พุทธพยากรณ์ ฉบับอีสาน

พุทธพยากรณ์ ฉบับอีสาน เป็นวรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาที่แพร่หลายเช่นเดียวกับฉบับอื่น ๆ ที่แปลออกไปเป็นภาษาต่าง ๆ เช่น ภาษารัสเซีย กรีก ปาละวี อังกฤษ เป็นต้น

ฉบับอีสาน นี้ต้นฉบับเดิมเป็นภาษาโบราณที่เข้าใจยาก แต่ได้มีกระทำการสื่อสารให้แก่คนร่วมสมัยเข้าใจง่ายมากขึ้น เป็นวรรณกรรมที่มีลักษณะภาษาท้องถิ่น ดังนี้

พุทธพยากรณ์นี้ มีอยู่ในใบลานตั้งแต่บูฮาน มีมาก่อนเก่าในศาสนาของพระพุทธเจ้า ถือเป็นเค้าแต่ก่อนมา ข้าสินำมูลเค้าความฝันอันประหลาดสิเป็นลางเหตุฮ้าย หรือใดเจ้าให้ฮำเพิง

เจ้าปัสเสนฝัน

ในคืนนั้น เป็นคืน สิบห้าค่ำ
แต่ฟ้าดำเมฆกุ้ม จันโทเศร้า บ่ ผ่องใส
คือพระทัยของเจ้า ปัสเสน กะเหงาหง่วม
ย่อนว่าความฮักกุ้ม สุมไหม้ดั่งไฟ
ไฟตัณหาความรักไคร่ ในผัวเขาเมียท่าน
ไฟนรกกะ บ่ ปาน มีแต่ควันอูดเอ้า ในใจเจ้าอยู่ บ่ เชา
จนยามสามล่วงเข้า จึงเนานอนนิททะเน่ง
เสียงระเม็งเสพซ้อง จึงลาห้องเสพ งัน
พระทรงธรรม์สุบินเบื้อง เผดียงฝันประหลาดต่าง
สิเป็นลางเหตุฮ้าย หรือใดแท้ สิ่งใด
ในพระทัยองค์เจ้า พระปัสเสน สะดุ้งตื่น
พระองค์ฮู้เมื่อขึ้น อรุณรุ่ง ฮู่งมา


มัลลิกาเทวีเหง้า เห็นราชาหน้า บ่ ชื่น
สมบัติมีหมื่นตื้อ สีหน้า ผัดหล่าหมอง แท้น้อ
พระองค์ทรงสืบสร้าง ครองเมืองตุ้มไพร่
แต่หัวคิดบอดใบ้ ปัญญาตื้นตีบตัน
พระทรงธรรม์ควรเข้าเฝ้า สัพพัญญู ฮู้แจ้งโลก
สิบรรเทาโศกฮ้อน รีบไปถ่อนอย่าอยู่นาน
พระภูบาลฟั่งฟ้าว ตกแต่งเดาดา
มัลลิกาเทวี แม่เมือง เคียงข้าง

พระอานนท์นำเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า

พระก็ ดำเนินเข้า เชตวัน วิหารใหญ่
พระอานนท์ทราบเรื่อง พาไปเฝ้า ศาสดา
พระราชาทูลไหว้ พระจอมไตรโลกนาถ
กราบพระบาท สามเทื่อ แล้ว หยับไปเฝ้าอยู่ที่ควร
ส่วนว่าองค์พุทโธเจ้า เนาบนพุทธอาสน์
ตรัสโอวาทอิ่นอ้อย แถลงถ้อย ก่อนพระยา
ว่าดูรา เจ้า ราชายศใหญ่
ผู้เป็นจอมไพร่ฟ้าสองแคว้นยอดเมือง
พระองค์เคืองขัดข้อง หมองพระทัย จั่งใดแน
วรรณเขียว พ่องแหล่ สีหน้า บ่ ชื่นบาน แท้น้อ
พระภูบาลเจ้า ปัสถเวน ทูลเหตุ
แห่งสุบินประประหลาดล้ำ สิบหกข้อ ต่อไป


จะมาทยอยเขียนไปเรื่อย ๆ จนจบนะครับ

(จากพุทธทำนาย ฤาจะถึงกาลสิ้นยุค ปัญญาวัฒน์ เรียบเรียง)

 

ต่อนะครับ

1. โคสีแดง

ฝันว่างัวบักด่าง ทั้งสี่สีแดง
แล่นเข้ามาเหมิดแฮง กุ่นกุ้น กุ้นกุ่น
จนว่าดินเป็นฝุ่น มืดกั้วมัวฝน
คือจั่งมันสิชนกันสา ให้แหลก
แล่นเข้ามาแล้วแยกไปไผไปมัน
เป็น น่าอัศจรรย์ แจ้งฮู่ง ราตรี
เมื่อนั่น พระมุนี โคดมฮู้เหตุ
พระกะเลยตรัสเทศน์ สอนสั่งราชา
บอกว่าศาสนา ล่วงไปภายหน้า
จนถึง สองพันห้า เดือน สี่ ปีจอ
คน สิได้มา ออ ชิงกัน ยาดแย่ง
อยู่ตามทาง สี่ แพร่ง หัวท้ายปลายเมือง
คนสิเกิดแค้นเคืองการกินสิน สาก
พากันอึดกันอยาก ข้าวน้ำ ซ่ามปลา
ฮอดยามนา กะ บ่ ได้เฮ็ดนา เต็มเม็ดเต็มหน่วย
ถึงเดือนเก้า เห็นเมฆไหล ยวยยวย เป็นโงน ซนกัน
เป็นน่า อัศจรรย์เวหาอากาศ
ฝน บ่ มี ย้อยหยาด ฮำไฮ่ฮำนา
พอตั้งโง่นขึ้นมา หายไปวับแวบ
มันสิ อึดฮอดแกลบ เกือไก่ในฮัง
ผิดแต่ครั้งหลัง ๆ ดลกา ฟ้าหย่อน

