พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันของเรา มีพระวรกายสูงเท่าไหร่?

มีเพื่อนสมาชิก ในห้องศาสนา ที่เว๊บพันทิป ตั้งคำถามว่า



"สงสัยความสูงของพระพุทธเจ้าท่านสูงประมาณกี่เซ็นติเมตรครับ"

เรื่องความสูงของพระพุทธเจ้าที่เสด็จอุบัติบังเกิดในโลกนี้ ในกาลที่ผ่านมาแล้ว และในกาลที่ยังไม่มาถึง ท่านมีความสูง แตกต่างกัน แต่สำหรับ "พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระโคตม หรือ พระโคดมพุทธเจ้า" มีพระวรกายสูง เท่าไหร่ ก็เป็นเรื่องที่เรา ก็ควรรู้นะครับ ไม่งั้น เพื่อนๆ ที่อยู่ต่างศาสนาของเรา อาจจะหัวเราะเยาะ อยู่ในใจว่า "แค่เรื่องความสูงของศาสดา ของพวกเธอ เธอยังไม่รู้เลย"

ซึ่งในกระทู้นั้น ก็มีเพื่อนสมาชิก หลายท่าน ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น เช่น

คุณ ศิษย์พระป่า ก็ให้ความเห็นว่า.."ในพระไตรปิฏก เนื้อความแสดงว่าพระพุทธเจ้าก็สูงเท่าคนปกติในยุคนั้น ดูเหมือนจะสูงกว่านิดหน่อย แต่ในอรรถกถา บอกว่าพระพุทธเจ้าสูง ๑๘ ศอก (ไม่ทราบว่าศอกในยุคไหน ยาวแค่ไหน) แต่การปรากฏต่อสายตาของคนเห็น จะเห็นเป็นปกติเหมือนกัน แล้วแต่พระพุทธเจ้าจะทรงอธิษฐานจิตกำหนดให้ใครเห็นยังไง ... "

ส่วน คุณ Chohokun ก็ให้ความเห็นว่า...

"คนตัวสูงก็มีเยอะแยะไปครับ
ส่วนขนาดพระวรกายของพระพุทธเจ้า ในอรรถกถาท่านอธิบายเช่นนั้นก็เพื่อเจริญศรัทธา แต่ถ้าพิจารณาตามสภาพความเป็นจริง พระพุทธเจ้าก็พระวรกายไม่ต่างจากมนุษย์เรามากเท่าไหร่นัก อาจจะสูงกว่าปกติบ้าง แต่ก็ไม่เกินปกติจนดูเป็นยักษ์

เอาง่ายๆว่า ถ้าหากพระพุทธเจ้าทรงพระวรกายสูงถึงขนาดนั้น จะไปแลกผ้าสังฆาฏิ แลกจีวร กับพระมหากัสสปะได้ยังไงล่ะครับ"

เป็นต้น

ผมก็เลยอดไม่ได้ ที่จะร่วมแสดงความคิดเห็น เผื่อว่า จะมีท่านใด มีข้อมูลที่จะมาสนับสนุน เพิ่มเติม ดังนี้ ครับ

ความคิดเห็นของเอกอิสโร...

เข้าสู่ระบบ | Facebook

 

ความคิดเห็นของเอกอิสโร...

เท่าที่ค้นหาได้ ในเวลานี้ และมีความน่าเชื่อถือ แล้วก็สอดคล้องกับที่เคยได้ยินมา แต่ ต้องหาหลักฐานอ้างอิง รองรับ มากกว่านี้ ก่อน จึงนำมาให้อ่านก่อนว่า...

