ผู้ปราถนาพุทธภูมิ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย pump - อภิเตโช, 31 กรกฎาคม 2009.

  1. pump - อภิเตโช

    pump - อภิเตโช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,202
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,803
    ผมเพิ่งมันใจว่าตนเองปารถนาพุทธภูมิครับ

    อยากถามท่านผู้รู้ว่า ผมอยู่ในบารมีขั้นไหน และเหลืออีกกี่ชาติครับ

    เดิมทีผมปราถนาพระนินพานในชาตินี้ครับ แต่มีผู้รู้ท่านหนึ่งใน web นี่เองมาสะกิด จึงได้อฐิษฐานต่อหน้าพระหลังสวดมนตร์ ขนลุกซุ่เลยครับ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    55...ไม่ต้องรู้หลอกครับว่าเท่าไร....ทำต่อไป...ทำจนลืมเลยครับ....อีกนาน...
     
  3. มรรค 8 ประการ

    มรรค 8 ประการ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    884
    ค่าพลัง:
    +2,643
    ได้อภิญญาหรือยังครับ ถ้ายังก็อีกนาน แต่ถ้าไม่เปลี่ยนอุดมการณ์ในการปรารถนาพุทธภูมิ ลุยต่อเลยครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
     
  4. วรกันต์

    วรกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +257
    อยากรู้ว่าบารมีขั้นไหน ถามใจตัวเองดู ว่าได้เคยทำสิ่งนี้หรือไม่
    (ก่อนที่คุณจะรู้คำตอบจากผมนะ) คือลองวัดกำลังใจของคุณดู
    (บารมี=กำลังใจ)

    ตรงตัวเลย บารมีแบ่งเป็น 3 ระดับ

    1.ถ้าชาตินี้คุณได้เคย ตั้งจิตอธิษฐานปรารถนาไว้ในใจ แต่ใจคุณยังไม่กล้าที่จะกล่าววาจาปรารถนาพุทธภูมิ ก็เป็นบารมีระดับต้น (กำลังใจระดับต้น)

    2.ถ้าุคุณได้กล่าววาจาอธิษฐานบารมี ต่อหน้าพระพุทธองค์มาแล้ว ก็เป็นบารมีระดับกลาง

    แต่ที่ยากกว่านั้น คือ บารมีระดับกลางและระดับปลาย แยกจากกันยาก

    เพราะบารมีระดับปลาย คือ การได้แสดงความตั้งใจอย่างแรงกล้า สละชีวิตเข้าแลก เพื่อ สร้างบารมีของการเป็นพุทธภูมิ
    ทำปรมัตถบารมี (คือ การสละชีวิตเข้าแลก) ซึ่งคุณคงพิสูจน์ไม่ได้ ว่า ชาติก่อนเราเคยสละชีวิตหรือไม่ ยกเว้นจะระลึกชาติได้

    ก็มีวิธีทางอ้อม บุคคลที่บารมีระดับปลาย ก็คือ นิยตโพธิสัตว์ แสดงว่าได้รับพยากรณ์ จากพระพุทธเจ้าแล้ว จะต้องมีธรรมสโมธาน ทั้ง 8 ข้อ

    ข้อที่สาม คือ จะต้อง มี เหตุ คือ เป็นบุคคลที่มีความพร้อมที่จะบรรลุอรหันต์ไ้ด้ในทันที แต่ ไม่ปรารถนา

    ๑.มนุสฺสตฺตํ คือเป็นมนุษย์เท่านั้น
    ๒.ลิงฺคสมฺปตฺติ คือถึงพร้อมด้วยเพศ มุ่งเฉพาะเพศชายเท่านั้น
    ๓.เหตุ คือมีเหตุให้บรรลุพระอรหันต์ได้ แต่ไม่ยินดีเพียงแค่นี้
    .สตฺถารทสฺสนํ คือเห็นพระศาสดาองค์ใดองค์หนึ่งซึ่งยังมีพระชนม์อยู่
    .ปพฺพชฺชา คือบวชเป็นบรรพชิต
    .คุณสมฺปตฺติ คือมีคุณธรรม อันได้แก่ อภิญญา ๕ และสมาบัติ ๘
    .อธิกาโร คือมีการกระทำอันยิ่งถึงขั้นสละชีวิตของตนเองเพื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง
    ๘.ฉนฺทตา คือมีความปรารถนาแรงกล้า แม้จะเผชิญต่ออุปสรรคนานัปประการ ก็ไม่ท้อถอย
     
