พระรศ.ดร.ชาตรี เหมพันโธ๑๕ปีแห่งการปักธงธรรมจักรในรัสเซีย

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 2 สิงหาคม 2007.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,496
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>พระรศ.ดร.ชาตรี เหมพันโธ๑๕ปีแห่งการปักธงธรรมจักรในรัสเซีย</TD></TR><TR><TD vAlign=top>1 สิงหาคม 2550 21:25 น.</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG][/IMG] [​IMG] จากสถิติของทางรัฐบาลรัสเซียที่สำรวจเมื่อปี ๒๕๔๗ พบว่า มีประชาชนชาวรัสเซียประมาณ๖ แสนคนที่นับถือศาสนาพุทธ และมีชาวรัสเซียมากกว่า ๒๐ ล้านคน จากประชากรทั้งหมด ๑๔๔ ล้านคน สนใจและศึกษาพระพุทธศาสนา



    ส่วนใหญ่เป็นผู้มีการศึกษาระดับสูง และนักธุรกิจผู้เคยเดินทางมาท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจกับประเทศไทยหรือประเทศใกล้เคียง
    พระพุทธศาสนาได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่วัยรุ่นหรือนักศึกษาอีกทั้งกีฬาศิลปะการป้องกันตัวของชาวเอเชียก็ยังเป็นแรงดึงดูดให้วัยรุ่น และนักธุรกิจจำนวนมากหันมาสนใจพระพุทธศาสนา ทั้งการฝึกกังฟู คาราเต้ ยูโด เทควันโด และมวยไทย ซึ่งการฝึกฝนกีฬาดังกล่าวต้องอาศัยการเข้าใจในปรัชญาทางพระพุทธศาสนาทั้งนิกายเซน และนิกายเถรวาท การฝึกสมาธิก่อนการฝึกซ้อมกีฬาดังกล่าวทำให้ผู้ฝึกซ้อมซึมซับปรัชญา และคำสอนทางพระพุทธศาสนาได้เป็นอย่างดี
    พระรศ.ดร.ชาตรี เหมพนฺโธ อายุ ๓๗ ปี พรรษา ๑๖ เจ้าอาวาสวัดอภิธรรมเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กพุทธวิหาร ประเทศรัสเซีย เล่าว่า เป็นคนจังหวัดพัทลุง ก่อนบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ได้บวชเณรมาแล้ว ๙ ปี แล้วได้จำพรรษาที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ จึงได้เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อปัญญานันทะภิกขุ ระหว่างเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่สวนโมกขพลาราม พอดีเรียนจบคณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คิดว่าจะทำงานเพื่อสานต่อของครูบาอาจารย์อย่างไร เพราะถ้ามีความรู้แล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ความรู้ที่มีก็จะสูญเปล่า ตรงนี้จึงคิดไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ เพื่อให้เป็นการเปิดโอกาสเป็นช่องทางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
    ต่อมาในปี๒๕๓๙ สามารถสอบชิงทุนของสถานทูตออสเตรเลีย อังกฤษ รัสเซียได้ ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจไปเรียนต่อที่ประเทศรัสเซีย เนื่องจากมองเห็นว่า ชาวรัสเซียได้รับความเดือดร้อนจากการอยู่ภายใต้การปกครองศาสนาที่เขาเชื่อกันมาดั้งเดิม ประกอบกับระบบการเมืองทำให้คนได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจ และเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากที่รัฐบาลรัสเซียได้ให้ทุนเรียนต่อปริญญาโท-เอก ในคณะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
