พบกันที่แม่กลอง

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 19 มีนาคม 2007.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,175
    คอลัมน์ ขนหัวลุก

    ใบหนาด



    "ทิ้งถ่วง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อไปดูหิ่งห้อยที่อัมพวา

    คนที่ตายไปแล้วก็กลายเป็นศพ เป็นผี บางทีก็สาบสูญไปเลย ไม่รู้ว่าละลายกลายเป็นความว่างเปล่าเหมือนอากาศ หรือว่าขึ้นสวรรค์ - ตกนรกตามความเชื่อของคนโบราณ...แต่บางทีก็กลายเป็นภูตผีปีศาจ มาหลอกหลอนคนเป็นๆ ในรูปแบบแตกต่างกัน ไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็น่าสยดสยองเหมือนคนหมด

    แล้วพวกสัตว์ล่ะ ตายแล้วเป็นผีเหมือนคนไหม?

    ไม่ว่าใครๆ ก็เชื่อทั้งนั้นว่ามีผีสัตว์ไม่ผิดกับคน ที่ได้ยินกันบ่อยๆ คือ นกผี, ค้างคาวผี, เสือสมิง หรือเสือผีสิง! ผีหมาป่า มีคนตั้งข้อสังเกตว่า สัตว์ที่กลายเป็นภูตผีร้ายกาจมักจะเป็นสัตว์ใหญ่ที่ถูกวิญญาณเข้าสิง...คือวิญญาณที่โดนสัตว์ตัวนั้นฆ่านั่นเอง!

    เช่น เสือกินคนมากๆ เข้า วิญญาณก็สิงสู่จนอาจแปลงร่างเป็นคนรูปแบบต่างๆ ที่มันเคยกิน...เพื่อออกไปหลอกล่อเหยื่อรายใหม่ พอเหยื่อเผลอใจ เข้าไปหาโดยไม่ได้ระวังตัว เสือสมิงจะกลับกลายเป็นร่างเดิม โฮกใส่...ตะปบกินจนหนำใจทันที

    ช้างที่ตกมัน ดุร้าย ฆ่าคนหรือแม้แต่ควาญของตนเอง หนักเข้าก็ถูกวิญญาณผีตายโหงครอบงำ จนกลายเป็นช้างผีสิง สบโอกาสเมื่อไหร่เป็นวิ่งแล่นเข้าใส่คนอย่างดุร้ายน่าสะพรึงกลัวยิ่ง...ใครดวงดีก็หนีทัน ใครดวงขาดก็โดนขยี้บี้แบนติดดิน!

    มีแต่สัตว์ใหญ่ๆ นะครับที่ถูกผีสิงน่ะ แล้วสัตว์เล็กๆ น้อยอย่างพวกแมลงนกกระจิบกระจอก ผีเสื้อ แมลงหวี่แมลงวันอะไรพวกนี้จะมีผีสิง หรือกลายเป็นภูตเขย่าขวัญได้หรือเปล่าล่ะ?

    น่าสังเกตว่า ผีคนก็หลอกคนด้วยกัน ส่วนผีสัตว์ก็ไม่ได้หลอกหลอนสัตว์หรอกครับ แต่ดันมาหลอกคนด้วยกันนี่แหละ...คิดอีกทีเกิดเป็นมนุษย์นี่ก็ถือว่ามีกรรมนะครับ ที่โดนรังแกทั้งจากผีคนและผีสัตว์...บรื๋อส์...

    ไม่รู้ว่าผมดวงเฮงหรือดวงซวยกันแน่...เพราะผมไปโดนผีสัตว์ตัวเล็กกระจิ๋วหลิวหลอกหลอนเอาจนขวัญหนีดีฝ่อน่ะซีครับ...เล่าไปคุณๆ อาจจะนึกขำก็ได้

    หิ่งห้อยครับ หิ่งห้อย! เจ้าตัวเรืองแสงแค่ปลายนิ้วก้อยได้มั้งที่มาหลอก

    ผม!

    สาเหตุเพราะมีเพื่อนชวนไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาเมื่อต้นมีนาคมนี่เอง ถามว่าเกิดมาเคยเห็นตลาดน้ำกลางคืนไหมล่ะ? ตอนแรกผมไม่เชื่อ นึกว่าเจ้าใหญ่พูดเล่น...เพราะเคยเห็นแต่ตลาดน้ำตอนเช้าๆ สายๆ อย่างตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตลาดน้ำวัดไทร อะไรพวกนี้...หน็อยแน่ะ! อัมพวามีตลาดน้ำกลางคืนด้วยเหรอเนี่ย?

    นอกจากนั้นยังจะพาดูไปดูหิ่งห้อยตลาดริมฝั่งแม่กลอง ตอนนี้กำลังฮิตเพราะหิ่งห้อยหาดูยากขึ้นทุกวัน ที่ปากคลองโอ่งอ่างบางลำพูก็ไม่รู้ว่าจะยังเหลืออยู่หรือเปล่า?

    ไปก็ไปครับ กรุงเทพฯ ยิ่งร้อนๆ อยู่ด้วย เพิ่งหายหนาวหยกๆ ก็มาร้อนตับแลบ...มีนาคมยังขนาดนี้ ถ้าเมษายนจะร้อนรากเลือดแค่ไหนกันล่ะ?