  5. วรกันต์

    วรกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +257
    ซึ่งหลังจากที่คุณได้รับพยากรณ์ เป็นนิยตโพธิสัตว์ แล้ว คุณจะมีธรรมสโมธาน ติดตัวคุณไปตลอดทุกชาติที่คุณเกิด รวมถึง ข้อที่สาม คือ เหตุ

    อธิบายให้ง่าย หน่อย ก็คือ คุณจะเกิด สภาวะเหมือน อริยมรรค ชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งไม่ได้เกิดเองทันทีนะ คุณต้อง ปฏิบัติด้วย คุณจะเกิดปัญญา เห็นว่า กาย กับ ใจ ของคุณนี้ไม่ใช่ตัวตน ซึ่ง พระอริยเจ้า ก็จะเกิดปัญญาแบบเดียวกันนี้ แต่ต่างกัน กับพุทธภูมิ (ไม่อธิบายต่อ เดี๋ยวจะงง)

    ปุจฉา :แล้วทำไม ? จะต้อง มีธรรมสโมธาน ติดตัว นิยตโพธิสัตว์ด้วย โดยเฉพาะ ข้อที่สาม คือ เหตุ

    วิสัจฉนา : ก็เพราะนิยตโพธิสัตว์ จะต้องทำปรมัตถบารมี คือ บารมีขั้นสุดยอด เอาชีวิตเข้าแลก ซึ่ง การที่คุณจะทำเช่นนี้ ได้ คุณจะต้องมีปัญญารู้แจ้ง ว่า กาย กับ ใจ นี้ ไม่ใช่ของคุณ ไม่มีตัวตน ไม่เที่ยง เมื่อนั้นคุณจะไม่มีความอาลัยในกายคุณ เพราะเห็นว่าไม่ใช่ตัวคุณ
    คุณจึงจะทำปรมัตถบารมีได้ โดยไม่ลังเล

    พูดง่ายๆ คือ ไม่กลัวตาย ว่างั้น

    แต่ไม่กลัวตาย ไม่ใช่ เพราะคุณมีความกล้าเลยไม่กลัวตายนะครับ แต่
    ไม่กลัวตาย ก็เพราะเห็นว่า ชีวิตไม่เที่ยง กายเรานี้ไม่มีตัวตน มีแต่ทุกข์ มีแต่อนิจจา

    (ดังนั้น การที่คุณมีอภิญญา ก็ยังไม่ใช่ เครื่องบอกว่า คุุณเป็นนิยตโพธิสัตว์นะครับ ยืนยัน เพียงแต่ นิยตโพธิสัตว์ส่วนใหญ่ ก็มักมีอภิญญาติดตัว แต่ไม่ใช่ทุกคน หรือ ทุกชาตินะครับ)

    ดังตัวอย่าง พระศรีอาริยเมตตรัย ในสมัยที่เกิดในศาสนา ของพระพุทธเจ้าเรา พระโคดม
    เกิดเป็น อชิตกุมาร บวช เป็นพระ ก็ไม่ได้มีอภิญญาติดตัวอะไรเลย ดังประวัติที่เราเคยทราบกัน ที่พระนางประชาบดี ถวายผ้าให้พระพุทธเจ้าแล้วพระพุทธเจ้าไม่รับ

    (ซึ่งพระศรีอาริย์ เมื่อเป็นพระพุทธเจ้า จะเป็นพระพุทธเจ้าที่มีฤทธิ์มากที่สุดในบรรดาพระพุทธเจ้าที่มีมาด้วย เพราะพระองค์ตั้งจิตอธิษฐานปรารถนาไว้ เป็นพิเศษ)

    แม้กระนั้น ในชาติ พุทธภูมิ เกือบสุดท้าย ของท่าน ท่านก็ยังไม่ได้มีอภิญญานะครับ (อันนี้ขอตอบให้คุณ อาทมาฎ ด้วย)
     