2. ไม้อ่อน

ฝันว่าต้นไม้อ่อน เป็นดอกจูมจี
นี่ กะเปรียบสตรี นารีน้อยหน่อ
ใหญ่ขึ้นมาจ่อ หล่อ อายุ สิบสอง
เหลียวเบิ่งหัวนมพอง พอเท่ากำปั้น
จักว่าให้ไผคั้น เลยใหญ่ เลยตึง
หน่อยกะให้เขาดึง มีลูก อ่อง ลอง
คันแมน ควายกะ บ่ ทันฮู้ ฮอง ฮู้คาด ฮู้ไถ
ต่อไปถึงสมัย สองพัน ห้าร้อย
พวกผู้สาวซ่ำน้อย น้อยหนุ่มนารี
อายุได้ สิบปี สิเอาผัวซ่อน บ่อน
แล้วกะมีลูกอ่อนไห้แอ่ว กินนม
องค์พระโคดมเห็นแล้ว เกินเปิด
ฟังเบิ่งมันสิเกิด จริง บ่ หรือใด


ต่อคราวหน้าครับ มีทั้งหมด 16 ประการ เพื่อน ๆ ท่านใดเป็นชาวอีสาน แปลได้ช่วยแปลให้เพื่อน ๆ ภาคอื่นได้ทราบและเข้าใจด้วยนะครับ ผมจะลงเป็นภาษาอีสานทั้งหมด ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณค่ะสำหรับบทความดีๆ แต่อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ ใครที่เข้าใจรบกวนช่วยแปลให้ด้วยได้ไหมค่ะ

 

ขอคัดลอกไว้อ่านนะครับ เอาไว้ประดับความฮู้คับ และรอข้อ 2-16 ครับ

 

1.โคสีแดง
ฝันว่าวัวสีแดงสี่ตัว วิ่งมาหมดแรง คล้ายจะชนกันอย่างแรง จนฝุ่นฟุ้งกระจายไปหมด ทำให้มืดเหมือนฝนกำลังจะตก แต่พอมาใกล้กันก็แยกกันคนละทาง เป็นที่น่าอัศจรรย์นัก
เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้ารู้เหตุ จึงตรัสบอกพระราชาว่า "ต่อไปภายภาคหน้าลุล่วงไปถึง ปี 2500 เดือน 4 ปีจอ คนจะแย่งชิงกันตามทางสี่แพร่ง ตามหัวเมืองท้ายเมือง คนจะแค้นเคืองกัน เจ้าหน้าที่จะกันสินบนกันมาก ข้าวยากหมากแพง ถึงเวลาทำนาก็ทำนาทำไร่ ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ถึงเดือน 9 เมฆลอยมาคล้ายฝนจะตก แต่ไม่หยาดลงมาจากฟากฟ้า ทำให้ไม่มีกระทั่งแกลบให้ไก่ได้คุ่ยเคียกิน ไม่เหมือนครั้งก่อนที่พอฝนตั้งเค้า ก็ตกลงมาเลย

2.ไม้อ่อน
ฝันว่า " ไม้อ่อน เพิ่งแตกดอกออกผล เปรียบดัง สตรีสาวน้อยอ่่อนวัย เพิ่งอายุ 12 ปี นมยังไม่ทันตั้งพาน มีกิ๊ก มีสามีแล้ว ถ้าเป็นควายยังไม่ได้ฝึกร่อง ฝึกไถ ฝึกคาด ไม่รู้จักการไถนาเลย"
พระสมณะโคดมตรัสว่า" พอถึงปี 2500 สาวน้อย อายุ 10 ปี มีสามีแล้ว และก็มีลูกน้อยร้องกินนม"

แปลให้ฟังคราว ๆ นะครับ แต่แปลยังไม่ถึงแก่นภาษาอีสาน เพราะบางคนอาจจะฟังหรืออ่านไม่ได้

 

