พระขรรค์ท้าวเวสสุวรรณ รุ่นเจริญลาภปราบไพรี- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย bat119, 20 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    ปิดแล้วครับ.jpg
     
  2. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    เหรียญมนต์พระยาปากเข็ด เนื้อกะไหล่สามกษัตริย์ หลวงปู่ทองคำ สุวโจ เพิ่งแบ่งได้มาจัดให้เป็นคู่ 2องค์ครับ
    DSC_0135.JPG
    DSC_0136.JPG DSC_0138.JPG

    DSC_0139.JPG DSC_0140.JPG DSC_0141.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2018
  3. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
     
  4. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    ปิดแล้ว.png
     
  5. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,691
    ค่าพลัง:
    +14,072
    สวัสดียามสายครับป๋า :):):)
     
  6. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    สวัสดียามเที่ยงครับ
     
  7. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    ev663394597th ขอนแก่น
     
  8. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,691
    ค่าพลัง:
    +14,072

    สวัสดียามสายครับป๋า :):):)
     
  9. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  10. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    พระกสิณพิมพ์รูปเหมือน พิมพ์นี้สร้างน้อยหายากองค์เล็กๆ นำรูปมาให้ชมกันครับ
    drop-3698073_1920-Recovered.jpg
     
  11. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    บางท่านยังไม่ทราบข้อมูลพระกสิณยุคแรกของหลวงปู่พิศดู ผมขออนุญาตนำข้อมูลที่ลูกศิษย์หลายท่านในพลังจิตได้ลงเอาไว้ นำมาเรียบเรียงให้ศึกษากันครับ

    เท่าที่เคยสอบถามและมีลูกศิษย์รุ่นเก่าๆให้ข้อมูลไว้ว่า หลวงปู่ท่านเคยสร้างวัตถุมงคลด้วยองค์ท่านเองตั้งแต่ปี พ.ศ.2520 เรื่อยมา โดยครั้งนั้นท่านสร้างท่านด้วยผงวิเศษที่ท่านทำขึ้นเอง และประกอบด้วยมวลสารสำคัญๆของหลวงปู่เอง และครูบาอาจารย์รุ่นเก่าอีกหลายท่าน โดยมีลูกศิษย์สายวัดเขาน้อยท่าแฉลบ และที่ต่างๆ ช่วยถอดแม่พิมพ์ถวาย แม่พิมพ์ทุกพิมพ์เป็นพิมพ์แบบโบราณๆ และทุกขั้นตอนทำกันในวัด โดยมีลูกศิษย์ช่วยผสมเนื้อและช่วยกันกดพิมพ์ มีทั้งเนื้อดินผสมผงวิเศษ ผงธูป ขมิ้นเหลือง ว่านยาต่างๆ และแบบเนื้อดินผสมผงแล้วเข้าไฟเผาแบบโบราณ ตามแบบสูตรพระของท่านพ่อลี โดยระหว่างที่ทำการเผาสุมไฟด้วยแกลบนั้น องค์หลวงปู่ท่านจะเดินจงกรมรอบๆกองไฟเพื่อปรุงธาตุ เดินธาตุ

    มวลสารที่ท่านใช้ผสมนั้นประกอบไปด้วยผงวิเศษที่หลวงปู่ท่านลบเอง ว่านยาต่างๆ ชาญหมาก เกศา ผงธูปอธิษฐาน ดินจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆรวมถึงดินศักดิ์สิทธิ์ในวัดเทพธารทอง ดอกไม้บูชาพระ ฯลฯ
    พระที่สร้างนี้มีด้วยกันหลายพิมพ์มาก อาทิ รูปเหมือน สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม พิมพ์พระปิดตา พิมพ์สมเด็จ พิมพ์นางพญา พิมพ์พระพุทธแบบซุ้มกอ ขุนแผน ใบโพธิ์....ฯลฯ ปัจจุบันเป็นของหายากมาก และเป็นที่เสาะหาของลูกศิษย์ทั้งเก่าและใหม่
    ปกิณกะพระกสิณ ตอน 1
    ตามข้อมูลนั้นพระกสิณทุกยุคทุกองค์ มีการอธิษฐานจิต สวดมนต์ ภาวนาจากหลวงปู่มาพร้อมๆกันมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ประมาณปี 2520ปลายๆ จนมาแจกเอาเมื่อปี 2540-2542 จากนั้นหลวงปู่ท่านก็ฝากพระเกือบทั้งหมดให้ลูกศิษย์ของท่านจำนวน 4-5 ครอบครัวไปดูแลต่อเรื่อยมาเป็นเวลานับสิบปี... จนลูกศิษย์ที่ท่านฝากพระไว้นั้นยอมเอาออกมา(ให้บูชาต่อ) เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ราวกับว่าหลวงปู่ท่านอาจทราบกาลล่วงหน้าแล้วว่า ถ้าแจกพระออกไปตั้งแต่ต้น ไม่ฝากพระกับลูกศิษย์เหล่านี้เอาไว้ พระกสิณที่ท่านสร้างนี้ คนก็คงจะไม่รู้จักของดีกัน เพราะพระทำแบบฝีมือชาวบ้านไม่ค่อยสวย และพระองค์ใหญ่มาก ประกอบกับยุคนั้นยังไม่ค่อยมีใครรู้จักท่าน และท่านคงทราบอีกด้วยว่า พระกสิณของท่านคงต้องออกมาเผยแผ่ในยุคนี้ ยุคที่มีเครื่องมือสื่อสารในการเผยแพร่ข้อมูลที่ดีกว่ายุคก่อนๆ หลักๆโดยมีคุณแฝงจันทร์ คุณbat119 และคุณหนุ่มเมืองแกลง คุณTIDTON ฯลฯ สมาชิกในเว็บพลังจิต ที่บูชาจากลูกศิษย์ที่หลวงปู่ฝากไว้เหล่านั้น เพื่อมาเผยแพร่ต่อ ก็เท่ากับว่าได้ช่วยเหลือเจือจุนครอบครัวของผู้ที่หลวงปู่ฝากพระกสิณเอาไว้ในยามเจ็บป่วยในวัยชราอีกด้วย..
    ซึ่งยุคที่พระกสิณออกมาเผยแพร่นี้ ก็คล้ายเป็นยุคที่เปิดตัวของหลวงปู่ท่าน ลูกศิษย์ที่หลวงปู่ได้ฝากพระกสิณไว้จึงได้นำออกมาให้เผยแผ่ในช่วงเวลานี้พอดี ซึ่งเป็นยุคที่ผู้คนลำบาก และมีภัยต่างๆนาๆมากมายรอบตัวไปหมด โดยเฉพาะภัยที่มาจากธรรมชาติ ภูติผีปีศาจ วิญญาณร้าย ไสยศาสตร์ ฯลฯ ภัยเหล่านี้เหมือนดั่งเป็นมารที่มองไม่เห็น และไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้อย่างชัดเจน ที่จะมาบั่นทอน และทำลายความสงบสุขของผู้คนในยุคนี้เลยก็ว่าได้
    แต่ผู้ที่มีกำลังใจเข้มแข็ง โดยเฉพาะผู้ที่มีศีล มีธรรมนั้น ก็คงไม่มีปัญหาอะไรมากนัก เพราะธรรมย่อมคุ้มครองผู้มีธรรมนั้น แต่ถ้าผู้ที่กำลังใจยังไม่ดีพอ หรือยังไม่ค่อยมั่นใจในศีลธรรม บารมีของตน ก็พึงแสวงหาที่พึ่ง ที่ยึดเหนี่ยวทางใจ และกาย โดยเฉพาะของที่เปรียบเป็นตัวแทนที่ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ที่พึ่งอันประเสริฐที่สุด ซึ่งตัวแทนของคุณพระเหล่านั้นที่เราเห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ วัตถุมงคล ที่เป็นรูปพระพุทธรูป รูปเหมือนครูบาอาจารย์ ฯลฯ แต่ทว่า ถ้าจะให้มั่นใจได้จริงๆควรจะเลือกหาของที่พระอริยสงฆ์ หรือพระผู้มีศีลมีธรรมอันบริสุทธิ์เป็นผู้อธิษฐานจิตให้ เนื่องจากท่านเหล่านั้นสามารถเข้าถึงความเป็นพุทธะได้จริงๆ และเวลาที่ท่านเหล่านั้นจะอธิษฐานจิตของอะไรก็ตาม ท่านจะอาราธนาคุณพระรัตนตรัยเข้าครอบสถิตที่ของไว้ทุกครั้งไป..

