พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย tee_tores, 18 พฤษภาคม 2020.

แท็ก: แก้ไข
  1. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    1674265861659.jpg 1674265864138.jpg 1674265866002.jpg 1674265868639.jpg 1674265870514.jpg IMG20230121085227.jpg

    พระปิดตา หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว พระผงคลุกรัก ปี 2497

    รับประกันแท้สากล

    สนใจทัก 9,***


    พระปิดตาที่นิยมสูงสุดของท่าน จำนวนการสร้างไม่เกินร้อยองค์ องค์นี้สภาพสวยมากๆเดิมๆ พุทธคุณดีในทุกๆด้านครับทั้ง เมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี เด่น โชคลาภ เป็นเยี่ยมครับ........... หลวงปู่เหรียญ นั้นท่านเป็นพระเกจิอีกหนึ่งองค์ของจังหวัดกาญจนบุรีที่โด่งดังมาก ท่านเป็นศิทษ์เอกของ หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ซึ่งเป็นสุดยอดปรามาจารย์สายตะวันตก ผู้สร้างพระหนึ่งในเบญจะพระปิดตาของประเทศไทย และเป็นพระอาจารย์ของ กลมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ พระโอรส ของเสด็จพ่อ ร.5 หลวงปู่เหรียญ ท่านได้สืบทอดวิชาจาก หลวงปู่ยิ้ม ทั้งหมด ดั่งปรากฎในบันทึกของหนังสือวัด(ของดีเมืองกาญจน์)เป็นลายมือของท่านว่า (...เมื่อฉันได้บวชแล้ว ได้อยู่กับพระอุปัชฌาย์ยิ้มองค์นี้ ถึง 15พรรษา เป็นศิทษ์ก้นกุฏิรับใช้ท่าน ท่านได้ใช้ให้ลงตะกรุดบ้าง ลงผ้ายันต์บ้าง ทำเลขยันต์บ้าง ปลุกเสกและทำน้ำมนต์บ้าง และเมื่อท่านจะมรณภาพได้มอบตำรับตำราทุกอย่าง ฉันได้ใช้มาจนถึงบัดนี้ )และต่อมาเมื่อครั้น หลวงปู่ยิ้ม ท่านได้มรณภาพลง หลวงปู่เหรียญ ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ต่อมา ปัจจุบันความนิยมในพระปิดตาของท่านนั้นสูง ไม่แพ้อาจารย์เลย นับวันยิ่งราคาสูงขึ้นๆทุกวัน ราคาตั้งแต่หลักพันปลายถึงหลักแสน แล้วแต่พิมพ์และความสวยขององค์พระครับ.........ประวัติพระโสภณสมาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ สุวรรณโชติ) วัดศรีอุปลาราม (วัดหนองบัว) จ.กาญจนบุรี หลวงพ่อเหรียญได้ชื่อว่าเป็นศิษย์เอกใกล้ชิดและได้รับการสืบทอดวิชาอาคมจาก \\\\\\\" หลวงปู่ยิ้ม \\\\\\\" เจ้าอาวาสองค์สำคัญของวัดหนองบัว อันเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่าหลวงปู่ยิ้ม ท่านเป็นอาจารย์ยุคโบราณที่มีพุทธาคมสูงยิ่ง และที่สำคัญ หลวงปู่ยิ้มท่านนี้ยังได้เคยสั่งสอนศิษย์ให้เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในทางไสยเวทวิทยาในยุคต่อมาอีกหลายรูป ศิษย์เอกของหลวงปู่ยิ้มที่ทราบมาได้แก่ หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว , หลวงปู่ดี วัดเหนือ , หลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ , หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ , หลวงพ่อสอน วัดทุ่งลาดหญ้า , หลวงพ่อแช่ม วัดจุฬามณี , หลวงพ่อหัง วัดเหนือ , หลวงพ่อดอกไม้ วัดดอนเจดีย์ , หลวงพ่อเหมือน วัดกลางเหนือ เป็นต้น ชาติกำเนิดของหลวงพ่อเหรียญ มีชื่อเดิมว่า เหรียญ นามสกุล รัสสุวรรณ เป็นบุตรของชาวไทยเชื้อสายจีน ประกอบอาชีพทำไร่นาของ พ่อโผ และ แม่แย้ม ท่านเกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2419 ตรงกับวันเสาร์ แรม 7 ค่ำ เดือนยี่ ปีชวด มีพี่น้องรวมกันทั้งสิ้น 7 คน ถึงแม้ว่าท่านจะเกิดมาในตระกูลชาวนา ชาวไร่ มีอาชีพที่เรียกว่าหาเช้ากินค่ำ ไม่มั่งคั่งสมบูรณ์ ต้องช่วยบิดา มารดา หาเลี้ยงชีพตามวิสัยชาวชนบทในสมัยที่บ้านเรือนยังไม่เจริญรุ่งเรืองเหมือนในสมัยนี้ แต่กระนั้นท่านก็ยังสามารถเสาะแสวงหาความรู้ ด้วยความเอาใจใส่กับวิชาที่เล่าเรียนจนสามารถอ่านออกเขียนได้ มีความเชี่ยวชาญ ชำนาญยิ่งทั้งภาษาไทย และภาษาขอม เป็นที่พึ่งแก่คนทั่วไป นับได้ว่าควรแก่การสรรเสริญ จากนั้นท่านจึงได้กลับมาช่วยเหลือบิดา มารดา ทำไร่ไถนา เป็นการแบ่งเบาภาระตามความจำเป็นในยุคนั้น ตลอดชีวิตของหลวงปู่เหรียญได้สร้างยอดอิทธิวัตถุมงคลไว้มากมาย ทั้งเครื่องรางของขลัง และพระเครื่อง อาทิ ตะกรุดลูกอม , ลูกอมผง , พระปิดตา ซึ่งวัตถุมงคลเหล่านี้โดยเฉพาะพระปิดตาเนื้อผงชุบรัก ท่านได้สร้างขึ้นตามแบบของพระอาจารย์ยิ้ม แต่มีขนาดย่อมกว่า สันนิษฐานว่าท่านได้สร้างขึ้นมาเรื่อย ๆ ตามแต่จะมีผู้ที่เลื่อมใสมาขอ หลวงพ่อเหรียญได้ทำแจกเป็นกุศลเรื่อยมา จนกระทั่งถึงปี พ.ศ.2494 บรรดาลูกศิษย์ของหลวงพ่อเห็นว่าของวิเศษที่ได้รับแจกมา มีประสบการณ์คุณวิเศษดีเยี่ยมประกอบกับเห็นว่าตัวหลวงพ่อเองชราภาพมากแล้ว จึงได้กราบขอให้หลวงพ่อได้จัดสร้างพระเครื่องขึ้นมาสักชุดหนึ่ง เพื่อไว้เป็นที่ระลึกและแจกให้กับผู้ที่มาร่วมทำบุญทำกุศลที่วัดหนองบัว พระเครื่องที่หลวงพ่อเหรียญได้จัดสร้างขึ้นมาในคราวนั้น ท่านได้ใช้เวลาในการรวบรวมมวลสารตามตำราของพระอาจารย์ รวมทั้งใช้เวลาในการปลุกเสกด้วยกันอยู่เป็นเวลานานประมาณ 3 ปีเศษ จึงได้นำออกมาแจกในงานฉลองอายุครบ 78 ปี และงานฉลองพระอุโบสถหลังใหม่ที่ท่านดำเนินการสร้างในปี พ.ศ. 2497 มีรูปแบบพระเครื่องและเครื่องรางด้วยกันมากมาย หลายพิมพ์ สันนิษฐานว่าพระเครื่องทั้งหมดที่ท่านได้สร้างในคราวนั้น มีจำนวนทั้งสิ้นถึง 84,000 องค์ บางพิมพ์ก็สร้างไว้น้อยมาก แบบพิมพ์ที่ได้รับความนิยม พอจะรวบรวมได้ อาทิเช่น พระพิมพ์ประทานพร พระสมเด็จฐานสามชั้น พระสมเด้จฐานสามชั้นซุ้มโค้ง พระพิมพ์ขุนแผน พระพิมพ์สมาธิห้าเหลี่ยม พระพิมพ์สมาธิกลีบบัว พระกริ่ง พระท่ากระดานเนื้อตะกั่ว ขันน้ำมนต์กลึงสร้างจากไม้ส้มป่อย เชือกคาดเอว ตะกรุดลูกอม ฯลฯ ในจำนวนพระเครื่องพิมพ์ต่าง ๆ ของหลวงพ่อเหรียญนั้นที่เห็นว่าเป็นที่รู้จัก มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับกันเป็นอย่างดีในวงการพระเครื่องก็เห็นจะเป็นพระเนื้อผงพิมพ์ประทานพร เพราะเป็นพระที่มีศิลปะสวยงาม มีเอกลักษณ์ สามารถจดจำได้ง่าย ทั้งยังมีประสบการณ์เด่นชัดมาตลอดหลายสิบปี ทั้งในด้านเมตตามหานิยม อำนวยโชคลาภ และป้องกันเภทภัยให้กับผู้บูชา ได้รับการกล่าวขวัญถึงมาโดยตลอด..
     