  6. neung48

    neung48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +457
    ไม่ต้องสนเรื่องอภิญญาครับ ได้ก็ช่าง ไม่ได้ก็ช่าง ก็เราไม่ได้อยากได้อภืญญานะ อย่าหลงไปกะของเด็กๆพวกนี้อีกเลย ใจเท่านั้นครับ ที่จะพาให้ไปถึง ใจมั่นคงแต่ไหน แสดงออกมาได้มากเพียงใด ทำไปเรื่อยๆ จะมีข้อสอบมาเป็นระยะระยะ หนักบ้างเบาบ้างว่ากันไป แล้วแต่บุญแต่กรรมครับ จนเขาใจหมดนั่นหละ จะผ่านเอง
     
  7. power30

    power30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2007
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +104
    - บางทีอาจจะถึงวาระที่คุณจะได้รู้แล้วนะ

    - แต่ก็อีกนั่นแหละ ถ้าเกิดของเก่าคุณทำมามากแล้ว
    เวลาปฏิบัติจริง ๆ พวกอภิญญาต่าง มันก็ฟื้นตัวไวมากเลย

    - อะไรที่มันเกิดขึ้นมาก็ให้ คิดวกกลับเข้าหาหลัก อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา ไว้นะครับ

    - อนุโมทนาบุญด้วยครับ ( ทั้งหมดเป็นข้อคิดเห็นนะครับ )
     
  8. มรรค 8 ประการ

    มรรค 8 ประการ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    884
    ค่าพลัง:
    +2,643
    ขอบพระคุณมากๆครับK.วรกันต์และK.neung48 ที่ช่วยอธิบายในข้อความให้กระจ่างยิ่งขึ้น อนุโมทนาด้วยครับ
     
  9. yoottapong

    yoottapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +761
    ถ้าคุณตั้งสัจจะวาจาจึงจะสัมฤทธิ์ผลเพราะสัจจะมีส่วนในบารมี30ทัศแต่เพราะเจตสิกคุณไม่ได้ถวายสัจจะต่อพระศรีอารย์ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด61องค์เพราะ61องค์หมายถึงจะมีพระพุทธเจ้าในใจคุ้มครองอยู่ตราบเท่าอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาน
    ถ้าคุณอธิษฐานไปแล้วถ้าจะเลิกปราถนาพุทธภูมิคุณต้องแก้เองแต่ในโพธิสัตว์61องค์นั้นแก้ไม่ได้ถ้าฝืนแก้จะเหมือนเสียเวลาเกิดแก่เจ็บตายโดยใช่เหตุจะอุบัติเป็นพระพุทธเจ้าเหมือนกันแต่มีสาวกนับจำนวนได้และไม่มีการบันทึกคำสอนให้คนรุ่นหลัง
     
  10. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514
    คนอยากเป็นพระพุทธเจ้าสงสัยมีหลายล้านคนครับ
    ร่วมบำเพ็ญบารมีกันไปครับ
    ลองกะจำนวนคนในอรรถกถาข้างล่างนี้ครับ
    ..............................................................







    อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙]




    <CENTER><BIG>อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พุทธวรรคที่ ๑๔</BIG> <CENTER class=D></CENTER></CENTER>
    หน้าต่างที่ ๒ / ๙.




