รวมบทสวดสายหลวง​พ่อปาน-หลวงพ่อฤาษี

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย เพชรฉลูกัน, 20 มีนาคม 2013.

  1. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,445
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,184
    พระพุทธคาถา
    สัมมาสัมพุทธัสสะ พระอะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ

    สวดทุกคืน คืนละ 7 จบ
    อานุภาพคาถามีดังนี้
    1. ศัตรูจะพินาศไปเองเมื่อคิดประทุษร้าย
    2. จะเกิดผลในด้านมงคลทุกประการตามที่ปรารถนา
    3. จะสามารถเห็นได้แจ่มแจ้งด้วยญาณ เห็นได้ชัดเจนทุกประการ และทุกขณะที่ประสงค์จะเห็น
    4. เป่าให้ศิษย์ผู้เรียนทิพยจักขุญาณ และเรียนไปปรโลกได้ มีญาณเครื่องเห็นแจ่มใส

    คาถาพระปัจเจกพระพุทธเจ้า

    ตั้งนะโมฯ 3 จบก่อนแล้ว นมัสการสรณคมณ์ (พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆังสรณัง คัจฉามิ) แล้วให้สมาทานศีล 5 (ปาณา ฯลฯ สุราเมระยะฯ )แล้วจึงท่อง

    พุทธะ มะ อะ อุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม
    สวดเช้าเย็น ครั้งละ 9 จบ จะทำให้มีความคล่องตัวในความเป็นอยู่ เงินไม่ขาดมือ.

    คาถาอภิญญารวม

    โสตัตตะภิญญา

    คาถารวมจิต
    อิติ สัมมาสัมพุทธัสสะ มะมะ จิตตัง

    คาถาปราโมทย์
    ปราโมทย์
    คาถาพระนิพพานนิมิต
    นิมิตจิตติ นิมิตจิตตา นิพพานจิตติ นิพพานจิตตา
    คาถาขีณาสวานิตยา และนิพพานสุขัง
    ขีณาสวานิตยา และนิพพานสุขัง
    คาถาเรียกจิตคน
    จิตตะ มหาจิตตัง ปิยัง มะมะ (เรียกจิตคนสำหรับเทศน์ อบรม สนทนา ทำให้ใจคนน้อมมาหา)

    คาถาสนองกลับผู้กระทำไสยศาสตร์

    สัมปจิตฉามิ

    คาถาป้องกันคุณไสย และกันยาพิษ ยาสั่ง

    เมสัมมุขา สัพพาหะระติ เตสัมมุขา

    คาถากำบังตัว

    สัมปะติจฉามิ

    คาถากันฟ้าผ่า

    อากาเสจะ พุทธทิปังกะโร นะโมพุทธามะ

    คาถาคนนิยม
    เอหิสาลิกา ยังยัง พุทธัง อาคัจฉาหิ สาลิกาถิง กะระณัง ตาวังคาวา
    เอหิมะมะ สุวะโปตะโก อะยัง ราชา สุวัณณะวัณณา สาลิกานัง มะโหสะโต ปิยังมะมะ
    (ใช้สวดภาวนาเมื่อต้องการติดต่อเจรจาในเรื่องสำคัญ ค้าขาย เพื่อให้คนนิยมชมชอบ)

    คาถาสมัครงาน
    พุทธัสสาหัง นิยยาเทมิ สะริรัญ ชีวิตัญวิทัง
    นะโมมิตตามนุสสาจะ นะเมตตา โมกรุณา
    (ใช้ท่องก่อนออกจากบ้านไปสัมภาษณ์หรือสมัครงานจะทำให้มีเสน่ห์เป็นที่ประทับใจ)

    คาถาค้าขายดี
    โอมอิติพุททัตสะ สุวันนัง วารัชชะคัง วามะนีวาวัตตัง วาพัพพะยัน ละเอหิคาคัชวันติ
    (ให้เอาใบไม้แช่น้ำใส่ขันไว้แล้วสวดภาวนา เลร็จแล้วนำน้ำไปประพรมให้ทั่วร้าน จะทำให้ขายคล่อง)
    หรืออีกคาถาหนึ่งก็ว่ากันว่าทำให้ทำมาค้าขึ้นเหมือนกันคือ
    อิติปิโสภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ อิติปิโสภะคะวา พุทโธภะคะวา อิติปิโสภะคะวา พุทโธภะคะวา
    และอีกคาถาหนึ่งสำหรับพ่อค้า แม่ค้าที่นิยมเสกเป่า ๓ จบ กับสินค้าเหมือนกันคือ
    พุทธัง พะหุชะนานัง เอหิจิตตัง เอหิมะนุสสานัง เอหิลาภัง เอหิเมตตา
    ชมภูทีเป มะนุสสานัง อิตถิโย ปุริโส จิตตัง พันธังเอหิ

    คาถาสาริกาลิ้นทอง
    พุทธา อะเนนา มะลิยา สุสังคะเยมิ
    พุทธา อิริมะลิยา สุสังคะเยมิ
    พุทธา อิรปะโย เคมะคุณนะ ปักเขสะเมมะมิ
    อุนาโลมา ปันนะ วิชายะเต
    (ใช้สวดภาวนาหากต้องการให้คนรักใคร่ พูดจาเป็นเสน่ห์ ตอนท่องถึงคำว่า มิ ก็ให้แตะที่ลิ้นด้วยทุกครั้ง)

    คาถาการเจรจา
    นะโมพุทธายะ มะอะอุ ยะธาพุทโมนะ อุอะอะ อิสวาสุ สัพพะทัสสะ อะสังวิสุ โลปุสะพุภะ
    (ใช้ภาวนากับน้ำล้างหน้าตอนเช้าก่อนออกจากบ้านไปติดต่อเจรจาเรื่องสำคัญ จะทำให้สำเร็จในสิ่งที่หวังไว้)

    คาถาอัญเชิญพระเครื่อง
    พุทธัง อาราธนานัง รักษา ธัมมัง อารธนานัง รักษา สังฆัง อาราธนานัง รักษา
    (ใช้สวดภาวนากับพระเครื่องก่อนออกจากบ้าน พระจะคุ้มครองเป็นสิริมงคลกับตัวเอง)

    คาถาอุปถัมภ์
    อิติปาระมิตาติงสา อิติสัพพัญมาคะตา อิติโพธิ มนุปปัตโต อิติปิโส จะตมะโน
    นะเมตตา โมกรุณา พุทปรานี ธายินดี ยะเอ็นดู ยะหันตวา ธามัวเมา พุทพาเอา นะโมพุทธายะ
    (ใช้ท่องก่อนออกจากบ้าน จะทำให้เจ้านายสงสาร ช่วยเหลืออุปถ้มภ์ดี)

    คาถารักแท้
    โอมนะโมพุทธายะ พุทธัง สะระติ ธัมมัง สะระติ สังฆัง สะระติ
    จิตตังสะมาเรมะมะเอทิ เอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา พะหูชะนา เอหิ
    (ให้บริกรรมคาถานี้กับลูกอมแล้วอมขณะที่คุยกับคนที่เรารัก จะทำให้เขาคนนั้นเกิดความรักจริงจังขึ้นมา)

    คาถามัดใจ
    พุทธัง รัตตะนัง ธัมมัง รัตตะนัง สังฆัง รัตตะนัง นะผูก โมมัด พุทรัด ธารึง ยะกรึงคะเร โอมสวาหะ
    (ใช้สวดภาวนาก่อนนอน ทำให้คนรักคิดถึง)

    คาถามนต์รัก
    โอม นะ ปะ โร รันนะขุเภติ
    พุทธัง สะระติ จิตตัง สมาคะมา
    ธัมมัง สะระติ จิตตัง สมาคะมา
    สังฆัง สะระติ จิตตัง สมาคะมา
    (ใช้ภาวนากับดอกไม้ก่อนที่จะส่งให้กับคนรัก เมื่อเขาหรือเธอสูดดมดอกไม้ก็จะรักเราตอบ)

    คาถาใจอ่อน
    ปัญจะมังสิระสังชาตัง นะอตใจ นะกาโร โหติ สัมภะโว
    ตรีนิกัตวานะ นะ การัง ปัญจะสัมภะวัง
    (ใช้ท่องก่อนที่จะพบเจรจากับคนที่เป็นเจ้าหนี้หรือใครก็ตาม จะทำให้ได้รับการผ่อนปรน ใจอ่อนได้ทุกที)

    คาถาผูกใจคน
    โอมนะโมพุทธะ นะ มะ อะ อุ เอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา พะหูชะนา เอหิ
    (ใช้สวดเมื่อต้องการให้คนทั่วไปรักใคร่ยินดี ใช้เสกกับแป้งหรือน้ำหอมก็ได้)

    คาถามหาเสน่ห์
    จันโทอะภกันตะโร
    ปิติ ปิโย เทวะมนุสสานัง
    อิตภิโยปุริ โส
    มะ อะ อุ อุ มะ อะ อิสวาสุ อิกะวิติ
    (ให้ภาวนาคาถานี้ ๓ จบก่อนออกไปพบคน จะทำให้คนที่ต้องไปพบเกิดความรักใคร่)

    หมวดป้องกันภัยต่างๆ
    คาถาป้องกันผี
    นะโมพุทธายะ มะพะ ทะนะ ภะ กะ สะ จะ
    สัพเพทวาปีสาเจวะ อาฬะวะกาทะโยปิยะ
    ขัคคัง ตาละปัตตัง ทิสวา สัพเพยักขา
    ปะลายันติ สักกัสสะ วะชิราวุธัง
    เวสสุวัณณัสสะ คะธาวุธัง
    อะฬะวะกัสสะ ทุสาวุธัง
    ยะมะนัสสะ นะยะนาวุธัง
    อิเมทิสวา สัพเพยักขา ปะลายันติ
    (ใช้สวดภาวนาเมื่อเกิดความกลัวผีขึ้นมา วิญญาณจะไม่มารบกวนเข้าใกล้)

