พระธรรมปิฎกพุทธทำนาย ถึง พระศรีอาริยเมตตรัยที่มาโปรดโลกมนุษย์ (บาปของมนุษย์)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Premsuda (May), 10 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. Premsuda (May)

    Premsuda (May) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +646
    ขอเล่าเรื่องราวโดยตัดบางตอนมาจาก "พระธรรมปิฎกพุทธทำนายถึงพระศรีอาริยเมตตรัยที่มาโปรดโลกมนุษย์"
    (ซึ่งคัดลอกมาจากวัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ พระศรีสุทธิวงศ์ กรุงเทพฯรับรองว่าถูกต้อง เอกสารนี้ออกให้ในวันตำรวจ
    วันที่ 13 ตุลาคม พศ. 2497)


    [​IMG]

    ข้อความบางตอนกล่าวว่า....

    เมื่อพระพุทธเจ้า เดินเที่ยวสัญจรเป็นตัวเป็นตนอยู่ในโลกนี้ มีพราหมณ์เฒ่าองค์หนึ่งนุ่งขาวห่มขาวเข้ามาทูลถามพระพุทธเจ้าว่า
    "มนุษย์และพราหมณ์ทั้งหลายจะจำศีลกินทานไปอย่างไรจึงจะรอดพ้นจากบาปได้?"


    พระพุทธเจ้าตรัสว่า "มาศแม้นว่าท่านทั้งหลายจะให้ทานทอดกฐิน ถือศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ศีล 227 เก้าล้านเก้าพันโกฏิ
    ยกมือไหว้บูชาถวายตัวเป็นเครื่องบูชา หรือภาวนาวันละ 5 ครั้ง ก็ไม่อาจจะรอดพ้นได้ ทำอย่างนี้ทุกวันก็จะได้บุญกุศล
    เพียงเท่าเส้นผมเด็กอ่อนที่อยู่ในท้องแม่ 8 อสงไข จะเข้าประตูเมืองสวรรค์ก็ยังมิได้เลย"


    [​IMG]

    พราหมณ์เฒ่าองค์นั้นจึงถามต่อไปว่า "ถ้าอย่างนั้นข้าทั้งหลายจะทำอย่างไรจึงจะพ้นและรอดได้?"

    พระพุทธเจ้าจึงตรัสกับพราหมณ์เฒ่านั้นว่า "บาปกรรมของมนุษย์นั้นมากหนักหนา หนักกว่าฟ้า หนากว่าแผ่นดิน
    สูงกว่าหินสีมาฝัง 4 เหลี่ยม 1 ศอกทุกด้าน ปีไหนเทวดาเอาผ้ามาปัด 1 ที หินนั้นหมดเมื่อไหร่ บาปของมนุษย์จะหมดเมื่อนั้น"


    พระพุทธเจ้าทรงเทศนาต่อไปอีกว่า "ตัวเราเองได้สละสมบัติ ตัดสละกิเลส มาทรงเพศเป็นชี ถือว่าตนดีไม่น้อย
    ได้ 8 อสงไขปีปลาย แถมอีกแสนมหากัปล์ นับได้ตัดสละได้ 10 ชาติ ก็ไม่อาจรอดพ้นสักคราวฯท่านทั้งหลายเอ๋ย"


    [​IMG]

    พราหมณ์เฒ่าองค์นั้นก็ทูลถามต่อไปอีกว่า "ดังนั้นจะให้ข้าทั้งหลายทำอย่างไร?"

    พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า "ให้ท่านทั้งหลายแสวงหาพระอีกองค์หนึ่งที่จะมาโปรดโลก ช่วยท่านทั้งหลายภายหน้า
    ชื่อว่าพระศรีอริยเมตตรัย"


    [​IMG]

    แล้วพราหมณ์เฒ่าองค์นั้นทูลถามว่า "พระศรีอริยเมตตรัยที่จะมาโปรดโลกภายหน้านั้นมีบุคลิกลักษณะอย่างไรพระองค์ท่าน?'