    ฯลฯ​



    พระพุทธองค์ทรงเปิดโลก พระเถระทูลว่า "ดีละ พระเจ้าข้า" แล้วได้บอกตามรับสั่ง. พระศาสดาเสด็จจำพรรษาปวารณาแล้ว ตรัสบอกแก่ท้าวสักกะว่า "มหาบพิตร อาตมภาพจักไปสู่ถิ่นของมนุษย์."
    ท้าวสักกะทรงนิรมิตบันได ๓ ชนิด คือบันไดทองคำ บันไดแก้วมณี บันไดเงิน. เชิงบันไดเหล่านั้นตั้งอยู่แล้วที่ประตูสังกัสสนคร หัวบันไดเหล่านั้นตั้งอยู่แล้วที่ยอดเขาสิเนรุ. ในบันไดเหล่านั้น บันไดทองได้มีในข้างเบื้องขวา เพื่อพวกเทวดา บันไดเงินได้มีในข้างเบื้องซ้าย เพื่อมหาพรหมทั้งหลาย บันไดแก้วมณีได้มีในท่ามกลาง เพื่อพระตถาคต.
    พระศาสดาประทับยืนอยู่บนยอดเขาสิเนรุ ทรงทำยมกปาฏิหาริย์ในกาลที่เสด็จลงจากเทวโลก ทรงแลดูข้างบนแล้ว สถานที่อันพระองค์ทรงแลดูแล้วทั้งหลาย ได้มีเนินเป็นอันเดียวกันจนถึงพรหมโลก ทรงแลดูข้างล่าง. สถานที่อันพระองค์ทรงแลดูแล้ว ได้มีเนินเป็นอันเดียวกันจนถึงอเวจี ทรงแลดูทิศใหญ่และทิศเฉียงทั้งหลาย จักรวาลหลายแสนได้มีเนินเป็นอันเดียวกัน เทวดาเห็นพวกมนุษย์, แม้พวกมนุษย์ก็เห็นพวกเทวดา. พวกเทวดาและมนุษย์ทั้งหมด ต่างเห็นกันแล้วเฉพาะหน้าทีเดียว.
    พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปล่งพระฉัพพรรณรังสีไปแล้ว. มนุษย์ในบริษัทซึ่งมีปริมณฑล ๓๖ โยชน์แม้คนหนึ่ง เมื่อแลดูสิริของพระพุทธเจ้าในวันนั้นแล้ว ชื่อว่าไม่ปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้า มิได้มีเลย.
    พวกเทวดาลงทางบันไดทอง พวกมหาพรหมลงทางบันไดเงิน พระสัมมาสัมพุทธ<WBR>เจ้า<WBR>เสด็จลงทางบันไดแก้วมณี. เทพบุตรนักฟ้อนชื่อปัญจสิขะ ถือพิณสีเหลืองดุจผลมะตูมยืนอยู่ ณ ข้างเบื้องขวา ทำบูชาด้วยการฟ้อนแด่พระศาสดาลงมา มาตลิ<WBR>สังคาหก<WBR>เทพ<WBR>บุตร<WBR>ยืน ณ ข้างเบื้องซ้าย ถือของหอมระเบียบและดอกไม้อันเป็นทิพย์ นมัสการอยู่ ทำบูชาแล้วลงมา. ท้าวมหาพรหมกั้นฉัตร, ท้าวสุยามถือพัดวาลวิชนี. พระศาสดาเสด็จลงพร้อมด้วยบริวารนี้ หยุดประทับอยู่ที่ประตูสังกัสสนคร.
    ฯลฯ​
     
  11. kanlaya_tae

    kanlaya_tae สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +24
    ผู้ปรารถนามีมากแต่ผู้ที่จะเข้าสู่กระแสนั้นจริงๆก็ไม่ง่ายนะจ๊ะ
     
  12. CHOTIYA

    CHOTIYA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +359
    ถ้าจะให้แน่นอน ก็ให้ถึง สังขารุเปกขาญาณ เห็นกายไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เห็นจิตเป็นอนิจจํ ทศบารมีคักๆ ไปรอรับ พุทธพยากรณ์ เป็น นิยตโพธิสัตว์ ก็จะแน่วแน่ต่อพุทธภูมิ ถ้ายังอยู่ในพวก อนิยตโพธิสัตว์ ก็มีทางเสื่อมถอยลงไปได้ครับท่าน โอม คเต คเต ปรคเต ปรสังคเต โพธิ สวาหะ ข้ามไป ข้ามไป ข้ามไปให้พ้น สู่แดนเกษม
     
  13. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514
    ................................................................................
    ใช่ครับเข้าสู่กระแส(สงสัยแปลว่าพระโพธิสัตว์)ไม่ง่าย-มีน้อยแน่นอน
    แต่ที่ง่ายคือพวกหลงเผลอว่าอยู่ในกระแส มีเยอะมาก
     
  14. chartz

    chartz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +223

    อภิญญาเป็นตัววัดหรอครับ

    งั้นต้องลองดูครับ

    เพราะผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าผมเองมาถึงขั้นไหนแล้ว