    ความตั้งใจในการเดินทางไปรัสเซียครั้งแรกเพื่อให้ชาวรัสเซียรู้ว่าการมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาเรามาด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่ได้มาเพื่อที่จะมาเปลี่ยนศาสนาของคนรัสเซียแต่อย่างใด ซึ่งหน้าที่ต้องทำในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามที่ตั้งใจไว้ คือ การเป็นพระอาจารย์สอนพระพุทธศาสนาในมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สัปดาห์ละ ๔ ครั้ง ของคณะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและคณะปรัชญา รวมทั้งไปสอนพระพุทธศาสนาในวัดสายวชัรยานหรือสายทิเบต ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์จะสอนพระพุทธศาสนา มีการเทศนา และนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมที่วัดอภิธรรมเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กพุทธวิหาร
    แม้ในประเทศรัสเซียทั้งในส่วนที่อยู่ในทวีปเอเชียและยุโรปทุกเมืองจะมีศูนย์ศึกษาและปฏิบัติธรรมทางพระพุทธศาสนา แต่ก็ยังไม่มีศูนย์เพื่อการศึกษาและปฏิบัติธรรมแบบนิกายเถรวาท แม้แต่แห่งเดียว ดังนั้น การเปิดวัดอภิธรรมเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กพุทธวิหาร จึงเป็นการเปิดศักราชใหม่ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศรัสเซียและประเทศใกล้เคียง ทั้งในยุโรปตะวันออกและสแกนดิเนเวีย วัดอภิธรรมพุทธวิหารแห่งกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก จึงเป็นต้นแบบของวัดนิกายเถรวาทแห่งแรกในประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย โดยยึดหลักการและแนวทางการสอนตามที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ในพระไตรปิฎกทั้งพระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก
    ปัจจุบันชาวรัสเซียจำนวนมากได้หันมาสนใจศึกษาพระพุทธศาสนานิกายเถรวาททั้งที่ชาวรัสเซียสมัยก่อนไม่เคยรู้จักพุทธศาสนานิกายเถรวาท สาเหตุที่ชาวรัสเซียหันมาสนใจพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทเนื่องจากได้รับข้อมูลที่ถูกต้องว่า การศึกษาพระพุทธศาสนาควรศึกษาจากแหล่งต้นกำเนิดจริงๆ คือ จากพระไตรปิฎกเป็นคัมภีร์สำคัญทางพระพุทธศาสนา รวมทั้งชาวรัสเซียยังสนใจการสอนพระพุทธศาสนาของท่านพุทธทาส และสายของพระโพธิญาณเถระ (ชาสุภทฺโท) หรือหลวงพ่อชา
    ดังนั้นเมื่อชาวรัสเซียทราบความจริงดังกล่าว จึงมีการแปลและพิมพ์ตำราทางพุทธศาสนานิกายเถรวาทเป็นจำนวนมาก ทั้งพระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎกเป็นภาษารัสเซีย ส่วนพระอภิธรรมปิฎกยังไม่มีผู้สามารถสั่งสอนแนะนำพวกเขาได้ จากนี้ทางวัดมีโครงการที่จะแปลพระไตรปิฎกจำนวน ๔๕ เล่ม เป็นภาษารัสเซีย คาดว่าจะทำการแปลให้แล้วเสร็จภายใน ๑๐ ปี ส่วนโครงการที่คิดว่าจะทำได้ในเร็ววันนี้คือการขยายวัดไปตามเมืองต่างๆ ตั้งใจเอาไว้ว่าขอให้มีวัดสายเถรวาทเมืองละ ๑ วัด เพื่อให้เป็นศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาในประเทศรัสเซีย
    "วันนี้อาตมาได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลรัสเซียให้ทำงานวิจัยในมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะได้เป็น ศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย แล้วก็ทำงานเพื่อสังคมทางด้านการพัฒนาจิตใจชาวรัสเซีย แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลรัสเซียให้การชื่นชม ทำให้การทำงานด้านศาสนามีความง่ายขึ้น เพราะก่อนหน้านี้คนรัสเซียไม่ค่อยยอมรับคนเอเชียเท่าไรนัก มาวันนี้อาตมาก็ภูมิใจว่า ชีวิตทั้งชีวิตได้มอบให้พระพุทธศาสนา เลือดทุกหยด แรงเหงื่อทุกหยดอาตมาก็มอบให้พระพุทธศาสนา เพื่อให้เป็นพุทธบูชา" พระ รศ.ดร.ชาตรี กล่าวทิ้งท้าย