ต่ออีกนะครับ

3. แม่โควิน

ฝันเป็นประหลาดแท้ เห็นแม่โควิน
กลับไปขอกินดูดนม ลูกอ่อน
นี่ กะ ผิด แต่ก่อน ของ บ่ เคยมี
ทาย ว่า ซุมสตรี นารี หนุ่มเหน่า
สิ บ่ เชื่อคำเฒ่า พ่อแม่ ทั้งสอง
สิเป็นคนจองหอง หากินปลิ้น ไปล่
เลย บ่ เอา ใจใส่ ในครอบ ในครัว
ใหญ่ขึ้นมาแล้ว แล่นนำผัว หากินปลิ้นปลอก
ปะ ให้เฒ่า หัวหงอก นึ่งข้าวเอาฟืน
ฮอด บ่ มี ยามยืน ยามนอน ยามนั่ง
คือจั่งไม้ใกล้ฝั่ง คอยแต่ ยามตาย
ทาวพ่อแม่ นั่นหมายกินแฮง นำลูก
เขายังมาดูถูก บ่ อ่าวถามหา
หัวอกของมารดา พอปาน สุมไฮ่
เหลือแฮงเลี้ยงจนใหญ่ ซี้นจี่ปลาเผา
บัด สิแล่นนำเขา คำเดียว กะ บ่ สั่ง
เป็นตาอุก ตาอั่ง ลูกเนรคุณ
บ่ ฮู้ จักบาปบุญ พอปานคนป่า

4. งัวด่างน้อย

พระปัสเสนเจ้า เนาแท่นบัลลังก์
ฟังเพลงขับกล่อม ระบำรำฟ้อน
พระกะ นอนคืนนั้นฝันเป็นประหลาดต่าง
ฝันว่า งัวด่างน้อย เขา นั่นห่างใส่ไถ
แนวว่า งัว บ่เคยใช้ ไถ กะ บ่ ทันเป็น
มันเลยพาไถเข็นแล่นตำตอไม้
ไถกะหักทางง่น กระลงก้น ขี่ทั่ง
ลงได้นั่งจ้อก้อ ตอไม้ กะทั่งขา
ซอมเบิ่งไปข้างหน้า เคิ่งศาสนาพุทธ
มนุษย์ในแดนดิน บ่ ฮิ่นตรองครองเค้า
ซุมผู้เฒ่าตลาการปะปล่อย
มีแต่เด็กหนุ่มน้อย สิคอยขึ้นนั่งเมือง
หน่อยกะเลยเกิดเรื่อง เป็นเรื่องเถียงกัน
แนวต่างคนต่างดันไปคนละอย่าง
ดูถูกเฒ่าหัวด่าง ว่า บ่ทันสมัย
ยุคนี้ เอิ้นว่า เด็กน้อยหัวใส สอนคนหัวหงอก

มาต่ออีกในคราวหน้าครับ

 