    ปกิณกะพระกสิณ ตอน 2
    พระกสิณนั้น ก็เป็นหนึ่งในของมงคลชั้นดี ที่สุดยอดพระอริยสงฆ์เนื้อนาบุญใหญ่อย่างองค์หลวงปู่พิศดูได้สรรสร้างขึ้นจากเหล่าสรรพมวลสารที่ทรงอิทธิคุณต่างๆ ทั้งที่เกิดเองตามธรรมชาติที่เรียกว่าเป็นทนสิทธิ์ อันได้แก่แร่ธาตุ ว่านยา ไม้มงคลต่างๆ และมวลสารที่ท่านตั้งใจเสกสรรค์ปรุงแต่งขึ้นมาเอง อาทิ ผงลบสูตรสนธิต่างๆ เกศา ชาญหมาก น้ำหมากน้ำมนต์ ข้าวก้นบาตร ฯลฯ จนเรียกมวลสารเหล่านั้นว่า ‪#‎ผงกสิณ บวกกับความศรัทธาและภูมิปัญญาของชาวบ้านลูกศิษย์ลูกหาในสมัยนั้นที่ร่วมกันมาช่วยสร้างพระถวาย จัดเป็นผลงานที่ดูเข้มขลังคลาสสิคได้ใจมากๆ..
    ผมเองเคยฟังหลวงปู่ท่านพูดถึงการอธิษฐานจิตของๆท่าน ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า ไม่ว่าจะวัตถุมงคล หรือของที่มีคนเอามาถวาย หลวงปู่ท่านก็จะน้อมเอาของนั้นไปถวายพุทธนิมิตรของพระพุทธเจ้า บนพระเกศแก้วจุฬามณีเจดีย์สถานให้อีกต่อหนึ่งด้วย เพราะฉะนั้นผู้ที่ถวายของให้หลวงปู่ท่าน ก็จะได้รับอานิสงส์สูงเป็นพิเศษอีกชั้นหนึ่งเลย แต่ถ้าเป็นวัตถุมงคลต่างๆนั้น ถ้าได้องค์หลวงปู่ท่านน้อมเอาไปถวายแด่พระพุทธเจ้าตามที่ท่านบอกไว้ ของนั้นจะเป็นของศักดิ์สิทธิ์เป็นที่สุดหาที่เปรียบมิได้เลย เนื่องจากของนั้นๆเป็นของพระพุทธเจ้าท่านแล้วนั่นเอง ประกอบกับความบริสุทธิ์ของจิตหลวงปู่ท่าน แถมกำลังแห่งฤทธิ์อภิญญา และสมาบัติ ที่หาผู้ใดเสมอเหมือนได้ยาก ถ้าท่านตั้งใจอธิษฐานธรรมบรรจุเข้าไปทำให้ของเหล่านั้นบังเกิดอานุภาพอย่างไม่มีประมาณ ยิ่งเป็นพระกสิณ ว่ากันว่าหลวงปู่ท่านอธิษฐานธรรม และบรรจุวิชชาหัวใจมหาพรหมเข้าไว้ด้วย คงต้องเรียกได้ว่าเป็นพลังอจิณไตย อย่างไม่มีประมาณเลยทีเดียว..

