พระสมเด็จเกศทะลุซุ้ม

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย ครุฑยุดนาค, 5 สิงหาคม 2015.

  1. ครุฑยุดนาค

    ครุฑยุดนาค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,914
    ค่าพลัง:
    +7,213
    ขอความเห็นกันหน่อยครับ..พระผมเอง..ดีมั้ย?
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a.JPG
      a.JPG
      ขนาดไฟล์:
      87.8 KB
      เปิดดู:
      3,039
    • b.JPG
      b.JPG
      ขนาดไฟล์:
      89.7 KB
      เปิดดู:
      796
  2. นาวัง

    นาวัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    342
    ค่าพลัง:
    +192
    ดีครับ สวยงามครับ
     
  3. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    พิมพ์ทรงดีถูกต้องครับ แต่เนื้อหายังใหม่สดอยู่ ยังไม่แห้งเท่าไหร่ครับ ลองสังเกตุจุดตำหนิไข่ปลาใต้หัวฐานกลางด้านขวาองค์พระผมดูไม่ค่อยชัด ถ้าองค์กดติดชัดจะเป็นตุ่มจุดเล็กๆคมๆตรงขอบหัวฐานด้านขวาองค์พระ แต่บางองค์ก็เห็นแค่เป็นรอยเหนอะพอสังเกตุได้ ถ้ามีจุดนี้ก็มั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าไม่ใช่พระถอดพิมพ์ เป็นพระกดออกมาจากบล็อกแม่พิมพ์แท้ต้นฉบับ ลองสังเกตุดูครับ.......:cool:
     
  4. ครุฑยุดนาค

    ครุฑยุดนาค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,914
    ค่าพลัง:
    +7,213
    ขอบคุณมากครับพี่สำหรับคำติชม..ศึกษากันต่อไปครับ..ฮะฮะ
     
  5. ครุฑยุดนาค

    ครุฑยุดนาค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,914
    ค่าพลัง:
    +7,213
    ขอบคุณครับพี่..เดี๋ยวว่างๆ จะลองนั่งส่องใหม่ครับ..ได้สมเด็จมาเอามาลงถามตีเก๊ไว้ก่อนแล้วครับ..คำตอบออกมาเลยนิ่งๆ..ถ้าบอกว่าแท้สิถึงจะตกกะใจ..ฮะฮะ
     
  6. พระพันตา

    พระพันตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    323
    ค่าพลัง:
    +331
    พระสมเด็จต้องส่องดูบ่อยๆแล้วจะเข้าใจเนื้อหาพิมพ์ทรงยิ่งถ้าได้ดูของแท้บ่อยๆยิ่งได้เปรียบ จะดูแค่รูปแล้วตัดสินเลยก็กระไร นอกเสียจากจะเจอองค์ที่เก๊ดูง่ายก็ตอบได้เลย ภาพถ่ายกับองค์จริงมักไม่เหมือนกันขึ้นกับฝีมือคนถ่ายรูป ก็พอได้แค่สันนิฐานเบื้องต้นคงชี้ขาดยาก แต่เน้นว่าพระแท้พิมพ์ทรงโดยเฉพาะอกเอวองค์พระจะดูไม่แข็งขืนเหมือนขุดแต่งแบบพระเก๊แต่ร่องแขนจะดูพริ้วสวยแถมคมชัดลึก แขนพระจะดูเป็นธรรมชาติแขนช่วงบนจะใหญ่กว่าแขนช่วงล่าง พื้นในซุ้มจะต่ำกว่าพื้นนอกซุ้ม เข่าซ้ายองค์พระจะสูงกว่าด้านซ้ายของหัวฐานชั้นแรก เส้นฐานสิงห์กับหัวฐานจะคมชัด พื้นที่ใต้ฐานสิงห์จะแลslopeกับพื้นเป็นต้น ยังมีด้านหลังด้านข้างและขอบทั้งสองด้านให้สังเกตุอีกเรียกได้ว่าทั้งองค์มีจุดสังเกตุทั้งนั้น และที่สำคัญเนื้อหามวลสารที่เป็นเอกลักษณ์ สรุปต้องเคยเห็นของแท้มาก่อนและต้องดูบ่อยๆจนจำตำหนิและทุกสิ่งให้ได้จึงจะไม่พลาด ลืมไปความเก่ามักจะทำให้พระหดตัวโก่งงอไม่มากก็น้อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2015
  7. ครุฑยุดนาค