  2. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    1674265873280.jpg 1674266542349.jpg

    ผ้ายันต์ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ปี2515

    ของดีราคาเบาๆ พระพิธีเดียวกับรูปหล่อ,เหรียญที่ราคาขึ้นหมื่น,แสนไปหมดแล้วครับ รับประกันแท้สากลถึงยุค

    บูชา 1,900 บาท
     
  3. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    ปิดครับ

    IMG_20230122_140001.jpg IMG_20230122_135948.jpg IMG_20230122_135630.jpg IMG_20230122_135641.jpg IMG_20230122_135714.jpg

    พระปิดตา ไม้พยุงแกะ อุดผงพุทธคุณ หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่

    ตอกโค๊ต นะ หมายเลข ๙

    บูชา 999 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2023
  4. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    IMG20230123070943.jpg IMG20230123071004.jpg IMG20230123071010.jpg
    • พระชินราชพิมพ์ใหญ่ ไตรภาคี ลงรักปิดทอง จัดสร้างโดยยุวพุทธสมาคม ชลบุรี

    • มีเกศา บูชา 1,500 บาท
    • ท่านเจ้าคุณ นรฯ อธิษฐานจิตให้ตอนเป็นมวลสาร (ยังไม่ได้กดพิมพ์เป็นพระ) 1 ไตรมาส และอธิษฐานจิตอีกครั้ง เมื่อ 5 ธันวาคม 2513

      รุ่นนี้สร้างโดยยุวพุทธสมาคม ชลบุรี เพื่อหารายได้จัดตั้งมูลนิธิสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) องค์อุปัชฌายะของท่านเจ้าคุณนรฯ จึงไร้ข้อกังขา ท่านอธิษฐานจิตให้แน่นอน

      ยุวพุทธสมาคมชลบุรี ถือได้ว่าเป็นองค์กรที่มีผลงานในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ การจัดกิจกรรม การปฏิบัติธรรมรวมไปถึงการจัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อการกุศล

      ในยุคที่ยุวพุทธฯ มีนายกสมาคมที่ชื่อว่า “นายอธึก สวัสดิมงคล” ถือเป็นยุคทองของยุวพุทธฯอย่างแท้จริง เพราะยุวพุทธฯในสมัยนั้นได้สรรค์สร้างคุณประโยชน์และสิ่งดีงามหลายสิ่ง หลายอย่างขึ้นในวงการศาสนา

      หนึ่งในนั้นที่จะพูดถึงคือ “พระเครื่องชุดไตรภาคี” ซึ่งจัดสร้างขึ้นโดยได้รับการอนุญาตจากท่านเจ้าคุณนรฯ เป็นกรณีพิเศษ ที่ต้องบอกเช่นนั้นก็เพราะว่าคุณอธึกซึ่งมีศักดิ์เสมือนเป็นลูกบุญธรรมคนหนึ่งของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เป็นบุคคลหนึ่งที่ท่านเจ้าคุณนรฯให้ความเมตตาเป็นอย่างมาก ขนาดที่ว่าท่านเคยยืนสนทนาธรรมด้วยเป็นชั่วโมง จึงไม่แปลกเลยที่ทุกวันนี้พระเครื่องที่จัดสร้างโดยยุวพุทธฯ ถือเป็นพระเครื่องสายท่านเจ้าคุณนรฯที่ได้รับ ความนิยมเป็นอย่างกว้างขวาง

      ในชั่วโมงนี้ถ้าจะให้นึกถึงพระเครื่องชุดยุวพุทธฯที่ถูกประเมินค่าความนิยมสูงสุดก็ให้นึกถึง "พระชุดไตรภาคี" ชุดที่ลงรักปิดทอง และ ตะไบทองรวมถึงเส้นเกศาท่านเจ้าคุณนรฯ บรรจุอยู่ด้านหลังองค์พระ

      โดยคำว่า “ไตรภาคี” มีที่มาจากพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ๓ องค์ประจำประเทศไทย ที่ท่านเจ้าคุณนรฯ นับถือตั้งแต่ครั้งยังเป็นฆราวาส ได้แก่ ๑) พระแก้วมรกต ๒) พระพุทธชินราช ๓) พระพุทธสิหิงค์ ซึ่งต่อมาได้เพิ่มพระนิรันตราย และ พระรูปเหมือนเจ้าคุณนรฯเข้าไว้ด้วย (จริง ๆ ควรเรียกว่า เบญจภาคี) และปรากฎในภายหลังว่าพระพิมพ์รูปเหมือนถูกประเมินให้มีมูลค่าสูงกว่าพิมพ์พระพุทธถึงเกือบเท่าตัว) โดยออกแบบให้พระพิมพ์พระแก้วมรกต พระพุทธชินราช และพระนิรันตรายเป็นองค์พระรูปกลีบบัว ในขณะที่พระพิมพ์พระพุทธสิหิงค์กับพระรูปเหมือนเจ้าคุณนรฯ (รูปทรงห้าเหลี่ยม)

      รายละเอียดรวมไปถึงจำนวนการสร้างของทางยุวพุทธฯ นั้นแฝงไปด้วยความหมาย มีเหตุผลที่มาที่ไปชัดเจน องค์พระที่เป็นรูปห้าเหลี่ยมนั้นหมายถึง "การไหว้ ๕ ครั้ง" และยังหมายถึง "เบญจศีล" ที่เป็นหลักการปฏิบัติของศาสนาพุทธ ส่วนองค์พระที่เป็นรูปกลีบบัวให้หมายถึง "ดอกบัว" ที่เป็นดอกไม้ที่นิยมใช้บูชาพระรัตนตรัย
     
  5. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    ปิดครับ

    IMG20230123120153.jpg IMG20230123120145.jpg Screenshot_2023-01-23-12-05-35-67_40deb401b9ffe8e1df2f1cc5ba480b12.jpg Screenshot_2023-01-23-12-05-49-84_40deb401b9ffe8e1df2f1cc5ba480b12.jpg

    พระสมเด็จหลังเสือ พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง จ.สมุทรสาคร

    ที่ระลึกอายุครบ ๘๖ ปี พิมพ์พิเศษโรยแร่,เกศา และผงตะไบ หายาก ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมอีกรูปหนึ่งของจังหวัดสมุทรสาคร องค์นี้สภาพสวยเดิม

    พระสมเด็จหลังเสือเผ่น หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่ฯ
    มุมพระเก่า
    อภิญญา
    หลวงพ่อทองอยู่ อดีตเจ้าอาวาสวัดใหม่หนองพะอง จ.สมุทร สาคร และหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ เคยร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลร่วมกัน อีกเรื่องที่น่าสนใจคือพระเกจิอาจารย์ 2 องค์นี้เคยร่วมกันโปรดวิญญาณในคลองภาษีเจริญ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 2500 สืบเนื่องจากบริเวณหน้าวัดปากน้ำภาษีเจริญในขณะนั้น มีคนตกน้ำตายเป็นประจำ ชาวบ้านต้องตกอยู่ในความกลัวตลอด มีลูกศิษย์ไปเล่าเรื่องให้หลวงปู่ทั้งสองท่านฟัง ท่านจึงได้เดินทางมาโปรดวิญญาณทั้งหลายที่ต้องทนทุกข์อยู่ในน้ำนั้น โดยหลวงพ่อทองอยู่เดินโปรยข้าวตอกดอกไม้ และหลวงปู่โต๊ะนั่งสมาธิอยู่ที่ริมคลองบริเวณประตูน้ำ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น ผู้สูงอายุหลายคนที่ยังมีชีวิตอยู่ซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณนั้นต่างทราบเหตุการณ์นี้ดี

    วัตถุมงคลที่สร้างในสมัยที่หลวงพ่อทองอยู่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเทียบกับพระเกจิอาจารย์อื่นๆ ที่ร่วมสมัยเดียวกัน อย่างเช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงปู่สุด วัดกาหลง, หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง, หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู เป็นต้น แล้วถือว่าน้อยมาก และมีเพียงไม่กี่แบบ เช่น เหรียญรุ่นแรกสร้างปีพ.ศ.2509 จากนั้นก็มีเหรียญรุ่นต่างๆ อีกเพียงไม่กี่รุ่น, พระกริ่ง-ชัยวัฒน์สุตาธิการี, พระกริ่งตั๊กแตน เนื่องจากท่านเป็นศิษย์สายวัดสุทัศน์ เคยอยู่วัดสุทัศน์มาก่อน พระกริ่งของท่านจึงได้รับความนิยมอย่างมาก ใช้แทนพระกริ่งวัดสุทัศน์ได้เลย นอกนั้นก็เป็นพวกพระปิดตา, ล็อกเกต, ภาพถ่าย, ท้าวเวสสุวัณ (ขนาดบูชา) เป็นต้น

    สำหรับพระเครื่องที่ได้รับความนิยมสูงสุด ท่านสร้างมาก่อนปีพ.ศ.2500 คือ พระสมเด็จ มีพระสมเด็จเนื้อผงขาว และพระสมเด็จเนื้อผงใบลาน (สีดำ) มีหลายพิมพ์ แต่ที่เป็นที่รู้จักแพร่หลายและถือเป็นเอกลักษณ์ของท่านก็เห็นจะเป็น "สมเด็จหลังเสือเผ่น" ซึ่งสร้างมา 2-3 รุ่น หลายรูปแบบ (เสือเล็ก-เสือใหญ่) หลายพิมพ์ ปัจจุบันเป็นที่เสาะแสวงหาของนักนิยมสะสมพระเครื่องอย่างกว้างขวาง