    คาถาป้องกันผีพราย
    ตานังเลนัง สัพพะปาณีนัง เลนังตานัง สัพพะปาณีนัง
    (ใช้สวดภาวนาเพื่อให้ปลอดภัยจากการรบกวนของวิญญาณ ภูตผีต่างๆ หรือภาวนากับน้ำนำไปพรมกับคนที่คิดว่าจะถูกวิญญาณสิงสู่)

    คาถาป้องกันงู
    ปะถะมังพันธุ กังชาตัง ทุติยังทัณฑะ เมวะจะ
    ตะติยังเภทะกัญเจวะ จะตุตถังอังกุ สัมภะวัง
    ปัญจะมังสิระสังชาตัง นะงู นะกาโร โหติสัมภะโว
    (ใช้ภาวนาเมื่อต้องเข้าป่า ที่รก หรือแม้แต่เมื่อขณะพบเจองู จะทำให้คุณปลอดภัย)

    คาถากันสุนัข
    นะโมพุทธายะ นะมะอะอุ อิสวาสุ อุอะมะ
    (ใช้ท่องแล้วเป่าเบาๆ เวลาเจอสุนัขดุ)

    คาถาป้องกันตัว
    ปัญจะมัง สิระสังชาตัง นะกาโร โหติ สัมภะโว
    พินธุ ทัณฑะ เภทะ อังกุ สิริ นะโมพุทธายะ
    (ใช้ท่องภาวนาเป่าใส่มือ แล้วตบมือดังๆ จะทำให้ปลอดภัยจากอันตรายไม่ว่าคนหรือสัตว์)

    คาถาคงกระพัน
    อะสังวิสุ โลปุสะภุพะ
    สังวิทาปุกะยะปะ นะโมพุทธายะ มะอะอุ อะระหัง
    (ใช้ท่องกับพระเครื่องและวัตถุมงคลและนำติดตัวไว้เพื่อป้องกันตัว คุ้มครอง)

    คาถาป้องกันภัยพิบัติ
    ระตะนัตตะ ยังปุเชมิ คุณะวันตา นะราปิจะ
    เตโสตตะมา นุภาเวนะ ปุญญานิ ปะกะตานิเม
    (ใช้สวดภาวนาก่อนเดินทางหรือกระทำการใดๆที่อาจเกิดอันตราย จะช่วยให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติต่างๆ)

    คาถาสกัดโจรผู้ร้าย
    เจโรอัตนะรถา ยิควา ภูมิยัง
    จักขุมัง ปรมานู ภัควโต อิทธิยา อัตตะโน
    สิริเร มังสัง จักขะ อวสุสตุ
    อวะสุสเต สริเว มังสัง โลหัตตัง
    (ใช้ท่องเพื่อให้ปลอดจากโจรผู้ร้าย)

    คาถาคับขัน
    พุทโธเมสะระณัง เลนัง
    ตาณังชีวิตัง ปะริยันตะ
    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    นะปิดหู โมปิดตา พุทมิเห็น
    ธาดลซ่อนไว้ ยะหายไป
    (ใช้ท่องบริกรรมเมื่อตกอยู่ในยามคับขัน ศัตรูหรือคนที่ไม่ประสงค์ดีจะมองไม่เห็น)

    คาถาหนังเหนียว
    สุกิตติมา สุภาจาโร สุสีละวา สุปากะโต อัสสะสิมา วะเจธะโร เกสะ โรวา อะสัมภิโต
    (ใช้สวดภาวนาคาถานี้กับน้ำมันทาถูร่างกายจะทำให้อาการฟกช้ำหายเร็ว หรือก่อนออกศึกใดๆ จะทำให้หนังเหนียวไม่บาดเจ็บง่าย)

    คาถาต่อสู้
    นะกาโรปะถะมังฌานัง
    โมกาโรทุติยาฌานัง
    พุทกาโร ตะติยฌานัง
    ธากาโร จะตุตถังฌานัง
    ยะกาโร ปัญจะมังฌานัง
    ปัญจะอักขระรานิ ชาตานิ นะโมพุทธายะ ลักขะนัง
    (ใช้สวดภาวนาเมื่อต้องเผชิญหน้าศัตรูหรือกำลังจะต้องต่อสู้ เพื่อให้พ้นจากอันตราย)

    คาถารอด
    นะรา นะระ หิตังเทวัง นะระเทเรหิปูชิตัง นะรานัง กะมะปังเกหิ นะมามิสุคะตังชินัง
    (ใช้สวดภาวนาเมื่อสถานการณ์ไม่ค่อยดีเช่น รู้สึกว่ามีคนสะกดรอยตาม ถูกปองร้าย อันตรายกำลังเข้าใกล้ก็ให้ท่องคาถานี้เพื่อให้รอดพ้นอันตรายได้อย่างไม่คาดฝัน)

    คาถากำบัง
    ปะถะมังพินธุกังชาตัง ตรีนิกัตวา นะนะ การังปัญจะสัมภะวัง
    นะรา นะระ หิตังเทวัง นะระ เทเวหิปูชิตัง นะรานัง กามะปิเกหิ นะมามิสุคะตังชินัง
    (ใช้สวดภาวนาเพื่อหลบศัตรู หรือคนที่กำลังคิดปองร้าย ทำให้ฝ่ายตรงข้ามมองไม่เห็นหรือคลาดสายตาไปได้)

    คาถาแคล้วคลาด
    พุทธาอะนุนามะริยาสุขังเขยเย
    พุทธาอะนินาสุหะลาลิสังเขยเย
    พุทธาริโยเคมะกุลักขะกัปปะเก
    วันทามิเตสุระนะรักกะเมสะเม
    (ให้ท่องคาถานี้ ๓ จบเวลาต้องการให้แคล้วคลาดในสิ่งใดๆที่อาจเป็นอันตราย หรือเสี่ยง เช่นก่อนเดินทางไกลหรือขึ้นเครื่องบิน)

    คาถากันปืน
    นะอุ เออัด อุทธังพะลังเสยยัด
    อะอัดนะ นัดมัดอัด อุทธะอุตตัมปิ
    อุตตะรัง อุสุอัสสะปะปิ ภะคะวา
    อิติปิผิดนะอุทธัง อัทโธ โมโทอัดธังอุด
    พุทอุทธัง อัทโธ ชาโธอุทธัง อัดยะมิให้ออก
    นะผิดกาโรโหติ สัมภะโว
    (ใช้สวดภาวนาตอนที่สถานการณ์คับขัน เพื่อให้แคล้วคลาดจากอาวุธปืน)

    คาถาแก้ศัตรู
    พุทธัง บังจักขุ ปะติลิยะติสูญญัง
    จิตตะวิภัตติ สังชาตัง
    อะโหสะกัง มหาสูญญัง ปรมัตถะสูญญัง
    ธัมมัง บังจักขุ ปะติลิยะ ติสูญญัง
    จิตตะวิภัตติ สังชาตัง
    อะโหสะกัง มหาสูญญัง ปรมัตถะสูญญัง
    สังฆัง บังจักขุ ปะติลิยะ ติสูญญัง
    จิตตะวิภัตติ สังชาตัง
    อะโหสะกัง มหาสูญญัง ปรมัตถะสูญญัง
    (ใช้ภาวนาเวลาที่กำลังถูกคนปองร้าย ให้ท่องคาถากับมือแล้วเอามือนั้นมาแตะที่หน้าผาก ว่ากันว่าจะทำให้รอดพ้นไปได้)

    คาถาข่มศัตรู
    ตะโต โพธิสัตโต ราชะสิงโหวะมหิทธิโก
    อะระหัง ตะมัตทังปะกาเสนโต
    ราชะสิงโห สัตถาอาหะ นะโมพุทธายะ นะมามิสุคะตังชินัง
    (ใช้บริกรรมคาถาเมื่อจะต้องไปเจอศัตรู จะทำให้ศัตรูเกรงกลัว - ท่อง ๓ จบแล้วกระทืบเท้าดังๆ ก่อนออกจากบ้านเหมือนกับพิธีตัดไม้ข่มนาม)

    คาถาขับไล่สิ่งชั่วร้าย
    มะโทรัง อะตะระโร เวสะวะโน นะหากปิ ปิสาคะตาวาโหมิ
    มหายักขะ เทพะอนุตะรัง เทพะดา เทพะเอรักขัง ยังยังอิติ เวสะวะนัน
    ภูตัง มหาลักชามะนง มะภูอารักขะ นะพุททิมะมัตตะนัง กาลปะติทิศา
    สัพเพยักขา ปะลายัตตะนิ
    (ใช้ท่องกับน้ำบริสุทธิ์แล้วนำมาประพรมให้ทั่วสถานที่นั้นๆ จะช่วยแก้อาถรรพ์ต่างๆ ณ ที่นั้นได้)

    คาถาแก้พิษ
    อะสัง วิสุโล ปุสะพุภะ สะทะวิปิ ปะสะอุ มะ อะ อุ อาปามะจุปะ ทีมะสัง อังขุ นะโมพุทธายะ
    (ใช้ภาวนาคาถานี้กับเครื่องสมุนไพร <ขิง พลู ไพลตำรวมกัน> แล้วทาบริเวณที่เป็นผื่นแดงโดยไม่รู้สาเหตุจะทำให้บรรเทาได้)