    เรื่องสุทธิคุณ กองทอง
    ภาพ ศุภชัย เพชรเทวี






    -->
    [​IMG]

    จากสถิติของทางรัฐบาลรัสเซียที่สำรวจเมื่อปี ๒๕๔๗ พบว่า มีประชาชนชาวรัสเซียประมาณ๖ แสนคนที่นับถือศาสนาพุทธ และมีชาวรัสเซียมากกว่า ๒๐ ล้านคน จากประชากรทั้งหมด ๑๔๔ ล้านคน สนใจและศึกษาพระพุทธศาสนา

    ส่วนใหญ่เป็นผู้มีการศึกษาระดับสูง และนักธุรกิจผู้เคยเดินทางมาท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจกับประเทศไทยหรือประเทศใกล้เคียง

    [​IMG]
    พระพุทธศาสนาได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่วัยรุ่นหรือนักศึกษาอีกทั้งกีฬาศิลปะการป้องกันตัวของชาวเอเชียก็ยังเป็นแรงดึงดูดให้วัยรุ่น และนักธุรกิจจำนวนมากหันมาสนใจพระพุทธศาสนา ทั้งการฝึกกังฟู คาราเต้ ยูโด เทควันโด และมวยไทย ซึ่งการฝึกฝนกีฬาดังกล่าวต้องอาศัยการเข้าใจในปรัชญาทางพระพุทธศาสนาทั้งนิกายเซน และนิกายเถรวาท การฝึกสมาธิก่อนการฝึกซ้อมกีฬาดังกล่าวทำให้ผู้ฝึกซ้อมซึมซับปรัชญา และคำสอนทางพระพุทธศาสนาได้เป็นอย่างดี

    พระรศ.ดร.ชาตรี เหมพนฺโธ อายุ ๓๗ ปี พรรษา ๑๖ เจ้าอาวาสวัดอภิธรรมเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กพุทธวิหาร ประเทศรัสเซีย เล่าว่า เป็นคนจังหวัดพัทลุง ก่อนบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ได้บวชเณรมาแล้ว ๙ ปี แล้วได้จำพรรษาที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ จึงได้เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อปัญญานันทะภิกขุ ระหว่างเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่สวนโมกขพลาราม พอดีเรียนจบคณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คิดว่าจะทำงานเพื่อสานต่อของครูบาอาจารย์อย่างไร เพราะถ้ามีความรู้แล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ความรู้ที่มีก็จะสูญเปล่า ตรงนี้จึงคิดไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ เพื่อให้เป็นการเปิดโอกาสเป็นช่องทางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาต่อมาในปี๒๕๓๙ สามารถสอบชิงทุนของสถานทูตออสเตรเลีย อังกฤษ รัสเซียได้ ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจไปเรียนต่อที่ประเทศรัสเซีย เนื่องจากมองเห็นว่า ชาวรัสเซียได้รับความเดือดร้อนจากการอยู่ภายใต้การปกครองศาสนาที่เขาเชื่อกันมาดั้งเดิม ประกอบกับระบบการเมืองทำให้คนได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจ และเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากที่รัฐบาลรัสเซียได้ให้ทุนเรียนต่อปริญญาโท-เอก ในคณะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
    [​IMG]
    ความตั้งใจในการเดินทางไปรัสเซียครั้งแรกเพื่อให้ชาวรัสเซียรู้ว่าการมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาเรามาด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่ได้มาเพื่อที่จะมาเปลี่ยนศาสนาของคนรัสเซียแต่อย่างใด ซึ่งหน้าที่ต้องทำในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามที่ตั้งใจไว้ คือ การเป็นพระอาจารย์สอนพระพุทธศาสนาในมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สัปดาห์ละ ๔ ครั้ง ของคณะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและคณะปรัชญา รวมทั้งไปสอนพระพุทธศาสนาในวัดสายวชัรยานหรือสายทิเบต ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์จะสอนพระพุทธศาสนา มีการเทศนา และนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมที่วัดอภิธรรมเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กพุทธวิหาร