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า "พระศรีอริยเมตตรัยที่จะมาโปรดโลกภายหน้านั้น ที่อุ้งมืออุ้งเท้าเป็นกงจักรกลม ที่สีข้างมีรอยถูกแทงเป็นแผล
    หน้าผากเต็มไปด้วยรอยตำหนิ พระองค์นั่นแหละจะพาท่านทั้งหลายไต่ข้ามวัฏสงสารไปจนถึงสวรรค์นิพพานจึงพบหน้พระแก้ว3 ประการ
    ตามประสงค์

    หาตามทางเก่าท่านไม่พ้นแน่ ให้ท่านเลิกทางเก่าเสีย และจะมีดวงวิญญาณดวงใหม่ ดวงหนึ่งเท่าแสงหิ่งห้อยลงมาจากชั้นฟ้าเบื้องบน
    ลงมาสถิตอยู่ในใจของท่านทั้งหลาย แล้วท่านทั้งหลายจะมีชัยชนะต่อศัตรูทั้ง 4 ทิศ 8 ทิศ ใครจะปองร้ายท่านไม่ได้
    ถ้าตายแล้วจะไม่ได้กลับมาในโลกนี้อีกต่อไป (คือสวรรค์นิพพาน)"


    [​IMG]


    ที่มา
    Goldhips Board :: ��ҹ - �д���ͧ & �š����¹������..." The Gold War "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2010
  2. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    [​IMG]
    กัลกิยาวตาร (กัลกิ+อวตาร=อวตารลงมาเกิดเป็นกัลกิ)

    ถ้าใครเคยอ่าน เทวนิยาย ของ ส.พลายน้อย หรือเก่ากว่านั้นก็คือ เทวกำเนิด ของพระยาสัจจาภิรมย์ฯ (สรวง ศรีเพ็ญ) ก็คงจะพบเนื้อหาว่าด้วยการกลับชาติมาเกิดของพระนารายณ์ ทั้งสิบปาง (สิบครั้ง) และในปางสุดท้าย พระนารายณ์ จะอวตารลงมาบังเกิดเป็น....



    ในศาสนาฮินดูโบราณ กัลกี (กัลก, กลฺกิ; कल्कि) คือมหาอวตารที่ 10 และเป็นมหาอวตารสุดท้ายของพระวิษณุเทพ (พระนารายณ์) ผู้คุ้มครองโลก กัลกีมาสู่โลกระหว่างการสิ้นสุดของกลียุค ชื่อ "กัลกิ" เป็นการอุปมาความเป็นนิรันดรและเวลา ต้นกำเนิดของชื่อนี้อาจจะมาจากคำว่า "กัลกะ" ซึ่งหมายถึง สิ่งสกปรก หรือ สิ่งโสโครก หรือ ความคดโกง ดังนั้น "กัลกิ" จึงหมายถึง ผู้ทำลายความคดโกง, ผู้ทำลายความเขลา, ผู้ทำลายความสับสนวุ่นวาย หรือ ผู้ทำลายความมืดมน ที่มา www.th.wikipedia.org/wiki/กัลกี




    พระวิษณุอวตาร ในปางนี้ ทรงเป็นมหาบุรุษขี่ม้าขาวถือดาบในมือขวาทำลายศัตรูของมนุษย์เพื่อปราบกลียุค ที่เต็มไปด้วยเหล่าคนชั่วหรือเหล่าอธรรมทั้งหลาย เมื่อปราบอธรรมแล้วก็จะสถาปนาศาสนาขึ้นใหม่ มหาบุรุษนี้จะมีนามว่า กัลก, กัลกี, หรือ กัลกิน เป็นบุตรของพราหมณ์ชื่อวิษณุยศ อวตารนี้เป็นอนาคตาวตาร (อนาคต+อวตาร) คือ เป็นการอวตารของพระวิษณุยังไม่เกิดขึ้น และหลังจากอวตารแล้ว กลียุคก็ จะสิ้นสุดลง ที่มา http://www.buddhakun.com/index.php?topic=278.0

    กัลกิยาวตาร ทางพุทธว่า จะมีพระศรีอารย์ จีนเรียกไมไล ญี่ปุ่นเรียกไรโรกุ ทางคริสต์ว่าจะมีเมตสิอาร์ ทางอิสลามว่าจะมีมหดี มาโปรดให้โลกเป็นสุขในอนาคต ลักษณะเดียวกับ กัลปกี ของ พราหมณ์ ใครจะเอาอย่างใคร? ที่มา http://www.navy.mi.th/royal/kanchana/narayan.htm#f2



