พระคาถาพญานกยูงทอง..(โมรปริตร)

ในห้อง 'รวมบทสวดมนต์และคาถา' ตั้งกระทู้โดย ohm_chiangmai, 16 สิงหาคม 2010.

  1. ohm_chiangmai

    ohm_chiangmai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    193
    ค่าพลัง:
    +2,920
    พระคาถาพญานกยูงทอง เป็นพระคาถาที่พระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่นนิยมใช้ โดยเฉพาะผูกเป็นยันต์ในเหรียญที่ทำแจกของพระคณาจารย์สายนี้ เป็นต้นว่าพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ท่านได้ใช้หัวใจคาถาพญานกยูงทองมาจารึกไว้ที่ด้านหลังวัตถุมงคลของท่านแทบ ทุกรุ่น ทั้งนี้เพราะท่านถือว่า คาถาพญานกยูงทองมาจากบทสวดมนต์ที่เรียกว่า "โมรปริตร" อันมีอยู่ในบทสวดมนต์ 7 ตำนานอันเก่าแก่และเป็นหลักในการเจริญพระพุทธมนต์ตลอดมา

    พระคาถาหัวใจพญานกยูงทองมีอยู่ว่า "นะโมวิมุติตานัง นะโมวิมุตติยา"

    ส่วน พระคาถาโมรปริต ที่มีอยู่ในบทสวดมนต์ 7 ตำนานนั้น ผู้ใดได้เจริญโมรปริตรทุกเช้าค่ำจะปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงอันเกิดจากขาวก หนามเครื่องดักทั้หลาย และสรรพอันตรายอันรออยู่เบื้องหน้า เหมือนกับพญานกยูงทองที่เจริญพระคาถานี้ไว้แล้วสามารถมีชีวิตยืนยาวมาจนเผลอ สติถูกบ่วงนายพรานเพราะเสียงของนางนกต่อ ( ไม่ใช่นาง นกต่อธรรมดาซะด้วย เป็นนางนกยูงต่อ !!! ) แต่เมื่อถูกจับไปแล้วก็สามารถเอาตัวรอดได้ เพราะบารมีแห่งการเจริญพระคาถาโมรปริตรนี้เอง

    โมรปริตรนี้ ต้นฉบับบาลีและคำแปลคัดมาจากฉบับของกองนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ โดยคำอ่านไ้ด้ให้ท่านผู้รู้ได้ถอดออกมาเป็นคำอ่านง่ายๆเพื่อสะดวกในการ อ่านออกเสียง

    "ผู้ใดได้เจริญโมรปริตรทุกค่ำเช้าแล้วจะนิรันตราย ไม่ตายโหงด้วยอาการอันทุเรศต่างๆ ถึงซึ่งความสุขความเจริญทั้งปวง"

    พระคาถาโมรปริตร

    บทสวดในตอนเช้า...

    [ เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า นกยูงโพธิสัตว์จะกล่าวคำนมัสการว่า ...]

    อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส
    (พระอาทิตย์นี้ อุทัยขึ้นมา เป็นผู้ให้ดวงตาแก่โลกเป็นเจ้าใหญ่ในการให้แสงสว่าง สาดแสงสีทองส่องปฐพี)

    ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง
    (เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระอาทิตย์ ผู้สาดแสงสีทองส่องปฐพีนั้น)

    ตะยัชชะ คัตตา วิหะเร มุ ทิวะสัง
    (ข้าพเจ้า อันท่านคุ้มครองแล้วพึงอยู่เป็นสุขตลอดเวลากลางวันนี้)

    [ เมื่อนกยูงโพธิสัตว์กล่าวคาถาแรกไหว้พระอาทิตย์ที่ขึ้นในยามเช้าแล้ว จึงกล่าวคาถาบทที่2 นมัสการพระพุทธเจ้าในอดีต และพุทธคุณของพระองค์ดังนี้ ]

    "เย พราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม"
    (ท่านผู้ไม่มีบาป คืออดีตพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นผู้รู้จบในธรรมทังปวง)

    "เต เม นะโม"
    (ขอท่านผู้ไม่มีบาปเหล่านั้น จงได้รับความนอบน้อมของข้าพเจ้า)

    "เต จะมัง ปาละยันตุ"
    (ขอท่านผู้ไม่มีบาปเหล่านั้น โปรดรักษาข้าพเจ้าด้วยเถิด)

    "นะมัตกุ พุทธานัง"
    (ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย)

    "นะมัตกุ โพธิยา"
    (ขอความนอบน้อมของข้าพเจาจงมีแด่พระโพธิญาณ)