    คาถาแก้อาคม
    นะโมพุทธายะ
    นะรา นะระ รัตตัง ญานัง
    นะรา นะระ รัตตัง หิตัง
    นะรา นะระ รัตตังเขมัง วิปัสสิตัง นะมามิหัง
    (ใช้สวดภาวนากับน้ำแล้วนำมาดื่มและอาบ ถ้าหากรู้สึกว่าร่างกายจิดใจไม่เป็นปรกติ กระวนกระวายวซึ่งอาจจะถูกของ)

    คาถากันไฟและขโมย
    ปัญจะมาเล ชิเนนาโถ ปัตโตสัมโพ ธิมตตะมัง อรหังพุทโธ อิติปิโสภะคะวา
    (ใช้สวดภาวนากับทราย ๗ จบด้วยกัน แล้วนำไปโปรยรอบบ้าน จะปลอดจากอัคคีภัยและขโมยโจร)

    คาถาพืชผล
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต
    อภิวัน ทิยะ ปูเชตะวา
    เอเตนะ จาปิ สัจเจนะ
    ปวุตตา พืชชาติโย
    ปัพพัณณา จาปรัณณาจะ
    วิรูหันตุ
    (ใช้ท่องภาวนาขณะที่ปลูกต้นไม้ หว่านพืชผล เพื่อให้เติบโตงอกงามเร็วและปลอดจากแมลงหรือภัยอื่นๆ)

    คาถารักษาไข้
    โพชฌังโค สติสังขาโต ธัมมานัง วิจโย ตถา วิริยัมปิติ บัสสัทธิ
    โพชฌังคา จ ตถา ปเร สมาธุ เปกขโพชฌังคา สัตเต เต สัพพทัสสินา
    มุนินา สัมมะทักขาตา ภาวนา พหูลีกะตา สังวัตตันติ อภิญญายะ นิพพานะยะ จะโพธิยา
    (ใช้ภาวนาเมื่อเวลาที่ไม่สบายกับยาที่ใช้ทานอยู่จะช่วยให้หายป่วย หายเจ็บไข้ได้เร็วขึ้น)

    คาถาชนะมาร
    นะโม พุทธายะ โมคคัลลานัญ จะมหาเถโร อิทธิมันโต อานุภาเวนะ เชยยะสิทธิเม
    (ใช้สวดภาวนาเพื่อให้เอาชนะจากคนไม่ดีได้)

    คาถาโชคลาภ ๑
    นะโมพุทธายะ นะมะ พะทะ จะ ภะ กะ สะ นะ อุ อุ นะ
    เตชะสุเนนะ มะภูจะนาวิเวอิติ นะยะปะรังยุตเต
    (ใช้ภาวนากับกระเป๋าสตางค์ จะทำให้ไม่ขัดสน)

    คาถาโชคลาภ ๒
    นะโมพุทธายะ สัพพะสิเนหา จะปูชิโต สัพพะโกรธาวินาสสันตุ
    อะเสสะโต เมตตากรุณายัง ทะยะวิสา โสปิยามะนา โปเม สัพพะโลกัสสมิง
    (ใช้ภาวนาเพื่อให้เกิดโชคลาภ อาจจะใช้เสกกับน้ำแล้วใช้ล้างหน้าก็ได้)

    คาถาโชคลาภ ๓
    โพธิ มะหิสะกะ อิถิพุนะ อิถิสัตโต อิถีวาโย
    เอหิ มะ มะ นะกาโร โหติ สัมภะโว
    (เป็นอีกคาถาหนึ่งที่ใช้สวดภาวนาเพื่อให้เกิดโชคลาภแบบฟลุ้คๆขึ้นมาได้ เอามาเสกกับน้ำแล้วแตะหน้าผาก)

    คาถาร่ำรวย
    ธะนัง โภคัง ทุสะ มะนิ นะนัง โภคัง ทุสะ มะนิ อุมิ อะมิ มะหิสุตัง สนะพุทธัง
    อะ สุ นะ อะ นะ มะ พะ ทะ จะ ภะ กะ สะ
    (ใช้ภาวนากับน้ำแล้วนำเอามาพรมให้ทั่วร้าน หรือบ้านจะนำทาซึ่งเงินทองไม่ขาดสาย)

    คาถามหาลาภ
    นะมามีมา มะหาลาภา อิติพุทธัสสะ สุวัณณังวา ระชะตังวา มะณีวา ธะนังวา พีชังวา อัตถังวา ปัตถัง
    วา เอหิ เอหิ อาคัจเฉยยะ อิติมีมา นะมามิหัง
    (ให้สวดภาวนาก่อนนอน ๓ จบและตอนเช้าอีก ๓ จบ จะเรียกทรัพย์ โชคลาภให้มีได้อย่างน่าอัศจรรย์)

    คาถาสะเดาะเคราะห์
    นะโมเม โรเตโข สัพพะเทวานัง
    สัพพะพุทธา นุภาเวนะ สัพพะธัมมา นุภาเวนะ สัพพะสังฆา นุภาเวนะ
    พระเคราะหะ จะเทวะดา สุริยัง วันทัง ปะมุญจะกะ สะสิภูมโบ จะเทวานัง
    พุทโธ ลามัง ถะวิสสะติ ชีโว สุโก จะ มหาลาถัง สัพพะทุกขัง วินาสสันติ
    (กราบ ๓ ครั้งแล้วกล่าวว่า พุทโธ ธัมโม สังโฆ สวดอย่างนี้ ๗ วัน)

    คาถาคลอดลูกง่าย
    ยโตหัง ภคินี อริยายะ
    ชาติยา ชาโต นาภิชา นามิ
    สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา
    โวโรเปตา เตนะ สัจเจนะ
    โสตภิเต โหตุ โสตภิ คัพภัสสะ
    (ใช้ภาวนาแล้วลูบที่ครรภ์มารดาเพื่อให้คลอดลูกง่าย)

    คาถาเสกขี้ผึ้ง
    มทุจิตตัง สุวามุปขัง
    ทิตสวานิมามัง ปิยังมะมะ
    เมตตา ชิวหายะมะ ทุรัง
    ทะตวาจาจัง สุตทังสุตตะวา
    สัพเพชะนาพะ หุชะนาอิตถีชะนา
    สัมมะนุนะ พรามมะนา นุนะ
    ปะสังสันติ
    (ใช้ภาวนากับขี้ผึ้งหรือลิปสติก จะทำให้คนรักเชื่อฟัง)

    คาถาแก้ฝ้นร้าย
    ยันทุนนิมัตตัง อวมังคลัญจะ
    โยจามะนาโป สกุณัสสะสัทโธ
    ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
    พุทธานุภาเวนะ วินาสเมนตุ
    ยันทุนนิมัตตัง อวมังคลัญจะ
    โยจามะนาโป สกุณัสสะสัทโธ
    ปาปัคคะโท ทุสสุปินัง อะกันตัง
    ธรรมานุภาเวนะ วินาสเมนตุ
    ยันทุนนิมัตตัง อวมังคลัญจะ
    โยจามะนาโป สกุณัสสะสัทโธ
    ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
    สังฆานุภาเวนะ วินาสเมนตุ
    (ใช้ภาวนาตอนเช้าตรู่กับน้ำลูบหน้าเพื่อแก้ฝ้นร้าย)

    คาถาปลุกใจ
    ปัจจะมัง สิระสัง ชาตัง นะอดทน นะกาโร โหติสัมภะโว
    นะรานะระหิตัง เทวัง นะระเทเวหิจชิงตัง นะรานังกามะปังเกหิ
    นะมามิสุคะตังนัง กัณหะ เนหะ
    (ใช้ท่องเมื่อต้องเผชิญกับความห่อเหี่ยว หมดกำลังใจ จะได้ช่วยเพิ่มพลังให้มีกำลังใจและกายต่อสู้กับปัญหาต่างๆ)

    คาถาคดีความ
    อิติปิโสภะคะวา อรหังสัมมา สัมพุทโธ อรหังเต โน
    โสตาปะติ ภะลัง อะนาตามิ พะลังเตโช วิทะเตเชยยะ
    เชยยะ สัพพะศัตรู วินาสสันติ
    (ใช้ภาวนาหากเมื่อมีเรื่องต้องขึ้นโรงขึ้นศาล โดยเขียนชื่อคู่คดีลงบนกระดาษแล้วนำไปเผาทิ้ง ทำทุกวัน คู่ความจะถอนฟ้อง)

    คาถาลงน้ำ
    ยันทุนนิมิตตัง อวมังคลัญจะ โยจามะนาโป
    สกุณัสสะสัทโธ ปาปัคกะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
    พุทธานุภาเวนะ วินาสเมนตุ
    ยันทุนนิมิตตัง อวมังคลัญจะ
    โยจามะนาโป สกุณัสสะสัทโธ
    ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
    ธรรมานุภาเวนะ วินาสเมนตุ
    ยันทุนนิมิตตัง อวมังคลัญจะ
    โยจามะนาโป สกุณัสสะสัทโธ
    ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
    สังฆานุภาเวนะ วินาสเมนตุ
    โอมชำระ มหาชำระ
    นัทธีสะคะระชำระประสิทธิเม
    (ใช้ภาวนาเวลาจะลงน้ำไม่ว่าเป็นคลองหรือทะเล เพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์มีพิษต่างๆ)

    คาถานักมวย
    นะโม พุทธายะ นะธนู นะกาโรโหติ สัมภะโว
    ปะถะมังพินธุกังชาตัง นะรา นะวะ หิตังเทวัง
    นะระเทเวหิปูชิตัง นะรานัง กามะปังเกหิ
    นะมามิสุคะตังชิตัง จะ ภะ กะ สะ
    (ใช้สวดภาวนากับน้ำแล้วดื่มก่อนขึ้นชกจะทำให้มีชัยชนะ)