สุภาษิตอีสาน

ฟังเอาท่อนคำสอนโลกใหม่ไผยังบ่ฮู้เขิงแก้วสิฮ่อนคนฟังเอาเด้อพี่น้องเพิ่นสิฮ่อนหาคนดีไผผู้มีศีลธรรมอยู่เขิงคาค้าง ไผเดินทางผิด
เส้นทำตนเป็นคนชั่ว มันสิลอดกระด้งบ่มีค้างแผ่นเขิงเขิงแผ่นนี้ได้ชื่อว่าเขิงคำ เป็นคำสอนพระพุธโธเฮาตั้ง เพิ่นได้วางเอาไว้โพธิ์ศรีห่มใหญ่ สิเอาคนอยู่ซ้น โพธิ์กว้างสิอยู่เย็น โพธิ์นี้บ่ได้ปลูกตามดินเป็นโพธิ์ศีลโพธิ์ธรรมหว่านมาแต่เมืองฟ้าเว้านำธรรมคงฮู้ครูเฮาสอนสั่งคำพระสังฆเจ้าโปราณเฒ่าว่ามา พระศรีอาริยะเพิ่นสร้างโพธิ์ศรีสามห่มเอาคนเข้าอยู่ซ่นโพธิ์สิอยู่เย็นนี้หาหกแม่นคำสอนบ่อนพระองค์นำทางชี้ เอาว่าโพธิ์ศรีสามต้นคนเฮาสิได้เพิ่งตกมาฮอดเขิงข่อนตอนท้ายศาสนา พระศรีอารย์เพิ่นสิลงมาค้นเอาผู้ประเสริฐเลือกแต่ผู้ล้ำเลิศกระทำสร้างแต่บ่อนดีอันว่าพวกปล้นจี้เรื่องโหดสามารย์ ยมพิบาลมาจับเข้าสู่อเวจีกว้างให้ทำดีเอาไว้ เพื่อเอาตนเข้าฮ่ม มนุษสาโลกกว้างคนสิล้มท่าวตาย เพิ่นสิมาเลือกเอาไว้สามร่มโพธิ์ศรีให้พอดีเขิงแก้ว มันหากเถิงคาวแล้ว คนเฮาอย่านอนอยู่ ให้พากันตื่นถ้อนอย่านอนนิ่งสิเพิงไผ เดียวนี้แสงธรรมจ้าองค์พุทโธกำลังส่องมองไปไสก็เจิดจ้าแสงธรรมเจ้าส่องมาหวังให้โลกนี้กว้างปวงประชาชาวโลกพ้นจากมารหมู่ฮ้าใจเจ้าสิอยู่เย็น อย่าพากันเกียจคร้านเด้อท่านผู้ถือศิ่นถ้าไปกินนำพระผู้เพิ่นมีบุญล้นไผผู้ทนเอาไว้มีใจมั่นเที่ยงกะสิเถิงแห่งห้องวิมานแก้วอยู่เย็นทุกสิ่งในโลกนี้ ล้วนแต่อนิจจังวะคะสังขาราบ่เที่ยงตรงเด้อฟ้า ให้ทำดีเอาไว้เอาคนเข้าฮ่มให้พากันสร้างทางสิเข้าร่มโพธิ์ อย่าทำตนเป็นคนโก้หากินนำคนโง่ ฮู่ว่าโง่แล้วอย่าไปซ้ำตื่มแถม กรรมสิแนบนำก้นบ่ทันคนสิเห็นดอกไผผู้ทำชั่วช้ากรรมฮ้ายหากสิเห็นมันสิลอนกระด้งบ่ค้างว่างตาเขิง อย่าพากันเลวทรามให้จำจื่อเอาไว้ หากแม่นคำสอนเจ้าองค์พุทโธสอนสั่งขอให้ชาวพี่น้องฟังแล้วให้จื่อเอาจังสิเห็นทางเข้า โพธิ์ศรีสามห่มสู่อันมีทางลมภัยน้ำทั้งสามสิไหวหวั่นเฮงสิมาเตงตื่มซ้ำทำให้หมุ่นมะลายคนจะตายไปพร้อมนๆ นับบ่กัน ปีกุนผ่านเข้าไปแล้วสิแพวขึ้นกว่าแต่หลัง ไผผู้ยังอยู่เหลือค้างสิเห็นทางบุญบาป นอกจากกรรมหมู่ฮ้ายใจเจ้าสิชื่นบาน อย่าพากันเกียจคร้านให้ตั่งต่อถือศีลธรรม จังสิมีอันสูงอยู่สบายหายฮ้อน
องค์พระธรรมเจ้าสิลงมาครองโลก หากสิเห็นเที่ยงแท้ไผทำสร้างบุญทันนั้น พระองค์เนาอยู่ยังเมืองใหญ่กรุงศรีปัจจุบัน อยู่เมืองล้านช้าง เพิ่นสิมาถึงแท้เดือนสิบเอ็ดมื้อแปดค่ำ พ.ศ. สองพันห้าร้อยปีกุนแท้แน่นอน พ.ศ. ล่วงมาถึงห้าโลกากว้างเมืองหลวงสิฮอดแฮ่งมนุษย์สิประสบเดือดฮ้อนทางสิพ้นแม่นบ่มี คันไผทำชั่วฮ้ายเมืองฟ้าสิบ่เห็น มีแต่จมลงพื้นอเวจีหม้อใหญ่ ท่านพระศรีเพิ่นสิกอดบ่ได้ อันนี้หากมีในห้องครองธรรม โลกใบนี้เป็นโลกใหม่ภัยมหันต์ศาสนาสองพันล่วงมาถึงแล้วคนเขาแซว ๆ เว้าโลกาบ่เก่าบางผองเจ็บป่วยไข้ตายเกินวัยเกินขนาดโรคประหลาดก็หากมาใหม่เรื่อยยาแก้ก็บ่ทัน อัศจรรย์น้อฟ้าโลกามันเปลี่ยนบ่เคยเห็นกะซ่างพ้อน้อนี้จังแม้นกรรม อันว่าทางฝนโลกาบ่คือเก่าคั่นว่าตกก็หากตกมาล้นจนท่วมทั่วแดนดินว่าแล้งจนแผ่นดินแดงคันว่าหนาวก็หนาวพาโลต่างหลังเหลือล้น คนเขาแซวๆ เว้าเป็นไปหมดทุกอย่างภัยพิบัติต่างๆก็หากบังเกิดขึ้นตายได้ง่าย พระเจ้ากล่าว ขอให้ชางพี่น้องฟังแล้วให้จื่อเอาท่านเอย

 

3.แม่โคดูดนมลูก(โควิน หมายถึง หลงบทบาทตนเอง)
ฝันแปลกประหลาด แม่โคขอดูดนมลูกโค หมายความว่า สาวหรือหนุ่มน้อยหรือลูก ๆ ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ หรือคนเฒ่าคนแก่ ทั้งหนุ่มสาวจะเป็นคนจองหอง ปลิ้นปล้อน ไม่เอาใจใส่คนในครอบครัว โตขึ้นมาก็วิ่งตามผู้ชาย หากินปลอกลอกผู้อื่น ปล่อยให้คนแก่อยู่หุงหาอาหารรอ ไม่ได้พักผ่อน ได้ลูกก็หวังดูแลยามป่วยไข้ ดูแลยามแก่ชรา แต่ลูก ๆ ก็ไม่สนใจใยดี หัวอกของพ่อแม่ร้อนรุ่มเหมือนไฟเผา เสียแรงที่เลี้ยงมาจนโต วิ่งหนีตามผู้ชายไม่บอกพ่อแม่สักคำ ไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ เหมือนคนป่า คนดอย