    ครุฑยุดนาค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,914
    ค่าพลัง:
    +7,213
    ขอบคุณมากสำหรับความรู้ครับพี่..องค์นี้ถ่ายเอง..เห็นตามหนังสือเลยจัดแสงทางเดียวที่ 10 นาฬิกา

    เห็นขอบบังคับพิมพ์แบบที่เขาว่าไว้..ฐานชั้นแรกด้านซ้ายสูงกว่าหัวเข่าซ้ายและสูงกว่าฐานด้านขวา..ฐานชั้นแรกด้านขวาสูงพอๆกับหัวเข่าด้านขวา..พื้นภายนอกซุ้มสูงกว่าพื้นภายใน..พื้นระหว่างฐานเป็นไปตามที่บทความบอก..ฐานชั้นล่างตรงกลางมีรอยยุบตัว

    สรุปเห็นพิมพ์ได้ตามหนังสือ..ไม่ได้เก๊กากๆ..เลยเอามาลงถามดูครับ..แหะๆ
     
  8. Tanyadol

    Tanyadol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +191
    ดูเองได้ครับ ถ้ารู้หลักการพิจารณา

    แนวทางการดูเนื้อพระสมเด็จวัดระฆัง
    เนื้อแบบที่ "ในแกร่ง นอกยุ่ย ปริแยก ย่น และมวลสารลอยตัวในเนื้อยุ่ย ที่เรียกว่า เมื่อดูแล้ว “แห้ง” และ “หนึกนุ่ม” นั้น ยังทำได้ยาก
    หลังจากที่ผมเริ่ม “ศึกษา” พระสมเด็จวัดระฆังมานาน จนตกผลึกทางความคิด จนเกิดความรู้ ก็ทำให้ผมได้เริ่มเข้าใจวิธีการ และเทคนิคการแยกพระสมเด็จ ออกจากพระโรงงาน
    ที่จากการศึกษามาระยะหนึ่ง พบว่า
    • ในปัจจุบันช่างโรงงานทำพระเก๊ได้พัฒนาฝีมือของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ที่เข้าใจว่า
    o นอกจากจะได้วิศวกรมวลสาร (Material Engineer หรือ Chemical Engineer)ชั้นฝีมือดีแล้ว
    o ยังต้องผสมผสานกันกับช่างศิลป์ฝีมือเยี่ยม และ
    o ที่ปรึกษาระดับ “เซียน”
    o จึงสามารถพัฒนาฝีมือผลิตพระโรงงานได้ใกล้เคียงกับของจริงทั้งเนื้อ ทั้งพิมพ์ได้ดีขนาดนั้น
    • แต่....เมื่อศึกษาจนเริ่มเข้าใจกระบวนการผลิตพระโรงงานแล้ว
    o ก็ทำให้ผมเริ่มเข้าใจขีดจำกัดของ “ช่างฝีมือ” ที่เก่งที่สุดว่า
    ต้องทำทั้งพิมพ์สุดท้ายหลังแต่งกลบเกลื่อน ให้เหมือนพิมพ์มาตรฐาน
    ทำทั้งเนื้อ มวลสาร ให้ "ดูเหมือน" กับเนื้อพระจริงๆ
    การฝังตัวอยู่และลอยตัวของมวลสารต่างๆในเนื้อพระ
    ขนาด น้ำหนัก และความหนาขององค์พระเมื่อเสร็จสิ้น ใกล้เคียงกับมาตรฐานมากที่สุด
    และ...ตำหนิแบบมาตรฐาน ที่กลมกลืน "เนียน" กันไปทั้งองค์
    จากการ
    อัดเนื้อและมวลสารใหม่ๆ ให้ดูเหมือนเก่า โดยใช้มวลสารที่หดตัวง่ายๆ เร็วๆ (จะได้ดูเก่าเร็วๆ)
    โปะ ให้ดูเก่าๆ เขรอะขระ เลอะเทอะ
    ชุบฝุ่นและสารเคมีสีมอๆ ให้มีคราบ เลียนแบบ "ผิวเก่า"
    ทารัก ทาสี ปิดทองบังความใหม่ของผิว
    บิด (ขณะยังไม่แห้ง) ให้มีรอยร้าว
    อบให้แห้งเร็ว และมีลักษณะรอยปริ (แต่มักจะปริทั้งหน้าและหลัง ไม่เป็นที่เป็นทาง)
    ชุบกาว ทอดน้ำมันให้ผิวดูเก่า เกรียม (แต่มักออกสีน้ำตาลไหม้) เลียนแบบสีน้ำมันตังอิ้ว
    o ที่จะทำได้ยาก
    โดยเฉพาะต้องทำให้มีเนื้อหลายอายุ
    การแต่งเติมในซอกเล็กซอกน้อยที่เป็นรอยปริแยกยุ่ยของมวลสารเก่าแบบธรรมชาติ
    การทำให้เกิดรูเข็มที่ผิว เลียนแบบ "รูน้ำตา"
    การทำให้มีรอยการไหลของคราบน้ำตาของพระสมเด็จ
    o ที่ทำให้เมื่อมองพระสมเด็จโดยรอบทั้งองค์แล้ว ดูเก่า “อย่างกลมกลืน สบายตา” กันนั้น น่าจะทำได้ยากมากๆ

