ภาษิตและคำคมของจีน : เอามาฝากให้ขบคิดกันครับ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย เนมิตกปุรุษ, 11 มกราคม 2008.

  1. เนมิตกปุรุษ

    เนมิตกปุรุษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +175
    ไม่ทราบว่าจะตั้งไว้ผิดห้องหรือเปล่านะครับ หาไม่เจอว่าจะโพสต์ที่ไหนดีอะครับ ถ้าผิดห้องยังไงรบกวนโมฯช่วยย้ายให้ทีนะครับ
     
  2. เนมิตกปุรุษ

    เนมิตกปุรุษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +175
    บทแรกมาจากปฏิทินจีนนะครับ เป็นลิขสิทธิ์ของ น่ำเอี้ยงกือสือ แต่เหมือนเคยทราบมาว่าบทนี้เป็นบทกวีที่ใช้กันทั่วไปในสมัยก่อน(ไม่แน่ใจข้อมูลนะครับ)

    "ไร้วาสนาอย่าขอพร

    บุญมาดวงดีได้เงินทอง

    ความร่ำรวยหากขอกันได้

    โลกนี้ก็จะไม่มีคนจน"
     
  3. โปเต้ผู้ใฝ่ธรรม

    โปเต้ผู้ใฝ่ธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2007
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +573
    ยอดมากเลย
    คนเราขยันเข้าไว้ดีกว่า ไม่มีหรอกที่เราจะมาขอความร่ำรวยกันได้
    หรือขอพรต่างๆได้แล้วจะเป็นจริง
    หากขอกันได้โลกนี้คงไม่มีคนจนและคนผิดหวัง
    อนุโมทนสาธุ...
     
  4. เนมิตกปุรุษ

    เนมิตกปุรุษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +175
    บทต่อมาเป็นโคลงกวีสอนเด็ก แต่ก็มีค่าสำหรับคนทั่วไปอยู่ดีครับ (บทนี้ยาวหน่อย แถมแปลแล้วไม่ค่อยมีสัมผัสอีกตะหาก - -')

    "...เกิดเป็นลูกคนต้องมีกตัญญูประจำใจ บุญคูรพ่อแม่บังเกิดเกล้าดั่งมหาสมุทร

    หากบุคคลใดอกตัญญูแล้ว แม้จะมีชีวิตอยู่ในโลกก็หาใช่คนไม่

    รับประทานผลไม้ยังรำลึกถึงกิ่งก้าน แม่ตอนอุ้มชูป้อนนมควรที่จะจดจำ

    ตั้งครรภ์สิบเดือนลำเค็ญยิ่ง คลอดลูกฝ่าอันตรายมากมาย

    แม่ทะนุถนอมบรรจงเลี้ยงลูกอ่อน ทุกวันเวลาคอยปกป้องไม่ห่างเหิน

    เมื่อลูกยิ้มแย้มได้แม่พลอยดีใจ ลูกตัวร้อนเป็นไข้ก็จะห่วงแทบตาย

    น้ำใจของแม่นั้นประเสริฐเลิศล้ำ คอยไหว้เจ้าวอนพระช่วยคุ้มครองลูก

    หวังแต่ลูกโตวันโตคืน เพื่อจะได้ฝากผีฝากไข้ในวันข้างหน้า

    ถ้าลูกแต่งงานแล้วไม่ดูแลพ่อแม่ ก็เสมือนไร้คารวะต่อฟ้า

    รักแต่ลูกเมีย ทอดทิ้งบิดามารดา จะถูกครหานินทาอยู่ร่ำไป

    เปรียบเสทือนต้นไม้ใหญ่แบ่งกิ่งก้าน ข้างหนึ่งสุขาอารมณ์ อีกข้างหนึ่งเป็นทุกข์

    ใครมีใจกตัญญูจะได้ลูกกตัญญูด้วย ใจอำมหิตก็ได้แต่ลูกชั่วสารเลว

    ลูกแพะนั้นยังมีการป้อนนมตอบแทนแม่ อีกาก็รู้ซึ้งถึงการสนองบุญคุณ

    ปลูกถั่วได้ถั่ว ปลูกงาได้งา กรรมสนองกรรมนั้นไม่ผิดพลาด"​
     
  5. เนมิตกปุรุษ

    เนมิตกปุรุษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +175
    หลังจากนี้ไม่เอาบทกวียาวๆละครับ มันให้ความหมายดีก็จริง แต่พอแปลเป็นไทยแล้วเสียงมันไม่ไพเราะเลย

