พระพุทธเจ้ามีองค์เดียว แต่ทำไม ?... "พระพุทธรูปมีหลายชื่อ"

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย TupLuang, 10 กันยายน 2008.

  1. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    พระพุทธเจ้ามีองค์เดียว แต่ทำไม ?... "พระพุทธรูปมีหลายชื่อ"



    [​IMG]

    พระพุทธรูป หรือ พระพุทธปฏิมากร คือ รูปเปรียบ หรือ รูปสัญลักษณ์ แทนองค์พระพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นพระศาสดาแห่งพระพุทธศาสนา หลังจากพุทธปรินิพพานล่วงเลย นานแล้ว ตามลักษณะมหาบุรุษ ๓๒ ประการ ที่ปรากฏในมหาปุริส ลักษณะ มิใช่การทำให้เหมือนองค์พระพุทธเจ้า แต่สร้างขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณและ เพื่อสักการะบูชาแทนองค์ พระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อน้อมใจให้ประพฤติตามคำสอนของพระองค์ ตลอดจนเป็นสิ่งจรรโลง สืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนถาวรสืบไป

    ตราบใดที่ยังปรากฏพระพุทธรูปอยู่ หมายถึงว่า พระรัตนตรัย อันเป็นหลักสำคัญของพระพุทธศาสนายังคงบริบูรณ์ เป็นเครื่องสร้างศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชน ทั่วไปให้เลื่อมใสอุปถัมภ์บำรุงพุทธศาสนาสืบไป โดยคิดประดิษฐ์เป็นพระพุทธรูปปางต่างๆ คือ นำเอา พระพุทธจริยา (คือ พระจริยาวัตร หรือการบำเพ็ญประโยชน์ของพระพุทธเจ้า) ประกอบด้วย โลกัตถจริยา (การบำเพ็ญประโยชน์แก่โลก) ญาตัตถจริยา (การบำเพ็ญประโยชน์แก่พระญาติ) พุทธัตถจริยา (การบำเพ็ญประโยชน์ในฐานะทรงเป็นพระบรมศาสดา)

    แต่ละตอนของพระพุทธเจ้าที่แสดงให้ปรากฏในแต่ละสมัยในพุทธประวัติ มากำหนดพระอิริยาบถตามพระพุทธจริยา ได้ ๔ อย่าง คือ ยืน เดิน นั่ง นอน มากำหนดเป็นปางต่างๆ ในพระอิริยาบถยืน ๒๔ ปาง พระอิริยาบถเดิน ๑ ปาง พระอิริยาบถนั่ง ๓๗ ปาง และพระอิริยาบถนอน ๔ ปาง รวม ๖๖ ปาง ด้วยศรัทธาปสาทะ พุทธศาสนิกชนจึงสร้างพระพุทธรูปขึ้นมาอย่างมากมาย พระพุทธรูปเหล่านั้นแตกต่างกัน ทางพุทธลักษณะ ขนาด และวัตถุที่จัดสร้าง ตามยุคสมัยที่สร้างจวบจนปัจจุบัน

    [​IMG]

    คตินิยมในการเฉลิมพระนามพระพุทธรูปแต่โบราณาจารย์ นั้น หนังสือ "พุทธนาคบริรักษ์ ๔๘ พรรษา สยามบรมราชกุมารี" เรียบเรียงโดย อาจารย์ขวัญทอง สอนศิริ เลขานุการคณะกรรมการจัดสร้างพระพุทธนาคบริรักษ์ ซึ่งเป็นหนังสือที่ กองงานในพระองค์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๔๘ พรรษา พุทธศักราช ๒๕๔๖ หนังสือนี้พระองค์ได้พระราชทานให้ห้องสมุดต่างๆ ทั่วประเทศ ได้รวบรวม การเฉลิมพระนามพระพุทธรูปไว้ดังนี้

    ๑.เฉลิมพระนามตามพระนามพระพุทธเจ้า เช่น พระพุทธโลกนาถ พระพุทธโคดม พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ เป็นต้น

    ๒.เฉลิมพระนามตามลักษณะและวัสดุที่จัดสร้างพระพุทธรูป เป็นต้นว่า ตามนํ้าหนักของวัสดุที่สร้าง ได้แก่ พระเจ้าเก้าตื้อ (วัดสวนดอก เชียงใหม่ ทองหนัก ๙ ตื้อ ๑ ตื้อเท่ากับ ๑ พันกิโลกรัม มีที่ต่อนับได้ ๙ ท่อน) พระเจ้าล้านทอง (วัดพระเจ้าล้านทอง เชียงราย ทองหนักหนึ่งล้านทอง ๑๐ หาบหรือ ๑,๐๐๐ ชั่ง) ตามวัสดุที่สร้าง เช่น พระแก่นจันทน์ (สร้างจากไม้แก่นจันทน์) พระแก้วมรกต (สร้างจากหยกสีเขียว) พระแก้วดอนเต้า (ลำปาง สร้างจากหยกสีเขียวเข้ม) หลวงพ่อศิลา (สลักจากหิน) หลวงพ่อทองคำ (สร้างจากโลหะทองคำทั้งองค์) เป็นต้น

