พระกรุ พระเกจิ เครื่องราง ยอดนิยม รับประกันแท้

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Mest, 20 สิงหาคม 2022.

  1. Mest

    Mest สมาชิกใหม่ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2021
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +0
    พระกรุ พระเกจิ เครื่องราง ยอดนิยม รับประกันแท้

    ประกันแท้ทุกองค์100% ตาม มาตรฐานสากล และ กฎของเวปเพจ
    สามารถนำไปเช็คได้ตามสมาคมที่ได้มาตรฐานสากล ภายใน60วัน
    ถ้าตรวจพบว่าไม่แท้ยินดี คืนเงิน เต็ม
    โดยพระต้องต้องอยู่ในสภาพเดิม ไม่ชำรุด ไม่ล้างผิว


    จองได้ไม่เกิน3วัน หลังจากเกินเวลาผู้ที่จองคิวลำดับต่อๆไปจะได้สิทธิ์จนกว่าจะปิดรายการ
    หลังจากโอนแล้ว แจ้งการโอน ที่อยู่ผู้รับ และเบอร์โทร
    ทางช่องทาง ข้อความ หรือโทร 082-5529656 (เวลา 09.00-21.00)


    ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 103-2-86429-1
    ชื่อบัญชี นายเฉลิมเมศฐ์ ธนสินกวิน


    จัดส่งด่วนส่งฟรี ทุกรายการ
    กดติดตาม ไว้นะครับ ท่านจะได้เห็นและ จองของถูกๆ และดีก่อนใคร​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2022
  2. Mest

    Mest สมาชิกใหม่ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2021
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่1. พระคงลำพูน
    IMG_5595.JPG IMG_5578.JPG IMG_8279.JPG IMG_8280.JPG IMG_5591.jpg

    "พระคง ลำพูน" ความแตกต่างขององค์พระอยู่ที่รายละเอียด สีที่เกิดจากระยะเวลาการผลิต มีทั้งเนื้อสีขาว สีเหลืองพิกุล สีเขียว สีแดง และสีดำ
    ที่มาของพระคงลำะพูนเมืองหริภุญไชย (ลำพูน) ในตำนานพงศาวดาร เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นโดย "พระฤๅษี 4 องค์" แล้วเสร็จในราว ๆ ปี พ.ศ.1200 ซึ่งในขณะนั้นเมืองละโว้ หรือ ลพบุรี เป็นศูนย์กลางของแคว้น "ทวารวดี" ของชนเผ่ามอญ โดย "พระนางจามเทวี" ในปี พ.ศ.1205 ได้เสด็จมายังเมืองหริภุญชัย ทรงนำพระพุทธศาสนา พระสงฆ์ พระไตรปิฎก รวมทั้งศิลปะวิทยาการต่างๆ และผู้คนอีกจำนวนมากขึ้นมายังเมืองหริภุญไชย และถูกอัญเชิญเป็นกษัตริย์ตั้งแต่นั้นมา พระนางทรงสร้างวัด และถาวรวัตถุในศาสนสถานที่สำคัญที่สุด คือ "จตุรพุทธปราการ" โดยการสร้างวัดไว้ทั้ง 4 ทิศ ที่ชาวเมืองเรียกว่า "วัดสี่มุมเมือง" เพื่อเป็นการคุ้มครองเมืองทั้งสี่ทิศซึ่งมีปรากฎอยู่ ดังนี้

    1.วัดพระคงฤๅษี อยู่ด้านทิศเหนือ 2.วัดดอนแก้ว อยู่ด้านทิศตะวันออก 3.วัดมหาวัน อยู่ด้านทิศตะวันตก 4.วัดประตูลี้ อยู่ด้านทิศใต้

    นอกจากนี้ที่พระเจดีย์ฤๅษี (วัดพระคงฤๅษี) ยังปรากฎรูปพระฤๅษีทั้งสี่องค์ ผู้ร่วมสร้างเมืองหริภุญไชยประทับยืนในซุ้มคูหาของพระเจดีย์ พร้อมทั้งมีคำจารึกไว้ที่ใต้ฐานว่า
    "สุเทวะฤๅษี" ผู้รักษาเมืองฝ่ายทิศเหนือ "สุกกทันตฤๅษี" ผู้รักษาเมืองฝ่ายทิศใต้

    "สุพรหมฤๅษี" ผู้รักษาเมืองฝ่ายทิศตะวันออก "สุมมนารทะฤๅษี" ผู้รักษาเมืองฝ่ายทิศตะวันตก

    วัดทั้งสี่มุมเมืองนี้ "พระนางจามเทวี" ทรงสร้างขึ้นใน พ.ศ.1223 เป็นสถานที่สำคัญแหล่งกำเนิดกรุพระเครื่องอันมีชื่อที่สุดในลำพูน คือ พระรอด พระคง พระฤา พระบาง พระเปิม โดยองค์พระมีพุทธศิลปรูปแบบทวาราวดี และศิลปะศรีวิชัย ซึ่งเชื่อกันว่าพระกรุทั้งหลายเหล่านี้สร้างขึ้นโดยพระฤๅษี พร้อมกับการสร้างวัดในสมัย "พระนางจามเทวี" มีอายุการสร้างประมาณ 1300 ปี

    อ้างอิงข้อมูล คมชัดลึก

    พระคงราคาเล่นหากัน สภาพสมบูรณ์ หลายๆหมื่น สวยๆ องค์ละหลายๆแสน

    พระองค์นี้ สภาพ บิ่นเดิมจากกรุ ผ่านการใช้งาน เนื้อหาดูง่าย เนื้อจัด แห้ง หนึกนุ่ม มีแร่ดอกมะขาม มีรอยฝนที่ก้นด้านหลังองค์พระ สันนิฐานว่าฝนเพื่อเลี่ยมเข้ากรอบมาแล้ว ใครชอบพระอายุ เก่าแก่ระดับเกิน 1,300ปี ไม่ควรพลาด พระองค์นี้ได้ความเก่าระดับ 1,300ปี พุทธคุณระดับกษัตริย์เจ้าพธี ฤาษีสมัย1300ปีที่แล้วปลุกเสกพุทธคุณยอดเยี่ยม เอาไว้ดูเนื้อครูได้ครับ

    บูชาเพียง 6,500บาท รวมส่งด่วนเอกชน

    รับประกันแท้ คืนเงินเต็ม
    ปล.(องค์นี้ผ่านการพิจรณา ว่าแท้ จากเซียนชื่อดัง ... ท่าพระจันทร์แล้ว)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2022
  3. Mest

    Mest สมาชิกใหม่ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2021
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่2. พระเหรียญเสมาหลวงปู่ทวด วัดเอี่ยมวรนุช ปี2508
    IMG_8281.JPG IMG_8282.JPG

    หลวงปู่ทิม วัดช้างให้ ปลุกเสก สวยเดิมใช้แทนหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ปีเดียวกันได้เลยไม่ต้องไปหาของแพง เพราะรุ่นนี้อาจารย์ทิมเสกช่นกัน


    เหรียญเสมา หลวงปู่ทวด อาจารย์ทิม ออกวัดเอี่ยมวรนุช กรุงเทพ เนื้อทองแดงรมดำเดิมๆ ปี ๒๕๐๘ อายุอานามก็พอๆ กับเหรียญรุ่น ๔ วัดช้างให้เลยละครับ และได้อาจารย์ทิมท่านปลุกเสกให้เช่นกัน เหรียญนี้สภาพยังสวย สุดยอดแห่งพุทธคุณ เนื่องจากสมัยที่ท่านอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ได้รับนิมนต์ให้ขึ้นมาช่วยทางวัดประสาทบุญญาวาส สามเสน บูรณะวัดหลังจากที่โดนไฟไหม้หมด ในครั้งนั้นท่านอาจารย์ทิม ได้มาจำวัดที่วัดเอี่ยมวรนุชครับ และทางวัดเอี่ยมวรนุชก็ได้สร้างพระหลวงปู่ทวดขึ้นเป็นที่ระลึก เพื่อหาทุนบูรณะวัดขณะนั้นเช่นกัน โดยในการจัดสร้างก็ได้ใช้พิมพ์พระหลวงปู่ทวด ของวัดช้างให้ มาเป็นแม่แบบพิมพ์พระ ซึ่งมีการสร้างด้วยกันหลายแบบ และสร้างพร้อมพระกริ่งอุบาเก็ง รุ่นแรก ของทางวัดอีกด้วยโดยปัจจุบันติดทำเนียบพระกริ่งยอดนิยมหายากราคาแพงไปแล้วสำหรับพระชุดหลวงปู่ทวดที่วัดเอี่ยมวรนุชสร้างพร้อมกันในวาระนั้นมีทั้งพระบูชา พระหล่อโบราณ พระปั๊มหลังหนังสือ เหรียญปั๊มเสมา ฯลฯ ท่านอาจารย์ทิม วัดช้างให้ เมตตาเป็นเจ้าพิธีในการจัดสร้าง พร้อมทั้งกำกับสูตรผสมชนวนมวลสารหลักๆ และยังทำพิธีปลุกเสกให้อย่างดี พร้อมกับพระคณาจารย์และเกจิชื่อดังแห่งยุคอีกหลายรูป และยังได้นำเข้าร่วมในพิธีของวัดประสาทบุญญาวาสด้วยโดยมี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร ฯลฯ ร่วมปลุกเสก
    มีประวัติสร้างชัดเจน

