มรณานุสสติ

ไม่มีพระสูตรเช่นเคย ครับ แต่ก็แล้วแต่ว่าใครจะยกมาเพราะจะได้เป็นธรรมทาน
มรณานุสสติ เป็นเช่นไรกัน อันนี้ผมไม่ทราบอย่างละเอียดเพราะเฉพาะอันนี้แหละที่ไม่ค่อยได้ฟัง แต่ได้เห็น และได้ยินมากกว่า ทุกคนคงพอเข้าใจกันไม่มากก็น้อย เพราะยังไงก็ต้องตาย แต่ผมมีแนวที่ผมใช้พิจารณาอยู่ ๔ แบบ ดังนี้คือ
๑ คนที่เกิดมาแล้วตายหรือไม่ตายก็ไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขาเลย
๒ คนที่เกิดมาแล้วและถึงเวลาตายแล้วแต่ยังไม่อยากตาย
๓ คนที่เกิดมาแล้วยังไม่ถึงเวลาตายแต่กลับต้องตาย
๔ คนที่เกิดมารู้ว่าเมื่อถึงเวลาตายก็ต้องตาย
ยังไงถ้ามีอะไรเสริมก็เสริมเข้ามาได้ครับ แต่ยังไงก็เลี่ยงบางสิ่งบางอย่างพิจารณาก่อนจะโพสต์ออกมาก็ดีครับ เพราะบางทีอาจกระทบกับความรู้สึกของใครอีกหลายคนครับ เพราะใช้เพื่อเพียงพิจารณาธรรมนั้นๆ เท่านั้นครับ
อนุโมทนาครับ

 

ศิษย์ เทวทัต เอาขี้ขยะอะไรมาให้ชาวบ้านอีกหละ

คนโง่ขยัน เขาให้บั่นคอ
เพราะว่า มันทำอะไรมีแต่เรื่องแต่ราว ไร้สาระ
แล้วมันจะไร้สาระอีกต่อไป

เอาธรรมไม่ใช่ธรรมมาพูด

ใครเขาสอนให้พิจารณาแบบนั้นวะ

 

ดูคนอื่นตายเป็นอย่างไร อาการลักษะ ความจริง

ย้อนมาพิจารณากับตัวเองเป็นภายในบ้างภายนอกบ้าง มีอาการและความจริง เป็นเช่นไร

จะให้ง่ายย่นย่อก็ กินกูก็ตายไม่กินกูก็ตาย หายใจเข้าแล้วไม่หายใจออกก็ตาย หายใจออกแล้วไม่หายใจเข้าก็ตาย

สุดท้ายตายหมด เรา เค้า จะรัก โลภ โกรธ หลง กับสิ่งทั้งหลาย ยึดติดกับสิ่งที่สลายตัวไปเพื่ออะไร
ถ้าความกำหนัดยินดี ยินร้าย สลดสังเวชลง แสดงว่าใช้ได้ เริ่มคลำถูกทาง ......

 

อริยะหลงก็ตกภาษาไทยอีกแล้ว หรือนี่ กลับไปอ่านใหม่นะว่านั่นสอนหรือเสนอ และก็รู้ดีว่าคนดีๆ และคนที่เขามีสิ่งดีๆเขาจะมาช่วยกัน ไม่ใช่ท่านขันธ์ที่ไม่เคยยอมรับความจริงเลยว่า ตนเองแท้จริงเป็นเช่นไร ผิดถูกดีชั่วก็ไม่รู้ไม่เข้าใจ กระทั่งเรื่องอารมณ์กับจิตยังแยกไม่ออก แต่อย่างว่า ภาษาไทย ก็อ่านไม่เข้าใจแล้วภาษาบาลีไม่ต้องพูดถึง กลับไปอ่านใหม่ว่าตรงไหนนะที่เรียกว่าสอน และการพิจารณาของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันอย่างไร ลูกศิษย์ใครเหรอเนี่ย ที่แน่ๆคงนอกเหนือจากที่ผมรู้จักแน่นอน เพราะคนที่เป็นลูกศิษย์พระอริยะหรือพระศาสดาแล้ว ย่อมเห็นและเรียนรู้และแก้ไขตนเองได้อย่างแน่นอน นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว สันดานไม่เปลี่ยนเลย ท่านก็เป็นหนึ่งใน ๔ แบบนั่นแหละ เจ้าอริยะหลง ปล..เกือบลืม จำได้ไหมว่าเคยบอกว่าจะมีคนนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ตอนที่คิดแบบนั้น ถามจริงๆ มารสิงใจให้ถามหรือพูดแบบนั้นหรือเป็นที่สันดานตนเอง คนแบบนี้บอกสักร้อยทีหรือยืนยันสักร้อยชาติก็ไม่ใช่แม้กระทั่งจิตของอริยะบุคคลโสดามรรคเลย ยังจะทู้ซี้อีก น่าสงสารที่สุด