    ที่ผมนำเรื่องของพระกสิณมาเขียนนี้ก็ไม่ได้จะเชียร์เพื่อการอันใด และผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับใครใดๆทั้งสิ้นนะครับ เพียงแต่อยากจะบอกเล่าต่อๆกันไป ถึงความเป็นจริง และคุณค่าของพระชุดนี้ว่าดีมากๆ แต่อาจจะเล่นยากสักหน่อย ค่อยๆศึกษากันไป สำคัญคือ อย่าโลภจนทำให้ประมาทพลาดพลั้งจนได้ของปลอมมาบูชาก็เท่านั้น
    เรื่องดีๆบางเรื่องหากเราไม่เอามาเล่ากันบ้าง ก็คงยังเป็นที่ปิดบังไปอีกนาน ซึ่งกว่าจะรู้ ของเหล่านั้นก็คงสูญหายไปเยอะ และหลายท่านคงพลาดโอกาสดีๆไปเสียเปล่าครับ
    แต่ก็ต้องขอออกตัวอีกนิดนะครับว่า ที่ผมไม่มีพระกสิณที่จะแบ่งให้ท่านใดไปบูชาทั้งสิ้น เพราะผมสะสมไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตรงกันข้ามผมคิดอยากจะเก็บเพิ่มเติมเสียด้วยซ้ำ และกราบขอร้องท่านสมาชิกทุกท่านว่า โปรดอย่าเอาพระกสิณมาถามผมเลย ผมไม่รับดูพระกสิณ เพราะผมเองก็ยังเป็นผู้เริ่มศึกษาเหมือนกัน และไม่อยากมีปัญหากับใครไม่ว่าจะเป็นคนที่ขาย โดยเฉพาะพวกทำพระปลอม ทั้งๆที่ก็รู้อยู่ว่าเป็นใคร แต่ขออย่างเดียวว่าถ้าคุณ(คนที่ทำพระปลอม) ยังนับถือพระพุทธศาสนา และเห็นหลวงปู่เป็นครูบาอาจารย์ เลิกทำเถิดครับ เพราะการกระทำของคุณ ไม่ได้ทำให้คุณเจริญขึ้นเลย มีแต่จะทำให้วิบากกรรมพาชีวิตคุณและครอบครัวของคุณตกต่ำไปมากกว่านี้ หลวงปู่ท่านมีบารมีสูง เทวดาประจำตัวท่านแรง และดุมาก ถ้าใครทำดีท่านก็ช่วยหนุนให้คุณเจริญยิ่งๆขึ้นไป แต่ถ้าทำไม่ดี ชีวิตจะตกต่ำย่ำแย่สุดๆ..!!!
    ยิ่งพระกสิณนี้เป็นพระมีอาถรรพ์บารมีสูง เพราะเทพผู้ที่รักษาเป็นพรหม ที่สามารถลิขิตชะตาชีวิตของคนเราได้นั่นเอง จึงขอให้ท่านที่มีรักษาบูชาไว้ดีๆ เพราะปัจจุบันหาพระผู้ทำได้แบบนี้ยากเสียแล้วครับ.. สาธุ
    (ข้อมูลคุณสิรภพ)
    พระเนื้อดิน และพระเนื้อผงผสมดินของหลวงปู่พิศดูท่าน เรียกว่า พระกสิณ ครับ เริ่มสร้างประมาณปี 2520 เป็นต้นมา... พระเนื้อดินเผา เมื่อกดพิมพ์พระ และนำมาตากแห้งเรียบร้อยแล้ว จะนำมาเผาไฟ สุมด้วยแกลบตามกรรมวิธีแบบโบราณ ในระหว่างนั้น หลวงปู่ท่านสวดมนต์เดินจงกรมบริกรรมทั้งหมด ถ้าดินสุกแล้วท่านจะนำมาไว้ที่ห้องสวดมนต์ ท่านจะสวดลายลักษณ์ของพระพุทธเจ้า ตลอดถึงพระคาถาและบทสวดต่างๆมากมายเลยครับ สำหรับพระยุคแรกๆของท่าน
    องค์หลวงปู่ได้ทําการลงอักขระบนกระดาน และลบผงเอง นอกจากนั้น ยังแกะพิมพ์และกดพิมพ์กันเองในวัด โดยลูกศิษย์ลูกหาที่มีความสามารถ และผู้ที่สนใจ (ฟังแล้วคิดถึงตอนที่สมเด็จโต วัดระฆังท่านสร้างพระสมเด็จครับ) อย่างใน มวลสารหลักๆ นอกจากผงที่หลวงปู่ท่านได้ลบสูตรเองแล้ว ยังมี ธูปอธิษฐาน ดอกไม้องค์หลวงปู่ไหว้พระ ว่านยา แร่ต่างๆ ผงพ่อแม่ครูบาอาจารย์ กาฝาก 108 เกศา ชาญหมาก ดิน ทรายลำธารศักดิ์สิทธิ์ของวัดเทพธารทอง(ปฐวีธาตุ)
    พระกสิณ คณะสมัยก่อนได้เล่าให้ฟังว่า องค์หลวงปู่ได้บอกว่า ถึงไม่ค่อยสวย แต่ก็เมตตามากนะ อีกหน่อยจะหายาก...ซึ่งก็เป็นไปตามองค์หลวงปู่ได้ทํานาย ใครมีใครก็หวง จะหาได้ที่ไหนที่พระป่าสายกรรมฐานจะสร้างพระแบบนี้ครับคือ ลงมือทําเอง และลบผงเองครับ (ส่วนมากทางสายป่ากรรมฐานนี้ลูกศิษย์จะยกมาให้เสก เสกเสร็จก็ยกไปแจกครับ)
