พบบัตรปชช."รัฐปัตตานี"ทหารเตือนธันวาเดือดระวังปล้นปืนครั้งใหญ่

อดีต กอส.ยันแจกบัตรประชาชนรัฐปัตตานีจริง รูปแบบเหมือนบัตรประชาชน แถมใครจ่ายภาษีให้ก็ปลอดภัย พร้อมเเฉโครงสร้างโจรใต้ซ้อนอำนาจรัฐทุกหมู่บ้านในพื้นที่เสี่ยง
ขณะที่ทหารคุมเข้มกันฉกปืนก่อเหตุใหญ่ "หมอแว" แนะตั้งเขตปกครองพิเศษเชิงวัฒนธรรม ทั่วสามจังหวัดใต้ปลอดอบายมุขโดยสิ้นเชิง

หลังนายประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ ที่ปรึกษาสมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และอดีตคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) ออกมาเปิดเผยว่าขณะนี้ตามตำบลหมู่บ้านในสามจังหวัดชายแดนใต้มีการแจกบัตรประชาชนสาธารณรัฐปัตตานีนั้น
ยันแจกบัตรปชช.รัฐปัตตานีให้ชาวบ้าน
ล่าสุดวันที่ 8 ธันวาคม นายประสิทธิ์ ออกมายืนยันว่าการลักลอบทำและแจกบัตรประชาชนสาธารณรัฐปัตตานี มีกระแสข่าวออกมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งสอดรับกับข่าวการประกาศปักธงที่บันนังสตาเป็นจุดแรก เพียงแต่ข้อมูลดังกล่าวไม่เคยถูกนำเสนอเพราะผู้เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาเกรงว่าจะยิ่งทำให้ประชาชนแตกตื่นและทิ้งถิ่นหนีปัญหาเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายประสิทธิ์ ยอมรับว่ายังไม่เห็นบัตรประชาชนดังกล่าว มีเพียงบัตรพูโลเก่าเท่านั้น แต่ยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวมีข้อเท็จจริง ซึ่งรับรู้กันในพื้นที่เท่านั้น เพราะปัจจุบันมีการตั้งกลไกขึ้นมาซ้อนอำนาจรัฐ และเตรียมแบ่งเขตปกครองกันแล้วด้วย
"แกนนำระดับสูงของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบร่วมกันจัดทำเครือข่ายกลุ่มก่อความไม่สงบระดับหมู่บ้านครอบคลุมพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะที่ จ.ยะลา แบ่งออกเป็น 5 ระดับคือ กลุ่มนักปราชญ์ชี้นำความคิดความเชื่อ กลุ่มเศรษฐกิจ กลุ่มการเมือง กลุ่มกองกำลังทหาร (อาร์เคเค) และกลุ่มแนวร่วมเยาวชน ภายใต้โครงสร้างการจัดดังกล่าวมีการแบ่งเขตการปกครองออกเป็นระดับต่างๆ ตั้งแต่ระดับเขต แยกย่อยลงไปสู่ระดับจังหวัด เรียกว่า( กัส) อำเภอ (วิลายะห์) ตำบล (แลกาลัน) และหมู่บ้าน (อาเญาะย์)" นายประสิทธิ์ กล่าว
ที่ปรึกษาสมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวอีกว่าหัวหน้าคณะกรรมการหมู่บ้านจะแบ่งคณะทำงานออกเป็น ฝ่ายเลขานุการ การศึกษา รปภ. สวัสดิการ ซึ่งทั้งหมดจะประสานงานร่วมกับฝ่ายวัฒนธรรม เยาวชน (เปอมูดอ) ฝ่ายสตรี (วานีตอ) ฝ่ายเศรษฐกิจและฝ่ายประชาสัมพันธ์ ทำให้เห็นว่าโครงสร้างและแผนดังกล่าวซ้อนกลไกและอำนาจรัฐทั้งหมดในพื้นที่ ที่สำคัญคือมีอำนาจตัดสินใจสั่งการให้กลุ่มจรยุทธ์ออกสั่งหารเหยื่อและผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหรือคำสั่งได้ทันที
"โครงสร้างนี้สามารถแทรกซึม ซ้อนอำนาจรัฐ จนกลไกของรัฐไม่สามารถขับเคลื่อนเพื่อป้องกันและควบคุมปัญหาได้เลย โดยเฉพาะเรื่องมวลชน ส่งผลให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบสามารถนำรูปแบบการก่อเหตุรูปแบบต่างๆ มาใช้ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งมีการพัฒนาขั้นตอนและรูปแบบ วิธีการ วางแผนปฏิบัติการอย่างรัดกุมเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม นอกจากนี้ยังสามารถดึงมวลชนออกมากดดันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐได้ง่ายและมีความถี่มากขึ้น" นายประสิทธิ์ กล่าว