    ราว 4 โมงเย็นวันศุกร์ก็ไปรถทัวร์กัน ข้ามปิ่นเกล้าไปออกท่าพระ ตลิ่งชัน ถนนพระรามสอง...ราวชั่วโมงเศษๆ ก็ถึงแม่กลอง ผมไม่เคยโผล่ไปสิบกว่าปีแล้ว โอ้โห...เจริญมากจนจำไม่ได้ บ้านเมืองยังร่มรื่นด้วยสวนผลไม้ ลิ้นจี่ขึ้นชื่อมาก ผ่านไปที่ไหนก็เห็น แต่ต้นลิ้นจี่กำลังออกลูกเล็กๆ ดกสะพรั่งเต็มต้น

    กินอาหารค่ำเสร็จก็ลงเรือสำปั้นออกจากท่าไปดูตลาดน้ำอัมพวา ขึ้นเรือไปหน่อยเดียวก็ผ่านร้านขายของกินของใช้ รวมทั้งผลไม้เรียงรายสองข้างทางสว่างไสว มีทั้งส้มโอ, มะม่วง, ชมพู่...ที่สะดุดตามากคือลูกอะไรดำๆ ตอนแรกนึกว่าลูกหว้า แต่พอถามเข้าปรากฏว่าลูกชำมะเลียงครับ...รสชาติหวานอมฝาดชุ่มคอดีเหมือนกัน

    ข้าวแกงโบราณ กาแฟโบราณ ขนม ไอศกรีม ฯลฯ ข้ามสะพานไปก็เห็นตลาดน้ำสองฝั่งคลอง น่าผิดหวังนิดหน่อยที่เห็นเรือขายของมีน้อยราว 6-7 ลำ ส่วนมากเป็นของกิน พวกก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน หอยทอด...สาเหตุเพราะเขาติดตลาดตั้งแต่ 3-4 โมงเย็น พอตกค่ำใครขายหมดก็พายเรือกลับบ้าน

    เอาละครับ...ย้อนกลับไปลงเรือสำปั้น ล่องแม่กลองไปดูหิ่งห้อยซะที!

    ไกด์หนุ่มบอกให้มองดูต้นไม้ตะคุ่มๆ ริมฝั่งให้ดี ก่อนจะดับไฟในเรือเพื่อให้มองเห็นชัดๆ ผมจ้องมองก็เห็นแสงกะพริบวูบๆ วาบๆ น่าตื่นเต้นสำหรับคนกรุงเทพฯ ไม่น้อย ได้ความรู้จากไกด์ว่า...พวกมันกำลังจะผสมพันธุ์กัน

    ตัวผู้จะมีปล่องเรืองแสง 2 ปล่อง ตัวเมียมีปล่องเดียว สาเหตุที่ชอบอาศัยอยู่ตามต้นลำพูก็เพราะใบมันโปร่งแสงจนมองทะลุถึงกันได้ ถ้าไปเกาะอยู่ตามต้นจากหรือต้นโกงกางจะมองหากันยาก...น่าสงสารตรงที่อายุมันสั้นแค่ 15 วันเอง!

    ตอนกลางวันมันไปอยู่ที่ไหนล่ะ? คำตอบคือลงไปอยู่ตามโคนไม้ของป่าชายเลน สมัยก่อนป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์มาก แต่เมื่อห่วงโซ่อาหารสำคัญถูกทำลายไปทุกที เพราะความโลภของมนุษย์ หิ่งห้อยก็เหลือที่อยู่น้อย

    ลง...ใกล้สูญพันธุ์

    อีกสาเหตุหนึ่งก็เพราะมีนกกระยางมาเกาะขาวพรึ่ดตามต้นไม้ด้วย รายการนี้ต้องเปิดไฟส่องจ้าให้นักท่องเที่ยวชม สร้างความรำคาญให้ชาวบ้านในละแวกนั้นไม่น้อย...เผลอๆ ก็ตัดต้นไม้ทิ้งซะงั้น!

    ทันใดนั้นเอง...ก่อนที่เรือจะผละออกจากดงลำพูหนึ่งไปสู่แห่งใหม่ สังเกตว่ามีฝูงหิ่งห้อยส่องแสงวับๆ หนาตาจนสว่างเรือง...ลมแม่น้ำพัดวูบ ต้นลำพูส่ายกิ่งใบหนาทึบไปมา...ใบหน้าดำๆ ขนาดกระด้งก็ผุดโผล่ออกมาจ้องเขม็ง ตาแดงจ้าปานแสงไฟ

    เสียงผู้หญิงหวีดว้ายไปทั้งลำเรือ ไกด์เปิดสปอตไลต์ส่องจ้า...ภาพต่างๆ ก็หายไป ไม่มีหิ่งห้อย ไม่มีใบหน้าอัปลักษณ์ แสนจะน่าเกลียดน่ากลัว

    บึ่งเรือกลับรีสอร์ตทันที ไม่ดูไม่เดอมันแล้ว...ผมคิดว่าเราอาจจะตาฝาดไปเอง หรือชาวบ้านจะแกล้ง? หรือว่าหิ่งห้อยตัวน้อยๆ กลายเป็นผี...แหละหรือว่าเจ้าที่เจ้าทางปรากฏขึ้นมาหยอกล้อนักท่องเที่ยวเล่นก็ได้

    ถ้าไม่เชื่อ ลองไปเที่ยวแม่กลอง...ล่องเรือดูหิ่งห้อยสวยๆ ซีครับ อาจจะไม่มีผีหรอก แต่มีลิ้นจี่แสนอร่อยไว้คอยต้อนรับคุณๆ ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป...
     

แชร์หน้านี้

Loading...