ภิกษุณีองค์แรกในพระพุทธศาสนา

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย อวิปลาส, 13 มีนาคม 2009.

  1. อวิปลาส

    อวิปลาส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +353
    ภายหลังจากที่พระพุทธองค์ได้ทรงโปรดพระพุทธบิดาจนสำเร็จพระอรหันต์และพระพุทธบิดาได้ปรินิพพานแล้ว พระนางมหาปชาบดีโคตมี (น้าของพระพุทธเจ้า,แม่เลี้ยง) พระนางมีพระทัยน้อมใปในการบรรพชา จึงเสด็จไปเฝ้าพระบรมศาสดายัง นิโครธาราม กราบทูลว่าขอประทานวโรกาสให้สตรีพึงได้ออกจากเรือนบวชเป็นพรรพชิต ในพระธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้วเถิด พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ประทานอนุญาต แม้พระนางจะทูลอ้อนวอนขอถึง3ครั้ง ทรงน้อยพระทัย เป็นทุกข์ มีพระพักตร์นองด้วยน้ำพระเนตร ถวายบังคมลา กระทำประทักษิณแล้วเสด็จกลับพระราชนิเวศน์
    จากนั้นพระบรมศาสดาก็เสด็จไปยังกรุงเวสาลี เนื่องจากเป็นเวลาใกล้เข้าพรรษาทรงประทับที่กูฏาคารศาลา เป็นครั้งแรก
    พระนางมหาปชาบดีโคตมี น้อยพระทัยที่พระพุทธองค์ปฏิเสธ จึงปลงพระเกสา ทรงครองผ้ากาสาวะ ถือเพศพรรพชิตอุทิศพระทศพล ภายในพระราชนิเวศน์นั้นเอง ทรงให้สากิยานี 500 ที่เคยเป็นบาทบริจาริกาของภิกษุศากยกุมาร ถือเพศบรรพชาเหมือนกัน
    พระนางได้พาเหล่าสากิยานีทั้งหลายเสด็จตามพระศาสดาไปยังกรุงเวสาลี พระนางมีพระบาททั้งสองพอง มีพระวรกายเกลือกกลั้วด้วยธุลี ทรงเป็นทุกข์ เสียพระทัย มีพระพักตร์นองด้วยน้ำพระเนตร ประทับยืนกันแสงอยู่ที่ซุ้มพระทวารข้างนอก
    พระอานนท์ออกมาเห็นพระนางกันแสงอยู่ได้เข้าไปไต่ถามความ ทราบว่าพระพุทธองค์ไม่ทรงอนุญาตให้สตรีได้บวช จึงทูลให้พระนางรออยู่ก่อน
    จากนั้นพระอานนท์ได้เข้าไปกราบทูลพระศาสดา ขอให้ทรงอนุญาตสตรีได้บวชเป็นบรรพชิต พระอานนท์ได้ทูลขอถึง 3 ครั้ง พระศาสดาก็มิทรงอนุญาต พระอานน์จึงทูลถามว่าการที่สตรีออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต สามารถที่จะทำให้แจ้งมรรคผลนิพพานได้หรือไม่พระเจ้าข้า
    พระบรมศาสดาตรัสว่า ดูก่อน อานนท์ สตรีก็สามารถที่จะทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล หรืออรหัตผลได้
    พระอานนท์จึงทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระนางมหาปชาบดีโคตมี เป็นพระมาตุจฉาของพระองค์ เป็นผู้มีอุปการะมาก ทรงประคับประคองเลี้ยงดู ทรงถวายขีราธารเมื่อพระชนนีสวรรคต ขอประทานพระวโรกาส ทรงอนญาตให้พระนางได้บวชเป็นบรรพชิต ในพระธรรมวินัยที่พระตถาคตเจ้าประกาศแล้วเถิดพระเจ้าข้า
    พระบรมศาสดาตรัสว่า อานนท์ เหตุที่เราไม่อนุญาตก็เพราะเห็นว่าหากอนุญาตให้สตรีบวช พระธรรมวินัยจะตั้งอยู่ได้ไม่นาน แต่เราจักบัญญัติครุธรรม8ประการ เสมือนหนึ่งกั้นคันสระใหญ่ไว้ก่อน เพื่อมิไห้น้ำไหลออกฉะนั้น แล้วตรัสว่าหากพระนางยอมรับครุธรรมนี้ได้ข้อนั้นจักเป็นอุปสัมปทาของนาง
    พระอานนท์เรียนครุธรรม8ประการแล้วออกมาชี้แจงแก่พระนางมหาปชาบดีโคตมีว่า หากพระนางยอมรับครุธรรม8ประการที่พระองค์บัญญัติไว้ได้ ข้อนั้นจักเป็นอุปสัปทาของพระนาง โทมนัสของพระนางมหาปชาบดีสงบลงทันที มีใจชื่นชมยินดีเมื่อได้สดับว่าพระพุทธองค์ทรงอนุญาต แล้วกล่าวว่า ข้าแต่ท่านพระอานนท์ ดิฉันยอมรับครุธรรม8ประการ พระอานนท์จึงกล่าวครุธรรมที่พระพุทธองค์ทรงยัญญัตแล้วดังนี้