4. วัวเล็กแอบไถ
พระเจ้าประเสนทิโกศล ฝันว่า " วัวตัวเล็ก ๆ เขานำมาแอบไถ วัวไม่เคยไถก็วิ่งชนตอไม้ คนล้มลงไม้แทงขา " คอยดูศาสนาถึงกึ่งพุทธกาล คนที่อยู่ในโลกนี้ คนแก่หรืออาวุโสปล่อยปละละเลยการตักเตือน จะทำให้คนหนุ่มนั่งครองเมือง ก็เกิดการโต้เถียงกันอย่างใช้อารมณ์ไม่สนใจว่าเกิดประโยชน์หรือโทษหรือไม่ ขอให้เขาชนะ ดูถูกคนแก่ว่าเป็นคนล้าสมัยเต่าล้านปี ยุคนี้เรียกว่า เด็กหัวใส สอนคนแก่หัวหงอก

 

ต่ออีกนะครับ

5. ม้าโตเดียวสองปาก

พระปัสเสน ฝันเห็นม้าโตเดียว มีสองปาก
แต่ว่าทางฝ่ายก้น ฮู้ขี้ ผัด ป่องเดียว
ทางปากหนึ่งนั่นเคี้ยว หญ้าอ่อน ชอนสับ
ปากหนึ่งกินทางลับ อิ่มเต็มเล็มเกลี้ยง
ทรงเผดียงสอนไว้ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ในสมัยข้างหน้า สิคือม้า บ่ เที่ยงธรรม
มีแต่ มื่อสิหย่ำขยำไพร่ ไหมกัน
ศิล บ่ มี ในใจ ชั่วทราม นาม บ้า
ได้เป็น นายศาลท้า ตลาการ ล้านใหญ่
มีแต่ไหม ไพร่น้อย สองข้างหว่างจำ
เบิ่งเขาหยำเยาะเย้ย จำเลยโจทก์ ทั้งสอง
ปองกินทางสินไหม บ่ ไตร่ตามธรรมเจ้า
เฮาเฉลยให้ไว้ ภายลุน นั่นเกิน แม่น
ทั่งทุกแดน ฝูงหมู่ไพร่ สิเดือดร้อน พากัน ป้อย ทั่วแผ่นดิน

6. ถาดทองแดง

ฝันว่าเห็นโถถาดเกลี้ยง เป็นแผ่นทองแดง
ออกเป็นแสงวาบ วับ แผ่นทองรองแก้ว
ฝันเห็นแนวหมาเฮี้ยน เวียนกันขึ้นไปนั่ง
พระองค์ฟังพากย์แล้ว กะเลย แย้มโอษฐ์หัว
ว่าฝูงคนชั่วบาปใบ้ สิเป็นใหญ่ในกรุง
ฝูงคณาแนวขุน สิต่ำลงเป็นน้อย
คอยเบิ่งเด้อ ภายภาคหน้า ศาสนามัน สิ ขอด
พอใกล้ ยอดเคิ่ง ระหว่างนั้น ถึงหั่น หาก สิเห็น
แม่นจั่งใด๋ มันกะคง บ่ เว้น เข็ญใหญ่ สิ มาพาล
พุทธกาล สองพัน ล่วงไปภายซ้อย
ฝูงขุนน้อย สิกินเมือง เลี้ยงไพร่
มีแต่คนบาปใบ้ กินบ้าน ผ่านนคร
ราษฎร สิเดือดร้อน คือดั่งไฟลน
ผู้จนได้แต่จน ทุกข์ลงจนตายซ้ำ
เพราะพวกขุนเขาหย่ำ กินแฮงพวกไพร่
ผูใหญ่ ผัดกินตับผู่น้อย คอยซ้ำ อยู่ทุกวัน

7. คนฝั่นเชือก

พระปัสเสน ฝันพ้อชายหนึ่งแข็งแฮง
พอเมื่อ ตาเว็นแดง ค่ำลงคราคล้อย
มันกะงอย ซานฝั่นหนัง ลิวเชือก ข่าว
พอยาวแล้ว กะ โค้ง ลงไว้ ใต้ล่างเฮือน
ซ่นหนึ่ง หมาขี้เฮื้อน ผั่นเล่าแลนมากัด
หมอกะทนทางลัด เล่า บ่ เซาทางฝั่น
พอเล่าหันไปได้ หมากินเชือกข่าว
เลย บ่ ยาวยืนได้ ไปหน้า ท่อใด
คำฝัน นี่ เพิ่นกะได้ เปรียบใส่ ภรรยา
กาลสิมาภายหลัง บ่ เที่ยงตรง คงเลี้ยว
คันผัวเทียว หาได้ เงินทองมาจับจ่าย
เมีย ผัดเป็นผู้ร้าย เอาซ่อน เสี่ยงผัว
มันไปหาเกือกกั้ว ชู้ใหม่มาชม
โจมเอามูลของผัว ไปสู่สมชายชู้
ผู้พระองค์เห็นแล้ว แนวหญิงเกิน ว่าหน่าย
กาละภายภาคหน้า สิเห็นแท้ บ่ สง
นอกจากนั้น หมอกะปงปลอกปลิ้น เสื่อ บ่ อยู่ คาคีง
มีแต่หญิงสอพลอ บ่ ล่ำนำธรรมเจ้า
มีแต่มัวเมาเล่น หวยเบอร์ กำถั่ว
ผัวเป็นผู้หา เมีย นั่นเป็นผู้ใช้ หาได้ กะ บ่ ยัง