๔.พระโคตมะ

พระโคตมะพุทธเจ้าทรงสมภพในสกุลกษัตริย์ มีพระนามโดยพระโคตรว่า โคตมะ มีประมาณแห่งอายุ ๘๐ ปีตรัสรู้ ณ โคนต้นโพธิ์ มีคู่แห่งสาวกมีชื่อว่า สารีบุตรกับโมคคัลลานะ มีการประสาวกครั้งเดียวมีภิกษุ ๑,๒๕๐รูป ล้วนเป็นพระอรหันต์ มีวาโยธาตุ ๗ พระวรกายของพระองค์สูง ๘ ศอก

พุทธทำนาย:ตถาคตทรงอนุญาตไว้พระศานาได้ ๕,๐๐๐ปี แต่เมื่อล่วง ๕๐๐ ปีก็จะไม่มีนางภิกษุณี ครั้งล่วงไปได้ ๑,๐๐๐ปี ก็จะไม่มีพระอรหันต์เหาะเดินอากาศได้ ล่วง ๒,๐๐๐ ปีจะไม่มีนักปราชญ์เรียนพระไตรปิฎกจนจบ ครั้งล่วงได้ ๓,๐๐๐ ปี ไม่มีพระสงฆ์เป็นคณะประชุมทำอุโบสถ ๔,๐๐๐ ปีจะหาพระสงฆ์ที่ทรงไตรจีวรครบก็มิได้มี ล่วง ๕,๐๐๐ ปีจะมีแต่ผ้าเหลืองน้อยห้อยหูแลผูกพันคอเรียกว่าสงฆ์ อันว่าศาสนาขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้าของเราก็จะอันตรธานสูญสิ้นเพียงนี้


(ข้อมูลจาก เว๊บ นี้ www.sapanputt.com/%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B9/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B9%95-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C.html )

นั่นก็หมายความว่า พระพุทธเจ้าของเรา สูง ๘ ศอก หรือ ๔ เมตร
คำว่า "คนแปดศอก" ผมคุ้นเคย ได้ยินมาแต่เด็ก เมื่อมีการขุดเจอโครงกระดูกมนุษย์โบราณ

จึงไม่รู้สึกแปลกใจ แม้ว่า จริงๆ อาจไม่ได้สูงถึง ๘ ศอก ดังที่เขาร่ำลือกัน
แต่สำหรับความสูงของพระวรกายพระพุทธเจ้าแล้ว ผมเชื่อว่า พระองค์ท่านสูงประมาณนั้น

เมื่อสมัย ๒๕๐๐ ปี หรือย้อนไปกว่านั้น คนในสมัยนั้น ก็ไม่ได้ สูงเท่าคนในสมัยปัจจุบัน
โดยรวม ฝรั่งก็ยังสูงกว่าคนไทย

แต่ สังเกต จาการที่พระพุทธเจ้าพยากรณ์ไว้ แม้ว่า คนจำนวนไม่น้อย จะไม่ยอมรับเพราะ
ไม่ได้อยู่ในพระไตรปิฎก และอรรถกถา แต่ในภาคอีสานแต่โบราณมา ก็สืบรักษา ถ่ายถอดกันมา
พระพุทธองค์ได้พยากรณ์เหตุการณ์ในพระศาสนา ช่วง ๕ พันปี โดย ในแต่ละพันปีความสูงมนุษย์จะลดลงเรื่อยๆ

พันปีแรก ลดจาก ๖ ศอก เหลือ ๕ ศอก
พันปีที่สองลดจาก ๕ ศอก เหลือ ๔ ศอก
พันปีที่สาม ลดจาก ๔ ศอก เหลือ ๓ ศอก

ซึ่ง เราอยู่ในระหว่าง พันปีที่สอง กับพันปีที่สาม ความสูง จึงเหลือ ๓ ศอก ครึ่ง หรือ ๑.๕๐ + ๐.๒๕ = ๑.๗๕ เมตร เป็นเกณฑ์เฉลี่ย

สำหรับ ที่ ท่าน Chohokun บอกว่า ถ้าความสูงของพระพุทธเจ้า สูงกว่าคนทั่วไปไฉน จะแลกจีวรกับพระมหากัสสปะได้?