เผยใครจ่ายภาษีให้ก็ปลอดภัย
นายประสิทธิ์ บอกอีกว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยังเน้นดำเนินการเชิงปฏิบัติการทางจิตวิทยา ด้วยการบิดเบือนและป้ายสีว่าเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับชาวมุสลิมเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งใช้วิธีการตอกย้ำเรื่องความไม่เป็นธรรมถูกกดขี่ข่มเหง เพื่อสร้างความหวาดระแวงระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ รวมถึงการข่มขู่ในรูปแบบเดิมที่เคยใช้สำเร็จ ทั้งการห้ามทำงานวันศุกร์ ห้ามกรีดยาง ห้ามให้ความร่วมมือกับทางการ ห้ามเป็นสายข่าวให้รัฐ
ส่วนปฏิบัติการปักธงยึดครองนั้น นายประสิทธิ์เชื่อว่ายังเป็นเป้าหมายที่สำคัญของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่พยายามรุกเร้าอย่างหนัก ในขณะนี้แม้ว่าหลายจุดจะถูกกองกำลังทหารส่งไปกดทับเพื่อสกัดการเคลื่อนไหวแล้วก็ตาม เนื่องจากหากไม่สามารถดำเนินการสำเร็จตามเป้าหมาย จะทำให้เสียมวลชนที่เข้าร่วมอุดมการณ์และจะมีผลเรื่องขวัญกำลังใจแนวร่วมรุนใหม่อย่างมากที่ยุทธการไม่เป็นไปตามแผนหลังมีการกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วอย่างชัดเจน
นายประสิทธิ์ ยังเปิดเผยข้อมูลระหว่างการสัมมนาเรื่องชายแดนใต้หลังรัฐบาลใหม่ เมื่อวันที่ 7ธันวาคม ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่า นอกจากจะมีการแจกบัตรประชาชนแล้ว หากใครอยู่ในโอวาท จ่ายภาษีให้กับทางโน้นก็ปลอดภัย และขณะนี้ตามตำบลหมู่บ้าน ติดอาวุธแบบเปิดเผย บางท้องที่ลงมาปรากฏตัวกลางวัน บางคืนออกโจมตีโรงพักแต่งเครื่องแบบสาธารณรัฐปัตตานี แต่มีการปิดข้อมูลเพราะกลัวคนขวัญเสีย
ด้านนายประเสริฐ พงษ์สุวรรณสิริ อดีต ส.ส.ปชป.ยะลา และอดีต กอส.ก็ออกมายืนยันเช่นกันว่า ข้อมูลการทำบัตรประชาชนสาธารณรัฐปัตตานี มีอยู่จริง และเป็นคนชงข้อมูลให้แก่นายประสิทธิ์ ในการเปิดเผยให้สังคมรับรู้ ทั้งนี้เห็นบัตรประชาชนรัฐปัตตานีเมื่อสองเดือนที่ผ่านมาด้วยตาตัวเองมาแล้ว มีลักษณะเป็นบัตรแข็งคล้ายบัตรประชาชน มีข้อมูลเพียงชื่อ-สกุล ที่อยู่อาศัย รหัสบัตร ขาดเพียงแต่ภาพถ่ายหน้าตรงเท่านั้น ซึ่งพยายามขอสำเนาบัตรดังกล่าวจากชาวบ้านแล้วแต่ได้รับการปฏิเสธ
"เขาเป็นชาวบ้านที่อาศัยในเขตเคลื่อนไหวสำคัญของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งนำบัตรดังกล่าวมาให้ดูเมื่อครั้งเดินทางออกนอกพื้นที่ชายแดนภาคใต้ และยืนยันว่าขณะนี้ไม่ได้มีเพียงพื้นที่ จ.ยะลาเท่านั้น แต่ชาวบ้านใน จ.ปัตตานี และนราธิวาสบางส่วนก็มีบัตรดังกล่าวแล้วเช่นเดียวกัน" นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐไม่ควรมองว่าชาวบ้านที่ถือบัตรประชาชนรัฐปัตตานี และแนวร่วมเป็นผู้ก่อการร้ายหรือผู้ก่อความไม่สงบทั้งหมด แต่เป็นประชาชนคนหนึ่งซึ่งมีวิธีการคิดและความเห็นต่างไปจากนโยบายที่รัฐเป็นผู้กำหนด กลุ่มคนเหล่านี้จึงพยายามต่อสู้เรียกร้อง เมื่อไม่สำเร็จก็จำเป็นต้องใช้วิธีการสร้างความรุนแรงให้บรรลุเป้าหมาย ฉะนั้นหลายคนในพื้นที่ซึ่งเดินเข้าสู่เส้นทางนี้เพราะเขาไม่มีทางเลือก จึงอยากให้รัฐทำความเข้าใจในเรื่องนี้อย่างละเอียด