ขอบอกอีกครั้งนะครับ ผมคัดลอกมานำเสนอจากพุทธพยากรณ์ฉบับอีสาน ร่วมสมัยที่ยังมีสาระเดิมทั้งหมดอย่างถูกต้องและสมบูรณ์....ต่ออีกคราวหน้าครับ

 

ต่ออีกนะครับ

8. น้ำล้นไห

เห็นเมฆเค้า เป็นโงนฝนริน
เอาไหหิน ต่งรินยังน้ำ
ตามขบวนไหน้อย คอยเต็มก่อนไห ใหญ่
มาบัดนี่ ไหใหญ่ ล้น ไห น้อย ผัด บ่ เต็ม
พอปานเกวียนหลายเล่ม มีของมาใส่
บาด ว่าไหใหญ่ล้น มีน้ำมากมาย
เพิ่นว่า กาลสิมาภายหน้า ฝูงเสนาอำมาตย์ใหญ่
สิมั่งมี มากล้น เอาได้ คุ สุอัน
ส่วนว่า ขุนผู้น้อย สิต้อยต่ำกระทำการ
อุปมา ปานไห หน่าย บ่ เต็มยังน้ำ
บาดว่ายามการใช้ เกินไว รีบแล่น
มันหากแสนยากเยี้ยน เพียรสร้าง ซ่อยนาย
ต่อไปนี้ สิ เกิดมีผู้ร้าย สิยาดแย่งของหลวง
ชาวกระทรวงชาวขุน สิวุ่นวีตีปล้น
คนสิอนลวนฮ้อน นอนตา บ่ เต็มหน่อย
การเก็บส่วย นับมื่อฮ้อน โฮมท้อนเข้าใส่ฉาง
บ่ ให้เหลืออยู่ ค้างทีปถิ่นดินดอน
เก็บอากร นาสวน น่วนลง บ่ มีไว้
ภาษีเกลือ ภาษีไม้ กัญชา ยาฝิ่น
ภาษีดิน บ่อนขี้ นำจี้ให้ส่งหลวง
จั่งว่า ไหปากกว้าง หลอนหลอกกินไต
ขุนจัญไร หลวงหลาย สิหลอกกิน ไทบ้าน
อัศจรรย์ ใจ เด้ กรรมหยังมี พวก บ่าว
ฝูงหมู่ชาวพี่น้อง ฟังแล้ว ให้ไตร่ตรอง

9. หนองใหญ่

พระปัสเสนเจ้า เนาในตรัสส่อง
ว่าเห็นหนองใหญ่กว้าง กลางขุ่นขอบใส
มีดอกไม้ ดารดาดดวงหอม
ซอมเบิ่งเวิงวังหลวง บ่วงกลางมัวขุ่น
ความฝันนี้ ได้แก่ปวงขุนช้า เสนาผู้เป็นใหญ่
ใจ บ่ ใส มีโลภเลี้ยว เทียวฉ้อไพร่เมือง
ฟังคำจา นั้นเกลี้ยงเสียงม่วน ทางวาจา
หาแต่คำมาตั๋ว ยัวะกิน แต่พอแล้ว
นับมื่อ เป็นไปแหล่ว คือแกว ไกลม่าน
รัฐบาล บ่ มีใจเที่ยงมั้น ผันปลิ้น เปลี่ยนปูน
เปรียบ เหมือนดั่งน้ำขุ่น ตมขุ่นกลางวัง
ขุน บ่ ฟังความขุน มุมมี ตี ม้าง
ขางเมืองฮ้อน ในนคร บนล่าง
ย้านแต่ เมืองสิแตกม้าง ภายหน้า สิหล่าสูญ
ต่อไปนี้ คนสิได้เกิดวุ่น เขียวขุ่น โกลาหล
ปวงประชาชาวชน ได้ บ่น โอ คาง โอ้
กรรม หยังโอ่ โอ น้อ พวกไพร่
ไผ สิทนอยู่ ได้ กินหญ้า ดั่งควาย
จั่ง ว่าการ มากด้วย บ่ อาจอ่วย คณานับ
ราษฎร นอน บ่ เต็มตาหลับ จ่อยจนฮนไห้
ราคาโกงกดไว้ อาหาร กินซี้น ต่อน
ราษฎร เฮ็ดนา ขายป่อนให้ เขาโลดซื้อ แต่งเอา

