พระพุทธเจ้านั้นมีอยู่ 3 ประเภท 9 ระดับปกติ และ 3 ระดับพิเศษ

ผมได้อ่านมา จากหนังสือ ธรรมประวัติหลวงปู่จามมหาปุญฺโญ
น่าสนใจทีเดียว ท่านเขียนไว้ว่า
พระพุทธเจ้ามี ๓ ประเภทคือ
- ปัญญาธิกะ
- สัทธาธิกะ
- วิริยาธิกะ
มีระดับอยู่ ๙ ระดับดังนี้
ปัญญาธิกะที่ ๑ มีอายุ ๑๐,๐๐๐ ปี
ปัญญาธิกะที่ ๒ มีอายุ ๕,๐๐๐ ปี
ปัญญาธิกะที่ ๓ มีอายุ ๑๐๐ ปี

สัทธาธิกะที่ ๑ มีอายุ ๔หมื่น ปี
สัทธาธิกะที่ ๒ มีอายุ ๓หมื่น ปี
สัทธาธิกะที่ ๓ มีอายุ ๒หมื่น ปี

วิริยาธิกะที่ ๑ มีอายุ ๑แสน ปี
วิริยาธิกะที่ ๒ มีอายุ ๙หมื่น ปี
วิริยาธิกะที่ ๓ มีอายุ ๘หมื่น ปี

ส่วนพระพุทธเจ้าแบบพิเศษ มีอยู่ ๓ ระดับ
ชั้นตรี ๒๕ องค์ มีได้ ๑ องค์ ที่ทำให้โลกสว่าง
ชั้นโท ๓๖ องค์ มีได้ ๑ องค์ หมดเดียรถีย์
ชั้นเอก ๕๐ องค์ มีได้ ๑ องค์ (กุฏีนิมิต,กุฏินิรมิต) ไปในอากาศ
และหมดเดียรถีย์

 

K.สุภํ ครับ หนังสือเล่มนี้จะหาอ่านได้ที่ไหนครับ
ขอบพระคุณมากครับ

 

ผมไม่แน่ใจครับ
คือผมเองก็ได้มาเล่มหนึ่งจากมือหลวงปู่ตอนไปกราบท่านที่วัดบ้านห้วยทรายมุกดาหาร
เป็นหนังสือของวัดที่พิมพ์มาสองครั้งแล้ว พิมพ์ครั้งที่สองเมื่อวันวิสาขบูชา ปี๕๑
๔,๐๐๐เล่ม
หากอยากได้จริงๆลองติดต่อไปที่
พระธมฺมธโร ครูบาแจ๋ว เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกวัฒนาราม หมู่๙บ้านห้วยทราย
ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ๔๙๑๑๐
เพราะปีหน้าหลวงปู่จะครบ ๑๐๐ปี ผมคิดว่าน่าจะมีพิมพ์ไว้แจกนะครับ

 

ขอบพระคุณมากๆครับ K.สุภํ นานๆทีจะเรื่องที่เกี่ยวพุทธภูมิจากพระโพธิสัตว์จริงๆ

 

ใคร รู้บ้างว่า ความหมาย พระพุทธเจ้าแบบพิเศษ เป็นอย่างไร
ช่วยอธิบายหน่อยครับ

ที่ข้อความบอกไว้ ไม่เข้าใจ อ่ะ

ชั้นตรี ๒๕ องค์ มีได้ ๑ องค์ ที่ทำให้โลกสว่าง
ชั้นโท ๓๖ องค์ มีได้ ๑ องค์ หมดเดียรถีย์
ชั้นเอก ๕๐ องค์ มีได้ ๑ องค์ (กุฏีนิมิต,กุฏินิรมิต) ไปในอากาศ
และหมดเดียรถีย์


สาธุครับ

 

เรื่องราวของจำนวนสาวกขององค์พุทธะ
ตามคำบอกเล่าของหลวงปู่จาม มหาปุญโญ จากหนังสือเล่มเดียวกัน มีดังนี้นะครับ

ปัญญาธิกะที่ ๓ - ๒๐ ล้าน ๘ แสน ๕ หมื่น องค์
ปัญญาธิกะที่ ๒ - ๒๕ ล้าน ๘ แสน ๕ หมื่น องค์
ปัญญาธิกะที่ ๑ - ๓๐ ล้าน ๘ แสน ๕ หมื่น องค์

สัทธาธิกะที่ ๓ - ๓๕ ล้าน ๘ แสน ๕ หมื่น องค์
สัทธาธิกะที่ ๒ - ๔๐ ล้าน ๘ แสน ๕ หมื่น องค์
สัทธาธิกะที่ ๑ - ๔๕ ล้าน ๘ แสน ๕ หมื่น องค์

วิริยาธิกะที่ ๓ - ๙๐๐ ล้าน ๘ แสน ๕ หมื่น องค์
วิริยาธิกะที่ ๒ - ๑,๐๐๓ ล้าน ๘ แสน ๕ หมื่น องค์
วิริยาธิกะที่ ๑ - ๑,๐๐๖ ล้าน ๘ แสน ๕ หมื่น องค์

 

องค์พุทธะที่มีจำนวนภิกษุสงฆ์มากกว่าภิกษุณีสงฆ์
ตามคำบอกเล่าของหลวงปู่จาม มหาปุญโญ จากหนังสือเล่มเดียวกัน มีดังนี้นะครับ