    เคยมีเจ้าหน้าที่ มูลนิธิกุู้ภัยใน กทม บอกว่า ตั้งแต่อยู่กับมูลนิธิมาหลายสิบปี ยังไม่เคยเห็น คนตายโหง ห้อยหลวงปู่ทวดเลย


    พระองค์นี้สภาพผ่านการใช้งานมาแล้ว ยังพอสวย ขึ้นคอได้ไม่อายใคร

    บูชาเพียง 1,500 บาท รวมส่งด่วนเอกชน


    รับประกันพระแท้ เก๊คืนเต็ม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2022
  4. Mest

    Mest สมาชิกใหม่ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2021
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่3.พระแผงตัด กรุนาดูร
    IMG_8283.JPG IMG_8284.JPG IMG_8286.JPG IMG_8285.JPG IMG_8287.JPG
    พระกรุนาดูน หรือ พระกรุพระธาตุนาดูน พุทธศิลปะทวารวดี
    การโจรกรรมพระพิมพ์กรุโบราณ อายุเก่าแก่กว่า 1,200 ปี ที่รู้จักกันในชื่อ พระกรุนาดูน หรือ พระกรุพระธาตุนาดูน และสามารถได้พระไปจำนวนกว่า 90 ชิ้น จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น จ.ขอนแก่น นั้น ทำให้มีผู้ให้ความสนใจและไถ่ถามกันถึงเรื่องราวความเป็นมาของพระกรุนี้กันอย่างคึกคัก

    พระกรุนาดูน หรือ พระกรุพระธาตุนาดูน ที่คนร้ายโจรกรรมไปนั้น เป็นพระที่รู้จักกันกว้างขวางในหมู่นักเล่นพระและ ผู้นิยมสะสมพระเครื่อง โดยแตกกรุในปี พ.ศ. 2522 ที่ ต.นาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม ซึ่งกรมศิลปากรร่วมกับราษฎรได้ช่วยกันขุดค้นบูรณะบริเวณท้องนาของชาวบ้าน โดยพบหลักฐานว่าเป็นแหล่งโบราณคดีมีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 12 ถึงพุทธศตวรรษที่ 16 มีร่องรอยของเมืองโบราณยุคทวารวดี เรียกกันโดยทั่วไปว่า นครจัมปาศรี

    ในการขุดค้นครั้งนั้น มีการพบโบราณวัตถุ ตลอดจน พระพุทธรูปพระพิมพ์ ศิลปะทวารวดี จำนวนมากมายหลายชิ้น ที่สำคัญก็คือพบพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุในผอบ ประดิษฐานในองค์พระสถูปทรงระฆังจำลองสูง 24.4 เซนติ เมตร สามารถถอดแยกได้เป็นสองส่วน ซึ่งต่อมามีการจัดสร้างเป็นองค์พระธาตุนาดูนขึ้น และพบพระพิมพ์ดินเผาที่เป็นส่วนผสมระหว่าง ดิน เหนียว ศิลาแลง แกลบ ทราย และกรวด จำนวนหนึ่ง พระพิมพ์ที่พบส่วนใหญ่ จะแสดงให้เห็นถึงศิลปะทวารวดีอันเป็นรากฐานการเผยแพร่พระพุทธศาสนาคติหินยานในบริเวณสุวรรณภูมิอย่างชัดเจน

    องค์พระส่วนมากจะเป็นพระแผง ซึ่งหมายถึง พระพิมพ์ขนาดเขื่องใหญ่กว่าฝ่ามือ และมีองค์พระพุทธปรากฏอยู่หลายองค์ ศิลปะแสดงให้เห็นอิทธิพลของมอญทวารวดีที่เผยแพร่จากภาคกลางและกระจายตัวอยู่ในแถบภาคอีสาน แสดงให้เห็นถึงการติดต่อสัมพันธ์ทางพุทธศาสนาอย่างเด่นชัด มีการพบพระพิมพ์ต่างๆ ที่เรียกกันว่า กรุนาดูน ถึง 40 กว่าพิมพ์ บ้างทำเป็นองค์พระพุทธรูปนั่งบนบัลลังก์ ที่เรียกกันว่าพระนั่งเมือง บ้างทำเป็นพระพุทธรูปยืนในลักษณาการตริภังค์ อันหมายถึงการผ่อนคลายอิริยาบถสามส่วน ได้แก่ การหย่อนไหล่ การหย่อนสะโพก และการหย่อนหัวเข่า ปรากฏในรูปพระลีลา

    นอกจากนี้ยังมี พระนาคปรก มีทั้งปรกคู่และปรกเดี่ยว บางครั้งพบว่ามีการนำพระแผงมาตัดให้เล็กลงเหลือเฉพาะองค์ก็มี การพบพระกรุนาดูนในระยะแรกนี้นั้น ปรากฏว่ามีพระจำนวนมากที่ชาวบ้านแห่พากันเข้ามาขุดค้น จึงทำให้พระกรุนาดูนแพร่หลายเข้าสู่วงการพระและเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง บางส่วนกรมศิลปากรได้เก็บรวบรวมไว้ และเนื่องจากเห็นว่า ขอนแก่นเป็นจังหวัดใหญ่ และมีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่มีความแน่นหนาและมั่นคง จึงเก็บรวบรวมพระนาดูนจำนวนหนึ่งไว้ที่ขอนแก่น แต่แล้วก็มาถูกโจรกรรมชนิดกวาดเกลี้ยงทั้งกรุ สร้างความเสียดายในการสูญเสียสมบัติสำคัญของชาติเป็นอย่างยิ่ง

    พระองค์นี้ สภาพ 70% มาพร้อมกับบัตรรับรองพระแท้จากพระเครื่องเมืองไทยโดย อ.โทนบางแค

    บูชาเพียง 1,900บาท รวมส่งด่วนเอกชน

    รับประกันพระแท้ เก๊คืนเต็ม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2022
  5. Mest

    Mest สมาชิกใหม่ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2021
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่4. พระท่ากระดานน้อย กรุศาลเจ้าราชบุรี
    IMG_E8293.JPG IMG_E8294.JPG IMG_2524.JPG IMG_2525.JPG IMG_2526.JPG

    ในชุดเบญจภาคีพระเนื้อชินยอดนิยม อันประกอบด้วย พระร่วงยืนประทานพรหลังรางปืน จ.สุโขทัย พระมเหศวร จ.สุพรรณบุรี พระหูยาน จ.ลพบุรี พระพุทธชินราชใบเสมา จ.พิษณุโลก และ พระท่ากระดาน ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ขุนศึกแห่งลุ่มแม่น้ำแม่กลอง” อันโด่งดังที่สุดของเมืองกาญจนบุรีนั้น กล่าวสำหรับ พระท่ากระดาน ของ จ.กาญจนบุรี มีการขุดพบทั้งกรุเก่าและกรุใหม่ สร้างด้วยเนื้อชินตะกั่วสนิมแดง องค์พระมีขนาดปานกลาง

    ซึ่งนอกจาก พระท่ากระดาน ที่พบเห็นทั่วไปแล้วยังมีการขุดพบ พระท่ากระดานน้อย เนื้อสนิมแดง อีกพิมพ์หนึ่ง ซึ่งมีขนาดองค์พระเล็กกะทัดรัด ประมาณเท่ากับปลายนิ้วก้อย เรียกกันว่า พระท่ากระดานน้อย ขุดพบจาก กรุวัดท่าเสา ในบริเวณ ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี รวมทั้งที่กรุวัดเขาชนไก่ อีกด้วย

    เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๗ มีการขุดฐานพระเจดีย์องค์หนึ่งที่วัดท่าเสา พบ พระท่ากระดาน จำนวนหนึ่ง ไม่มากนัก และยังพบพระพิมพ์อื่นๆ อีกหลายพิมพ์ ที่มีมากสุดคือ พระท่ากระดานน้อย นักนิยมสะสมพระเครื่องจึงเสาะแสวงหาพระเครื่องเล็กๆ พิมพ์นี้กันมาก เพราะมีราคาเช่าหาในท้องตลาดถูกกว่า พระท่าพระดาน พิมพ์ใหญ่ ซึ่งหายากและมีราคาแพงมาก