    โดยเฉพาะจุดสำคัญๆ เช่น
    • ขอบด้านข้างที่ต้องปริ ที่แยกเป็นเกล็ดๆ รอบองค์ จากการถอดพิมพ์ ที่ต้องมีคราบเก่า และ/หรือเนื้อปูดใหม่แทรกอยู่อย่าง “กลมกลืน” ทุกจุดทั้งองค์
    • ด้านหลังที่เป็นร่องไม้กระดาน หรือร่องลึก และมีลักษณะเป็นหลุมเข็ม ปากหลุมกว้าง ขอบหลุมมน ผิวในหลุมดูนุ่ม มีผิวนวลทั้งหลุม
    • ผงพุทธคุณขาวนวล ที่ยุ่ยและฝังตัวในเนื้อแบบ "เก่า" อย่างเป็นธรรมชาติ ที่มีช่องว่างรอบเม็ดสม่ำเสมอ ทุกเม็ด
    • ผิวยุ่ยสม่ำเสมอทั้งองค์ อาจมีคราบน้ำตาหรือฟองเต้าหู้คลุม ไม่มีร่องรอยคราบโปะเละๆ มั่วๆ ใดๆ อย่างมากก็มีคราบฝุ่นละอองเล็กน้อย
    • รอยปริแยก และหลุมในเนื้อ ตามจุดต่างๆ อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีรอยบิด หรือรอยขีดข่วนในร่อง
    • รอยปูดของผิวองค์พระ ที่ต้องเทียบกับลักษณะปกติของพิมพ์
    ที่ผมได้เริ่มจากการศึกษาพระสมเด็จวัดพลับแล้วก็หันกลับมาดูพระสมเด็จวัดระฆังและบางขุนพรม

