ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเว้นกระทำห้ามทำร้ายชุดปิดตำนานตัว"แก้"(ผนึกเหล็กไหลตาไฟกบิลมุนี) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    พรหมกุมารนี้น่าจะเฮี้ยนได้เรื่องอยู่ ผมอ่าน PM พี่คนนี้อยู่ท่านเล่าเกี่ยวกับพรหมกุมารทั้งสี่ไว้ก็เลยก๊อปมาวางให้อ่านกัน

    อันนี้จองให้ตัวเองนะครับ พอดีมีเหตุ ท่านกุมารทั้งหลายมาหาในฝัน
    ตอนออกวันแรกก็ฝันเห็นเลยแต่ยังไม่กล้าจองเพราะกำลังจะโอนองค์เต๋าบ้ออยู่
    เลยขอเหล่ากุมารว่าเงินผมก็มีใช้จำกัดถ้าอยากมาอยู่ด้วยจริงๆก็ขอหวยหน่อย
    ถ้าถูกหวยจะบูชาท่านมาอยู่ด้วย ก่อนวันพระต่อมาก็ฝันเห็นมาหลายคนเหมือนเดิม
    ท่านกางกระดาษให้ดูเห็นตัวแดงๆ ก็ไม่ได้ซื้อมาก กลัวมันกลับกลัวลดแต้ม
    ออกตรงเผงแต่ได้มานิดหน่อย ตามประสามือสมัครเล่น อิอิ
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    วิบากกรรมแห่งความรัก

    1. เจ็บปวดทรมานใจจากการรักเค้าข้างเดียว

    สาเหตุของกรรม มาจากในอดีตชาติเคยแอบเคียดแค้นพยาบาทหรือลบหลู่ผู้ที่เราแอบรักในชาตินี้ จากกรรมที่เราทำร้ายคนผู้นั้นทางใจโดยที่คนผู้นั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลย ชาตินี้จึงส่งผลทำให้เราเจ็บปวดทรมานใจข้างเดียวโดยคนผู้นั้นก็ยังคงไม่รู้เรื่อง ไม่รับรู้อะไรเลยทั้งชาตินี้และชาติหน้า

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม กรรมชนิดนี้แก้ไม่ยากหากรู้ตัวว่าเป็นผลจากกรรมที่เราเคยคิดไม่ดีต่อเค้า ให้เราทำใจเสียว่าความรักที่เรามีให้เขาเป็นเพียงกรรมเก่า หลังจากนั้นให้ตั้งจิตอธิษฐานขออภัยขออโหสิกรรมจากเขาเสีย แล้วให้หมั่นทำบุญอธิษฐานจิตและแผ่ส่วนบุญกุศลให้เขาเมื่อเราเจอเขาก็ทำตัวปกติเสีย กรรมชนิดนี้เกิดขึ้นจากใจเราและก็พยายามทำให้จบลงที่ใจเราเสีย

    2. ขาดเสน่ห์ ไม่มีคนมาสนใจหรือมารัก
    สาเหตุของกรรม มาจากในอดีตชาติหรืออาจเป็นกรรมที่ทำในชาติปัจจุบัน คือไม่เคยชอบผู้ใด เจอใครก็คิดในแง่อคติไปหมด ชอบคิดร้ายต่อผู้อื่นและมีนิสัยไม่เป็นมิตรพูดจาให้ร้ายผู้อื่น

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม หากชาติปัจจุบันไม่มีนิสัยดังกล่าวแสดงว่าเป็นกรรมในอดีตชาติที่ทำให้ไม่มีใครรักใครชอบเวลานึกจะรักผู้ใดก็ไม่มีใครรักตอบ ให้หมั่นทำบุญไหว้พระทุกวันเพื่อทำให้จิตใจผ่องใสไม่คิดร้ายต่อผู้ใด ให้ถวายทานเช่นใส่บาตรหรือถวายสิ่งของต่อพระสงฆ์เท่าที่จะทำได้ แต่ให้เน้นอธิษฐานจิตแผ่เมตตาแผ่ความหวังดีต่อผู้อื่น และให้พยายามทำดีและเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่นเช่น คิดดี พูดดี ทำดี อย่าไปนึกถึงผู้อื่นในแง่ร้าย แต่ถ้าหากเจอคนเลวนิสัยไม่ดีจริงก็ให้พยายามหลีกห่างเสียเพื่อเป็นการระงับกรรมเวรที่จะเกิดขึ้น

    3. สูญเสียคนที่เรารัก (แบบจากกันตลอดไปเพราะเขาเสียชีวิต)
    สาเหตุของกรรม มาจากในอดีตชาติคนที่เรารักได้ทำกรรมหนักในการตัดชีวิตผู้อื่น อาจเป็นการฆ่าคน หรือสัตว์ประเภทต่างๆ อาจเป็นบาปที่เกิดจากการฆ่าคนหรือสัตว์ที่รักกันให้แยกจากกันส่วนเรานั้นอาจเป็นผู้สมคบร่วมคิด เราอาจไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าชีวิตคนหรือสัตว์นั้นๆแต่คนที่เรารักอาจเป็นผู้ลงมือกระทำ ซึ่งเราเป็นผู้รู้เห็นเป็นใจด้วยในทุกขั้นตอนดังนั้นเมื่อคนที่เรารักได้ตายไปในชาตินี้เราจึงต้องรับกรรมโดยโศกเศร้าทนทุกข์ทรมานเพราะการจากไปของคนที่เรารักมาก

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม ต้องทำบุญโดยการไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ ให้ปล่อยสัตว์ที่กำลังจะโดนนำไปฆ่าเช่น ปลา ไก่ หมู วัว ควาย ฯลฯ วิธีการที่ดีที่สุดในการไถ่ชีวิตสัตว์คือ ไปตลาดที่กำลังมีการค้าสัตว์เพื่อนำไปฆ่าและปรุงอาหารให้ซื้อสัตว์เหล่านั้นเอาไปปล่อยในสถานที่ที่เหมาะสม เพื่อให้เขามีชีวิตตามธรรมชาติต่อไปหรืองดกินเนื้อสัตว์หรือกินเจโดยอาจกำหนดระยะเวลาตั้งแต่ 3 เดือนไปจนถึงตลอดชีวิตหากทำได้ยากอาจเริ่มจากการกินสัตว์เล็ก เช่นกุ้ง หอย ปลาเล็ก ไข่ ฯลฯ โดยไม่กินสัตว์ใหญ่ เช่น ไก่ หมู วัว ควาย ฯลฯ ซึ่งจะเป็นการลดการเข่นฆ่าสัตว์ที่ต้องเสียชีวิตเพราะนำมาเป็นอาหารของเราได้อย่างมากมาย และเราสามารถอธิษฐานจิตแผ่เมตตาให้แก่เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั้งคนที่เรารักผู้ที่ได้จากไปรวมทั้งเจ้ากรรมนายเวรของเราทั้งหมดหลังจากได้ทำบุญต่างๆ เช่น ใส่บาตร บริจาคทานต่างๆ ฯลฯ

    4. อาภัพคู่ ไร้คู่ครอง
    สาเหตุของกรรม มาจากเคยผิดลูกผิดเมียเขาในอดีตชาติหรือทำให้ผู้อื่นไร้คู่ครองโดยอาจไปแย่งคนรักของผู้อื่นมาโดยไม่ถูกต้องชอบธรรม อาจเคยเป็นเมียน้อยเมียเก็บจนทำให้ครอบครัวของผู้อื่นต้องทุกข์ระทม

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม ให้ถือศีล 8 ให้มีความบริสุทธิ์งดกิจกรรมทางกามหรือบวชพระ บวชชีพราหมณ์บวชชี หรือร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพงานแต่งงานให้คู่รักมีความสมหวังในรักและเวลาถวายทานสิ่งใดก็ตามก็ให้เน้นถวายเป็นคู่ เช่น เทียนคู่ เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ แจกันคู่ ผ้าไตรคู่ เครื่องไทยทานคู่ เป็นต้น

    5. ได้คู่ครองที่เลวร้าย
    สาเหตุของกรรม มาจากในอดีตชาติเคยทุบตีหรือทำร้ายกันมาก่อน อาจเคยสมคบทำเรื่องเลวร้ายมาด้วยกันและในกรณีของเวรกรรมที่เป็นความแค้นต่อกัน อาจเคยข่มขืนเขาหรือฆ่าเขาหรืออีกกรณีอาจเคยมีเรื่องบาดหมางทำให้เขาผูกใจพยาบาทโดยที่เราไม่รู้ตัวก็เป็นได้ คู่ครองชนิดนี้แรกๆ อาจจะดีหรืออาจส่อแววร้ายตั้งแต่แรกเลยก็เป็นได้ แต่ยังไงๆก็จะทำร้ายหรือทำให้เราเป็นทุกข์ เพราะอาจไม่ใช่คู่แท้หรือคู่บุญแต่อาจเป็นคู่แค้นหรืออาจเป็นคู่กรรม

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม หากเป็นคู่กรรมนั่นเป็นเพราะมีบาปกรรมมากคู่ครองของเราจึงออกมาลักษณะนี้ ให้หมั่นชักชวนให้ทำบุญร่วมกัน พยายามทำดีกับเขาให้มากๆแผ่เมตตาและอธิษฐานจิตให้เขาเจอแต่สิ่งดีๆมีความสุขและกลับตัวกลับใจได้โดยให้หมั่นทำบ่อยๆ แต่หากเป็นคู่แค้นเหมือนที่พระพุทธองค์เจอกับพระเทวทัตต์หากรู้ตัวให้จงรีบหนีออกห่างเพราะคู่แค้นจะไม่เหมือนคู่กรรม คู่แค้นจะจองเวรเอาเรื่องอย่างเดียวหากเพียงเบาบางก็ทำร้ายเราจนหมดเวรต่อกันแต่หากหนักๆอาจฆ่าเราถึงตายได้ เราต้องหาทางระงับไม่ให้เกิดการจองเวรกันอีกพยายามวางเฉยถืออดทนไม่จองเวรกลับให้บาปกรรมยุติเสีย เช่น บวชพระ หรือบวชชี อาจเป็นชีพราหมณ์ก็ได้ และต้องหมั่นทำบุญไถ่ชีวิตสัตว์ชนิดต่างๆหรือถือศีลกินเจก็ได้ หากเคยถูกทำร้ายมาก่อนให้แผ่เมตตาอโหสิกรรมเสีย

    6. ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไร้คู่ ไร้คนเหลียวแลจริงๆ
    สาเหตุของกรรม มาจากเคยจับสัตว์ขังจับคนมากักขังหรือยุยงทำให้ผู้อื่นเกลียดชังกัน แตกแยกกัน โกงผู้อื่นทำให้เขาหมดที่พึ่งกลายเป็นคนอนาถาไม่มีที่ไป

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม ทำบุญปล่อยให้สัตว์ต่างๆเป็นอิสระ รือให้ชีวิตใหม่แก่สัตว์ ทำบุญทำทานแก่เด็กอนาถาสัตว์อนาถา ละผู้ที่ไร้คนเหลียวแล การบริจาคเงินเพื่อสัตว์ เด็ก คนผู้หิวโหยและถูกทิ้งขว้างจะช่วยเติมไฟให้แก่จิตใจของบรรดาผู้ยากไร้และทำให้เรามีความสุขใจและอบอุ่นใจในปัจจุบันด้วย บุญชนิดนี้อาจทำให้ผู้หมั่นสร้างมีคู่ในปัจจุบันชาติได้ขึ้นอยู่กับกำลังบาปบุญจากชาติที่ผ่านมาและปัจจุบัน หากกำลังบุญมีมากกว่าบาปผู้หมั่นทำย่อมได้คู่สมใจอย่างแน่นอน

    7. รูปร่างหน้าตาไม่งดงาม ทำให้ไม่มีผู้ใดมาชอบ มารัก
    สาเหตุของกรรม มาจากในอดีตชาติไม่เคยถวายดอกไม้ของหอมหรือของงดงามให้แก่ทางศาสนาและผู้ที่ควรถวาย เช่น ผู้มีพระคุณ ผู้อุปการะ พระสงฆ์ นักบวช เพื่อนฯลฯ หรือไม่รักษาความสะอาดชอบความสกปรกรกรุงรังทำให้ชีวิตปราศจากสิ่งสวยงาม ชอบอยู่กับความอัปลักษณ์และความสกปรก

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม การแก้กรรมในยุคปัจจุบันนี้มี 2 วิธี คือการใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย เช่นออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ใส่ใจเรื่องสุขภาพ จะช่วยเรื่องนี้ได้และทำศัลยกรรมใบหน้า ซึ่งหากทำศัลยกรรมได้ถูกต้องตามกระบวนการก็ไม่น่ากลัวแต่อย่างใด แต่หากมีบาปมาหนุนอาจทำให้การศัลยกรรมผิดพลาดและเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
    ส่วนอีกวิธีคือการสร้างบุญ แต่จะเป็นไปตามกฎแห่งกรรมที่ว่าด้วยกรรมตามเวลาคือบุญชาตินี้จะไปเปลี่ยนกรรมทำให้เกิด(ชนกกรรม)ในชาติหน้า เพราะชาตินี้ใบหน้าถูกกรรมทำให้เกิดหลอมจนคงรูปแล้วเปลี่ยนไม่ได้ ยกเว้นใช้วิธีแรก(ศัลยกรรม)ซึ่งเป็นการผิดธรรมชาติผู้ทำต้องสามารถรับกรรมไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีจากการเปลี่ยนหน้าตนเองโดยวิธีการวิทยาศาสตร์ให้ได้ หากไม่ต้องการการศัลยกรรม ให้ใช้วิธีลดกรรมและสร้างบุญใหม่เพื่อชาติหน้าด้วย เช่น ถวายพวงมาลัยดอกไม้สด ดอกไม้หอม ของสวยงามและมีประโยชน์ให้แก่ศาสนา หรือเวลาจะเอาของให้ใคร ก็เอาของดีๆ สวยงามให้เขา และทำบุญบริจาคเลือด ดวงตา หรืออวัยวะร่างกายให้แก่โรงพยาบาล

    8. ได้คู่ครองเป็นคนมีเจ้าของอยู่แล้ว หรือเป็นเมียน้อย เป็นเมียเก็บ
    สาเหตุของกรรม มาจากทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติต้องเคยทำผิดศีลข้อ 3 นั่นคือ ชอบเสพกามกับผู้มีเจ้าของอยู่แล้วหรือประพฤติผิดทางกรรม เช่น มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับลูกเมียหรือสามีของผู้อื่นโดยที่ทำให้ครอบครัวของเขาต้องมีความร้าวราน เจ็บปวด หรือแตกแยก ไม่เช่นนั้นทางเราก็ต้องมีเจ้าของอยู่แล้วแล้วเราทำผิดต่อคู่รักตนเองเขามาก่อน อาจเคยข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยเขาไม่ยินยอมหรือในอดีตชาติเคยอธิษฐานจิตร่วมกันมาว่ากี่ชาติก็ขอให้ได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ซึ่งถ้าคู่ที่เราอธิษฐานร่วมไว้นั้นมีกรรมร่วมกับผู้อื่นมากกว่าหรือก่อนที่เราจะเข้าไปในชีวิตเขา เราเข้าไปภายหลังย่อมกลายเป็นเมียน้อยเป็นเมียเก็บหรือได้คู่ครองเป็นคนมีเจ้าของอยู่แล้ว

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม คือหากมีสติก็สามารถหยุดบาปปัจจุบันไว้ได้พยายามหนีห่างออกมาจากสภาพที่เป็นอยู่เสีย ส่วนวิธีสร้างบุญคือร่วมเป็นเจ้าภาพช่วยเหลืองานแต่งงานหรือถวายทานเป็นคู่ เช่น ถวายธงคู่ ธูปคู่ เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ เครื่องไทยทานคู่ ฯลฯ และทุกครั้งที่ทำบุญควรอุทิศผลบุญแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรที่เคยมีบาปกรรมต่อกันและขออโหสิกรรมเสีย การทำบุญทุกชนิดและการอธิษฐานจิตขอให้เขาไปดีมีความสุขและขอให้ตัดขาดจากกันไปเลยจะช่วยบรรเทากรรมตรงนี้ได้ ส่วนวิธีแก้กรรมที่ดีที่สุดคือการถือเพศพรหมจรรย์ เช่น ถือศีล 8 และบวชชี หรือชีพราหมณ์ หากเป็นผู้ชายก็สามารถบวชพระได้อาจกำหนดเวลาที่ถือศีลและบวช ไว้ที่ 8 วัน 20 วัน 2 เดือนหรือแล้วแต่ความสะดวก

    9. จิตใจไม่สงบ มักฟุ้งซ่าน ร้อนรน เป็นทุกข์เพราะความรัก
    สาเหตุของกรรม มาจากบาปทางใจ เช่น เคยริษยาผู้อื่น แค้นเคือง ผูกพยาบาท โกรธโมโห ลบหลู่เขา ฯลฯ โดยที่เขาไม่ได้รับรู้เรื่องด้วยเลยกรรมชนิดนี้คล้ายกรรมที่รักเขาข้างเดียวแล้วเป็นทุกข์ แต่กรรมชนิดนี้จะมีเหตุมาจากกรรมทางใจชนิดอื่นด้วยและเจ้ากรรมนายเวรของเราอาจมีหลายคนอาจมีทั้งที่เสียชีวิตไปแล้วและยังมีชีวิตอยู่ บาปจากกรรมนี้จะทำให้ใจสับสนคล้ายไร้จุดยืนไม่มีสมาธิ มักกังวลเรื่อยเปื่อย

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม ควรทำบุญตักบาตรถวายสังฆทานหรือทานทุกชนิด อาจมีการไถ่ชีวิตสัตว์ทุกชนิดและให้เน้นนั่งสมาธิสวดมนต์(อาจสวดบทคาถาพระชินบัญชร)และแผ่เมตตา อธิษฐานจิตให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้และอธิษฐานจิตตัดความทุกข์ทางใจของเราเอง อาจอธิษฐานจิตแผ่เมตตาให้ผู้มีเรื่องกับเราอยู่ดีมีสุขไม่มารบกวนเราทางใจอีกและให้เน้นการปล่อยวางทางใจ สามารถนั่งสมาธิได้ทั้งแนวสมถะและวิปัสสนาควรหาคู่มือสมถะและวิปัสสนาเล่มเล็กมาใช้เพื่อการระงับใจที่ถูกต้อง

    10. โง่เขลาเพราะความรัก และถูกคนที่เรารักหลอกลวงอยู่ร่ำไป
    สาเหตุของกรรม มาจากในอดีตชาติเคยดูถูกความรักและคนที่เขารักเราและอาจดูถูกผู้ที่เขาเป็นคนดีผู้ที่หมั่นหาความรู้และประกอบแต่กรรมดี หรืออาจเคยหลอกคนที่เขารักเราหรือชักชวนคนที่หลอกเราในชาตินี้ให้ไปกระทำผิดด้านความรักด้านชู้สาว โดยอาจทำให้คู่กรณีที่กล่าวมามีความเจ็บปวดทรมานทั้งกายและใจ ส่วนตัวเรานั้นก็ไม่ขยันหมั่นเพียรศึกษาหาความรู้ที่ดีงามแต่กลับหมกมุ่นในเรื่องชู้สาวเรื่องความรักที่มีแต่โทษ

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม ให้ทำบุญถือศีล 5 หรือ 8 และทำทาน โดยเน้นทำบุญด้านหนังสือธรรมะหรือพิมพ์บทสวดมนต์แจก หากอยู่ในช่วงโดนหลอกอย่างหนักอาจถวายเทียน หลอดไฟฟ้า น้ำดื่ม ถังบรรจุน้ำ เครื่องกรองน้ำให้แก่วัด เพราะเป็นสัญลักษณ์แห่งแสงสว่างและความไหลรื่นจะได้เกิดความสบายใจและเกิดผลในแง่บวกต่อใจในขณะนั้น นอกจากนี้ยังสามารถบำรุงปัญญาโดยการสวดมนต์และทำสมาธิทุกวันแล้วอธิษฐานจิตขอให้วิบากกรรมของเราหมดไป อธิษฐานขอโทษขออโหสิกรรมและแผ่เมตตาให้คนที่หลอกเราและขอให้เขามีความสุข โดยอธิษฐานขอให้เขาอย่าได้หลอกลวงเราอีกเลยเป็นการตัดบาปกรรมที่มีต่อกันให้สิ้นเสีย

    11. มีคนรักก็จริง แต่กลายเป็นคนรับใช้ของคนรักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    สาเหตุของกรรม มาจากการที่ทั้งคู่เป็นคู่กรรมร่วมกันมาตั้งแต่อดีตชาติ มีความรักร่วมกันมาและมีใจมุ่งมั่นจะเป็นคู่ครองกันหรืออาจอธิษฐานจิตเป็นคู่กันในชาติต่อๆมา แต่มีบาปร่วมกันเช่น เคยใช้คนรักของตนเหมือนทาสหรือเคยเนรคุณหรือทรยศคนรักของตนหรืออาจเคยติดหนี้บุญคุณคนรักหลายอย่าง แต่บาปตรงนี้อาจไม่หนักมากจึงยังคงรักกันอยู่แต่ต้องคอยรับใช้เขาเหมือนเช่นเราเคยใช้งานเขาในอดีตชาติ