    พระกสิณถ้าจะมองผ่านๆบางคนอาจจะบอกว่า ไม่คมไม่สวย แต่ถ้าคิดในมุมกลับจะรู้ถึงคุณค่า เพราะกว่าจะได้แต่ละองค์ต้องผ่านอะไรๆหลายๆอย่าง เช่น หามวลสาร ทําบล็อค รวมถึงองค์หลวงปู่จะต้องลบผงอีกต่างหาก อีกทั้งองค์หลวงปู่จะเดินจงกลมรอบกองไฟ ระหว่างเดินท่านจะภาวนาตลอดครับ เรียกได้ว่าทุกขั้นตอนการสร้างท่านควบคุมดูแลตลอด ไม่ปล่อยให้ตกหล่นเลยครับ คณะสมัยนั้นเล่าให้ผมฟังว่า แม้กระทั่งที่ไม่สวยองค์หลวงปู่สั่งว่าห้ามทําลาย ให้ปล่อยไว้แบบนั้นครับ.. ( ข้อมูลคุณแฝงจันทร์.. )
    เนื้อดินเผา ผสมผงวิเศษ และเผาแบบสุมไฟด้วยแกลบให้ดินสุก โดยทำกันในวัด ในระหว่างนี้หลวงปู่ท่านจะเดินจงกรมรอบกองไฟ(เพิกกสิณ)ครับ..
    พระกสิณนี้ เมื่อทำสำเร็จและได้จำนวนมากพอแล้ว ท่านจะสั่งให้ลูกศิษย์เอามาเก็บไว้ที่กุฏิโดยเอาผ้าขาวปูรอง แล้วเอาพระกสิณวางเรียงกันไว้เป็นชั้นหนึ่ง จากนั้นก็เอาผ้าขาวปูทับ และนำพระมาเรียงซ้อนกันไว้อีกเป็นชั้นที่สอง แล้วปูผ้าขาวทับอีก สลับกันไปเรื่อยๆ จนพระหมด ท่านจึงทำการอธิษฐานจิต เป็นเวลายาวนานนับสิบๆปี คล้ายกับรอเวลาที่จะแจกในอนาคตมากกว่า.. ซึ่งโดยปกติพระที่มีพลังจิตสูงอย่างหลวงปู่พิศดู ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเสกพระอะไรที่ยาวนานขนาดนั้นหรอกครับ เพียงแค่ท่านกำหนดจิตแป๊บเดียว หรือแค่จิตท่านคิดของก็มีความศักดิ์สิทธิ์ได้ถึงที่สุดแล้ว.. แต่การอธิษฐาน สวดมนต์ ภาวนาเป็นระยะเวลานานเกือบ 20 ปี พระที่อยู่กับท่านจะยิ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มากแค่ไหน..? อันนี้คงไม่ต้องกล่าวถึง
    แต่ที่หลวงปู่เก็บพระชุดนี้ไว้นานถึง 20 ปี ก็เพราะว่าท่านอาจทราบเหตุการณ์ล่วงหน้า ว่าในอนาคตจะมีภัยต่างๆมากขึ้น อีกอย่างถ้าหลวงปู่ท่านแจกพระในสมัยที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักท่าน พระที่ทำก็คงสูญหายไปหมด ไม่มีใครรู้จัก สิ่งที่สร้างไว้ก็คงเสียเปล่า..
    พระอริยะอจิณไตยอย่างองค์หลวงปู่พิศดู ท่านทราบความเป็นไปในทุกสภาวะธรรม(ชาติ) ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ท่านทราบโดยละเอียดด้วยความเมตตากรุณา สิ่งใดที่ท่านตั้งใจทำ ตั้งใจสร้างขึ้นมานั้น ย่อมมีเหตุมีผลทั้งสิ้น เรื่องบางเรื่องเราไม่อาจรู้ได้ แต่หลวงปู่ท่านรู้โดยละเอียด..
    พระกสิณนี้ก็เป็นวัตถุมงคลอีกสิ่งหนึ่งที่หลวงปู่เป็นผู้ดำหริให้จัดสร้างด้วยองค์ท่านเอง ด้วยมวลสารที่ท่านสะสมมาสมัยธุดงค์ และของมงคลของครูบาอาจารย์ของท่าน ฯลฯ ทุกอย่างทำกันในวัด ทั้งลบผง ผสมเนื้อ กดพิมพ์ เผาดิน ตลอดถึงการอธิษฐานจิตเดี่ยว ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น ตั้งใจอย่างดีที่สุด นับเป็นพระเครื่องชุดแรกของท่านก็ว่าได้ ถึงรูปแบบอาจจะดูไม่สวยคมชัดเหมือนพระสมัยนี้ แต่ว่ามีความคลาสสิคในตัวมาก เพราะพระทุกองค์เป็นงานที่ทำด้วยมือ และใจของผู้ศรัทธาจริงๆ เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางใจสูงมาก.. หลวงปู่เคยบอกว่า ถึงจะไม่ค่อยสวย แต่คุณภาพสูงครับ.. สาธุ
    ( ข้อมูลคุณทุเรียนทอด..)
    " นะมะภะทะ จะภะกะสะ นะโมพุทธายะ นะชาลีติ พุทธคุณัง ธัมมะคุณัง สังฆคุณัง สะระณังคัจฉามิ "