    ;aa6
     
  15. NatAndaman

    NatAndaman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +605
    การที่จะระบุว่าใครได้แค่ไหน อีกกี่ชาติ ผมว่าไม่สมควรนะครับ ผู้ที่จะให้คำพยากรณ์ ก็คือ พระพุทธเจ้านะครับ แม้แต่สาวก ก็คงไม่รับหน้าที่นี้ เราบำเพ็ญความดีไปเรื่อยๆ เพียงแต่มีข้อสังเกตว่า ถ้าเรามีความ ตั้งมั่นแน่วแน่ ตั้งใจทำความดี เพื่อผู้อื่น มีเมตตาธรรมเป็นพิ้นฐาน มีอารมณ์สมาธิ วิปัสสนา ได้ดี ก็คงจะบำเพ็ญมาก่อนพอสมควร เรื่องเวลา ลืมไปได้เลยครับ มุ่งมั่น แม้ทางหนทางจะยาวไกล โมทนานะครับ
     
  16. pump - อภิเตโช

    pump - อภิเตโช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,202
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,803
    สาธุสำหรับคำตอบดีๆ ของทุกท่านครับ

    หลังจากที่อฐิษฐานขอพุทธภูมิ ผมใจสงบขึ้นมากกว่าเก่าเยอะเลยครับ อย่างวันนี้ก็ทำสมาธิได้ดีกว่าทุกวัน เมตตาก็มีมากขึ้น ทำให้ใจเกิดความสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนครับ
     
  17. ustharos

    ustharos Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +70
    ใครจะไปรู้กับท่านด้วยละครับ
    ทำกับข้าวกินเอง มาถามคนอื่นว่า "กับข้าวอร่อยไหม ?"
     
  18. kanlaya_tae

    kanlaya_tae สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +24
    เมื่อมีเหตุ ก็ย่อมมีผล
    การที่ปรารถนาจะบำเพ็ญบารมี นั้นต้องผ่านอุปสรรคความยากลำบากสาหัสกว่าคนธรรดา
    หลายเท่านักต้องเรียนรู้และผ่านบททดสอบทุกๆบทจิตที่มั่นคงเด็ดเดี่ยวไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะพบจะเจออะไรหนักหนาแต่ไหนก็ไม่เลิกล้มความตั้งใจนั้นขออนุโมทนาค่ะ
     
  19. Athibongse

    Athibongse สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +14
    ผมก็เหมือนกันเพิ่ง อธิษฐานไป ก่อนหน้านี้ขอ พ้นทุกข์
    แต่ใจมันปรารถนาให้ได้ครับ
    มันจะมีช่วงลังเล เพราะกลัวภัยของสังสารวัฏ
    แต่ท้ายสุดแล้วก็ต้องทำตามความปรารถนา
    ตอนนี้เวลา อธิษฐาน ขอไปต่อรู้สึกดีมากเลยครับ
    ยอมทุกอย่างหากแม้จะพลาดลงอบาย ขอส่งเสริมกำลังใจครับ
    ในเมื่อเราปรารถนาธรรมที่กระทำได้ยากยิ่งเช่นนี้
     
  20. สมภาพธรรม

    สมภาพธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +845
    ทุกท่านที่ปรารถนาพุทธภูมิไม่ว่าจะรู้ด้วยตนเองหรือไม่รู้ชัดแจ้งว่าตนเองได้สร้างและปรารถนามาทางนี้หรือเปล่า ก็ควรที่จะน้อมจิตน้อมใจปฏิบัติธรรมตามอริยมรรคให้ได้ตลอดเวลาและมีเมตตากรุณาจิตต่อตนเองและสรรพสัตว์ให้มากๆตลอดเวลาครับ เมื่อถึงจุดหนึ่งๆ ก็สามารถรู้ด้วยตนเองครับว่าตนเองปรารถนาอะไร ถ้าปรารถนาพุทธภูมิและได้รับพุทธพยากรณ์แล้วหรือยังก็สามารถรู้ได้ด้วยตนเองครับ


    อนุโทนาสาธุกับทุกๆท่านครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...