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม พยายามทำบุญต่อทั้งเขาและผู้รอบข้างเช่น ครอบครัว ญาติพี่น้อง และผู้ใกล้ชิดอย่างจริงใจและในจำนวนครั้งที่มากครั้ง เพื่อบุญจะได้ผลักดันบาปเก่าให้เคลื่อนห่างไปและส่วนที่ชดใช้กรรมหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องมีความอดทนหากเรายังรักคนรักของเราอยู่ ให้ถือเสียว่าตั้งใจชดใช้บาปกรรมของเราและตั้งใจสร้างบุญใหม่ขึ้นมาแทรกแซง อาจใช้วิธีทางจิตวิทยาเข้ามาเกี่ยวข้องโดยทำให้คนรักเราเห็นว่าเรารักเขาจริงหากรักกันจริงก็ต้องเข้าใจเราบ้างและให้พาเขาไปทำบุญร่วมกันบ่อยๆหลีกเลี่ยงการมีบาปร่วมกัน เช่น ร่วมกันตอบแทนคุณของพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย ร่วมกันสร้างพระพุทธรูป รวมทั้งไถ่ชีวิตสัตว์ประเภทต่างๆร่วมกัน และในการทำบุญแต่ละครั้งให้หมั่นแผ่เมตตาให้เขาและอธิษฐานจิตให้เขาเลิกทำร้ายเราทางใจหรือเห็นเราเป็นคนรับใช้เสียที เมื่อบาปกรรมตรงนี้เจือจางท่าทีของเขาจะเปลี่ยนไปและเราก็สามารถปรับเปลี่ยนท่าทีไม่ต้องเป็นทาสรับใช้เขาอีกต่อไปแต่เน้นเดินร่วมกันบนทางเดินแห่งชีวิตคู่

    12. โดนคนรักเอาเปรียบ
    สาเหตุของกรรม มาจากเคยเบียดเบียนเงินหรือสิ่งของของผู้อื่น เช่น พ่อแม่ ญาติพี่น้อง โดยเฉพาะคนที่เป็นคู่เวรคู่กรรมกับเราไว้ในอดีตชาติ หรือเคยโกงผู้มีพระคุณหรือคู่เวรคู่กรรมไว้ในอดีตชาติ กรรมชนิดนี้รวมถึงการขโมยเงินหรือทรัพย์สินต่างๆของครอบครัวและของคู่เวรคู่กรรมของเรามาใช้

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม ให้ลดกรรมด้วยการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และการให้ทานทุกประเภท อย่ายึดติดในสิ่งของที่ต้องใช้ร่วมกัน และให้ถือเสียว่าการที่เราเผื่อแผ่ในสิ่งที่เราไม่ได้ใช้หรือไม่มีประโยชน์ต่อเรามากนักก็นับว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ซึ่งเราควรยินดีด้วยและหลังจากการให้ทานแล้วให้อธิษฐานจิตขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวรหรือคนรักของเราเสีย อย่าให้มีเวรกรรมต่อกัน และจงอย่าคิดแค้นหรือเอาคืนจากคนรักที่กำลังเอาเปรียบเราอยู่ เพราะจะเป็นเวรกรรมต่อกันไม่จบสิ้น

    13. เป็นทุกข์เพราะคนรักเจ้าชู้
    สาเหตุของกรรม มาจากในอดีตชาติหรือแม้แต่ชาติปัจจุบันเป็นคนเจ้าชู้ ไม่รักใครมั่นคง ชอบหลอกผู้อื่นให้อกหักและเศร้าโศก อาจมีพฤติกรรมนอกใจคู่รักเข้ามาเกี่ยวข้อง

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม ให้ลดบาปกรรมที่ตัวเราโดยเริ่มประพฤติดีปฏิบัติดีทั้งความคิด กาย วาจา ใจ หากตนเองมีพฤติกรรมเป็นคนหลายใจก็ให้เลิกเสีย เพราะจะเป็นบาปส่งให้คนรักเรานอกใจเราอยู่ร่ำไป หากคนรักเป็นคนเจ้าชู้มากให้ปรับพฤติกรรมของเราเสียการราวีและจับผิดหรือทะเลาะเบาะแว้งเพราะเรื่องนี้เป็นการสร้างเวรกรรมใหม่เพิ่ม นอกจากจะระงับกรรมปัจจุบันไม่ได้แล้วยังทำให้เรื่องราวรุกลามใหญ่โตอีกด้วย พยายามทำบุญให้จิตใจผ่องใสให้ทำบุญและอธิษฐานจิตบ่อยๆให้หมดเวรหมดกรรมตรงนี้เสียจะได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีงามต่อชีวิต ส่วนการทำบุญเกี่ยวกับความรัก เช่น ถวายทานเป็นคู่ ร่วมทำบุญงานแต่งงานทำสิ่งดีๆให้คนอื่นได้สมรักสมหวังกันฯลฯจะช่วยส่งเสริมให้ความรักของเราได้สมหวัง

    14. กรรมต้องมีคู่รักมาก
    สาเหตุของกรรม มาจากการที่เราได้มีจิตผูกพันรักใคร่หรือร่วมอธิษฐานจิตร่วมเป็นคู่กับคู่รักหลายคน หรือทำบุญร่วมกันมาซึ่งตามกฎแห่งกรรมของความรักนั้นชายหญิงจะมีคู่เรียงกันมาราวๆ 5 คน เพราะจริงๆแล้วคนที่เคยอยู่ร่วมกันมามีนับชาติและนับคนไม่ถ้วน แต่คนที่จะอยู่ร่วมด้วยจะมีเพียงคนเดียวเพราะเป็นเนื้อคู่แท้ที่อยู่ร่วมกันมาและตั้งจิตจะอยู่คู่กันมามากชาติที่สุด ซึ่งเนื้อคู่ที่เคยอยู่ร่วมกันมาในอดีตชาติไม่จำเป็นต้องมาปรากฏอยู่ร่วมกับเราทั้ง 5 คนก็ได้ แต่กรณีที่มีคู่รักมาก นทำให้เกิดความเจ็บปวดทั้งสองฝ่ายเพราะว่าความพลั้งเผลอในบุญและกรรมที่เผลอทำร่วมกันมา ตัวอย่างเช่นเคยถวายทานแก่พระร่วมกันทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน โดยในขณะที่ถวายนั้นเผลอมีจิตชอบหลงใหลชอบกันชั่วขณะหนึ่ง ทั้งบุญและบาปตรงนั้นจะเป็นกรรมแทรกแซงเข้ามาแทรกเนื้อคู่อันแท้จริงที่มีแต่เดิมมา จนกลายเป็นปัญหารักสามเส้าหรือหลายๆเส้าก็เป็นได้

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม อาจใช้วิธีปัจจุบันทันด่วนจะได้แก้ปัญหาทันท่วงที นั่นคือให้เจรจากับคู่รักของเราทั้งหมดให้เข้าใจว่าแผนการในอนาคตควรเป็นเช่นไร เพราะอย่างไรก็ตามสังคมและวัฒนธรรมไทยยังรับไม่ได้กับการมีคู่รักพร้อมกันหลายๆคนทั้งฝ่ายชายมีภรรยาหลายคนหรือฝ่ายหญิงมีสามีหลายคน เพราะจะเกิดปัญหาหลายอย่างในอนาคตทั้งปัญหากฎหมายและปัญหาทางครอบครั และจะทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องเจ็บปวดทรมานและมีความทุกข์ใจอย่างมากมาย ส่วนวิธีลดกรรมต้องสำรวมกายวาจาใจพยายามลดความกำหนัดทางกายให้ได้มากที่สุดที่ทำได้ อาจเริ่มศึกษาธรรมะให้มากขึ้นฝึกสมถะแนวอสุภะและวิปัสสนากรรมฐานและถือศีล 5 หรือ ศีล 8 ทุกครั้งเมื่อทำบุญใดๆก็ตามก็ให้อธิษฐานตัดคู่รักที่ไม่ใช่คู่แท้ที่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดไปออกเสีย ให้เหลือแต่คู่จริงที่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดไป หากมีคนเดินเข้ามาในชีวิตก็ต้องใช้สติพิจารณาหากพิจารณาถ้วนแล้ว ไม่ใช่เนื้อคู่ที่แท้จริงก็พยายามตัดคนๆนั้นออกจากชีวิตไปเสีย โดยอธิษฐานจิตหลังทำบุญตลอดไม่ให้ชีวิตยุ่งเหยิงจากการรักซ้อน ส่วนเวลาทำทานก็พยายามทำทานเป็นด้วยของเป็นคู่ๆไปเอาเคล็ดไว้ก่อน

    15. กรรมที่ต้องเป็นไซด์ไลน์ สาวนั่งดริ๊ง โสเภณี หรือต้องขายตัว
    สาเหตุของกรรม มาจากในอดีตชาติอาจเคยพรากภรรยาหรือสามีผู้อื่น หรือเป็นคนเจ้าชู้มากรัก ประพฤติผิดทางกามเป็นประจำและหักอกให้ผู้อื่นต้องช้ำใจขณะเดียวกันทั้งศีลและจริยธรรมก็บกพร่องตลอดด้วยโดยเฉพาะทางเพศ ทำให้ต้องมาเกิดเป็นโสเภณีหรือคนที่ต้องทำอะไรคล้ายๆ กับการขายตัวในชาติปัจจุบัน ซึ่งแรกๆอาจยังไม่รู้ตัวว่าจะต้องเป็นเช่นไรทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งดีงาม นั่นเป็นเพราะมีบาปกรรมบังตาไว้ต่อมาเมื่อรู้ตัวและเกิดความทุกข์ก็ตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม ในเมื่อทำไปเสียแล้วก็ให้มีสติฉุกคิดในสิ่งที่ตนทำไว้ให้รู้เท่าทันในการกระทำของตน ให้นำเงินจากการขายบริการทางเพศส่งให้พ่อแม่ใช้ตลอดอย่าให้ขาดเป็นการตอบแทนคุณ ส่วนเงินส่วนหนึ่งก็ให้แบ่งทำบุญโดยเฉพาะให้กับสัตว์ที่ถูกทิ้ง เด็กกำพร้า คนตาบอด คนพิการ คนชราฯลฯ เพราะสัตว์และคนเหล่านี้น่าสงสารเพราะด้อยโอกาสกว่าคนทั่วไปให้ทำบุญเช่นนี้เป็นประจำอย่าได้ขาด ถ้าเป็นไปได้ก็ทุกเดือนจนกว่าจะพ้นกรรมตรงจุดนี้ได้และให้ระมัดระวังการใช้เงินอย่าใช้เงินฟุ่มเฟือยสนองความสวยงามของร่างกายแต่เพียงอย่างเดียว ให้ตั้งใจระมัดระวัง สำรวมกายและใจอาจถือศีลกินเจ ส่วนข้อที่ละไม่ได้ไม่เป็นไรให้ตั้งใจถือศีลข้อที่ละได้อย่างเคร่งครัดเช่น ไม่พูดโกหก ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ดื่มสุรา ไม่ผิดคนรักของผู้อื่นนอกจากอาชีพที่ตนทำอยู่ หรือพยายามอย่าให้ตนเป็นสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวผู้อื่นต้องเลิกร้างกัน ให้พยายามครองโสดตลอดไป อย่าเพิ่งมีความรักแบบหนุ่มสาวจนกว่าจะพ้นอาชีพหรือวิบากกรรมตรงจุดนี้แล้ว ให้อธิษฐานจิตแผ่เมตตาขออโหสิกรรมและขอตัดกรรมกับเจ้ากรรมนายเวรและคู่กรณีหลังจากการทำบุญทุกครั้ง และขออธิษฐานจิตทำความดียิ่งๆขึ้นไปเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น


    16. กรรมต้องพลัดพรากจากคนรัก (คนรักยังมีชีวิตอยู่)
    สาเหตุของกรรม มาจากในอดีตชาติได้ทำการพรากลูกพรากเมียผู้อื่น หรือได้วางแผนยุยง และทำให้บ้านเมืองและหมู่คณะโดยเฉพาะกลุ่มคนที่รักกันต้องพลัดพรากแตกแยกกัน บาปชนิดนี้ เกิดขึ้นเพราะทั้งเราและคนที่เรารักอาจเป็นคนร่วมกันทำในอดีตชาติหรืออาจจะทำฝ่ายเดียวส่วนอีกฝ่ายหนึ่งสบรู้ร่วมคิดรู้เห็นเป็นใจ ทำให้ในชาติปัจจุบันทั้งเราและคนที่เรารักต้องรับกรรมแตกแยกจากกันไม่มีทางได้กลับมารักกันได้หรือยังรักกันแต่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ หากเรามีครอบครัว ครอบครัวของเราอาจแตกแยกพลัดพรากบ้านแตกสาแหรกขาดอย่างที่ไม่ต้องการจะให้เกิดขึ้นเลยในชีวิต

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม หากต้องพลัดพรากจากครอบครัวและบ้านเมืองอันเป็นที่รักแสดงว่าเป็นบาปกรรมหนัก อาจเป็นกรรมที่ทำให้ประเทศชาติและคนในชาติต้องแตกแยกร้าวรานจำต้องอดทนรับกรรมที่เกิดขึ้น เพราะบาปที่เกิดขึ้นหนักมากบุญที่ทำไม่อาจผลักดันให้บาปนั้นเคลื่อนห่างไปได้โดยง่าย แต่ก็ให้ทำการลดกรรมด้วยการทำบุญตลอดเวลาจะได้ไม่มีผลบาปส่งไปถึงชาติหน้า และชาตินี้ก็อาจมีโอกาสที่กรรมตรงนี้จะหมดไป ให้เน้นการทำบุญที่เป็นการส่งเสริมให้เกิดความปรองดองขึ้นเช่น บริจาคเงินเข้าโครงการร่วมพัฒนาชนบท อาหารกลางวันเด็ก โครงการช่วยเหลือเด็กบ้านแตก หรือเด็กกำพร้า ฯลฯ และเงินที่ใช้บริจาคทานไม่ควรมาจากการโกงกินหรือโดยมิชอบ หลังจากการทำบุญทุกครั้ง ให้อธิษฐานจิตเพื่อให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้ และหากรู้ว่าการกลับคืนมาของคนที่รักไม่สามารถเป็นไปได้ก็ให้ทำบุญแผ่ส่วนบุญกุศลไปถึงคนที่เรารักบ่อยๆ เพื่อให้ชีวิตของเขามีความสุขและให้หมั่นอุทิศตัวทำบุญเพื่อสาธารณประโยชน์ให้มากครั้ง

    17. ต้องเจ็บตัวหรือเจ็บใจเพราะความรักเป็นประจำ
    สาเหตุของกรรม มาจากในอดีตชาติอาจเคยมีเรื่องบาดหมางกับผู้คนมากมาย หรือเคยทรมานทาสทำร้ายร่างกายผู้อื่นไว้ทำให้ชาตินี้ต้องมารับวิบากกรรม กรรมชนิดนี้จะรวมการเจ็บตัวและเจ็บปวดใจเข้าด้วยกัน

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม ให้ตั้งจิตอุเบกขาอดทนรับกรรมให้อธิษฐานจิตว่ายินดีรับผิดแล้ว ยินดีให้ลงโทษไปตามกรรมที่ได้เคยก่อขึ้นมาในอดีตชาติ และขอขมาขออโหสิกรรมและขอให้บุญที่ทำมาดีแล้วจงแผ่ไปสู่เจ้ากรรมนายเวรและคู่กรณี หรือคนรักที่ทำให้ต้องเจ็บตัวและเจ็บใจทุกๆท่านให้ท่านเหล่านั้นจงมีความสุข และเมื่อมีโอกาสให้ทำบุญโดยการช่วยเหลือการแพทย์ต่างๆไม่ว่าจะด้วยทรัพย์หรือแรงกายหรือการบริจาคเลือดหรืออวัยวะ หรือทำทานเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ไร้ผู้อนุเคราะห์เพื่อตั้งจิตอธิษฐานผลบุญและแผ่เมตตาไปให้ทุกๆ คนที่เคยมีเวรกรรมต่อกันกรรมเก่าก็จะหมดเร็ววัน


    18. เกิดมาผิดเพศหรือชอบเพศเดียวกัน
    สาเหตุของกรรม มาจากในอดีตชาติอาจเคยผิดลูกเมียผู้อื่นหรือยังเหลือเศษกรรมที่ต้องชดใช้กับเจ้ากรรมนายเวรที่เป็นเพศเดียวกัน หรืออาจเคยทำกรรมแย่งภรรยาผู้อื่นหรือมีศีลและจริยธรรมบกพร่องจนต้องมาเกิดเป็นกระเทยหรือบุคคลรักร่วมเพศ หรือเป็นคู่รักเก่าร่วมบุพเพกันมาแต่เกิดมาเป็นเพศเดียวกันเพราะบาปกรรมที่เคยก่อไว้ บางรายอาจเป็นพรหมจุติมาก่อนจึงติดเศษบุญเก่าคือดูไม่คล้ายชายไม่คล้ายหญิง เพราะร่างพรหมไม่มีเพศแต่เนื่องจากมีบาปเก่าติมาด้วยจึงอาจมีบางช่วงชอบผู้ชายด้วยกันเพราะเป็นเศษบาปกรรมในอดีตชาติ

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม วิธีการแก้กรรมคือให้ตั้งอธิษฐานจิตชดใช้กรรมโดยขอให้เจ้ากรรมนายเวรลดทอนโทษด้วยการทำบุญไปให้ อาจเน้นการทำบุญ เช่น ช่วยเด็กกำพร้า ผู้ถูกทอดทิ้ง ผู้ที่ครอบครัวแตกแยก ฯลฯ หากอยู่ในสภาวะที่การรักร่วมเพศเป็นไปไม่ได้หรือมีทุกข์หนักให้อุทิศชีวิตโสดของตนเพื่อทำงานการกุศลประเภทต่างๆจนหมดวาระกรรม ไม่ควรฝืนแต่งงานกับผู้หญิงที่ตนไม่ได้มีจิตรักใคร่ตามเพศชายหญิงเพราะจะทำให้เกิดบาปกรรมพ่วงผูกพันกันต่อไปในชาติหน้า ควรครองตัวเป็นโสดและใช้เวลาว่างทำบุญเพื่อสาธารณประโยชน์ต่อๆไป ในกรณีที่มีคู่รักเป็นเพศเดียวกันที่สามารถอยู่ครองรักใคร่และเข้าใจกันได้ก็ให้พากันหมั่นเชิญชวนการทำบุญอันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนให้มากๆ ควรหลีกเลี่ยงการตั้งใจหรืออธิษฐานจิตให้เกิดมาเป็นเพศเช่นนี้ต่อๆไป แต่ควรขอให้คุณงามความดีที่ทำมาให้เกิดมาเป็นเพศตามธรรมชาติตามกำลังของกรรมในชาติต่อๆไป

    19. มีคู่รัก แต่กลับไม่มีลูก
    สาเหตุของกรรม มาจากในอดีตชาติเคยทำร้ายลูกของสัตว์อื่นหรือพรากลูกสัตว์มาจากพ่อแม่ของมัน อาจเคยข่มเหงรังแกหรือฆ่าลูกของคนอื่นแต่ถ้าในกรณีที่มีลูกช้าอาจยังไม่ทราบได้ว่าเราเคยได้ฆ่าชีวิตลูกผู้อื่นหรือไม่ในอดีตชาติ อาจเป็นเพียงบาปที่ไปพรากลูกผู้อื่นหรือกีดกันไม่ให้ลูกต้องพบกับพ่อแม่

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม ลดกรรมด้วยการถือศีลกินเจ 7 วันในทุกๆเดือนและให้เน้นการทำบุญไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ ให้ไปซื้อสัตว์ที่กำลังจะโดนฆ่าเอามาปล่อยเสียและทำบุญบริจาคทานที่มูลนิธิช่วยเหลือสัตว์หรือมูลนิธิเด็กอ่อน เด็กกำพร้า เด็กถูกทอดทิ้ง เป็นต้น หากต้องการเร่งบุญให้ถือศีล 8 เป็นเพศพรหมจรรย์และกินอาหารผักเป็นนิตย์ ละเว้นการตัดชีวิตสัตว์เพื่อนำมาเป็นอาหารเสีย หากในกรณีที่ปัจจุบันชาติไม่สามารถมีลูกสืบสกุลได้แล้วบุญจะหนุนนำไปอีกชาติหนึ่ง


    20. ชีวิตคู่ไม่ราบรื่น ทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำ (อาจจะร้างลากันในที่สุด)

    สาเหตุของกรรม มาจากสองกรณีกรณีแรกคือ ในอดีตชาติเคยทำบุญร่วมกันโดยไม่เต็มใจหรือโดยไม่รู้ตัว ซึ่งในกรณีนี้ปกติแล้วจะอยู่กันได้ไม่นานก็ต้องร้างลากันไปแต่ทั้งคู่คงเผลอทำบุญร่วมกันในบุญใหญ่ที่มีความบริสุทธิ์มากจริงๆจึงทำให้อยู่ร่วมกันยาวนานได้ ข้อนี้ต้องระวังถ้าหมดบุญแล้วจะต้องเลิกรากันตามอำนาจแห่งกรรมคู่ชนิดนี้ความสัมพันธ์จะไม่ราบรื่นทะเลาะกันบ่อยครั้งจนเลิกรากันไปโบราณเรียกเนื้อคู่ชนิดนี้ว่า “เนื้อคู่ข้าวตอก ดอกไม้” คือทั้งคู่เผลอเอาดอกไม้ไปถวายพระพร้อมกันแล้วเผลอแตะตัวกัน ทำให้บุญตรงนั้นบัลดาลให้เป็นคู่รักกันตามกำลังบุญโดยมีระยะเวลาตั้งแต่ 1- 30 ปีก็ยังมีหลังจากนั้นก็ต้องเลิกกัน
    กรณีที่สองคือ ในอดีตชาติก่อนๆเป็นคู่แท้ร่วมกันมาแต่ขาดความปรองดองต่อกัน ไม่ชอบร่วมมือกัน ชอบทำอะไรกันคนละทางซึ่งอาจเป็นเพราะการอธิษฐานจิตหรือชอบทำบุญต่างเวลากัน เนื้อคู่ชนิดนี้ปัจจุบันชาติอาจไม่เลิกรากันแต่หากบุญค่อยๆขาดจากกันจะไม่เป็นคู่กันอีกในชาติต่อๆไป