ในอดีต ๑ พระพุทธเจ้าสุมังคโล
๒ พระพุทธเจ้าสุมโน
๓ พระพุทธเจ้าปทุมมุตตโร
๔ พระพุทธเจ้าธมฺมทสฺสี
๕ พระพุทธเจ้าวิปสฺสี
๖ พระพุทธเจ้ากกุสันธะ
๗ พระพุทธเจ้ากัสสปะ
ในอนาคต ๑ พระโพธิสัตว์องค์ที่ ๘
๒ พระโพธิสัตว์องค์ที่ ๑๐
๓ พระโพธิสัตว์องค์ที่ ๑๕
๔ พระโพธิสัตว์องค์ที่ ๑๖
๕ พระโพธิสัตว์องค์ที่ ๒๑

 

องค์พุทธะที่มีจำนวนพระอรหันต์มากกว่าพระอริยะ ๓ ชั้นต้น
ตามคำบอกเล่าของหลวงปู่จาม มหาปุญโญ จากหนังสือเล่มเดียวกัน มีดังนี้นะครับ
ในอดีต
๑ พระพุทธเจ้าสุมังคโล
๒ พระพุทธเจ้าธัมมทัสสี
๓ พระพุทธเจ้าวิปัสสี
๔ พระพุทธเจ้ากกุสันโธ

ในอนาคต
๑ พระโพธิสัตว์องค์ที่ ๘
๒ พระโพธิสัตว์องค์ที่ ๑๕
๓ พระโพธิสัตว์องค์ที่ ๑๖
๔ พระโพธิสัตว์องค์ที่ ๒๑<!-- google_ad_section_end -->

 

และเรื่องราวของผู้ชายเกิดมากกว่าผู้หญิง
ในสมัยขององค์พุทธะที่จะมาตรัสในอนาคต
๑ พระโพธิสัตว์องค์ที่ ๘
๒ พระโพธิสัตว์องค์ที่ ๑๐
๓ พระโพธิสัตว์องค์ที่ ๑๕
๔ พระโพธิสัตว์องค์ที่ ๑๖
๕ พระโพธิสัตว์องค์ที่ ๑๗
๖ พระโพธิสัตว์องค์ที่ ๒๑

 

อตีตังนานะวาคะเมยยะ นัปฏิกังเข อนาคะตัง
บุคคลไม่ควรตามคิดถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้วด้วยอาลัย และไม่พึงพะวงถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
ยะถะตีตัมปะหีนันตัง อัปปะตัญจะ อนาคะตังสิ่งเป็นอดีตก็ละไปแล้ว สิ่งที่เป็นอนาคตก็ยังไม่มา

 

อยากรู้เหมือนกันครับ พอจะอธิบายเพิ่มได้มั้ยครับ...

 

ผมก็อยากรู้ครับ
มีใครรู้มั้ง ??? ครับ

 

ออ เรื่องนี้ผมก็ได้อ่านมาจากคัมภีร์พุทธวงศ์จากพระไตรปิฎกคับ

และก็มีการเรียบเรียงอีกเป็นเล่มโดยละเอียดแบบสมัยใหม่ มีการลงตาราง และวิเคราะห์โดยละเอียดแบบที่โพสต์มาเลยครับ

อ่านล่าสุดที่ร้านหนังสือ มจร.บรรนาคาร ท่าพระจันทร์ เล่มหนาๆสีน้ำเงินครับ

 

เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆครับ

แต่หากอธิบายละเอียดกว่านี้จะเป็นการดีมากๆ

 

เป็นความรู้ใหม่ ติงเพิ่งเคยอ่าน
ขอบพระคุณมากนะคะ

 

แล้วพระพุทธเจ้าอีกหลายองค์ที่มี อายุ 60,000 70,000 จัดอยู่ในระดับใหนครับ
ตกหล่นไปหรือเปล่าครับ

 

........อานุโมทนาค่ะ......

ดีค่ะได้ความรูัใหม่เพี่มอีกแล้ว

 

สั่งสมบารมีไปครับมั่นคงในสิ่งที่ปรารถนาอย่าเสื่อมคลาย ใช้ปัญญาพิจารณาสิ่งที่ทำและทำไปด้วยจิตศรัทธาเต็มเปี่ยมด้วยความวิริยะอุตสาหะ ไม่ว่าหนทางจะไกลสักเพียงไหนอุปสรรคจะมากปานใดต้องเกิดตายอีกนับชาติไม่ถ้วน อย่าได้ย่อท้อ วันใดรู้สึกเหนื่อยขอจงมองดูชีวิตทั้งหลายสัตว์ทั้งหลายจมอยู่ในกองทุกข์ ความยากลำบากของเราเพียงเท่านี้แลกกับชีวิตทั้งหลายได้หลุดพ้นจากพันธนาการของกิเลส มันคุ้มเกินที่จะคุ้มเสียอีก อย่าไปกังวลเลยครับว่าเราต้องเป็นอย่างนั้นต้องได้อย่างนี้ ทำหน้าที่ของเราให้ดียิ่งกว่าดีให้มากที่สุดเหนือกว่ามากที่สุดแล้วเมื่อวันนั้นมาถึงเราจะรู้ได้เองว่า เราคือใคร

 

อืม........
ทำไม ในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าพระองค์ไม่ทรงตรัสเรื่องนี้เลย...
แปลกจัง
แต่ไม่เป็นไรครับ ความรู้ใหม่!!!!!!!

 

ท่านพิมพ์ได้ โดนใจ ผมจังเลยครับ