    พระสมเด็จเนื้อผงของท่านสร้างจากผงวิเศษที่ท่านเก็บสะสมและทำไว้ด้วยตัวของท่านเอง ท่านมีความสามารถลบผงวิเศษทั้ง 5 ประการ คือ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห ตามตำรับเดียวกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) โดยผสมน้ำมันจันทน์หอม ลงไปในเนื้อพระดังกล่าวด้วย ทำให้พระสมเด็จของท่านนั้นมีพุทธคุณโดดเด่น

    สมเด็จทุกรุ่นของท่านนั้นมีมวลสารสุดยอดจริงๆ มีทั้งผงสมเด็จเก่าๆ ที่หลวงพ่อได้รวบรวมไว้ เช่น ผงแตกหักของพระวัดระฆัง, ผงแตกหักของพระกรุวัดบางขุนพรหม ซึ่งแต่ก่อนนั้นหาได้ไม่ยากนัก และที่สำคัญ คือ ผงของวัดพระยาบึงสุเรนทร์ (หลวงปู่ทองเป็นประธานการปลุกเสก) ซึ่งได้มาจากตระกูลของท่าน ดังนั้นในแต่ละรุ่นจึงสร้างได้น้อยและมีไม่มากนัก เพราะท่านพิถีพิถันในการสร้างพระสมเด็จเป็นอย่างมาก ไม่ให้เสีย ชื่อสำนักและครูบาอาจารย์ก็ว่าได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2023
  6. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    IMG20230124073241.jpg IMG20230124073315.jpg IMG20230124073326.jpg

    พระท่ากระดาน สมเด็จพระนเรศวร กาญจนบุรี ปี2518

    จัดสร้างโดยสมาคมชาวกาญจนบุรี
    สืบเนื่องจากปี2515-2517คณะกรรมการบริหารสมาคมชาวกาญจนบุรีซึ่งมี พล.ต.ท.จำรัส มังคลารัตน์ นายกสมาคมชาวกาญจนบุรี(นายกฯคนแรกของสมาคมฯ)ได้จัดงานบำเพ็ญกุศลถวายสังฆทาน แด่พระภิกษุสงฆ์และสามเณรจำนวน 500รูป ณ บริเวณเจดีย์ยุทธหัตถี อ.พนมทวนกาญจนบุรี ในการจัดงานครั้งนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อ น้อมอุทิศส่วนกุศลถวายแด่ดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช กับ พระเอกาทศรถตลอดจนบรรดานักรบที่เสียชีวิตในสงครามยุทธหัตถี

    ทางคณะกรรมการของสมาคมฯได้เข้าปรึกษาเกี่ยวกับการจัดสร้าง พระท่ากระดาน สมเด็จพระนเรศวร กับ สมเด็จพระญาณสังวร(เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวรวิหาร)ซึ่งท่านเป็นชาวกาญจนบุรีและเป็นองค์อุปถัมป์ของสมาคมชาวกาญจนบุรี(ปัจจุบันคือสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก องค์ที่19ของชาวไทย) วัตถุประสงค์เพื่อจัดหาเงินกองทุนของสมาคมชาวกาญจนบุรี เนื่องจากสมาคมเพิ่งเริ่มก่อตั้งได้เพียงไม่กี่ปี ยังขาดเงินเพื่อเป็นกองทุนทรัพย์ของสมาคมชาวกาญจนบุรี

    จนกระทั่งเมื่อต้นปี2518ที่ประชุมกรรมการสมาคมชาวกาญจนบุรีมีมติร่วมมือกันให้จัดสร้าง

    "พระท่ากระดาน สมเด็จพระนเรศวร" ขึ้นมาดังนี้
    1.พระพุทธรูปท่ากระดานบูชา ขนาด9นิ้ว และ ขนาด5นิ้ว
    2.พระเครื่องท่ากระดานขนาด4.5cm.ที่สร้างจากตะกั่วเก่าจากเหมืองแร่ของกำนันผล กลีบบัว อ.ศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี โดยผสมกับพระเครื่องท่ากระดาน กรุวัดท่ากระดานบน วัดท่ากระดานกลาง วัดท่ากระดานใต้ และพระเครื่องเก่าที่ชำรุดของวัดเทวสังฆาราม(วัดเหนือ)กาญจนบุรี จำนวน84,000องค์
    การจัดสร้างพระพุทธรูปบูชานั้น ได้มอบให้ช่างหล่อพระชื่อ นายแก้ว คนหนองบัว เป็นผู้ควบคุมการสร้างที่โรงหล่อ ธรรมรัษี โดยจัดพิธีเททองขึ้นที่หน้าพระอุโบสถเก่ารังษีสุทธาวาส วัดบวรนิเวศวรวิหาร ในวโรกาสดังกล่าว

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ทรงพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธาน
    บรรจุแผ่นทองคำในเบ้าหล่อเพื่อเป็นศิริมงคล เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2518 เวลา 16.00น.โดย พล.ต.ท. จำรัส มังคลารัตน์ นายกสมาคมชาวกาญจนบุรีเป็นผู้ทูลเกล้าถวายแผ่นทองคำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ พล.ต.อรุณ ทวาทศิน ผบ.กองพล9 กาญจนบุรี เป็นผู้ถวายแผ่นทองคำ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
    ในพิธีนั้นได้จัดพิธีแบบดั้งเดิม คือ หุ่นพระพุทธรูปและโลหะทั้งหมด ต้องนำเข้ามาอยู่ในบริเวณลานวัด เช่น ฉัตร ธง
    การตั้งธรรมาสน์ ให้พระคณาจารย์เข้านั่งปรกบริกรรมทั้ง4ทิศ มีพระพิธีธรรมเจริญคาถาพุทธาภิเษก พระคณาจารย์ที่นิมนต์มาร่วมพิธี จำนวน4รูป คือ 1.พระราชสังวรวิมลเถร(หลวงปู่โต๊ะ)วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ 2.พระราชมุนี(โฮม)วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ 3.พระครูสุฒาธิการี(หลวงปู่ทองอยู่)วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร 4.พระครูสุนทรธรรมกิจ(หลวงพ่อหยอด)วัดแก้วเจริญ สมุทรสงคราม

    สำหรับพระเครื่อง ท่ากระดานขนาด4.5cm.ได้สร้างแบบโบราณ โดยใช้ตะกั่วเก่าหยอดในแท่นพิมพ์ ควบคุมโดย นายกิจจา วาจาสัจ กรรมการสมาคมชาวกาญจน์ จากนั้นส่งไปขัดแต่งขอบ..........เมื่อเสร็จสิ้นแล้วได้นำทั้งพระบูชาท่ากระดานและพระเครื่องท่ากระดานนี้ไปทำพิธีพุทธาภิเษก โดยอาราธนาพระอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ พร้อมด้วยพิธีโหร พิธีพราหมณ์ ถูกต้องตามแบบพิธีทุกประการ บริเวณเจดีย์ยุทธหัตถี บ้านดอนเจดีย์ อ.พนมทวน กาญจนบุรี เมื่อวันที่18มกราคม2519เวลา12.59น.
    โดยอารธนาพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10รูป เจริญพระพุทธมนต์พระพิธีธรรม 2ชุดๆละ4รูป เจริญคาถาพุทธาภิเษก จนจบพิธีเมื่อวันที่19มกราคม2519เวลา02.00น. ส่วนพระเกจิอาจารย์ที่มาร่วมพิธีประกอบด้วย
    1.หลวงปู่เข็ม วัดสุทัศน์เทพวนาราม กรุงเทพฯ
    2.หลวงพ่อถีร์ วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
    3.หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี
    4.หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม กาญจนบุรี
    5.หลวงพ่อลำใย วัดลาดหญ้า กาญจนบุรี
    6.หลวงพ่อเอื้อน วัดท่าน้ำตื้น กาญจนบุรี
    7.หลวงพ่อนิล วัดสำนักคร้อ กาญจนบุรี
    8.หลวงพ่อผิว วัดสง่างาม ปราจีนบุรี
    9.หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
    10.หลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวง เพชรบุรี
    11.หลวงพ่อคลี่ วัดประชาโฆษิตตาราม สมุทรสงคราม
    12.หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ สมุทรสงคราม
    13.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
    14.หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยา กรุงเทพฯ
    15.หลวงปู่ทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร
    16.หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม
    17.หลวงพ่อเฮ้ง วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ชัยนาท

    บูชา 900 บาท
     
  7. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    ปิดแล้วครับ

    IMG20230124075633.jpg IMG20230124075647.jpg IMG20230124075650.jpg IMG20230124075653.jpg IMG20230124075658.jpg