    คาถาหมัดหนัก
    โสภะคะวา อะทิสะมานิ อุเทยยัง คัจฉันตัพพัง
    สังลารัง ปะระมัง สุขัง นะลัพภะติ
    มหาสูญโญ จะสัมภะโต สังสาเร อานังคัจฉันติ
    (ใช้ภาวนาเมื่อต้องการให้หมัดหนัก ไม่ใช่นักมวยก็ใช้ได้)

    คาถาฤทธิ์เดช
    นะรา นะรา หิตังเทวัง
    นะราเทเวหิปูชิตัง
    นะรานัง กามะปังเกหิ
    นะมามิสุคะตังชินัง กะยะพุตัง
    (ใช้สวดภาวนาเวลาที่ต้องเข้าไปในสถานที่มีอันตราย เพื่อให้รอดพ้นจากภัยต่างๆ)

    คาถาเดินทางไกล
    มะติ ยาเต มะเต ยาติ
    มาเต ถินา นะนา ถิเต
    มะนา เนสา มะสา เนนา
    มะสา จะติ มะติ จะสา
    มะติยาโน มะโนยาติ มะโนติตัง
    มะตังติโน มะตังปาลัง
    มะลังปาตัง มะลังจะติ มะติจะลัง
    (ใช้ภาวนาก่อนออกเดินทางไกลจะช่วยให้ปลอดภัยและสำเร็จในจุดมุ่งหมายปลายทาง)

    คาถาขับรถ
    เมตตัญ จะ สัพพโล กัสสะมิง มานะ สัมภาวะเย อะปะริมานัง
    (ใช้ภาวนาเพื่อให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ ไม่หลับใน)



    คาถาสมเด็จพระพุทธกัสสป

    ๑ พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาศสันติ ๒ พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ โรคภัยทั้งหลาย วินาศสันติ ๓ ฆะเตสิ ฆะเตสิ กิงกะระณัง ฆะเตสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ

    หลวงพ่อบอกคาถาบทนี้ เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๒๐ คาถาบทนี้ ท้าวเวสสุวัณให้มา ท่านบอกว่าให้สวดมนต์ไว้ทุกคืน ก่อนอื่นให้ระลักถึงบารมีของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ อันมีสมเด็จพระพุทธกัสสปทรงเป็นประธาน เพราะท่านเป็นเจ้าของถาถานี้

    พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาศสันติ
    พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ โรคภัยทั้งหลาย วินาศสันติ

    ในบรรทัดที่ ๒ นี้รักษาโรค ท่านบอกว่าเสกน้ำให้กิน เสกอะไรให้กิน เสกข้าวให้กินก็ได้นะ แม้แต่ยาพิษมันก็สลายตัว อีกบทหนึ่งเป็นของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน

    ฆะเตสิ ฆะเตสิ กิงกะระณัง ฆะเตสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานา

    ทั้งสามบทนี้ท่านให้สวดพร้อมกันเลย เวลาฉันข้าวก็เสก กลางคืนก็ให้ภาวนาไว้นะ ภาวนาไว้สักครู เช้าเย็นอะไรนี่นะ ท่านบอกว่าศัตรูจะพินาศไปเอง สำหรับบทหลังศัตรูทำอะไรไม่ได้ จะทำอะไรแล้วเราจะต้องรู้อยู่เสมอ บทกลางนะทำลายโรค ได้ทำลายโรคนี่ดีใช่ไหม เสกข้าวนะ ข้างที่เราจะฉัน เสกซะหมด และคนอื่นกินก็เป็นยาไปหมด ให้เป็นยาสำรับคนอื่นด้วยนะ ดีไหม ถ้าเห็นว่าดี ถ้าคุณจะให้รักษานี่นะ ถ้าจะใช้รักษาโรค คุณจะต้องหาดอกบัวมา ๓ ดอก ธูป ๕ ดอก เทียน ๑ เล่ม บูชาขอต่อพระพุทธรูป (ผมเข้าใจว่า ถ้าไม่นำสิ่งที่ให้นำมาผลกรรม โรค นั้นจะตกที่คนรักษา)

    ถ้าใครต้องการจะให้เรารักษา ต้องบังคับให้เขาเอาดอกบัวมา ๓ ดอกนะ ธูป ๕ เทียน ๑ เสกน้ำมนต์ เสกอะไร อะไรให้กินได้ นั่งทำก็ได้ นอนก็ได้ ภาวนาให้เป็นฌานเป็นฌานในกรรมฐานภายในตัวเสร็จ อย่าลืมนะ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เกาก็ได้ผลเท่ากันเป็นฌาน

    คาถาพระอินทร์

    สหัสสเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสทายิ
    (ใช้กับการเรียน ให้อ่านหนังสือแล้วจำได้ ทำข้อสอบได้)

    คาถาพระยายม

    นะโมพุทธายะ

    พุทธคาถา

    มหาวิชโย โหหิ อสังวาโส
    (ภาวนากันอันตรายทุกอย่าง ผู้คิดร้าย จะย่อยยับไปเอง เป

    คาถาเมตตา

    พระอรหัง สุคโต ภควา นะเมตตาจิต

    (คาถาบทนี้ หลวงพ่อบอกว่าให้ใช้เวลาไปติดต่อผู้อื่น เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยก่อนจะออกจากบ้าน ให้นึกใบหน้าของผู้ที่เราจะไปหาก่อน แล้วภาวนาคาถาบทนี้ไปด้วย เมื่อไปพบแล้วจะสำเร็จผลตามที่ต้องการ
    คาถาบทนี้หลวงพ่อท่านบอกว่าเป็นคาถาของ หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง ภูเก็ต)

    คาถาสมเด็จประทาน

    มหาโคตมะ ปาทะเกหิ จะ อปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง
    (เสกของต่างๆ ให้มนุษย์ จะได้มีจิตเมตตาต่อกัน เสกอะไรก็ได้)

    คาถาพระโมคคัลลานะ ประทาน

    1.อิติ สุกขติ สุกขโต
    (ทำน้ำมนต์ให้คนอยู่ในบ้าน จะได้รับความเมตตาเป็นพิเศษ)
    2.อิติ สุคติ สุคโต
    (ทำน้ำมนต์ให้คนเดินทาง จะประสบผลสมประสงค์และปลอดภัยทุกประการ)

    คาถาท่านท้าวเวสสุวัณ

    พยัคฆัง พยัคฆา มานี่ให้หมด
    (เป็นคาถาภาวนาให้คนมารวมกัน อธิษฐานเอาตามใจ ภาวนาเรียกเสกแป้ง สีผึ้งก็ได้)

    คาถาป้องกันอันตราย

    รูปพระพุธโธ โหหิ
    (ภาวนาคาถานี้ เสกน้ำลายกลืนลงไปก่อนออกจากบ้าน ท่านกล่าวว่า แม้ปืนก็ยิงไม่ออก)

    คาถานวด

    อิมัสมิงมาเล อิมังเต มาสัง วัสสัง อุเปมิ
    (นึกถึงพระรัตนตรัยก่อนว่าคาถา แล้วให้ภาวนาเรื่อยไปขณะนวด)

    เสกของขายภายในร้าน

    นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มหิสุตัง สุนะพุทธัง สุอะนะอะ

    คาถาให้สารภาพ

    กัณหัง อเสนโต อเทสยิ
    (บอกความจริงให้หมด)

    คาถาท่านท้าวมหาราชทั้ง 4

    อิติ สัมมาสัมพุทธัสสะ พระอรหังรักษา
    (ท่านบอกว่าท่องคาถาบทนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวอันตราย)

    คาถาสมเด็จพระพุทธกัสสป

    จิเจตะสา มหามันตัง
    (สอนให้ทำน้ำมนต์ ใช้การทุกอย่างสวัสดี เป็นมหาเมตตา และทำลายโชคร้ายทั้งหมด ให้กลายเป็นดี รักษาโรคทั้งหมด ตามแต่จะอธิษฐาน)

    คาถาโรยทราย (นะจังงัง)

    นะโม พุทธายะ (ว่า 1 จบ)
    อิติ ศัตรู ยามาคะตา(โรยไปว่าไป)
    (ป้องกันศัตรู)

    คาถาเสกขี้ผึ้งสีปาก เมตตามหานิยม

    (คาถาพระพุทธกัสสป)
    นาสังสิโม ปาสุอุชา 10รอบ

    คาถาหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ขับไล่คุณไสย สัมปะจิตฉามิ 3 จบ
    คาถาร่ำรวยของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ สัมปะติจฉามิ 3 จบ
    คาถาย่อพระกัณฑ์ไตรปิฏก จิ เจ รุ นิ
    คาถาพุทธคุณย่อ อิสวาสุ
    คาถาชินบัญชรย่อ ชินะปัญชะระปะริตตังมังรักขะตุสัพพะทา
    คาถารวมพระพุทธ ธรรมสงฆ์คือ โส เส สุ สิ มัง
    คาถาหลวงพ่อฤาษีสูตรเร่งรัดอภิญญาคือ โสตัตถะภิญญา
    ฝึกมโนยิทธิ คือ นะมะพะธะ
    บูชาพุทธองค์ห้าองค์ คือ นะโม พุทธายะ
    บูชาหลวงปู่ทวด นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา 3 จบ

    โมทนาที่มา th.wikisource.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%B...87%E0%B8%94%E0%B8%B3
     
  2. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,445
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,184
    รวมเกร็ดความรู้เรื่องคาถาจากคำถามคำตอบ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    ภาวนา " ทุ สะ นะ โส "


    ผู้ถาม : หลวงพ่อเจ้่าคะ หนูนั่งๆ มีอยู่วันหนึ่ง พอนั่งนิ่งๆ มีคนมาบอกว่าตอนที่ท่องพุทโธนี่แก้วหูจะลั่น แล้วเขาบอกว่าท่อง " ทุสะนะโส "

    หลวงพ่อ : ก็ว่าตามเขาสิ

    ผู้ถาม : แล้วถึงจะว่าพุทโธได้ใช่ไหมคะ ?