    ขณะเดียวกัน บางท่านหา พระท่ากระดานน้อย กรุวัดท่าเสา ไม่ได้ แต่มีใจรักในพระกรุประเภทเนื้อชินสนิมแดง ก็ยังสามารถหา พระท่ากระดานน้อย อีกกรุหนึ่งมาใช้ทดแทนกันได้ คือ พระท่ากระดานน้อย กรุวัดศาลเจ้า ของ จ.ราชบุรี พระท่ากระดานน้อย กรุเมืองราชบุรีนี้ มีขนาด เนื้อหา และพิมพ์ทรง เกือบจะเหมือนกับของกรุเมืองกาญจนบุรี ทุกประการ ซึ่งนักนิยมสะสมพระเครื่องบางท่านที่ไม่มีความชำนาญมากพอ จะไม่สามารถแยกออกได้เลยว่า พระท่าพระดานน้อย ของทั้ง ๒ เมืองนี้แตกต่างกันตรงไหนอย่างไร

    พระท่ากระดานน้อย กรุวัดศาลเจ้า จ.ราชบุรี เป็นพระเนื้อชินตะกั่วสนิมแดง ขุดพบเมื่อปี ๒๕๐๔ ที่วัดศาลเจ้า ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งในเมืองราชบุรี สร้างมาแต่สมัยใดไม่ปรากฏ แต่ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เมื่อสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา โดย หลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี ซึ่งต่อมาก็คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี

    เมื่อปี ๒๔๖๕ ได้เกิดอสุนีบาตฟ้าฟาดองค์พระเจดีย์ ทำให้พระเครื่องแตกกรุออกมาจำนวนหนึ่ง แต่ก็ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์โดย เถ้าแก่ปู้ เจ้าของโรงสีใกล้วัดศาลเจ้า พร้อมทั้งได้สร้างพระเครื่องบรรจุไว้อีกหลายแบบพิมพ์

    ต่อมาในปี ๒๕๐๔ พระเจดีย์ได้ชำรุดลงอีก ได้มีผู้พบพระเครื่องอยู่ภายในองค์เจดีย์เป็นจำนวนมาก โดยมีพระเครื่องหลายชนิด มากด้วยพิมพ์ทรง มีทั้งเนื้อชิน เนื้อผง และเนื้อว่าน

    พระที่พบในครั้งที่มีจำนวนมากที่สุด คือ พระพิมพ์ขนาดเล็ก เนื้อชินตะกั่วสนิมแดง ซึ่งมีทั้งสนิมแดงจัด และสนิมแดงแซมไข เนื่องจากเนื้อตะกั่วแก่ชินนั่นเอง สันนิษฐานว่า พระพิมพ์ดังกล่าวน่าจะสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา โดยหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี ในคราวที่ได้บูรณปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ในยุคแรก

    ส่วนพระพิมพ์อื่นๆ เช่น พระผงพิมพ์กลีบบัว พระพิมพ์เนื้อว่าน ฯลฯ น่าจะสร้างในคราวที่เถ้าแก่ปู้ บูรณปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ในคราวหลัง

    พระท่ากระดานน้อย กรุวัดศาลเจ้า พุทธลักษณะ เป็นพระปางมารวิชัย ประทับนั่งโดยไม่มีฐานรองรับ รายละเอียดบนพระพักตร์ปรากฏไม่ชัดเจนเลย ไม่มีทั้งพระเนตร พระขนง พระโอษฐ์ และพระนาสิก มีแต่โครงหน้าพระพักตร์เรียบๆ เท่านั้น

    นอกจากนี้ ขอบองค์พระยังปรากฏปีกด้านข้างทุกองค์ ทั้งประเภทปีกกว้าง และปีกชิด เป็นพระเนื้อชินสนิมแดง คล้ายกับพระกรุท่าเสา จ.กาญจนบุรี แต่ลักษณะสนิมแดงของพระกรุวัดท่าเสา จะดูแดงเข้มจัด และไขมันสดกว่าของกรุวัดศาลเจ้า เพราะอายุของพระกรุวัดท่าเสามีความเก่ามากกว่ากัน

    นอกจากนี้พระกรุวัดท่าเสา องค์พระจะมีหน้าพระพักตร์ และพระกรรณทั้งสองข้างปรากฏให้เห็นชัดเจนกว่าของกรุศาลเจ้า

    ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้นำพระกรุวัดศาลเจ้า ซึ่งไม่มีหน้าพระพักตร์ มาปั๊มขึ้นหน้าพระพักตร์ใหม่ ให้เหมือนกับพระกรุวัดท่าเสา แล้วขายออกในราคาที่สูงกว่า

    จุดแตกต่างในการพิจารณา คือ พระกรุวัดท่าเสา ตรงบริเวณพระกรซ้ายขององค์พระมีเส้นขีดนูนยาวเลยไปจรดขอบพระ ต่างกับพระกรุวัดศาลเจ้า ซึ่งไม่มีเส้นขีดนูนเป็นตำหนิจุดตายปรากฏให้เห็น

    พระท่ากระดานน้อย กรุวัดศาลเจ้า มีขนาดองค์พระกว้างประมาณ ๑.๓๐ ซม. สูงประมาณ ๒ ซม. พุทธคุณยอดเยี่ยมทางแคล้วคลาดและคงกระพันชาตรี สนนราคา หลักพันกลางๆ ถ้ามีสภาพสวยสมบูรณ์ สนิมแดงจัด ราคาประมาณหมื่นกว่าบาทถึงสองหมื่นขึ้นไป

    พระองค์นี้ สภาพผ่านการใช้งาน สนิมแดงจัดสวย

    บูชาเพียง 3,900บาท รวมส่งด่วนเอกชน

    รับประกันพระแท้ เก๊คืนเต็ม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2022
  6. Mest

    Mest สมาชิกใหม่ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2021
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่5. ท้าวเวสสุวรรณ วัดสุทัศน์ เจ้าคุณศรี(ประหยัด)
    IMG_E8300.JPG IMG_E8301.JPG
    ช่วงนี้กำลังมาแรง ต้องท้าวเวสสุวรรณ

    ท้าวเวสสุวรรณองค์นี้ เป็นของท่านเจ้าคุณศรีฯ(ประหยัด) ซึ่งท่านเป็นศิษย์ของ สมเด็จพระสังฆราช(แพ) เจ้าสำนักวัดสุทัศน์ฯ และเป็นรุ่นเดียวกับ ท่านเจ้าคุณศรีฯ(สนธิ์) ซึ่ง ท้าวเวสสุวรรณที่ท่านสร้างนี้ ได้มีการใช้ส่วนผสมของชนวนเก่าของวัดสุทัศน์จำนวนมากหลายรุ่น ตั้งแต่สมัย สมเด็จพระสังฆราช(แพ)เรื่อยมา จนถึงท่านเจ้าคุณศรีฯ(สนธิ์) ครับ เรียกว่า เป็นการสร้าง ต่อเนื่องกันมานั่นเอง โดยราคาเช่าหาของท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์) นั้น แตะหลักแสนไปนานแล้ว มีแต่ ของท่านเจ้าคุณศรีฯ(ประหยัด) นี่ล่ะครับ ที่ ผู้ที่สนใจ ชอบบูชา สามารถ เป็นเจ้าของได้ในราคาที่ ไม่สูง

    พระองค์นี้ สภาพสวยไม่ผ่านการใช้งาน

    บูชาเพียง 3,900บาท รวมส่งด่วนเอกชน

    รับประกันพระแท้ เก๊คืนเต็ม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2022
  7. Mest

    Mest สมาชิกใหม่ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2021
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่ 6. เหรียญโชคชัย หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา พศ.2516 ลพบุรี
    IMG_E8314.JPG IMG_E8315.JPG IMG_1553.JPG

    เหรียญโชคชัย หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา พศ.2516 ลพบุรี