    วันนี้ขยัน เอาไปอีกหน่อยแล้วกันนะครับ

    หลังจากนี้ต่อไปส่วนใหญ่จะเป็นสุภาษิตโบราณของจีน


    ร่วมวงสุรากับผู้สนิท ท่องคำกลอนต่อผู้รู้ซึ้ง

    รู้จักทั่วแผ่นดิน รู้ใจเรานั้นมีสักกี่คน
     
  6. เนมิตกปุรุษ

    เนมิตกปุรุษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +175
    ใกล้น้ำรู้ใจปลา ชิดเขาซึ้งนิสัยนก
     
  7. เนมิตกปุรุษ

    เนมิตกปุรุษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +175


    ระดับน้ำขึ้นลงบ่อย ผู้ต่ำต้อยเปลี่ยนใจง่าย




    ปล. ลืมบอก ใครชอบบทไหน หรืออยากแสดงความคิดเห็นกับบทไหนก็ quote ไปอภิปรายกันนะครับ
     
  8. เนมิตกปุรุษ

    เนมิตกปุรุษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +175
    ผ่านทะเลเห็นน้ำไหลไร้ความหมาย มิใช่บู่ซัวมิขอเป็นเมฆา




    อันนี้ขออธิบายหน่อยนึงครับเผื่อจะงง มันหมายถึงคู่รักที่จงรักภักดีต่อกัน เปรียบว่าคู่ของตนเป็นดังทะเล ตนนั้นเคยเห็นทะเลอันมีน้ำมากมายมาแล้ว เมื่อเห็นน้ำไหลทั่วๆไปก็มิได้รู้สึกสนใจอะไร คือไม่สนคนอื่นนั่นเองครับ

    ส่วนประโยคที่สองหมายถึง จะขออยู่คู่กันตลอดไป คือในประเทศจีน จะมีภูเขาสูงมากอยู่ลูกหนึ่ง สูงจนดูเหมือนทะลุขึ้นไปบนเมฆ จึงมีเมฆหมอกปกคลุมอยู่ตลอดเวลา ชื่อว่ายอดเขาบู่ อันแปลว่ายอดเขาหมอกนั่นเอง ประโยคนี้เปรียบว่าหากคนรักของตนไม่ใช่เป็นยอดเขาบู่นี้แล้ว ตนเองจะไม่ขอเป็นเมฆเด็ดขาด ซึ่งหากคนรักของตนเป็นยอดเขานี้แล้วไซร้ ตนก็จะขอเป็นเมฆหมอกลอยคลอเคลียอยู่ตลอดไปนั่นเองครับ
     
  9. เนมิตกปุรุษ

    เนมิตกปุรุษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +175


    ไฟไหม้ในเมือง ร้อนถึงปลาในน้ำ



    อันนี้หมายถึง เมื่อเกิดเรื่องเสียหายหรือไม่ดีขึ้นจุดหนึ่ง คนรอบข้างก็ได้รับผลกระทบไปด้วย

    สุภาษิตบทนี้มีเรื่องเล่าว่า เมื่อสมัยก่อนเมืองต่างๆมักจะขุดคูไว้รอบกำแพงเมือง ทั้งเพื่อความสวยงาม ความร่มรื่น และใช้ขัดขวางข้าศึก ต่อมาวันหนึ่งเกิดไฟไหม้ใหญ่โตขึ้นในเมือง ชาวบ้านจึงออกมาตักน้ำจากคูเมืองไปใช้ดับไฟ ปลาบางตัวที่หนีไม่ทันก็ติดไปกับน้ำ หรือบางตัวก็ติดแห้งอยู่ในคูเพราะน้ำถูกใช้ไปหมด จึงเป็นที่มาของสุภาษิตบทนี้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...