    จริงๆ ถ้าจะพิจารณาในเชิงจิตวิทยา ก็คงจะพิจารณาอย่างหยาบๆ ได้ว่า มนุษย์ในอดีต และปัจจุบัน คงไม่มีความสุขอยู่กับปัจจุบันขณะ จึงได้ สร้าง Hero (วีรบุรุษ) และ Utopia (นครในฝัน) ขึ้นมา และคาดหวังว่าในอนาคต พวกเขาจะได้พบและได้เจอ วีรบุรุษ และนครในฝัน (เช่นยุคพระศรีอาริย์)

    จริงๆ แล้ว ผู้ทำลายความคดโกง, ผู้ทำลายความเขลา, ผู้ทำลายความสับสนวุ่นวาย หรือ ผู้ทำลายความมืดมน (กัลกิ ผู้อวตาร) เป็นสภาวะทาง จิต มนุษย์ ล้วนๆ กัลกิ เป็นแต่เพียง บุคลาธิษฐาน (Personification) ที่แสดงสภาวจิต ที่หลุดพ้นจาก ความเขลา ความสับสน ความคดโกง ความมืดมน (หรือก็คือสภาวะนิพพานนั่นเอง) ดังนั้น มนุษย์อย่างเราๆ ก็ไม่ต้องรอให้ กัลกิ ลงมาโปรด ในโลกอนาคต แท้ที่จริงแล้ว กัลกิ ก็สามารถอวตารลงมาเกิดได้ ในโลกปัจจุบัน ณ สภาวจิตปัจจุบัน ของเรา นี่เอง

    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="50%">[SIZE=-1]กวินทรากร[/SIZE]
    [SIZE=-1]Create Date : 25 ตุลาคม 2552[/SIZE]

    </TD></TR><TR><TD width="50%">[SIZE=-1]Last Update : 25 ตุลาคม 2552 18:51:52 น[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE></B>



    กลียุค

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


    ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    <!-- start content -->[​IMG]
    กลียุค (อักษรเทวนาครี: कली युग) คือหนึ่งในช่วงเวลาในสี่ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งอธิบายไว้ในคัมภีร์ฮินดู โดยมียุคอื่นอีกได้แก่ สัตยยุค เตรตายุค และทวาปรยุค ซึ่งทั้ง 4 ยุครวมกันเรียกว่ามหายุค กลียุคมีอายุ 432,000 ปี การตีความคัมภีร์ฮินดูว่าปัจจุบันนี้โลกอยู่ในกลียุคมีคนเชื่อมากที่สุด การตีความคัมภีร์ฮินดูแบบอื่นๆ เชื่อว่าโลกอยู่ในช่วงเริ่มทวาปรยุค โดยทั่วไปแล้วกลียุคก็คือยุคมืดเพราะผู้คนห่างเหินจากพระเจ้าอย่างถึงที่สุด ตามคติของศาสนาพราหมณ์ เมื่อโลกมาถึงกลียุค เชื่อกันว่าพระศิวะ หรือพระอิศวร จะทรงเปิดพระเนตรดวงที่อยู่กลางหน้าผากขึ้น และโลกจะถูกทำลาย เพื่อคืนสมดุลของโลกให้เกิดการสร้างโลกขึ้นใหม่

    ลักษณะของกลียุค
    ผู้ปกครอง

    ในกลียุคผู้ปกครองบ้านเมืองจะเป็นผู้เหลวไหลไม่มีเหตุผล และจัดเก็บภาษีอย่างไม่เป็นธรรม ผู้ปกครองจะไม่เห็นว่าการส่งเสริมทางด้านจิตวิญญาณเป็นหน้าที่อีกต่อไป ผู้ปกครองจะทำตัวเป็นอันตรายต่อโลก ผู้คนจะเริ่มค้นหาและอพยพไปยังประเทศที่มีข้าวสาลีและข้าวบาเลย์เป็นอาหารหลัก
    ความสัมพันธ์ของผู้คน

    ความโลภและความโกรธแค้นจะกลายเป็นเรื่องธรรมดา ผู้คนจะแสดงความเกลียดชังไปต่อผู้อื่นอย่างเปิดเผย
    สภาพอากาศและธรรมชาติ

    เมื่อดอกไม้ออกในดอกไม้ ผลไม้ออกในผลไม้ เมื่อนั้นกลียุคมาถึงกาลอวสาน และเมื่อเมฆเทฝนลงมาอย่างไม่มีฤดูกาล เมื่อนั้นจุดจบของกลียุคมาใกล้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 กุมภาพันธ์ 2010
  3. Leonidas 1