ข้อนี้ แก้ว่า พระมหากัสสปะเอง ก็มีความสูง สูงกว่า คนทั่วไปในสมัยนั้น

ซึ่ง ผมเคยให้ความเห็น ในกระทู้ที่ตั้ง ที่

ใครบอกว่า หลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร คือ พระอุตตรเถระ
www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10003214/Y10003214.html

กับที่ หน้าบันทึกส่วนตัว ที่

http://www.facebook.com/notes/xek-xis-ro-wrun-sri/khir-bxk-wa-hlwng-pu-hiy-theph-lok-xudr-khux-phra-xuttr-thera/162139027163020


ก็เพื่อจะบอกว่า หลวงปู่เทพโลกอุดร คือ พระมหากัสสปะเถระ ดังนั้น ผู้ที่พบเห็นท่าน จึงพบว่า ท่านมีร่างสูงใหญ่ มือ เท้า ใหญ่

ความสูงของพระมหากัสสปะ หรือคนเราทั่วไป สามารถคะเนได้จาก "ความยาวของฝ่ามือ" ลองไปทดสอบดูนะครับ ว่า หาเพื่อนสัก ๑๐ คน มาหาค่าเฉลี่ยว่า "เป็นจริงมั๊ย"

คือ ความยาวของฝ่ามือ เท่ากับ 1/10 ของความสูง (ของคนนั้นๆ)

ข้อมูลจาก http://www.igetweb.com/www/wijug_poosaard/index.php?mo=3&art=455194

คราวนี้ จะรู้ได้อย่างไร ว่า "ฝ่ามือของพระมหากัสสปะเถระ" ยาวเท่าไหร่?

แก้ว่า...ให้ดูจากความยาวของอิฐที่ก่ออูบมูงพระธาตุพนม ในยุคแรก ซึ่งพระมหากัสสปะเถระ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ท่านว่า อิฐที่เผาใหม่ เพื่อใช้ก่ออูบมูง มีความยาว เท่ากับ ฝ่ามือ พระมหากัสสปะเถระ

ซึ่ง ในการ ค้นพบอิฐรุ่นแรกที่ก่ออูบมูง เมื่อครั้งพระธาตุพนมล่มนั้น ยาวประมาณ ๓๒ เซนติเมตร
นั่น หมายความว่า พระมหากัสสปะเถระ สูงประมาณ ๓๒๐ ซม. หรือ ๓.๒๐ เมตร


พระพุทธเจ้าของเรา มีพระวรกายสูงกว่า พระมหากัสสปะเถระ เล็กน้อย พระองค์จึงอาจจะมีความสูง ประมาณ ๓.๕๐ เมตร ถึง ๔.๐ เมตร เท่ากับ ๘ ศอก

พระอานนท์ สูงประมาณเพียงบ่า-ไหล่ ของพระพุทธเจ้า นั่นคงเป็นเกณฑ์ความสูงทั่วไปของคนสมัยนั้น คือ สูงประมาณ ๒.๕-๓.๐ เมตร หรือประมาณ ๖ ศอก

ดังนั้น สรุปว่า ผมคิดว่า พระพุทธเจ้าของเราสูงประมาณ ๘ ศอก หรือมีความสูงประมาณ ๓.๕-๔ เมตร ครับ

 

เพื่อนสมาชิก ท่านใด มีข้อมูล สนับสนุน หรือมีข้อมูลอื่นๆ ที่ มีข้อแย้ง เพื่อที่จะทำให้ได้รับทราบ ข้อเท็จจริง ก็กรุณา ร่วมแสดงความคิดเห็น ด้วยนะครับ

เพราะ ผมคิดว่า พระโคตม หรือ พระโคดมพุทธเจ้า" มีพระวรกายสูง เท่าไหร่ ก็เป็นเรื่องที่เรา ก็ควรรู้นะครับ ไม่งั้น เพื่อนๆ ที่อยู่ต่างศาสนาของเรา อาจจะหัวเราะเยาะ อยู่ในใจว่า "แค่เรื่องความสูงของศาสดา ของพวกเธอ เธอยังไม่รู้เลย"

 

..คำโบราณบางคำยากที่จะเข้าใจ หากเราไปตีความหมายตามตัวอักษร(มีแต่จะทะเลาะ) อย่างเช่น คำที่ว่า ลูกผู้ชาย อก3ศอก เท่าที่รู้ความหมายเขาไม่ได้ตีความหมายว่าผู้ชายมีขนาดอกกว้างขนาดวัดได้3ศอก แต่เขาเปรียบเทียบ หมายถึง ผู้ชายที่ความกล้าหาญ ไม่เกรงกลัว..