    หลวงพ่อ : ว่าตามเขาสั่งก่อน จนกว่าจะสบายนะ ทุ สะ นะ โส นี่เป็นหัวใจเปรต เขาเรียกว่าหัวใจเปรต ถ้าอย่างนั้น ทุ สะ นะ โส ต้องปราบอาการนั้นได้ อาการที่ขวางนะ ก็ว่าไปจนกว่าจะสบายก่อน ตอนหลังก็ลองเปลี่่ยนดู สบายแล้วก็สบายเรื่อยก็ใช้ได้เลย เว้นไว้แต่ว่าเขาจะบอกให้เปลี่ยนใหม่ก็เปลี่ยน ยาวกว่านั้นใช่ไหม คำว่า ทุ ตัวเดียวจมลงไปในหม้อทองแดง อีกตัวโผล่มา สะ แล้วก็ นะ แล้วก็ โส นี่น่ะ พอโผล่พูดคำก็จมลงไป เป็นหัวใจเปรตที่พระพุทธเจ้าเคยตรัสกับมานพคนหนึ่งว่า

    ถ้าเราว่าคาถาบทนี้อาจจะปราบไอ้อาการนั้นได้ เขาจึงมาบอกให้ใช่ไหม ก็ว่าเรื่อยๆไป ถ้าิยิ่งสบาย ใช้คาถานี้สบายก็ว่าไปเลย เพราะว่าให้ถือว่าคาถาบทนี้พระพุทธเจ้าบอกเรา เพราะคาถาบทนี้พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ในธรรมบทนะ ถือว่าเป็นพุทธานุสสติเหมือนกัน

    (คัดจากหลวงพ่อตอบปัญหาในธัมมวิโมกข์ ธันวาคม 2533)


    ภาวนาอยากรวย


    ผู้ถาม : หลวงพ่อเจ้าขา ลูกเห็นทีว่าศรัทธาชักจะเตี้ยลงเหมือนสาละวันเสียแล้ว ทั้งนี้เพราะว่ากำลังใจในด้านการทำความดีมันเหี่ยวแห้งยังไงบอกไม่ถูก คือ ว่าอย่างนี้ ทำบุญทำกุศล ลูกทำตามแบบฉบับหลวงพ่อทุกอย่าง ศีลรักษาแถมยังมีศีล 8 ผสมในวันพระด้วย ภาวนาไม่ต้องห่วงเลยหลวงพ่อคะ ลูกว่าถี่ยิบ เพราะอยากจะรวยเร็วๆ แต่อนิจจาสู้คนข้างบ้านไม่ได้เลย เขารวยมากกว่าลูก เขาทำอะไรได้ดีไปทุกอย่าง ลูกทำอะไรแล้วไม่ได้เรื่องเลย ลูกจึงอยากจะมาปรึกษากับหลวงพ่อว่า มีทีเด็ดคำแนะนำอย่างไรจะไปสู้ข้างบ้านได้บ้างเจ้าคะ ?

    หลวงพ่อ : เออ ดูตัวอย่าง อนาบิณฑิกเศรษฐี เขาอยู่กับพระพุทธเจ้าใช่ไหม มีศรัทธา เป็นมหาเศรษฐี แต่วันหนึ่งกรรมที่เป็นอกุศลมาตัด กลายเป็นคนยากจน ต้องกินปลายข้าว แต่ว่าอาศัยที่เคารพพระพุทธเจ้าไม่ช้าก็รวยตามเดิม เป็นกรรมชั่วคราวนะ

    ผู้ถาม : อ้อ..อย่างนี้ก็ต้อทำกำลังใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นวิบากกรรมชั่วคราว อย่างนั้นก็ต้องรักษาอารมณ์เดิมไว้ก่อน

    หลวงพ่อ : ใช่ๆๆๆ ยันไว้อย่าให้พัง

    ผู้ถาม : แต่ความจริงที่หลวงพ่อบอกว่า คาถาเงินล้าน ถ้าหากว่าทำเป็นปกติ จิตสบายๆ ก็จะยันไว้

    หลวงพ่อ : ต้องทำแบบสบายๆ ปกติๆ จิตเย็นๆ ค่อยๆ ทำนะ ว่าแบบสบายๆ จิตเป็นสุข แต่อย่าลืมว่ากฏของกรรมเข้ามาริดรอนอย่างอนาบิณฑิกเศรษฐีมันก็มีเหมือนกัน และต้องเชื่อตามนี้ก่อนนะ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็หมายความกรรมที่เป็นอกุศลเข้ามาตัดรอน และไม่ช้าก็จะสลายตัวไป กุศลมาใหม่ก็รวยใหม่

    (จากธัมมวิโมกข์ ธันวาคม 2533)

    น่าจะคงมีหลายท่านที่ภาวนาพระคาถาเงินล้านแล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้นมาก ขอลงไว้เผื่อให้อ่านให้เป็นกำลังใจทำกันต่อไปครับ

    http://palungjit.org/forums/%E0%...310631-19.html


    ภาวนาสัมปจิตฉามิ หมาหนี


    ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ ทุกๆวัน ลูกจะต้องเดินเข้าซอย กลางซอยจะมีสุนัข 3-4 ตัวเป็นเจ้าถิ่นในซอย พอลูกเข้าซอยปุ๊บลูกจะท่อง " สัมปะจิตฉามิ " ทันที เพราะซอยมันเปลี่ยว พอลูกเดินถึงเจ้าสุนัข พวกมันจะต้องเดินหลบ และก้มหน้าเดินเลี้ยวไปทางอื่น พอลูกเดินพ้นพวกมัน ก็เห็นพวกมันก็มานอนที่เดิมเป็นอย่างนี้ทุกที อย่างนี้เป็นเพราะมันกลัวบทที่ลูกท่อง " สัมปะจิตฉามิ " หรือคะ ?

    หลวงพ่อ : " สัมปะจิตฉามิ " เป็นบทขับนี่ ขับศัตรู

    ผู้ถาม : ขับทั้งหมาทั้งคนเลยหรือครับ ?

    หลวงพ่อ : ใช่...

    ผู้ถาม : โอ..อย่างนี้ใครมาทวงหนี้ก็ " สัมปจิตฉามิ " ก็เปิดเลย

    หลวงพ่อ : เอาเฉพาะเจ้าหนี้นะ อย่าไปไล่ลูกค้า " สัมปจิตฉามิ " เป็นคาถาย้อน ใครเขากลั่นแกล้งเราก็ตาม ก็กลับไปหาคนนั้น ของพระพุทธเจ้าท่านนะ ท่านบอกที่นิวซีแลนด์ ท่านบอกคาถาบทนี้ใครจะทำอะไรก็ตาม จะย้อนกลับ ไม่เฉพาะบุคคลนั้น ทั้งกลุ่มเลยนะ

    (จากธัมมวิโมกข์ เดือนพฤษภาคม 2537)


    ท่องคาถาเงินล้านขายของดี


    ผู้ถาม : เมื่อคราวไปวัดโพธิ์เมืองปัก อ.ปักธงชัย ไปพบหญิงคนหนึ่งมากระซิบบอกว่า คาถาเงินล้านทำให้ขายผ้าขายผ่อนได้คล่องเหลือเกิน ผมก็ถามว่า เขาว่าอย่างไรละ แกก็เอาเลย " พรหมมา จะ มหาเทวาสัพเพยักขา ปลาร้า ยันติ " (สงสัยจะกินปลาร้าบ่อย แต่ก็ผิดกับภาคกลางนะ สัพเพ หักขา ปะรายันติ) เอ.. ทำไมว่าผิดๆ จึงขายดีได้ละครับ ?