10. ข้าวสุก ๆ ดิบ ๆ

ต่อจากนั้น ปัสเสนเจ้า ฝันต่อ ข้อ ที่สิบ
ฝันเห็นฝูงคนชาย หยิบเอาฟืน ก่อไฟหุงต้ม
พอแต่ เตาไฟฮ้อน ท่อนฟืน เฮืองฮุ่ง
เดือด กุ้มกุ้ม สุมเอ้า ทั่ว เตา
บาด ว่า เหลียว เบิ่งข้าว ลางบ่อน บ่ ทันสุก
ลางบ่อน ไฟลามลุก จี่ลน ดำปี้
องค์มุนีเจ้า ทรงธรรมตรัสส่อง
บอกว่า ครองฮีตบ้าน ภายหน้า สิหล่าสูญ
ชาวโลกา สิเกิดวุ่น เขียวขุ่นมัวหมอง
บ่ ทำบุญตามคลอง ยองยี ตั ปุ้น
เอาแต่บุญไผได้ สิทำไป ฮ้อยอย่าง
คน กะนับมื่อต่าง บ่ ทำตามเงื้อนเค้า คนเฒ่าบอกนำ
พอเมื่อ ศักราชล้ำ ตกต่ำลงไป
มนุษย์ ในเมืองคน บ่เที่ยงซัน หันกลิ้ง
หญิง บ่ ยำเกรงย้าน ผัวโต ป้อยจ่ม
ฟังคารมวาทเว้า เกินเฒ่าผ่านหัว
ทั้งอากาศกะกั้ว ปลิ้นเปลี่ยนเวียนผัน
วันเดือน ปี เคลื่อนคราวหนาวฮ้อน
เป็นย้อนสังขาร ค่อน ปี เดือน บ่ คือเก่า
องค์สัมมา สัมพุทธเจ้า เฮาเว้า เล่ามา

คราวหน้าอีกครับ

 

ต่ออีกนะครับ

11. แก่นจันทร์แดง

ฝันไปข้างหน้า เห็นไม้แก่น จันทร์แดง
ของที่มีราคาแพง ค่าสูงแสนตื้อ
เขาพากัน เอาไปซื้อ ขายกิน แลกไก่
เอาจันทน์แดง ใส่กระซ้าน้อยน้อย พากันดั้น เที่ยวขาย
อันนี่ ภายหน้าพุ้น เคิ่งศาสนาพุทธ
มนุษย์ มี โลกา มืดมัวเมากุ้ม
ซุมถือศีลสร้าง เจ้าหัว จัว บ่าว
เห็นผู้ สาวแล้ว กะเอิ้น เซิ่น เล่น ดั่งสหาย
นอกจากนั้น กะ สิเป็นผู้ร้าย ขาย ศาสนาพุทธ
เอาพระธรรม ลงมุด จ่าย ยาย ขาย จ้าง
ตั้งเป็นตึกเป็นห้าง ขายกินเกลี้ยง หมิ่นหลิ่น
ทั้งพระสูตร พระวินัย เขาเอาใส่กระซ้า โซนผ้าเที่ยวขาย
นี่จั่งแม่น ต่อนฮ้าย เขาขาย ศาสนาพุทธ
สัพพัญญู เล็งเห็นหน่าย สะอาง ฝางฮ้าย
ในภายหน้า ปีกุนแถมล่วง
ม้ม จากนั้น แล้ว สิแววขึ้นกว่าหลัง
ตั้งแต่นั้น คน สิค่อย มีสุข
จั่ง สิ หาย ความทุกข์ หมู่ภัย สิไกลเนื้อ
ไผผู้ ยังเหลือค้าง สิเห็นทางฟ้าล่วง
คน สิพ้นจาก บ่วงฝูง หมู่มารบาปฮ้าย เมืองฟ้าอยู่ เกษม
เริ่ม แต่เค้า เดือน สี่ ปีกุน
ไผ มีบุญ ค่อย สิเห็นหน่อพระธรรม เด้อ ป้า
พากันถือศีล สร้างภาวนา เด้อ แม่
จั่ง สิ เห็นเที่ยงแท้ บ่ มีเว้นฮ่อมใด

12. * * * น้ำเต้าจมมหาสมุทร

ไท้ องค์พระบามปัสเสน
เห็นน้ำเต้า จมลงสมุทรใหญ่
เลย บ่ เห็น ล่องขึ้น จุมพื้น บ่ ฟู

13. หินลอยน้ำ

ดูทีท่า ข้อสิบ มาอ้อยอิ่น
เห็นหินอยู่แก้ง ก้อนใหญ่ในภู
เบ่งมันฟูในนที ล่องลงไปใต้
อุปไมยสองข้อ พอดี กะ มีอยู่
หมากเต้าน้ำเต้า ของฟู
เลยเล่ากลับ ต่าวล่ม จมบิ่งดิ่งลง
บัดว่าหินใหญ่ฟ้ง ลอยลง กระแสสินธ์
อันนี้ ในดินกว้างคนทั้งปวง บ่ เห็นบาป
มีแต่คนบาปซ่า เต็มบ้านทั่วเมือง
คนผู่รู้สูตรเบื้อง ในฮีตครองธรรม
กรรมได้มี ถึงต่ำลง เป็นน้อย
ศาสนานับมื่อค้อย ถอยไปนับมื่อเคิ่ง
เข้าไปเถิง บ่อนหั่น ผลันปลี้นเปลี่ยนปูน
ขุนผู้น้อย สิ กลับเกิดมียศ
ปรากฏในแดนดิน ถิ่นธรณีกว้าง
ให้คอยฟังไปถ่อน ในคำสอน พระองค์กล่าว
ขอให้ชาวพี่น้องฟังแล้ว ให้ ฮ่ำเพิง แน่ถ่อน

ต่ออีกคราวหน้าครับ

 

