ผีใน สนามกอล์ฟ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 29 มกราคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,175
    "ป๋าชุม" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกในสนามกอล์ฟ

    ผมอายุ 50 เศษ เป็นประชาสัมพันธ์ของบริษัทยางรถยนต์ชื่อดังแห่งหนึ่ง มีโอกาสได้พบปะกับผู้คนต่างๆ มากมาย ทั้งลูกค้าและครอบครัว เมื่อเราจัดแรลลี่กันตามสนามต่างจังหวัดบ้าง จัดงานเลี้ยงในกรุงเทพฯ บ้าง ฯลฯ

    โชคดีที่ผมได้ทำงานถูกนิสัย คือได้พบปะสังสรรค์กับคนอื่นๆ อย่างมีความสุข เวลาพบกันก็พูดคุยถึงเรื่องสนุกสนานต่างๆ เล่าเรื่องโจ๊กบ้าง ประสบการณ์แปลกๆ บ้าง แต่น่าสังเกตที่ส่วนมากมักจะมีเรื่องผีมาเล่า ทุกคนก็สนใจฟังกันเป็นพิเศษ บางคนยืนยันว่าเจอะเจอมากับตัวเอง บางคนก็บอกว่าญาติมิตรเจอมาจริงๆ

    เรื่องผีที่ผมได้ฟังมามีทั้งน่ากลัวและไม่น่ากลัว ส่วนมากจะเจอผีในโรงแรมต่างจังหวัดกับผีตามถนนหนทางเวลาขับรถตอนกลางคืน

    ผมฟังแล้วจะเชื่อเป็นส่วนมากครับ เพราะยอมรับว่าเป็นคนกลัวผีเหมือนกัน แม้ว่าจะยังไม่เคยโดนหลอกชนิดจังๆ มาก่อน นอกจากจะเห็นวูบๆ วาบๆ หรือได้ยินเสียงกุกๆ กักๆ ตอนกลางคืนที่พิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นเสียงอะไรแน่

    มีลูกค้าคนหนึ่งชื่อสมเดช นิสัยชอบทำบุญเป็นประจำ เป็น***เดียวกับผม สูงราว 175 ซ.ม. ถ้าคิดตามอัตราส่วนง่ายๆ สำหรับเพศชายคือเอา 100 ลบส่วนสูงเหลือเท่าไหร่ก็จะได้น้ำหนักมาตรฐาน คุณสมเดชควรจะน้ำหนัก 75 กิโลกรัม หรือไม่เกิน 80 กิโลกรัม แต่คุณสมเดชหนักถึง 110 กิโลกรัม ต้องยอมรับว่าอ้วนเอามากๆเลยครับ

    แพทย์แนะนำให้ออกกำลังด้วยการเดินเร็วๆ วันละ 30 นาที จนเหงื่อซึมแผ่นหลัง ร่างกายจะหลั่งสารแอนโดฟีนออกมา ออกฤทธิ์เหมือนสารเสพติด แต่ไม่มีพิษภัยนอกจากจะให้ความสุข ถ้าทำเป็นประจำจะช่วยลดน้ำหนัก ลดคอเลสเตอรอลด้วย สารพิษต่างๆ ที่หมักหมมอยู่ก็จะถูกขับออกทางเหงื่อ วันไหนไม่ได้ออกกำลังจนเหงื่อออกก็จะหงุดหงิดเหมือนคนติดยาไม่ได้เสพยานั่นแหละ

    คุณสมเดชบอกว่าตอนแรกก็ทำสม่ำเสมออยู่เกือบสองเดือน น้ำหนักลดลงราว 5 กิโลกรัม ต่อมาก็ทำบ้างเว้นไปบ้าง มีงานเลี้ยงบ่อยๆ ทั้งแอลกอฮอล์และอาหารที่มีไขมันสูง ไม่ช้าน้ำหนักก็กลับเพิ่มเท่าเดิม

    คราวนี้เพื่อนฝูงแนะนำให้เล่นกอล์ฟ เพราะจะเพลิดเพลินกว่าจ๊อกกิ้งรอบสนามอยู่คนเดียว...ไม่ช้าคุณสมเดชก็เริ่มหัดพัตต์ลูกกอล์ฟ ทำท่าว่าจะชอบกีฬาชนิดนี้จริงๆ

    วันหนึ่ง ผมชวนลูกค้ารายนี้ไปเล่นกอล์ฟที่สนามในจังหวัดนนทบุรี ผมเป็นสมาชิกมาเกือบสิบปีแล้ว มีสโมสรกว้างใหญ่หรูหรา ต้อนรับเฉพาะสมาชิกและเพื่อนๆ เท่านั้น มีห้องสมุด ห้องสนุ้ก ห้องเล่นไพ่ ห้องอาหารสงบเงียบ มีบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันเฉพาะจันทร์ พุธ ศุกร์ มองผ่านผนังกระจกออกไปเห็นสระว่ายน้ำและแมกไม้ร่มรื่นเย็นตา

    วันแรกที่ชวนคุณสมเดชไปเล่นกอล์ฟก็เจอดีเข้าอย่างจัง!