 

นั่นสิน๊ะ จะตายเร็วตายช้าแค่นั่น

ปล.สงสัยกระทู้นี้ยาวอีกแน่

 

สงสัย จะแค้นมาก มรณานุสติ ฉบับเทวทัต

ก็ ก่อนเทวทัตจะถูกธรณีสูป มันก็เป็นแบบเอ็งนี้่แหละ

แม้ครั้งนั้น พระศาสดาก็ฉุดไม่ได้ เพราะมันทำตัวมันเอง

 

สุดท้ายตายหมด เรา เค้า จะรัก โลภ โกรธ หลง กับสิ่งทั้งหลาย ยึดติดกับสิ่งที่สลายตัวไปเพื่ออะไร

ท่านเก่งอย่าไปเดือนร้อนกับโลกธรรมเลย ท่านขันธ์กำลังให้ปัญญาท่าน...
สิ่งกระทบทั้งหลายย่อมเป็นหินลับปัญญาทั้งนินทา ทั้งสรรญเสริญ ทุกข์สุข พิจารณาด้วยดีย่อมก่อให้เกิดปัญญา

 

ไม่ได้ให้ปัญญาหรอก ให้ไฟ

 

อนุโมทนา ไม่ต้องพูดอะไรอีกเลย ภาพนี้
สักวันหนึ่งเราก็เป็นแบบนี้ คุณก็เป็นแบบนี้ เราคุณ ก็กลับไปสู่ที่เดิมของธาตุ

 

ไร้สาระ จริงๆเลยอริยะหลง ผู้กู่ยังไงๆก็ไม่กลับ จะบอกอีกทีก็เป็นเพียงเท่านี้ ส่วนคำตอบอื่นไม่เอาก็ได้ เพราะคนที่เก่งกว่าพระพุทธเจ้านั้นย่อมไม่ใช่ผมแน่นอน เหมือนเรื่องที่กระทู้อะไรนะที่ว่า สอุปาทานเสสะนิพพาน เป็นนิพพานของเสขะบุคคล ทั้งที่พระสูตรก็ออกมาชัดเจน ก็ยังจะยืนยันว่านั่นเป็นอารมณ์นิพพาน อยู่อย่างนั้นอีกไปดึงเอาวิมุตติสูตรมา ดูและก็ยังมองไม่ออกไม่เข้าใจอีกว่าในวิมมุตติสูตรเขากล่าวอะไร ขัดแย้งในตนอย่างเห็นได้ชัด คนที่เขาแค้น หรือควรใช้คำว่าแค้นกับเขาได้ ต้องอ่านและพิจารณาดีๆ ผมก็ทำได้เพื่อท่านขันธ์เท่านี้แหละ เพราะหากว่าลักษณะเช่นผมไม่เป็นแบบหรือพระเทวทัตแล้ว ท่านเองนั่นแหละต้องระวังให้ดีๆในทุกขณะลมหายใจเลยก็ว่าได้นะครับ ผมทำได้เพียงเตือนเท่านั้นแต่หากท่านมั่นใจจริงๆ ก็ผมก็ทำได้แค่เตือนท่านว่าของให้ท่านระมัดระวังตัวทุกลมหายใจ พิจารณาอะไรก็พิจารณาดีๆครับ
เท่านี้แหละ ไม่รู้แบบนี้เรียกว่า แค้นหรือหวังดีกันแน่ เอาเถอะจิตคลาดเคลื่อนแล้วจะบอกแรก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
เนอะ

 

ตัวเอง พูดอะไรมา มันตรงกับหลักธรรมข้อใด ไม่มี
เอากิเลสมาพูดธรรม มันก็เทวทัตนะสิ

อุตริ เอาธรรมที่ไม่ใช่ธรรม จากการปฏิบัติก็ไม่ใช่ เอามาจาก ธรรมนึกเอาเอง

ใครจะอนุโมทนากับเทวทัต

 

ไฟถ้ารู้จักดับก็นำมาใช้ประโยชน์ได้
ไฟถึงร้อนก็นำมาใช้หุงหาอาหารให้ความสว่างได้

 

ไม่เป็นไรแต่ท่านไม่ต้องกลัวหรอกครับ ผมบอกว่าผมไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านเข้าใจ เท่านี้พอ และเรื่องท่านขันธ์ให้ปัญญากับผมนั้นผมก็ยืนยันกับท่านเช่นกันว่า คนเช่นเขาไม่สามารถทำให้ผมมีปัญญาได้มีแต่จะทำให้ผมและผู้อื่นตกต่ำ เพราะความหลงตัวหลงตนนั่นแหละ ท่านเองก็ต้องระวังเรื่องนี้ให้ดีๆ ผมเคยบอกท่านหลายครั้งแล้วว่าสภาวะธรรมมันไม่ใช่เรื่องของคำพูด ก็ขอให้ท่านพิจารณาเอาเองแล้วกัน ว่าสิ่งไหนคือสิ่งไหน แต่เรื่องให้ปัญญาผมนั้น อีกอสงไขยหนึ่งก็ยังยาก คนแบบนี้ และผมก็ไม่ได้หวังว่าจะได้จากคนแบบนี้หรอกครับไม่ต้องห่วง ครับ