"รัฐบาลต้องยอมรับว่าการแก้ไขปัญหาประสบความล้มเหลวอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกดดันชาวบ้านให้หันไปเข้าร่วมกับฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่ตั้งใจ เช่นเดียวกับการทำบัตรประชาชนรัฐปัตตานีเพราะเขาต้องการความอยู่รอดในสถานการณ์ขณะนี้" นายประเสริฐ กล่าวและว่า กรณีการปักธงยืนยันว่าเขาปักได้ตั้งนานแล้ว แต่วิธีการไม่ได้ชักธงรัฐปัตตานีขึ้นสู่ยอดเสา แต่เขาปักธงในหัวใจประชาชนต่างหาก
สั่งเฝ้าระวังแผนปล้นปืนช่วงธันวาคม
พล.ต.จำลอง คุณสงค์ เลขานุการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามแผนเผชิญเหตุอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมเหตุการณ์ความรุนแรงที่กลุ่มผู้ไม่หวังดีมีแผนออกปฏิบัติการครั้งใหญ่ตลอดเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งสิ่งที่น่าเป็นห่วงและได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยร่วมกันเฝ้าระวังคือ แผนการปล้นอาวุธปืน เนื่องจากที่ผ่านมาคนร้ายมักฉวยโอกาสขโมยปืนของเจ้าหน้าที่ที่ตกเป็นเป้าสังหารไปด้วย
"กองกำลังทุกหน่วยในพื้นที่ได้เตรียมรับมือสถานการณ์การลอบก่อเหตุร้ายในทุกรูปแบบ ซึ่งจะเน้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างรัดกุมและอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท โดยเฉพาะการเฝ้าระวังการก่อเหตุร้ายและการลอบขโมยอาวุธปืน ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายพยายามสะสมอาวุธเพื่อนำมาเป็นเครื่องมือในการก่อเหตุครั้งใหญ่ในช่วงนี้" พล.ต.จำลอง กล่าว
งัดเกมรุกทางทหารสลับงานมวลชน
วันเดียวกัน มีการประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคง ประจำสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พล.อ.อู้ด เบื้องบน โฆษกคณะกรรมาธิการ แถลงว่า ที่ประชุมมีมติเลือก พล.อ.โชคชัย หงส์ทอง เป็นประธาน พล.อ.สนั่น มะเริงสิทธิ์ พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ เป็นรองประธาน และนายประกิจ ประจนปัจจนึก เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นเลขานุการ ทั้งนี้ มีการหารือแนวทางการทำงานโดยจะให้ความสำคัญเร่งด่วนในการกำหนดยุทธศาสตร์ช่วยเหลือผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ให้เกิดผลด้านบวกมากที่สุด
ส่วนแนวทางที่เป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาภาคใต้นั้น พล.อ.อู้ด กล่าวว่า ผู้รับผิดชอบทั้งโดยตรงและโดยอ้อมได้เข้ามาเป็นกรรมาธิการในชุดนี้ ซึ่งจะลงพื้นที่เพื่อทำงานอย่างต่อเนื่อง จึงน่าจะมีข้อมูลที่จะนำมากำหนดแนวทางในการสนับสนุนผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ได้ ส่วนแนวทางสร้างความสมานฉันท์จะทำเพียงด้านเดียวคงไม่ได้ แต่ที่ผ่านมารัฐเป็นฝ่ายตั้งรับ จึงควรเปิดฉากรุกทางการทหารบ้าง เพราะการใช้แต่การเมืองหรืองานมวลชนนำคงเป็นไปได้ยาก โดยกรรมาธิการ จะหารือแนวทางปฏิบัติที่มีความสมดุลในภายหลัง