มัดตราสังกักวิญญาณ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย shido, 28 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. shido

    shido เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +230
    สมัยปี 2531 ช่วงนั้นผมมีแฟน ผมไม่ได้ทำงานประจำ พักอยู่ที่รำไพอพาร์เม้นท์ ซอยตรงข้ามซอยกิ่งเพชร ถนนเพชรบุรี ผมกับแฟนและน้องชายของแฟนกับแฟนเขารวม 2 คู่ ได้ตกลงเข้าหุ้นค้าขายที่สวนจตุจักร ช่วงบ่ายแก่ๆของวันก่อนหน้าที่จะเริ่มเปิดกิจการ ได้นำของไปฝากไว้ที่บ้านพักของแม่แฟน ที่กรมสารวัตรทหาร ถนนพญาไท ขณะที่ผมกับน้องชายแฟนช่วยกันหามของเดินเข้าซอย ผมก็นึกถึงคำพูดของแฟนที่เล่าให้ผมฟังว่า ที่ซอยเข้าบ้านพักแม่เขา มีคนถูกฆ่าตายที่นั่นคนหนึ่ง และนำศพมาทิ้งอีก 2 ศพ พอขนของไปฝากเสร็จต่างก็แยกย้ายกัน ผมกับแฟนก็ไปต่อแล้วก็แยกกัน

    ผมกลับมาถึงห้องพัก ด้วยความคิดที่ว่า พรุ่งนี้ต้องไปขายของที่สวนจตุจักร หากทำกุญแจหล่นหายคงมีปัญหาแน่ เพราะประตูห้องพักเป็นประตูเหล็ก แต่เหนือประตูเป็นช่องมุ้งลวด จึงคิดว่าจะเอาลูกกุญแจไปแขวนไว้ที่เหนือประตู ถ้าหากลูกกุญแจหาย จะได้กระแทกมุ้งลวดไปเอาลูกกุญแจมาเปิดเข้าห้องได้ (แต่เมื่อถึงตอนนี้มันก็น่าคิดว่าทำไมผมไม่เอาแค่ลูกกุญแจไปแขวน) ผมก็เลยเอาลูกกุญแจโซโลดอกหนึ่ง ใส่ไว้ในกล่องใส่นามบัตรทองเหลือง ซึ่งมีฝาปิดเปิดได้ จากนั้นจึงใช้เชือกฟางมัด ถ้าใครเคยมัดกล่องกระดาษ ก็จะรู้ว่าตามธรรมดาด้านล่างกล่องเราจะไขว้เชือกไว้เฉยๆ ไม่ผูกเป็นปม แต่ถ้าทำแบบนั้นมันจะแน่นต้องแก้เชือกทั้งหมด ด้วยความขี้เกียจผมไม่ต้องการแก้ ผมจึงผูกเป็นปม แล้วมัดหลวมๆเพื่อที่จะได้ปลิ้นตลับนามบัตรออกมาได้โดยไม่ต้องแก้เชือกทั้งหมด เสร็จจากปมแรกพอโยงเชือกมาถึงด้านบนก็ผูกเป็นปมอีกปมหนึ่ง จากนั้นก็ผูกอีกปมตอนทำเป็นบ่วงสำหรับคล้องไว้เหนือประตู พอทำเสร็จผมก็ได้เอาไปแขวนไว้เหนือประตูตามที่ตั้งใจไว้