    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม ในทั้งสองกรณีคือร่วมใจกันทำบุญร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เช่น ตักบาตร ถวายสังฆทาน ร่วมเป็นเจ้าภาพงานแต่งงาน ร่วมกันไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ ฯลฯ ให้ทำร่วมกันเป็นประจำสม่ำเสมอหรือทุกวันได้ยิ่งดี โดยให้ตระหนักว่าหากเรากับคู่รักเป็นกรณีแรกแสดงว่า เผลอทำบุญร่วมกันน้อยมากต้องเพิ่มบุญให้มากๆจะได้ผลักชะตากรรมที่ต้องร้างลากันให้ห่างออกไปให้มากที่สุด และให้หมั่นสวดมนต์ ถือศีล ทำสมาธิร่วมกัน อย่าทำบุญใดๆ หรือถือศีลคนเดียวเพราะจะทำให้เกิดช่องว่างของบุญและบาปขึ้นเช่นเราดื่มสุราแต่แฟนถือศีล 5 บุญของแฟนเราจะยิ่งผลักคนที่ศีล 5 ขาดจากเราให้ไกลจากเขาทุกๆที และพยายามสำรวมกาย วาจา ใจ ให้คิดดี พูดดี ทำดี ซึ่งให้เริ่มจากเราก่อนจะได้ไม่เป็นการสร้างบาปต่อกัน แล้วท้ายสุดคือให้พยายามทำดีกับคู่รักให้มากๆ ให้คิดเสียว่าหากบุญเนื้อคู่ขาดกันวันใดเราก็จะไม่เสียใจเพราะทำดีกับเขาที่สุดแล้ว

    21. ชีวิตคู่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ร่วมกันทำอะไรก็ไม่เจริญ มีแต่ทรงกับทรุด
    สาเหตุของกรรม มาจากทั้งคู่เป็นคู่กรรมร่วมกันมาคือร่วมทำทั้งบุญและบาปร่วมกัน อาจเป็นคู่ที่ไม่ควรเป็นคู่กันด้วยซ้ำแต่บุญบาปในอดีตชาติทำให้หันเหมาเป็นคู่ชีวิตกันหรืออาจเป็นคู่แท้ร่วมกันมาในชาติก่อนๆ แต่ร่วมกันทำบาปเล็กๆน้อยๆหลายๆบาปร่วมกัน บาปกรรมที่ทำจึงบันดาลให้ชีวิตคู่ขรุขระไม่ราบรื่ มีอุปสรรคให้ฟันฝ่าจนเหนื่อยเสมอ หรือในปัจจุบันชาติทั้งคู่อาจร่วมกันทำบาปร่วมกันเล็กๆน้อยๆมาเรื่อยๆโดยไม่สนใจทางบุญกุศลเลยชีวิตคู่จึงไม่มีความเจริญเกิดขึ้น

    วิธีลดกรรมหรือแก้กรรม ให้ร่วมกันทำบุญทำทานอย่างสม่ำเสมอ หากอุปสรรคที่พบเจอเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆหลายๆเรื่องแสดงว่าทั้งคู่ยังไม่มีบาปกรรมหนักร่วมกัน จงอย่าประมาทให้รีบทำบุญ ทำกุศลหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ อาจเป็นการออกแรงแทนเงินก็ได้ เช่น ร่วมกันกวาดถนน ร่วมกันล้างบ้าน ทำความสะอาดบ้าน ร่วมบริจาคข้าวของให้คนยากไร้ ร่วมเป็นอาสาช่วยงานบุญที่วัดหรืองานการกุศลตามมูลนิธิต่างๆ ร่วมกันตักบาตรพระหรือทำบุญต่างๆ ในวัดร่วมกัน ร่วมกันไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ ที่กำลังจะเป็นอาหาร เป็นต้น ส่วนการทำบุญที่ดีกว่านี้เช่นการรักษาศีลหรือนั่งสมาธิภาวนาร่วมกันก็ควรทำหากเป็นไปได้



     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่พรเทพ ED 5777 9688 0 TH

    พี่วุฒิชัย ED 5777 9689 3 TH

    พี่จารุวรรณ ED 5777 9690 2 TH

    พี่ศิระ ED 5777 9691 6 TH

    พี่วิศณุกร ED 5777 9692 0 TH

    พี่เกษมธิดา ED 5777 9693 3 TH

    หนนี้ที่ฝากเลี่ยม เลี่ยมให้ครบแล้วนะครับ
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    ใครชอบเครื่องมงคลองค์ย่อมๆพรุ่งนี้ติดตามกันดีๆนะครับ
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้รอบเย็นเดี๋ยวเตรียมรอไว้นะครับ เพราะเป็นครูสายฆราวาสที่แรงฤทธิ์มากบารมีที่สุด ...ทั้งยังเป็นเหรียญที่คนสอบถามกันมากถามกันมานานแต่พ่ออาจารย์ท่านก็ไม่เคยเอาออกให้ใครใช้ซักรุ่น
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญโปรยทานอนาถบิณฑิกคหบดีชุดคลังแสงเบิกบุญ(ปิดตาท้องพระคลัง)

    เมื่อมีผู้ให้ย่อมมีผู้รับ พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่โบราณนั้นในเหล่าพุทธสาวกอันเป็นพระอริยบุคคลซึ่งยังเป็นคฤหัสถ์อยู่ จะหามีผู้ใดเป็นผู้ให่ที่ยอดเยี่ยมเทียบกับท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีนั้นยากยิ่งด้วยท่านมีอานุภาพมากทั้งยังเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่สามารถเลี้ยงดูคนหมู่มากได้อุปมาดั่งว่าเลี้ยงได้ทั้งทวีปเพราะท่านมีทรัพย์สมบัติมาก(แม้สมบัติในคลังขาดตกบกพร่องเทวดาก็หามาเติมให้จนเต็ม) เช่นนี้สมเด็จองค์ปฐมท่านจึงแนะนำให้พ่ออาจารย์สร้างเครื่องมงคลในนามของอนาภบิณฑิกเศรษฐีไว้ซักรุ่นหนึ่ง ท่านว่าจะได้ช่วยคนได้อีกมากเพราะความทุกข์ความอดอยากความยากลำบากใดๆก็ดีจะไม่เกิดแต่อนาถบิณฑิกเศรษฐีผู้นี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อทำแล้วใครก็เสกท่านไม่ได้นอกจากเชิญญาณบารมีของตัวท่านเศรษฐีเองลงมากำกับดูแลเครื่องมงคลและผู้ครอบครองให้ได้รับการสงเคราะห์จากท่านโดยตรง

    เมื่อจะทำรูปครูใหญ่ฝ่ายโภคทรัพย์แล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องทำให้เต็มที่มากที่สุดดั่งที่ท่านเศรษฐีกำชับไว้ว่า "ให้ทำเสมอด้วยรูปเรานี้เป็นสมบัติที่เรามอบให้เพื่อใช้สืบทอดความเป็นเศรษฐีคหบดีในวงศ์ตระกูลจากรุ่นสู่รุ่น" เช่นนั้นเหรียญโปรยทานนี้จึงเป็นมากกว่าเครื่องมงคลทั่วไปด้วยท่านเศรษฐีต้องการจะให้ทำเป็นสมบัติสืบทอดวงศ์ตระกูลแก่ผู้จะได้เป็นเศรษฐีสมดังคำอวยพรท่าน
    ### ด้วยท่านเศรษฐีแนะนำพ่ออาจารย์ท่านในเคล็ดสำคัญว่าเมื่อมีคนให้(คือตัวท่านเศรษฐี) ก็ต้องมีสมบัติเพื่อมอบให้สิ่งนั้นจึงจะจับต้องได้เพื่อแก้เคล็ดของผู้รับในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ ด้วยผู้รับทั้งหลายรู้แต่ว่าเมื่อขอจากผู้ให้แล้วจะต้องได้รับแต่กลับลืมคิดไปว่าผู้ให้เขาจะเอาอะไรมาให้เขามีสิ่งที่เราขอหรือเปล่า เราขอเขาตรงที่ตรงจุดแค่ไหน...เมื่อมีแต่ผู้ขอกับผู้ให้ก็ย่อมไม่ได้อะไรขึ้นมาซักอย่างเพราะฝ่ายขอก็ขอไปฝ่ายให้ก็ไม่รู้จะเอาอะไรไปให้เขา เช่นนั้นท่านจึงให้พ่ออาจารย์ทำพระปิดตาท้องพระคลังฝังไว้ด้านหลังเป็นเคล็ดลับที่ว่าขอสิ่งใดกับผู้ให้(ท่านเศรษฐี)ย่อมต้องได้รับ ด้วยไม่มีกรุสมบัติหรือสิ่งใดจะมีค่ามากและมีทุกสิ่งในโลกเสมอด้วยท้องพระคลังพระเจ้าจักรพรรดิ์ เช่นนั้นทุกสิ่งจึงอุปมาว่าเป็นไปได้เมื่อขอได้ก็ต้องเอามาให้ได้ทุกอย่าง ตัดปัญหาวาสนาไม่ตรง..บุญไม่สัมพันธ์...หรือผู้ขอให้ไม่ได้ออกไปเสีย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยปิดตาท้องพระคลังกับเหรียญแทนตัวท่านอนาถบิณฑิกคหบดีนั้นเป็นสิ่งคู่กันถ้าแยกออกจากกันความสมดุลย์ก็จะบกพร่องไปเรียกว่าแยกไม่ได้เมื่อมีผู้ให้ก็ต้องมีสิ่งที่จะให้ ขาดสิ่งใดไปย่อมทดแทนกันไม่ได้ ด้วยเฉพาะตัวเรานั้นหาได้มีอภิสิทธิ์ในทรัพย์ใดๆดั่งว่าแม้รู้ว่ามีขุมทรัพย์อยู่ตรงไหนมีท้องพระคลังมหาสมบัติอยู่ที่ใดก็ทำได้แต่เพียงว่ารู้แต่ไม่อาจหยิบยืมครอบครอง ในขณะเดียวกันเมื่อมีผู้ให้นั่นแหละท่านมีสิทธิ์ในทรัพย์ทั้งหลายในแผ่นดินอันเทวดาขวนขวายมาเติมเต็มไม่ตกหล่นบกพร่อง ปรารถนาอะไรจากเศรษฐีผู้ใจบุญ ปรารถนาอะไรจากผู้เติมเต็มความปรารถนาของคนตกทุกข์ได้ยากแบบนี้เราจึงขอเอาจากท่านได้ "พระปิดตาท้องพระคลัง" นามนี้เป็นดั่งคลังสมบัติพระอินทร์ผู้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ของเหล่าเทวดาทั้งหลายเป็นสมบัติทิพย์ที่ขึ้นชื่อว่ามีไม่รู้หมด เมื่อสมบัตินี้อยู่ในมือของท่านเศรษฐีผู้ได้ชื่อว่าเป็นนักสงเคราะห์ผู้ยิ่งใหญ่ผู้มีก้อนข้าวสำหรับคนอนาถาเช่นนั้นย่อมได้เรื่อง ถ้าชีวิตของเราตกยากหรือมีความทุกข์ในเรื่องการทำมาหากินทรัพย์สินเงินทองทั้งปวง *** เน้นตรงๆเลยคือเรื่องความอยู่รอด..เรื่องปากท้อง..เรื่องหน้าที่การงาน..ความเจริญเติบโตทางฐานะ...ความมั่งคั่ง เหล่านี้ให้ขอกับท่านเศรษฐีได้โดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวท่านเศรษฐีเองท่านไม่เคยปฏิเสธการให้ทานเพราะท่านยิ่งให้ยิ่งมี,ยิ่งให้ยิ่งได้,ยิ่งให้ยิ่งเพิ่ม ท่านเลี้ยงชนหมู่มากอุปมาดั่งเลี้ยงคนได้ทั้งพระนครบำรุงสัตว์อันตกทุกข์ได้ยากได้ทั้งทวีป ท่านบำรุงได้ทุกคนทุกสภาวะเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้สร้างเหรียญโปรยทานเอาไว้ด้วยเหตุว่าผู้ที่มีวาสนาอันเล็ดรอดไปและยังมีบุญสัมพันธ์กับท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีจะได้สงเคราะห์กันตามเจตนาของท่านเศรษฐีนั้น

    ชนวนปิดตาท้องพระคลัง
    พ่ออาจารย์ท่านเรียกเหรียญโปรยทานนี้ว่าเป็นวงจรการรับที่สมบูรณ์ที่สุด คือมีทั้งผู้ให้ผู้รับและสิ่งที่จะให้เช่นนี้การให้ย่อมสมดั่งใจปรารถนา แต่กว่าจะได้มาซึ่งปิดตาท้องพระคลังนั้นกลับไม่ง่ายเลย พ่ออาจารย์ท่านหล่อปิดตาท้องพระคลังด้วยเนื้อตะกรุดล้วนๆ คัดเฉพาะที่เปนดอกครูคือดอกนำฤกษ์เบิกอักขระที่มีแรงครูสูงสุดนำมาหล่อหลอมเป็นปิดตาท้องพระคลังด้วยเนื้อธาตุตะกรุดล้วนๆ ทำให้ได้พระปิดตาจำนวนน้อยแต่ก็แก่กล้าในอิทธิคุณเป็นที่สุด ชนวนปิดตาท้องพระคลังนั้นประกอบไปด้วย
    ตะกรุดเทพสังวาลย์ไพชยนต์เส้นบูชาฤกษ์ อันว่าเทพสังวาลย์ไพชยนต์นั้นจะต่างจากตะกรุดทั่วๆไป เนื่องจากนานๆในวาระหนึ่งจึงจะประกอบการจัดสร้างมาได้ซักเส้นซึ่งก็มีพิธีการลงมากมาย ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านทำเสร็จจะต้องคาดติดตัวไว้ตลอดเวลาในการประกอบพิธีต่างๆ ทั้งในพิธีอุปราคาจันทรคราส-สุริยคราและเเม้เเต่พิธีบนดอย พิธีการลงตะกรุดต่างๆการเสกตะกรุดต่างๆ ซึ่งท่านจะสอบพลังของตะกรุดเส้นนี้อยู่เนืองๆจนแน่เเท้แก่ใจว่าเป็นยอดแล้วถึงถอดออกมาให้ร่วมทำบุญ พ่ออาจารย์ท่านว่าคนพุทธเรานั้นเชื่อเสมอว่าการทำดีย่อมได้ดี คนเราหากปฏิบัติธรรมแล้วย่อมมีสุขคติภูมิเป็นที่ไปในชาติภพหน้าแม้นตอนนี้ก็มีทิพย์ประสาทเเละวิมานรอเราอยู่ หากเเต่วิบากกรรมนั้นก็เล่นตลกไม่เคยปราณีใครเสียเลยซักผู้หนึ่งท่านจึงนึกถึงยอดตะกรุดชนิดหนึ่งขึ้นมาซึ่งอาจกล่าวได้ว่านอกจากทำยากแล้ว การเสกจะเสกให้ครบวาระต่างๆนั้นยังยากและยาวนานกว่า
    ตะกรุดนี้เป็นมหาตะกรุดสายสังวาลย์ในตำนาน วิชานี้ท้าวความไว้ที่พระอินทร์เจ้าเเห่งสววรค์ชั้นดาวดึงษ์ที่ได้ชื่อว่ามั่งคั่ง,ร่ำรวย,มีความสุขสนุกสนานมากที่สุดในฉกามาพจรภูมิ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าพระอินทร์เจ้านั้นท่านมีของวิเศษอยู่สิ่งหนึ่งซึ่งไม่เหมือนใครนั่นคือทิพย์วิมานที่ประทับที่เราเรียกว่าไพชยนต์มหาประสาท เพราะเป็นทิพย์วิมานที่มิจิตวิญญาณดั่งใจนึกแม้นพระอินทร์ผู้เป็นเจ้าของไพชยนต์มหาประสาทได้ประกอบกุศลกรรมใดขึ้นประสาทเทพไพชยนต์ก็จะเปล่งรัศมีเจริญรุ่งเรืองพร้อมทั้งขยายขนาดทวิทวีความสูงใหญ่ขึ้นอีกครั้งหนึ่งนับได้ร้อยโยช์พันโยชน์เลยทีเดียว เรียกว่าเป็นทิพย์วิมานที่ยิ่งใหญ่เลิศหรูที่สุดอันไม่มีผู้ใดในชั้นฟ้าไหนๆกล้าจะมาเทียบเทียมเพราะเป็นคุณสมบัติพิเศษของเทพประสาทไพชยนต์โดยเฉพาะ นอกจากนั้นยังใช้เป็นปราการเหล็กที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุด เป็นปราการที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เทวโลกว่า เป็นปราการที่ไม่มีวันตีแตกแม้พระอินทร์จะพ่ายแพ้สงครามแก่อสูรหากถอยทัพกลับเข้าประสาทไพชยนต์เเล้ว ถึงทัพอสูรจะไล่เข้ามาก็ไม่สามารถล่วงล้ำอาณาเขตได้เเละไม่มีวันที่จะตีแตก เพราะประตูทุกบานจะถูกปิดสนิทเเละเป็นประการเวียงแก้วที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กเพชรเหล็กไหลกายสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น ให้คุณคุ้มโทษคุ้มภัยคุ้มชีวิตแก่เจ้าของตลอดมาเป็นอย่างดี
    พ่ออาจารย์ท่านได้รับวิชานีรู้จักวิชานี้เป็นอย่างดีเเต่กรรมวิธีการทำมันค่อนข้างยุ่งยากและกินเวลานานจึงไม่ค่อยได้ทำให้กับใคร ในสายสังวาลย์นั้นจะมีตะกรุดดอกใหญ่เป็นประธานอยู่ดอกหนึ่งเเวดล้อมด้วยตะกรุดบริวารอีก 24 ดอก เป็นตะกรุดที่มีอานุภาพครอบฟ้าคลุมดินตามแต่จะอธิษฐานท่านว่าวิชานี้เเล้วเเต่จะเอาไปใช้เลยเป็นไปได้ทุกเรื่องสำเร็จได้ทุกเรื่องแต่วิชานี้มีความพิเศษไม่เหมือนใครอยู่อย่างหนึ่ง วิชานี้เหมือนดั่งเช่นประสาทไพชยนต์เวียงแก้วของพระอินทร์ หากผู้บูชาทำคุณงามความดีทำบุญทำกุศลตะกรุดจะยิ่งทวีพลังเเละอานุภาพเพิ่มมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว ท่านว่าเป็นวิชาที่แปลกพลังไม่ตกไม่เสื่อมมีแต่จะรอวันเพิ่มขึ้น มากขึ้นเหมือนประสาทไพชยนต์เวียงแก้วของพระอินทร์ที่ขยายขึ้นสูงขึ้นทุกวันฉันนั้น
    ผู้ที่บูชาก็เหมือนมีสมบัติเทวโลกอยู่กับตัว จะหนุนนำชักพาให้เจอแสงสว่างพบกับสิ่งดีงาม ประหนึ่งเราได้อานิสงค์มีธรรมคุ้มกายมีวิมานเเก้วที่รอเราอยู่ในภพชาติต่อไป วิมานนี้จะเจริญยิ่งยวดขึ้นไปพร้อมๆกับตัวเราเหมือนดั่งประสาทไพชยนต์วิมานที่มีจิตวิญญาณอันพระอินทร์ได้ครอบครอง พระอินทร์นั้นมีแต่เจริญรุ่งเรืองขึ้นฉันใดตัวเราก็มีได้ฉันนั้นต่อให้หมดวาระหมดบุญอันจะได้เสวยกุศลเเล้วก็จะมีเหตุมีเรื่องบังเอิญให้ได้พบกับสิ่งดีงามชักพากุศลเเละความเจริญมาให้เราต่อมิได้ขาดมิได้หยุด ต่อไปจะเจริญขึ้นแบบไม่ต้องหยุดพักทีเดียวพ่ออาจารย์ท่านว่าคิดเอาเองก็แล้วกันพระอินทร์องค์ปัจจุบันนั้นหมดวาระหมดหน้าที่ไปแล้วแต่ก็ยังคงอยู่ในตำเเหน่งต่อไปไม่มีใครไปแย่งตำเเหน่งท่านได้ทั้งๆที่คนดีคนมีบุญมีถมไป ซ้ำยังได้อยู่ในตำแหน่งที่เจริญด้วยทิพย์สภาวะเเละมีรัศมีกายรุ่งเรืองขึ้นกว่าแต่ก่อนเสียอีก
    วิชานี้ทำให้เฉพาะผู้ศรัทธานอกจากศรัทธาในตัวเราเเล้วยังต้องในศรัทธาในระบบบุญด้วย ผู้เช่าไปจะต้องมั่นใจได้ว่าเมื่อทำดีเเล้วย่อมได้ผลดีตอบเเทนอันความดีที่สนองตอบเรานั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามันเป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้ไม่มีใครเห็น หลายต่อหลายครั้งมันก็เลยดูเลื่อนลอยเเต่สำหรับตะกรุดเทพสังวาลย์ไพชยนต์นี้มันเป็นรูปธรรมจับต้องได้ไม่เลื่อนลอย เพราะจะทวีอานุภาพขึ้นตามบุญกุศลของคนใช้เปลี่ยนสิ่งที่ได้ชื่อว่ามองไม่เห็นสัมผัสไม่ได้ให้เห็นและสัมผัสได้ พ่ออาจารย์ท่านว่ามันเป็นการแก้ทางพลิกกรรมรูปแบบหนึ่งให้ถือว่าผู้ได้ไปได้รู้แล้วเห็นเเล้วต่อไปก็จะเห็นอีกเรื่อยๆไม่มีทางมองไม่เห็น ที่ว่าเห็นนี่คือเห็นอะไรท่านว่าเห็นความสำเร็จของชีวิตเห็นสิ่งที่อยากได้สมความปรารถนาต่อไปจะเห็นเองเห็นเรื่อยๆ อยากได้อย่างไรมันจะได้อย่างนั้นถึงแม้จะอยู่แสนไกลก็จะร่นมาใกล้แม้นที่พึงใจชอบพอรักใครก็จะได้สมปรารถนา

