พระที่มาบิณ นี่เค้าต้องเสร็จกี่โมงครับ ตามหลัก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Nirvana1985, 11 กันยายน 2010.

  1. Nirvana1985

    Nirvana1985 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +64
    คือ ผมไปพบ พระสองรูป ยืนรับบิณ อยู่แถว อารี

    ด้านตรงข้าม มีร้านขายของให้คนมาซื้อ จัดใส่พานอย่างดี

    จนสองโมงก่า ก็ยังยืนรับนิ่ง อย่างนั้น

    มันผิดมั้ยครับ

    หากินกันนี่ครับ เดินผ่านเจอทุกวัน

    มันผิดกฏของพระมั้ยครับ เลวจัดครับ หากินกะศาสนา ไว้จะถ่ายภาพมาลงให้
     
  2. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,580
    บางทีท่านอาจจะถูกรับนิมนต์จากญาติโยมทุกวันในเวลา 8.00 ก็ได้นะครับ
    อย่าไปยุ่งกับท่านเลยครับ เชื่อผมเหอะ
     
  3. Nirvana1985

    Nirvana1985 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +64
    ยังไงกะภาพที่เห็นยังไงก็ไม่เหมาะสมสุด ๆ ทำแบบนี้ได้ไง
    แม้แต่พระเองถ้าเป็นพระจริง ก็ไใม่ควรบิณ ในที่แบบนี้
    มันดูน่าเกลียดที่สุด ยืนรับบิณ ตรงข้าม มีร้านเล็ก ๆ ตั้ง จัดพานอาหารอย่างดี
    อาหารก็ไม่รู้วนมากี่รอบ
    คนตามพระก็ขี้เมาแถวนั้น อนาจจิต
    เห็นทีไรอารมณ์ขึ้นทุกที
     
  4. ChainQLel2

    ChainQLel2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +618
    แล้วหลายอีกรูป ที่เห็นตามห้างพันทิพย์ มาบุญครอง ในมือถือ Blackberry เดินไปแชทไปด้วยหล่ะครับ อารมณ์ขึ้นกว่าอีกนะครับ
     
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    รับอย่างไรนั้นไม่ทราบ....แต่ที่ทราบ หลังเที่ยวไปฉันไม่ได้....เท่านั้นเอง.....

    เราไม่ได้ไปตักก็อย่าเอาใจไปวางไว้ครับ.....เพราะท่านอาจไม่เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้.....

    คนตักเขาได้บุญ....คนไม่ตักได้บาปแทน....เพราะไปปรามาสพระสงฆ์ท่านเข้า.....

    ถ้าท่านผิดวินัยจริง....ก็ไปร้องต่อเจ้าคณะเขตนั้นๆเลยครับ....จำวัดไว้.....แต่ถ้าท่านไม่ผิด....อย่าเข้าไปยุ่งดีกว่า.....
     
  6. คนนะ

    คนนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +221
    ชั่วชั่งชี ดีชั่งสงฆ์ เป็นคนดีที่อุเบกขา คนปฏิบัติการศาสนาส่วนมากก็คิดกันแบบนี้ พวกวัชพืชสังคม(อลัชชี)ถึงได้ใจ

    รักษาบ้านเรือน ภาชนะอาหาร มันก็ต้องหมั่นชำระตรวจสอบว่าสกปรกมั้ย ถ้าสกปรกก็ต้องเอาออก
    หรือเหมือนจิตใจเรา อกุศลมันมีมาก หมักดองมากก็ต้องชำระเอาออก ถ้าคนปฏิบัิติธรรมได้จริงๆแล้ว ก็จะเห็นการชำระเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งภายในภายนอกศาสนา ศาสนาคือคน คนคือเขา เขาคือเรา โย่งไปถึงสังคมโน่น....