    ประวัติหลวงพ่อกบ

    หลวงพ่อกบเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่พุทธศาสนิกชนทั่วไปได้ให้ความเคารพ และเลื่อมใสศรัทธาชีวประวัติของท่านไม่ได้บันทึกไว้ชัดเจนเป็นแต่เพียงการเล่าขานสืบต่อกันมาว่าท่านธุดงค์มาปักกลดอยู่ที่ชายป่าด้านเขาสาริกา เมื่อประมาณปลายปี 2530 โดยที่ไม่มีใครทราบวาท่านมาจากไหน ท่านมีชื่อว่าอะไรและท่านเป็นคนจังหวัดใดหลายคนอยากทราบ ได้พยายามถามท่าน ท่านมักจะตอบว่า “ **จะไปรู้ได้อย่างไร แม้แต่***เอง***ยังไม่รู้ว่า***เป็นใครมาจากไหนและ***จะไปไหนต่อ ” ซึ่งเป็นคำตอบที่นอกจากจะไม่เข้าใจแล้วยังสร้างความงุนงงให้กับผู้ถามเพิ่มขึ้นไปอีกจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครทราบประวัติที่แท้จริงของท่าน
    ที่มาของนาม “ หลวงพ่อกบ”
    หลวงพ่อกบจำพรรษาอยู่ที่วัดเขาสาริกา ผ่านไปหลายปี ชื่อเสียงของท่านโด่งดังมากครั้งหนึ่งช่วงออกพรรษาปี พ.ศ.ใดไม่ชัดเจน มีกฐินจากกรุงเทพฯมาทอดที่วัดภายหลังเสร็จสิ้น จากพิธีถวายกฐิน ญาติโยมจากกรุงเทพฯจำนวนหนึ่งจำเป็นต้องค้างแรมที่วัด หลวงพ่อท่านเมตตาให้ค้างแรมในกุฏิคืนนั้นหลายคนนอนไม่หลับ เพราะไม่ได้ทานข้าวเย็นเนื่องจากที่วัดจัดให้มีไม่พอ เวลาผ่านไปประมาณ 3 ทุ่มก็บังเกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาดท้องฟ้าที่เคยแจ่มใสพลันก็เกิดเมฆดำทะมึนก่อตัวขึ้นสักครู่เสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่าพร้อมฝนห่าใหญ่ก็เทลงมา สายน้ำไหลเจิ่งนอง ประสานเสียงร้องของกบดังไปทั่วมองลงไปที่ลานหน้ากุฏิ เต็มไปด้วยกบตัวใหญ่ๆ กระโดดโลดเต้นไปมา “ พวกเอ็งหิวไหมว๊ะ ” เสียงเอ่ยถามของหลวงพ่อทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกัน ” หิวขอรับ” “ ถ้างั้นเอ็งรอเดี๋ยว**จะลงไปแทงกบมาให้พวกเอ็งทำต้มยำกิน ” ว่าแล้วท่านก็คว้าฉมวกลงกุฏิไปอย่างรวดเร็วพวกเขามองตามลงไปเห็นหลวงพ่อกำลังใช้ฉมวกทิ่มแทงกบตัวแล้วตัวเล่าอนิจจา!!! ศรัทธาของพวกเขาเริ่มเหือดหายไป แต่ด้วยความหิวคืนนั้นต้มยำกบหม้อใหญ่ก็ถูกกินจนเกือบหมดเช้าวันรุ่งขึ้นมีคนหนึ่งสงสัยว่า ต้มยำกบที่เขากินเมื่อคืนเป็นกบจริงๆ หรือเปล่าเขาจึงย่องเข้าไปดูในโรงครัว เมื่อเปิดฝาหม้อดู เขาก็ต้องผงะตกตลึงด้วยความอัศจรรย์ใจ ด้วยว่า สิ่งที่เห็นอยู่ในหม้อหาใช่กบไม่แต่เป็นยอดกระถิน และใบมะขามอยู่เกือบครึ่งค่อนหม้อเหตุการณ์นี้ถูกนำมาเล่าต่อๆ กันมาว่าหลวงพ่อท่านสร้างปาฏิหาริย์เสกใบไม้ให้กลายเป็นกบจนกลายมาเป็นที่มาของนามท่าน “ หลวงพ่อกบ ”
    มูลเหตุแห่งความศรัทธา
    ด้วยปฏิปทาอันแปลกประหลาดของหลวงพ่อกบรวมทั้งปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับหลวงพ่อกบ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่น่าฉงน และไม่สามารถหาคำอธิบายได้เป็นมูลเหตุแห่งความศรัทธา ที่คนทั่วไปเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่า หลวงพ่อกบท่านเป็นผู้ทรงศีลที่มีฌานสมาบัติขั้นสูง และมีพลังเร้นลับสามารถทำในสิ่งที่คนทั่วไปยากที่จะเข้าใจได้จึงขอนำเรื่องราวดังกล่าวมาเล่าสู่กันฟังพอสังเขป
    ปฏิปทา
    ปกติหลวงพ่อกบจะบำเพ็ญเพียรภาวนาในท่านั่งยองๆ เป็นเวลายาวนานติดต่อกัน คราวละ 7 – 15 วัน โดยที่ท่านไม่ลุกไปไหนเลย ไม่ฉันอาหาร น้ำหรือแม้แต่การถ่ายหนักเบาเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นซึ่งสร้างความอัศจรรย์ใจแก่ผู้พบเห็นเข้าใจกันว่าปฏิปทาอันเหลือเชื่อของท่านเกิดขึ้นได้ เพราะท่านสามารถถอดจิตออกจากกายได้ทำให้กายไม่รับรู้ต่อสภาพความหิว และความเจ็บปวดใดๆ
    - นั่งท่ายองๆ ไม่ว่าจะสวดมนต์ หรือทำกิจวัตรใดๆ และนอนตะแคงขวาเป็นประจำ
    - นุ่งสบงเก่าๆ ผืนเดียว ไม่ห่อจีวร ที่คอแขวนลูกกระพรวน
    - อยู่แต่ในวัดไม่เคยเดินออกไปไหนเลย
    - ใช้น้ำชาและต้มเครื่องเทศเป็นยารักษาโรคชื่อเสียงของท่านถูกกล่าวขานปากต่อปากผู้คนจำนวนมากมารับการรักษาจากท่านเป็นเรื่องที่ชี้ให้เห็นถึงปฏิปทาที่เต็มไปด้วยความเมตตาอย่างสูงของท่าน

    ปรากฏการณ์แปลกประหลาด
    - มีผู้คนจากจังหวัดต่างๆมานมัสการและทำบุญกับหลวงพ่อกบอย่างล้นหลามมิได้ขาดพวกเขาเหล่านั้นรู้จักหลวงพ่อได้อย่างไร ? ทั้งๆ ที่หลวงพ่ออยู่แต่ในวัดและชาวบ้านเขาสาลิกาก็ไม่เคยออกไปแจกซองกฐิน หรือซองผ้าป่าที่ไหนเลยถนนหนทางเข้าวัดในขณะนั้นก็ยังไม่มี มันเป็นไป ได้อย่างไร !เมื่อสอบถามดูพวกเขาเหล่านั้นพูดทำนองเดียวกันว่าได้พบเห็นหลวงพ่อกบไปบิณฑบาตที่บ้านตน ด้วยความศรัทธาจึงพากันติดตามถามหาจนมาพบท่าน และทุกอย่างเป็นจริงตามที่หลวงพ่อกบบอกไว้ทุกประการ
    - บ่อยครั้งมีผู้พบเห็นท่านในเวลาเดียวกันถึง 2 แห่ง เชื่อกันว่า ท่านสามารถถอดกายทิพย์ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ได้
    - ”น้ำชา และต้มเครื่องเทศ” สามารถทำให้โรคภัยไข้เจ็บของชาวบ้านหายได้อย่างไร? เป็นคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ เป็นไปได้ หรือไม่ ว่า หลวงพ่อกบให้พลังจิตช่วยในการรักษา
    - พลังเมตตาบารมี ? หลวงพ่อกบเป็นคนเฉยๆ หากมีคนมานมัสการท่าน ท่านเพียงแต่เงยหน้าขึ้นมาดูไม่ค่อยโอภาปราศรัยด้วย แต่ก็เป็นเรื่องแปลกทุกคนที่มาหาท่านต่างยอมรับว่ารู้สึกศรัทธา และปลื้มปีติสุข เมื่อได้พบกับหลวงพ่อกบ

    มรณภาพ
    หลวงพ่อกบท่านละสังขารเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม2496 ในวันนั้นหลวงพ่อโอภาสีได้ขึ้นมาที่วัดและรับเป็นประธานในงานเผาสรีระของท่าน หลวงพ่อโอภาสีทราบได้อย่างไร ? ชาวบ้านต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า " ไม่มีใครส่งข่าวไปบอกท่าน” เพราะหนทางไกล การคมนาคมสมัยนั้นลำบากมาก ในเรื่องนี้เข้าใจกันว่าหลวงพ่อโอภาสี ท่านคงทราบได้ด้วยฌานเช่นเดียวกัน การละสังขารของหลวงพ่อกบยังความโศกเศร้าเสียใจให้กับผู้คนจำนวนมาก
    ทุกสิ่ง ทุกอย่างแห่งความดีและความเมตตาอารีของท่านยังคงฝังอยู่ในความทรงจำของเหล่าพุทธศาสนิกชนอย่างไม่มีวันลืมตราบจนทุกวันนี้

    เหรียญนี้ สวย กะไหล่เงิน จมูกโด่งไม่ถลอก หลวงพ่อเอีย ร่วมปลุกเสก

    บูชา 800 บาทรวมส่งด่วนเอกชน
    รับประกันพระแท้ เก๊คืนเต็ม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2022
  8. Mest

    Mest สมาชิกใหม่ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2021
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่ 7.พระสมเด็จพระครูสุพจน์ วัดสุทัศน์ ปี 2484
    (พระประทานพิมพ์ใหญ่) มวลสาร สมเด็จโต วัดระฆัง

    IMG_1326.JPG IMG_1327.JPG 1338135-4faa3.jpg get_auc1_img.gif
    พิธีเดียว กับพระพุทธชินราชอินโดจีน ปี 2485 ประวัติ การสร้างสมเด็จเจ้าคุณสุพจน์ วัดสุทัศน์ ปีพ.ศ.2484 พระสมเด็จรุ่นนี้จัดสร้างโดยหลวงพ่อสุพจน์ นามเต็มของท่านคือ "พระครูพุทธมนต์วราจารย์"