 

ไม่อยากอธิบายมาก ถ้าจะยกธรรมมาก็ยกมาเลย ผมเขียนอะไรไม่ชัดหรือไง ใครก็ได้ช่วยอ่านกระทู้ใหม่อีกทีสิว่า คำว่ากิเลสนั้นหมายความว่าอย่างไร เอ้าทุกคนลองกลับไปอ่านที่กระทู้บนสุดดูสิครับ ไม่อยากอธิบายแล้ว เพราะกิเลสบังตาเนื้อแล้วตาในก็ไม่ต้องพูดถึงเช่นกัน ไม่อยากจะว่า แต่มันไม่มีคำอื่นนอกจากอริยะหลงจะใช้กับคนที่มีลักษณะเช่นนั้นได้

 

ตัวมันเอง ยังไม่รู้ตัวเลยนั่น ว่ามันเป็นอะไร
ยังจะไปเตือนคนอื่น
กรรมของมันเองทั้งนั้นแหละ ที่บ้าๆ บอๆไป ไม่มีใครเขาทำอะไรเลย
เดี๋ยวแค้น เดี๋ยว อริยะหลง เดี๋ยวไม่แค้น เดี๋ยวหวังดี
เดี๋ยว ไปเรื่องนอนไม่หลับ เดี๋ยวไปเรื่องพระสูตร
เดี๋ยวอวดตัวว่า มีสติ

มรณานุสติฉบับเทวทัต

สติสัมปชัญญะง่ายๆ เอาให้ดีก่อน

 

น่าสงสารจริงๆ แล้วถ้าบอกว่ายังไงก็รอดละ และเมื่อรอดแล้วก็ไม่หลงแบบที่ท่านเป็นละ ท่านจะเชื่อไหมละ ส่วนสติอะไรนั้นเก็บไว้ถามตัวเองนะว่าตนเองนั้นมีแค่ไหน แล้วเรื่องอื่นผมไม่พูดถึง หรืออยากจะตอบก็ได้นะ ว่าทำไมถึงบอกว่า สอุปาทานเสสะนิพพาน นั้นเป็น นิพพานของพระอริยะบุคคลขั้นเสขะละ เห็นทิ้งไปเลยมาโผล่กระทู้นี้แทน เรื่องโกรธแค้น นั้นผมว่าไม่ใช่ผมแล้วมั้ง หากจะบอกว่าท่านนั่นแหละ และเพราะความเกรงใจของหมู่เพื่อนทั้งหลายเขาไม่เตือนท่านหรอก แต่ผมทำเพราะเห็นว่า สมควรก็เท่านั้น หากท่านเห็นว่าการกระทำของท่านเรียกไม่มีกิเลส และของผมเป็นกิเลสก็สุดแล้วแต่ท่านครับ ผมทำได้เท่านี้จริงๆ สำหรับท่าน แต่สำหรับผู้อื่นก็ไม่แน่ครับ

 

ใจเย็น ๆครับท่านทั้ง2 ไม่ทราบว่ามีเรื่องเคืองกันแต่กระทู้ไหน ไม่อยากเห็นพุทธมามะกะทะเลาะกันครับ สาธุ

 

ไม่มีอะไรครับ คือ คนบางคนต้องกระตุ้น สติจึงจะเกิดได้ครับ ไม่มีอะไรครับ ขออภ้ยท่านทั้งหลายครับ ขอเชิญให้ธรรมที่สร้างสรรค์และเป็นไปเพื่อให้เกิดปัญญา ละกิเลสได้ ด้วยกันทุกท่านครับ เพื่อเป็นธรรมทานครับ
อนุโมทนาครับ

 

เพราะมันไร้สาระ และ เอ็งตั้งคำถามไม่ถูก
ไม่เข้าใจที่แท้จริง ก็ไม่รู้จะพูดให้เหตุผล อย่างไร

ตัวเอ็งเข้าใจคำว่า นิพพานแล้วหรือ
แล้ว นิพพานเป็นอารมณ์ กับ จิตเที่ยงนี้เอ็งเข้าใจแล้วหรือ

ถ้ายังไม่เข้าใจ ก็ป่วยกา่รที่จะต้องชี้แจง

 

น่าเวทนา จริงๆ