 

เรื่องความสูงถ้าดูจากผ้าจีวรที่ครองนั้น พระพุทธเจ้าสูงพอๆกับเหล่าสาวกทั้งหลาย
รวมทั้งพระมหากัสสะปะเถระ เพราะสมัยนั้นท่านชีวกถวายการรักษาพระพุทธเจ้า เมื่อ
รักษาเสร็จแล้วก็ขอพร ซึ่งก็คือขอถวายผ้าจีวรที่ชื่อ ผ้าสิไวยกะ เป็นผ้าเนื้อดีมากๆ
ถวายให้พระพุทธเจ้า เพราะพระพุทธเจ้าและเหล่าสาวกล้วนแต่ใส่ผ้าบังสกุล

พระพุทธเจ้าเลยรับผ้านั้นใว้ และให้อนุญาตว่า พระทั้งหลายใครอยากนุ่งผ้าบังสกุล
ก็นุ่ง ใครอยากใส่ผ้าที่คหบดีถวายก็ใส่ได้ (เราทั้งหลายที่ซื้อจีวรถวายล้วนเป็นคหบดีนะ)
และเรื่องความสูงของประตูที่พระพุทธเจ้าเสด็จไป ไม่มีในพระไตรปิฏกว่าประตูวังไหน
หรือบ้านไหนเข้าไม่ได้ แสดงว่าพระวรกายพระองค์เหมือนสามัญชนทั่วไป ไม่ใช่สูงเกินเหตุ


แต่

ในส่วนที่ผมเห็นด้วยตัวเองนั้น ถ้าไม่นับมงกุฏแหลมๆที่ท่านสวมใส่ พระองค์ท่านสูง
ไม่เกิน 170 แน่นอน คงประมาณ 168-169 มากกว่า ส่วนที่ว่าสูง 18 ศอกนั้นก็อาจจะ
ดูตรงฉัพพรรณรังสีท่าน สูงประมาณนั้นจริงๆ เป็นคนก็เรียกว่ามีออร่าสูงขึ้นไปบนฟ้า 18
ศอกนับจากพื้นดิน
ซึ่งในพระไตรปิฏกท่านอาจจะโดนภิกษุบางรูปตัดส่วนที่เป็นอภิญญาออกเพราะความไม่รู้
อาจจะตัดออกเพราะ"มีความเห็น" ว่าท่านบอกไม่ให้ใช้ฤทธิ์แล้วจะเห็นสูง 18 ศอกได้ยัง
ไงแต่ตัดไม่หมดเลยยังเห็นบางวรรคว่าสูงเท่านี้ แต่ไม่อธิบายว่าที่เห็นสูงนั้นเห็นด้วยอะไร
อย่าลืมว่าสมัยพระพุทธองค์ ฤาษีก็เยอะพราหมณ์เก่งๆก็เยอะ เดินๆมาคนมีฤทธิ์เห็นหมดว่า
รังสีสูงท่วมยอดใม้ เปรียบเหมือนสมัยนี้ บางคนเดินๆมาก็เห็นว่าคนๆนี้เป็นร่างของเทพองค์
ไหน ถ้าผมเห็นคนมีฉัพพรรณรังสีท่วมยอดใม้เดินมาผมคงก้มกราบขอเป็นศิษย์ทันทีแน่
สมัยนั้นพวกฤาษีก็เหมือนๆกันนี่ล่ะ เห็นพระพุทธองค์เสด็จมาก็เห็นรังสีนี้เลยนับถือท่านเป็น
พระพุทธเจ้าไง ไม่งั้นใครๆก็เป็นพระพุทธเจ้าหมดสิเพราะคนทีฤทธิ์เยอะแต่คนมีรังสีแบบนี้
มันไม่มี แม้มีฤทธิ์แต่ออร่าระดับสูงท่วมยอดใม้ไม่มีแน่นอนนอกจากพระพุทธองค์.

