พรหมลูกฟัก คำๆนี้แจริงคือเวหัปผลาพรหมที่ได้จตุถฌานนั่นเอง

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย mahaasia, 10 พฤศจิกายน 2007.

  1. mahaasia

    mahaasia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,130
    ค่าพลัง:
    +4,971
    (b-deejai) เวหัปผลาพรหมเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าพรหมลูกฟักนั้นเป็นชื่อเรียกของเราชาวสยามหรือพรหมผู้เป็นอสัญญีชาวพุทธไม้ได้ถือสนใจนักแต่ก็เรียกรวมๆว่าเวหัปผลาพรหม เป็นผลจากการเจริญพระกรรมฐาน จนได้ฌาน สี่
    ที่เรียกว่ารูปสมาบัติ ฌานสี่จัดเป็นฌาน ที่สูงสุดในพระพุทธศาสนา ในองค์มรรค คือสูงสุดในสัมมาสมาธิ นะจ๊ะ ท่านว่า กว่าจะบรรลุมรรคผลได้ต้องอาศัย สมาธิขั้นพื้นฐาน คือปฐมฌาน เป็นอย่างต่ำจะได้พระโสดาสกิทาคา ถ้าอนาคามีต้องอาศัยสมาธิที่เป็นสามาธิแก่กล้า อันได้แก่ฌาน หรือสมาบัติแปดจัดเป็นอธิจิตในพระอนาคามี พระโสดามีปัญญาเล็กน้อย มีศีลบริสุทธิ์ก็บรรลุได้นะจ๊ะ แต่ถ้าพระอรหันต์ต้องเอากันหนักหน่อย นะ ใครอยากนิพพานชาตินี้ก็ต้องมี บารมี สิบประการครบ จะได้โดยง่าย แต่ทว่า ฌาน ที่หนึ่งแม้แสดงฤทธิ์ไม่ได้ แต่ก็เป็นวิสัยที่จะได้ตรัสรู้ธรรม ตามองค์สัมมาสมาธิ ซึ่ง สัมมาสมาธิก็คือฌาน สี่นั่นเองนะจ๊ะ อย่างสมเด็จพ่อพระสมณะโคดมบรมครูหน่ะ เวลาที่ท่านบรรลุ ปฐมฌาน ในวัยเด็ก ที่ทรงพระเยาว์อยู่ ตอยพระชนมายุ เจ็ดปี องค์สมเด็จพระชินสีห์ ในขณะที่เป็นเจ้าชายสิทธัตถะ นั้น มีความประทับใจเป็นกำลัง ส่งผลให้รำลึกนึกถึงได้ ในภายหลังเมื่อครั้งบำเพ็ญทุกกริยา ทรงฉุกใจมาได้ ทำให้พระองค์ทรงบรรลุอภิเศกสัมมาสัมโพธิญาญ อานุภาพ ของปฐมฌาน (ฌาน ที่ หนึ่ง) สามารถล็อกเวลา เป็นการเฉพาะแห่งได้ เป็นฐานสำคัญในการปฏิบัติในพระพุทธศาสนา เป็นวิถีพรหมมาแห่งธรรมชาติตามลัทธิศาสนาพรหามณ์อีกด้วย
     
  2. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    ผมว่าไม่ช่ายชั้น เวหัปผลาพรหม นะ ที่เรียกว่า พรหมลูกฟัก ซึ่งเป็นคนละชั้นกันกับ

    อสัญญีสัตตาภูมิ พรหมโลกชั้นที่ ๑๑ อสัญญีสัตตาภูมิ = ที่อยู่ของ พระพรหมทั้งหลาย ผู้ไม่มีสัญญา พระพรหมไม่มีสัญญาทั้งหลาย ผู้อุบัติเกิดด้วยอำนาจ แห่งสัญญาวิราคภาวนาและสถิตย์อยู่ในพรหมโลกชั้นนี้ ย่อมมีแต่รูป ไม่มีนามคือจิตและเจตสิก เสวยสุขอัน ประณีตนักหนา ล้วนแต่มีคุณวิเศษยิ่งนัก โดย ได้เคยเจริญภาวนากรรมบำเพ็ญสมถกรรมฐาน จนได้สำเร็จ จตุตถฌาน อันเป็นรูปฌานขั้นสูงสุด มาแล้วทั้งสิ้น ทรงเพศเป็นพระพรหมผู้วิเศษ สถิตย์อยู่ในปราสาท แก้วพรหมวิมานอันมโหฬารกว้างขวางนักหนา มีบุปผชาติ ดอกไม้ประดับประดาเรียบเรียงเป็นระเบียบ ไม่รู้แห้งเหี่ยว โรยรา โดยรอบ ผู้ที่ไปอุบัติเกิดในพรหมภูมิชั้นนี้ มี มากมายนักหนาจนนับไม่ถ้วน ล้วนแต่มีหน้าตาเนื้อตัว สวยสง่ามีอุปมากังรูปพระปฏิมากรพุทธรูปทองคำขัดสี ใหม่ งามซึ้งตรึงใจสุดพรรณนา แต่มีอิริยาบถไม่เหมือนกัน บางองค์นั่ง บางองค์นอน บางองค์ยืน มีอิริยาบถใดก็ เป็นอย่างนั้นตลอดไป ไม่เคลื่อนไม่ไหวติง จักษุทั้งสอง ก็มิได้กะพริบเลย สถิตย์เฉยเสวยสุขเป็นประดุจรูปปั้น อยู่อย่างนั้นชั่วกาลนานนักแล