    หลวงพ่อ : อย่าลืมซิว่าอยู่ที่การตั้งใจด้วยความเคารพ อย่าง " นะโมพุทธายะ " กับ " นะโมพุทธาแยะ " มัน มีผลต่างกัน ตอนที่ไปเรียนกรรมฐานกับหลวงพ่อปาน กลางคืนก็ไปคุยกับท่าน ท่านถามว่า เจริญพระกรรมฐานภาวนาว่าอย่างไร ก็บอกกับท่านว่า ภาวนาว่า พุทโธ ครับ ท่านบอกว่า คำภาวนานี่ไม่จำกัด อยู่ที่ความพอใจ แล้วท่านก็เล่านิทานเรื่องหนึ่งให้ฟัง

    ท่านบอกว่า มีพระองค์หนึ่ง เดี๊ยวนี้เขาเรียกว่าปัญญาอ่อน แต่ฉันว่าปัญญาแข็ง อาจารย์สอนท่านให้ภาวนาว่า " นะโมพุทธายะ " ก็ทำได้พอควร เวลานั้นป่าเยอะ ท่านก็ไปนั่งบนยอดเขาแล้วบอกกับอาจารย์ว่า " ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 15 วัน ผมจะไม่กินอาหารครับ " อาจารย์ก็ถามว่า " แล้วเธอจะกินอะไร " ท่านก็บอกว่า " ทำอะไรไม่ได้ก็ให้มันตายไป "

    พอไปถึงบนเขาท่านไม่รู้หนังสือ พอขึ้นไป นะโมพุทธายะ กลายเป็น นะโมพุทธาแยะ ไป ตอนเช้าแกหิวขึ้นมาก็ไม่รู้จะกินอะไร บิณฑบาตที่ไหนไม่ได้ ก็อธิษฐานว่าขอหินจงเป็นวุ้น ก็ปรากฏว่ามีวุ้นเกิดขึ้น ก็อิ่ม ทำอย่างนั้นทุกวันจนหมดเวลากำหนด พอออกมาจากป่า ท่านก็กลับมาหาอาจารย์ บอกกับอาจารย์ว่า " คาถาที่อาจารย์ให้ไปนั้นดีมาก ผมไม่มีอาหาร ปรากฏว่ามีวุ้นที่ต้องการให้เป็นรสอะไรก็ได้ " อาจารย์เลยบอกว่า " คุณเก่งมาก แต่ความจริง นะโมพุทธาแยะ มันเป็นตัวเมีย แต่ที่ให้ไปมันเป็นตัวผู้ " พอจำได้จากอาจารย์ก็ล่อ นะโมพุทธายะ ท่านว่า 3 วันอด ต้องเล่น นะโมพุทธาแยะ ตามเดิม

    ผู้ถาม : เอ...อย่างเจ้าปักธงชัย ก็ต้องใช้ " ปลาร้ายันติ " อย่างเดิมซิครับ

    หลวงพ่อ : ใช่ๆ ขืนฝืนจิตสะดุด ว่าผิดบ้าง ถูกบ้าง แต่ใจเขานึกถึงพระพุทธเจ้ามั่นคง

    (จากธัมมวิโมกข์ พฤษภาคม 2537)



    ภาวนาคาถาเงินล้าน


    ลูกศิษย์ : เรื่องภาวนาคาถาเงินล้าน ?

    หลวงพ่อ : คาถาบทนั้นถ้าบูชาพระธรรมดา ท่านถือว่าเป็นเบี้ยต่อไส้ พอจะหมดก็มา บางครั้งก็หวิดเลยนะ ถ้าภาวนาเป็นสมาธินี่เงินจะทรงตัว เขาทำจริงๆต้องภาวนาเป็นฌาณเลย นั่นนะเขาแนะนำเฉพาะคนขี้เกียจ แค่ภาวนา 9 จบ นั่นนะดีจิตเป็นสมาธิ จบที่ 1 จบที่ 2 จิตมันชิน พอเลย 9 จบไปแล้ว ไม่ภาวนาเลย ไม่ต้องหรอก เวลานอนหัวถึงหมอนก็ภาวนาเลยแล้วก็หลับไป ถ้าตื่นขึ้นมาปั๊ปจับต่อไป อย่างนี้เงินขังตัว เงินใช้ไม่หมด เอาอย่างไหน เอาอย่างไม่พอใช้ หรือ ใช้ไม่หมด มี 2 แบบคือ

    แบบที่ 1 ถ้าใช้หมดว่า 9 จบ บูชาพระตามระเบียบใช่ไหม

    แบบที่ 2 นี่เวลานอนต้องภาวนาเรื่อยไปจนหลับ เวลาภาวนานี่อย่าไปคิดว่าต้องกี่จบนะ ภาวนาไม่ถึงครึ่งจบ หลับก็ช่าง จิตยังสบายว่าต่อเลย เพราะว่าแค่จิตสบาย หรือว่าเราต้องลุกขึ้นไปทำงานก็ไป แต่ว่าถ้ากลางวันๆ เผลอๆ มันนึกขึ้นมาเอง คอยสังเกตุว่าถ้าว่าจิตมันนึกขึ้นมาเองอย่างนั้น ถือว่าจิตทรงฌาณในกรรมฐานบทนี้ ถ้าอย่างนี้กำไรใช้ไม่หมดแน่

    " สนทนาธรรมที่ยะลา " ธัมมวิโมกข์เดือนเมษายน 2547


    ภาวนาพระคาถาเงินล้านขณะทำงาน


    ผู้ถาม : ขณะที่ลูกใช้สมองในการคำนวณในการทำงานไปแล้วก็ภาวนาคาถาเงินล้านดูไปด้วย อย่างนี้จะมีผลหรือไม่เจ้าคะ ?

    หลวงพ่อ : โอ..ดีมาก อันนี้ก็ต้องดีมากเชียวนะ ทำไปเรื่อยๆ นะ ภาวนาคาถาเงินล้านขณะทำงาน หรือเลิกงานภาวนาแล้วก็ดี อย่างนี้ดีจิตเป็นฌาณ ทรัพย์สินจะคล่องตัว

    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ เดือนกุมภาพันธ์ 2537)


    ว่าคาถาเงินล้านมือสั่น


    ผู้ถาม : ถ้าบูชาพระ นั่งเจริญกรรมฐานเสร็จแล้วก็ต่อด้วยคาถาเงินล้านของหลวงพ่อ ว่าไปสักครู่หนึ่งปรากฏว่ากายสั่น มือสั่น ใจสั่น เหมือนกับอาการจะปลุกพระอย่างนั้นแหละ จึงเรียนถามหลวงพ่อว่าเป็นเพราะเหตุใด ต่อไปจะทำต่อไปได้หรือไม่ครับ ?

    หลวงพ่อ : (หัวเราะ) พระพุทธเจ้าัสั่นต่อ อย่าลืมนะถ้าใจสั่นนี่มันผิดปกติ แต่ใจสั่นนี่พอมันภาวนาเร็วเกินไปหรือไม่เข้าใจ ถ้าตัวสั่นนี่เป็นอุพเพงคาปิติ ดีนะ แต่ควรจะคุมอย่าให้ใจสั่น ถ้าใจสั่นหรือไม่สั่น ถ้าจิตมีกำลังสมาธิถึงนั่นมันก็สั่น ถ้าเลยไปแล้วเป็นผรณาปิติ มันก็ไม่สั่น ถ้าต่ำลงมามันก็ไม่สั่นและเวลาที่ว่าคาถานี่ ไม่ควรคิดว่าจะสั่นหรือไม่สั่น เอาแค่จิตเป็นสุขค่อยๆว่าสบายๆ ดีกว่าจึงจะถูกต้องนะ

    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ สิงหาคม 2536)


    ภาวนาคาถาเงินล้านถูกหวย


    ผู้ถาม : ภาวนาคาถาเงินล้าน แล้วขอบารมีทุกๆพระองค์ที่เป็นเจ้าของคาถาหยิบหวยรัฐบาล ปรากฏว่าถูกรางวัลที่ 5 สองใบ แล้วก็ถามเป็นประเด็นว่าการที่เราจะอาราธนาเจ้าของคาถามาซื้อหวยรัฐบาลนี้จะ เป็นบาปหรือไม่ เพราะเป็นการพนันนิดๆ

    หลวงพ่อ : ไม่เป็นบาป เขาไม่ถือว่าเป็นการพนันอย่างที่เขาจับกันนี่ การพนันประเภทนี้ ตำรวจเขาไม่ได้จับ ไม่ผิดกฏหมาย ไม่มีอะไรเป็นบาปนะ และก็เราไม่ได้บังคับว่าเลขที่ฉันซื้อมาจะต้องออก เราเขียนเองออกเองนะ ไม่ใช่อย่างนั้นนะ เพราะคนหมุนกับเราคนละคนกัน ถือเป็นโชคดีดีกว่า

    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ สิงหาคม 2536)


    คาถา " พุทธะมะอะอุ "


    ผู้ถาม : หลวงพ่อเจ้าคะ คาถา " อิทธิฤทธิพุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่มะอะอุนี้เถิด " ใช้ประโยชน์ด้านไหนได้อีกนอกเหนือจากอาราธนาพระเจ้าคะ ?

    หลวงพ่อ : หลวงพ่อปานท่านปลุกของทุกอย่าง คือว่าของที่เขาเสกมาแล้ว เวลาจะคล้องคอให้นึกถึงพระพุทธเจ้า ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่าคาถาบทนี้ ท่านใช้แบบนั้นนะ

    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ พฤศจิกายน 2536)


    ถูกกระทำไสยศาสตร์


    ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง วันนี้ขอสักครั้งเถอะ ขอพึ่งบารมีหลวงพ่อ คือว่าลูกเป็นครูสอนหนังสือ ถูกกระทำไสยศาสตร์ทุกรูปแบที่เขากระทำมาเป็นเหตุให้ครอบครัวเดือดร้อนเหลือ เกิน แก้หลายแห่งไม่หาย กันหลายที่ก็ไม่อยู่ วันนี้จึงบากหน้ามาพึ่งเพื่อผ่อนคลาย ถ้าหลวงพ่อไม่ช่วยลูกคงม้วยแน่เจ้าข้า

    หลวงพ่อ : เขาไม่ได้เขียนยังงั้นละมั๊ง

    ผู้ถาม : ต่อให้อีกหน่อย

    หลวงพ่อ : เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ ฉันก็แก้ไม่เป็น เวลาบูชาพระก็ภาวนาว่า " สัมปติฉามิ " สัก 7 ครั้ง แค่นี้กันได้เลย

    ผู้ถาม : ติ หรือ จิต ครับ

    หลวงพ่อ : ติ ก็ได้ ติด ก็ได้

    ผู้ถาม : มันมี 2 คำ นะครับ จิตก็มี

    หลวงพ่อ : อ๋อ..จิตนั้นย้อนกลับ " สัมปติตฉามิ " หรือ " สัมปติฉามิ " นี่กัน กันทุกอย่าง ถ้า " สัมปจิตฉามิ " ถ้าเขาทำมากลับไปหาเขาเอง