    ท่านเป็นพระแบบว่าเก่งเงียบท่านมีวิชาลบผงสร้างผงจากตำราโบราณของวัดสุทัศน์ เป็นสหายธรรมกับหลวงปู่นาคและหลวงปู่หินวัดระฆังจึงได้รับมอบผงสมเด็จโต วัดระฆังที่แตกหักเป็นจำนวนมากท่านเป็นหนึ่งในเกจิที่ร่วมปลุกเสกพระยี่สิบห้า พุทธศตวรรษและงานพุทธาภิเษกใหญ่ ๆ เช่นพิธีวัดประสาทฯ ปี 06 พิธีปลุกเสกพระประจำจังหวัดชลบุรี ปี 09 ที่วัดป่าชลบุรีก็มีชื่อของท่านในทำเนียบพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการนิมนต์ มาร่วมพิธีปลุกเสกด้วย พระสมเด็จพิมพ์นี้สร้างที่วัดสุทัศน์ฯ เมื่อปี 84 โดยลูกศิษย์ของท่านนำพระสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักจำนวนมากและไม่ได้ใครสนใจมา ถวายท่าน ท่านจึงนำพระเหล่านั้นมาบดเป็นผงละเอียดและได้แกะพิมพ์ขึ้นมาใหม่และได้กราบ เรียนสมเด็จพระสังฆราชแพเพื่อขออนุญาตนำพระเข้าปลุกพิธีอินโดจีนปี 85 ครับ ทำพิธีในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2485 ที่วัดสุทัศน์โดยมีสมเด็จพระสังฆราชแพ เป็นองค์ประธาน และท่านเจ้าคุณศรี สนธิ์เป็นแม่งาน และมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังร่วมนั่งปรกปลุกเสก 108 องค์หลังจากนั้นจึงได้มอบให้แก่ลูกศิษย์ตลอดจนทหาร ตำรวจ และข้าราชการต่าง ๆที่ต้องไปราชการสงครามในสมัยนั้นเพื่อไปเป็นมงคล ปรากฎว่า "ประสบการณ์ดีเยี่ยม"พอข่าวนี้แพร่ออกไปปรากฎว่ามีประชาชนต่างมาทยอยขอพระ สมเด็จจากท่านจำนวนมากซึ่งท่านก็มอบให้ด้วยความเต็มใจจนหมดพระรุ่นนี้จึงมี ดีด้วยเนื้อหาเเละการปลุกเสกที่ไม่มีใครทำได้อีกแล้ว @@@พระสมเด็จฯเป็นพระเครื่องฯที่สร้างขึ้นด้วยผงวิเศษทั้งห้าอันให้คุณวิเศษ ต่างๆกัน เเละความศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์ของพระสมเด็จฯนั้นส่วนใหญ่ย่อมเกิดจากผงวิเศษ เหล่านี้คือ 1.ผงอิธเจ ให้คุณวิเศษในด้านเมตตามานิยมอย่างสูง เเละบรรดาลให้เกิดสิริมงคลลาภผล เเละ ความมีราศรี 2.ผงปถมัง ให้คุณวิเศษในด้านคงกระพัน, ชาตรี, จังงัง, ล่องหน, ป้องกัน, กำจัดภูตผีปีศาจ เเละ การกระทำย่ำยีด้วยคุณไสย์ เเละ เมตตามหานิยม ด้วย 3 ผงมหาราช บรรดาลผลในด้าน เมตตามหานิยม, คงกระพัน, ชาตรี, จังงัง, กำบัง, อิทธิตบะเดชะ 4 ผงพุทธคุณ อุปการะในด้านเมตตามหานิยมอย่างสูง, สง่าราศรี, ลาภผลเเละเเค้ลวคลาด 5 ผงตรีนิสิงเห ใหคุณในด้านเมตตามหานิยม, เเคล้วคลาด, คงกระพัน, ชาตรี, ปกป้องเเละถ่ายถอนอำนาจคุณไสย์ เเละ ประสะน้ำมนต์เสดาะเคราะห์ ถอนอาถรรพณ์เเละเสนียดจัญไรทั้งปวง >> และพระชุดนี้ยังได้เข้าร่วมพิธีปลุกเสกพระพุทธชินราชอินโดจีนด้วยครับ รายชื่อพระคณาจารย์ผู้ปลุกเสกพระพุทธชินราชอินโดจีน ครบ 108 รูป... ใน ปี พ.ศ. 2485 พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย เป็นผู้ดำเนินการสร้างพระเครื่องชุดนี้ขึ้น โดยยึดเอาพระพุทธลักษณะจากองค์พระพุทธชินราชจากจังหวัดพิษณุโลกเป็นองค์ต้น แบบ มีการสร้างแบ่งเป็น 3 ชนิดด้วยกัน ประกอบด้วย 1. พระบูชา สร้างด้วยวิธีการหล่อเป็นพระพุทธรูปขัดเงา มีซุ้มเรือนแก้วเหมือนพระพุทธชิน-ราชองค์ปัจจุบัน การจัดสร้างในครั้งนั้นจัดสร้างตามจำนวนผู้สั่งจอง โดยผู้ที่สั่งจองจะต้องส่งเงินจำนวน 150 บาท ไปยังคณะกรรมการเพื่อเป็นทุนจัดสร้างเท่านั้น (ต่อ 1 องค์) และมีการแจกจ่ายให้กับจังหวัดทุกจังหวัด จังหวัดละ 1 องค์ ทั่วประเทศ 2. พระเครื่อง แบ่งการสร้างเป็น 2 ชนิด คือ แบบรูปหล่อและเหรียญ พระรูปหล่อมีพุทธ-ลักษณะเหมือนพระพุทธชินราชเป็นรูปลอยองค์ ประกอบด้วย พิมพ์สังฆาฏิยาว พิมพ์สังฆาฏิสั้น และ พิมพ์ต้อ 3. เหรียญ สร้างด้วยวิธีการปั๊ม มีลักษณะเป็นเหรียญรูปเสมา ด้านหน้าเป็นรูปองค์พระพุทธชินราชประทับนั่งในซุ้มเรือนแก้ว ส่วนด้านหลังของเหรียญจะเป็นรูปดอกเลาบานประตูพระวิหารวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สถาน ที่จัดสร้าง พระพุทธชินราชอินโดจีน จัดพิธีการสร้างขึ้นที่วัดสุทัศน์ และปลุกเสกในพระอุโบสถวัดสุทัศน์ ในวันที่ 21 มีนาคม เสาร์ 5 (วันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5) ปี พ.ศ. 2485 ดำเนินการสร้างและออกแบบโดยกรมศิลปากร โดยมีท่านเจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราชแพ เป็นองค์ประธาน และท่านเจ้าคุณสัจจญาณมุนี (สนธิ์) เป็นผู้ดำเนินการ ได้ทำพิธีลงทองถูกต้องตามตำราการสร้างพระกริ่งของวัดสุทัศน์ทุกประการ นอกจากนั้นยังมีแผ่นทองจากพระเกจิอาจารย์ที่เข้าร่วมพิธีอีกจำนวนหนึ่ง จึงนับได้ว่าเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ในสมัยรัตนโกสินทร์พิธีหนึ่ง ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นจากทั่วประเทศ เลยทีเดียว

    พิธีเดียวกับพระพุทธชินราช รุ่นอินโดจีน ทำพิธีในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2485 ที่วัดสุทัศน์ โดยมีสมเด็จพระสังฆราชแพ เป็นองค์ประธาน และท่านเจ้าคุณศรี สนธิ์ เป็นแม่งาน และมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังร่วมนั่งปรกปลุกเสก 108 องค์