    อนึ่ง เวหัปผลาภูมิและอสัญญีสัตตาภูมินี้ ความจริงตั้งอยู่ ณ พื้นที่ระดับเดียวกัน แต่แยกสถานที่กันอยู่ และมีระยะ ห่างไกลกันมาก​
     
  3. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    ภพภูมิในพระพุทธศาสนา


    ในทางพระพุทธศาสนานั้น แบ่งภพภูมิที่สิ่งมีชีวิตต่างๆ ในวัฏสงสารจะสามารถไปเกิดได้ ตามผลกรรมของตน ไว้ทั้งสิ้น 31 ภูมิใหญ่ๆ เรียงจากภูมิสูงไปหาภูมิต่ำได้ดังนี้คือ
    (ดูจากล่างขึ้นบน จะเข้าใจได้ง่ายกว่า)

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" align=center bgColor=#cce6ff border=1><TBODY><TR><TD rowSpan=4>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]อรูปภูมิ
    4
    ชั้น
    [/FONT]​
    </TD><TD colSpan=3>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]อากิญจัญญายตนภูมิ[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]วิญญาณัญจายตนภูมิ[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]อากาสานัญจายตนภูมิ[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD rowSpan=16>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]รูปภูมิ
    16
    ชั้น
    [/FONT]​
    </TD><TD rowSpan=7>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]จตุตถฌานภูมิ
    7
    ชั้น
    [/FONT]​
    </TD><TD rowSpan=5>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]สุทธาวาสภูมิ
    5
    ชั้น
    [/FONT]​
    </TD><TD>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]อกนิฏฐาภูมิ[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]สุทัสสีภูมิ[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]สุทัสสาภูมิ[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]อตัปปาภูมิ[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]อวิหาภูมิ[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD colSpan=2>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]เวหัปผลาภูมิ[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD colSpan=2>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]อสัญญสัตตภูมิ[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD rowSpan=3>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]ตติยฌานภูมิ
    3 ชั้น
    [/FONT]​
    </TD><TD colSpan=2>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]สุภกิณหกา[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD colSpan=2>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]อัปปมาณสุภา[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD colSpan=2>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]ปริตตสุภา[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD rowSpan=3>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]ทุติยฌานภูมิ
    3 ชั้น
    [/FONT]​
    </TD><TD colSpan=2>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]อาภัสสรา[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD colSpan=2>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]อัปปมาณาภา[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD colSpan=2>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]ปริตตาภา[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD rowSpan=3>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]ปฐมฌานภูมิ
    3 ชั้น
    [/FONT]​
    </TD><TD colSpan=2>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]มหาพรหมาภูมิ[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD colSpan=2>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]พรหมปุโรหิตาภูมิ[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD colSpan=2>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]พรหมปาริสัชชาภูมิ[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD rowSpan=11>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]กามภูมิ
    11
    ชั้น
    [/FONT]​
    </TD><TD rowSpan=7>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]กามสุคติภูมิ
    7
    ชั้น
    [/FONT]​
    </TD><TD rowSpan=6>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]สวรรค์
    6
    ชั้น
    [/FONT]​
    </TD><TD>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]ปรนิมมิตวสวัตตี[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]นิมมานรตี[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]ดุสิต[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]ยามา[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]ดาวดึงส์[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]จาตุมหาราชิกา[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD colSpan=2>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]มนุษยภูมิ[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD rowSpan=4>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]อบายภูมิ
    4
    ชั้น
    [/FONT]​
    </TD><TD colSpan=2>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]สัตว์เดรัจฉาน[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD colSpan=2>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]อสุรกาย[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD colSpan=2>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]เปรต[/FONT]​
    </TD></TR><TR><TD colSpan=2>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]นรกภูมิ[/FONT]​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]ลักษณะพิเศษในบางภพภูมิ
    [/FONT]​
    • [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]อริยบุคคลทุกประเภทจะไม่ไปเกิดในอบายภูมิ[/FONT]
    • [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]สิ่งมีชีวิตในอบายภูมิจะบรรลุมรรคผลนิพพานไม่ได้[/FONT]
    • [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]เทวดาชั้นจาตุมหาราชิกามีทั้งที่อยู่ระดับพื้นดิน ที่เรียกว่าภุมมัฏฐเทวดา เช่น รุกขเทวดา เป็นต้น และที่อยู่ในอากาศ ซึ่งเรียกว่า อากาสเทวดา [/FONT]
    • [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]สวรรค์ชั้นดุสิตเป็นที่รวมของนักปราชญ์และผู้มีปัญญา รวมถึงพระโพธิสัตว์[/FONT]
    • [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]รูปภูมิเป็นที่เกิดของผู้ที่ได้รูปฌาน[/FONT]
    • [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]ผู้ที่เกิดในอสัญญสัตตภูมิจะมีเฉพาะรูปขันธ์เท่านั้น ไม่มีนามขันธ์อยู่เลย คือจะมีเฉพาะร่างกายไม่มีความรู้สึกใดๆ เลย เกิดในอิริยาบทใด ก็จะอยู่อย่างนั้นตลอดชีวิต ไม่มีการเคลื่อนไหว เพราะก่อนตายในชาติก่อนได้จตุตถฌานแต่ไม่ยินดีในการมีความรู้สึก[/FONT]
    • [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]สุทธาวาสภูมิเป็นที่เกิดของอนาคามีบุคคล (ปุถุชนและอริยบุคคลชั้นต่ำกว่านี้จะไปเกิดที่นี่ไม่ได้)[/FONT]
    • [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]อรูปภูมิเป็นที่เกิดของผู้ที่ได้อรูปฌาน[/FONT]
    • [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC, BrowalliaUPC]ผู้ที่เกิดในอรูปภูมิจะมีเฉพาะนามขันธ์ 4 คือ เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณขันธ์เท่านั้น ไม่มีรูปขันธ์ คือไม่มีร่างกายอยู่เลย เพราะจิตไม่มีความยินดีในรูปทั้งหลาย [/FONT]
    http://www.geocities.com/TMCHOTE/Thumma/General/gn028.htm
     