    อย่างเช่นสีจีวรพระ พากันใส่สีส้มแสด เหลืองกันเต็มไปหมด ทั้งๆที่พระวินัยพระพุทธเจ้าทรงห้าม แต่ก็ถวาย ครองจีวรผิดกันไป อันที่จริงสีจีวรพระพุทธเจ้าให้ใช้สีที่เกิดจากไม้เป็นสำคัญ เมื่อได้สีสวยมาก็ต้องทำให้เสียสี...แต่สีที่เหมาะควรจะเป็นสีของมะลิแห้งเพราะระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธมารดาในอดีตที่เคยเป็นแม่ของพระพุทธเจ้าหลายๆองค์ แม้แต่หลวงปู่มั่นเองไม่เคยรู้ว่าสีใหนเหมาะ พอเข้าฌานตรวจดูก็รู้ได้ว่าควรเป็นสีนี้ ถึงเหมาะกับภิกษุ

    ทุกวันนี้สังคมมนุษย์ สังคมสงฆ์ รวมหัวกันฆ่าพระธรรมวินัย พากันบิดเบื้อนป้องกันความไม่ถูกต้อง ผู้ใดเอื้อเฟื้อก็ดี ทำเองก็ดี เพื่อทำลายพระธรรมวินัยที่บัญญัติไว้ดีแล้ว เหมือนนำเอาพระพุทธรูปมาตัดเศียรทีละองค์ๆ นี้เป็นต้น

    คนสมัยนี้เหยียบมดไม่ตาย เหยียบควายขาหัก คือ รักษาเรื่องเล็กๆน้อยๆบังหน้าเอาหน้า แต่เรื่องใหญ่ๆทำลายกันพังหมด เช่น พระสงฆ์ นุ่งห่มเรียบร้อยดูดีสะอาด แต่มีลูกเมียลับๆ ญาติโยมไม่เคยรู้เรื่องกันเลยถึงรู้ก็เฉยๆไว้เดี่ยวจะเสียผลประโยชน์ สังฆาทิเสส-ปราชิกท่วมตัวไปหมดเป็นต้น พระศาสนาจะเจริญได้อย่างไร

    พระศาสนาจะอยู่ได้ ไม่ได้ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของพุทธบริษัท4

    ถึงอย่างนี้พวกที่ไม่ชอบศาสนาพุทธถึงได้เข้าเจาะเลือดสังคมไทยอยู่ในตอนนี้....
     
  7. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +9,768
    คุณภานุเดช สรุปได้ดี

    ขอย้ำ

    คนใส่บาตรได้บุญ
    คนดูหากอนุโมทนา ก็ได้บุญ

    หากปรามาสสงฆ์ อาจพลาดพลั้ง ปิดมรรค ลงอบาย

    พระหากผิดวินัยจริง ตนเท่านั้นที่รู้ และรับไป
    โยมไม่เกี่ยว

    การวางจิตเป็น กุศล หรืออุเบกขา ดีที่สุด
    เพ่งโทษตัวเราดีกว่า
     
  8. คนนะ

    คนนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +221
    อกุศลดำรงอยู่ กุศลก็หาตั้งอยู่ได้ไม่
    กุศลดำรงอยู่ อกุศลก็หาตั้งอยู่ได้ไม่
    เป็นกฏตายตัว
    อนุโมทนา ที่บงบอกถึงสถานะตัวของคุณว่าเป็นนักปฏิับัติจนชัดเจนในพระศาสนาเป็นอย่างยิ่ง
     
  9. tony2002

    tony2002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2006
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +178
    ตามหลักวินัยสงฆ์และสังคหะ ภิกษุจะออกบิณฑบาตรได้ก็เมื่อยามฟ้าสางสามารถมองเห็นลายเส้นบนใบใม้แล้วภิกษุจึงจะออกจากวัดได้(หากยังมองไม่เห็นลายบนใบไม้ให้ถือว่ายังเป็นยามวิกาลอยู่) และเมื่อรับบิณฑบาตรก็ให้รับได้เพียงที่จำเป็นในการดำรงชีพในหนึ่งวันเท่านั้น สรุปก็คือเพียงเต็มบาตรก็กลับเข้าวัดได้แล้ว หากยังมีญาติโยมยังต้องการใส่บาตรอีกก็ให้ตักบาตรแก่ภิกษุรูปอื่นที่อาหารยังไม่เต็มบาตรแทนครับ
     
  10. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    เท่าที่อ่านน่าจะเป็นคนเอาจีวรพระมานุ่งครับ แล้วไปยืนหารายได้ ดีๆไม่ดีเอาข้าวแกงที่อยู่ในบาตรไปให้แม่ค้ามาขายใส่บาตรอีกที พวกนี้เคยออกรายการทีวีนานมาแล้วครับ น่าจะเป็นแก๊งค์ใส่ผ้าเหลืองหากิน คงไม่ใช่พระจริงหรอก
     