    ดังมีรายนามดังต่อไปนี้ 1.สมเด็จพระสังฆราช แพ วัดสุทัศน์ 2.ท่าน เจ้าคุณศรี สนธิ์ 3. หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา 4.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก 5.หลวงปู่นาค วัดระฆัง 6.หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู 7.หลวง พ่อดิ่ง วัดบางวัว 8. หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง 9.หลวงพ่อแช่ม วัดตากล้อง 10. หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว 11.หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด 12.หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ 13.หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง 14.หลวง พ่ออี๋ วัดสัตหีบ 15.หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา 16.หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ 17. หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก 18.พระพุทธโฆษาจารย์เจริญ วัดเทพศิรินทร์ 19.หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่ 20.หลวงพ่อติสโสอ้วน วัดบรมนิวาส 21.สมเด็จพระสังฆราชชื่น วัดบวรนิเวศ 22.พระพุฒาจารย์นวม วัดอนงค์ 23.หลวงพ่อเส็ง วัดกัลยา 24.หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ 25.หลวง พ่อนอ วัดกลางท่าเรือ 26.หลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค 27.หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ 28.หลวงพ่อช่วง วัดบางแพรกใต้ 29.หลวงพ่ออาจ วัดดอนไก่ดี 30.หลวงพ่อกลิ่น วัดสพานสูง 31.สมเด็จพระสังฆราชอยู่ วัดสระเกศ 32.หลวงพ่อเชย วัดเจษฎาราม 33.หลวงพ่อปาน วัดเทพธิดาราม 34.หลวง พ่อเซ็ก วัดทองธรรมชาติ 35.หลวงพ่อเจีย วัดพระเชตุพน 36. หลวงพ่อเผื่อน วัดพระเชตุพน 37.หลวงพ่อหลิม วัดทุ่งบางมด 38. หลวงพ่อแพ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก 39.หลวงพ่อสอน วัดพลับ 40.หลวง พ่อเฟื่อง วัดสัมพันธวงศ์ 41.หลวงพ่อบัว วัดอรุณ 42. หลวงพ่อนาค วัดอรุณ 43.หลวงพ่อปลั่ง วัดคูยาง 44.หลวงพ่อชุ่ม วัดพระประโทน 45.หลวง พ่อสนิท วัดราษฎร์บูรณะ 46.หลวงพ่อเจิม วัดราษฎร์บูรณะ 47.หลวงพ่อสุข วัดราษฎร์บูรณะ 48.หลวงพ่ออาคม สุนทรมา วัดราษฎร์บูรณะ 49.หลวงพ่อดี วัดเทวสังฆาราม 50.หลวงพ่อประหยัด วัดสุทัศน์ 51.หลวงพ่อปลอด วัดหลวงสุวรรณ 52. หลวงพ่ออิ่ม วัดชัยพฤกษ์มาลา 53.หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก 54. หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน 55.หลวงพ่อครุฑ วัดท่อฬ่อ 56.หลวง พ่อกลีบ วัดตลิ่งชัน 57.หลวงพ่อทรัพย์ วัดสังฆราชาวาส 58.หลวงพ่อแม้น วัดเสาธงทอง 59.หลวงปู่รอด วัดวังน้ำว 60.หลวงพ่อสาย วัดพยัคฆาราม 61.หลวง พ่อเส็ง วัดประจันตาคาม 62.หลวงพ่อพิศ วัดฆะมัง 63.หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก 64.หลวงพ่อหมา วัดน้ำคือ 65. หลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยาง 66.หลวง ปู่เหมือน วัดโรงหีบ 67.หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว 68.หลวงพ่อฉาย วัดพนัญเชิง 69.หลวงพ่อปลื้ม วัดปากคลองมะขามเฒ่า 70.หลวงพ่อแนบ วัดระฆัง 71.หลวงพ่อเลียบ วัดเลา 72.หลวงพ่อพักตร์ วัดบึงทองหลาง 73.หลวง พ่อสอน วัดลาดหญ้า 74.หลวงปู่เผือก วัดโมรี 75.หลวงพ่อผิน วัดบวรนิเวศ 76. หลวงพ่อเจียง วัดเจริญธรรมาราม 77.หลวงพ่อทองอยู่ วัดประชาโฆษิตาราม 78.หลวงพ่อไวย์ วัดดาวดึงส์ 79.หลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้ว 80. หลวงพ่ออ่ำ วัดวงฆ้อง 8 81.หลวงปู่จันทร์ วัดคลองระนง 82.หลวง พ่ออ๋อย วัดไทร 83.หลวงพ่อศรี วัดพลับ 84.พระอาจารย์เชื้อ วัดพลับ 85. หลวงพ่อพริ้ง วัดบางประกอก 86.หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ 87.หลวงพ่อพริ้ง วัดราชนัดดา 88.หลวงพ่อขำ วัดตรีทศเทพ 89.หลวงพ่อหนู วัดปทุมวนาราม 90.หลวง พ่อทองคำ วัดปทุมคงคา 91.หลวงพ่อเจียง วัดเจริญสุธาราม 92.หลวงพ่อ กรอง วัดสว่างอารมณ์ 93.หลวงพ่อเนียม วัดเสาธงทอง 94.หลวงพ่อบุญ วัดอินทราราม 95.หลวงพ่อเปลี่ยน วัดบึง 96. หลวงพ่อฉ่ำ วัดท้องคุ้ง 97.หลวง พ่อพรหมสรรอด วัดบ้านไพร 98. หลวงปู่จันทร์ วัดโสมนัสวิหาร 99.หลวง พ่อโสม วัดราษฎร์บูรณะ 100. หลวงพ่อบุตร วัดบางปลากด 101.หลวงพ่อโต วัดบ้านกล้วย 102. หลวงพ่อทองอยู่ วัดบางหัวเสือ 103.หลวงพ่อวงศ์ วัดสระเกศ 104. พระอาจารย์พงษ์ วัดกำแพง 105.พระอธิการชัย วัดเปรมประชา 106. หลวงปู่รอด วัดเกริ่น 107.หลวงพ่อเที่ยง วัดบางหัวเสือ 108.หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ

    บูชา1,200 บาทพร้อมส่งด่วนเอกชน
    รับประกันพระแท้ เก๊คืนเต็ม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2022
  9. Mest

    Mest สมาชิกใหม่ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2021
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่ 8.พระรอด กรุศาลเจ้า หรือ กรุต้นลำไย
    IMG_1244.JPG IMG_1245.JPG
    พระรอด กรุต้นลำใย เนื้อดินผสมว่าน วัดมหาวัน อ.เมือง จ.ลำพูน ...พระรอดกรุต้นลำใย หรือพระรอดตุ๊ลุงจั๋น วัดมหาวัน สร้างโดย ตุ๊ลุงจั๋น(หลวงตาจันทร์) พระลูกวัดในสมัยของหลวงพ่อท่านเจ้าคุณ "พระญาณมงคล(ชุมพล ชุตินธโร)ดำรงค์ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมหาวัน หลวงตาตาจันทร์ท่านได้นำมวลสารชิ้นส่วนพระสกุลลำพูนที่หักและชิ้นส่วนพระรอดมหาวันที่หักในสมัยก่อนมีคนนำมาไว้ที่วัดและขุดได้ในบริเวณวัดมาผสมกับดินหรดาน(ดินสีขาวมีกลิ่นหอมซึ่งจะอยู่ก้นหลุมที่ขุดพระรอด)ผสมดินเหนียวจากฝั่งแม่นํ้ากวง เช่นเดียวกับพระคณาจารย์สายมหาวัน เจตนาในการสร้างพระรอดของหลวงตาจันทร์ได้สร้างเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาอันเป็นธรรมเนียมสืบต่อกันมาของสายวัดมหาวันจากอดีตถึงปัจจุบัน พระรอดที่ท่านสร้างได้ฝังลงกรุทั่วไปตามบริเวณวัดมหาวันและได้ฝังไว้จำนวนมากที่สุดคือใต้ต้นลำไยสองต้นหน้ากุฎิศักดิ์ทองหลัง เก่า(ปัจจุบันได้ถูกรื้อสร้างเป็นศาลาพิพิธภันฑ์พระรอดไปแล้ว) ...ภายหลังต้นลำใยทั้งสองต้นได้แก่ตัวมากและตายลง ทางวัดจึงได้ทำการตัดและขุดเอาตอออก จึงได้พบพระรอดชุดนี้เป็นจำนวนหลายร้อยองค์ จึงกลายเป็นที่มาของกรุต้นลำใย

    องค์นี้ สภาพสมบูรณ์ ไม่แตกหักซ่อม เนื้อหาจัดจ้าน ใครหาพระรอดมหาวันไม่ได้ ใช้องค์นี้แทนได้เลยมีมวลสารเก่าพระมหาวัน ในราคาเบาๆ

    บูชา 900 บาทพร้อมส่งด่วนเอกชน
    รับประกันพระแท้ เก๊คืนเต็ม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2022
  10. Mest

    Mest สมาชิกใหม่ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2021
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่ 9. พระสมเด็จพระครูสุพจน์ วัดสุทัศน์ ปี 2484
    (พิมพ์เจดีย์นอนวัดละครทำ) มวลสาร สมเด็จโต วัดระฆัง
    IMG_1457.JPG IMG_1458.JPG IMG_1311.JPG 1338135-4faa3.jpg

    พิธีเดียว กับพระพุทธชินราชอินโดจีน ปี 2485 ประวัติ การสร้างสมเด็จเจ้าคุณสุพจน์ วัดสุทัศน์ ปีพ.ศ.2484 พระสมเด็จรุ่นนี้จัดสร้างโดยหลวงพ่อสุพจน์ นามเต็มของท่านคือ "พระครูพุทธมนต์วราจารย์"

