รับพร...แต่ไม่ยอมอธิษฐาน.. โดยคุณแม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ธรรม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย honey_bee414, 2 มกราคม 2013.

  1. honey_bee414

    honey_bee414 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,667
    รับพร...แต่ไม่ยอมอธิษฐาน


    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/KhHViftncSE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​

    มีหลายคนพูดอยู่เสมอว่า ตั้งแต่มาทำบุญกับแม่ชีอะไร ๆ ในชีวิตดีขึ้น เรื่องการงานดีขึ้น ดีขึ้นหมดทุกอย่างแต่ว่าในครอบครัวทำไมพูดกันไม่รู้เรื่อง คนในครอบครัวไม่มีความสุข มีแต่ความหวาดระแวงเป็นเพราะอะไรแม่ชี แม่ชีก็สงสัย ทำไมเป็นอย่างนี้กันเยอะ

    พอถึงวันอาทิตย์วันที่เขาถวายสังฆทาน พอพระให้พรเป็นภาษาบาลี แม่ชีก็นั่งดูก็เลยถึงบางอ้อว่าในขณะที่พระท่านให้พรเป็นภาษาบาลีนั้นไม่มีใครอธิษฐานเลย ไม่มีใครอธิษฐานเลยจริง ๆ ถามว่าบุญที่ทำนั้นสำเร็จหรือยัง บุญที่ทำตอนนัี้นสำเร็จแล้วนะ แต่ไม่มีใครอธิษฐานเอาบุญให้ตัวเองเลย


    ขณะที่พระให้พรตอนนั้นทุกคนอธิษฐานได้ ขอให้พรอันประเสริฐนี้จงส่งผลให้ข้าพเจ้ามีสติมีปัญญามีความสมปรารถนา คือถ้าใครปรารถนาให้ลูกดี ลูกก็ดีเลยคือไม่ว่าจะปรารถนาอะไรก็สำเร็จหมด แต่ไม่มีใครอธิษฐานพอแม่ชีเห็นอย่างนั้นก็เลยต้องให้เขาพิมพ์คำพูดออกมาแจกในงานเทศน์มหาชาติเลย



    คำอธิษฐานขณะที่พระให้พร

    (ยะถา...สัพพี...)

    ขณะที่พระกล่าว "ยะถา วารีวะหา..." ให้อธิษฐานให้กับบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ตระกูลปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ พี่น้อง ผู้มีพระคุณ ผู้มีบุญคุณทั้งหลาย"

    ขณะที่พระกล่าว "สัพพีติโย..." ให้อธิษฐานว่า "ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีปัญญา ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีทรัพย์ ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้สมปรารถนา ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ไม่มีโรค ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้สิ้นสงสัยในพระพุทธศาสนา ขอให้ญาติ ลูกหลานของข้าพเจ้าเป็นผู้มีปัญญา เป็นอภิชาตบุตร"


    อธิษฐานอย่างนี้ คือมันครอบคลุมนะ แล้วงานเทศน์มหาชาติปีนี้เป็นปีแรกที่ได้จัดการเทศน์ที่ศาลาหลังใหม่ด้านหลังพระปรางค์ มีการบันทึกเทป ก็ต้องใช้ไฟแล้วไฟแต่ละดวงไม่ใช่เล็ก ๆ นะ ไฟสปอร์ตไลท์ ตั้งไว้สี่ทิศดูในภาพที่เขาถ่ายออกมาสิ มันร้อน มันร้อนระอุมากด้วยเพราะแม่เดินผ่านไป รู้สึกได้เลย แม่กระทบกับความร้อนได้แม่ชีเลยทำน้ำมนต์ แจกน้ำมนต์ให้เขานั่งแล้วให้เขาเย็น แต่ขณะที่เขานั่งฟังเขาก็นั่งกรรมฐานไปด้วยเขาถึงไม่ร้อน ในศาลาถ้าเขาไม่นั่งกรรมฐาน


    ลองคิดดูสิตั้งแต่ ๗ โมงเช้าจนถึงหนึ่งทุ่ม คิดหรือว่าเขาจะนั่งกันได้โดยที่ไม่มีใครลุกจากที่นั่งเลย ๑๐ กว่าชั่วโมงเลยนะ คือจะมีก็ลุกเข้าห้องน้ำไปทีละสองคน สามคน ไม่มีใครลุกขึ้นไปพร้อมกันทีละสิบยี่สิบเลยนะ เพราะอะไร เพราะบุญค่ะ คือพอนั่งไปแล้วธาตุในตัวมันจะเท่ากันหมดเลย ทำให้ไม่รู้สึกปวดปัสสาวะ เพราะอานิสงส์ของการฟังเทศน์มหาชาติพอทุกคนตั้งใจฟังแล้วนั่งสมาธิไปด้วย นี่ศีลของเราก็บริสุทธิ์ พอนั่งฟังเทศน์ เสียงที่ได้ฟังก็บริสุทธิ์ คือกายบริสุทธิ์ ใจบริสุทธิ์ วาจาบริสุทธิ์ มันบริสุทธิ์ครบทั้งสามอย่าง