    ทำให้เข้าใจพระทั้งสามวัดนี้ง่ายขึ้นไปอีก ว่าจะดูได้ "ง่ายๆ" อย่างไร
    ดังนั้น เมื่อเริ่มดูพระสมเด็จวัดระฆัง จึงมีจุดสำคัญที่ต้องเริ่มพิจารณาจาก
    1. ความแกร่งของเนื้อในของพระ แบบหินอ่อน มีลายเกล็ดๆในเนื้อ แบบเดียวกันเลย (ของโรงงานเป็นเนื้ออัดแน่นแบบเรซิน มักไม่มีลายใสขุ่นในเนื้อ หรือไม่ก็เป็นเนื้อแป้งหรือปูนขาวอัดไม่มีความใสวาวและลายเกล็ดในเนื้อ)
    1. ความยุ่ย นวล นุ่มของผิว แบบต่อเนื่องไม่แบ่งเป็นชั้นๆ ไม่มีรอยคราบโปะ (ของโรงงานใช้คราบแป้งหรือปูนโปะ เห็นเป็นชั้นๆ ชัดเจน)
    2. มีเนื้อแห้ง ปริแยก ที่มักมีน้ำมันตังอิ้ว สีเทาเหลืองอ่อน(แบบสีน้ำมันเก่า ของโรงงานมักเป็นสีน้ำตาลไหม้)เคลือบอยู่ตามผิวและรอยแยก ในร่องมีผิวเป็นขุยยุ่ยแบบเดียวกันทั้งองค์
    3. มีผงพุทธคุณ ที่กร่อนยุ่ยแทรกฝังในเนื้อพระ และมีรอยแยกเป็นร่องรอบเม็ด มีอยู่ยิ่งมากยิ่งดี (ของโรงงานเป็นก้อนขาวไม่ยุ่ย แข็งๆ อัดตัวแน่นในเนื้อพระ ไม่มีร่องรอบเม็ด)
    4. มีเกล็ดด้านข้าง จากการถอดพิมพ์ ที่เก่า และมีผิวยุ่ยแบบเดียวกันทั้งองค์(ของโรงงานจะใช้คราบขาวๆ นวลๆ หรือเทาๆ โปะเข้าไปตามร่อง)
    5. ด้านหลังควรมีรอยไม้กระดาน ที่มีความยุ่ยในร่องแบบใกล้เคียงกันทั้งหมดทุกจุด(ของโรงงานอาจจะมีร่อง แต่ในร่องจะไม่ยุ่ย แต่ใช้คราบโปะแทน)
    6. ถ้ามีผิวปูดเป็นเม็ดแบบ "สิวหัวช้าง" จากในเนื้อ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ยิ่งมากจะยิ่งมั่นใจได้มากขึ้น (ของโรงงานใช้คราบโปะเป็นเม็ดกลมๆแทน ที่ดูได้ง่ายมาก)
    7. ถ้ามีมวลสารต่างๆ เช่นก้านธูป เกสรดอกไม้ ฯลฯ ลอยตัวในขุยยุ่ย ยิ่งทำให้ดูง่ายและชัดเจนมากขึ้น (ของโรงงานจะทำไม่ได้ ถึงได้ก็ไม่เนียน มีร่องรอยการแต่ง)
    หลังจากนั้นแล้วค่อยดูพิมพ์ ว่าตรงตามตำราหรือไม่
    เพราะ
    พิมพ์และตำหนิต่างๆของพระสมเด็จนั้น
    • ระดับ"วิศวกรเคมี"
    • ผสานกับ "ช่างศิลป์มือเยี่ยม"
    • ภายใต้ที่ปรึกษาของ"เซียนใหญ่" และ
    • เทคโนโลยีระดับ "บล็อกคอมพิวเตอร์"
    ทำเลียนแบบได้เกือบหมดแล้ว
    แต่เนื้อพระสมเด็จ แบบ
    • ในแกร่งเป็นลายหินอ่อน
    • นอกยุ่ยนวล ไม่มีชั้นโปะ
    • ผิวและข้าง ปริแยก ย่น และ
    • มวลสารสำคัญๆ ลอยตัวในเนื้อยุ่ย
    • มีรูน้ำตา ฟองเต้าหู้ และคราบการไหลของ "น้ำตา"
    • ที่เรียกว่า “แห้ง” "เนียน" "ฉ่ำ" "หนึกนุ่ม" และ “นวลตา” นั้น
    ยังทำให้เหมือนแบบธรรมชาติๆ ได้ยาก
    ดังนั้นถ้าเริ่มต้นที่เนื้อดีแล้ว มักไม่ค่อยมีปัญหาครับ
    นอกเสียจาก
    • พิมพ์ผิด
    • ศิลปะหยาบๆ เละๆ
    • องค์พระดูเลอะเทอะ
    • น้ำหนักมาก ขนาดเล็ก-ใหญ่ หรือหนา และเพี้ยนไปไกลๆ แบบหาคำอธิบายไม่ได้นั้น
    ก็ไม่น่าให้ความสนใจอยู่แล้วครับ
    ขอให้โชคดีทุกท่านครับ
     