    ตะกรุดดับเคราะห์ประจุสายฟ้า(พระยาพิเภกค้ำดวง)ดอกบูชาฤกษ์ ตามที่เคยบอกไว้มีตะกรุดตำรับหนึ่งท่านลงเสกเก็บมาเรื่อยๆมีฤกษ์ก็ทำไม่มีฤกษ์ก็หยุดทำสะสมมาจนได้จำนวนหนึ่งเมื่อเห็นว่าถึงเวลาอันสมควรเเล้วจึงนำมาออกให้บูชา ตะกรุดนี้เรียกว่าพระพิเภกค้ำดวงก็ได้ ท้าวเวสสุญาณเขียนดวงก็ได้ เพราะท่านบอกว่าผู้ที่ได้ใช้จะเปลี่ยนแปลงดวงชะตาของเขาใหม่ทั้งหมดเหมือนดั่งต้นไม้แม้จะเเห้งเหี่ยวไปเเล้วก็จะกลับมามีชีวิตผลิดอกออกใบเหมือนเดิม อาศัยเหตุที่พระยาพิเภกนั้นรับโองการพระอิศวรผู้เป็นเจ้าเกิดขึ้นมาเพื่อช่วยพระรามจนได้ดี เห็นมั๊ยว่าก่อนเจอพระยาพิเภกนั้นพระรามเเทบจะไม่มีอะไรเลยพอได้ความรู้และสิ่งของวิเศษคือแว่นเเก้วสุรกานต์ขององค์พระอิศวรที่ซ่อนอยู่ในตัวของพิเภกทัพชัยของพระรามก็กลายเป็นกองทัพที่ไร้พ่ายทันที ประสบพบเจอเเต่ความสำเร็จความเจริญรุ่งเรืองแม้มีปัญหาอุปสรรคใดๆมากมาย ต่อให้ยากนักหนาจนเลือดตาแทบกระเด็นพอได้คำเเนะนำได้การช่วยเหลือของพระยาพิเภกก็จะผ่านไปได้ด้วยดีทุกเรื่อง พ่ออาจารย์ท่านเห็นสมควรยิ่งที่จะเชิญบารมีของพระยาพิเภกหรือท่านท้าวเวสสุญาณนี้มาให้หนุนให้เสริมดวงชะตาราศีแก่ชีวิตของลูกๆที่ศรัทธา ที่เจอปัญหาเจอมรสุมเจอวิกฤติต่างๆให้หนุนจนได้ดีมีเกียรติเจริญรุ่งเรืองไม่รู้จักตกต่ำท่านว่าพระยาพิเภกหนุนพระรามอย่างไรบารมีท้าวเวสสุญาณนี้ก็ให้หนุนให้ช่วยคนที่ได้ไว้ครอบครองแบบนั้น เบบเดียวกับที่ทำให้พระรามประสบชัยชนะประสบความเจริญรุ่งเรือง
    ท่านว่าเรื่องหนุนดวงนี้ตะกรุดดอกนี้ถือเป็นเรื่องเล็กเลยเพราะว่าไม่เพียงเเต่หนุนเท่านั้นยังค้ำไว้ไม่ให้ตกก่อนที่จะหนุนให้สูงยิ่งขึ้นด้วย แม้ใครมีเคราะห์มีทุกข์กาลเเห่งทุกข์โทษและพระเคราะห์ทั้งหลายจะหายไปและจะเจอเเต่เรื่องดีๆที่ไม่คาดคิดไม่นึกฝันอยู่เรื่อยๆต่อให้เเห้งเหี้ยวอับเฉาลงไปแล้วก็ฟื้นขึ้นมามีชีวิตชีวาได้ ตะกรุดดอกนี้อย่าคิดว่าลงง่ายเพราะด้านในนั้นต้องวางอักขระเลขยันต์ที่จะหนุนดวงเสริมส่งชะตาของผู้บูชาจริงๆ โดยพ่ออาจารย์ท่านได้ใช้บารมีของพระนารายณ์และพระยาพิเภกหนุนส่งกันลงอักขระเลขยันต์บนเเผ่นตะกั่ว เพื่อให้ในดอกตะกรุดนี้เกิดการเกื้อกูลเกื้อหนุนซึ่งกันเเละกันชั้นหนึ่งก่อนตามสายวิชาก่อนที่จะลงเสกต่อไป เพื่อให้บารมีของพ่อท้าวเวสสุญาณสามารถนำไปเกื้อหนุนผู้ครอบครองได้จริงท่านว่าเหมือนเป็นสัญญาใจที่พระยาพิเภกนั้นจงรักภักดีเกื้อหนุนพระนารายณ์ฉันใดท่านก็จะทำแบบเดียวกันนั้นกับเรา อย่าลืมว่าเมื่อนำตะกรุดมาไว้ประจำตัวของเราเเล้วทุกข์โทษเคราะห์ทั้งหลายก็จะค่อยๆบรรเทาลงไปเอง ท้าวเวสสุญาณท่านมีแว่นเเก้วสุรกานต์ด้วยอานุภาพของเเว่นแก้วนั้นท่านย่อมรู้ย่อมเห็นทุกเรื่อง
    ด้านหลังพ่ออาจารย์ท่านลงอักขระเลขยันต์ว่าด้วยบทสายฟ้าฟาดพระธรณี ซึ่งวิชานี้ท่านไม่เคยลงในเครื่องมงคลใดๆแต่ท่านเห็นใจว่าสมัยนี้ใครเค้าก็อยากเจริญอยากได้ดีกันทั้งนั้น ที่จะให้คอยช้ารอท่ารอเวลาอะไรก็เห็นว่าไม่เข้าทีท่านจึงลงวิชานี้เสริมลงไปด้วยจะได้สำเร็จเเบบรวดเร็ว ท่านว่าอิทธิคุณของวิชาสายฟ้าฟาดพระธรณีนี้จะหนุนส่งเสริมกันให้สำเร็จรวดเร็วทะลุทะลวงทุกอย่างท่านจึงลงวิชานี้เอาไว้ ท่านว่าไม่มีสิ่งใดขวางกั้นสายฟ้าเอาไว้ได้จนสายฟ้านั้นตกต้องพระธรณีฉันใดตะกรุดนี้ก็เหมือนกันจะไม่มีสิ่งใดมาขวางผู้ใช้ได้เลยจนกว่าจะพบความสำเร็จตามที่ตนปรารถนาฉันนั้น พ่ออาจารย์ท่านย้ำหนักหนาว่าสายฟ้านี้เธออย่าลืมนะว่ามันรวดเร็วและว่องไว ผ่าลงตรงไหนก็รุนแรงตรงนั้นมันก็หนุนก็ส่งให้ความสำเร็จที่เธอคิดเธอปรารถนากันเป็นไปได้โดยทันทีรวดเร็วและว่องไวเช่นเดียวกัน
    เมื่อพระยันต์ทั้งสองมาบรรจบกันท่านว่าถือเป็นเรื่องมงคลอย่างยิ่ง เพราะตะกรุดนี้ตกอยู่กับใครที่ไหนก็ใช้ได้ทั่วทุกตัวคนเป็นของค้ำคูนดับเคราะห์ฟื้นดวงพลิกชะตาแถมด้วยบารมีท้าวเวสสุญาณเทพบุตรก็จะชักนำพาตัวเราให้ไปถึงจุดหมายได้ฉับพลันทันที แม้จะอธิษฐานบอกกล่าวสิ่งใดให้ท่านช่วยเหลือนอกจากทุกเรื่องจะเป็นไปได้โดยง่ายยังสำเร็จว่องไวและรุนแรงปานประหนึ่งสายฟ้าฟาดพระธรณี เมื่อทำตะกรุดสำเร็จเเล้วท่านต้องนำมารวบรวมไว้เเละตั้งสายล่อฟ้าขึ้นเพื่อให้ฟ้าผ่ามาตกต้องที่กองตะกรุดนี้ถือเคล็ดที่ท่านลงเเละทำวิชาสายฟ้าฟาดพระธรณี ท่านว่าเป็นการประจุสายฟ้าลงธาตุพิเศษนี้ไว้ในตะกรุดด้วยก่อนจะกรึงปิดเพราะเช่นนั้นตะกรุดนี้ภูติผีเเละสิ่งอัปมงคลทั้งหลายจะกลัวเกรงไม่กล้าเข้าใกล้ หลังจากนั้นจึงนำมาทำการปลุกเสกทางอาคมเเละเชิญท้าวเวสสุญาณมาสถิตย์ในตะกรุดนี้ทุกดอกนอกจากนี้เมื่อได้บูชาติดตัวยังช่วยให้อารมณ์โปร่งใส พ่ออาจารย์ท่านว่าให้พกไปเรื่อยๆท่านทดลองของท่านมาเเล้วสมองจะปลอดโปร่งจะคิดพิเคราะห์พิจารณาสิ่งใดในทางที่ถูกที่ควรก็เป็นไปได้โดยง่ายเเละรวดเร็ว ด้วยบารมีของท้าวเวสสุญาณซึ่งครอบครองแว่นแก้วสุรกานต์นั้นนอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของลางสังหรณ์ความรู้สึกทั้งหลายอีกด้วย ท่านว่าเมื่อห้อยเมื่อพกจนเข้ากับตะกรุดได้ในเบื้องต้นเเล้วความรู้สึกหรือลางสังหรณ์ของเธอนั้นจะเเม่นขึ้นเวลาคิดหรือตัดสินใจอะไร หากมีสิ่งใดไหลเข้ามาให้เชื่อความรู้สึกแรกเหล่านั้น


    ตะกรุดบรมอินทรา(ท้าวกำพร้า)ดอกบูชาฤกษ์ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวถึงพระอินทร์ไว้ในหลายวาระจะว่าไปวิชาของพระอินทร์ที่ถ่ายทอดเป็นวิทยาการไว้เพื่อโปรดสัตว์โลกผู้ยากนั้นก็มีหลายแขนงหลายประเภท แต่มีวิชาหนึ่งซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญกันมาเเต่โบราณว่าใครได้พบเเละถือครองยอดวิชานี้เหมือนได้ผ่านสมบัติทั้งหลายของเทวโลกปรารถนาสิ่งใดล้วนไม่ไกลเกินเอื้อมทั้งสิ้น การทำเครื่องมงคลด้วยวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านเเยกเเยะไว้หลายส่วนตะกรุดดอกหนึ่งนั้นมีความสำคัญเเละมีความหมายลึกซึ้งมากเพราะเป็นตะกรุดที่ทำด้วยวิชาท้าวกำพร้าอันเป็นวิชาขององค์อมรินทร์ที่สืบทอดเป็นตำนานมาเเต่ฝ่ายลังกานับร้อยนับพันปี พ่ออาจารย์ท่านจึงนำมาสร้างบูชาครูปู่พระอินทร์ซักครั้งหนึ่งซึ่งวิชานี้จะสำเร็จได้ไม่เพียงการลงจารลงเสกเท่านั้นยังต้องเชิญบารมีของพระอินทร์ท่านมาเทียบมาประจุญาณลงในตะกรุดทุกเเผ่นอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านได้นำเเผ่นตะกั่วลงถมซึ่งหลอมรีดมาพิเศษมาลงด้วยพระยันต์จักวัตติซึ่งถือว่าเป็นพระยันต์ชั้นสูงในฝ่ายล้านนามีค่าควรเมืองเพราะนับเนื่องในหมวดหมู่พญายันต์ ซึ่งคำว่าจักวัตตินี้ก็มาจากชื่อของพระยาจักรวัตติราชหมายถึงพระอินทร์นั่นเองเป็นที่รู้จักกันดีว่ายันต์นี้คือยันต์หัวใจพระอินทร์ผู้ใดได้บูชาพระยันต์นี้ที่ลงถูกต้องตามกลการลงเเบบบังคับกล่าวกันว่าคนผู้นั้นจะมีคุณวิเศษในตัวเหมือนพระอินทราธิราชผู้เป็นเจ้าเเห่งดาวดึงส์ทีเดียว วิชานี้จะลงเฉพาะฤกษ์วันดีๆเช่นในวันพญาวันหรือเพ็ญข้างขึ้นต้องทำตอนเช้าก่อนเที่ยงวันขึ้นบายศรีข้าวตอกดอกไม้เป็นการเฉพาะพิธีการ ตัวผู้ลงนั้นจะต้องเข้าใจความหมายตามอักขระวิธีแต่ละตัวเเบบกระจ่างชัดที่สุดจึงสามารถลงได้มิเช่นนั้นก็ไม่มีผลอะไร "อยากมีทรัพย์สมบัติก็ให้มีเสมอน้ำใจ อยากมีคนเคารพนบไหว้เขาก็เกรงกลัวเคารพเราสิ้น ไว้ที่ใดก็เจริญที่นั่นไม่ว่าจะเป็นสมบัติวัตถุและญาติมิตร ถูกเนื้อสมใจแก่คนทั้งหลาย ทำมาหากินคล่อง ลูกน้องรักเจ้านายโปรดปราน" นี่เป็นเพียงเทวานุภาพของพระยายันต์ตัวที่ชื่อจักวัตติอันเป็นหัวใจองค์อินทร์นี้เท่านั้น
    พ่ออาจารย์ท่านสร้างตะกรุดบรมอินทราขึ้นเพื่อรองรับพลังงานเเละบรรจุพระเวทย์วิชาท้าวกำพร้า อันเป็นวิชาของพระอินทร์โดยเฉพาะที่ประทานให้กับกุลบุตรทั้งหลายที่มีความผูกพันธ์มีบุญให้พระองค์ท่านเกื้อหนุน ดังนั้นเเม้ในส่วนของอักขระเเละพระเวทย์วิธีท่านจึงพิถีพิถันมากเมื่อลงยันต์จักวัตติตามฤกษ์ยามเสร็จเเล้ว ท่านก็หาฤกษ์มงคลลงตัวล้อมพระยันต์ซึ่งท่านล้อมพระยันต์จักวัตติหรือหัวใจพระอินทร์นี้ด้วยบทคาถาฝนเสน่หาพระมนต์บทนี้มีพุทธคุณมากเพื่อหวังให้ผู้ใช้เข้าถึงอำนาจบารมีของตะกรุดเเบบสูงสุด ใครได้ครอบครองก็ให้พระอินทร์ท่านรักท่านโปรดปรานอยากจะช่วยเเละเกื้อหนุน พ่ออาจารย์ว่าลงเเบบนี้เป็นอาญาสิทธิ์ที่ขัดข้องไม่ได้ ตะกรุดนี้จะขับพลังบารมีของพระอินทร์ในส่วนของความรักความเมตตาที่มีให้กับมนุษย์โลกออกมาจนถึงจุดสูงสุด ให้พลังนั้นไหลออกมาเป็นเเสนห่าฝนมิอาจจะคาดการณ์เเละประเมินปริมาณได้ ให้ท่านรักเเละเมตตาเราไม่ต่างจากที่ท่านรักเเละคอยช่วยเหลือเกื้อกูลปัญจสิงขรคนธรรพ์เทพบุตรเหมือนพ่อรักลูกพ่อช่วยลูกฉันใดก็ฉันนั้น
    ลำพังพญายันต์จักวัตติที่สืบมาเเต่โบราณที่กล่าวขานว่าเป็นหัวใจพระอินทร์ผู้ใดได้ครอบครองเหมือนได้สมบัติสวรรค์มีแก้วมณีโชติอยู่ในมือว่าให้ผลเเรงเเล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่เเรงนั้นยังไม่มากพอต้องลงมาเร็วด้วยจึงเลือกที่จะล้อมหัวใจพระอินทร์ด้วยบทฝนเสน่หาส่วนด้านหลังนั้น ท่านลงจารด้วยพระเวทย์มหาสะกดของท่านเพื่อให้การทำงานของยันต์ทั้งสามผสานกันซึ่งท่านต้องเเยกเสกทีละยันต์ก่อนก่อนจะเสกรวมให้ขับพลังงานหนุนนำซึ่งกันเเละกัน จะเห็นได้ว่าการทำตะกรุดบรมอินทรานั้นเป็นการทำในตำรับพ่ออาจารย์พลที่มีวิธียุ่งยากซับซ้อนกว่าจะได้เเต่ละดอกนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายท่านว่าเราจะทำให้ดีที่สุดให้สมกับยุคเข็ญซึ่งพระยันต์เเต่ละตัวนั้นเเม้โบราณจารย์ก็ไม่เคยทำเช่นนี้ไม่เคยทำให้ถึงขนาดนี้มาก่อนฝากไว้ให้เป็นตำนานในสายวิชาของเสด็จปู่พระอินทร์ท่าน เมื่อสำเร็จตะกรุดเเล้วท่านก็นำมาประจุพระเวทย์ในส่วนของมนต์ท้าวกำพร้ามนต์นี้ผู้ใดถือครองเสมือนหนึ่งได้รับพรจากพระอินทร์เจ้าพ่ออาจารย์ท่านเชิญพระอินทร์มาประสิทธิ์ประสาทตะกรุดนี้พร้อมกับโองการมนต์ต่างๆเเละเข้าสมาธิอธิษฐานจิตตะกรุดด้วยวิชาท้าวกำพร้าจนสำเร็จ วิชานี้มีอำนาจเเลเทวานุภาพมากท่านจึงอยากให้ตกถึงเเต่มือคนดีคนขยันทำมาหากินมิใช่คนเกียจคร้านเฝ้ารอวันเเละเวลาเอาเเต่จะรวยโดยไม่ขวนขวายเเสวงหาความเจริญก้าวหน้าเเต่อย่างใด วิชาท้าวกำพร้านี้เเม้ยาจกกำพร้าเข็ญใจยังประสบความมั่งมีได้ดีเป็นถึงเจ้าพระยาพระมหากษัตริย์จอมจักรพรรดิ์ได้จากบุคคลชนชั้นต่ำสุดได้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตมนุษย์ด้วยอำนาจพรเเละเเรงผลักดันของสิ่งมีชีวิตผู้เป็นใหญ่เเห่งพิภพดาวดึงส์ซึ่งก็คือพระอินทร์นั่นเอง ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านอธิษฐานให้ตกถึงมือคนดีไม่โลภเท่านั้นเพราะเป็นวิชาที่ให้คุณมาก ท่านว่าไม่อยากเห็นคนขี้เกียจเมื่อได้ดีเเล้วก็อย่าเหลิงว่ามีพรของพระอินทร์อยู่กับตัวมีพระอินทร์คอยช่วยคอยเปิดทางชีวิตให้อยู่ ให้ขยันประกอบกรรมดีตั้งใจทำมาหากินต่อไปท่านจะดึงดูดดลบันดาลให้เจอเเต่สิ่งที่ดีงามตะกรุดนี้จึงมีพุทธคุณออกทุกด้าน ตามธรรมดาว่าพญายันต์จักวัตตินั้นใช้ได้พันเรื่องดุจฝอยท่วมหลังช้างเมื่อนำหัวใจพระอินทร์มาเข้าด้วยพระยันต์อื่นๆที่หนุนส่งเป็นตัวเร่งเเละผลักดันเเล้วจึงมาประจุมนต์ท้าวกำพร้าเเล้วจึงมีพุทธคุณล้านช่อง ใช้ได้ล้านเรื่องตามเเต่จะปรารถนา กล่าวง่ายๆคือไม่ต้องพูดอะไรมากใช้ได้ทุกอย่างเอาไปรักษาให้ดีพ่ออาจารย์ท่านว่าอยากใช้อะไรก็ตามเเต่จะใช้เถิด ตะกรุดนี้มีอานุภาพไม่ต่างจากพระอินทร์บนสวรรค์เเต่อย่างใดเพราะเอาหัวใจเอาฤทธิ์อำนาจเอามหากรุณาของท่านมาบรรจุไว้เสร็จสรรพ