ต่ออีกนะครับ

14. งูเห่ากราบพญากบ

มีเอี่ยนเคยอยู่น้ำ เกิดแหนงหน่ายวังตม
หนีไปชมภูผาป่าดอน นอน ลี้
เสียงชนี มันไห้ เทิงยอยไฮแขวนจ่อง
อีกอย่างหนึ่ง ฝันว่าคลองบวกน้ำแหนงหน้าหน่ายตม
ฝันว่างูเห่าห่อม ก้มกราบ พญากบ
จงอาง นบ เขียดจะนา นำไหว้
ฝูงหมู่ทำทาลฮ้าย ขอเป็นสหายกับเขียด
อันนี่ เกียรติ ผู้ใหญ่ สิหมด
ยศผู้น้อย สิขึ้น ยืนถ่า ผู้ใหญ่ลง

15. หงส์นอนกับกา

หงส์ เข้ากั้ว นอนฮ่วม นำกา
ศาสนาพระโคดม ล่วงมาภายซ้อย
ฝูงหมู่สาวซ่ำน้อย สกุลนางแมว หม่อม
สิได้ ก้ม หน้าน้อม งอนง้อ ต่อผู้ชาย
ในตอนนั้น มันสิ มีโจร ร้ายชิงยาด เอานาง
สาวสนมในปรางค์ สิ แล่นนำชายชู้
เป็นดั่งงูเขียวแห่ม อยากนอนนำ ลูกไก่
ฟังไปหลาย นับมื่อพ้อ จอ นั่น ต่อกุน

16. กว้างไล่กัดเสือ

เสือโคร่งคุ้น เข้า คั่ว คณาสัตว์
ถูกหมู่กวางฟาน ลัดไล่ชน โตนย้าย
กาลภายหน้า มหาราชา ประเทศใหญ่
สิได้ยอ นบน้อม นำก้น ไพร่พล
แอกไถ สิได้พ้น หนีห่างคอควาย
คือดั่งกวย ตาแหลว สิห่างมอน ลืมม้อน
ทุกนครโลกา นี่ สิ ราวีกัน บักใหญ่
พระองค์ทายบอกไว้ ในพื้นศาสนา
ต่อลงไป ข้างหน้า ฟากเคิ่ง พ.ศ.
คนสิ ออ กัน ตาย ดังหินในแก้ง
แดงหนี ร้าน ราชการ บ่ เว้าซื่อ
นับแต่ มื่อ สิพ้อ แถม หย่อทุกวัน
นอกจากนั้น ศิษย์สิ ลื่น คำครูสอน
ลูก บ่ หลอน ยำเกรง พ่อแม่ ตน วน เว้า ฯI

จบพุทธพยากรณ์ฉบับอีสาน ซึ่งต้นฉบับที่คัดลอกมานี้มาจากหนังสือฉบับที่พิมพ์ครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2549 แสดงว่า วรรณกรรมทั้งหมดนี้มีมาก่อนปีที่พิมพ์อีกนานมาแล้ว ถ้าดูอย่างคร่าว ๆ ไม่ได้ลงลึกมาก จะพบว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์ในช่วงกึ่งพุทธกาลช่วงหลัง (หลัง ปี พ.ศ. 2500 ) ไปจนสิ้นยุค จนเริ่มยุคใหม่ของพระหน่อธรรมเจ้า

 

เพิ่มเติม

พุทธพยากรณ์ฉบับอีสานนี้ เป็นฉบับที่แพร่หลาย ชาวพุทธในภาคอีสานคุ้นเคย เนื้อหาได้ถอดความไปจากความฝัน 16 ประการของพระเจ้าปเสนทิโกศล แต่มีบางส่วนที่ดูแปลกไปจากฉบับเดิมบ้าง เช่น ฉบับเดิมเป็นวัวดำ 4 ตัว แต่ฉบับอีสานเป็นวัวแดง 4 ตัว เป็นต้น แต่สาระคงเดิม

ยังมี "พุทธพยากรณ์พื้นเมืองอีสาน" อีกฉบับหนึ่งที่นำความมาจากพระไตรปิฏกและอรรถกถา มาแสดงอีกด้วย

พุทธพยากรณ์ทั้งสองฉบับของอีสานนี้นำมาจากเอกสารโบราณจารึกด้วยอักษรธรรมอีสาน ที่อ่านยากและยากที่จะเข้าใจ คำบางคำก็เลิกใช้แล้วในปัจจุบัน แต่เมื่อแสดงเป็นแบบร่วมสมัยก็เข้าใจง่ายขึ้น

แต่เมื่อพิจารณาแล้วจะพบว่าตรงกับความเป็นจริงในปัจจุบันมาก เช่น เรื่องไม้อ่อน จะพบว่าในปัจจุบันเด็กนักเรียนมีเพศสัมพันธ์ตั่งแต่วัยมัธยมต้นกันแล้ว และอาจจะก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำไป เพียงแต่ผู้ปกครอง ครู และบุคคลทั่วไป อาจจะไม่ทราบได้ มีคนเคยสอบถามและทำการศึกษาเรื่องนี้มาก่อน ในส่วนเรื่องอื่น ๆ ก็พิจารณากันไปครับ

 

สุดยอด

ขอขอบพระคุณมากครับ