    ท่านเป็นพระแบบว่าเก่งเงียบท่านมีวิชาลบผงสร้างผงจากตำราโบราณของวัดสุทัศน์ เป็นสหายธรรมกับหลวงปู่นาคและหลวงปู่หินวัดระฆังจึงได้รับมอบผงสมเด็จโต วัดระฆังที่แตกหักเป็นจำนวนมากท่านเป็นหนึ่งในเกจิที่ร่วมปลุกเสกพระยี่สิบห้า พุทธศตวรรษและงานพุทธาภิเษกใหญ่ ๆ เช่นพิธีวัดประสาทฯ ปี 06 พิธีปลุกเสกพระประจำจังหวัดชลบุรี ปี 09 ที่วัดป่าชลบุรีก็มีชื่อของท่านในทำเนียบพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการนิมนต์ มาร่วมพิธีปลุกเสกด้วย พระสมเด็จพิมพ์นี้สร้างที่วัดสุทัศน์ฯ เมื่อปี 84 โดยลูกศิษย์ของท่านนำพระสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักจำนวนมากและไม่ได้ใครสนใจมา ถวายท่าน ท่านจึงนำพระเหล่านั้นมาบดเป็นผงละเอียดและได้แกะพิมพ์ขึ้นมาใหม่และได้กราบ เรียนสมเด็จพระสังฆราชแพเพื่อขออนุญาตนำพระเข้าปลุกพิธีอินโดจีนปี 85 ครับ ทำพิธีในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2485 ที่วัดสุทัศน์โดยมีสมเด็จพระสังฆราชแพ เป็นองค์ประธาน และท่านเจ้าคุณศรี สนธิ์เป็นแม่งาน และมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังร่วมนั่งปรกปลุกเสก 108 องค์หลังจากนั้นจึงได้มอบให้แก่ลูกศิษย์ตลอดจนทหาร ตำรวจ และข้าราชการต่าง ๆที่ต้องไปราชการสงครามในสมัยนั้นเพื่อไปเป็นมงคล ปรากฎว่า "ประสบการณ์ดีเยี่ยม"พอข่าวนี้แพร่ออกไปปรากฎว่ามีประชาชนต่างมาทยอยขอพระ สมเด็จจากท่านจำนวนมากซึ่งท่านก็มอบให้ด้วยความเต็มใจจนหมดพระรุ่นนี้จึงมี ดีด้วยเนื้อหาเเละการปลุกเสกที่ไม่มีใครทำได้อีกแล้ว @@@พระสมเด็จฯเป็นพระเครื่องฯที่สร้างขึ้นด้วยผงวิเศษทั้งห้าอันให้คุณวิเศษ ต่างๆกัน เเละความศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์ของพระสมเด็จฯนั้นส่วนใหญ่ย่อมเกิดจากผงวิเศษ เหล่านี้คือ 1.ผงอิธเจ ให้คุณวิเศษในด้านเมตตามานิยมอย่างสูง เเละบรรดาลให้เกิดสิริมงคลลาภผล เเละ ความมีราศรี 2.ผงปถมัง ให้คุณวิเศษในด้านคงกระพัน, ชาตรี, จังงัง, ล่องหน, ป้องกัน, กำจัดภูตผีปีศาจ เเละ การกระทำย่ำยีด้วยคุณไสย์ เเละ เมตตามหานิยม ด้วย 3 ผงมหาราช บรรดาลผลในด้าน เมตตามหานิยม, คงกระพัน, ชาตรี, จังงัง, กำบัง, อิทธิตบะเดชะ 4 ผงพุทธคุณ อุปการะในด้านเมตตามหานิยมอย่างสูง, สง่าราศรี, ลาภผลเเละเเค้ลวคลาด 5 ผงตรีนิสิงเห ใหคุณในด้านเมตตามหานิยม, เเคล้วคลาด, คงกระพัน, ชาตรี, ปกป้องเเละถ่ายถอนอำนาจคุณไสย์ เเละ ประสะน้ำมนต์เสดาะเคราะห์ ถอนอาถรรพณ์เเละเสนียดจัญไรทั้งปวง >> และพระชุดนี้ยังได้เข้าร่วมพิธีปลุกเสกพระพุทธชินราชอินโดจีนด้วยครับ รายชื่อพระคณาจารย์ผู้ปลุกเสกพระพุทธชินราชอินโดจีน ครบ 108 รูป... ใน ปี พ.ศ. 2485 พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย เป็นผู้ดำเนินการสร้างพระเครื่องชุดนี้ขึ้น โดยยึดเอาพระพุทธลักษณะจากองค์พระพุทธชินราชจากจังหวัดพิษณุโลกเป็นองค์ต้น แบบ มีการสร้างแบ่งเป็น 3 ชนิดด้วยกัน ประกอบด้วย 1. พระบูชา สร้างด้วยวิธีการหล่อเป็นพระพุทธรูปขัดเงา มีซุ้มเรือนแก้วเหมือนพระพุทธชิน-ราชองค์ปัจจุบัน การจัดสร้างในครั้งนั้นจัดสร้างตามจำนวนผู้สั่งจอง โดยผู้ที่สั่งจองจะต้องส่งเงินจำนวน 150 บาท ไปยังคณะกรรมการเพื่อเป็นทุนจัดสร้างเท่านั้น (ต่อ 1 องค์) และมีการแจกจ่ายให้กับจังหวัดทุกจังหวัด จังหวัดละ 1 องค์ ทั่วประเทศ 2. พระเครื่อง แบ่งการสร้างเป็น 2 ชนิด คือ แบบรูปหล่อและเหรียญ พระรูปหล่อมีพุทธ-ลักษณะเหมือนพระพุทธชินราชเป็นรูปลอยองค์ ประกอบด้วย พิมพ์สังฆาฏิยาว พิมพ์สังฆาฏิสั้น และ พิมพ์ต้อ 3. เหรียญ สร้างด้วยวิธีการปั๊ม มีลักษณะเป็นเหรียญรูปเสมา ด้านหน้าเป็นรูปองค์พระพุทธชินราชประทับนั่งในซุ้มเรือนแก้ว ส่วนด้านหลังของเหรียญจะเป็นรูปดอกเลาบานประตูพระวิหารวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สถาน ที่จัดสร้าง พระพุทธชินราชอินโดจีน จัดพิธีการสร้างขึ้นที่วัดสุทัศน์ และปลุกเสกในพระอุโบสถวัดสุทัศน์ ในวันที่ 21 มีนาคม เสาร์ 5 (วันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5) ปี พ.ศ. 2485 ดำเนินการสร้างและออกแบบโดยกรมศิลปากร โดยมีท่านเจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราชแพ เป็นองค์ประธาน และท่านเจ้าคุณสัจจญาณมุนี (สนธิ์) เป็นผู้ดำเนินการ ได้ทำพิธีลงทองถูกต้องตามตำราการสร้างพระกริ่งของวัดสุทัศน์ทุกประการ นอกจากนั้นยังมีแผ่นทองจากพระเกจิอาจารย์ที่เข้าร่วมพิธีอีกจำนวนหนึ่ง จึงนับได้ว่าเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ในสมัยรัตนโกสินทร์พิธีหนึ่ง ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นจากทั่วประเทศ เลยทีเดียว