 

ต้องดูว่าหากพระองค์สูง 18ศอก 4ศอกหรือ88 ศอก ต้นใม้สูงเท่าไร

 

ใหญ่แล้วยังมีใหญ่กว่า......ลูกไม่ควรใหญ่กว่าพ่อแม่บิดามารดาครูบาอาจารย์.......ศิษย์ต้องไม่คิล้างครู.....ตรวจให้รู้ว่าใครเป็นครูเป็นศิษย์...เมื่อชนะใจตนใด้จึงเป็นครูของตน...สอนให้ตนตัดตนจึงพ้นตน...เมือ่ไม่มีตนก็สามรถออกจากสมมุติบัญญัติที่อยู่ในกำมือของตถาตต....เรียนรู้เรียนลัดเรียนหัดเรียนแก้..แต่อยากให้รู้แน่อย่าลืมรักแม่แล้วกัน

 

วินัยมุข อาณาเขตเสนาสนะ
ยาวเพียง ๑๒ คืบ พระสุคต กว้างเพียง ๘ คืบ พระสุคต คือ ประมาณ ยาว ๘ ศอก ๓ นิ้วเศษ กว้าง ๕ ศอก ๑๐ นิ้วเศษ หากเกินนี้ผิดพระวินัย

เรื่องนี้ไม่พบนิทานต้นบัญญัติเลยไม่ทราบแน่ว่าจะมีความเป้นมาของอาณาเขตความกว้างยาว ของเสนาสนะเช่นใด แต่หากเป็นกรณีนี้มาตั้งแต่พุทธกาล

ก็ต้องมาดูนิทานต้นบัญญัติ ที่พระบรมศาดา ทรงอนุญาติ ให้ สามเฌร ราหุล อยู่ร่วมเสนาสนะกับพระภิกษุสงฆ์ได้ไม่เกิน 3 ราตรี เกินก่านั้นเป้นผิดพระวินัย

รวมความ 2 นับข้างต้น ในพื้นที่สีแดง ย่อมแสดงว่า สามารถเป้นที่ร่วมอยู่อาศัย ภิกษุได้ถึง 2 รูป หรืออาจจะมากกว่านั้น

 

ถ้าหากเราเปรียบเทียบคนในยุคเดียวกับเจ้าชายสิทธัตถะ คงเปรียบได้กับยุคชุนชิว ของจีน เมื่อพิจารณาวัตถุโบราณ เครื่องมือ เครื่องใช้ และสุสาน คนในยุคนั้นก็น่าจะสูงพอๆ กับเจ้าชายสิทธัตถะ นะครับ

 

ได้ความรู้เยอะเลย ขอบคุณครับ

 

ตอนที่ ๑๑ พระเจ้าสายน้ำผึ้ง ตำนานสร้างพระศักดิ์สิทธิ์ ๒ องค์
(หลวงพ่อโต วัดมงคลบพิตรและหลวงพ่อโตวัดพนัญเชิง)

ตำนานเกี่ยวกับการสร้างพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ๒ องค์ คือหลวงพ่อโตวัดมงคลบพิตร
และหลวงพ่อโตวัดพนัญเชิง ซึ่งคนทั่วไปคิดว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ความจริง
สร้างขึ้นก่อนการสร้างกรุงศรีอยุธยาถึง ๓๐๐ ปี