    ตะกรุดเจริญลาภมหาบารมีนิโรธ(ตัวครู)ดอกบูชาฤกษ์ เจริญลาภตะกรุดนี้เป็นวิชาเฉพาะทางโภคสมบัติซึ่งให้ผลตรงตัว พ่ออาจารย์กล่าวว่าวิชานี้นั้นเป็นวิชาทางมหากำเนิดแต่เป็นการเกิดขึ้นของโชคลาภทรัพย์สมบัติจากศูนย์จากไม่มีก็จะเกิดขึ้นจนผู้ครอบครองมั่นคงไม่รู้จักตกต่ำ สิ่งที่มีอยู่แล้วก็จะยิ่งเพิ่มพูนต่อไปเรื่อยๆแม้เอาไว้กับตัวก็ดึงดูดโชคลาภเข้ามาหาตัวไม่รู้จักเสื่อมถอยแม้ติดไว้กับเรือนสถานี่ทำงานก็จะรุ่งโรจน์มีแต่เร่งให้ดวงเปิดรับทรัพย์เป็นเอนกอนันต์ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ทำยากทีแรกท่านเพียงจะลงตะกรุดเจริญลาภนี้เท่านั้น แต่ครูบาอาจารย์ท่านว่ามันดีแต่ก็ยังไม่สุดท่านได้มีนิมิตรเห็นหลวงพ่อฤาษีลิงดำกับหลวงพ่อปานมาหาท่านบอกว่าให้ลงวิชาพระเจ้านวโกฏิล้อมไปด้วยจะได้ดึงเอาบารมีของมหาเศรษฐีแห่งพุทธกาลทั้ง 9 ท่านมาไว้กับตัวคนใช้
    ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเห็นเมตตาครูบาอาจารย์ตรงจุดนี้ท่านเลยลงตะกรุดเจริญลาภไว้เป็นฐาน ก่อนที่จะลงยันต์เบิกทางรับขุมทรัพย์ทั้ง 8 ทิศอันได้แก่มหาทิศทั้ง 4 และอีก 4 ทิศย่อยท่านว่าแม้ตัวผู้ใช้อยู่จุุดในในโลกในทิศทั้ง 8 นี้เขาก็เป็นดุจแกนกลางที่โชคลาภความเจริญมั่งคั่งจะวิ่งเข้ามาหาดูดทุกอย่างมาไว้กับตัวเขา ไม่หนีไปที่อื่นไม่วิ่งไปทางอื่นไม่ตกไปสู่คนอื่น
    ตะกรุดนี้นั้นแม้ใครที่ติดผลกรรมทำอะไรไม่เจริญก็ใช้ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องกลัวเงียบและควรจะอาราธนาอย่างยิ่งท่านว่าเพราะเสด็จพระใหญ่ท่านแนะนำให้เราเพิ่มวิชาเข้าไปอีกสองส่วนให้เหมาะสมกับชะตาของสรรพชีวิตอันได้รับทุกข์ขุกเข็ญจากกระแสของโลกในปัจจุบันนี้ สองส่วนนั้นก็คือ
    - วิชาระงับสงสาร
    - วิชาหนีสงสาร
    สองวิชานี้ก็ตรงตามชื่อคือจะเข้าไปหยุด ไม่ใช่ทำให้เวรกรรมเก่าหายไปเลยหากแต่เพียงระงับไว้หยุดไว้ปรามไว้ซึ่งอำนาจอกุศลกรรมที่เจ้าตัวเคยก่อไม่ให้ส่งผล นี่คือให้โอกาศเร่งสร้างกรรมอันเป็นกุศลขึ้นมาใหม่ไม่เพียงแค่ระงับไว้เท่านั้นยังหนีอกุศลกรรมนั้นไม่ให้ตามติดตัวเพื่อจะแสดงผลได้ทันด้วย พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าสองอย่างนี้สำหรับคนที่ทุกข์ขุกเข็ญเสวยผลแห่งทุกขเวทนาอยู่หาความสุขในลาภและทรัพย์สมบัติไม่เจอสองวิชานี้นั้นเพียงพอและเกินพอที่จะนำชีวิตของเขาออกจากห่วงแห่งทุกข์ได้ หากแต่ว่าออกแล้วต้องประกอบกุศลกรรมมาชดเชยกันมิเช่นนั้นชาติหน้าไม่ได้เกิดมาพบเจอวิชานี้ก็จะต้องรับกรรมเก่าต่อไป
    ท่านว่าวิชานี้เปิดหมดเปิดทิศทั้ง 8 ระงับและหนีทุกข์เข็ญที่สำคัญท่านยังล้อมยันต์ด้วยวิชาพระเจ้านวโกฏิเพื่อดึงบารมีมหาเศรษฐีทั้ง 9 ท่านแห่งพุทธกาลมาสู่จุดศูนย์กลางให้เกื้อหนุนผู้บูชาโดยตรงมหาเศรษฐีทั้ง 9 นั้นได้ชื่อว่าเป็นพระอริยบุคคลอันจะไม่ตกต่ำลงอีกด้วยบุญของทั้ง 9 ท่านค้ำจุนเราอยู่จึงเหมือนดั่งคำปกาศิตที่ชีวิตเราจะตกต่ำนั้นหามิได้จะได้ลืมตาอ้าปากสมหวังในการประกอบกิจเป็นเกียรติยศอยู่ในวงการอาชีพของตนเอง เมื่อท่านลงอักขระเสร็จแล้วท่านได้นำมาปลุกเสกยันต์ต่างให้มีชีวิตและอธิษฐานจิตลงไปจนบอกว่าเต็มดีแล้วไม่รู้จะใส่อะไรเพิ่ม ก่อนที่จะอัญเชิญเสด็จพระใหญ่,ครูพระปัจเจกโพธิเจ้า,สมเด็จบรมครูและหลวงพ่อปานตลอดจนหลวงพ่อฤาษีลิงดำให้ท่านมารับรู้และช่วยกำกับเพิ่มเติม ตะกรุดนี้นั้นพ่ออาจารย์ท่านเอาเข้าพิธีอธิษฐานตลอดพรรษาที่ผ่านมาและได้รับคำแนะนำจากเสด็จพระใหญ่(องค์ปฐมโพธิญาณ)ว่าในพรรษานี้ท่านจะเข้านิโรธสมาบัติ ถ้าจะให้เป็นเอกลาภเป็นตะกรุดเจริญลาภดั่งที่ท่านหมายใจไว้ก็ให้ยกตะกรุดนี้ไปให้ท่านที่นิพพานทุกวัน ท่านจะทำให้เป็นตะกรุดทิพย์มีฤทธิ์ของการอธิษฐานจิตนิโรธกรรม เป็นเอกด้านโภคทรัพย์สมบัติความเจริญรุ่งเรืองแม้ผู้ใช้ปรารถนาสิ่งใดก็ย่อมได้ลุแก่ใจปรารถนาด้วยบารมีของนิโรธสมาบัตินี้ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็เพียรยกถวายในทุกๆวันไม่ให้ขาดบารมีของนิโรธสมาบัตินั้นกล่าวกันว่าแม้ใครได้พบได้ถวายทานได้ตักบาตรกับพระผู้ทรงคุณอันออกจากนิโรธแล้วกุศลย่อมเสริมส่งแม้ยาจกก็ได้เป็นพระราชาในวันเวลานั้นทีเดียว
    เมื่อจบพิธีนิโรธท่านตรวจดูพลังแล้วท่านว่าต่างจากตอนที่ท่านเสกไว้แต่แรกมากนักเพราะสำเร็จด้วยวิชาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม ตะกรุดนี้มีพลังที่เย็นยะเยือกมากนักท่านจึงลองเอามาอธิษฐานจิตหนุนธาตุไฟขึ้นมาแม้ธาตุไฟยังไม่สามารถส่งผ่านพลังงานได้ ท่านว่าตะกรุดนี้ดุจกลับว่าใครที่มีความร้อนรนอาจจะเป็นด้วยจริตเป็นคนใจร้อนมุทะลุดุดันหากเขาได้พกไว้จะสลายเปลี่ยนเป็นความเย็นมาเกาะกุมแทนทำให้เขานิ่งขึ้นสงบขึ้นมีสมาธิมากขึ้น เมื่ออธิษฐานจิตเสร็จแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ครูท่านสั่งไว้นักหนาว่าเป็นของเฉพาะคนท่านอธิษฐานจิตไว้เรียงดอกเรียงตัวแล้ว ถ้าไม่ใช่เจ้าของก็ไม่มีบุญที่จะได้พบแม้ชื่อก็จะไม่ได้ยิน ถึงได้ยินก็จะหาความสนใจมิได้ด้วยวาสนานั้นปัดไปไม่ให้เข้ากันจะมีผู้ที่รู้ค่าคู่ควรเท่านั้นถึงจะเชิญไปประดิษฐานเพื่อการณ์อันจะสำเร็จประโยชน์สมดั่งคำว่าเจริญลาภเค้าผู้นั้นจะเจริญและเจริญยิ่งๆขึ้นไป

    ตะกรุดมหาทานปรมัตถบารมีนิยตโพธิสัตว์(ลูกขอพ่อให้)ดอกบูชาฤกษ์ พ่ออาจารย์ท่านมีวิชาทำตะกรุดเอกอยู่ชนิดหนึ่งซึ่งมีคุณมากให้ผลมาก โดยวิชานี้เป็นวิชาทำตะกรุดมหาวิเศษที่มีความพิศดารในตัวเองสูงสุด แต่ท่านว่าสร้างยากเหลือใจในอดีตนั้นหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเคยได้มอบผงพระพุทธคุณจะเรียกว่าผงพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์หรือผงเงินล้านก็เรียกของท่านเจ้าพระคุณอาจารย์หลวงพ่อปานไว้ให้หนึ่งตลับ ท่านแบ่งให้เป็นตลับเล็กๆซึ่งเป็นผงล้วนๆที่หลวงพ่อปานท่านใช้อุดพระผงพิมพ์ทรงสัตว์ต่างๆทั้งหลายหลวงพ่อฤาษีท่านย้ำกับพ่ออาจารย์ว่าผงนี้เป็นของสำเร็จเอาไปผสมทำอะไรก็ตามมีพุทธคุณไม่แตกต่างกันอานุภาพเสมอกันกับพระที่หลวงพ่อปานท่านทำไว้จริงๆ พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าเป็นของดีที่เอกองค์พระอรหันต์แห่งยุคท่านได้ทำไว้มีคุณบารมีทั้งขององค์หลวงพ่อปานและหลวงพ่อฤาษีซึ่งเมื่อท่านได้รับมาท่านก็ยังนำมาเสกเก็บไว้ต่อไปเรื่อยๆ ท่านว่าผงนี้แค่อณูหนึ่งก็สร้างพระได้นับร้อยนับพันองค์เป็นของวิเศษมากดั่งสมบัติพระจักรพรรดิ์รอผู้มีวาสนาต้องกันนำไปครอบครอง
    เมื่อท่านพิจารณาแล้วประกอบกับได้รับนิมิตรจากครูบาอาจารย์เจ้าของผงท่านว่าฟ้าเป็นใจครูท่านเอาด้วยให้นำผงของท่านนี้ออกมาสงเคราะห์คนยุคปัจจุบัน แต่จะให้ไปทำพระพิมพ์ทรงสัตว์ต่างๆบรรจุผงก็จะทับรอยครูซึ่งท่านไม่ทำท่านว่าเราทำเป็นเครื่องรางดีกว่าใช้ง่ายกว่าและให้ผลสำเร็จได้เร็วกว่าเสียด้วย สมัยครูทำท่านทำเป็นพระบรรจุผงยุคเราทำก็ทำเป็นตะกรุดแต่เข้าผงไว้ข้างในแทนแค่นั้นก็ไม่ทับรอยครูและยังเป็นเอกลักษณ์ที่เราถนัดเสียอีก เมื่อดำริดังนั้นท่านจึงทำตะกรุดที่มีพรรณคุณวิเศษขึ้นมาเพื่อจะใช้เป็นแก่นบรรจุผงคือตะกรุดมหาทานปรมัตถบารมีนิยตโพธิสัตว์(ลูกขอพ่อให้) พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาสูงสุดในสายของสมเด็จพระบรมโพธิสัตว์แล้วเมื่อจะทำท่านว่ายุ่งยากมาก เพระมีขั้นตอนและพิธีกรรมต่างๆมากมาย
    - เริ่มจากพ่ออาจารย์ท่านนำตะกั่วอวนเจ้าสมุทรซึ่งมีอาถรรพ์ทางทะเล ใช้หาทรัพย์ง่ายดีทางมีลาภผลมากมาทำการปะสระแช่น้ำมนต์อธิษฐานจิตก่อนจะส่งไปให้ศิษย์รีดออกมาเป็นแผ่นตะกั่ว
    - เมื่อได้แผ่นตะกั่วอวนเจ้าสมุทรแล้วพ่ออาจารย์ท่านได้นำมาลงพระยันต์เวทย์สวรรค์ (สารพัดขอ)ซึ่งเป็นวิชาหลักของท่าน เป็นวิชาที่ลงยากมากและท่านก็ไม่เคยใช้พร่ำเพรื่อ ซึ่งวิชานี้ใครมีไว้ขออะไรก็จะสำเร็จผลทุกด้านดีดุจดั่งแก้วสารพัดนึก โดยท่านนำมาลงพระยันต์เวทย์สวรรค์เต็มสูตรทุกแผ่นก่อนจะอธิษฐานจิตเก็บไว้
    - ต่อเมื่อได้ฤกษ์ที่เหมาะสมแล้วท่านจึงนำแผ่นพระยันต์เวทย์สวรรค์เหล่านั้นเข้าไปจำเริญไฟพิธีพราหมณ์ โดยถือว่าไฟกองกูณอัคคีของพิธีพราหมณ์เปรียบได้กับองค์พระเพลิงเป็นไฟธาตุศักดิ์สิทธิ์อันจะชำระล้างทุกสิ่งให้บริสุทธิ์
    - เมื่อเสร็จพิธีท่านจึงนำแผ่นพระยันต์เวทย์สวรรค์ที่หลอมละลายจนกลายเป็นก้อนตะกั่วในไฟพิธีออกมา พ่ออาจารย์บอกว่านี่เป็นธาตุที่มีความบริสุทธิ์สูงเพราะผ่านการชำระล้างมาแล้วถึงสองหนตั้งแต่การทำน้ำมนต์ประสระตอนเป็นตะกั่วอวนและนำมาจำเริญไฟ ก่อนที่ท่านจะส่งไปให้ศิษย์รีดเป็นแผ่นตะกั่วออกมาอีกคำรบหนึ่ง
    - พ่ออาจารย์ท่านว่าแผ่นตะกั่วนี่สำคัญนัก นอกจากอิทธิคุณจากพิธีกรรมและอานุภาพยันต์เวทย์สวรรค์ที่ได้ลงถมไว้แล้วยังมีดีในเรื่องโชคลาภโภคทรัพย์อย่างถึงที่สุดซ้ำยังใช้ตั้งเนื้อตั้งตัวได้ เพราะอาศัยการเกิดใหม่ถึง 3 หนด้วยกั เป็นเคล็ดว่าต่อไปทำอย่างไรก็ไม่ตายไม่เหี่ยวเฉาอะไรเคยพลาดไปแล้วก็มาถือเอากำเนิดใหม่ได้
    เมื่อได้แผ่นตะกั่วธาตุบริสุทธิ์มาแล้วท่านได้นำมาลงวิชาสำคัญต่อ ท่านว่าส่วนนี้คือวิชาขั้นสูงสุดในหมู่นิยตโพธิสัตว์ท่านเดินบทมหาทานว่าด้วยปรมัตถบารมีอันยิ่งยวดขององค์พระเวสสันดรซึ่งเป็นพระชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ก่อนจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระเวสสันดรนี้มีกำลังของการให้สูงมากเพราะท่านถึงที่พระเจ้าจักรพรรดิราชแต่กลับบำเพ็ญปรมัตถบารมีตามประเพณีแห่งพระบรมโพธิสัตว์ ท่านพร้อมที่จะสละทรัพย์ภายนอกทั้งปวงให้แก่ผู้ต้องการและมาขอท่านเพื่อที่สุดแห่งมหาทานบารมีพ่ออาจารย์ท่านพูดให้คิดว่าวิชานี้เราเป็นผู้ขอเอาไปใช้เถิด ไม่มีอะไรจะง่ายและสบายเท่านี้อีกแล้ว
    ท่านว่าครูบาอาจารย์แต่เดิมจึงหยิบยกพรรณคุณวิเศษตรงนี้มาทำเป็นตะกรุด แต่ว่ามันเป็นตะกรุดเฉพาะทางสายบารมีพระมหาโพธิสัตว์เจ้าที่ไม่มีใครปรารถนาจะยกให้ใครทำให้ใครสอนใครให้สืบทอดเท่าไหร่ เพราะเป็นวิชาเฉพาะที่เวลาเราไปขออะไรใคร เค้าก็ต้องจำยอมโอนอ่อนยกให้ตามปากเราเช่นนั้นดุจดั่งลูกขอพ่อก็ต้องตามใจพร้อมที่จะป้อนให้ เหมือนองค์พระเวสสันดรหน่อพระพุทธเจ้าที่พระองค์ท่านปรารถนาจะเข้าไปถึงข่ายแห่งพระโพธิญาณจึงกระทำมหาทานปรมัตถบารมีอย่างสุดกำลัง ให้ทุกอย่างทรัพย์ภายนอกทรัพย์แห่งโลกีย์วิสัยผู้ใดปรารถนาสิ่งใดพระองค์ยกให้ทั้งหมดไม่มีข้อยกเว้น วิชานี้ท่านว่าแปลกนักขอให้สิ่งที่เราขอเขามีเขาให้หมดเลยไม่เช่นนั้นปรารถนาอะไรก็อธิษฐานเอากับกับตะกรุดกับคุณวิชาย่อมสัมฤทธิผลทุกประการ เพราะตะกรุดนี้เป็นศูนย์รวมผลแห่งมหาทานปรมัตถบารมีเต็มขั้นของหน่อพระชินสีห์เจ้านั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านลงเหล็กจารเต็มสูตรหน้าหลังอธิษฐานบารมีด้วยความเที่ยงแท้ต่ออำนาจพระโพธิญาณในกาลเบื้องหน้าว่าให้ลูกหลานญาติวงศ์ที่มีบุญญามีวาสนากับเวทย์วิชานี้มารับไปครอบครอง
    เมื่อท่านลงเหล็กจารจนสำเร็จดีแล้วตามฤกษ์ ได้มหาตะกรุดทั้งหมด 12 ดอก ท่านได้นำมาม้วนด้วยวิชามหาเศรษฐีนวโกฏิดึงเอาอำนาจบารมีมหาเศรษฐีแห่งพุทธกาลทั้งเก้าท่านมาเกื้อหนุนด้วยเวทย์วิชาต่อจากนั้นท่านจึงนำผงวิเศษล้วนๆไม่ผสมหรือเจือปนสิ่งใดขององค์หลวงพ่อปานที่มีอยู่หนึ่งตลับนั้น ทำการบรรจุลงไปในตะกรุดทั้ง 12 ดอก ซึ่งตะกรุดนี้ท่านได้นำสีผึ้งพระสีวลีมาปิดหัวท้ายของตะกรุดท่านว่าสีผึ้งนี้สำคัญนักท่านเคี่ยวจากเทียนคาถาพันกัณฐ์มัทรี น้ำตาเทียนมัทรีน้ำมาผสมว่านยาทางโชคลาภ เสน่หาต่างๆมากมายนานนับสิบปีเหมือนที่ท่านชอบพูดประจำว่าขี้ผึ้งพระสีวลีนั้นแท้ที่จริงใช้ได้ครบทั้งเสน่ห์ชู้สาวตลอดจนเรียกลาภสักการะมาสู่ผู้บูชา ท่านว่ามีตะกรุดนี้ก็เหมือนมีผงของหลวงพ่อปานแท้ๆอยู่สิ้นตะกรุด 12 ดอกนี้ พ่ออาจารย์ท่านเทผงหมดตลับเลยท่านว่าอยากจะให้ไว้ใช้กันจึงใส่แบ่งให้เท่าๆกัน
    ตะกรุดมหาทานปรมัตถบารมีนิยตโพธิสัตว์(ลูกขอพ่อให้)ท่านว่าพุทธคุณตรงตัว ลูกขอพ่อให้พ่อในที่นี้คือพ่อพระพุทธเจ้าพ่อในพระชาติที่เป็นมหาเวสสันดรโพธิสัตว์พ่อของลูกๆพุทธบุตรทุกคนอันทรงไว้ด้วยมหากรุณาญาณอย่างแท้จริง ปรารถนาจะขนถ่ายสรรพสัตว์ข้ามห้วงวัฏฏสงสารท่านว่าวิชานี้ทำยากมากเพราะมันเหนือสงสารเมื่อลงเสร็จต้องบอกกล่าวชุมนุมเหล่ามหาโพธิสัตว์อันมีบารมีเต็มที่กับที่ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว แม้อยู่ในที่แห่งใดไม่ว่าจะพิภพดุสิต พิภพนาคบาดาล ตลอดจนพิภพต่างๆต้องชุมนุมมาบอกกล่าวเชิญท่านมาบรรจุบารมีทั้ง 30 ทัศน์ หนุนกันขึ้นมาเป็นชั้นๆเป็นกลุ่มๆไปทั้งอนิยตโพธิสัตว์แลนิยตโพธิสตว์ ท่านว่ามาทำให้กันเป็นกลุ่มเป็นลำดับกลุ่มไหนปัญญาธิกกลุ่มไหนสัทธาธิกกลุ่มไหนวิริยาธิก พระองค์ไหนหรือใครอยู่กลุ่มใดก็หนุนเนื่องสืบกันมาบรรจุพระบารมี
    เมื่อชุมนุมเหล่าพระมหาโพธิสัตว์แล้วก็ต้องเชิญสมเด็จองค์ปฐมมาบรรจุธาตุบรรจุธรรม และเชิญองค์หลวงพ่อปานมาสำเร็จตะกรุดด้วยวิชาพระปัจเจกโพธิเจ้าโปรดสัตว์ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าตะกรุดนี้มีจุดเด่นกว่าตะกรุดทางโชคลาภอื่นๆคือมันจะเข้ามาหาเราเอ นี่ถ้ามันมีเท้ามันจะรีบวิ่งเข้ามาเลย เมื่อเสกเสร็จท่านมีนิมิตรเห็นองค์หลวงพ่อปานท่านพูดถึงตะกรุดชุดนี้ว่าขอให้เอาไปเจริญขึ้นหลับให้ได้ทรัพย์ลืมตาก็มีลาภสักการะมิรู้วันรู้คืนเสมอเหมือนด้วยองค์พระสีวลีเฉกเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าดีมากดีแล้ว พระอรหันต์ท่านให้พรคนที่ได้ไว้สำหรับตะกรุดชุดนี้จะไม่บอกว่าทำไมถึงทำยุคนี้ เหมาะกับใครคู่ควรแก่ใครเพราะมันทำยาก เอาแค่ว่าถ้าตัวเองคู่ควรก็มารับไปบูชาก็พอ