    Leonidas 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2007
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +188
    พระพุทธเจ้าทรงเทศนาต่อไปอีกว่า "ตัวเราเองได้สละสมบัติ ตัดสละกิเลส มาทรงเพศเป็นชี ถือว่าตนดีไม่น้อย
    ได้ 8 อสงไขปีปลาย แถมอีกแสนมหากัปล์ นับได้ตัดสละได้ 10 ชาติ ก็ไม่อาจรอดพ้นสักคราวฯท่านทั้งหลายเอ๋ย


    พระพุทธเจ้าบำเพ็ญบารมี ๔ อสงไขย แสนมหากัปป์ ปรินิพพานแล้ว ถึงที่สุดแห่งทุกข์แล้ว ตรงนี้ผิดแล้ว

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า "พระศรีอริยเมตตรัยที่จะมาโปรดโลกภายหน้านั้น ที่อุ้งมืออุ้งเท้าเป็นกงจักรกลม ที่สีข้างมีรอยถูกแทงเป็นแผล
    หน้าผากเต็มไปด้วยรอยตำหนิ พระองค์นั่นแหละจะพาท่านทั้งหลายไต่ข้ามวัฏสงสารไปจนถึงสวรรค์นิพพานจึงพบหน้พระแก้ว3 ประการ
    ตามประสงค์


    ศาสนาพุทธยังไม่ครบ ๕๐๐๐ ปี พระศรีอริยเมตไตร จะยังไม่ลงมาตรัสรู้ พระลักษณะถูกต้องตามมหาปุริสลักขณะ ๓๒ ประการ ส่วนที่บอกว่า อุ้งมือและเท้ามีรองกงจักร นั้น ความหมายจริงๆ ก้อคือ ถูกตะปูตอกที่เท้า และมือ จนเป็นแผลใช่มั้ย ที่สีข้างมีรอยถูกแทงเป็นแผล หมายถึง ถูกทหารโรมันเอาหอกแทงที่สีข้างใช่มั้ย ที่บอกว่า หน้าผากเต็มไปด้วยตำหนินั้น จริงๆ ก้อคือ รอยของมงกุฏหนามที่ทหารโรมันเอามาใส่ ใช่มั้ย

    เพราะฉะนั้น พระศรีอริยเมตตรัย ถูกตรึงกางเขน ใช่มั้ย

    ถามจริงๆ คับ พวกคุณคิดอะไรอยู่ จะกลืนศาสนาใช่มั้ย ผมเห็นข้อความแบบนั้นมาหลายครั้งแล้วนะ พอเถอะครับ นี่ไม่ใช่ลักษณะศาสนาสัมพันธ์แล้ว แล้วข้อมูลที่อ้างมานั้น ผมกล้าพูดเลยว่า ของปลอม ล้าน% ถ้าไม่จริงขอให้ผมรถคว่ำตายเลย เอาไหม
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    14,056
    ค่าพลัง:
    +52,023
    โลก...มีศาสนศาสตร์เพียงหนึ่งเดียว
    คือ โลกุตตระธรรม นำพาสัตว์โลกหลุดพ้นทุกข์

    ศาสนาพุทธ....เป็นศาสนาหลักพาให้ถึงนิพพาน
    ศาสนาอื่น...เป็นศาสนารองพาให้ทำความดี

    พระเยซู....ก็อาจมาเกิดในศาสนาพุทธก็ได้
    เพราะโลกเดียวกัน หลักสัจจะะธรรมเดียวกัน
    ท่านก็มีตัวกระทำเกี่ยวกับการเผยแพร่ศาสนา

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    ผมว่าไม่ใช่เยซูนะ เพราะเยซูเป็นชายเหนือชาย / คนที่จะมาเนี่ยเป็นน่าจะเป็นคนแบบเราๆเนี่ยล่ะครับ ลายมือเป็นกงจักร ลายเท้าเป็นกงจักร คนธรรมดาก็มีครับ เพราะมี ลายมืออยู่ 2 เส้นตัดกันบนฝ่าืมือ หน้าผากเต็มไปด้วยรอยตำหนิ คนปกติก็มีได้ครับผู้ที่มีเรื่องที่ต้องคิดตลอดเวลาจะมีรอยบนหน้าผากแบบตารางเลย ที่สีข้างจะเอากี่รอยครับ แถๆ กันไปสีข้างมันก็มีรอยแล้ว
     