    พิธีเดียวกับพระพุทธชินราช รุ่นอินโดจีน ทำพิธีในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2485 ที่วัดสุทัศน์ โดยมีสมเด็จพระสังฆราชแพ เป็นองค์ประธาน และท่านเจ้าคุณศรี สนธิ์ เป็นแม่งาน และมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังร่วมนั่งปรกปลุกเสก 108 องค์
    ดังมีรายนามดังต่อไปนี้ 1.สมเด็จพระสังฆราช แพ วัดสุทัศน์ 2.ท่าน เจ้าคุณศรี สนธิ์ 3. หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา 4.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก 5.หลวงปู่นาค วัดระฆัง 6.หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู 7.หลวง พ่อดิ่ง วัดบางวัว 8. หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง 9.หลวงพ่อแช่ม วัดตากล้อง 10. หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว 11.หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด 12.หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ 13.หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง 14.หลวง พ่ออี๋ วัดสัตหีบ 15.หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา 16.หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ 17. หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก 18.พระพุทธโฆษาจารย์เจริญ วัดเทพศิรินทร์ 19.หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่ 20.หลวงพ่อติสโสอ้วน วัดบรมนิวาส 21.สมเด็จพระสังฆราชชื่น วัดบวรนิเวศ 22.พระพุฒาจารย์นวม วัดอนงค์ 23.หลวงพ่อเส็ง วัดกัลยา 24.หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ 25.หลวง พ่อนอ วัดกลางท่าเรือ 26.หลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค 27.หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ 28.หลวงพ่อช่วง วัดบางแพรกใต้ 29.หลวงพ่ออาจ วัดดอนไก่ดี 30.หลวงพ่อกลิ่น วัดสพานสูง 31.สมเด็จพระสังฆราชอยู่ วัดสระเกศ 32.หลวงพ่อเชย วัดเจษฎาราม 33.หลวงพ่อปาน วัดเทพธิดาราม 34.หลวง พ่อเซ็ก วัดทองธรรมชาติ 35.หลวงพ่อเจีย วัดพระเชตุพน 36. หลวงพ่อเผื่อน วัดพระเชตุพน 37.หลวงพ่อหลิม วัดทุ่งบางมด 38. หลวงพ่อแพ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก 39.หลวงพ่อสอน วัดพลับ 40.หลวง พ่อเฟื่อง วัดสัมพันธวงศ์ 41.หลวงพ่อบัว วัดอรุณ 42. หลวงพ่อนาค วัดอรุณ 43.หลวงพ่อปลั่ง วัดคูยาง 44.หลวงพ่อชุ่ม วัดพระประโทน 45.หลวง พ่อสนิท วัดราษฎร์บูรณะ 46.หลวงพ่อเจิม วัดราษฎร์บูรณะ 47.หลวงพ่อสุข วัดราษฎร์บูรณะ 48.หลวงพ่ออาคม สุนทรมา วัดราษฎร์บูรณะ 49.หลวงพ่อดี วัดเทวสังฆาราม 50.หลวงพ่อประหยัด วัดสุทัศน์ 51.หลวงพ่อปลอด วัดหลวงสุวรรณ 52. หลวงพ่ออิ่ม วัดชัยพฤกษ์มาลา 53.หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก 54. หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน 55.หลวงพ่อครุฑ วัดท่อฬ่อ 56.หลวง พ่อกลีบ วัดตลิ่งชัน 57.หลวงพ่อทรัพย์ วัดสังฆราชาวาส 58.หลวงพ่อแม้น วัดเสาธงทอง 59.หลวงปู่รอด วัดวังน้ำว 60.หลวงพ่อสาย วัดพยัคฆาราม 61.หลวง พ่อเส็ง วัดประจันตาคาม 62.หลวงพ่อพิศ วัดฆะมัง 63.หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก 64.หลวงพ่อหมา วัดน้ำคือ 65. หลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยาง 66.หลวง ปู่เหมือน วัดโรงหีบ 67.หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว 68.หลวงพ่อฉาย วัดพนัญเชิง 69.หลวงพ่อปลื้ม วัดปากคลองมะขามเฒ่า 70.หลวงพ่อแนบ วัดระฆัง 71.หลวงพ่อเลียบ วัดเลา 72.หลวงพ่อพักตร์ วัดบึงทองหลาง 73.หลวง พ่อสอน วัดลาดหญ้า 74.หลวงปู่เผือก วัดโมรี 75.หลวงพ่อผิน วัดบวรนิเวศ 76. หลวงพ่อเจียง วัดเจริญธรรมาราม 77.หลวงพ่อทองอยู่ วัดประชาโฆษิตาราม 78.หลวงพ่อไวย์ วัดดาวดึงส์ 79.หลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้ว 80. หลวงพ่ออ่ำ วัดวงฆ้อง 8 81.หลวงปู่จันทร์ วัดคลองระนง 82.หลวง พ่ออ๋อย วัดไทร 83.หลวงพ่อศรี วัดพลับ 84.พระอาจารย์เชื้อ วัดพลับ 85. หลวงพ่อพริ้ง วัดบางประกอก 86.หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ 87.หลวงพ่อพริ้ง วัดราชนัดดา 88.หลวงพ่อขำ วัดตรีทศเทพ 89.หลวงพ่อหนู วัดปทุมวนาราม 90.หลวง พ่อทองคำ วัดปทุมคงคา 91.หลวงพ่อเจียง วัดเจริญสุธาราม 92.หลวงพ่อ กรอง วัดสว่างอารมณ์ 93.หลวงพ่อเนียม วัดเสาธงทอง 94.หลวงพ่อบุญ วัดอินทราราม 95.หลวงพ่อเปลี่ยน วัดบึง 96. หลวงพ่อฉ่ำ วัดท้องคุ้ง 97.หลวง พ่อพรหมสรรอด วัดบ้านไพร 98. หลวงปู่จันทร์ วัดโสมนัสวิหาร 99.หลวง พ่อโสม วัดราษฎร์บูรณะ 100. หลวงพ่อบุตร วัดบางปลากด 101.หลวงพ่อโต วัดบ้านกล้วย 102. หลวงพ่อทองอยู่ วัดบางหัวเสือ 103.หลวงพ่อวงศ์ วัดสระเกศ 104. พระอาจารย์พงษ์ วัดกำแพง 105.พระอธิการชัย วัดเปรมประชา 106. หลวงปู่รอด วัดเกริ่น 107.หลวงพ่อเที่ยง วัดบางหัวเสือ 108.หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ

    บูชา1,200 บาทพร้อมส่งด่วนเอกชน
    รับประกันพระแท้ เก๊คืนเต็ม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2022
  11. Mest

    Mest สมาชิกใหม่ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2021
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่ 10.พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ เอวเล็กกำไลข้อมือ หลังพระสีวลี ลพ.กวย วัดโฆษิตาราม ชัยนาท เนื้อผงน้ำมัน รุ่นบรรจุกรุ พ.ศ.2515
    มีขนาดสูง 3.75 x 2.50 ซ.ม.

    IMG_5826.JPG IMG_5827.JPG IMG_5828.JPG
    พระสมเด็จฐานสามชั้น หลังพระสิวลี เป็นพระที่หลวงพ่อสร้างเอง ผสมเนื้อ และกดพิมพ์ สร้างเมื่อ ประมาณ ปีพ.ศ. 2514 – 2515 กดพิมพ์เองที่วัดบ้านแค เป็นการกดแบบทำเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อน ได้จำนวนมากพอควร และหลวงพ่อเสกเองทั้งหมดพระทั้งหมด แตกกรุออกมาเมื่อปี พ.ศ. 2539 แต่ยังไม่เผยแพร่มากนัก เพราะพระไปตกอยู่ในมือ นักขุดกรุ ที่ให้เช่าเข้ารังใหญ่ทั้งหมด เพิ่งจะมีการนำพระออกจากรัง พระสมเด็จพิมพ์ ฐาน 3 ชั้น หลังเป็นพระสิวลี ซึ่งท่านลบ ถม ทำผง เอง และได้กดเป็นพระสมเด็จหลังพระสิวลีขึ้น พระพิมพ์นี้ ท่านปลุกเสกให้เป็นอย่างดี ยิ่งกว่านั้นยังมีผงพระสมเด็จของแท้ผสมด้วย และผ่านการปลุกเสกจากหลวงพ่อกวย หลายวาระด้วย กัน จึงมีพุทธคุณสูง สามารถแก้เวร ตัดกรรมได้ ผู้บูชาเจริญรุ่งเรือง และด้วยว่าด้านหลังแกะพิมพ์เป็นพระสิวลี ท่านจึงเสกเน้นหนักด้าน โชคลาภ โภคทรัพย์ ทำมาหากินขึ้นดี อีกด้วย อันจะเห็นได้จากผู้ที่เคยใช้พระรุ่นนี้มาก่อน วัสดุมวลสารคร่าวๆ ประกอบด้วย

    ผงพุทธคุณ
    ผงอิทธิเจ
    ผงปถมัง
    ผงมหาราช
    ผงตรีนิสิงเห
    ดอกไม้และว่านต่างๆที่เป็นมงคล
    ผงดวงแก้วพระสีวลีมีอิทธิคุณทางด้านโชคลาภ เปรียบเสมือนอาราธนา พระสีวลีมาบรรจุในกาย

    พระสภาพสวยสมบูรณ์ไม่หักซ่อม เส้นคม ลายเซี้ยนคมๆ เลี่ยมพลาสติกกันน้ำอย่างดี


    บูชา 1,300 บาทพร้อมส่งด่วนเอกชน
    รับประกันพระแท้ เก๊คืนเต็ม
     
  12. Mest

    Mest สมาชิกใหม่ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2021
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +0
    รายการที่ 11.พระสมเด็จทรงเม่น กรุวัดโพธิ์ บางปะอิน อยุธยา
    IMG_E8320.JPG IMG_E8321.JPG
    วัดเก่าสมัยปลายอโยธยา มาวันนี้พระกรุนี้ก็มีอายุเกือบสามร้อยปีแล้วครับ เท่าที่พบทั่วๆไปมีพิมพ์สมเด็จฯหูบายศรี(ถือเป็นพิมพ์ใหญ่)...พิมพ์ปิดตา...พิมพ์ทรงเม่น(ถือเป็นพิมพ์เล็ก เช่นองค์นี้)...พิมพ์เม็ดบัวรัศมี ส่วนมากเป็นเนื้อดินเผาตามแบบดินเก่าอยุธยา เนื้อค่อนข้างละเอียด มีแร่กรวดเล็กน้อย มีว่านดอกมะขาม และมีคราบดินกรุหนาแน่นเกือบทุกองค์

    .. พระเก่า มาตรฐานวงการยอมรับ มีรายการประกวดทุกงานครับ หมวดพระกรุเนื้อดินทั่วไป

    พระองค์นี้สภาพสมบูรณ์ไม่หักซ่อมไดๆเนื้อหาจัดจ้าน แท้ดูง่าย

    บูชา 900บาท พร้อมส่งจรวด
    รับประกันพระแท้ เก๊คืนเต็ม
     

แชร์หน้านี้

Loading...