  4. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,625
    ถูกต้องครับ เพราะต้องเป็นอรูปฌานซึ่งตัดรูปไม่ยึดติดในรูป เหลือนามจึงเรียกว่าพรหมลูกฟักครับ
     
  5. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    รูปฌาณ ครับ ไม่ใช่ อรูปฌาณ

    อสัญสัตตาภูมิ คือ รูปพรหมที่มีรูป ไม่มีนาม
    ส่วนอรูปพรหม 4 ชั้น นั้น มีนาม แต่ไม่มีรูป

    ถ้าแบ่งตามขันธ์
    มี 5 ขันธ์ เช่นมนุษย์ และภูมิอื่นๆส่วนใหญ่ทั่วไป
    มี 4 ขันธ์ คือ อรูปพรหม(ไม่มีรูป) มีแต่ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
    มี 1 ขันธ์ คือ รูปพรหมประเภทหนึ่ง ที่เรียกกันว่า พรหมลูกฟัก หรืออสัญสัตตาพรหม พอเกิดมา ก็นิ่งอยู่ในท่านั้น ไม่มีนามขันธ์เลย
     
  6. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    รึว่าที่รวมเรียกว่า พรหมลูกฟัก นั้น คงจะหมายรวมถึง รูปพรหม ชั้นอสัญญสัตตาพรหม(ได้รูปฌาณ ที่ 4) กับ อรูปพรหม ทั้ง 4 ชั้น(อรูปฌาณ ทั้ง 4) ด้วย รึป่าวไม่แน่ใจ ผิดพลาดต้องขออภัยด้วยเพราะเท่าที่ลองเสริส ดู บางแห่งก็บอกว่า พรหมลูกฟัก คือ รูปพรหม ชั้นอสัญญสัตตาพรหม บางแห่งก็บอกว่า อรูปพรหม ทั้ง 4 ชั้น

    แต่ เวหัปผลาพรหม{มีขันธ์ 5 ขันธ์}(ได้รูปฌาณที่ 4 เหมือนกันกับ อสัญสัตตาพรหมแต่มีขันธ์ 1ขันธ์) จึงน่าจะไม่ช่าย ที่เรียกว่า พรหมลูกฟัก.......
     