    ครั้นถึงเวลาเกือบเที่ยงคืนเข้านอน นอนเท่าไหร่ก็นอนไม่หลับ หลับตาก็เห็นแต่ภาพซอยเข้าบ้านแม่แฟน ยิ่งดึกก็มีเสียงดังป็อบๆแป็บๆ ผมก็เลยหันหน้งสือที่วางบนหัวเตียงให้ด้านสันหนังสือออกด้านนอก เพราะที่ห้องใช้พัดลมเพดานก็เงียบไปสักพัก หลังจากนั้นก็มีเสียงดังอีก ผมก็พบว่าภาพโป๊สเตอร์ที่ปิดไว้มันหลุดตรงมุมเวลาพัดลมหันไปโดนมันก็เผยอตีกับผนังห้อง ด้วยความหงุดหงิดที่นอนไม่หลับ ผมเลยกระชากทิ้งเลย จากนั้นก็ไม่มีเสียงอีก แต่ผมก็ยังนอนไม่หลับ หลับตาก็เห็นภาพซอยเจ้ากรรมจนเวลาล่วงเข้าสู่ตี 2 ทีนี้พอผมพลิกตัว ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนพลิกตัวตาม พอพลิกตัวกลับก็รู้สึกเหมือนว่าตัวผมทับแขนคนอยู่ ผมก็เลยดึงชุดนอนดูตำแหน่งที่รู้สึกว่าเหมือนทับแขนคนอยู่ เพื่อหาว่ามีปากกาหรือยางลบบ้างไหม ก็ปรากฏว่าไม่มีอะไรเลย เป็นอยู่อย่างนั้นหลายครั้ง พอเปืดไฟก็ไม่มีอะไร พอปิดไฟก็เป็นอีก จนถึงเวลาตี 3 ผมหงุดหงิดเต็มแก่จึงเปิดไฟแล้วนั่งต้มน้ำชงกาแฟดึ่ม พร้อมกับพูดว่า " มะ แน่จริงก็ออกมาให้เห็นเป็นตัวเลย " แต่ก็ไม่มีอะไร ผมนั่งอยู่จนถึง 6 โมงเช้าโดยไม่ได้นอนเลย แล้วจึงออกไปเอาของที่บ้านแม่แฟนแล้วเดินทางไปสวนจตุจักรกัน

    พอเสร็จจากการขายของวันแรก ผมก็แยกกับแฟนตั้งแต่ตอน 3 ทุ่ม บอก " เมื่อคืนไม่ได้นอนเลย ขอนอนเร็วนะวันนี้ " พอเข้าห้องได้ผมก็เตรียมตัวอาบน้ำ ขณะที่ยืนแปรงฟันอยู่รู้สึกเหมือนมีใครมาพิงข้างหลัง ก็เลยขยับตัวหันไปมองพร้อมนึกในใจ " เฮ้ย อะไรกันวะ " แล้วความรู้สึกก็หายไป พอเข้าห้องอาบน้ำขณะที่กำลังสระผม รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงแต่ไม่ใช่เสียงที่เราได้ยิน บอกว่า " ให้ไปแก้เชือกที่ทำไว้เมื่อวานเสีย นั่นมันเชือกตราสังนะ " ผมก็นึกแย้งตอบว่า " ไม่จริงมั๊ง " ก็ได้รับโต้ตอบกลับมาว่า " ไม่เชื่อก็ลองดูสิ " แล้วความรู้สึกก็หายไปจนผมอาบน้ำเสร็จ

    หลังจากใส่ชุดนอนเรียบร้อย ผมก็ล้มตัวลงนอน ตาก็เหลือบไปเห็นกล่องทองเหลืองที่ผมทำไว้ตั้งแต่คืนวาน ก็จำได้ถึงเสียงโต้ตอบตอนที่กำลังสระผม คิดอยู่สักครู่ ผมก็พูดกับตัวเองในใจ " ลองดูก็ได้ว๊ะ ถ้าไม่มีอะไรผูกใหม่ก็ได้ " แล้วผมก็ค่อยๆแก้เชือกออกที่ละปม พอแก้เชือกปมสุดท้ายเสร็จ ก็รู้สึกว่ามีลมกรรโชกออกไปจากห้องวูบหนึ่ง รู้สึกได้เลยว่ามันโล่งๆ เหมือนพลังงานในห้องมันลดลงไปครึ่งหนึ่ง