  6. Worldtrade

    Worldtrade Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +64
    คุณ Leonidas ครับ คุณน่าศึกษาข้อมูลมาให้ดีๆก่อนครับ อย่าเดาส่งเดชครับ



    สติปัญญาของคุณ Leonidas มีเท่านี้เองเหรอครับ กบในกะลา แท้ๆ

    1. ใครบอกคุณ Leonidas ล่ะครับ ว่าพระพุทธเจ้าสร้างบารมี 4 อสงไขย
    ตอบ ถ้าจะเอากันจริงๆ พระพุทธเจ้าสร้างบารมีมาทั้งสิ้น 20 อสงไขย ครับ แบ่งเป็น
    - คิดอยู่ในใจที่จะเป็นพระพุทธเจ้า 9 อสงไขย
    - เปล่งวาจาที่จะเป็นพระพุทธเจ้า 7 อสงไขย
    - ได้รับพุทธพยากรณ์ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้า จาก พระพุทธเจ้า ทีปังกร อีก 4 อสงไขย ข้างหน้า
    *รวมแล้ว 20 อสงไขย* แต่คนในยุคหลังชอบเอา 4 อสงไขย สุดท้ายมาพูดกัน
    คุณ Leonidas อย่าเดาสิครับ

    2.ที่คุณ Leonidas บอกว่า ศาสนาพุทธยังไม่ครบ ๕๐๐๐ ปี พระศรีอริยเมตไตร จะยังไม่ลงมาตรัสรู้
    ตอบ มันก็แหงอยู่แล้วใครเค้าก็รู้ครับ กว่าพระศรีย์จะมา ต้องผ่าน 5,000 ปีไปก่อน และมนุษย์ต้องมีอายุ 80,000 ปีก่อน พระศรีย์จึงจะมา
    ใครเค้าก็รู้นี่ครับ เค้าไม่ได้บอกว่าพระศรีย์จะมาตอนนี้นี่ครับ คุณสับสนอะไรรึเปล่าครับ

    3.ที่คุณ Leonidas บอกว่า อุ้งมือและเท้ามีรองกงจักร นั้น ความหมายจริงๆ ก้อคือ ถูกตะปูตอกที่เท้า และมือ จนเป็นแผลใช่มั้ย ที่สีข้างมีรอยถูกแทงเป็นแผล หมายถึง ถูกทหารโรมันเอาหอกแทงที่สีข้างใช่มั้ย ที่บอกว่า หน้าผากเต็มไปด้วยตำหนินั้น จริงๆ ก้อคือ รอยของมงกุฏหนามที่ทหารโรมันเอามาใส่ ใช่มั้ย
    เพราะฉะนั้น พระศรีอริยเมตตรัย ถูกตรึงกางเขน ใช่มั้ย
    ตอบ คุณพูดไปเองทั้งนั้น คิดไปเองคนเดียวมั้ง ผมอ่านตั้งหลายครั้ง ไม่เห็นจะเป็นอย่างที่คุณบอกเลยนี่ครับ

    4.ที่คุณ Leonidas บอกว่า ถามจริงๆ คับ พวกคุณคิดอะไรอยู่ จะกลืนศาสนาใช่มั้ย ผมเห็นข้อความแบบนั้นมาหลายครั้งแล้วนะ พอเถอะครับ
    ตอบ คุณเห็นที่ไหนเหรอครับ ไหนเอาหลักฐานมาโชว์หน่อยสิครับ เพื่อนๆคงอยากเห็นเหมือนกัน คุณคิดไปเองมั้งครับ

    *คุณ Leonidas ครับ คุณน่าจะอ่านให้ดีๆก่อน และศึกษาข้อมูลมาให้ดีๆก่อนครับ
    อย่าเดาส่งเดชครับ ยิ่งพูดยิ่งประจานความโง่ของคุณออกมาครับ*
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2010
  7. Leonidas 1

    Leonidas 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2007
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +188
    คุณ Worldtrade ครับ คุณจะว่ายังไงผมก้อช่าง ผมไม่ว่าอะไร เมื่อผมกล้าแสดงความเห็น ผมก้อกล้ารับคำติเตียนจากผู้รู้ (จริงหรือเท็จ ) ทุกท่าน อันนี้ผมยอมรับ

    ส่วนข้อมูลของคุณนั้น ผมก้อรู้มาตั้งนานแล้ว แต่ผมต้องการย่ออย่างคร่าวๆ นี่ผมเคลียกับคุณแล้วนะ