  7. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,625
    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี: การดำเนินของจิตในแนวปฏิบัติ (11)
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="5%"> </TD><TD width="95%">มาดูกันต่อนะคะ คราวนี้เป็นเรื่อง ขันธ์ทั้งหลายค่ะ จะ 5 4 หรือ 1 ค่ะ

    "ขันธ์ 5
    มีรูป มีนาม คือ เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ
    เช่น ตัวของเรา มนุษย์ และสัตว์ทั้งหลาย
    ขันธ์ 4
    มีแต่ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ได้แก่พวก อรูปพรหม
    </TD></TR><TR><TD width="5%"> </TD><TD width="95%">จาก ชงโค [๑ มี.ค. ๒๕๔๗ 19:37:18]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR SIZE=1><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="5%"> </TD><TD width="95%">ขันธ์ 1
    ที่ท่านได้อธิบายไว้ในตำราว่า “พรหมลูกฟัก” นั้น ถ้าหากพูดตามแนวปฏิบัติ คือว่า
    จิตเข้าไปรวมอยู่นิ่ง แล้วไม่มีความรู้สึก แข็งนิ่งอยู่คนเดียว ไม่มีอะไร ปรากฏอยู่เฉพาะตัวเท่านั้น
    ใจไม่ทราบหายไปไหน เห็นเฉพาะกาย คือไปถือ “รูปจิต” นั่นแหละเป็นกาย
    มันไปถือมั่นเหมาะอยู่แต่ในอันนั้น คือรูปจิตไม่ใช่รูปกายนี้
    แต่ทางบัญญัติท่านถือเอารูปกาย ก็คิดดูซิ เป็นอรูปพรหมแล้ว ทำไมถึงยังจะไปถือ รูป อีกเล่า
    อรูปพรหม ก็แปลว่าไม่มีรูปแล้ว คราวนี้ขันธ์ 1 มันเลยนั่นไปอีก
    และจะมีแต่รูป แล้วไม่มีนาม จะใช้ได้หรือ
    มันไม่สมเหตุสมผล ถ้าสมเหตุสมผล คือ ว่า รูปจิต เป็นความว่าง ในการภาวนา
    จิตไปถือเอาความว่าง เอาวิญญาณ ถือเอาความไม่มีเป็นอารมณ์
    เป็นภพของอรูปพรหม ได้แก่ อากาสานัญจายตนะ,
    วิญญาณัญจายตนะ,
    อากิญจัญญายตนะ,
    เนวสัญญานาสัญญายตนะ ที่ท่านแสดงไว้ ไปถือเอาตัวจิต</TD></TR><TR><TD width="5%"> </TD><TD width="95%">จาก ชงโค [๑ มี.ค. ๒๕๔๗ 19:42:48]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR SIZE=1><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="5%"> </TD><TD width="95%">คราวนี้เมื่อมันวางเรื่องเหล่านั้นแล้ว
    มันจึงไปถือเอาความที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวนั่น
    จิตมีอยู่อันเดียว เลยไปถือเอาอันหนึ่งอันเดียว คือ รูปจิต นั่นเอง
    แล้วก็ไม่มีอุบายปัญญา คิดค้นอะไร คือ หยุดอยู่นิ่ง
    อันนั้นท่านจึงเรียกว่า พรหมลูกฟัก เรียกว่า ขันธ์ 1 มีแต่รูป คือ รูปจิต</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. mahaasia

    mahaasia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,130
    ค่าพลัง:
    +4,971
    นั่นดิ ผมก็ว่างั้นแหละ แต่ที่อ่านมามันไม่ใช่อย่างงั้น ผมอ่ะนะ อ่านแล้วเลยไม่รู้อันไหนแน่ แต่ผมก็ว่าน่ากลัวพรหมลูกฟักนี่ จะเป็นอรูปมากกว่า ทั้งนี้เพราะ ว่ามันเป็นดวงๆ แต่ก้ไม่เข้าใจ ว่าทำไมเขาถึงบอกว่าพรหมลูกฟักเป็นฌาน สี่ ยังไงก็ถ้าท่านใดได้คำตอบก็บอกมั่งเหอะ อยากรู้จิงๆ เฮ้อ
     

แชร์หน้านี้

Loading...