ผีกระสือมีจริงไหม ?

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 18 ตุลาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,186
    ถาม : ผีกระสือมีจริงไหมครับ ?

    ตอบ : กระสือ เป็นอสุรกายประเภทหนึ่ง จ้ะ ในชีวิตอาตมาก็ไม่คิดว่าจะได้เจอ ที่ตลกก็คือเจอทั้งครอบครัวเลย ผัวเป็นกระหัง เมียเป็นกระสือ..!

    ตอนนั้นช่วงเช้าอาตมาภาวนาอยู่ ปกติจะขึ้นไปไหว้พระที่จุฬามณีก่อน ปรากฏว่าวันนั้นจิตไม่ไปที่นั่น แต่พุ่งออกไปที่บ้านหลังหนึ่ง เห็นว่าเป็นบ้านของชาวบ้านธรรมดา บ้านไม้เก่าๆ ใต้ถุนสูง มีสากตำข้าวทิ้งที่ลานบ้าน อาตมาก็คิดว่า บ้านนี้ทำไมสะเพร่าขนาดนี้ เครื่องมือหากินแท้ๆ เอามาทิ้งๆ ขว้างๆ จึงเดินเข้าไป

    ปรากฏว่าพวกเขากรูกันออกจากบ้านมา ๔ - ๕ คน พอเขาเห็นอาตมาเขาก็ชะงัก อาตมาบอกว่า “ไม่เป็นไรหรอก..มาดี ไม่ได้ตั้งใจมาทำอะไรหรอก” แล้วก็ถามว่า “ตกลงพวกเราไม่ใช่คนใช่ไหม ?” เขาบอกว่าตัวเขากับเมียไม่ใช่คน ส่วนลูกๆ ยังเป็นคนอยู่ จึงถามต่อว่าที่ออกมานี่ตั้งใจมาทำอะไร ? เขาตอบว่า “ถ้าท่านเป็นคน ผมก็จับกินแล้ว”


    เขาบอกว่าสากตำข้าวที่เขาทิ้งไว้ที่ลานบ้านเป็นเขตหากินของเขา ถ้าใครก้าวข้ามมา เขามีสิทธิ์ที่จะจับกินได้ แล้วเขาก็เล่าให้ฟังว่า ตัวเขาเป็น กระหัง เมียเขาเป็น กระสือ ถ้าถึงวาระหมดอายุขัยของเขาแล้ว เขาจะถ่ายทอดต่อให้ลูกคนใดคนหนึ่ง ลูกของเขา ๓ - ๔ คนตอนนี้ยังไม่ได้เป็นอะไร แต่ถ้าเขาใกล้ตายแล้วต้องมีสักคนหนึ่งที่รับช่วงไป

    ไล่ไปไล่มาเพิ่งจะรู้ว่าพวกนี้เป็นอสุรกายประเภทหนึ่ง ถ้าไม่ไปอาศัยอยู่ในร่างของคนอื่นก็ไม่สามารถที่จะหากินได้ พอเจ้าของร่างที่อาศัยอยู่หมดอายุ ก็จะเปลี่ยนตัวใหม่ไปเรื่อยๆ

    ถาม : กระสือมีหลอดไฟด้วย ?

    ตอบ : เขาไปลักษณะอย่างนั้นแหละ แต่เขาไปในลักษณะกายในที่เป็นดวงจิต พอมีคนเข้าไปใกล้ เขาจะแสดงให้เห็นว่าเป็นหน้าของใคร มี ๒ อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือเพื่ออำพรางตัวเองไม่ให้รู้ว่าเป็นใคร จึงแสดงหน้าคนอื่นให้เห็น อีกอย่างก็คือหมายจะให้เขาตกใจแล้วก็ไปให้พ้น จะได้ไม่ต้องมายุ่งกับการหากินของเขา

    ถาม : เขาครอบงำจิต แล้วเจ้าของร่างเขายังอยู่หรือเปล่า ?

    ตอบ : เขาอาศัยแฝงร่างอยู่ตามสายของเขา คนนั้นต้องไปรับช่วงมาจากญาติของเขาเอง ถ้าหาคนแทนไม่ได้เขาจะทรมาน ตายไม่ลงสักที ถ้าหาคนรับช่วงแทนได้ก็ไปได้

    อาตมาถามครอบครัวนั้นว่า ตรงนี้เรียกว่าอะไร ? เขาบอกว่า “เมืองเก่าปอมเป” อาตมาก็ไปถามคนอื่นว่าบ้านปอมเปอยู่ตรงไหน ? “เขาบอกว่าเดินไปถึงหน้าตลาด แทนที่เลี้ยวขวาเข้าทองผาภูมิ ก็เลี้ยวซ้ายไปเลย บริเวณนั้นแหละเมืองเก่าปอมเป”

    ถาม : อยู่ที่ไหน ?

    ตอบ : อยู่ที่ ทองผาภูมิ ตอนช่วงเข้าพรรษาทางวัดจะส่งพระไปบิณฑบาตที่ปอมเปเป็นประจำ แต่อาตมาไม่ได้ไปเอง ก็เลยไม่ได้ไปเล็งว่าเป็นบ้านหลังไหน

    ถาม : คนที่เป็นกระสือ กระหัง ไม่ใช่เป็นแต่กำเนิด ?

    ตอบ : ไม่ใช่คนที่เป็นแต่กำเนิด เขาต้องไปรับช่วงจิตวิญญาณที่แฝงมา พูดง่ายๆ ก็คือต้องไปรับอสุรกายพวกนั้นเข้ามา ถ้าเราไม่รับ พวกนี้เขาก็ทำอะไรไม่ได้

    ถาม : แล้วจะหมดเมื่อไร ?

    ตอบ : ก็จนกว่าดวงจิตจะสิ้นกรรม แล้วเวลาของเขาต่างกับเราเยอะ วันหนึ่งของเขาก็กินเวลาของเราไป ๕๐ ปีแล้ว ถ้าเขาอยู่สัก ๔๐ - ๕๐ ปี ก็ไม่รู้ว่าเปลี่ยนตัวไปกี่ร้อยคนแล้ว

    ถาม : แล้วผีปอบเป็นอสุรกายไหมคะ ?

    ตอบ : ผีปอบอาการหนักกว่า แต่ก็ประเภทเดียวกับอสุรกายนี่แหละ

    ถาม : พวกผีกระสือกระหัง เขาทำร้ายคนหรือเปล่าครับ ?

    ตอบ : ถ้าเขาอดก็คงจะกินแหละ อาตมายังจะโดนจับกินเลย พอก้าวข้ามไปพวกเขากรูกันมาทั้งบ้านเลย แต่เขาก็มีกติกาเหมือนกับยักษ์ที่ได้รับพรจาก ท้าวเวสสุวรรณ ว่า ใครเข้าไปใต้ต้นไทรให้จับกินได้ ถ้าไม่ใช่วาระกรรมมาถึงจริงๆ ก็คงไม่มีใครหลงเข้าไปตรงนั้นหรอก เขาก็ต้องนั่งรอไป หรือไม่ก็หลอกให้เข้าไป ปลอมเป็นสาวสวยๆ นั่งอยู่ เดี๋ยวหนุ่มๆ ก็เข้าไปให้กินเอง



    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๕



    ที่มา : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๕ - หน้า 5 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน






    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2012
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...