    นอกจากนี้ท่านยังได้หล่อหลอมชนวนตะกรุดบูชาฤกษ์ที่มีแรงครูสูงรุ่นต่างๆลงไปทั้งตะกรุดกลืนปรารถนาอินทรานิรมิตร(มนต์พระเจ้าเรียกนาง)ดอกบูชาฤกษ์ , มงคลอธิษฐาน(เทวดาทันใจ)ดอกบูชาฤกษ์ , ตะกรุดนิมิตตะพุทโธตำรับสมุกสมเด็จ(นิมิตต์ต่างใจ)ดอกบูชาฤกษ์ , ตะกรุดขุมทรัพย์แพะทองคำดอกบูชาฤกษ์ , ตะกรุดหัวใจสมเด็จผงเก้าชั้นบันดาลโชค(โภคทรัพย์มหาชุมนุม)ดอกบูชาฤกษ์ , ตะกรุดมหาธาตุบันดาลทรัพย์(เพิ่มบุญ)ดอกบูชาฤกษ์ , มงคลสั่งฟ้า(ต่อลาภสร้างตัว)ดอกบูชาฤกษ์ , ตะกรุดพระเทพบิดรมหาญาณ(ศาสตร์หงสา)ดอกบูชาฤกษ์ , ตะกรุดจักรพรรดิเงินล้านพยนต์พระกาฬมหาเทวภูติ(พระวัยเปิดนิมิต)ดอกบูชาฤกษ์ , ตะกรุดดอกครูจ้าวทรัพย์(พระเจ้าผูกดวงให้ห้ามจน)ดอกบูชาฤกษ์ , มหาตะกรุดเทียมครูมงคลค้ำฟ้าชินะบันดาล(มหาเวทย์ไตรตรึงษ์)ดอกบูชาฤกษ์ , ตะกรุดขอมโบราณลงถมมหาทุคคตะกลับชาติดอกบูชาฤกษ์ , ตะกรุดเวทย์สวรรค์สารพัดขอ(ชุดพิเศษเนื้อกั่วขอมโบราณลงถม)ดอกบูชาฤกษ์ , มหามงคลตะกรุดสกลชมภูธิบดีกาลสิทธิ์ดอกบูชาฤกษ์ , ตะกรุดพิชัยสมบัติจักพรรดินาคาดอกบูชาฤกษ์ , ตะกรุดลืมตาอ้าปากเรียกรักกวักคน(เจ้าจันทร์พามานะ)ดอกบูชาฤกษ์ , ตะกรุดสร้อยสนกลบทเก้าเลิศภพจบแดน(ชุดประวัติศาสตร์พิฆาตไพรี)ดอกบูชาฤกษ์...พ่ออาจารย์ท่านได้นำชนวนทั้งหมดมาเทเป็นองค์พระปิดตา และนำชนวนล้วนๆส่วนที่เหลือผสมแร่กันอับเฉาล้วนๆหล่อเป็นองค์ท่านสุทัตตะคหบดี(อนาถบิณฑิกเศรษฐี) ท่านว่าด้วยชนวนและแรงครูชั้นสูงนี้ผสมกับแร่กับอับเฉาเมื่อนำมาสร้างรูปของยอดเศรษฐีเพียงเท่านี้ทุกอย่างย่อมลงตัวที่สุด ด้วยท่านเศรษฐีกำชับว่าให้ใช้เพียงเท่านี้แต่ต้องใส่แร่กันอับเฉาลงไปมากๆหน่อย *** เหรียญโปรยทานนี้จึงเป็นของดีที่ใช้แก้ดวงกันชีวิตอับเฉาจากเหตุเภทภัยเศรษฐกิจที่ซบเซาได้ดีที่สุด

    นอกจากนั้นผงที่อุดด้านหลังท่านยังใช้ผงพุทธคุณทางโชคลาภล้วนๆนับพันชนิดมาเข้ากับดินท้องพระคลังพระเจ้าพิมพิสาร แต่เดิมนั้นมีผู้ดีเชื้อสายเก่าตกยาก ทำมาหากินไม่เจริญ ทำอะไรก็ไม่ขึ้น พ่ออาจารย์ท่านจึงบอกกับเขาว่า "ถ้าสามารถไปเอาดินตรงท้องพระคลังของพระเจ้าพิมพิสารมาได้ ท่านจะเสกและทำอาถรรพ์วิชาให้" กาลปรากฏว่าหลังจากที่เขานำมาให้พ่ออาจารย์ท่านเสกและนำไปบูชาแล้ว ชีวิตก็ก้าวกระโดดเป็นช่วงๆแต่ละช่วงเป็นการก้าวและกระโดดที่ยาวมากๆชนิดที่ว่ากลายเป็นเศรษฐีที่ดินมีเงินนับพันล้านในเวลาต่อมา ดินอาถรรพ์ท้องพระคลังของพระเจ้าพิมพิสารที่พ่ออาจารย์ท่านเสกนี้จึงเป็นยอดของดี นอกจากท่านจะเสกหนุนแผ่นดินบอกกล่าวแม่พระธรณีให้ยกดวง ดึงดวงผู้ครอบครองขึ้นแล้ว ท่านยังนำมาผสมมวลสารมงคลต่างๆลงไปด้วยโดยเฉพาะผงกะลาตาเดียวหลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเคล็ดลับอยู่ตรงนี้พระปิดตาหลวงปู่แก้วที่ราคาหลายสิบล้านบาท นอกจากผงวิเศษแล้วท่านก็ยังต้องนำมาเข้ากับผงกะลาตาเดียวที่ท่านลงอาถรรพ์ไว้เฉพาะทางนี้เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ผู้บูชาพระปิดตาหลวงปู่แก้ว นอกจากมีเสน่ห์แล้วยังมั่งมีมั่งคั่งเป็นเจ้าสัวกันทั้งนั้น พ่ออาจารย์ท่านได้นำเอาดินอาถรรพ์ท้องพระคลังของพระเจ้าพิมพิสารนี้มาผสมผงกะลาตาเดียวหลวงปู่แก้วและที่สำคัญท่านยังเพิ่มผงพระสมเด็จวัดระฆังแท้ๆที่แตกหักไปแล้วอันมีส่วนผสมของผงวิเศษห้าประการของเจ้าพระคุณสมเด็จท่านได้นำมาโชลกผสมลงไปด้วย

    ทำไมต้องดินอาถรรพ์ท้องพระคลังพระเจ้าพิมพิสาร พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าในอดีตนั้นพระเจ้าพิมพิสารเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งทางโลกและทางธรรมรวมถึงเป็นพระอริยบุคคล มีทรัพย์สมบัติมากเหนือกว่าเศรษฐีและคฤหบดีทั้งปวง และในปัจจุบันนั้นดวงจิตของท่านก็ได้ไปอุบัติแทนที่ในตำแหน่งท้าวเวสสุวรรณ พ่ออาจารย์ท่านว่าหากอยากทำของให้คนตั้งตัวและมีชีวิตที่ก้าวกระโดดไปได้ไกลแล้ว สิ่งนี้ท้าวเวสสุวรรณท่านได้นิมิตให้พ่ออาจารย์ท่านไปหามาก็นับว่าเป็นจังหวะที่ลงตัวพอดี พ่ออาจารย์ท่านว่าท้าวเวสสุวรรณนี้ท่านได้แบ่งภาคมาทำหน้าที่ประทานโชคลาภและดูแลสมบัติเทวโลกโดยเฉพาะโดยมีชื่อเรียกคือพระธนบดี สมบัติสวรรค์ทั้งหมดอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าจะเทพหน้าใหม่หรือเทพเจ้าองค์ไหนๆใครจะมีสมบัติเท่าไหร่ล้วนแต่ได้รับการจัดการดูแลจากพระธนบดีทั้งสิ้น ดินท้องพระคลังพระเจ้าพิมพิสารนี้ก็คือคลังหลวง คลังที่เก็บทรัพย์ของพระธนบดีผู้เป็นเจ้าแห่งทรัพย์สินและการประทานโชคลาภเงินตราทั้งปวง เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้นำมาเสกหนุนแผ่นดิน หนุนชะตาชีวิต ดึงลาภผลโภคทรัพย์เข้าคลังผู้บูชา ท่านว่าท่านเชิญพระธนบดีมาทำวิชาด้วยตัวท่านเอง ถึงกับพ่ออาจารย์ออกปากว่า "ดินท้องพระคลังพระเจ้าพิมพิสารที่เราทำวิชานี้แม้อยู่กับใคร ระวังอย่างเดียวจะรวยมือเติบไม่รู้เรื่อง"

    คาถาบูชา
    นะโมสิทธิเชยยะ ลาภะพันทัง พรหมานัง เทวานัง ราชานัง สมณานัง ปุริสานัง อิตถีนัง บัณฑิตานัง ปิยังมะมะ


    ... รายละเอียดที่ลงไว้กล่าวได้แค่ว่ายกตัวอย่างให้คร่าวๆด้วยตะกรุดแต่ละชนิดล้วนเป็นยอดวิชาแต่ละแขนงที่มีรายละเอียดยืดยาวท่านจึงให้ลงเพียงคร่าวๆและบอกได้ว่าใช้ชนวนล้วนๆในการจัดสร้างเน้นว่าพระปิดตาท้องพระคลังที่หล่อจากเนื้อตะกรุดล้วนๆของตะกรุดบูชาฤกษ์แต่ละชนิดที่มีแรงครูสูงมากใครก็ปรารถนาจะได้ตะกรุดบูชาฤกษ์กันทุกคน พ่ออาจารย์ท่านจึงตัดปัญหานำตะกรุดทุกชุดที่ท่านสะสมไว้มาปล่อพระปิดตาชุดนี้ เรียกได้ว่าพระปิดตานี้มีค่าเกินราคาไปไกล ท่านว่ามีเงินหมื่นเงินแสนเฉพาะชนวนหล่อพระปิดตานี้ก็ยังซื้อไม่ได้เพราะท่านไม่ขายด้วยเป็นของสูงเบิกฤกษ์จึงต้องนำมาทำพระปิดตาไว้เบิกทางชีวิตให้ใช้เสมอกันทุกคน ...นี่ยังไม่นับชนวนหล่อองค์เหรียญโปรยทานและผงสำคัญที่อุดอีก

    ชุดนี้เชื่อเถอะครับว่าคุ้มมากๆสำหรับคนที่ต้องการห้อยหนึ่งเหมือนแขวนหลายสิบรายการพร้อมๆกันทั้งยังเป็นกลเวทย์เคล็ดลับที่ใช้แก้ปัญหาชีวิตในหลายๆกรณีที่แก้ไม่ตกสำหรับผู้รับกับผู้ให้ พ่ออาจารย์ท่านว่า..เน้นนะ ย้ำว่าเน้นๆเลยให้ขอกับท่านว่าด้วยเรื่องความอยู่รอด..เรื่องปากท้อง..เรื่องหน้าที่การงาน..ความเจริญเติบโตทางฐานะ...ความมั่งคั่ง พูดง่ายๆก็คือเส้นทางอันจะนำเราไปสู่ทางเป็นเศรษฐีด้วยปาฏิหาริย์เช่นเดียวกับท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เช่นนี้ขอท่านได้ ..ท่านให้ได้..ขอไปเถอะไม่ต้องรอไม่ต้องรั้ง

    พ่ออาจารย์ท่านว่ารายการนี้เปิดให้จองก่อน ให้จองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านว่าต้องใช้วาสนามารับจะเป็นเศรษฐีหรือแม้แต่คนที่เคยเป็นแต่ล้มไปพลิกไปจะกลับมาเป็นได้อีกหรือไม่ สิ่งนี้ต้องใช้วาสนารองรับแม้ท่านอนาถบิณฑิกถึงทรัพย์จะหมดเทวดาก็หามาเติมเต็มได้นั่นคือเป็นเศรษฐีด้วยปาฏิหาริย์ ทีนี้ปาฏิหาริย์ที่ว่านี้ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีจะเมตตาช่วยเหลือผู้ใดเราก็ต้องเว้นไว้ให้เป็นเรื่องของท่าน ท่านย่อมเลือกคนของท่านเองฉันบอกได้เพียงเท่านี้

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญโปรยทานอนาถบิณฑิกคหบดีชุดคลังแสงเบิกบุญ(ปิดตาท้องพระคลัง) บูชา 4,000 บาท

    146473361-878008606298905-1917090372304361310-n.jpg 146480734-826562064961463-4856368835503893054-n.jpg
    146983257-242248564127669-4234479103249276827-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2021
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    นานๆทีจะมีเหรียญครูใหญ่ที่ให้คุณรุนแรงประกอบด้วยชนวนชั้นครูรายการนี้บอกไว้เลยว่าเหมือนได้เปล่าเฉพาะตะกรุดดอกเบิกฤกษ์แต่ละอย่างซึ่งลำพังดอกธรรมดายังหลักพันหลักหมื่นยิ่งดอกเบิกฤกษ์ที่ทุกคนแย่งกันมาตลอดเพราะทราบว่าแรงที่สุด..ทรงพลังที่สุด..แรงครูสูงสุดยิ่งไม่ต้องพูดถึง...ย้ำว่าที่ลงไว้เป็นแค่ชนวนเพียงคร่าวๆนะครับใครได้รายการนี้ไปพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นพระของเศรษฐีจริงๆ ต้องแยกให้ออกนะระหว่างพระเศรษฐีกับพระของเศรษฐีพ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญท่านอนาถบิณฑิกนี้ข้างบนเขาตั้งใจให้ฉันทำไว้เพื่อเป็นพระของเศรษฐี ฝังปิดตาท้องพระคลังองค์เดียวเหมือนฝังตะกรุดดอกเล็กๆหมื่นดอกแสนดอกก็ไม่ปาน
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    เรียกว่าเมื่อวานทั้งไลน์และ PM กับสายโทรศัพท์แทบไหม้ก็ขออภัยที่ไม่ได้รับสายใครเลยเพราะเราขอยกยอดให้เฉพาะกับคนที่จองทันทาง PM ตามกติกาก่อน ยิ่งหลายคนทราบว่าพ่ออาจารย์ท่านออกเหรียญท่านสุทัตตะที่แต่ละคนรู้ดีรู้ชัดอยู่แล้วว่าท่านใจดีเป็นที่สุด ..เป็นครูใหญ่ฝ่ายโภคทรัพย์ลาภผลที่ใจดีอย่างถึงที่สุด

    ทั้งเหรียญหล่อนี้พ่ออาจารย์ท่านก็ทำเสมือนค่ายกลคือมีผู้ให้(ท่านสุทัตตะ) มีผู้รับ(ตัวเรา) มีของที่จะให้ เช่นนี้จึงเป็นเครื่องมงคลที่สมดุลย์กันอยู่ในตัวเองด้วยปัจจัยสามสิ่งนี้เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ดั่งคำท่านเศรษฐีที่ว่า "ให้ทำเสมอด้วยรูปเรานี้เป็นสมบัติที่เรามอบให้เพื่อใช้สืบทอดความเป็นเศรษฐีคหบดีในวงศ์ตระกูลจากรุ่นสู่รุ่น" ก็นั่นแหละพ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะหาคนช่วยเมื่อไม่พึ่งนักสงเคราะห์โลกที่มีบารมีเฉพาะทางฉกาจเป็นที่สุดแล้วยังจะเอาอะไร

    แต่รายละเอียดเหรียญรุ่นนี้ยอมรับเลยว่ายาวมากและไม่สามารถแจกแจงได้หมดทำได้เพียงใส่ชื่อมวลสารที่เป็นตะกรุดบางชนิดเพราะเกรงจะยืดยาวไป เช่นนั้นใครที่นับถืออยู่หรือรอพ่ออาจารย์ท่านออกเหรียญครูฆราวาสแรงๆก็คว้าโอกาสไว้นะครับ
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    มีถามหาพระปิดตากันมาหลายท่าน รายการที่ฝังนี้ไม่มีแยกนะครับ
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    ร่วมทำบุญบูชา พระปิดตามหากาฬเพชรกลับสามตำรับ(ขับเสนียด,พิฆาตไพรี,ข่ม,ปราบ,สาป,ฝังพระธรณี)

    นับแต่โบราณกาลสืบมานั้นหากปรารถนาจะสร้างเครื่องมงคลที่มีอิทธิคุณหนักไปทางชุ่มเย็นเห็นผลทางเมตตามหานิยมเสน่ห์ลาภผลแคล้วคลาดแล้ว ก็มักนิยมทำเป็นรูปพระภควัมปติหรือพระปิดตากันมากโดยเฉพาะเจาะจงให้ใช้วัตถุที่มีกฤติยาคมแฝดทั้งผงวิเศษและโลหะศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเป็นหลัก จำเนียรกาลผ่านไป..อาหารการกินชีวิตความเป็นอยู่และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเบื้องหน้านั้นพ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าคนจะอยู่ได้ยากหากปราศจากวาสนาและลากสักการะนานาทั้งปวง หากเพียงเท่านั้นก็ยังนับว่าดีแต่การแข่งขันแก่งแย่งความอาฆาตพยาบาทในวงการแข่งขันต่อสู้บนเวทีชีวิตนับวันจะยิ่งมีมากขึ้นพ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำรินำพระปิดตาที่ท่านได้บรรจงสร้างไว้ดีแล้วออกมาให้ร่วมทำบุญกัน โดยท่านเรียกพระปิดตานี้ว่า"มหากาฬเพชรกลับสามตำรับ"

    ที่สุดแห่งพระปิดตาสาลิกาพิมพ์จิ๋ว"ข้าวตอกแตก"
    ซึ่งพระปิดตาสำคัญนี้พระปิดตาเนื้อชนวนโลหะสามตำรับคือ
    หล่อหลอมขึ้นมาจากตะกรุดดอกบูชาฤกษ์อันหาได้ยากและมีฤทธิ์ฉกาจทาง "มหากาฬ" ทั้งสามชนิด โดยได้นำตะกรุดสามตำรับนั้นมาหล่อหลอมรวมกับชนวนลงถมหมื่นยันต์พันพิธีที่พ่ออาจารย์ท่านเก็บไว้รีดทำตะกรุดพิเศษเพียงแค่บางรุ่นเท่านั้นเพราะชนวนนี้ท่านว่ามีคุณเสมอด้วยตะกรุดทุกสูตรทุกวิชาท่านทำอะไรเป็นลงอะไรได้ท่านก็ลงถมรวมไว้ในชนวนนี้ทั้งหมด เช่นนั้นพระปิดตาชุดนี้จึงอุบัติขึ้นจากความตั้งใจของครูบาอาจารย์อย่างแท้จริง ท่านตั้งใจจะสร้างประปิดตาองค์เล็กๆขนาดใหญ่กว่าปรกใบมะขามเล็กน้อยหรืออาจเท่ากัน เพื่อให้ดีที่สุดแรงที่สุดไม่เสียชื่อและความตั้งใจของท่าน..เพื่อจะได้พระปิดตาที่เก่งกาจมีคุณมหากาฬรองรับวาสนาและความโชคดีทั้งหลาย..เพื่อขจัดสิ่งขัดข้องทั้งปวงให้ชีวิตเรามีโชคอยู่เรื่อยๆไม่รู้หยุดรู้หมดดั่งวาสนาดีตลอดกาลอีกทั้งยังเปิดบารมีหลีกเร้นเคราะห์ภัยที่จะเกิดไม่ให้เข้าถึงตัว ท่านว่ามหากาฬนี้ก็คือรุนแรงเป็นที่สุดคนจะดีจะมีจะรวยได้แน่นอนว่าต้องมีสิ่งพิเศษไว้ขจัดปัญหาและอุปสรรคในชีวิตเขา ถ้าภัยมันใหญ่หลวงหนักหนาของที่จะรับมือได้ก็ยิ่งต้องแรงมากขึ้นเป็นเงาตามตัว เช่นนั้นความบริบูรณ์พูนพร้อมในทุกสรรพสิ่งอย่างเลอเลิศอย่างสูงสุดสมบูรณ์ไม่มีประมาณจึงจะเกิดขึ้นและตั้งอยู่กับเราได้ตลอดไป จะเป็นคนเต็มคนเป็นคนที่บริบูรณ์ถึงพร้อมด้วยวาสนาและความโชคดีนานัปการได้อย่างไรก็ดูกันแค่นี้ว่าเภทภัยทั้งหลายใหญ่หลวงหรือไม่และสยบได้ราบคาบพลิกกลับสถานการณ์ได้ทรงตัวแค่ไหน ท่านว่า "พระปิดตามหากาฬเพชรกลับสามตำรับ" ย่อมมีไว้คลี่คลายสถานการณ์อันยากฟันฝ่าในชีวิตเหล่านั้น

    ### ตำรับแรก พระเจ้าขับเสนียดปัดรังควานอุดผงเพลิงไฟประลัยกัลป์(ปราบเทวดา)ดอกบูชาฤกษ์

    พ่ออาจารย์ท่านจัดสร้างตะกรุดดอกครูนี้ขึ้นมาเพื่อให้สืบทอดและคลี่คลายปัญหาบรรเทาทุกข์โศกความเดือดเนื้อร้อนใจแก่ผู้คนที่ได้ไว้บูชา ท่านว่าวิชาตำรับนี้เดิมทีเป็นของชั้นสูง จะลงจะทำให้เฉพาะเจ้านายและบุคคลชั้นสูงเป็นเจ้าปกครองจริงๆ ท่านว่านี่ไงเพราะมันสูงมากจนไม่ลงมาถึงมือชนหมู่อื่นจึงไม่ปรากฏว่าจะมีครูบาอาจารย์ท่านใดมักจะทำกันนัก พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะเป็นวิชาที่มีเดชแลอานุภาพมากจึงไม่ปรากฏว่าจะมีผู้ใดคู่ควรนัก ในปัจจุบันนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาแต่ละแขนงถ้าช่วยคนได้ก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งสงวนไว้ ท่านว่าความต้องการเดิมของครูบาอาจารย์เจ้าของวิชาท่านก็ไม่ได้คิดที่จะหวงหรือเลือกที่รักมักที่ชังใดๆ หากเพียงแต่ต้องการให้วิชานั้นตกถึงมือเฉพาะกับคนที่ดีจริงๆ ท่านจึงได้ทำการขอจากดวงวิญญาณครูบาอาจารย์บรมครูเจ้าตำรับเจ้าวิชาว่าจะลงตะกรุดนี้เสียชุดหนึ่งไว้โปรดคนทั่วไปจะทำเพียงเท่านี้แล้วไม่ทำอีก กอปรกับเสด็จพระใหญ่ท่านเมตตาให้ลงวิชาขับเสนียดปัดรังควานของท่านไว้ด้วยซึ่งวิชาทั้งสองนี้ส่งเสริมกันอย่างแท้จริงพ่ออาจารย์ท่านจึงได้ทำตะกรุดนี้ไว้เสียชุดหนึ่ง