    เหรียญรัชกาล 5 ทรงบัลลังก์ เนื้อเงิน (เหรียญเฮง) วัดโพธิ์ทอง

    เหรียญรัชกาลที่ 5 ทรงบัลลังก์ หลังพญาครุฑ นับเป็นครั้งแรกของวัดโพธิ์ทองที่มีการอัญเชิญรูปลักษณ์องค์พญาครุฑมาใช้ จนสร้างชื่อไปทั่วประเทศและต่างประเทศ
    หรือเรียกว่า(เหรียญเฮง บูชาแล้วว่ากันว่าจะโชคดีแบบน่ามหัศจรรย์ )วัดโพธิทอง ปี2535 โดยอาจารย์วราห์ ผู้ปลุกเสก เกจิแห่งพญาครุฑ
    นับเป็นเหรียญเก่า ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ในกลุ่มศิษย์สายตรง อ.วราห์ และยัง ได้พระบารมี องค์พระพุทธเจ้าหลวง(ร.๕) และ บารมี องค์แห่งองค์พญาครุฑ ที่ทำให้เจ้าของธุรกิจใหญ่และผู้ได้บูชา ประสบความสำเร็จ ในด้านทำกิจการค้าในการติดต่อ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จนทำให้เป็นที่ยอมรับ พร้อมค้าขายคล่องมืออยู่เสมอๆ และที่สำคัญ อำนาจแห่งองค์พญาครุฑ ทำให้ได้รับการยอมรับนับหน้าถือตาแก่ชาวต่างชาติ เสมอมา

    องค์พญาครุฑแห่งวัดโพธิทอง บางมด อ.วราห์
    ปลุกเสก ณ วัดโพธิทอง บางมด โดยเกจิผู้เรืองเวชวิชาแห่งยุคนี้ เป็นที่ยอมรับนับถือให้เป็น "ราชาแห่งองค์พญาครุฑ"ในปัจจุบัน โดยที่ชาวไทยและชาวต่างประเทศยอมรับนับถือกันทั่วหน้า

    เหรียญนี้เนื้อเงินสร้างน้อยมากๆ เลี่ยมทองอย่างดี รับประกันสากล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2023
  8. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    IMG20230125101017.jpg IMG20230125101007.jpg IMG20230125100942.jpg IMG20230125100909.jpg IMG20230125100918.jpg

    “จอมเทพแห่งอตุรทิศ ผู้บันดาลความร่ำรวย และขจัดภูติผีปีศาจ ปกป้องภยันตรายที่จะมาถึงตัว เฉกเช่นเหตุการณ์รถตู้โดยสารระเบิดไฟลุกไหม้ ผู้โดยสาร 12 คน รอดตายเพียงคนเดียว แบบปฏิหารย์ในตัวแขวนท้าวเวสสุวรรณเพียงองค์เดียวเท่านั้น

    ท้าวเวสสุวรรณ นับว่าเป็นท้าวจตุโลกบาลองค์สำคัญที่มีผู้กราบไหว้บูชามากที่สุดองค์หนึ่ง ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ (สันสกฤต: वैश्रवण Vaiśravaṇa; บาลี: वेस्सवण Vessavaṇa) เป็นอธิบดีแห่งอสูรย์ หรือยักษ์ หรือเป็นเจ้าแห่งผี เป็นหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุทรงอิทธิฤทธิ์อานุภาพมากประทับ ณ โลกบาลทิศเหนือ มียักษ์เป็นบริวาร

    คนไทยโบราณนิยมนำผ้ายันต์รูปยักษ์ผูกไว้ที่หัวเตียงเด็ก เพื่อป้องกันวิญญาณชั่วร้ายไม่ให้มารังควานแก่เด็ก ท้าวกุเวรองค์นี้มีกล่าวถึงในอาฏานาฏิยปริตร(“อาฏานาฏิยปริตร บทวิปัสสิสสะ นะมัตถุฯ” ซึ่งอยู่ในบทสวดมนต์ ๗ ตำนาน ว่าด้วยพระพุทธมนต์ที่สามารถป้องกันอุปัทวันตรายทั้งปวง บางแห่งกล่าวไว้ว่า สามารถป้องกันภัยจากอมนุษย์ ทำให้มีสุขภาพดี และมีความสุข) ว่านำเทวดาในสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา มาเฝ้าพระพุทธเจ้า และได้ถวายสัตย์ที่จะดูแลพระพุทธเจ้าและเหล่าสาวกไม่ให้ยักษ์หรือบริวารอื่น ๆ ของท้าวจตุโลกบาลไปรังควาน

    ท้าวกุเวรหรือท่านท้าวเวสสุวรรณนั้น ส่วนมากเราจะพบเห็นในรูปลักษณ์ของยักษ์ยืนถือกระบองยาวหรือคทา (ไม้เท้าเป็นรูปกระบอง) กันซะส่วนใหญ่ แต่แท้ที่จริงแล้ว ยังมีรูปเคารพของท่านในรูปของชายนั่งในท่า มหาราชลีลา มีลักษณะอันโดดเด่นคือ พระอุระพลุ้ยอีกด้วย กล่าวกันว่า ผู้มีอาชีพสัปเหร่อ หรือมีอาชีพประหารชีวิตนักโทษ มักพกพารูปท้าวเวสสุวรรณ สำหรับคล้องคอเพื่อเป็นเครื่องรางของขลัง ป้องกันภัยจากวิญญาณร้ายที่จะเข้ามาเบียดเบียน อย่างในมีดจักรนารายณ์ หลวงพ่อเดิม ลงเป็นคาถาเทพศาตาวุธ 1 ใน 5 อย่างนั้น คือ กระบองท้าวเวสฯ ดังนี้ “เวสสุวัณนัสสะ คทาวุธธัง” (ดูจากภาพประกอบอ้างอิง) ในภายหลังภาพลักษณ์ของท้าวกุเวรที่ปรากฏในรูปของชายพุงพลุ้ยเป็นที่เคารพนับถือ ในความเชื่อว่าเป็นเทพแห่งความร่ำรวย แต่ท้าวกุเวรในรูปของท้าวเวสสุวรรณซึ่งมาในรูปของยักษ์เป็นที่เคารพนับถือว่า เป็นเครื่องรางของขลังป้องกันภูติผีปีศาจ

    (จากสารานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่มที่ 3 หน้า 1439) กล่าวถึง ท้าวกุเวรหรือท้าวเวสสุวรรณไว้ว่า กุเวร–ท้าว พระยายักษ์ผู้เป็นเจ้าแห่งขุมทรัพย์ มียักษ์ และคุยหกะ (ยักษ์ผู้เฝ้าขุมทรัพย์) เป็นบริวาร ท้าวกุเวรนั้น บางทีก็เรียกว่าท้าวไวศรวัน (เวสสุวรรณ) ภาษาทมิฬเรียก “กุเวร” ว่า “กุเปรัน” ซึ่งมีเรื่องอยู่ในรามเกียรติ์ว่า เป็นพี่ต่างมารดาของทศกัณฐ์ และทศกัณฐ์ไปแย่งบุษบกของท้าวกุเวรไป ท้าวกุเวรมีรูปร่างผิวขาว มีฟัน 8 ซี่ และมีขาสามขา (ภาพท้าวเวสสุวรรณจึงมักเขียนท่ายืนถือไม้กระบองยาว อยู่หว่างขา) เมืองท้าวกุเวรชื่อ “อลกา” อยู่บนเขาหิมาลัย มีสวนอุทยานอยู่ไหล่เขาแห่งหนึ่งของเขาพระสุเมรุ ชื่อว่า “สวนไจตรต” หรือ “มนทร” มีพวกกินนรและคนธรรพ์เป็นผู้รับใช้ ท้าวกุเวรเป็นโลกบาลประจำทิศเหนือ คนจีนเรียกว่า “โต้เหวน” หรือ “โต้บุ๋น” คนญี่ปุ่นเรียกว่า “พสมอน“

    ความหมายของชื่อ “ท้าวเวสสุวัณ” นั้น เวส แปลว่า พ่อค้า หมายถึง พ่อค้าอันมีทรัพย์ อันได้แก่ ทองคำ เนื่องจากท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) เคยมีอดีตชาติเป็นพราหมณ์ เปิดโรงงานค้าขายหีบอ้อยจนร่ำรวย และได้นำเงินทองบริจาคให้ผู้ยากไร้ เมื่อเกิดใหม่จึงได้ครองเมืองวิสานะนคร ผู้คนจึงเรียกว่าเวสาวัณ ด้วยกุศลดังกล่าวจึงได้รับพรจากพระพรหมให้เป็นอมตะไม่ตาย และให้เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติต่างๆ ทั่วแผ่นดิน บ้านเรารู้จักกันในชื่อ “ปู่โสมเฝ้าทรัพย์” หรือในชื่อ “ธนบดี” แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์ หรือ “ธเนศวร” แปลว่า เจ้าแห่งทรัพย์ อุจฉาวสุ (มั่งมีได้ดั่งใจ) ยักษราช (ขุนแห่งยักษ์) รัตนครรณ(พุงแก้ว) อีศะสขี(เพื่อนพระศิวะ) ฯลฯ อีกทั้งมีหน้าที่คอยจดความดีของคนทางทิศอุดรขึ้นไปจารึกและประกาศให้ปวงเทพยดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์รับรู้ ผู้คนจึงนิยมจัดสร้าง หรือ จำหลักรูปท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) และเคารพบูชาเพื่อความมั่งคั่งอีกด้วย
     