จากการที่หลวงปู่ได้พูดคุยกับพระนางสร้อยดอกหมาก และได้ถามถึงพระเจ้าสายน้ำผึ้งว่า
" แล้วพระเจ้าสายน้ำผึ้งล่ะ ท่านไปเกิดแล้ว หรือยังมีวิบากเกี่ยวพันกันอยู่อีก "
พระนางสร้อยดอกหมาก ตอบว่า " พระเจ้าสายน้ำผึ้ง ไปเกิดอยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
ด้วยกุศลบารมีที่ได้บริจาคทานและรักษาศีลมาก เวลานี้ก็แวะไปมาหาสู่เยี่ยมเยียนหม่อมฉัน
อยู่เสมอ ด้วยความนับถือกัน แต่ไม่มีอะไรผูกพันกับหม่อมฉันเหมือนเมื่อเป็นสามีภรรยากัน
ในโลกมนุษย์หรอกเจ้าค่ะ พระผู้เป็นเจ้า "
หลวงปู่ถามต่อว่า " พระเจ้าสายน้ำผึ้งนี่รูปร่างหน้าตาท่านเป็นอย่างไรนะ เหมือนคนไทยทุกวันนี้ใหม
หรือว่าใหญ่โตกว่ากันมาก เขาว่าคนโบราณมักสูงใหญ่ถึงหกศอกแปดศอกใช่ใหมพระนาง "
พระนางสร้อยดอกหมากหัวเราะน้อยๆ แล้วกล่าวตอบว่า " พระผู้เป็นเจ้าจะได้เห็นเอง วันนี้พระเจ้า
สายน้ำผึ้งก็ได้มาด้วยกับหม่อมฉัน "
" เอ๊ะ.......ไม่เห็นมีนี่พระนาง " หลวงปู่กล่าวอย่างแปลกใจ
" ท่านรออยู่ข้างนอกค่ะ ยังไม่ได้เข้ามาในนี้ "
" อ้าว เชิญท่านเข้ามาซิพระนาง "
ทันใดร่างพระเจ้าสายน้ำผึ้งก็ปรากฏตัวเดินเข้ามาในพระวิหาร แต่งองค์ทรงเครื่องอลงกตพิภูษาสรรพาภรณ์
แพรวพราวด้วยแก้วกาญจนมณีรัตนชัชวาล ตามแบบเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ ทรงอิสริยยศงามสง่า พระวรกาย
สูงใหญ่ กว่าคนในปัจจุบัน ผิวขาว หน้าตาคมสันสวยนัยย์ตาโตดำยาวคมกริบ เป็นประกายกล้าแข็งมีอำนาจ
แต่ทว่าแฝงไว้ด้วยความเมตตา
พอเข้ามาถึงก็ก้มลงกราบนมัสการหลวงปู่ด้วยเบญจางคประดิษฐ์ยิ้มแย้มแจ่มใส
" อาตมาภาพขอถวายพระพร พระราชสมภารเจ้า " หลวงปู่ทักทาย
" สาธุ พระผู้เป็นเจ้า " พระเจ้าสายน้ำผึ้งประนมมือรับสนองพระพรและยิ้มละไม
หลวงปู่สีโห ได้ถามว่า " พระราชสมภารเจ้า อยู่สุขสบายดีหรือ "
" สุขและทุกข์ก็มีคละกันไปเหมือนมนุษย์ในโลกนี้แหละพระผู้เป็นเจ้า
แต่ทุกข์ของเทวดานั้น เป็นทุกข์ทางใจ ไม่ใช่ทางกาย ทุกข์ทางใจได้แก่ตัวโมหะ
เทวดาบางตนก็เพลิดเพลินหลงไหลงมงายอยู่กับกามสุขทั้งหลาย
เทวดาบางตนก็ติดอยู่ในกิเลสตัณหาอุปาทาน
บางตนก็เล็งเห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พยายามบำเพ็ญศีลฟอกจิตใจตัวเอง
ออกจากกิเลส เพื่อหวังเลื่อนภูมิเลื่อนชั้นตัวเองให้สูงขึ้น
....................................................................................

ในข้อความสีแดงที่ขีดเส้นใต้นี่คือ ความสูงของ พระเจ้าสายน้ำผึ้ง ท่านอยู่ในช่วงก่อน การสร้างกรุงศรีอยุธยาถึง ๓๐๐ ปี ก็ลองเอาไปเปรียบเทียบย้อนกับไปหลังจากนั้นดูเองแล้วกันนะครับ ว่าพระพุทธเจ้าท่านมี่ความสูงประมาณใหน

 

สวัสดี วันที่ ๑๔ ธันวา วันนี้ วันพระ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน อ้าย ปีขาล


เข้าสู่ระบบ | Facebook

 

สวัสดี วันที่ ๑๔ ธันวา วันนี้ วันพระ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน อ้าย ปีขาล


เข้าสู่ระบบ | Facebook