    พระคาถาหลวงปู่พิศดู ไว้สวดเสกกำกับ พระกสิณ. เวลาเราสวมใส่เห็นหน้าใครต้องการผูกมิตรทำจิตใจให้เป็นสมาธิ แล้วบริกรรม. เมกะมุอุ. ครับ. หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า การบูชาพระพุทธเจ้านำมาชื่งเดชเดชาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระธรรมเจ้านำมาซึ่งปัญญาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระสงฆ์เจ้านำมาซึ่งทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ครับ. พระผงกรรมมัฏฐาน ยุคแรกๆของท่านสามารถใช้มือกำภาวนาได้ครับ คาถากำกับ พระขมิ้นเสกต่าง มิตติ จิตติ จิตติ มิตติ นะชาลีติ นโมพุทธายะ. (ทำไมหลวงปู่ถึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระครับ. เหตุผล. พระเวลาบวชต้องห่มเหลืองสมัยก่อนเขาใช้ขมิ้นย้อมผ้า. ขมิ้นเหลืองดั่งทองคำมิผันแปรเหมือนดั่งทองคำ. ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ท่านจึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระเสมอๆครับ. ) หลวงปู่เสกพระด้วยบทกรรมมัฏฐานทั้งสิ้น เช่นสวดพิจารณาอาการ32 เกสา โลมา.........มัตถะลุงคันติ สาคะลังฯ และอื่นๆ คาถาพระปัจเจกก็ใช้สวดด้วย สมัยก่อนท่านสวดทุกเช้าศิษย์เก่าๆรู้ดีครับ..
    ( ข้อมูลคุณเอื้อนขจี.. )
    พระกสิณหลวงปู่พิศดู ครูบาอาจารย์บอกมาว่าหลวงปู่ท่านลงวิชาหัวใจพระพรหม ไว้ในองค์พระมีอยู่ 2 รุ่น คือพระกสิณ และพระรูปหล่อพระธรรมธาตุ
    หัวใจพรหมหรือที่เรียกกันว่า พรหมวิหารธรรม คือ หลักธรรมของผู้ใหญ่ หรือหลักของผู้ครองเรือน ประกอบด้วยหลักธรรมสำคัญ 4 ประการ คือ
    - เม ตตา = ความรัก ความเอื้ออารีย์
    - ก รุณา = ความสงสาร เห็นอกเห็นใจกัน
    - มุ ทิตา = ความพลอยยินดี ที่เห็นผู้อื่นได้ดี
    - อุ เบกขา = ความวางภาระ วางเฉย
    ครูบาอาจารย์จึงถอดเป็นหัวใจของพระพรหม หรือ หัวใจพรหมวิหารธรรม ได้เป็น เม กะ มุ อุ ครับ
    ( ข้อมูล คุณทุเรียนทอด )
    เหตุผลสำหรับความน่าสนใจในพระกสิณของหลวงปู่พิศดู ธัมมจารี วัดเทพธารทอง จันทบุรี
    1. เป็นวัตถุมงคลที่สำเร็จขึ้นโดยพระอภิญญาใหญ่ ที่ทุกท่านได้ยอมรับในความเป็นพระอรหันต์
    2. เป็นวัตถุมงคลในยุคแรกสุดของท่าน ที่ได้มีความประสงค์การจัดสร้างเพื่อสงเคราะห์แก่ศิษย์
    3. เป็นวัตถุมงคลไม่กี่ประเภทในสายธรรมยุตินิกายที่ได้กำหนดให้สร้าง ลบผงและกดพระด้วยตัวเอง
    4. เป็นของมีการปลุกเสกทับถมนับครั้งไม่ถ้วน อธิษฐานจิตยาวนานมากเป็นพิเศษตลอดเวลากว่า 20 ปี
    5. เป็นวัตถุมงคลที่ท่านลงไว้ครบถ้วนทุกวิชาและวิชาเฉพาะทาง ทั้งด้านจิตตานุภาพและธรรมฤทธิ์
    6. เป็นวัตถุมงคลที่มีอายุการสร้างมานานพอสมควร มีธรรมชาติ มีความเก่า มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
    7. ท่านรับรองในความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลชุดนี้มาแต่สมัยก่อนแล้วว่า “พระนี้ดีมากและจะโด่งดังมาก”
    8. มวลสารและของวิเศษที่ท่านมอบให้นำมาสร้างล้วนเป็นของพิสดารที่ท่านรวบรวมไว้เมื่อครั้งเดินธุดงค์
    9. มีประวัติการสร้างไว้ชัดเจนโดยตัวท่านและศิษย์ใกล้ชิด ไม่ได้สร้างโดยโรงงาน ยังมีคนรุ่นเก่าให้ข้อมูลได้
    10. วัตถุมงคลชุดนี้มีไม่มากนัก และส่วนหนึ่งไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศไว้มากมายเป็นที่เสาะแสวงหากัน
    11. มีประสบการณ์สูงล้ำและเด่นชัด ชนิดปากต่อปากมาแต่ยุคสมัยก่อนแล้ว คนในพื้นที่ให้การยอมรับมานาน
    12. ประสบการณ์ที่มีได้มากหลายคนคือด้านคุ้มครองป้องกันและเจริญด้วยลาภยศสักการะและมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