    ๑.ภิกษุณีแม้จะมีพรรษาตั้ง ๑oo ก็ต้องกราบไหว้ภิกษุผู้แม้อุปสมบทในวันนั้น
    ๒.ภิกษุณีไม่พึงจำพรรษาอยู่ในอาวาสที่ไม่มีภิกษุ
    ๓.ภิกษุณีต้องหวังธรรม ๒ ประการ คือถามวันอุโบสถ ๑
    เข้าไปฟังคำสั่งสอนจากภิกษุสงฆ์ทุกกึ่งเดือน ๑
    ๔.เมื่อออกพรรษา ภิกษุณีต้องปวารณาในสงฆ์สองผ่าย คือ
    ภิกษุและภิกษุณี
    ๕.ภิกษุณีต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้ว ต้องประพฤติปักขมานัต
    ในสงฆ์สองผ่าย
    ๖.ภิกษุณีต้องแสวงหาอุปสมบทให้แก่สิกขมานา ผู้ศึกษา
    ในธรรม ๖ สิ้น๒ปีแล้วในสงฆ์สองผ่าย
    ๗.ภิกษุณีไม่พึงบริภาษภิกษุ โดยปริยายอย่างใดอย่างหนึ่ง
    ๘.ภิกษุณีไม่พึงสั่งสอนภิกษุ แต่ให้ภิกษุสั่งสอนภิกษุณี
    พระนางมหาปชาบดีโคตมี กล่าวว่า ข้าแต่ท่านพระอานนท์ ดิฉันยอมรับครุธรรม๘ทุกประการและจักไม่ละเมิดตลอดชีวิต พระนางมหาปชาบดีโคตมีได้อุปสมบทแล้ว ด้วยการรับครุธรรม๘ประการ เป็นภิกษุณีองค์แรกในพระพุทธศาสนา
    จากนั้น พระมหาปชาบดีโคตมีภิกษุณีเข้าไปเผ้าพระศาสดา ทูลถามถึงสิกขาบทของภิกษุณี พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนโคตมี พวกเธอจึงศึกษาในสิกขาบทดุจเดียวกับที่ภิกษุทั้งหลายศึกษาอยู่ ตามที่เราบัญญัติไว้แล้ว
    พระมหาปชาบดีโคตมีภิกษุณี ได้ทูลขอพระวโรกาสว่า ขอพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมซึ่งหม่อมฉันได้ฟังแล้วจะพึงเป็นผู้หลีกออกจากหมู่ผู้เดียว ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยวอยู่เถิด
    พระพุทธองค์ตรัสว่า ดูก่อนโคตมี ท่านพึงรู้ธรรมเหล่านี้คือ ธรรมที่เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด เพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้ เพื่อไม่สั่งสมกิเลส เพื่อความมักน้อย เพื่อความสันโดษและความไม่คลุกคลี เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร ดูก่อนโคตมี ท่านพึงทรงจำไว้ว่านี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย เป็นคำสั่งสอนของพระศาสดา
    พระมหาปชาบดีภิกษุณี ทรงน้อมรับโอวาส ทรงเรียนกัมมัฏฐานในสำนักของพระบรมศาสดา เพียรภาวนาอยู่ไม่นานได้บรรลุอรหัตผล พร้อมด้วยปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ อภิญญา


     
  2. datchanee

    datchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,947
    ค่าพลัง:
    +1,276

แชร์หน้านี้

Loading...