  11. Tom_Om

    Tom_Om เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +411
    อย่าไปยุ่งกับท่านเลยค่ะ ใครทำอย่างไรก็ได้อย่างที่กระทำ อนุโมทนา
     
  12. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    การบิณฑบาตร ของพระอยู่ในหลักของสัมมาอาชีวะ คือการเลี้ยงชีพชอบ เวลาไปอย่าไปอย่า่งโจร เช่น
    ไปในที่มืด คนมองแล้วไม่รู้ว่าเป็นพระเป็นต้น ง่ายๆก็คือออกได้เมื่อฟ้าสาง

    ไม่ได้ระบุเวลา(เฉพาะกาล)ในการบิณฑบาตร แต่พระฉันอาหารไม่เกินเที่ยงและรับอาหารไว้เพียงครั้งเดียวต่อวัน หมายความว่า ต่อการจาริกบิณฑบาตร 1 ครั้งต่อวันและต้องประมาณในบาตร(เฉพาะกาล)


    ทางที่ดีที่สุดเราต้องทำใจให้ตั้งอยู่ในอุเบกขา อย่าไปสงสัยจะทำให้ใจเป็นทุกข์เสียเปล่า
    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2010
  13. Dungdin

    Dungdin สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +7
    อุเบกขากันทุกคนเลยยย... เห็นพระทำผิด แล้วคุณคิด เป็นกุศลได้หรือ อย่าอินมาก...

    คิดตามความเป็นจริง

    ลืมแล้วหรือ มันเป็นหน้าที่ของเราชาวพุทธทุกคนที่จะต้อง ดูแลพุทธศาสนา...

    เรื่องเล็กๆน้อยๆนี่แหละที่นำไปสู่เรื่องใหญ่ กลัวอะไรกันหนักหนา ปรามาส ๆ ๆ

    หุ่มผ้าเหลืองใช่ว่าจะเป็นพระทุกองค์ ....อยู่ที่ใจ .....

    ...ถ้าพูดไม่ถูกใจ ไคร คุณก็ควรอุเบกขาใว้...
     
  14. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    หน้าที่ของชาวพุทธ ทั้งพระและฆารวาส

    1.การไม่ทำบาปทั้งปวง
    2.ทำกุศลให้ถึงพร้อม
    3.ทำจิตให้ผ่องใส

    การสำรวมทั้งกาย วาจา ใจ

    ทุกวงการคนดีก็มีคนไม่ดีก็มี

    ถ้าตำรวจทำผิดยังเป็นตำรวจไหม ถ้าโจรช่วยคนตกทุกข์ได้ยากยังเป็นโจรไหม

    ถ้าตำรวจที่ไม่ดีมาจับคุณเขาจับได้ไหม ถ้าโจรมีคุณธรรมมาปล้นคุณเขาเป็นโจรไหม

    ไม่มีใครควบคุมคนทั้งหมดได้หรอก ขนาดเทศกาลบั้งไฟขึ้นป้ายห้ามเล่นการพนัน เขายังเปิดโต๊ะรับแทงใต้ป้ายนั้นเลย

    ดีชั่วมีทุกที่.........ลองถามตัวเองซิว่าแล้วเราดีพอหรือยัง

    เชื่อพระพุทธเจ้าเถอะใครทำกรรมอันใดไว้ย่อมได้รับผลของกรรมนั้นสืบไป อย่าเอาตัวเราไปแฝงกับกรรมเหล่านั้นเลย
     
  15. userx

    userx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2007
    โพสต์:
    634
    ค่าพลัง:
    +1,061
    ก็มีส่วนถูก ถ้ามีคนคิดเหมือนคุณทั้งโลก ศาสนาพุทธคงไม่เสื่อมหรอก อนุโมทนา อย่ากลัวการทำดี
     