    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ ธันวาคม 2538)


    คาถา " อนัตตา "


    ยกทรง : เจริญกรรมฐานบทไหนแล้วค้าขายดี

    หลวงพ่อ : บทค้าขายราคาถูก เขาขายบาท เราขาย 50 สตางค์ รับรองเดี๊ยวพรึบเดียวหมด บทนี้บทดีมาก เพราะเมตตาบารมี นี่บวกกับ พรหมวิหาร 4 ไม่ต้องห่วงน่ะ

    ยกทรง : โฮ้ เยอะแยะเลย

    หลวงพ่อ : ยังดี นี่เป็นบทที่ 1 นะ บทที่ 2 ดีกว่านี้ บท จาคานุสสติ แจกดะเลย

    ยกทรง : โอ้ ยอดแท้

    หลวงพ่อ : ให้เรื่องค้าขายดีนี่ มีคาถาตลกอยู่บทหนึ่ง

    ยกทรง : โอ้ ผมได้จดไว้เลย

    หลวงพ่อ : ไม่ต้องจดหรอก มีคาถามหาโต๊ะ มหาโต๊ะนี่น้องชายมหา เตียง คือว่าสมัยนั้นบวชอยู่ด้วยกันนะ แกเป็นนักเทศน์ แล้วก็มีโยมคนหนึ่งแกหาบข้าวแกงขาย หาบไปแล้วเช้า บ่ายกลับมา มันก็ไม่หมดสักวัน วันหนึ่งมหาโต๊ะ แกยืนล้างหน้าอยู่ที่หน้าต่าง แกก็บอกว่าท่านมหามีคาถาอะไรดีๆ ทำน้ำมนต์พรมให้ทีเถอะ ได้ขายออกหมดเร็วๆ มหาโต๊ะแกไม่ใช้คาถาอาคมเขานิ แกนึกอะไรไม่ออก ก็เอาไอ้นี่ถ้าจะดีว่ะ อนัตตา

    อนัตตานี่มันหมดนิ ใช่ไหม อนัตตา หมด ตัวก็ตาย ตายไปหมด แกนึกในใจ แกไม่ได้

    ยกทรง : ครับ

    หลวงพ่อ : อนัตตา มันแปลว่าหมดไม่เหลือ แกเอาน้ำล้างหน้าพรมๆ แต่แกไม่ว่าคาถาดี ยานนั่นไป สายๆกลับ หมด

    ยกทรง : ขายๆ หมด แต่ทิ้งของ

    หลวงพ่อ : ของหมด(หัวเราะ) หนักใจกะแกซิ ข้าวแกงหมด หม้อยังอยู่ แล้วหาบก็ยังอยู่ แต่สตางค์ได้มา ต้องอธิบายละเอียดไหม เป็นอันว่าโยมไม่เกเร มหาโต๊ะ ตื่น สังเกตุเวลาเช้า แกมาเรื่อยๆ ในที่สุด มหาโต๊ะ เลยต้องทำน้ำมนต์ด้วยคาถาบทนี้ ไว้ที่บูชา แกขายหมดทุกวัน ก็แปลกเหมือนกัน ถ้าจิตตรงนะ อนัตตา ถ้านัดกะตานี่ไม่ค่อยเปลื้อง ถ้านัดกะยายแล้วเปลื้อง

    ยกทรง : ลูกหลานคงเอาไปใช้ได้บ้างแบบนี้

    หลวงพ่อ : ปู่ย่าตายายก็ใช้ได้ (หัวเราะ)

    ยกทรง : เดียวไม่ใช่ อนัตตา ไม่มีใครมาเลย กลัวๆ

    หลวงพ่อ : ทำน้ำมนต์ พรม อนัตตา แปลว่าสลายตัวนี่ ก็หมด หมายถึงหมด

    ยกทรง : ให้ของหมด

    หลวงพ่อ : ใช่

    ยกทรง : น้ำมนต์เยอะๆ พรมน้ำมนต์ ก็ให้แน่ใจ

    หลวงพ่อ : ความจริง คาถาพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ที่ใช้กันนี่ เวลาขายของ เขาพรมของตั้งแต่ตอนเช้า ถ้าตั้งร้านก็จะพรมหน้าร้านตั้งแต่ตอนเช้าตรู่

    ยกทรง : น้ำมนต์ทำตอนกลางคืนหรือฮะ

    หลวงพ่อ : ตอนล้างหน้า ทำตอนนั้นนะ หยิบน้ำจะมาล้างหน้า ก็เสกด้วยคาถาพระปัจเจกพระพุทธเจ้าเลย เสกแล้วก็พอล้างหน้าเสร็จก็น้ำพรมๆว่าไปด้วยนะ แล้วเคยทำกัน น้ำหนักของเพิ่ม น้ำหนักนี่ไม่ได้โกง ไม่ได้เอาทรายใส่ แต่น้ำหนักนี่เพิ่ม เขาไปใช้ก็ไม่ขาด นี่เขาลองกันมาแล้วนะ คาถามหาลาภ เป็นคาถาเสกพระวัดพนัญเชิง

    วันนั้นเที่ยวมา ไปๆมาๆ ไปโผล่ที่วัดพนัญเชิง นานแล้ว หลายปี 10 ปี 20 ปีกว่า แล้วก็ไปดูว่าที่เลือกพระองค์นี้ ทำไมคนจึงบูชามาก ก็เลยมีภาพปรากฏ นี่ภาพเก่าก็หายแล้วเหลือพระองค์หนึ่งหน้าตักประมาณ 4 ศอก ท่านบอกว่า วัดนี้เขาเรียก พระนางเชิญ ไม่ใช่ พนัญเชิง ถาม ว่าเพราะอะไร ก็พระองค์นี้เศรษฐีนีเขาจับเชิญ สร้างขึ้นมา เชิญขึ้นมา แล้วก็เจ้าอาวาสวัดนั้น รูปร่างผอมๆดำๆ นั่งเสกด้วยคาถาบทนี้อยู่ 3 ปี วัดนั้นจึงมีลาภมาก

    แล้วต่อมาสมเด็จโต หรือใครไม่ทราบ ไปสร้างครอบใหญ่โตทีเดียว ถามว่าเสกด้วยคาถาอะไร ก็บอกว่า มหาปุญโญ มหาลาโภ ภวันตุเม แล้ว ท่านก็เลยบอกว่าให้ต่อด้วย คาถาพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ให้เสริมขึ้นมา แล้วคาถาอีกบทหนึ่ง นึกไม่ออกมี 2 บท อีกบทคาถาเงินแสน อีกบทคาถาเงินล้าน

    (จากสนทนาสายลมในหนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 15 หน้า 384 )


    บทสวดมนต์ของหลวงพ่อฤาษี ตอนปฏิบัติธุดงค์


    การปฏิบัติธุดงค์นี้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านยังได้แนะนำต่อไปอีกว่า ก่อนที่จะเข้าไปอยู่ในที่ใด จะเข้าป่าก็ดี บ้านร้างก็ดี ในถ้ำก็ดี ในหุบเขาก็ดี ก่อนที่จะเข้าไปถึงที่นั่น ให้แผ่บทเมตตาจิตด้วยบท "เมตตัญจะ" ( อยู่ตอนท้ายขอบทกรณียเมตตสูตร ) แล้วตั้งใจไว้ว่า

    "ขอท่านที่อยู่ที่นี้ทั้งหมด บรรดาอมนุษย์ทั้งหลาย มนุษย์ทั้งหลาย เทวดาหรือพรหมก็ดีที่รักษาที่นี้ เราขออาศัยสถานที่ท่านอยู่ เราขอยอมรับนับถือในท่าน ว่าท่านเป็นผู้มีสิทธิ์ ขอท่านได้โปรดคุ้มครองให้เรามีความสุขปลอดภัยจากอันตราย แล้วก็ช่วยส่งเสริมในการเจริญสมณธรรมด้วย.."

    เมื่อเข้าไปอยู่แล้วให้สวดเป็นปกติ แต่ถ้าเป็นจำพวกสัตว์เลื้อยคลาน อันนี้ต้องว่าอีกบทหนึ่ง ซึ่งเป็นบทเมตตาเหมือนกัน คือบท "วิรูปักเข" สำหรับบรรดาสัตว์ทั้งหลาย สัตว์ที่ไม่มีเท้า สัตว์มีเท้าน้อย สัตว์มีเท้ามาก..รวมหมด!

    ส่วนบท "วิปัสสิส" ( ที่เขาสวดเวลาทำพิธีภาณยักษ์กัน ) อันนี้ไปที่ไหนไม่ควรใช้นะ ถ้าเผลอเมื่อไหร่ เทวดาเขาตีพังเมื่อนั้นแหละ เอาไปเป็นบทขับผีขับเทวดาไม่ควรอย่างยิ่ง บทที่เป็นศัตรูกับเขาอย่าใช้ ใช้แต่บทที่เป็นมิตรง

    ทีนี้การปักกลดของพระธุดงค์ จงอย่าให้ใกล้บ้านเข้ามาน้อยกว่า ๑ กิโลเมตร อันนี้ต้องถือเป็นปกติ เพราะว่าเวลากลางคืน ชาวบ้านเขาคุยกัน เราไม่ได้ยินเสียงเด็กเล็กมันร้อง เราไม่ได้เสียง เสียงจะได้ไม่รบกวนเราจะปฏิบัติสมณธรรมได้แบบสงัด..แบบสบาย แล้วก็ไม่ห่างเกินไป เวลาเข้ามาบิณฑบาตก็ไม่ไกลเกินไป

    แล้วการปักกลดก็ต้องดูสถานที่เสียก่อน ว่าเราควรจะปักตรงไหน มันเป็นที่เขาหวงห้ามหรือเปล่า ถ้าที่เขาหวงห้ามก็อย่าปัก เพราะว่าถ้าปักแล้วมันถอนไม่ได้ ปักกลดลงไปแล้ว ฝนจะตก สัตว์ร้ายจะพึงมี นี่ถอนไม่ได้เด็ดขาด ตายให้มันตายไปเลย ต้องตัดสินใจตามนั้น คือ แทนที่เราไม่ชอบใจตรงนี้ เราจะหนีไปตรงโน้น..อันนี้ไม่ได้!