    "นะโม วิมุตตานัง"
    (ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่ท่านผู้บริสุทธิ์ถึงพร้อมด้วยการหลุดพ้นแล้วทั้งหลาย)

    "นะโม วิมุตติยา"
    (ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่วิมุตติธรรม คือธรรมอันเป็นทางหลุดพ้นทั้งหลาย)

    "อิมังโส ปะริตตัง กัตตะวา โมโร จะระติ เอสะนา"
    (นกยูงโพธิสัตว์นั้น เมื่อสวดพระโมรปริตรนี้แล้ว ก็ไปเที่ยวเสาะแสวงหาอาหาร)
     
  2. ohm_chiangmai

    ohm_chiangmai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    193
    ค่าพลัง:
    +2,920
    บทสวดในตอนค่ำ

    "อะเปตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะริสสะ วัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส"
    ( พระอาทิตย์นี้เป็นผู้ให้ดวงตาแก่โลก เป็นเจ้าใหญ่ในการให้แสงสว่าง สาดแสงสีทองส่องปฐพี กำลังอัสดง )

    "ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุรัตติง"
    ( เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระอาทิตย์ผู้สาดแสงสีทองส่องปฐพีนั้น ข้าพเจ้าอันท่านคุ้มครองแล้ว พึงอยู่เป็นสุขตลอดเวลากลางคืนวันนี้ )

    [ นกยูงกล่าวคาถาแรกไหว้พระอาทิตย์อัสดง จึงกล่าวคาถาที่ 2 นมัสการอดีตพุทธะและพุทธคุณ เช่นเดียวกับตอนเช้าดังต่อไปนี้ ]

    "เย พราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม"
    (ท่านผู้ไม่มีบาป คืออดีตพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นผู้รู้จบในธรรมทังปวง)

    "เต เม นะโม"
    (ขอท่านผู้ไม่มีบาปเหล่านั้น จงได้รับความนอบน้อมของข้าพเจ้า)

    "เต จะมัง ปาละยันตุ"
    (ขอท่านผู้ไม่มีบาปเหล่านั้น โปรดรักษาข้าพเจ้าด้วยเถิด)

    "นะมัตกุ พุทธานัง"
    (ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย)

    "นะมัตกุ โพธิยา"
    (ขอความนอบน้อมของข้าพเจาจงมีแด่พระโพธิญาณ)

    "นะโมวิมุตตานัง"
    (ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่ท่านผู้บริสุทธิ์ถึงพร้อมด้วยการหลุดพ้นแล้วทั้งหลาย)

    "นะโม วิมุตติยา"
    (ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่วิมุตติธรรม คือธรรมอันเป็นทางหลุดพ้นทั้งหลาย)

    "อิมังโส ปะริตตัง กัตตะวา โมโร วาสะมะ กัปปะยีติ"
    (นกยูงโพธิสัตว์นั้น เมื่อสวดพระโมรปริตรนี้แล้ว จึงพักผ่อนหลับนอน)

    การสวดพระโมรปริตรนี้นั้น เมื่อคื่นนอนชำระล้างร่างกายแล้ว ก่อนออกจากบ้านสวดพระคาถาโมรปริตรท่อนเช้าหนึ่งจบ

    ครั้นเมื่อเย็นกลับมาถึงบ้าน อาบนำ้ชำระร่างกายกินอาหารแล้วจึงสวดโมรปริตรท่อนค่ำอีกหนึ่งจบจึงเข้านอน


    ทำได้เช่นนี้ จะแคล้วคลาดจากภัยทั้งหลาย ไม่ตายโหงด้วยอาการสยดสยอง
     
  3. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,623
    ผมสวดพร้อมกันทั้งสองบทพร้อมกันเลยครับ อนุโมทนาด้วยครับ
     
  4. jee4

    jee4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +848
    ขอบคุณครับ ผมชอบสวดบทนี้ครับ
    แต่ผมพึ่งทราบว่า มีบทภาวนาตอนเช้า และ เย็น
    ที่ผ่านมาผมสวดบทภาวนาตอนเช้ามาสวดก่อนนอนตลอดเลย
    ตอนนี้จะได้สวดถูกต้องซะที

    พึ่งทราบครับว่า พระคาถาพญานกยูงทอง เป็นพระคาถาที่พระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น
    มิน่าผมสวดภาวนาอยู่บ่อยๆ พอเห็นรูปพระอาจารย์มั่น ขนลุกขนพองตลอดเย็นๆเหมือน
    ถูกรดน้ำมนต์ครับ....เป็นเกือบจะแทบทุกครั้งเลย...

    ขอกราบอนุโมทนาบุญผู้ที่สวดภาวนา พระคาถาพญานกยูงทอง ทุกๆบุญครับ....
    :cool::cool::cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...