    พอล้มตัวลงนอนซักพัก ผมก็เกิดนึกอยากรู้ว่า เชือกตราสังเขามัดกันยังไง ผมก็เลยเปิดพจนานุกรมรุ่นที่มีศัพท์ตั้งแต่ยุคโบราณดู (ช่วงนั้นผมเปลี่ยนชื่อ เลยต้องมีพจนานุกรมดังกล่าวเพื่อหาศัพท์) ก็มีคำอธิบายว่า เชือกตราสังนั้นจะมัดเป็นปมทุกเปาะ ความเข้าใจของในขณะนั้นก็คือ ทุกจุดที่เชือกไขว้กันจะต้องผูกเป็นปมตลอด ซึ่งที่ผมทำก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมอยู่ที่นั่นมา 4 เดือนก่อนเกิดเหตุ และหลังจากนั้นก็อยู่ต่อมาอีก 6 เดือน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งผมย้ายออก

    จนเวลาล่วงเลยมาถึงปี 2547 เมื่อผมได้รู้จักชินแสท่านหนึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ท่านก็พูดเรื่องเชือกตราสังขึ้นมาโดยที่ผมไม่ได้ถามและไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังว่า " เชือกตราสังเขาผูก 3 ปม ที่เท้า คอ และมือ " ผมก็รับรู้ เพราะที่ผมทำมันก็ 3 ปมจริงๆ หลังจากนั้นผมจำปีพ.ศ.ไม่ได้ ผมได้ดูรายการทีวี กำลังแสดงสาธิตเรื่องการมัดตราสังข์ของสับปะเหร่อพอดี ผมก็เลยได้เห็นวิธีการมัดเชือกตราสังข์ ก็เป็นอย่างที่ชินแสพูดให้ฟัง แต่ผมก็จำไม่ได้อยู่ดีว่า จากข้อเท้าแล้วไปคอก่อน หรือ ข้อมือก่อน...เอวัง


    :cool:
     
  2. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    เดี๋ยวนี้ใช้เชือกฟางมัดตราสังข์เหรอครับ
     
  3. shido

    shido เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +230
    เรื่องตั้ง 22 ปีมาแล้วนะครับ มันเป็นประสบการณ์ที่สอนให้ผมได้รู้ความจริงว่า

    1. เชือกที่มัดไม่จำเป็นต้องเป็น ด้ายสายสิญจน์
    2. สื่อ เป็นใครก็ได้ (พระ หราหมณ์ คนดิบ)
    3. คาถา มีหรือไม่มีก็ได้
    4. ต้องมีเครื่องประกอบพิธีกรรมอันเป็นเคล็ด

    :cool:
     
  4. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ไม่เข้าใจอ่ะค่ะ เชือกที่คุณใช้มัดคือเชือกที่เค้ามัดตราสังข์ศพหรือคะ หรือว่าเป็นเชือกอะไรก็ได้ ที่เรามัด 3 ปม ถือว่ามัดตราสังข์หมดเลยหรือป่ะ
     
  5. shido

    shido เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +230
    ไม่ครับตอนนั้นก็คือเชือกฟางธรรมดาๆนี่เอง แต่เป็นไปได้ว่าวิญญาณอาจจะตามผมมา เพราะช่วงที่เดินผ่านซอยบ้านแม่แฟน เกิดนึกกึงคำพูดของเขาขึ้นมา คลื่นอาจจะบังเอิญตรงกันพอดี

    ตามประสบการณ์น่าจะใช่นะครับ เพียงแต่ที่เรามัด 3 ปม แล้วไม่มีอะไร ก็เพราะไม่มีวิญญาณ หรือไม่ก็องค์ประกอบที่เป็นเคล็ดไม่มี

    :cool:
     
  6. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778

    อ๋อเข้าใจแล้วค่ะขอบคุณค่ะ
     
  7. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    เข้าใจเร็วจัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...