  9. Tanyadol

    Tanyadol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +191
    พิมพ์ใช่ แต่เนื้อไม่ใช่ ไม่เก่าจริง มีเยอะแยะ ครับ
    ดูเนื้อใหัได้ก่อน พิมพ์ค่อยดูที่หลัง ครับ
     
  10. ครุฑยุดนาค

    ครุฑยุดนาค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,914
    ค่าพลัง:
    +7,213
    ขอบคุณมากครับพี่สำหรับความรู้
     
  11. ครุฑยุดนาค

    ครุฑยุดนาค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,914
    ค่าพลัง:
    +7,213
    วันนี้ติดพระองค์นี้ไปถามพระอาจารย์..เรียบร้อยครับ..จอดสนิท..อาจารย์ส่ายหน้า..ฮะฮะ
     
  12. PHYANAK

    PHYANAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2012
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +569

    นำเอาบทความของผู้อื่นมาลง
    ควรจะให้เครดิตผู้เขียนด้วยนะครับ
    ผมเห็นหลายกระทู้แล้ว ที่คุณนำมาลง
    ไม่ให้เครดิต ด.ร.แสวง ท่านเลย
     
  13. Tanyadol

    Tanyadol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +191
    ครับ ท่าน Phyanak บทความดังกล่าวนี้ เป็นบทความของ
    ท่าน อาจารย์ ดร แสวง รวยสูงเนิน ครับ ท่านเป็นอาจารย์ ผู้ที่สอนให้ความรู้ผมมาโดยตลอด ต้องขอโทษสมาชิกทุกท่านด้วยที่ ผมไม่ได้ลง เครดิตให้อาจารย์ เป็นเพราะว่าตำราการสอนต่างๆ นั้นได้บัญทึกลงไว้ในโทรศัพท์ และมีเยอะมาก ครับ
    หากท่าน สมาชิกท่านใดสนใจ ที่จะเรียนรู้วิธีการดูพระ ทุกชนิด อาจารย์ ท่านสอนให้โดยไม่คิดสตางค์ ไปเรียนกับท่านได้ที่บ้าน ที่ขอนแก่น ครับ หรือ ที่ ม.เกษตร ครับ
    จัดกลุ่มเรียนกันได้ทุกที่ ทั่วประเทศครับ
    ขอบคุณครับ
     
  14. Tanyadol

    Tanyadol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +191
    และที่ผม นำเอาบทความเหล่านั้นมาเผยแพร่ จากการวิจัยหลักพิจารณา ก็ทำตามความประสงค์ ของท่าน อาจารย์ ดร แสวง เพื่อต้องการให้เพื่อนสมาชิกผู้ที่สนใจ ได้รับความรู้ที่ถูกต้อง ไม่หลงกล ไม่โดนหลอก จากผู้ที่ฉวยโอกาส และ บิดเบือนความจริง นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...