  9. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    received_5963377497075980.jpeg FB_IMG_1674630017128.jpg FB_IMG_1674630007542.jpg
    Screenshot_2023-01-25-14-11-52-58_40deb401b9ffe8e1df2f1cc5ba480b12.jpg FB_IMG_1674630007542.jpg received_5963377497075980.jpeg FB_IMG_1674630017128.jpg


    *เหรียญจตุรพิธพรชัย หลวงพ่อกวย รุ่นเสาร์ 5 ปี 2563 เนื้อเงินลงยาแดง
    **มหาพิธีพุทธาภิเษกวันเสาร์ 5 วัดรัตนชัย (จีน) อยุธยา ปี 2563
    **เนื้อเงินลงยาแดง จำนวนการสร้าง 555 เหรียญ
    **เหรียญนี้เลข ๑๘๕ พร้อมซีลเดิม กล่องเดิม

    บูชา 3,700 บาท (ออกวัด2,000 บาท)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2023
  10. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    1674612196580.jpg 1674612198581.jpg 1674631215397.jpg 1674631220488.jpg

    พระกำแพงลีลาเชยคางข้างเม็ด กรุวัดบรมธาตุ จ.กำแพงเพชร

    องค์นี้เจ้าของเดิม เช่ามาในงานประกวดพระเครื่องที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะในปี2558 ในราคา ห้าหมื่นกว่าบาท พร้อมบัตรรับประกัน และตลับสแตนเลสอย่างดี

    บูชา 16,500 บาท


    – สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน พระพุทธรูปปางลีลาเป็นพระเครื่องที่มีศิลปะของสุโขทัยที่งดงามมาก และได้รับการยกย่องว่าเป็นพุทธศิลปะที่งดงามของโลก ในส่วนที่สร้างเป็นแบบพระเครื่องนั้นก็มีมากมายหลายกรุหลายจังหวัดและหลายยุคสมัย

    พระเครื่องปางลีลาที่สวยงามและได้รับความนิยมมาก ก็ต้องยกให้พระปางลีลาของจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งก็มีอยู่หลายกรุและหลายเนื้อ เช่น พระเนื้อดินเผา พระเนื้อชิน เป็นต้น

    ในกระบวนพระเนื้อชินที่เป็นพระปางลีลาของจังหวัดกำแพงเพชรนั้น พระที่มีความหายาก และงดงามทางด้านศิลปะแบบสุโขทัยชนิดหนึ่งก็คือ พระกำแพงลีลาเชยคางข้างเม็ด สาเหตุที่ได้รับชื่อนี้ก็คือ องค์พระประทับยืนอยู่ภายในซุ้มเรือนแก้วและที่ด้านข้างของซุ้มเรือนแก้วทำเป็นเม็ดไข่ปลาโดยรอบ จึงเรียกกันว่าข้างเม็ด

    ส่วนพุทธลักษณะขององค์พระเป็นพระปางลีลายกมือด้านซ้ายขององค์พระขึ้นเสมออก และปลายมือยกขึ้นสูงเสมอคางและอยู่ข้างๆ คาง เสมือนกับกำลังเชยคางอยู่ จึงเรียกกันตามพุทธลักษณะดังกล่าวที่เห็นว่า “พระกำแพงลีลาเชยคางข้างเม็ด” มองดูพุทธศิลปะโดยรวมสวยงามพลิ้วไหวเหมือนกำลังเดินไปข้างหน้า อ่อนช้อยงดงามมาก


    พระกำแพงลีลาเชยคางข้างเม็ด มีการพบที่กรุวัดบรมธาตุ วัดอาวาสน้อย และที่วัดศรีอริยาบถ ส่วนมากที่พบเป็นพระเนื้อชินเงิน มีบางท่านว่าพบพระเนื้อชินตะกั่วสนิมแดงบ้างแต่ก็น้อยมาก

    พระกำแพงลีลาเชยคางข้างเม็ดจำนวนพระที่พบมีจำนวนไม่มากนัก สันนิษฐานว่าพระอาจจะชำรุดเสียหายไปเสียตั้งแต่อยู่ใน กรุ จึงพบพระที่สมบูรณ์น้อยมาก พระที่พบสามารถแยกได้เป็นพระพิมพ์ใหญ่ พระพิมพ์กลาง และพระพิมพ์เล็ก

    พระพิมพ์กลางจะมีจำนวนมากที่สุด ซึ่งเป็นพระที่เราพบเห็นกันเป็นส่วนใหญ่ ส่วนพระพิมพ์ใหญ่นั้นหายากมากครับ พระกำแพงลีลาเชยคางข้างเม็ดสนนราคานั้นก็สูงมาตั้งแต่ในสมัยก่อนแล้ว เนื่องจากพุทธศิลปะสวยงามและมีจำนวนน้อยหายาก

    ส่วนในด้านพุทธคุณนั้นก็เฉกเช่นเดียวกับพระเมืองกำแพงเพชร เด่นทางด้านโชคลาภ โภคทรัพย์ เจริญก้าวหน้าทางการงาน และแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง

    ปัจจุบันพระลีลาเชยคางข้างเม็ดนั้นหาแท้ๆ ยากมากครับ ของปลอมมีระบาดกันมานานแล้ว เนื่องจากเป็นพระที่นิยมและมีราคาสูงนานแล้ว แต่ของปลอมก็ยังทำไม่ได้เหมือนนัก เนื้อหาก็ทำให้เก่าเป็นธรรมชาติไม่ได้ พระสวยๆ นั้นสนนราคาสูงมากในปัจจุบัน

    ขนาดของพระก็กำลังเหมาะที่จะเลี่ยมทำตลับห้อยคอ แต่เวลาจะเช่าหาก็ควรจะพิจารณาให้รอบคอบ ถ้าไม่แน่ใจควรปรึกษาผู้ชำนาญการที่ไว้ใจได้จะดีกว่าครับ ปัจจุบันต้องยอมรับว่าของปลอมทำได้ดีใกล้เคียงมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2023
  11. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    ปิดครับ

    IMG20230126075056.jpg IMG20230126075034.jpg IMG20230126075030.jpg IMG20230126075021.jpg IMG20230126075006.jpg IMG20230126075001.jpg IMG20230126074955.jpg IMG20230126074948.jpg

    @ตะกรุด "เงิน" พุทธคุณ 108 บารมี 9 คณาจารย์@
    1 ใน 299 ดอก (ดอกที่๙๒๕)



    ใช้ป้องกันอันตราย คุณไสย ภูตผีปีศาจ กลับร้ายกลายเป็นดี
    ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล จารมือเอง ด้วยแผ่นเงินบริสุทธ์
    เสกตลอดไตรมาส 51 (ช่วงเข้าพรรษา) พร้อมเข้าพิธีครั้งสุดท้ายในคืนเป็งปุ๊ด(เพ็ญวันพุธเที่ยงคืน) วันที่11 พ.ย. 2551 เวลา 24.00 น. โดยใช้คาถาพระอุปคุตล้านนา และขอบารมีจากพระอุปคุต ผู้เป็นเลิศทางฤทธิ์และลาภสักการะ เพื่อเป็นการเพิ่มลาภสักการะแก่ผู้จะนำตะกรุดไปบูชา
    และประสิทธิประสาทมอบให้กับมือผู้สั่งจอง


    (ตะกรุดรุ่นนี้ ไม่มีให้บูชาทั่วไป ต้องจอง
    สร้างทั้งหมด ๒๙๙ ดอก และรับกับมือครูบาน้อย เมื่อออกนิโรธกรรม)
    ขนาดยาว 6 ซม.(พร้อมเลี่ยมเดิมจากวัด
    เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.2 ซม.

    พุทธคุณ
    - ใช้ป้องกันอันตราย
    - ป้องกันคุณไสย
    - ป้องกันภูตผีปีศาจ
    - ช่วยปัดเป่าสิ่งเลวร้าย
    - ช่วยกลับร้ายกลายเป็นดี
    - มีเมตตามหานิยมดีมาก ๆ
    - คนรักคนชอบ
    - เจริญหน้าที่การงาน
    - ค้าขายดี
    - ร่ำรวยเงินทอง

    วิธีใช้
    - พกติดตัวเวลาออกจากบ้าน และเดินทางไกล
    - แช่น้ำทำน้ำมนต์ เอาไว้อาบ พรมบ้าน พรมร้าน พรมรถ


    คาถาอาราธนา
    พุทธังอาธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง
    บิดา มารดาอาราธนานัง พระครูบาอาจารย์ทุกพระองค์
    จงช่วยปัดเป่าสิ่งเลวร้าย และเสนียดจัญไรในบ้าน และที่อยู่อาศัยของข้าพเจ้า ในตนตัวของข้าพเจ้า ให้กลับหายไป ณ บัดนี้

    สะตะภะวะ - มะสะตะ - นะมะปะถะ - นะโมพุทธายะ
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2023
  12. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    ปิดครับ

    IMG20230126081824.jpg IMG20230126081806.jpg IMG20230126081812.jpg IMG20230126081808.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2023
  13. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    ปิดครับ

    IMG20230126075939.jpg IMG20230126081719.jpg IMG20230126081723.jpg IMG20230126081728.jpg

    ตะกรุดกาสะท้อนเงินแท้ รุ่นเจริญทรัพย์ ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล



    ฝังผงว่าน 108 พระธาตุ และเกศาครูบาน้อย
    ฝังโค๊ะหัวใจเศรษฐีเนื้อเงิน และแผ่นเงินหมายเลขประจำตะกรุด
    พิเศษ ครูบาน้อย เจิมแป้งเสกให้เป็นกรณีพิเศษ


    ตะกรุดกาสะท้อนรุ่นนี้จัดสร้างขึ้นเพื่อหารายได้การจัดซื้อที่ดินขยายเขตวัด
    สร้างเจดีย์ ๙ คณาจารย์(อาจารย์ครูบาน้อย)
    และทำบุญอัฐิครูบาผัดด้วยครับ


    ๙ คณาจารย์ของครูบาน้อย ประกอบด้วย
    1. ครูบาเจ้าศรีวิไชย ตนบุญแห่งล้านนาไทย ต้นแบบการเข้านิโรธกรรม
    2. ครูบาพรหมมา พรหมจักโก วัดพระพุทธบาทตากผ้า ป่าซาง ลำพูน
    ประสิทธิ์ประสาทการวิปัสสนากัมมัฎฐาน
    3. ครูบาหล้า(ตาทิพย์) วัดป่าตึง สันกำแพง เชียงใหม่ ได้ศึกษาวิชาธรณีศาสตร์ และเวทย์มนต์คาถาต่าง ๆ เช่น คำประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ฯลฯ
    4. ครูบาคำปัน นันทิโย วัดหม้อคำตวง เชียงใหม่ ได้ศึกษาอักขระภาษาล้านนา เรื่องของเมตตามหานิยม ตำรับตำรายาสมุนไพร วัตรปฏิบัติและการครองเพศบรรพชิต
    5. ครูบาชัยยะวงศา(ครูบาเหยียบศิลาเป็นรอย) วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ลี้ ลำพูน ประสิทธิ์ประสาทวิชา เวทมนต์คาถา และวัตรปฎิบัติการฉันอาหารเจ
    6. ครูบาอิ่นแก้ว อินทรโส วัดกู่เสือ พระอุปัชฌาย์(สามเณร)
    7. ครูบาอุ่นเรือน อินทรโส วัดป่าแคโยง พระอุปัชฌาย์ (ภิกษุ)
    8. ครูบาผัด ผุสลิตธสโม วัดศรีดอนมูล ศึกษาเกี่ยวกับตำรับยาสมุนไพร คาถาอาคมในด้านอยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยม
    ตะกรุดกาสะท้อน ตะกรุดประสิทธิเวช ฯลฯ
    9. พ่ออาจารย์(ฆราวาส) สล่ากุ่งหม่า บ้านแม่ก๊ะ อ.ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ ได้ศึกษาไสยาเวช


    ประสบการณ์ลงหน้าหนึ่งข่าวสดมาแล้ว
    แต่ต้องไม่ลืมกตัญญูต่อบิดา มารดา ผู้มีพระคุณ และทำความดีตามคำสอนของครูบาด้วยนะครับ


    ศิษย์พุทธาคมวิชากาสะท้อนครูบาผัด วัดศรีดอนมูล


    สุดยอดตะกรุดประสบการณ์ ที่ลงตามหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งมากมายหลายฉบับเกี่ยวกับประสบการณ์ที่เกิดขึ้นทางด้านแคล้วคลาด และด้านความเหนี่ยว เป็นต้น ตะกรุดก่าสะท้อน ครูบาน้อย เตชปญฺโญ วัดศรีดอนมูล จ.เชียงใหม่


    ตะกรุดก่าสะท้อน จัดเป็นเครื่องรางสายเหนือ ที่ได้รับความนิยมมานาน เชื่อกันว่า มีอิทธิคุณช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้ายและไม่ดีต่างๆ ให้สะท้อนกลับออกไป ไม่สามารถส่งผลร้ายแก่ผู้ที่พกบูชาติดตัวได้ ทั้งนี้เรามักจะออกเสียง "ก่า" เป็น "กา" จนกลายเป็น "ตะกรุดกาสะท้อน"

    ยันต์ก่าสะท้อนเป็นยันต์ที่ได้รับความนิยมมากในหมู่ผู้นิยมยันต์ล้านนาทั้งหลาย คำว่า “ก่า” เป็นภาษาล้านนา แปลว่า ป้องกัน, ไม่ให้เกิดขึ้น คุณวิเศษของยันต์ก่าสะท้อนนั้น สามารถป้องกันอันตรายต่างๆ ทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็น มนต์ดำ คุณไสย คุณผี คุณคน ที่กระทำย่ำยีมาใส่เรานั้น ตะกรุดนี้จะสะท้อนสิ่งเหล่านั้นกลับไปยังผู้ทำของทำคุณไสยใส่เราได้ตามกฎแห่งกรรม


    อย่างไรก็ตาม ยันต์ก่าสะท้อนมีหลายชนิดหลายแบบแตกต่างกันไป เช่น ยันต์ก่าสะท้อนที่ทำจากหนังลูกวัวเกิดแล้วตายคาอวัยวะเพศ ส่วนมากจะหุ้มหรือพอกยันต์ด้วยครั่ง ยันต์ก่าสะท้อนชนิดนี้สามารถป้องกันอันตรายได้หมด เป็นมหาอุด ปืนยิงไม่ออก หลวงปู่ครูบาเจ้าชุ่ม วัดวังมุย เคยสร้างไว้ ตอนนี้หายากมากแล้ว

    ในส่วนของยันต์ก่าสะท้อนที่ใช้ครั่งพอกนี้ มีคุณวิเศษมากหลายประการ ที่ใช้ครั่งพอกเพราะว่า หากมีผู้ใดประสงค์ร้ายกับเรา ทำคุณไสยใส่เรา ครั่งที่พอกยันต์ก่าสะท้อนจะแตก หากเรานำครั่งที่แตกนั้นไปเผาไฟ ของที่ผู้ประสงค์ร้ายทำใส่เราจะสะท้อนกลับไปหาตัวผู้นั้นเอง นี่คือที่มาของคำว่า ก่าสะท้อน คือทั้งป้องกัน และสะท้อนนั่นเอง


    ยันต์ก่าสะท้อนที่ต้องเขียนชื่อลงไปด้วย ยันต์ก่าสะท้อนชนิดนี้ เป็นชนิดที่ต้องเขียนชื่อของผู้ที่จะปกป้องไว้ด้วย ในแผ่นนั้นจะมีการเขียนชื่อ พ่อ แม่ ลูก ไว้ แล้วเก็บรักษาไว้ที่บ้าน แต่ยันต์ก่าสะท้อนชนิดนี้มีข้อเสียอยู่อย่างเดียวคือ ไม่สามารถใช้สืบต่อกันได้เพราะมีชื่อจารไว้เสียแล้ว หากผู้ที่จารชื่อไปเสียชีวิตไปหมดยันต์นั้นก็ไม่มีอำนาจที่จะรักษาใครได้อีกแล้ว


    การบริกรรมคาถาก่าสะท้อน ให้เริ่มด้วยการตั้งนะโม ๓ จบ แล้วตามด้วยคาถาที่ว่า "พุทธัง อะระหัง กัณหะ ธัมมัง อะระหัง กัณหะ สังฆัง อะระหัง กันหะ สัมมาทางไหน สัมไปทางนั้น"

    โดยมีอุปเท่ห์ว่า ผู้ใดบริกรรมคาถาบทนี้เป็นประจำป้องกันอันตรายได้ทุกอย่างแล ใช้ภาวนาปัดคุณไสยที่ผู้ถูกกระทำ สำหรับผู้ที่รู้ตัวว่าถูกคุณไม่ว่าคุณผี คุณคน ใช้ภาวนาปัดออก ได้ผลแน่นอนภาวนาเรื่อย ใช้ในขณะนั่งสมาธิ (จารลงแผ่นทอง ทองแดง เงิน ผูกข้อมือ หรือแขวนคอติดตัวไว้ป้องกันและสะท้อนกลับ)


    ส่วนพระคาถาก่อนนำตะกรุดติดตัว นะโม ๓ จบ เช่นกัน แล้วตามด้วยคาถาที่ว่า "อักขะระยันตังสันตังสันติ พุทธังอะระทะนานัง ธัมมังอะระทะนานัง สังฆังอะระทะนานัง บิดา มารดา อะระทะนานัง นะ ชา ลี ติฯ"

    โดยมีอุปเท่ห์ว่า ผู้ใดบริกรรมคาถาบทนี้เป็นประจำพุทธคุณด้าน ป้องกัน คุ้มครอง อำนาจ บารมี เสริมดวง เสริมชะตา เสริมตำแหน่งหน้าที่การงาน เสริมกิจการงานให้รุ่งเรือง มั่นคงตลอดกาล คุ้มครองปกป้องรักษาบ้านเรือน ห้างร้าน และบริษัท


    ปัจจุบันการจัดสร้าง "ตะกรุดก่าสะท้อน" มีหลายวัดหลายสำนัก แต่ที่มีคนร่ำลือถึงความขลังเป็นอย่างมากทำให้ผู้ที่เช่าบูชาไปแล้วมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแคล้วคลาดทุกราย จึงมีการเล่าขานสืบต่อกันมาจนชื่อเสียงโด่งดัง ต้องยกให้ ตะกรุดก่าสะท้อน ที่จัดสร้างและปลุกเสกโดย "พระครูสิริศีลสังวร" หรือ "ครูบาน้อย เตชปัญโญ" เจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล อ.สารภี จ.เชียงใหม่