    แม้ในประเทศรัสเซียทั้งในส่วนที่อยู่ในทวีปเอเชียและยุโรปทุกเมืองจะมีศูนย์ศึกษาและปฏิบัติธรรมทางพระพุทธศาสนา แต่ก็ยังไม่มีศูนย์เพื่อการศึกษาและปฏิบัติธรรมแบบนิกายเถรวาท แม้แต่แห่งเดียว ดังนั้น การเปิดวัดอภิธรรมเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กพุทธวิหาร จึงเป็นการเปิดศักราชใหม่ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศรัสเซียและประเทศใกล้เคียง ทั้งในยุโรปตะวันออกและสแกนดิเนเวีย วัดอภิธรรมพุทธวิหารแห่งกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก จึงเป็นต้นแบบของวัดนิกายเถรวาทแห่งแรกในประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย โดยยึดหลักการและแนวทางการสอนตามที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ในพระไตรปิฎกทั้งพระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก
    ปัจจุบันชาวรัสเซียจำนวนมากได้หันมาสนใจศึกษาพระพุทธศาสนานิกายเถรวาททั้งที่ชาวรัสเซียสมัยก่อนไม่เคยรู้จักพุทธศาสนานิกายเถรวาท สาเหตุที่ชาวรัสเซียหันมาสนใจพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทเนื่องจากได้รับข้อมูลที่ถูกต้องว่า การศึกษาพระพุทธศาสนาควรศึกษาจากแหล่งต้นกำเนิดจริงๆ คือ จากพระไตรปิฎกเป็นคัมภีร์สำคัญทางพระพุทธศาสนา รวมทั้งชาวรัสเซียยังสนใจการสอนพระพุทธศาสนาของท่านพุทธทาส และสายของพระโพธิญาณเถระ (ชาสุภทฺโท) หรือหลวงพ่อชา
    ดังนั้นเมื่อชาวรัสเซียทราบความจริงดังกล่าว จึงมีการแปลและพิมพ์ตำราทางพุทธศาสนานิกายเถรวาทเป็นจำนวนมาก ทั้งพระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎกเป็นภาษารัสเซีย ส่วนพระอภิธรรมปิฎกยังไม่มีผู้สามารถสั่งสอนแนะนำพวกเขาได้ จากนี้ทางวัดมีโครงการที่จะแปลพระไตรปิฎกจำนวน ๔๕ เล่ม เป็นภาษารัสเซีย คาดว่าจะทำการแปลให้แล้วเสร็จภายใน ๑๐ ปี ส่วนโครงการที่คิดว่าจะทำได้ในเร็ววันนี้คือการขยายวัดไปตามเมืองต่างๆ ตั้งใจเอาไว้ว่าขอให้มีวัดสายเถรวาทเมืองละ ๑ วัด เพื่อให้เป็นศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาในประเทศรัสเซีย "วันนี้อาตมาได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลรัสเซียให้ทำงานวิจัยในมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะได้เป็น ศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย แล้วก็ทำงานเพื่อสังคมทางด้านการพัฒนาจิตใจชาวรัสเซีย แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลรัสเซียให้การชื่นชม ทำให้การทำงานด้านศาสนามีความง่ายขึ้น เพราะก่อนหน้านี้คนรัสเซียไม่ค่อยยอมรับคนเอเชียเท่าไรนัก มาวันนี้อาตมาก็ภูมิใจว่า ชีวิตทั้งชีวิตได้มอบให้พระพุทธศาสนา เลือดทุกหยด แรงเหงื่อทุกหยดอาตมาก็มอบให้พระพุทธศาสนา เพื่อให้เป็นพุทธบูชา" พระ รศ.ดร.ชาตรี กล่าวทิ้งท้าย


    เรื่องสุทธิคุณ กองทอง
    ภาพ ศุภชัย เพชรเทวี




    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ---------------
    ที่มา:คมชัดลึก
    http://www.komchadluek.net/2007/08/02/j001_129416.php?news_id=129416
     

แชร์หน้านี้

Loading...