    เวลาจะปักกลดนี่ ท่านให้นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อน เขาให้ว่า คาถาบารมี ๓๐ ทัศ ไปเรื่อย ๆ กี่จบก็ได้ จนกว่าจะปักเสร็จ พระคาถาว่าดังนี้...

    อิติ ปาระมิตตา ติงสา อิติ สัพพัญญู มาคะตา
    อิติ โพธิมะนุปปัตโต อิติปิ โส จะ เต นะโม

    ถ้าปักเสร็จแล้ว เวลาจะตอกหลักขึงสายอัพโภกาส ( สายเชือกที่ขึงกลด ) ท่านให้ว่าคาถาบทนี้

    "ภะสัมสัม วิสะเทภะ"

    ว่าไปเรื่อย ตอกไปเรื่อยจนกว่าจะแน่น เวลาผูกก็เหมือนกัน ให้ว่าคาถาบทนี้จนกว่าจะผูกเสร็จ คาถาบทนี้เขาเรียก "คาถาตวาดป่าหิมพานต์" เขาตวาดช้างหนีนะ เป็นคาถามหาอำนาจไล่ช้างหนีได้ สัตว์ไม่กล้าเข้า สัตว์จะมาวนได้แค่หลักนะ เข้ามาในหลักไม่ได้

    บทเมตตัญจะ

    เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง อุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง ติฏฐัญจะรัง นิสินโน วา สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธ

    เอตัง สะติง อะธิฏเฐยยะ พรัหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุ ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา ทัสสะเนนะ สัมปันโน กาเมสะ วิเนยยะ เคธัง นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติฯ

    บทวิรูปักเข

    วิรูปักเขหิ เม เมตตัง เมตตัง เอราปะเถหิ เม ฉัพยาปุตเตหิ เม เมตตัง เมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิ จะ อะปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง ทิปาทะเกหิ เม จะตุปปะเทหิ เม เมตตัง เมตตัง พะหุปปะเทหิ เม มา มัง อะปาทะโก หิงสิ มา มัง หิงสิ ทิปาทะโก มา มัง จะตุปปะโท หิงสิ มา มัง หิงสิ พะหุปปะโท

    สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา สัพเพ ภูตา จะ เกวะลา สัพเพ ภัทรานิ ปัสสันตุ มา กิญจิ ปาปะมาคะมา

    อัปปะมาโณ พุทโธ อัปปะมาโณ ธัมโม อัปปะมาโณ สังโฆ ปะมาณะวันตานิ สิริงสะปานิ อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที อุณณานาภี สะระพุ มูสิกา กะตา เม รักขา กะตา เม ปะริตตา ปะฏิกกะมันตุ ภูตานิ โสหัง นะโม ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานังฯ

    ( หมายเหตุ : ก่อนที่จะสวด ๒ บทนี้ ควรตั้งนะโม ๓ จบ แล้วสวด "อิติปิ โส" ก่อน )


    พระพุทธคาถาแก้รักษาโรคมะเร็ง


    วันพระ 15 ค่ำ ทรงศีล 8 บวงสรวงโดยใช้คำบวงสรวงของหลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ
    แต่งชุดขาว อธิษฐานภาวนาด้วยพระคาถารักษาโรค

    พุทธังทลาย ธัมมังหาย สังฆังสูญ

    พุทโธรักษา ธัมโมรักษา สังโฆรักษา

    แล้วสูดลมกลั้นหายใจ 1 อึด
    และภาวนาตามลมหายใจเข้าออกนึกในใจว่า

    สัมพุทโธมะอะอิ ระโชหะระนัง ระชังหะระติ
    [.127/COLOR]
     
  3. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,445
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,184

    คาถาขอลาภ คาถาขับมาร


    คาถาขอลาภเป็นคำแปลก ๆ หน่อย ฟังทันไหม ? จะจดก็ได้นะ คาถาขอลาภเขาว่าอย่างนี้ ให้กลั้นใจท่องคาถาในใจว่า " ฮัดนิกุดกัดกา กากิกูสูจิ " กลั้นใจว่า ๙ จบ คาถานี้เป็นของหลวงพ่อซ่วน เขาใช้แล้วได้ผลอัศจรรย์ดี มีคนเอาไปใช้กันหลายคน

    ส่วนคาถาป้องกันภัยหรือว่าคาถาขับมารของหลวงปู่ชุ่ม วัดวังมุยนั้น ท่านให้ว่าคาถาพร้อมทั้งโบกมือไล่ทั้ง ๔ ทิศ เพื่อความปลอดภัยไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม หรือว่าเวลาจะเจริญกรรมฐาน ท่านให้ว่าคาถานี้แล้วโบกมือไล่ทั้ง ๔ ทิศ ท่านบอกว่าป้องกันมารเข้ามาแทรก ทำให้เราไขว้เขว เสียผลในการปฏิบัติ

    เพราะฉะนั้น ถ้าใครใช้คาถาก็มีผลป้องกันอันตราย และก็ขับไล่สิ่งที่ไม่ดีที่จะเข้ามาก่อกวนเราด้วย คาถาว่า " ตะรังเม ยาจามิ "ว่าเสร็จก็โบกมือไปทีหนึ่ง จนครบ ๔ ทิศ คำว่าทิศไม่จำเป็นต้องเหนือ ใต้ ออก ตก แต่ให้ใช้ ซ้าย ขวา หน้า หลัง ของเราเอง

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ เดือนสิงหาคม ๒๕๔๔


    เรื่องของคาถาไม่ได้สำคัญที่คาถา สำคัญที่ใจของเรา


    ถาม : บทสวดอิติปิโสถอด ?

    ตอบ : เขาถอดไม่รู้ตั้งกี่อุปเท่ห์ อิติปิโสแปดทิศก็มี อิติปิโสรัตนมาลาก็มี ถ้าเป็นอิติปิโสรัตนมาลาก็ ๑๐๘ บทพอดี เขาถอดอักขระแต่ละตัวออกมาเป็นพระคาถา ๑ บท อย่างเช่น อิ ก็เป็น อิฏโฐ สัพพัญญุตะญานัง อิจฉันโต อาสะวักขะยัง อิฏฐัง ธัมมัง อะนุปปัตโต อิทธิมันตัง นะ มามิหัง นี่คืออิตัวเดียว กว่าจะครบก็ตาย..ตั้ง ๑๐๘ ตัว

    ถาม : (ไม่ได้ยิน)

    ตอบ : อยู่ที่ใจเรา ถ้ากำลังใจมั่นคง ต้องการให้เป็นแบบไหนก็เป็นแบบนั้น เรื่องของคาถาไม่ได้สำคัญที่คาถา สำคัญที่ใจของเรา คาถาดีแค่ไหนถ้ากำลังใจไม่ได้เรื่องก็ไม่มีประโยชน์


    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๕
    ที่มา : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๕ - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน
     
  4. beerwar

    beerwar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +132
  5. luck-luck

    luck-luck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +570
    ~~~~
    หลวงพ่อ : เออ ดูตัวอย่าง อนาบิณฑิกเศรษฐี เขาอยู่กับพระพุทธเจ้าใช่ไหม มีศรัทธา เป็นมหาเศรษฐี แต่วันหนึ่งกรรมที่เป็นอกุศลมาตัด กลายเป็นคนยากจน ต้องกินปลายข้าว แต่ว่าอาศัยที่เคารพพระพุทธเจ้าไม่ช้าก็รวยตามเดิม เป็นกรรมชั่วคราวนะ

    ผู้ถาม : อ้อ..อย่างนี้ก็ต้อทำกำลังใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นวิบากกรรมชั่วคราว อย่างนั้นก็ต้องรักษาอารมณ์เดิมไว้ก่อน

    หลวงพ่อ : ใช่ๆๆๆ ยันไว้อย่าให้พัง

    ผู้ถาม : แต่ความจริงที่หลวงพ่อบอกว่า คาถาเงินล้าน ถ้าหากว่าทำเป็นปกติ จิตสบายๆ ก็จะยันไว้

    หลวงพ่อ : ต้องทำแบบสบายๆ ปกติๆ จิตเย็นๆ ค่อยๆ ทำนะ ว่าแบบสบายๆ จิตเป็นสุข แต่อย่าลืมว่ากฏของกรรมเข้ามาริดรอนอย่างอนาบิณฑิกเศรษฐีมันก็มีเหมือนกัน และต้องเชื่อตามนี้ก่อนนะ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็หมายความกรรมที่เป็นอกุศลเข้ามาตัดรอน และไม่ช้าก็จะสลายตัวไป กุศลมาใหม่ก็รวยใหม่

    ~~~~~~

    ขอบคุณแล้วก็อนุโมทนาสาธุ มีกำลังใจท่องขึ้นมาอีกเยอะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...