    ยันต์ก่าสะท้อนนั้น ในอดีตมีครูบาอาจารย์ที่สร้างยันต์นี้จนเลื่องลือชื่อเสียงระบือไกล มีหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย จ.ลำพูน ครูบาสม วัดป่าแดด สารภี จ.เชียงใหม่ และในปัจจุบันนี้ก็ยังมีผู้ที่สืบสร้างยันต์ก่าสะท้อนอยู่ นั่นคือ ครูบาน้อย เตชปญฺโญ โดยท่านเรียนมาจากหลวงปู่ครูบาเจ้าผัด อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล ที่เพิ่งมรณภาพไป

    ครูบาน้อย ศึกษาในพระปริยัติธรรม แผนกบาลี ที่สำนักเรียนวัดพระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน รวมทั้งได้ฝึกวิปัสสนากรรมฐานจากหลวงพ่อครูบาผัด และครูบาพรหมมา พรหมจักโก ณ วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน อีกทั้งยังได้ศึกษาวิชาธรณีศาสตร์และพระคาถาต่างๆ จากพระครูจันทสมานคุณ (หลวงปู่หล้า ตาทิพย์) วัดป่าตึง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ด้วยศึกษาอักขระภาษาล้านนา วิทยาคมด้านเมตตามหานิยม ตำรับตำรายาสมุนไพรจากหลวงพ่อพระครูมงคลคุณาธร (ครูบาคำปัน นันทิโย) วัดหม้อคำตวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่


    ทุกๆวันจะมีลูกศิษย์จากสารทิศไปกราบไหว้ขอพรจากท่านเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันท่านเมตตาต่อลูกศิษย์ที่เข้าไปกราบท่านมาก ทั้งเจิมรถ ปลุกเสกวัตถุมงคลก่อนมอบให้นำกลับไปบูชา ซึ่งคำหรือภาษาที่ท่านใช้ปลุกเสกนี้ เป็นภาษาเมือง (ภาษาเหนือ) โดยเฉพาะคำประพรมน้ำมนต์ของครูบาน้อยนั้น ท่านได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงปู่หล้าตาทิพย์ (พระครูจันทสมานคุณ) ซึ่งคำประพรมน้ำมนต์นี้เป็นคำโคลงของล้านนาไทย ที่อวยพรให้แก่คณะศรัทธาญาติโยมให้มีความสุขความเจริญในหน้าที่การงาน ตลอดถึงมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ไม่ว่าจะไปรดครั้งละกี่คน ท่านร่ายคำโคลงของล้านนาไม่ต่ำกว่า ๑๕ นาที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2023
  14. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    IMG20230126082742.jpg IMG20230126082918.jpg IMG20230126082925.jpg IMG20230126082909.jpg

    ท้าวเวสสุวรรณ พิธีเสาร์ ๕ วัดสุทัศน์เทพวราราม จ.กรุงเทพ ปี2535

    ตอกโค๊ต จัดพิธีปลุกเสก เสาร์5 แบบโบราณ ภายในพระอุโบสถ วัดสุทัศน์ฯ โดยพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งสิ้นมาร่วมปลุกเสกจาก73จังหวัด(ขณะนั้น)และมีการเสกร่วมกันทั้งสายพระป่าและพระคามวาสี นับเป็นพิธีที่ดีที่สุด
     
  15. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    ปิดครับ

    IMG20230126092623.jpg IMG20230126092557.jpg IMG20230126092615.jpg IMG20230126092644.jpg IMG20230126092934.jpg IMG20230126092915.jpg


    ลูกอมผงยาดำเจ็ดพญาช้างสาร หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมบัตรสมาคม ( ตัวจริงเสียงจริง )
    ออกบัตรยากมากๆครับ


    หลวงพ่อดิ่งท่านสร้างลูกอมจาก ไคลพระเจดีย์๗วัด ไคลพระอุโบสถ๗วัด ไคลเสมาอีก๗วัด ผสมด้วยผงอิทธิเจและผงมหาราช แล้วนำมาคลุกเคล้าปั้นเป็นลูกอมลูกเล็กๆ ขนาดประมาณ1ซม เมื่อลูกอมแห้งแล้วจะนำมาลงด้วยรักและปิดทองทุกเม็ด จากนั้นท่านหลวงพ่อดิ่ง ก็จะนำมาปลุกเสกจนมั่นใจแล้ว ท่านหลวงพ่อดิ่งจะนำลูกอมผงยาดำเจ็ดพญาช้างสาร ของท่านออกแจกในงานวัด หรือ งานบุญฉลองอายุของท่าน เป็นลูกอมที่กล่าวขานกันในตำนานของเสือขาว ศิษย์ของท่านหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว ผู้อยู่ยงคงกระพันด้วยมีลูกอมลูกอมผงยาดำเจ็ดพญาช้างสารของท่านหลวงพ่อดิ่ง ลูกอมผงยาดำนี้ มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ลูกอมเจ็ดพญาช้างสาร ด้วยกล่าวกันว่า ผู้ใดมีลูกอมนี้ไว้ติดตัว จะมีพละกำลัง ดุจพญาช้างสาร คุ้มครองป้องกันภัยต่างๆและยังอยู่ยงคงกระพันยามเมื่อมีภัยมาถึงตัวได้อย่างชะงัดนักแล ลูกอมหลวงพ่อดิ่งมีคุณวิเศษในด้านคงกระพันชาตรีเป็นอย่างมาก ว่ากันว่าสมัยก่อนคนแถบวัดได้นำมาทดลองโดยนำมาใส่ไว้ในปากปลาช่อนแล้วทดลองฟันดู ปรากฏว่าฟันไม่เข้าคมมีดเด้งออกเหมือนกับเอามีดไปฟันยางรถยนต์ยังไงยังงั้น ยิ่งเรื่องกันปืนผาหน้าไม้ด้วยแล้วนับได้ว่าไม่ธรรมดา ปัจจุบันหาของแท้ๆได้ยากมากๆใครมีติดตัวรับรองไม่ตายโหงแน่นอน


    กล่าวกันว่าลูกอมหลวงพ่อดิ่งนี้ ในช่วงประมาณปี 2490 กว่าๆเมื่อครั้งที่หลวงพ่อครื้มซึ่งเป็นหลานหลวงพ่อดิ่งถูกนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดคลองสวน หลวงพ่อดิ่งท่านได้จัดสร้างลูกอมของท่านเพื่อที่จะให้หลวงพ่อครื้มมาแจกมอบให้แก่ผู้ที่มาช่วยสร้างวัด โดยหลวงพ่อดิ่งได้มอบหมายให้หลวงพ่อครื้มจัดหามวลสารตามที่หลวงพ่อดิ่งสั่งไว้ เสร็จแล้วหลวงพ่อดิ่งจึงจัดสร้างและทำการเสกให้ ลูกอมชุดนี้ท่านไปรับหลังหลวงพ่อดิ่งมรณภาพไปแล้ว โดยหลวงพ่อดิ่งท่านเขียนระบุไว้ว่าเป็นของท่านครื้มมีราวๆครึ่งบาตรหรือประมาณ4,000กว่าลูก ลูกอมชุดนี้หลวงพ่อครื้มท่านหวงมากๆไม่ค่อยได้แจกให้ใคร หลังจากหลวงพ่อครื้มมรณะภาพลูกอมชุดนี้ตกค้างอยู่ในกุฏิพันกว่าลูก ลูกอมหลวงพ่อดิ่งในยุคปลายนี้จึงตกอยู่กับคนแถววัดคลองสวนและละแวกใกล้เคียงพอสมควร แต่ก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆนะครับเพราะใครมีต่างก็หวงแหน....

    เกร็ดประวัติเสือขาว ฉายาขุนโจรร้อยศพ กับลูกอมผงยาดำเจ็ดพญาช้างสารของ หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว

