู้ชาย ไต่ไปบนต้นกันยั้วเยี้ยไปหมด คนที่ยังไม่ขึ้น นายนิริยบาลก็เอาหอกเสียบเข้าให้ สัตว์นรกเหล่านั้นต้องตระเกียกกระกายขึ้นไป ถ้าไม่ไต่ที่สูงขึ้นไปก็จะถูกหอกแทงซ้ำดันขึ้นไป หนามก็บาดเลือดก็โทรมบรรดาหนามทั้งหลายก็พุ่งหน้าพุ่งหลังพุ่งข้างตัว ดูเลือดฉานไปหมด ร้องครวญครางกันเป็นตับเสียงระงมไปหมด
    เมื่อสัตว์เหล่านั้นไต่ขึ้นไปจนถึงยอดก็ถูกแร้งกาปากเหล็กจิกกินเนื้อบ้าง ตีด้วยปีกบ้าง ข่วนด้วยเล็บบ้าง อดรนทนไม่ไหวไต่ลงมาข้างล้าง นายนิริยบาลก็เอาหอกยันเข้าไว้ และสุนัขใหญ่ก็กระโจนเข้ากัดอีก กินเนื้อแทะถึงกระดูก เมื่อกระดูกล่อนไม่มีเนื้อแล้วก็มีเนื้อเต็มร่างขึ้นมา นายนิริยบาลก็เอาหอกยันให้ไต่ขึ้นไปใหม่ วนเวียนอยู่อย่างนี้จนกว่าจะสิ้นกรรม


    มิได้มีเจตนา ที่จะติเตียนหรือสั่งสอน จึงขอนำพุทธพจน์ บทพระบาลี มาแสดงไว้ ณ ที่นี้


    หากเราประมาท พลาดพลั้งไป วิธีแก้ก็ยังพอมี
     
  5. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,437
    แต่ก็ยังมีให้พบเห็นทั่วไป
     
  6. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    กับการเห็นกงจักรเป็นดอกบัว
     
  7. lek_awapa

    lek_awapa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    380
    ค่าพลัง:
    +1,043
    ขนาดเตือนกันบ่อยๆนะค่ะเรื่องการผิดศีลข้อ 3 นี่..แต่ก็ยังเห็นบุคคลบางคนยังประพฤติปฎิบัติกันอยู่เสมอ..

    ไม่ได้เกรงกลัวกันเลย...ตอนนี้ยังไม่ได้รับผลกรรมก็จะยังไม่สำนึกกัน..แต่พอได้รับผลกรรมแล้ว..

    ก็จะรู้สึกว่า..ไม่น่าเลย..ถ้ารู้แบบนี้จะไม่ทำเลยนะนี่....อนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  8. SAKURABO

    SAKURABO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +730
    ขอให้นึกถึงศีลที่เราเคยรักษา ปกติเราก็รักษาได้บริบูรณ์บ้าง ไม่บริบูรณ์บ้างก็ตามใจ แต่ว่าเวลาตอนค่ำตั้งใจสมาทานศีล คิดว่าศีลนี่เราจะรักษาให้ครบถ้วน แล้วนึกถึงศีลก่อนหลับ ตื่นใหม่ๆ เราก็นึกถึงศีลที่เราเคยรักษา มันพร่องบ้างอะไรบ้างก็เป็นธรรมดา แล้วนึกว่าศีล ๕ เราเคยมี นี่เราเคยมีศีลในกาลก่อน การรักษาศีลเรามีตั้งหลายครั้ง เพราะเราเป็นคนมีศีล ถ้านึกอย่างนี้ปกติ ก่อนจะหลับนึกถึงศีล ตื่นใหม่ๆ นึกถึงศีล จนกระทั่งไม่ต้องบังคับเป็นอารมณ์ จิตมันทรงตัวเองครับ ขอให้เจริญในศีลธรรมทุกคน ครับ สวัสดี
    (คัดลอกจากคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...