    รูปเหมือนนั่งพญานาค.jpg
    พิมพ์ไพรีพินาศ.jpg
    พระปิดตาเขาควายเผือก2.jpg
    พระปิดตาอุดผง.jpg
     
  12. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,691
    ค่าพลัง:
    +14,072

    สวัสดียามสายครับป๋า :):):)
     
  13. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  14. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    พระกริ่งไตรมาสรวยทันตา เนื้อทองผสมอุดผง หลวงปู่ทองคำ สุวโจ
    กริ่งไตรมาส รวยทันตา.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2018
  15. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    เหรียญเบ็ญจะมหามงคลหรือ"เหรียญฟ้าลั่น"วัดสุปัฏนาราม ปี2516 องค์นี้หูเหรียญไม่มีนะครับ เลี่ยมพร้อมแขวน กะหลั่ยเดิม บูชา 750 บาท

    เหรียญฟ้าลั่น.jpg

    "เหรียญฟ้าลั่น"วัดสุปัฏนาราม
    ประวัติความเป็นมาและพิธีพุทธาภิเษก
    ในระหว่างที่พลตรีจุมพล ทองทาบ ได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมนั้นได้ปรึกษาหารือกับคณะกรรมการว่า ควรจะหาเงินสักจำนวนหนึ่งมาสร้างสำนักงานของสมาคม และที่ประชุมได้มีมติให้สร้างเหรียญขึ้นเพื่อจำหน่าย ดังนั้น คณะกรรมการจึงไปขอคำแนะนำจาก เจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ โดยท่านได้แนะนำให้บรรจุรูปพระอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดอุบลราชธานี 5 องค์ ลงในเหรียญคือ
    พระคุณเจ้าพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ ศิริจันโท (จันทร์)
    พระอาจารย์เสาร์ กนฺต สีโล
    พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
    สมเด็จมหาวีรวงศ์ ติสโส (อ้วน)
    เจ้าคุณพระศาสนดิลก ชิตเสโน (เสน)
    รูปของพระอริยสงฆ์ทั้ง 5 องค์ที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวจังหวัดอุบลราชธานีและบุคคลทั่วไป เนื่องจากเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนี้ จะรวมกันอยู่อีกด้านหนึ่งของเหรียญเรียกว่า “เหรียญเบ็ญจะมหามงคล” และมีอักษรขอมแทรกไว้ ส่วนอีกด้านหนึ่งของเหรียญให้นำรูปพระสัพพัญญูเจ้า ซึ่งเป็นพระประธานในโบสถ์วัดสุปัฏนารามวรวิหารใส่ไว้
    ด้านหน้าเหรียญประกอบไปด้วย
    1.พระอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท) วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ
    2.สมเด็จพระมหาวีรวงศ์(อ้วน ติสโส) วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ
    3.ลป.เสาร์ กันตสีโล วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    4.ลป.มั่น ภูริทัตโต วัดป่าบ้านหนองผือนาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
    5.พระศาสนดิลก(เสน ชยเสโน) วัเสปัฏนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    ด้านหลังเหรียญเป็นรูปของ “พระสัพพัญญูเจ้า’ พระประธานในพระอุโบสถวัดสุปัฏนาราม ซึ่งเป็นรูปพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ของจ.อุบลราชธานี มีอักขระขอมติดองค์พระว่า “อะ อุ มะ”
    “อะ” คือ อะระหัง แปลว่า ผู้ไกลจากกิเลส ซึ่งหมายถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    “อุ” คือ อุตมะธัมโม หมายถึง พระสัจธรรมอันเลิศเมื่อพระพุทธองค์ตรัสออกมาแล้วย่อมเป็นหนึ่งไม่มีสอง
    “มะ” คือ มหาสังโฆ แปลว่า พระสงฆ์หมู่ใหญ่
    มีอักขระโค้งไปตามขอบเหรียญ ความว่า “นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา”
    อันเป็นพระคาถา ย่อมาจากพระปริตชื่อ “โมระปริตร” ซึ่งลป.มั่น ยกย่องว่าเป็นเลิศในทางแคล้วคลาด ป้องกันภยันตราย เรียกพระคาถานี้ว่า “หัวใจยูงทอง”

    คณะกรรมการสมาคมได้จัดสร้างเหรียญจำนวน 100,000 เหรียญ และได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกครั้งแรก ณ พระอุโบสถวัดสุปัฏนารามวรวิหาร เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2516 เวลา 16.00 น. ถึงวันที่ 25 พฤษภาคม 2516 เวลา 05.40 น. โดยมี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน เป็นองค์ประธานในพิธี และได้อาราธนาพระคุณเจ้าที่มีศีลาจาริวัตรเป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธามาร่วมพิธีพุทธาภิเษก จำนวน 62 องค์ เช่นพระอาจารย์ขาว วัดถ้ำกลองเพล, พระอาจารย์วัน วัดถ้ำภูเหล็ก, พระอาจารย์ฝั้น วัดถ้ำขาม, พระอาจารย์บุญมา วัดศิริสาลวัน, พระอาจารย์ชา วัดหนองป่าพง, พระอาจารย์หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอ, พระอาจารย์หลวงพ่อเทียม วัดกษัตริยาธิราช อยุธยา, พระอาจารย์หลวงพ่อทองอยู่ สมุทรสาคร, พระอาจารย์เจ้าคุณพระราชสุทธาจารย์ วัดวชิราลงกรณ์ ปากช่อง, เจ้าคุณพระโพธิญาณมุนี ชัยภูมิ, พระครูโอภาสสมณกิจ (หลวงพ่อผาง) วัดธรรมวิเวก ชนบท, เป็นต้น
    ในวันทำพิธีปลุกเสก ได้เกิดนิมิตอันดีปรากฏให้เห็นชัดเจน กล่าวคือ ขณะที่พราหมณ์กำลังกล่าวอัญเชิญเทวดา ท้องฟ้ามืดครึ้มขึ้นมาทันที ลมกระโชกแรง มีเสียงฟ้าคำรามอย่างกึกก้อง ฝนตกปรอยๆ ประมาณ 2-3 นาที แล้วก็หายไปราวปาฏิหาริย์ ประชาชนที่มาร่วมพิธีจึงให้ชื่อว่า “เหรียญฟ้าลั่น” เพราะเป็นนิมิตดี น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
    ในขณะที่เจ้าประคุณสมเด็จฯท่านกำลังนำเทียนชนวนที่จุดไฟเพื่อนำไปจุดเทียนชัยอยู่นั้นบังเกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นคือ
    “ฟ้าลั่นเปรี้ยงดังสนั่นหวั่นไหวที่ท่าน้ำวัดสุปัฏนารามถึง 2 ครั้งซ้อน และฟ้าได้มืดครึ้มลงอย่างกะทันหันพร้อมมีฝนโปรยปรายลงมาอยู่ครู่ใหญ่แล้วจึงหายไป”ในขณะที่เจ้าประคุณสมเด็จฯท่านกำลังจุดเทียนชัยอยู่นั้นพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ก็ได้เจริญพระพุทธมนตร์ ดังมีรายนามดังต่อไปนี้
    1.พระธรรมบัณฑิต วัดสุทธจินดา อ.เมือง จ.นครราชสีมา
    2.พระเทพมงคลเมธี วัดมณีวนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    3.พระเทพกวี วัดสุปัฏนารามวรวิหาร อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    4.พระวิโรจน์รัตนโนบล วัดทุ่งศรีเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    5.พระศาสนดิลก วัดสุปัฏนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    6.พระครูประจักษ์อุบลคุณ วัดเลียบ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    7.พระครูศีลคุณาภรณ์ วัดแสนสำราญ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
    8.พระครูวิรุฬสุตการ วัดวารินทราราม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
    9.พระครูสังวรศีลขันธ์ วัดสุทัศนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    10.พระครุกิตยาภรณ์โกศล วัดมหาวนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    การอธิษฐานจิตปลุกเสกนั้นได้ประกอบพิธีเป็นชุด ๆ ไปมีทั้งหมด 3 ชุด ดังนี้
    ชุดที่ 1.
    พระพิธีธรรม ชุดที่ 1.
    1.พระครูศีลคุณาภรณ์ วัดแสนสำราญ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
    2.พระครูบวรคณานุศาสน์ วัดศรีฐานใน อ.ป่าติ้ว จ.อุบลราชธานี(ในสมัยนั้นอ.ป่าติ้วยังขึ้นอยู่กับจ.อุบลราชธานีครับ)
    3.พระครูปลัดสวัสดิ์ วัดใต้ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    4.พระครูใบฎีกามานะ วัดไชยมงคล อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