    ขณะนั้นประมาณ 5 โมงเย็น คุณสมเดชกำลังเงื้อไม้ 1 ทดลองวงสะเวิงวืดวาด ตาก็มองลูกบนหัวที เอี้ยวไหล่บิดสะโพกตามตำรา ผมมองแล้วอดนึกขันไม่ได้ในท่าทางของชายร่างอ้วนกลมผู้นี้

    ทันใดแกก็เหวี่ยงไม้ออกไปเต็มแรง...วืด!!

    ลมกลุ่มใหญ่กระโชกวูบ หัวไม้พบกับความว่างเปล่า ผมเกือบจะหัวเราะอยู่แล้วแต่ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นคุณสมเดชม้วนตัวลงไปล้มฮวบ...แน่นิ่งอยู่กับที่เหมือนกับภูเขาลูกย่อมๆ ที่กองอยู่กับพื้น

    เมฆกลุ่มใหญ่แผ่กระจายเข้าบดบังแสงแดด จนบริเวณนั้นตกอยู่ในความร่มครึ้ม ดูเปล่าเปลี่ยวน่าใจหาย

    แค้ดดี้หวีดร้องเสียงหลง ผมตะโกนเรียกชื่อแกพร้อมกับวิ่งปราดเข้าไปหาแต่คุณสมเดชนอนแผ่หราไม่ไหวติงจนผมตกใจ ทรุดลงเขย่าตัว ควักยาหม่องมาถูจมูก ทาขมับให้ขณะที่คนอื่นๆ เดินเข้ามาหาด้วยความสนใจ

    ผมเรียกชื่อแกซ้ำๆ ซากๆ พลางเขย่าตัวไปด้วย ครู่หนึ่งเปลือกตาอูมๆ ที่ปิดสนิทก็กลับเปิดขึ้นอีกครั้ง กลอกไปกลองมาคล้ายจะสงสัยอะไรบางอย่าง ผมยิ้มออกมาได้ ถอนใจเฮือกด้วยความโล่งอก ประคองแกขึ้นมานั่ง คุณสมเดชใช้สองมือยันพื้นสนามพลางสะบัดหน้าแรงๆ

    "คุณเป็นลมไปน่ะ" ผมรีบบอก "ตอนนี้หายแล้ว.....เป็นไงมั่ง?"

    "ผมไม่ได้เป็นลม" เขาส่ายหน้าช้าๆ "ยมทูตจะมาเอาชีวิตผมไปต่างหาก"

    "อะไรนะ?" ผมร้อง คุณสมเดชก็เล่าเรื่องให้ฟัง...

    ขณะที่หวดไม้ออกไปแล้วเสียหลักล้มลง ความรู้สึกวูบไป ทันใดก็เห็นชายสองคน ผิวดำ นุ่งโจงกระเบนสีแดง ปราดเข้ามาคว้าแขนไว้คนละข้างโดยไม่พูดจา แต่ตัวเองรู้ทันทีว่าชายทั้งสองคือใคร? อะไรกำลังจะเกิดขึ้น ? จึงแผดเสียงใส่ด้วยความโกรธจัด

    ไม่ให้พ้น! ข้าไม่ไปด้วย...ข้าทำบุญเอาไว้มากมายแค่ไหนรู้มั้ย? ข้ายังไม่ตาย...ไปให้พ้นเดี๋ยวนี้!!"

    ขาดคำ ชายทั้งสองก็ปล่อยแขนแก มองหน้ากันงงๆ แล้วค่อยๆ ถอยห่างออกไปจนจางหายไปต่อหน้าต่อตา...จนกระทั่งลืมตามาเห็นใบหน้าผมนี่เอง

    เรื่องของคุณสมเดชจะเป็นจริงหรือความฝันก็ตาม แต่แกเป็นคนชอบทำบุญมาตลอด หลังจากเหตุการณ์วันนั้นก็ยิ่งทำบุญทำทานมากขึ้นกว่าเดิม ที่แน่ๆ คือทำให้ผมขนหัวลุกจริงๆ ครับ

    ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก
    ใบหนาด
    - ข่าวสด
     

แชร์หน้านี้

Loading...