  16. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    สงฆ์ใดจิตไม่บริสุทธิ์ผิดศีลเพียงข้อเดียวถือว่าไม่ใช่สงฆ์ อันนี้ชัดเจนมาแต่โบราณกาล มิใช่ผิดแล้วปลงอาบัติถ่ายเดียว
    พระสงฆ์ที่ทำแบบที่จข.กระทู้ว่ามีมากค่ะ เคยเห็นรับบาตรแล้วขายต่อร้านที่ขายของใส่บาตรนั่นแหละ พระพวกนี้จะประจำอยู่ร้านที่รู้ๆกัน โดยเฉพาะตามตลาด เห็นแล้วก็สังเวช

    การออกบิณฑบาตร จุดประสงค์เพื่อการโปรดสรรพชีวิต ออกบิณฑ์ได้ข้าวเหนียวมาสองก้อนหรือไม่ได้อะไรเลยมิสำคัญ ข้าวปลาอาหารที่ชาวบ้านถวายให้ด้วยศรัทธาก็อนุโมทนาในจิตกุศลนั้นให้พรกันไป มีอีกกรณีคือพระบางรูปที่รอได้อาหารมาก ท่านมีเจตนาดีเอาไปแบ่งปันผู้ยากไร้ในชุมชนหรือที่มาขอที่วัดก็มี อันนี้อนุโมทนาค่ะ

    ในชีวิตเคยใส่บาตรพระรูปเดียวที่รู้สึกศรัทธาที่สุด มาถึงตอนนี้ยังไม่แน่ใจค่ะว่าท่านเป็นมนุษย์รึปล่าว เคยได้ยินว่าพระที่สำเร็จเป็นทิพย์แล้ววันดีคืนดีจะออกบิณฑบาตรโปรดสัตว์
    ผ่านมาหลายปีแล้ว พระรูปนี้เป็นพระที่ไม่เคยพบมาก่อนในละแวกบ้าน ท่านห่มจีวรสีคร่ำแบบพระป่า ทั้งที่พระแถวบ้านจะห่มสีส้มกันหมด ท่านสงบและเมตตามาก ท่านเดินโปรดสัตว์ไปเรื่อยๆ ถ้าไม่เรียกนิมนต์ท่านไม่หยุด หลังใส่บาตรท่านนิ่งอธิษฐานจิต ไม่มีคำสวดใดๆให้ได้ยินก่อนเดินจากไปอย่างสงบเช่นเดิม ดิฉันมองท่านจนลับตา และไม่เห็นใครใส่บาตรท่านอีก เหมือนดิฉันเป็นคนเดียวในวันนั้น ตอนที่ใส่ในบาตรท่านว่างเปล่า ไม่มีอาหาร ย่ามสะพายไม่มี เด็กวัดลูกศิษย์สักคนเดินตามก็ไม่มี ตั้งแต่วันนั้นดิฉันไม่ได้พบท่านอีกเลย ถามคนแถวบ้านที่ใส่บาตรบ่อยๆก็ไม่มีใครเคยเจอท่าน

    ส่วนพระที่ไม่ใช่พระหรือพระปลอมอ่านตรงนี้ค่ะ.....เย็นวันหนึ่งตอนดิฉันกลับจากที่ทำงาน ขณะรถผ่านปากซอยออกมา มีสุนัขตัวหนึ่งเดินข้ามถนนตัดหน้ารถไป เป็นสุนัขสีเทาออกดำผอมโซเป็นเรื้อน ขนหลุดรุ่ยทั้งตัว วิ่งไปวิ่งมาหาอาหาร จิตนึกว่าทำไมมันถึงได้เยินแย่ขนาดนั้น ไปทำอะไรมานะ แล้วจิตบังเกิดเห็นภาพชาติที่แล้วของสุนัขตัวนั้น เป็นหลวงตาแก่ๆใส่แว่นรูปหนึ่ง พร้อมคำตอบว่า "พระปลอม พวกปลอมเป็นพระเรี่ยไรชาวบ้าน" ดิฉันขนลุกเลย พวกแอบอ้างห่มจีวรหากินทั้งหลายจะรู้หรือปล่าวถึงบาปกรรมที่ทำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2010
  17. wara99

    wara99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +892
    จขกท. กระทู้ของคุณมีคนตอบตรงประเด็นหรือยัง ....... แต่ผมดูเนื้อความกับตัวกระทู้ มันก็คนละเรื่อง