    เสือขาวเป็นจอมโจรเจ้าของฉายาขุนโจรร้อยศพ มีประวัติเหี้ยมโหดมาก เสือขาวมีของดีที่อยู่กับตัวคือ "ลูกอมหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว" หลวงพ่อดิ่งได้เตือนเสือขาวว่า "มึงจะต้องตายโหงหากไม่เลิกเป็นโจร" เสือขาวนั้นทะนงตัว เพราะไม่มีอาวุธใดๆทำอันตรายได้ ปืนยิงไม่ออก มีดแทงไม่เข้า ความเป็นอมตะของเสือขาวนี้เอง ทำให้เกิดความลำพองใจไม่ฟังคำเตือนของหลวงพ่อดิ่งผู้เป็นอาจารย์ ตำรวจชุดไล่ล่าได้มาหาหลวงพ่อดิ่งที่วัดบางวัว แล้วถามว่าจริงหรือที่ว่าเสือขาวนั้นหนังเหนียว หลวงพ่อดิ่งบอกว่า "จริง ไอ้ขาวมันหนังเหนียว ยิงฟันไม่เข้าหรอก แต่มันจะแพ้ดวงของมันเอง อาตมาบอกไม่ได้หรอกว่าจะสังหารไอ้ขาวได้อย่างไร เพราะมันเป็นการผิดศีล"ตำรวจชุดไล่ล่าลาหลวงพ่อดิ่งกลับ ในขณะนั้นมีตาเถรคนหนึ่งซึ่งรู้จักกับจ่าบุญมีได้มาบอกว่า "ถ้าจะสังหารไอ้ขาว จะต้องใช้ลูกปืนที่หัวกระสุนทำด้วยใบมีดหมอ มีดหมอต้องเป็นของหลวงพ่อโศก วัดปากคลอง ท่านเป็นสหธรรมมิกของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว วิชาอาคมของหลวงพ่อดิ่งที่ลงไว้ หลวงพ่อโศกท่านจะจารแก้ไว้บนใบมีดหมอของท่าน" เสือขาวได้ปะทะกับตำรวจชุดไล่ล่าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้ง เพราะกระสุนเพียงนัดเดียวเสือขาวถึงกับทรุดสิ้นลายของคำว่า"จอมโจรหนังเหนียว" ต่อมาเสือขาวถูกจับกุมและพิพากษาโทษประหารชีวิต ซึ่งกระสุนที่เพชรฆาตใช้สังหารเสือขาว หัวกระสุนทั้งหมดที่ใช้ยิงทำจากใบมีดหมอของหลวงพ่อโศก วัดปากคลองทุกนัด


    Cr. ข้อมูลจาก http://www.kruengrang.com/๙เครื่องราง๙/ลูกอมหลวงพ่อดิ่ง-วัดบางวัว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2023
  16. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    IMG20230126100556.jpg IMG20230126100648.jpg IMG20230126100701.jpg IMG20230126100653.jpg IMG20230126100623.jpg IMG20230126100742.jpg IMG20230126100735.jpg IMG20230126100748.jpg IMG20230126100754.jpg IMG20230126100752.jpg IMG20230126094249.jpg IMG20230126094300.jpg IMG20230126094313.jpg IMG20230126094307.jpg IMG20230126094354.jpg IMG20230126094359.jpg IMG20230126094424.jpg IMG20230126094434.jpg IMG20230126100545.jpg

    พิรอดแขนหลวงพ่อม่วง วัดบ้านทวน


    สองวงนี้รับประกันแท้สากลทุกสนามตา วงหนึ่งสมบูรณ์มาก อีกวงสภาพใช้มาบ้าง

    สนใจทักครับ 2*,*** / 1*,***

    พ่อม่วง วัดบ้านทวน เกจิยุคสงครามโลกครั้งที่1 เกจิยุคเดียวกับพ่อเงิน วัดบางคลาน แหวนหลวงพ่อม่วง แห่งวัดบ้านทวน เรียกได้ว่าเป็นเครื่องรางที่นักนิยมเครื่องรางอยากได้แหวนพิรอดของพ่อม่วงแท้ๆไว้สักชิ้น แหวนพ่อม่วงแท้ๆ นักเล่นเครื่องรางจะทราบดีว่าหายากแค่ไหน ส่วนใหญ่มักโชว์ "หากเปลื่ยนมือก็ราคาค่อนข้างสูงสำหรับวงที่ดูง่ายๆ" ด้วยเพราะแต่ละวงการสร้างค่อนข้างยุ่งยาก ท่านไม่ได้ทำแจกกันง่ายๆ หรือทำออกให้บูชาเพื่อหารายได้สร้างวัดแต่อย่างใด ทำให้ในกรณีพิเศษเท่านั้น การสร้างที่ยุคยาก ทั้งวัตถุดิบที่ใช้ เช่นผ้าห่อศพตายโหงในวันแรง เส้นด้ายสายสินจ์ที่มัดตราสังฆ์ ท่านลงคาถาการลงขระหัวใจอิติปิโส นวหรคุณ และหัวใจพระธรรม7คัมภีร์ ลงสองด้าน เดินหน้าและย้อยกลับ

    ท่านสร้างตามตำหรับโบราณที่สืบทอดมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา สมัยพระนารายณ์ หนึ่งในกษัตริย์เมืองกรุงศรี

    ปลุกเสก บริกรรมคาถา จนแน่วแน่ แล้วโยนเข้ากองไฟหากยังไหม้ไฟละก็ สมาธิยังไม่แน่วแน่พอ ท่านจะสร้างใหม่จนโยนเข้ากองไฟ หากไม่ไหมละก็ใช้ได้ แล้วจึงนำไปจุ่มรักเพื่อรักษาเนื้อผ้าให้คงทน รักของท่านจะเป็นรักแดง ตามแบบฉบับรักเมืองจีน ที่นิยมใช้ในสมัยโบราณ ทำการจุ่มหลายครั้งจนหนา มาจวบจนถึงในสมัยนี้ รักที่ลงไว้ในแหวนของท่าน มักกรอบ แห้งแตกไปตามกาลเวลา แลดูมีเสน่ห์ยิ่งนัก

    สำหรับคุณวิเศษของแหวนพิรอดแห่งวัดบ้านทวน เข้าป่าเข้าดง ผีป่า ปีตายโหย สัตว์ร้าย หรือแดนอาถรรพ์ต่างๆก็ไม่อาจมาแผ่วพาลลูกศิษย์ ที่มีแหวนพ่อม่วงได้ แม้ในยามศึกสงครามก็เป็นมหาอุต คงทนต่อศาสตราวุธ หรือแม้แต่สิงอัปมงคลที่มองไม่เห็น ปล่อยมาทางอากาศ ก็มิอาจทำร้ายได้

    ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณ สิทธิ์พยุหะ ด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2023
  17. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    IMG20230126113338.jpg IMG20230126113331.jpg IMG20230126113310.jpg IMG20230126113323.jpg
    IMG20230126113409.jpg


    สรีระธาตุหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค

    สรีระธาตุพระคุณเจ้าหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค
    เป็นเศษสรีระธาตุที่ร่วงจากสังขารของพระคุณเจ้าหลวงปู่สีที่ไม่เน่าเปื่อย
    พระสรีระ คือ เศษร่างกาย ของหลวงปู่สี ที่แมลงและมอดเข้าไปกัดกินร่างของหลวงปู่ ตอนที่ยังไม่ได้เปลี่ยนโรงแก้วให้หลวงปู่ ซึ่งร่วงหล่นบนผ้าปูรองร่างของหลวงปู่ ซึ่งถือเป็นของหายากยิ่ง เรียกว่าหายากกว่าพระเครื่องของท่านเสียอีก
    เป็นของวิเศษที่มีคุณค่าทางจิตใจของเหล่าศิษยานุศิษย์ในสายพระคุณเจ้าหลวงปู่สีเป็นที่สุด มีไว้บูชาเป็นศิริมงคลอย่างสูง

    ชิ้นนี้ี่ที่มาดี เจ้าของแขวนพร้อมเหรียญจตุรพิธหลวงปู่สีที่คอมา ให้ท่านที่ศรัทธาได้แบ่งบูชากันไปครับ รับประกัน

    บูชา 1,900 บาท
     
  18. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    ปิดครับ

    แหวนนะเมติปลอกมีดหลวงปู่หงษ์

    วงเล็ก สำหรับผู้หญิง หรือผู้ชายต้องสวมนิ้วก้อย ตอกยันต์คาถา นะเมติ ลงชื่อ หป. หงษ์ รับประกันแท้ทันท่าน



    IMG20230126161437.jpg IMG20230126161435.jpg IMG20230126161420.jpg IMG20230126161414.jpg เปิดดูไฟล์ 6114090 IMG20230126161403.jpg เปิดดูไฟล์ 6114092 IMG20230126161346.jpg IMG20230126161341.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2023
  19. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    IMG20230126161610.jpg IMG20230126161603.jpg IMG20230126161550.jpg IMG20230126161553.jpg IMG20230126161559.jpg IMG20230126161607.jpg IMG20230126161543.jpg IMG20230126161536.jpg IMG20230126161520.jpg IMG20230126161513.jpg IMG20230126161508.jpg IMG20230126161510.jpg

    แหวนพระเจ้าห้าพระองค์ หลวงพ่อกวย ปี2520-2521

    เนื้ออัลปาก้าปั๊ม เชื่อมเก่าถึงยุค เป็นของโรงงานสมัยก่อนสั่งทำแล้วหลวงพ่อปลุกเสก ให้ จึงแยกแยะได้ยาก เบื้องต้นต้องเก่า วงเชื่อมไม่ตรงกัน จึงพอแยกได้ วงนี้ผมล้างมาเพราะอยู่ในตลับสีผึ้งรวมกับแหวนวงอื่นๆอีกหลายวง ใครชอบของดีราคาเบาเชิญครับ

    บูชา 450 บาท
     
  20. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,490
    ค่าพลัง:
    +53,091
    IMG20230126161033.jpg IMG20230126161030.jpg IMG20230126161055.jpg IMG20230126161041.jpg IMG20230126161057.jpg IMG20230126161100.jpg IMG20230126161036.jpg

    แหวนพระเจ้าห้าพระองค์ หลวงพ่อกวย ปี2520-2521 วงขนาดเล็ก

    ใต้ท้องลงยันต์ ปั๊มนะชาลีติ

    บูชา 450 บาท
     

แชร์หน้านี้

Loading...