    ๓.เฉลิมพระนามตามลักษณะเด่นบางประการของพระพุทธรูป องค์นั้น เช่น พระอัฏฐารส (พระสูง ๑๘ ศอก) พระเจ้าแข้งคม (วัดศรีเกิดเชียงใหม่ พระชงฆ์ ๒ ข้างเป็นสันคม) หรือตั้งตามขนาดของพระพุทธรูป เช่น หลวงพ่อโต (พระพุทธรูปมีลักษณะองค์ใหญ่โต) หรือตามสีของโลหะ เช่น หลวงพ่อดำ (พระพุทธรูปสีดำ) หลวงพ่อขาว (พระพุทธรูปปูนปั้นสีขาว) เป็นต้น

    [​IMG]

    ๔.เฉลิมพระนามตามเทคนิคหรือเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นขณะการสร้าง เช่น พระเหลือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ พิษณุโลก ซึ่งรัชกาลที่ ๔ ได้เฉลิมพระนามให้เป็นมงคลว่า พระเสสันตปฏิมากร หมายถึง พระที่หล่อจากเศษทองที่เหลือจากการหล่อพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา แต่ชาวบ้านยังคงเรียกว่า พระเหลือ อยู่ดี

    พระพวย (วัดพระมหาธาตุ นครศรีธรรมราช หน้าฐานบัวมีพวยนํ้ายื่นออกมาเมื่อสรงนํ้าพระ นํ้าไหลออกมาตามพวยจึงเรียกว่า พระพวย), หลวงพ่อเศียร วัดสาลโคดม สิงห์บุรี (บรรจุเศียรพระเก่าที่พบไว้ในพระเศียรองค์ใหม่ที่บูรณะขึ้น จึงเรียกว่า หลวงพ่อเศียร) เป็นต้น

    ๕.เฉลิมพระนามเพื่อเป็นมงคลอนุสรณ์ แก่บุพการีชนหรือผู้สร้าง เช่น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างพระพุทธรูป ๒ องค์ คือ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย อุทิศถวายแด่รัชกาลที่ ๑ และรัชกาลที่ ๒ พระพุทธสิริกิตทีฆายุมงคล (๖๐ พรรษามหาราชินีประดิษฐานที่พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่) เป็นต้น

    ๖.เฉลิมพระนามตามพุทธานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ที่ประจักษ์แจ้ง เช่น พระไพรีพินาศ (ศัตรูแพ้ภัย) พระนิรันตราย (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริว่าทรงแคล้วคลาดถึง ๒ ครั้ง เป็นอัศจรรย์ จึงเฉลิมพระนามว่าพระนิรันตราย) พระเจ้าทันใจ (เชื่อกันว่าพระพุทธรูปองค์นี้ได้สร้างสำเร็จภายใน ๑ วัน อธิษฐานสิ่งใดจะได้ดังใจปรารถนาทันใจ) เป็นต้น

    ๗.เฉลิมพระนามตามนามหรือลักษณะภูมิศาสตร์ของท้องที่ที่พบหรือประดิษฐาน เช่น หลวงพ่อวัดไร่ขิง นครปฐม หลวงพ่อวัดบ้านแหลม สมุทรสงคราม หลวงพ่อโบสถ์น้อย พระอุโบสถน้อยวัดอมรินทราราม พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล (นราธิวาส) พระฝาง (วัดเบญจมบพิตร อัญเชิญมาจากเมืองฝาง อุตรดิตถ์) พระพนัสบดี (อ.พนัสนิคม ชลบุรี) เป็นต้น

    [​IMG]

    ๘.เฉลิมพระนามตามปางที่สร้าง เช่น พระฉันสมอ (วัดอัปสรสวรรค์ ปางฉันสมอ) พระป่าเลไลยก์ (หลวงพ่อโต สุพรรณบุรี ปางป่าเลไลยก์) พระพุทธไสยาสน์ (ปางไสยาสน์) พระเจ้าเข้านิพพาน วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก (ปางเข้าปรินิพพาน)

    ๙.เฉลิมพระนามอันเป็นมงคลนาม เพื่อความเป็นสรรพสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล แก่การสักการบูชา ตามเห็นสมควร


    เรื่องและภาพ/ไตรเทพ ไกรงู


    http://www.komchadluek.net/column/pra/2005/01/03/02.php
     
  2. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,373
    ยังคงเป็นความเชื่อที่ผิดสำหรับคนไทยในยุคปัจจุบัน

    ที่เชื่อว่า 'พระพุทธเจ้า' มีพระองค์เดียว

    คงจะต้องโละแบบเรียนพระพุทธศาสนาใหม่แล้วมังครับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...