    ถ้าตรงประเด็น พระธรรมยุต ในเมือง บิณเช้า ฉันเวลาใดก็ได้ตามแต่จะตกลงกันในคณะ แต่ก่อนตะวันตรงศรีษะ

    และฉันครั้งเดียว ถ้าลุกจากที่แล้ววันนั้นจะไม่ฉันอีก เรียกว่าฉันในอาสนะเดียว ยกเว้นน้ำเปล่า หรือภิกษุไข้

    พระธรรมยุต ในป่า เดินบิณได้ และฉันได้ตั้งแต่ ที่มีแสงตะวันแล้ว เห็นลายเส้นบนฝ่ามือ จนถึงพระอาทิตย์ตรงศรีษะ แต่ก็อาสนะเดียว

    พระมหานิกาย ที่เคยเห็นและเคยอยู่ ฉัน ๒ ครั้ง คือ ๘ โมง และ ๑๑ โมง บางองค์ก็ฉันตั้งแต่เช้า

    กลับไปกุฏิ ฉันอีก ๑๑ โมงก็มาฉันกับคณะอีก กลับกุฏิก็บอกว่าก๋วยเตี๋ยวที่โยมถวาย ไม่อร่อย ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

    ถึงแม้ได้เห็นกับตา ได้ยินกับหู นี้หละครับคุณภาพคน เพิ่งมาเล่านี่หละ


    แถมท้าย ญาติธรรมท่านนึงขับรถจากกรุงเทพจะขึ้นเหนือ ตั้งใจเต็มที่ว่าจะใส่บาตรพระ ฝนตกตลอดทาง ๙ โมงเข้าเพิ่งซื้อของใส่บาตรได้

    ขับรถต่อไปฝนก็ตก แต่ก็มีความตั้งใจแน่วแน่ว่าต้องใสบาตรให้ได้ ไปไกลมากแล้วก็ไม่พบสักองค์ พอฝนเริ่มเบา

    เห็นพระเดินสวนทางมา ๑ องค์ ดีใจมากจอดรถ นิมนต์ท่านแล้วใส่บาตร แต่ก็ไม่วายสังเกตุ ทำไม่จีวรท่านไม่เปียก ทั้งๆทางที่เดินมา

    ไม่มีที่พักหลบฝน ใส่บาตรเสร็จ ขึ้นรถ มองกระจกรถ สองครั้ง ครั้งที่สอง ไม่ไกลนักไม่เห็นท่านแล้ว เลยมาบอกพี่ชาย

    พี่ชายท่านเลยดูให้ ยืนยันว่าเป็นหลวงปู่กบ วัดเขาสาริกา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2010
  18. รวียากร

    รวียากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    342
    ค่าพลัง:
    +1,309
    กรรมเป็นของผู้กระทำ อย่าไปยุ่งเลย มันบาป อย่าไปคิดไม่ดีมันบาปกับตัวเรา

    กรรมเ็ป้นของผู้กระทำ
     
  19. talkjoss

    talkjoss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2010
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +2,252
    " เหตุต้น ผลกรรม " ... (^_^)
     
  20. pvatt

    pvatt Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +52
    อย่าไปยุ่งกับท่านเลย เป็นการบอกแบบไร้ความรับผิดชอบ ทำให้มีการทำผิดไปเรื่อยๆ ควรประณาม และไม่เคารพพระรูปนั้น การบิณฯ ที่ถูกต้อง ไม่ควรยืนบิณฯที่หนึ่งที่ใดนานๆ เรียกว่า อาบัติ ได้ พระครูดังๆ เคยพูดเรือ่งนี้ไว้หลายท่านแล้ว ถ้าลองสืบๆดูจะรู้ว่า พระเหล่านั้นที่ยืนกยู่ จะเป็นญษติๆ กันทั้งนั้นละ กับร้านเหล่านั้น ที่เราไปใหว้ ถือว่าเราได้บุญด้วยนามธรรม แต่รูปธรรมนั้นไม่ได้ ไปไม่ถึง เพระพระเหล่านั้น อาบัตไปแล้ว

    จงเลิกนับถือ และบอกต่อไปเรือ่ยๆ ให้เลิกนับถือผิดๆกับพระเหล่านั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...