    แล้วการฟังเทศน์มหาชาติที่วัดพิชยญาติฯใคร ๆ ก็อธิษฐานได้ แม่ชีรู้ว่าแม่ชีอธิษฐานแล้วได้ตามนั้น คนส่วนมากก็จะรับพรอย่างเดียว แต่แม่ชีจะอธิษฐานอย่างเวลาพระท่านบอกกับโยมว่า เดี๋ยวรับพรเป็นภาษาบาลีนะ


    พอท่านได้รับพรเป็นภาษาบาลี ยะถาให้ผี สัพพีให้คน พอเลยจากยะถาไปแล้วตรงที่พระกล่าว สัพพีก็ต้องอธิษฐานไปเลยว่า "ขอให้บุญนี้พรนี้เกิดความสำเร็จสมปรารถนาแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีอายุวรรณะที่สดใส ขอได้จนกว่าจะสิ้นสุดการให้พรของพระ แต่ส่วนมากโยมเขาก็ไม่ได้คิดตรงนั้นถือว่าพระให้พรแล้วก็จบ


    งานเทศน์มหาชาติแม่ชีก็อธิษฐาน อย่างพระที่ท่านเทศน์กัณฑ์ทานกัณฑ์ ทานกัณฑ์นี่แม่ถวายพระท่านเต็มที่เลย เตี๋ยวแม่ก็เดินไปถวาย เดี๋ยวแม่ก็เดินไปอีก เดินไปทำไม ก็เพราะว่าท่านเทศน์ทานกัณฑ์แล้วอานิสงส์ที่ท่านเทศน์ในกัณฑ์นี้ ถ้าท่านจำอะไรในถ้อยธรรมได้

    แม่ชีก็อธิษฐานขอให้ข้าพเจ้าได้อย่างนั้น แล้วที่แม่เดินไป แม่ทำเป็นตัวอย่างให้ทุกคนเห็นว่า นี่เป็นการเทศน์มหาชาติ ไม่ได้ไปโอ้อวดว่าสตางค์เยอะนะ ไม่ใช่ปีหนึ่งมีงานเทศน์มหาชาติครั้งเดียวแล้วมาวัดพิชยญาติฯใครจะใส่สิบบาทยี่สิบบาทก็ไม่เป็นไร แต่ให้พระท่านประทับใจว่าพวกเราทุกคนเป็นนักบุญตัวจริง ในสมัยนี้ถ้ามันไม่มีตัวบริสุทธิ์มันทำไม่ได้นะ ลองนึกดูซิ ใครเขาจะวิ่งเอาสตางค์มาใส่มือให้ แต่แม่ชีบริสุทธิ์ใจที่จะทำงานเพื่อพระศาสนา มันเต็มร้อย พอเต็มเขาก็มา พอเขามาเขาก็ได้เห็นชัดเจน เก้าปีนะ


    ถึงวันนี้เก้าปีเต็มที่ทุกคนช่วยกันทำบุญกับพระศาสนา กุฎิทรงช่วยก็บูรณะขึ้นมาใหม่ ถ้าสร้างใหม่จะถูกกว่า แต่กุฎิทรงช่วยนี่สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๓ เกือบสองร้อยปีแล้วนะ พอบูรณะเสร็จเรียบร้อยก็มาสร้างศาลาปฏิบัติธรรมสองหลังด้านหน้าพระปรางค์ แล้วก็มาบูรณะพระปรางค์ ทีนี้คนก็มามากขึ้น ศาลาสองหลังทำท่าจะไม่พอก็มาสร้างศาลาปฏิบัติธรรมหลังใหญ่ด้านลานจอดรถนี้


    โยมจำได้ไหมเคยมีห้องน้ำเก่า ๆ ยี่สิบห้องเรียบกันเป็นแถวก็ต้องรื้อออกมาทำเพิ่มในศาลาหลังใหม่นี้แปดสิบห้องให้พอกับคนที่มา แล้วก็ไปสร้างศาลาปฏิบัติธรรมที่เขาใหญ่ เดี๋ยวนี้แม่ชีไม่ต้องบอกอะไรโยมมาก คือถ้าพูดคำเดียวว่าอยากได้ข้าวสารเอาไปช่วยน้ำท่วม ก็จะมีคนเอาข้าวมาให้เลยร้อยกระสอบ นี่คือผลของการอธิษฐานของแม่ชี..

    เจริญธรรมค่ะ

    แสดงบทความ โดย ดร.แม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ธรร


    จากหนังสือ "กรรมที่พ่อแม่ไม่อยากรับรู้..แต่ลูกก็ต้องรับ" ตีพิมพ์ 2 มีนาคม 2555


    ขอบคุณเครดิตจาก http://www.thossaporn.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...