    ตะกรุดนี้เป็นของสูง พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากนักเพราะต้องเริ่มแต่เอาตะกั่วขอมโบราณพันปีที่ได้ผ่านพิธีกรรมต่างๆอันถูกฝังไว้ใต้ปราสาทขอมตั้งแต่สมัยขอมเรื่องอำนาจมาแช่น้ำมนต์ดับล้างคุณฝ่ายอวิชชาตลอดจนอาถรรพ์ร้ายทั้งหลายแล้วจึงหลอมรีด ทำการจารลงถมด้วยพระยันต์ร้อยแปด นะปถมัง14 ก่อนจะหลอมรีดเป็นแผ่นตะกรุดอีกครั้งหนึ่ง ลำพังแผ่นตะกรุดนี้ท่านว่าก็ทำยากแล้วเพราะต้องให้ดีตั้งแต่เนื้อในโดยแท้จริง ท่านเปรยว่าถ้าใครตาดีจิตสว่างก็ดูเอาเองแผ่นตะกั่วธรรมดาที่ไหนจะสว่างมีอานุภาพมากขนาดนั้นมีอักขระยันต์นับร้อยพันมีวิชาต่างๆมีคุณทุกอย่างดีทุกทางด้วยบทวิชาและพระพุทธคุณด้านต่างๆ ดีไม่ต่างจากพระกริ่งเลยทีเดียว
    พ่ออาจารย์ท่านได้เลือกฤกษ์ยามมงคลตามครูบังคับเพื่อที่จะลงพระยายันต์ชั้นสูงทั้งสองด้าน ท่านว่าตะกรุดนี้มีอุปเท่ห์แลวิธีใช้มากมาย ล้วนแต่เป็นเรื่องที่เป็นสิริมงคลแก่ตัวผู้ครอบครองทั้งสิ้น หากแม้นพกพาอาราธนาไม่ทำการใดก็ยังได้ชื่อว่าดีเป็นที่รักแก่ชนทั้งหลายในมหาทิศทั้งสี่นี้ไม่มีใครกล้าเกลียด ทั้งยังกันกระทำด้วยคุณไสยมนต์ดำกันลมเพลมพัดต่างๆบรรดามี หากเลื่อนลงมาอาราธนาอยู่ในระดับเอวแล้วท่านว่าจำเริญนักมือของเค้าจะจับแต่เงินแต่ทองเจริญรุ่งเรืองในวิชาชีพและการประกอบอาชีพทั้งหลาย ไม่พักต้องกลัวเกรงที่จะต้านจะแข่งขันกับผู้ใดเพราะวิชานี้ท่านว่าเอาชัยได้ไม่รู้แพ้แม้แต่ศึกมนุษย์หรือกองทัพเทวดา ท่านว่าลำพังอย่าว่าแต่คนมีสมองสองมือจะมาท้าแข่งขันด้วยเรา ต่อให้กองทัพเทพยกมาแข่งด้วยก็ยังไม่ต้องกลัว ทั้งยังใช้แก้อาถรรพ์ในประการต่างๆได้ไม่ว่าจะอาถรรพ์ที่เกิดจากผงคุณวิชาทั้งหลายอันเค้ากระทำมาทั้งใส่น้ำหรือกระทำประการต่างๆให้เข้าให้หาอยู่ในร่างกายของเรา ทั้งอาถรรพ์การแก้รูปฝังรอยที่จะทำให้เราสียสติ สติวิปลาสไป ตลอดจนแก้อาถรรพ์ปอบและภูติผีวิญญาณอันจะหาคนสืบทอดเผ่าพันธ์ตนทั้งหลาย ท่านว่าแก้ได้ทั้งสิ้นเพียงแค่อาราธนาพกพาและหมั่นใช้ตะกรุดทำน้ำพระพุทธมนต์ดื่มกินท่านว่าเพียงเท่านี้ย่อมดีนัก

    เมื่อท่านลงพระยันต์ทำการเทียบครูเชิญครูปลุกเสกตะกรุดอีกวาระหนึ่งนั้น ท่านว่าไม่แปลกใจเลยที่ชนทั้งหลายจะเจริญขึ้นได้อย่างน่าประหลาดใจและทำไมแต่เดิมนั้นจึงได้จำกัดไว้แต่เพียงเจ้านายและเจ้าปกครอง เพราะว่าตะกรุดนี้มีอานุภาพมากมีอิทธิคุณสูงยิ่งนักควรใช้และตกถึงมือเฉพาะผู้มีวาสนาและบารมี ท่านว่าหากจิตตั้งมั่นและมั่นใจในตะกรุดนี้มากเท่าไรยิ่งเหมือนเสือติดปีกมากขึ้นเท่านั้นไม่พักต้องพูดถึงเรื่องจะะหนุนจะดันขึ้นด้วยดวงชะตาพาส่งใดๆ แต่วิชานี้เป็นวิชากลับชะตาพลิกวาสนาคนใช้กันได้เลยทีเดียว
    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้มีอุปเท่ห์ใช้มากมาย ดังต่อไปนี้
    - ตั้งสติให้นิ่งมีสมาธินำตะกรุดวนใบหน้าตามเข็มนาฬิกาสามรอบตอนตืนเช้า หลังจากชำระร่างกายเสร็จแล้วให้พึงกระทำจะบังเกิดสง่าราศีในวันนั้นจะมีเมตตามหานิยมทำกิจใดก็ง่ายไปหมด แม้ประกอบกิจหรืออาชีพใดย่อมถึงแก่ความเจริญรุ่งเรือง บังเกิดเกียรติยศใหญ่เป็นที่นับหน้าถือตามีชื่อเสียงขจรไกล
    - นำตะกรุดมาวนบริเวณหัวใจท่านว่าศัตรูทั้งหลายไม่พยาบาทอาฆาตด้วยเรา จะรักดั่งเลือดในอก แม้โกรธกันแต่ปางไหนก็กลับใจเป็นมิตรเปี่ยมด้วยเมตตาอาทรฉันนั้น
    - นำตะกรุดมาถูสัมผัสบริเวณฝ่ามือท่านว่าจะจำเริญในลาภยศ มือจะได้จับเงินจับทองมีโชคลาภเข้ามาเสมอไม่ว่าน้อยว่ามาก ไม่ว่าขึ้นว่าแรมเข้ามาอยู่ไม่รู้ขาด
    - นำตะกรุดขึ้นเสยผมปัดออกไปด้านหลัง ท่านว่าขับเสนียด ปังรังควาน ไล่อุบาทว์ทั้งหลายอันติดอยู่ในร่างกายราแต่ละวันก็ดี หรือที่สะสมมาก็ดี พิฆนะจัญไรทั้งหลายล้วนกลายเป็นมงคล
    - แม้ในครั้งที่สอง ก็ให้นำตะกรุดยกขึ้นเสยผมไปด้านหลัง ท่านว่าครั้งนี้หากทำได้ ในวันนั้นคนจะเป็นมิตรกับเรา หากมีใครคิดร้าย จ้องทำร้าย ให้ร้ายเราโดยประการต่างๆ เขาจะแพ้ภัยตัวเขาเองตกอยู่ในห้วงกรรมเป็นไปตามผลกรรมที่เค้าคิดจะประทุษร้ายเรา ศัตรูมีอันพินาศเป็นไปด้วยประการต่างๆแล
    - แม้ในครั้งที่สาม ก็ให้นำตะกรุดยกขึ้นเสยผมไปด้านหลัง ท่านว่าครั้งนี้เรียกสิริมงคล ให้ลาภสักการะ ยศ สุข สรรเสริญบรรดามีวิ่งเข้ามาหาเราในวันนั้นไม่ว่าจะยามหลับยามตื่นย่อมเป็นสุข
    - แม้ในครั้งที่สี่ ก็ให้นำตะกรุดยกขึ้นเสยผมไปด้านหลัง ท่านว่ากันสารพัดโพยภัยในมหาทิศทั้งสี่ เป็นมหาคลาด ให้รอดจากอุปัทวอันตรายทั้งหลาย ทั้งโจรภัย วินาสภัย อัคคีภัย ราชภัย
    - แม้ในครั้งที่ห้า ก็ให้นำตะกรุดยกขึ้นเสยผมไปด้านหลัง ท่านว่าทำครั้งนี้ในวันนั้นมีกิจอันใดก็ดี ให้ปรารถนาตั้งจิตอธิษฐานเอาเถิด หากทำครบห้าครั้งในหนึ่งวันย่อมจำเริญเกียรติยศ ประสบความสำเร็จในกิจที่พึงกระทำตามแต่จะอธิษฐาน
    - ถ้าฝันไม่ดี มีอาการหวาดผวา เห็นลาง เงื่อน เค้า ความอัปมงคลจะบังเกิดแก่ตน ท่านว่าให้เอาน้ำหนึ่งขัน อาราธนาตะกรุดแช่ไว้แล้วอธิษฐานถึงเค้า เงื่อน ลาง แห่งความอัปมงคลทั้งหลาย ฝันอันวิปริตอาเพศทั้งหลาย แล้วอาบน้ำขันนั้นเถิด ความหวาดกลัว หวาดผวา อาเพศ อัปมงคลใดๆ จะเสื่อมถอยไปตามคำอธิษฐาน
    - ถ้าผีเข้าคนหรือคิดว่าถูกคุณไสยใดๆ ท่านว่าให้นำขึ้นมาน้ำอธิษฐานถวายพระพุทธเจ้าระลึกถึงพระพุทธคุณ แล้วจึงลาน้ำนั้น นำตะกรุดนี้แช่ลงไป เอาไปกินเอาไปอาบ เอาไปรดหัวคนที่ถูกกระทำเถิด หากมีอาถรรพ์ใดๆก็หลุด หากมีวิญญาณใดๆสิงสู่อยู่ก็ย่อมออกทันทีด้วยพุทธานุภาพและคุณวิชา
    - ถ้าต้องเคราะห์เจ็บป่วยด้วยโรคภัย โรคา พยาธิ ไม่ว่าจะมนุษย์ก็ดี สัตว์ต่างๆทั้งหลายก็ดี ท่านว่าอธิษฐานบรรเทาโรคและอาการเจ็บป่วยให้ดี ขอน้ำยารักษาโรคแล้วสวดพุทธคุณนำตะกรุดลงแช่น้ำ แล้วก็ให้ดื่มกินน้ำนั้นเถิด โรคภัย โรคา พยาธิทั้งหลายจะบรรเทาลง แม้ได้อาบน้ำโสรจสรงตะกรุดอีกวาระหนึ่งท่านว่าย่อมหายแล
    - ถ้าไปบ้านหรือสถานที่อันมีคนตายหรือเสียชีวิต เลยสามวันไปแล้ว ท่านว่าให้รีบอาราธนาตะกรุดทำน้ำมนต์อาบทีเดียว หากไม่ทำก็จะเจ็บไข้ได้ป่วย สิ่งที่ควรจะได้ก็ไม่ได้ ไม่มีโชคลาภใดๆ
    - หากไปบ้านเรือนอื่นที่มีสตรีตั้งครรภ์ ด้วยว่าไปเยี่ยมหรือมีเหตุให้เข้าไปก็ดี ท่านว่าให้เร่งเอาตะกรุดอาราธนาทำน้ำมนต์อาบเสีย อย่าให้พ้นสิบสองวัน จะทำให้เสียเดช เสียตบะในตนเอง
    - หากไปบ้านเรือนอื่นที่มีการมงคลสมรสก็ดี ท่านว่าให้เร่งเอาตะกรุดอาราธนาทำน้ำมนต์อาบเสีย อย่าให้พ้นในแปดวัน จะทำให้เสียเดช เสียตบะในตนเอง
    - หากได้สังวาสกับสตรีที่มีประจำเดือน ท่านว่าจะเป็นเสนียดนัก ให้เร่งเอาตะกรุดอาราธนาทำน้ำมนต์อาบเสีย อย่าให้พ้นห้าวัน จะทำให้สุขภาพร่างกายอ่อนเพลีย กำลังถดถอย อายุสั้นลง
    - ตะกรุดนี้ท่านว่าให้หมั่นอาราธนาทำน้ำมนต์อาบเถิด จะให้ดีอาทิตย์หนึ่งต้องอาบให้ได้สามวัน คือวันอังคาร วันเสาร์ แลวันอาทิตย์ ท่านว่าสามวันนี้ดีประเสริฐกว่าทุกวันแล
    - ในการอาบน้ำมนต์นั้น ท่านว่าจะให้ผลสัมฤทธิยิ่งขึ้นไปอีกตามตำรับครูบาอาจารย์ได้กำหนดไว้ ก็ให้ทำโดยเคร่งครัดเพือสิริมงคลและราศีแก่ตนเอง ดั่งที่บูรพาจารย์ โบราณจารย์ต่างๆได้ทำไว้ถวายเจ้านายและเจ้าปกครองต่างๆ เพื่อได้ทำการอาบน้ำมุรธาภิเษก เป็นมงคลและเกียรติยศยิ่งด้วยประการทั้งปวง
    * วันอาทิตย์ ท่านว่าหันหน้าไปทิศตะวันออก จักจำเริญยศได้เป็นใหญ่ ก้าวหน้าในอาชีพที่ทำ
    * วันจันทร์ ท่านว่าหันหน้าไปทิศเหนือ จักมีลาภผล ความมั่งคั่ง
    * วันอังคาร ท่านว่าหันหน้าไปทิศใต้ จักมีชัยยะ ชนะไพรีไม่รู้พ่าย ศึก ศัตรูใดก็หักเราเอาชัยมิได้ แข่งขันสิ่งใดย่อมชนะเขาทั้งหมด
    * วันพุธ ท่านว่าหันหน้าไปทิศเหนือ จักมีลาภสักการะนานา
    * วันพฤหัส ท่านว่าหันหน้าไปทิศเหนือ จักร่มเย็น ครอบครัวเป็นสุข ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง สามัคคีกลมเกลียวกัน
    * วันศุกร์ ท่านว่าหันหน้าไปทิศตะวันออก จักอยู่ดีกินดี มีโชคลาภตามปรารถนา
    * วันเสาร์ ท่านว่าหันหน้าไปทิศตะวันตก ทุกข์จะหาย บาปเคราะห์จะคลาย ล่วงเคราะห์ พ้นทุกข์ทั้งมวล

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะเป็นตะกรุดที่มีอานุภาพมากมีวิธีใช้สลับซับซ้อนจึงไม่แปลกใจที่โบราณจารย์แต่เก่าก่อนท่านจะไม่ได้ทำหรือมอบให้ผู้ใด แม้จะให้ยังต้องมอบให้เฉพาะบุคคลไปเป็นของคู่กายมีไว้ใช้ประจำตัวเจ้านายพระองค์นั้นๆ ดังนั้นเมื่อท่านเมตตาทำและปลุกเสกซ้ำยังเชิญเสด็จพระใหญ่ท่านสงเคราะห์อีกวาระหนึ่งนั้น ท่านว่าเราก็จะถือคติตามบูรพาจารย์คือตะกรุดนี้ทำให้คนได้ดีพลิกวาสนาชะตากลับได้แต่ก็ต้องถือและใช้เป็นของใช้เฉพาะตนไม่ใช้ร่วมกับคนอื่นเด็ดขาด ทำให้คนอื่นได้แต่ให้คนอื่นใช้ตะกรุดหรือนำไปทำแบบเราไม่ได้ ท่านว่าถือได้ก็จะยิ่งขลังขึ้นไปอีกเป็นเท่าทวี หากเปลี่ยนมือหรือสืบทอดก็ให้จุดธูปสักการะครูบาอาจารย์บอกกล่าวเปลี่ยนเจ้าของถือครองไป