    ส่วนข้อมูลของผม ผมขอเก็บไว้เป็นความเชื่อของผมเองดีกว่า OK ผมไม่เปลี่ยนความคิดผมหรอก

    ส่วนคุณที่บอกว่า รู้ได้ไงของปลอม เอางี้ดีกว่า คุณช่วยหาข้อมูลให้ผมหน่อย ว่าข้อมูลนี้มาจากพระไตรปิฎกเล่มไหน หน้าที่เท่าไร เท่านั้นเอง ช่วยหาให้ผมได้มั้ย ถ้าได้ จักเป็นพระคุณอย่างยิ่งเลย OK
     
  8. Neenajorgensen

    Neenajorgensen สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ถึงท่านที่มีส่วนในกระทู้นี้ทุกท่านค่ะ
    ดิฉันก็เคยมีพุทธศาสนาและคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งสูงสุดในชีวิต แต่หลังจากได้มารู้จักกับพระเยซูแล้ว ที่พึ่งสูงสุดเปลี่ยนไป แต่ก็ยังระลึกถึงคำสอนบางส่วนของพระพุทธเจ้าอยู่ ไม่ลืม และไม่ดูถูก และสิ่งหนึ่งที่จำได้คือท่านบอกว่าอย่าให้เราประมาท และท่านบอกว่าสิ่งที่ท่านสอนพวกเราเป็นแค่ใบไม้ในหยิบมือเดียว และถ้าสิ่งที่บอกไว้ในพระไตรปิฏกบริบทนี้เป็นจริง (ซึ่งอาจจะผิดเพี้ยนในข้อมูลตัวเลขบ้าง ก็ไม่น่าจะสำคัญไปกว่าความหมายของบริบทรวม) เราทั้งหลายก็น่าจะพิจารณาด้วยความไม่ประมาท ด้วยสติและปัญญา ไม่ใช่ด้วยอารมณ์ที่เกิดจากการยึดติดในสิ่งใดสิ่งหนึ่งและตัวกูของกู พระพุทธทาสได้เคยเปรียบเทียบคริสตศาสนาและพุทธศาสนาไว้อย่างสอดคล้องกันในระดับหนึ่ง แต่นั่นก็อาจยังไม่ใช่ความเข้าใจสูงสุด แต่ดิฉันเชื่อว่า พระเจ้าผู้สูงสุดมีองค์เดียวกัน และพระองค์พยายามนำความเข้าใจที่ถูกต้องมาให้กับมนุษย์โดยผ่านผู้เผยพระวัจนะในหลายๆ ศาสนา และศาสนาก็ไม่ใช่สิ่งสูงสุด เพราะศาสนาคือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อยึดเหนี่ยว แต่สิ่งที่สร้างมนุษย์และสรรพสิ่งต่างหาก คือสิ่งสูงสุดที่มนุษย์ควรต้องยึดเหนี่ยวอย่างแท้จริง เราจึงควรอธิษฐานขอสิ่งสูงสุดนั้นให้ความเข้าใจอย่างแท้จริงกับเรา ดีกว่าที่เราจะใช้ความรู้อันน้อยนิดของเรามาทะเลาะกันเอง แล้วจะเกิดประโยชน์อันใด
     
  9. Neenajorgensen

    Neenajorgensen สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    และสำหรับดิฉันแล้ว เห็นว่าพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเป็นการเขียนอย่างตรงไปตรงมาและมีพลังที่ทำให้เกิดผลในชีวิตอย่างอัศจรรย์ ที่สำคัญเป็นข้อความที่เหมือนมีชีวิต ทำให้เราอ่านแล้วมีชีวิตและมีประสบการณ์ที่ทำให้เราเชื่ออย่างสุดจิตสุดใจ (ไม่ใช่แค่ความรู้ในสมอง) ว่าสิ่งสูงสุดมีจริง และผู้นั้นคือพระเจ้าที่มีอยู่องค์เดียว คือพระเยซูคริสต์ ที่เป็นพระภาคหนึ่งของพระองค์
     
  10. chevasit

    chevasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +424
    ต้องตรองดูว่าเราอยากจะเห็นพระศรีฯ หรืออยากจะพบพระธรรม ถ้าอยากจะพบพระศรีฯคงต้องรอ แต่ถ้าอยากจะพบพระธรรม... ไม่ต้องรอ
     

แชร์หน้านี้

Loading...