    พระกัมมัฏฐานที่เมตตามาอธิษฐานจิต ชุดที่ 1.
    1.พระญาณสิทธาจารย์(สิงห์ สุนทโร) หรือ ลป.เมตตาหลวง วัดเทพพิทักษณ์ปุณณาราม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    2.พระครูภาวนานุศาสน์(สาย จารุวัณโณ) วัดป่าหนองยาว อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี
    3.พระครูสังฆรักษ์(ลป.พั่ว) วัดบ้านนาเจริญ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี
    4.พระญาณวิริยาจารย์(วิริยังค์ สิรินธโร)วัดะรรมมงคล บางจาก กรุงเทพฯ
    5.พระครูนวกรรมโกวิท วัดมหาวนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    6.พระครูภัทรคุณาธาร วัดพรหมวิหาร อ.เลิงนกทา จ.ยดสะร
    7.พระครูญารวิจิตร วัดประชาอุทิศ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี
    8.พระครูพินิจสังฆภาร วัดศรีนวล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
    9.พระอาจารย์ประยูร วัดป่าธรรมรังษี อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี(ขณะนั้น)
    10.พระอาจารย์ภา วัดหนองบัว อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

    ชุดที่ 2.
    พระพิธีธรรม ชุดที่ 2.
    1.พระครูอุบลเดชคณาจารย์ วัดศรีอุบลรัตนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    2.พระครูธรรมประเวที วัดสุทัศนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    3.พระครูใบฎีกาจันทร์ วัดบ้านท่าบ่อ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    4.พระปลัดหมูน วัดแสนสำราญ อ.วารินชำราบ อ.อุบลราชธานี

    พระกัมมัฏฐานที่เมตตามาอธิษฐานจิต ชุดที่ 2.
    1.พระราชสุทธาจารย์(โชติ คุณสัมปันโน) วัดวชิราลงกรณ์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    2.พระครูพิบูลธรรมภาณ(โชติ อาภัคโค)วัดภูเขาแก้ว อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
    3.พระโพธิญาณมุนี วัดศรีแก้งค้อ อ.แก้งค้อ จ.ชัยภูมิ
    4.พระครูอรุณรังษี วัดแสนสุข อ.วารินชำราบ อ.อุบลราชธานี
    5.พระครูพิเนตสมณกิจ วัดประชารังสรรค์ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ
    6.พระครูโอภาสสมณกิจ วัดป่าธรรมวิเวก อ.เมือง จ.ขอนแก่น
    7.พระครูวิจิตรธรรมภาณี วัดหนองบัว อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    8.พระครูอมรวิสุทธิ์(ลต.พวง สุขินทริโย) วัดศรีธรรมาราม อ.เมือง จ.ยโสธร
    9.พระครูพุทธิสารสุนทร วัดประดิษฐ์ธรรมาราม อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี
    10.พระครูวินัยธรอุทิศ วัดแสนสำราญ อ.วารินชำราบ อ.อุบลราชธานี

    ชุดที่ 3.
    พระพิธีธรรม ชุดที่ 3.
    1.พระครูประจักษ์อุบลคุณ วัดเลียบ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    2.พระครูชิโนวาทสาธร(อุไทย์ ปภัสสโร) วัดไชยมงคล อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    3.พระครูวินัยะร(พิมพ์) วัดสุทัศนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    4.พระครูวินัยธร(แดง)วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

    พระกัมมัฏฐานที่เมตตามาอธิษฐานจิต ชุดที่ 3.
    1.ลพ.มุม อินทปัญโญ วัดปราสาทเยอร์เหนือ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ
    2.พระราชมุนี(โฮม) วัดปทุมวนาราม ปทุมวัน กรุงเทพฯ
    3.พระโพธิญาณเถร(ลป.ชา สุภัทโท) วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
    4.พระชินวงศาจารย์(ลพ.พุธ ฐานิโย) วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา
    5.ลป.บุญมี โชติปาโล วัดสระประสานสุข อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
    6.พระครูทัศนประกาศ วัดสำราญนิเวศ อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี
    7.พระครูชโยบลบริบาล วัดหอก่อง อ.มหาชนะชัย จ.ยโสะร
    8.พระอาจารย์บุญกอง วัดโพนทัน อ.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี
    9.พระครูโอภาสธรรมคุณ วัดสุภรัตนาราม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
    10.พระมหามณี วัดบ้านก้านเหลือง จ.อุบลราชธานี

    หมายเหตุ ก่อนทำพิธีพุทธาภิเษกนั้นพระทุกรูปได้ทำสังฆกรรมปลงอาบัติเพื่อความบริสุทธิ์ก่อนทุกรูป
    และในพิธีนี้ได้มีพระเถระที่เมตตานั่งอธิษฐานจิตให้ตลอดคืนจนสว่างเลย ได้แก่
    1.ลพ.มุม อินทปัญโญ วัดปราสาทเยอร์เหนือ
    2.ลป.บุญมี โชติปาโล วัดสระประสานสุข
    3.ลป.ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง
    4.ลพ.พุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน
    ต่อมาคณะกรรมการสมาคมได้นำเหรียญ “เบ็ญจะมหามงคล” เข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกในโอกาสสำคัญๆ อีก 3 ครั้ง คือ
    พุทธาภิเษกครั้งที่ 2 ที่วัดมหาวนาราม (วัดป่าใหญ่) เมื่อ พ.ศ. 2518 พร้อมปลุกเสกพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง และเหรียญพระแก้วบุษราคัมของจังหวัด จัดทำเป็นที่ระลึกสร้างศาลหลักเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
    พุทธาภิเษกครั้งที่ 3 ที่วัดดอยตุง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน เป็นองค์ประธาน
    พุทธาภิเษกครั้งที่ 4 ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2528 ที่วัดมหาวนาราม (วัดป่าใหญ่) อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี

    ขอขอบคุณข้อมูลจากเบ็ญจะมะมหาราชสมาคม
     
  16. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,691
    ค่าพลัง:
    +14,072

    สวัสดียามสายครับป๋า :):):)
     
  17. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    บัติหวัดดีบ่าย.gif
     
  18. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    ev663517035th อ่อนนุช
    ev663517044th บางปู
     
  19. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,499
    ค่าพลัง:
    +30,842
    พระปัจเจกเหลือง จะไม่เหลือเก็บแล้วครับ ช่วงนี้มีคนมาหลังไมค์ไปหลายองค์
    DSC_0056.JPG DSC_0057.JPG DSC_0197.JPG DSC_0198.JPG
    DSC_0199.JPG DSC_0200.JPG DSC_0201.JPG DSC_0202.JPG

    43450096_2198846460188416_2022204326763560960_n.jpg 43500719_2198846353521760_8440542680118722560_n.jpg

    พระปัจเจกพุทธเจ้า เนื้อผง รุ่น "สมปรารถนา" ชุดนี้ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2552 โดยคณะศิษย์ผู้สร้างถวายได้จําลองพุทธลักษณะองค์พระปัจเจกมาจากรูปหล่อพระปัจเจกพุทธเจ้าที่เป็นสมบัติของวัด ซึ่งมีอายุกว่าหลายร้อยปีถึงพันปี รูปแบบพิมพ์ทรงสี่เหลี่ยม ประทับนั่งอยู่ในซุ้มประตู บนซุ้มประตูเขียนคําว่า "สติ" อักขระด้านล่างสุดบริเวณฐาน อ่านว่า พระปัจเจกโพธิ ส่วนด้านหลังองค์พระ ออกแบบเป็นรูปบาตรภายในมีดอกบัว และล้อมด้วยคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นภาษาล้านนา พระปัจเจกพุทธเจ้ารุ่นนี้ ครูบากฤษดาท่านเมตตาตั้งชื่อรุ่นว่า "สมปรารถนา" ท่านว่ารุ่นนี้ศักสิทธิ์ตั้งแต่ปั๊มแล้ว เพราะเจตนาดี พระชุดนี้สร้างไว้ทั้งหมด 5 สี มีรายละเอียดจำนวนจัดสร้าง ดังนี้

    1. สีว่านอมขาว สร้าง 5,000 องค์
    2. สีช็อคโกแล็ต สร้าง 5,000 องค์
    3. สีแดง สร้าง 5,000 องค์
    4. สีเหลือง สร้าง 5,000 องค์
    5. สีเขียว สร้าง 3000 องค์

    ซึ่งสีเขียวนี้ ได้นําถวายบูชาธรรมแด่หลวงปู่พิศดูทั้งหมด และมีสีเหลืองบางส่วนประมาณ 1000 องค์ หลังจากครูบากฤษดาท่านได้ปลุกเสกแล้ว ได้ถูกนําไปให้หลวงปู่พิศดูท่านปลุกเสกอีกครั้งพร้อมพระปัจเจกสีเขียว ซึ่งจะปั๊มตรายันต์พระพุทธเจ้าชนะมารไว้ ( บางส่วนได้แจกไปโดยไม่ปั๊มก็มีแต่น้อยมาก ) พระบางส่วนได้นําไปถวายวัดอื่นเพื่อทําประโยชน์ผ่านท่านครูบากฤษดา และอีกบางส่วนฝังไว้ที่เสาวิหาร วัดสันพระเจ้าแดง
    สาเหตุหลักที่สร้างเป็นพระปัจเจกโพธินั้น ความหมายอีกนัยหนึ่งก็คือ ภูมิธรรมขององค์หลวงปู่พิศดูนั้นท่านปราถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้ามาแต่เดิม จวบจนบารมีธรรมของท่านเพิ่มพูน และเห็นว่าความเกิด ความแก่ ความเจ็บ และความตาย นำมาซึ่งความทุกข์ทั้งปวง จึงเกิดความเบื่อหน่ายในชาติภพ จึงได้ถอนความปราถนาจากพระปัจเจกฯ สำเร็จเป็นพระอรหันต์ในชาตินี้
     
  20. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,691
    ค่าพลัง:
    +14,072

แชร์หน้านี้

Loading...