    ### ตำรับที่สอง
    สร้อยสนกลบทเก้าเลิศภพจบแดน(ชุดประวัติศาสตร์พิฆาตไพรี)ดอกบูชาฤกษ์
    สืบตำนานครู
    ...พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างตะกรุดมหาวิเสสอันมากด้วยอุปเท่ห์ในพระพุทธคุณขึ้น ด้วยท่านพิจารณาเห็นแล้วว่าตะกรุดสำคัญนี้มีกำลังมากและหากลงอักขระวิเสสเก้ากลบทนำมาปลุกด้วยพระคาถาศักดิ์สิทธิ์เฉพาะทั้งเก้าบทนั้นตะกรุดนั้นจะมีคุณมากด้วยเป็นของค่าควรเมืองทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่โบราณสืบมานั้นบทอิติปิโสสร้อยสนทั้งเก้า เป็นบทพุทธคุณที่มีคุณค่ามากหากจะนำมาภาวนาแต่ถึงกระนั้นในปัจจุบันก็หาผู้สืบทอดได้ยาก และเป็นการยากยิ่งกว่าเมื่อจะภาวนาให้เกิดมรรคเกิดผลตามคุณพระคาถา พ่ออาจารย์ท่านจึงเมตตานำมาทำให้เป็นตะกรุดเพื่อหวังให้ผู้บูชานั้นสามารถอธิษฐานใช้งานได้ง่ายขึ้น เป็นของสำเร็จที่ทำมาดีแล้วสำเร็จแล้วใช้ได้เลยไม่ต้องภาวนาแต่อย่างใด
    อันวิชาอิติปิโสสร้อยสนมหายันต์ทั้งเก้ากลบทนั้นเป็นวิชาในตำนาน
    พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นเป็นตะกรุดโดดๆดอกเดียวเช่นนี้ แต่ด้านในนั้นมีถึงเก้าพระยันต์ไม่รวมตัวล้อมหรืออื่นๆอีก เอาว่าฉันทำมาไม่หนักคอเปล่า ซึ่งแต่ละแบบก็เรียกว่ามีอานุภาพมากเมื่อสำเร็จเป็นเครื่องมงคลที่พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจจารและเสกอย่างดีจึงมั่นใจในพุทธคุณได้แน่นอน
    อันวิชาทั้งเก้านี้มีคุณและมีชื่อเป็นอเนกประการแตกต่างกันไป จำแนกได้ดังนี้
    - กระต่ายแฝงคอ ท่านว่าตัวนี้เป็นแคล้วคลาด ทำอะไรเสี่ยงภัยเสี่ยงอันตรายไม่เจ็บเนื้อเจ็บต้วไม่เดือดเนื้อร้อนตัว แม้มีอัยอันตรายบังเกิดแก่ชีวิตก็เข้าไม่ถึงตัว อุปมาดั่งว่าไปสงครามที่มีการรบพุ่งกันแม้ปืนต่างๆยิงมาก็ไม่ถูกแ้ปลายเส่นขนเราเลย
    - ฝนแสนห่ารำเพย ท่านว่าตัวนี้ใช้สะเดาะเวลาติดอยู่ในสถานการณ์ไม่พึงประสงค์หรือหาทางออกไม่ได้ก็จะเจอช่องเจอลู่ทางโดยง่าย ไม่มีปัญหาเหนี่ยวรั้งฉุดดึงเราไว้นานประดุจแม้ว่าต้องพันธนาการอันโหดร้ายก็ยังสะเดาะให้คลายออกจากสถานการณ์นั้นได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตคนถ้ามัวแต่ทับถมซ้ำซากกับปัญหาเก่าปัญหาใหม่ชีวิตมันจะหาที่เจริญไม่ได้
    - กลิ่นไตรภพจบสกล ท่านว่าตัวนี้เป็นมหาวิเสสอย่างแท้จริงแม้ชีวิตเต็มไปด้วยขวากหนามอุปสรรคอันตราย หรือต้องผจญด้วยศัตรูที่คิดร้ายมีพิษสงมากก็ทำอันตรายเราไม่ได้แพ้ภัยตัวเองทั้งสิ้น ดุจเดินเข้าหาเหยียบขวากหนามผจญด้วยสัตว์มีพิษมีคมทั้งหลายก็ล้วนทำอันตรายเนื้อตัวเราไม่ได้เลย ทั้งยังเป็นที่เสน่หาน่าชมเชยหลงใหลถึงขั้นเสน่หาอาลัย ไม่เบื่อไม่คลายไม่ปรารถนาที่จะห่างไกลแก่ผูงชนและเพศตรงข้ามทั้งหลายซึ่งเราปรารถนา
    - ทำการใหญ่ ท่านว่าตัวนี้สำคัญศัตรูหมู่มารที่ผจญเราด้วยเวรกรรมกฏแห่งกรมหรือกฏแห่งปัจจุบันที่กระทำก็ดีจะทำร้ายเราไม่ได้ เสียรูปไม่นับเป็นขบวนทีเดียวมีอานุภาพมากดุจทำศึกแม้ศึกยังไม่เริ่มศัตรูก็ระส่ายระส่ำเช่นนั้น ท่านว่าชีวิตคนก็เหมือนศึกสงครามเรื่องทางโลกมีแต่คู่แข่งทั้งนั้นตั้งแต่เรียนเป็นเด็กน้อยจนไปถึงเติบโตทำงานมีอาชีพสร้างครอบครัว ที่จะไม่แข่งขันดุจผจญศึกสงครามนั้นไม่มีท่านว่าคิดเอาแล้วกันว่าถึงเวลาทำการใหญ่ ถึงเวลาเอาชัยประสบความสำเร็จแล้วรึยัง ท่านว่าชีวิตตัวเองก็ต้องคิดเองนอกจากนี้ด้วยคุณวิชายังมีคุณถึงขนาดว่าแม้ผู้ใดก็ตามเป็นศัตรูเรามีจิตคิดร้ายคิดไม่ซื่อกับเรา เพียงแค่เห็นตัวเราก็จะประหม่าสยองพองขนสยดสยอง พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอำนาจเป็นที่คร้ามเกรงแก่บุคคลทั้งหลายบุคคลใดชีวิตมีจุดหมายคิดจะทำการใหญ่ ผจญด้วยข้าศึกศัตรูในสงครามชีวิตสงครามธุรกิจต่างๆประดามีทั้งในวงสังคมหรือราชการควรยิ่งที่จะต้องบูชาไว้
    - กระทู้เจ็ดแบกฤทธิรณ ท่านว่าตัวนี้เหมือนคนอมตะดีๆนี่เองไม่ถึงที่ตายทำอย่างไรย่อมไม่ตาย ที่ว่าจะตายก่อนกรรมไปเป็นผีเป็นสัมภเวสีรอเวลานั้นไม่มี ต่อให้ทิ้งระเบิดมากลางอากาศ หรือใครจะสั่งจำสั่งฆ่าทุบตีอย่างไร ท่านว่าอันตรายมันพ้นร่างกายเราหมด เฉี่ยวไปพลาดไปดุจเวรกรรมเคราะห์ร้ายหนักหนาอันใด แม้จะเกิดก็มีอันให้พลาดไปเช่นนั้นมาไม่ถึงไม่โดน ซ้ำยังมีคุณมากแม้ใครโกรธเคืองกันมาท่านว่าเห็นหน้าแล้วเมตตาโกรธไม่ลง ทำเป็นใช้เป็นพ่ออาจารย์ท่านว่านี่นับว่าอันตรายอย่างยิ่งทีเดียว เพราะสามารถนึกให้คนที่รักที่ชอบมาหาเราได้แม้ไม่มาก็ให้เป็นไปถึงขนาดเป็นบ้าคลั่งไคล้ในจิตวิญญาณเสียสติดำรงค์ไว้ไม่ได้กลายเป็นคนวิกลจริตไป
    - กลืนอากาศ ท่านว่าตัวนี้มีฤทธาอานุภาพอย่างมากก็ถึงขนาดดำน้ำดำดินล่องหนหายตัวได้ ดุจว่าศัตรูคิดร้ายมองไม่เห็นตัวเรา แม้นจวนตัวจริงๆก็ย่อมผ่านเราเลยเราไปแบบมองหาอากาศธาตุ ท่านว่าใครไม่ได้เรียนลึกซึ้งแค่ถือตะกรุดดอกนึงจะให้ดำน้ำดำดินเดินอากาศได้นั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่เอาว่าศัตรูหรือภัยอันตรายที่จวนตัวจะมองเราเหมือนอากาศและผ่านเราไปแบบอากาศนั่นเอง แม้นเป็นถ้อยเป็นความกันอยู่มีปากเสียงหรือถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล ท่านว่าสูญความ ถ้อยความทั้งหลายปัญหาทั้งปวงบรรดามีย่อมสูญหายอย่างน่าอัศจรรย์ ดุจถามหาอากาศเอาผิดกับอากาศเช่นนั้น
    - ปราบจักรวาล ตัวนี้สำคัญยิ่งยวดพ่ออาจารย์ว่าปราบได้ทั้งจักรวาลทำอะไรชนะหมดแพ้ไม่เป็น มีอำนาจเกรงขามดุจกระทำบรรลือสีหนาท แม้จะลงเล่นการพนัน เสี่ยงโชค เสี่ยงดวงทั้งหลาย ท่านว่าเล่นไปเถอะ เอาตะกรุดใส่น้ำมันหอมเจิมหน้าเจิมตัวพูดได้ว่าทั้งชีวิตมีแต่ความสุขสดชื่นเบิกบานใจ ที่จะเหนื่อยจะเสียพนันมานั่งกังวลนั้นเป็นไม่มี แม่ใครมีถ้อยมีความโกรธเกลียดกันอยู่ท่านว่าเอาตะกรุดทำน้ำมนต์พรมๆใส่หัวเขาเห็นหน้าเรา ล้วนมีแต่รอยยิ้มจะยินดีรักกันเสมอประดุจบุตรแลธิดาตัวเอง แม้อาราธนาตะกรุดใส่ในแป้งหอมหรือน้ำมันมาทาตัวท่านว่าเป็นเสน่ห์ยิ่งนักรักกันสิ้นทั้งบ้านหลงใหลเราทั้งครอบครัว ท่านว่าตัวนี้สำคัญนักแม้แต่จะชุบจะปลุกแต่งคนธรรพ์ให้มีฤทธานุภาพ ทำให้เป็นมหาปราบจักรวาล จะแต่งไปทำร้ายผู้ใดก็ล้วนทำได้
    - สูบมหาสมุทรอลวล ตัวนี้มีฤทธานุภาพมากแม้อยู่บนแผ่นพื้นปฐพี หากมีไพรีมีใครคิดทำร้ายเราเขาจะฝันจะรู้สึกเหมือนโดนพยนต์ต่อแตนกัดต่อยอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ว่าเป็นคนจะไม่เหยียบดินนั้นเป็นไม่มี แม้จะผจญด้วยผู้ใดก็จะสูบเอาโชคลาภวาสนาเขามาเพิ่มพูนให้ตนเองสิ้น ท่านว่าตัวนี้มีฤทธิมากหากทำเป็นใช้เสกหวายฟาดสมุทรสาครให้แห้งเหือดได้ จะเกิดทุกข์เข็ญแก่สัตว์ผู้ยากด้วยปราศจากธารากระแสสินธิ์อันเป็นบ่อเกิดแห่งชีวิตที่ใช้ดื่มกินจำนวนมาก ท่านว่าเป็นอันตรายและไม่มีความจำเป็นต้องทำ จำจะใช้เพียงอานุภาพทางดับล้างศัตรูเท่านั้นพอ
    - สมุทรเกลื่อนกระจาย ท่านว่าให้เอาตะกรุดนี้ปักไว้ในกองถั่วเขียว แล้วเอาถั่วนั้นโปรยไปเถิดปรารถนาที่ดินหรือบ้านเมืองล้วนเป็นของเราสิ้นได้บ้านได้เมืองแล ตัวนี้ท่านว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปคงไม่มีใครมายกบ้านยกเมืองให้เราฟรีๆ เอาว่าปรารถนาอยากได้ที่ใครเขาไม่ขายให้ก็ไปทำดังนี้ก็ได้หรือแม้แต่ปรารถนาจะให้จิตวิญญาณในสถานที่นั้น ทั้งจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จิตวิญญาณปฐพีตลอดจนถึงจิตวิญญาณเจ้าของที่นั้นตรงที่เราอยู่เราทำงานเราอาศัยอยู่หรือเราต้องเข้าไปเกี่ยวข้องเพื่อผลประโยชน์ใดๆก็ดี ให้เขารักเราเมตตาเราจดจำเราให้คุณช่วยเหลือเฉพาะเราอย่างเต็มที่ ก็ให้เอาถั่วนั้นโปรยไปในสถานที่นั้นเถิดผืนดินตรงนั้นจะตอบสนองให้คุณและเป็นสิริมงคลแก่การมาหาการอยู่อาศัยการประกอบกิจการการทำงานของเราหนักหนา
    พ่ออาจารย์ท่านว่าอันตะกรุดสร้อยสนกลบททั้งเก้านี้ แม้ข้อใดข้อหนึ่งก็ล้วนแต่มีอานุภาพเฉพาะด้านเฉพาะทางของเขาอย่างน่าอัศจรรย์ใจ เมื่อมาประกอบรวมทั้งเก้าชนิดเก้าคุณวิเศษที่รวมกันอันหาได้ยากยิ่งในเครื่องมงคลใดๆจึงนับได้ว่าเป็นเอกเลิศภพจบแดน เป็นของวิเศษที่ยากจะหาใดมาเทียบพุทธคุณอย่างแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะทำให้เสร็จให้สำเร็จให้เอาไปใช้กันได้นี้ก็เสกมานานจนครบต้องไล่ไปทีละกลบท ทำไปเป็นอย่างๆไม่ใช่สักแต่หลับตาเสกแล้วมันจะเสร็จแต่อย่างใด ท่านว่าทำไว้ให้เป็นชุดประวัติศาสตร์สร้างเพื่อเป็นตำนานอันชนที่ได้ไปต้องกล่าวขานถึงแบบไม่รู้จบ ท่านว่าแรกเริ่มเคยทำเป็นสังวาลย์เก้าสายอยู่เช่นกันมีอิทธิคุณมากใช้ได้ทุกทางตามอุปเท่ห์นั้นท่านเรียกว่าสังวาลย์พิฆาตไพรี แต่ท่านก็ไม่ได้ลงให้ใครมากเพราะท่านว่าเสกยากเหลือใจ ชั้นหลังนี้มาคิดจะทำให้ปรากฏเป็นทางการซักรุ่นหนึ่งท่านว่าจะให้ทำเป็นสังวาลย์คนก็จะไม่คาดกันเพราะมันหมดยุคสมัยจะสะพายแล่งออกไปนอกบ้านกันแล้ว ท่านจึงใช้ความเพียรจารกดอักขระให้สังวาลย์เก้าดอกนี้รวมอยู่ในดอกเดียวเพื่อความสะดวกและถนัดในการใช้ของผู้บูชา โดยท่านเรียกตะกรุดนี้สั้นๆว่าตะกรดพิฆาต ท่านว่าต่อไปหากกล่าวถึงตะกรุดพิฆาตคนจะต้องรู้จักและเป็นยอดปรารถนาของคน เพราะพุทธคุณอเนกประการบรรดามีแต่ละอย่างนั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่ยากจะหาและสำคัญต่อชีวิตคนบูชาอย่างแท้จริง
    ซ้ำยังเป็นเมตตาอย่างสูงที่
    ท่านได้อธิษฐานจิตเสกปิดตะกรุดชุดนี้ให้ในฤกษ์พิเศษ นั่นคือเมื่อคืนซึ่งตรงกับขึ้น15ค่ำเดือน3 ที่มีเหตุการณ์จันทรคราสหรือราหูอมจันทร์เต็มดวง ท่านว่าจับยามไล่เสกไปตามลำดับตั้งแต่ตอนราหูจับจันทร์ ราหูกลืนจันทร์ ราหูคลายจันทร์ ท่านว่าการอธิษฐานจิตวาระนี้ทำให้เป็นพิเศษโดยกำลังโพธิสัตว์อันจะสงเคราะห์รื้อขนสัตว์โลกออกจากทุกข์ เพื่อเป็นสิริมงคลเสริมดวงชะตาตะกรุดดอกนี้จะได้มีคุณวิเศษด้านหนุนดวงแก้ทางคนดวงตกแก้ทางคนทำมาหากินไม่ขึ้นทำอะไรก็ไม่ขึ้นใช้ของก็ไม่ขึ้นอะไรที่ติดขัดท่านว่ามันจะคลายออกบาปเคราะห์ลางชั่วร้ายอวมงคลใดๆอันใดจักมีอันนั้นจักหายไป ด้วยบารมีสงเคราะห์ของพระราหูผู้เป็นมหาโพธิสัตว์ใหญ่แห่งไตรภูมิ

    ### ตำรับที่สาม
    ทวิบารมีพระเจ้าทรงวิชามนต์กันความเสื่อม(ข่ม,ปราบ,สาป,ฝังพระธรณี)ดอกบูชาฤกษ์

    จากที่หลายคนสอบถามกันเข้ามาให้เหตุผลว่าวิชานี้เป็นของจำเป็นและเป็นของที่ต้องมีสำหรับการจะใช้อาราธนาเครื่องมงคลและวัตถุมงคลทุกประเภททั้งหมด เกี่ยวกับเรื่องความเสื่อมซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมากของคนใช้เครื่องมงคล เพราะว่าคนที่ชอบสายนี้หรือมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องมงคลต่างๆในกิจวัตรประจำวันการเข้าสังคมการดำเนินชีวิตที่เป็นไปย่อมมีความผิดพลาดโดยที่ตั้งใจก็ดีไม่ตั้งใจก็ดีรู้เท่าถึงการณ์ก็ดีรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดีควบคุมตัวได้ก็ดีควบคุมตัวเองไม่ได้ก็ดี เหตุการณ์ต่างๆล้วนเป็นตัวปัญหาชักนำไปสู่ความเสื่อม..ทั้งความเสื่อมในกายสังขาร..ความเสื่อมของจิตวิญญาณและความเสื่อมในมงคลวัตถุทั้งหลาย
    เครื่องมงคลนั้นอาจเสื่อมถอยลงได้เพราะคนบูชาไม่ทราบว่าครูแต่โบราณท่านถืออะไร แล้วก็ไม่ทราบว่าวันๆนึงเผลอทำอะไรผิดครู ซ้ำบางคนศัตรูรู้ว่ามีของดีอันนี้หนักเลยเพราะเค้าจะแกล้งทำให้ของเราเสื่อมเสียเเต่แรกเมื่อเสื่อมแล้วถึงใช้ไปก็ไม่มีผลอะไรเลย หลายครั้งผู้บูชาเครื่องมงคลอาจจะมีความคิดว่า
    ทำไมหนอของถึงไม่เหมือนเดิมทำไมรู้สึกว่าฤทธิ์และปาฏิหาริย์ถดถอยคิดไปเองว่าอาคมคงเสื่อมลง ที่พูดนี่คือครอบคลุมทุกวิชาของทุกสำนักทุกคณาจารย์เลยทีเดียว เรื่องนี้เป็นความสำคัญของคนที่ต้องการเล่นของและใช้เครื่องมงคลที่ควรตระหนักรู้เป็นสิ่งแรกๆเลย แต่แน่นอนว่าหลายคนนั้นมองข้ามไปและคิดไม่ถึง ทุกสิ่งไม่ว่าจะอักขระเลขยันต์ที่สักมาให้เลอะเนื้อเลอะตัว เวทย์มนต์คาถาอาคมที่ท่องบ่น ตลอดจนเครื่องมงคลและอิทธิวัตถุอันมีฤทธิ์ในตนเองทั้งหลาย หากการปฏิบัติตนไม่โอเคเป็นสิ่งอันกระทำให้วิชาเสื่อม..ของเหล่านั้นก็จะเสื่อมถอยด้อยค่าลงไปได้
    ทั้งลายสัก อักขระเลขยันต์ วิชาอาคม คุณมนต์คุณคาถา เครื่องมงคลทั้งหลายถ้วนทุกตำราทุกสำนักล้วนมีข้อห้ามที่จะทำให้ถดถอยอานุภาพลง การเสื่อมลงแห่งอาคมคาถาวิชาพุทธคุณอิทธิคุณมงคลราศีของดีภายนอกและภายใน สิ่งต่างๆที่จะนำไปสู่ความเสื่อมนั้นมีมากมายพ่ออาจารย์ท่านยกตัวอย่างเช่น คนอื่นนั่งคร่อม ก้าวข้ามหลัง ใช้ผ้าขนหนูร่วมกับเพศตรงข้าม กินของเหลือของเซ่นผี ของที่คู่สามีภรรยาอื่นกิน กินน้ำในห้วยหนองคลองบึง ลอดใต้ถุนห้องครัว ถ่มน้ำลายในโถส้วม เพื่อนหรือแฟนเดินข้ามหัวข้ามหลัง กินของแสลงต่างๆ ลอดใต้หว่างขา ลอดราวผ้า ลอดสายสิญจูงผีโยงโลงศพ ลอดสะพานเสาเดียว ลอดไม้ค้ำเรือนค้ำบ้าน... สิ่งที่ยกตัวอย่างๆท่านว่าเป็นของเล็กๆน้อยๆที่พอนึกได้ หากให้พูดกันจริงเอาเป็นว่าแทบไม่ได้กะดิกกันเลยชีวิตคนเพราะคนบางคนเพื่อนเล่นหัวแฟนเดินข้ามเป็นเรื่องปกติ ร้านอาหารบางร้านก่อนเค้าขายเรารู้หรือไม่ว่าเขายกอาหารเซ่นผีรึเปล่า บางร้านอยากให้ขายดีๆก็เซ่นผีที่ตนเลี้ยงด้วยอาหารที่ขายก็มี และเรื่องอื่นๆยิบย่อยอันเป็นเหตุแห่งความเสื่อมทั้งสิ้นเพราะครูบาอาจารย์ที่ท่านให้ถือเครื่องมงคลนั้นท่านต้องการให้คนเรามีสติต้องการให้เจริญสติ หากคนไม่มีสติย่อมเป็นเหตุนำไปสู่ความเสื่อมในทุกสิ่งความเสื่อมแต่ละอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละวิชาสำนักและครูบาอาจารย์จะยึดปฏิบัติ ซึ่งหากถือปฏิบัติจริงๆแล้วชีวิตคนย่อมวุ่นวายเดินไปไหนไม่ได้เลยทีเดียว สิ่งอันมิควรกระทำทั้งหลายคือความผิดพลาด างครั้งเราอาจจะทำไปโดยไม่รู้ตัวแต่พอไม่รู้ตัวบ่อยๆ ทำซ้ำซากหลายๆครั้ง ครั้งเดียวอาจไม่มีผลอะไรแต่พอซ้ำๆบ่อยๆอาคมภายนอกและภายในก็อาจหายไปแบบที่เราไม่รู้ตัวเช่นกัน
    อันนี้พูดโดยรวมๆของทุกสำนักางครั้งมีคนถามมาว่าไปทำเรื่องผิดจารีตต้องสิ่งไม่ดีมาทั้งหลายนี้ของดีจะเสื่อมมั๊ย ก็ต้องตอบไปเพื่อรักษากำลังใจว่าของดีที่เสกมาดีย่อมไม่มีวันเสื่อม ซึ่งของดีที่ไม่มีวันเสื่อมที่กล่าวถึงนั้นแท้จริงก็คือการปฏิบัติดีอันเป็นของดีภายในของตนเอง เป็นพระพุทธคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นเทวคุณ พรหมคุณที่อยู่ที่ไหนก็ไม่มีวันเสื่อม แต่หากเป็นของดีที่เกิดจากการกระทำการเสกการยัติเกิดจากอาคมลมปราณอาถรรพ์ต่างๆ ย่อมมีอันขึ้นลงทั้งพุ่งทั้งเสื่อมได้ทั้งสิ้น แต่ทว่าด้วยสิ่งอันไม่อำนวยต่างๆในสังคมและภาวะปัจจุบันหลายข้ออันเป็นทางนำไปสู่ความเสื่อมนั้นล้วนหนีไม่พ้นและหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นกฏทุกอย่างล้วนมีข้อห้ามและข้อยกเว้นเหมือนกัน เช่นการทรงวิชา การกันเสื่อม การเพิ่มอานุภาพเครื่องมงคลทั้งหลาย เพื่อป้องกันตนให้พ้นความเสื่อม เพื่อป้องกันเครื่องมงคลไม่ให้เสื่อม และเพื่ออานุภาพที่ยิ่งๆขึ้นไปนั่นเอง

    ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้เมตตาสร้างตะกรุดพระเจ้าทรงมนต์ขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งตะกรุดนี้จะมีอานุภาพและทรงคุณค่าอย่างยิ่งยวดสำหรับคนที่ใช้เครื่องมงคลวัตถุอาถรรพ์ทั้งหลายตลอดจนคนที่มีลอยสักอักขระเลขยันต์พระคาถาอยู่กับตัว หรือแม้แต่คนที่ท่องบ่นมนตราใช้พระคาถาก็ตามสมดั่งชื่อการทรงมนต์ทรงทุกอย่างไว้ให้สัมฤทธิ์ผล ใช้ได้ผล ไม่มีการเสื่อมถอยในคุณวิชา และที่สำคัญพ่ออาจารย์ท่านยังเมตตาลงบททวิบารมีเพิ่มเข้าไป ท่านว่าพลังตั้งต้นดีอย่างไรแรงอย่างไรพออาราธนาตะกรุดนี้นอกจากกันเสื่อมแล้วยังฟื้นฟูพลังงานของเวทย์มนต์ คาถา อักขระทั้งหลายอีกด้วย แม้พลังแรกเริ่มมีเท่าไหร่ก็จะทวีมากขึ้นไปเป็นเงาตามตัว ท่านว่าขอให้พกติดเนื้อติดตัวไปเรื่อยๆเป็นใช้ได้อะไรอยู่กับตัวเราถือว่าดีหมด ใครเคยรับอะไรใช้อะไรทำอะไรไม่ได้ดั่งใจไม่เห็นผลก็ต้องอาราธนาตะกรุดกันเสื่อมนี่แหละ แต่ทว่าเมื่อพ่ออาจารย์ท่านทำเครื่องมงคลท่านย่อมไม่ทำอะไรที่เล็กน้อยยิบย่อยแน่นอน เมื่อจะทรงวิชากันเสื่อม ทวีอานุภาพของอำนาจวิชาทั้งหลายแล้วยังต้องมีอานุภาพเป็นเอกเด่นชัดทางด้านการกระทำด้วยการทำข่มใส่คนทั้งปวงด้ว ซึ่งปกติพ่ออาจารย์ท่านจะทำของแก้ข่มนั่นหมายถึงตัวท่านรู้วิธีการทำข่มเป็นอย่างดี ทั้งแตกฉานและเชี่ยวชาญเป็นอย่างยิ่ง แต่กลับกันท่านกลับไม่ค่อยให้ใครบูชาของที่กระทำการข่มใส่ผู้อื่นเพราะท่านว่ามันแรงมากไปกลัวจะใช้ผิดเอาไปทำเป็นบาปเป็นกรรมตัวเอง การข่มนี้แรงถึงขั้นสุดตามที่พ่ออาจารย์ท่านพูดทีเดียวว่า "ข่ม,ปราบ,สาป,ฝังพระธรณี"
    วิชานี้...ท่านว่าครูบาอาจารย์ท่านไม่ค่อยอยากให้ใครท่านจึงห้ามนักหนา ตีค่าไว้ถึงแสนตำลึงทอง แต่ก่อนถ้าไม่บรรทุกข้าวมาเจ็ดเล่มเกวียนหรือลากซุงไม้สักงามๆมาเป็นร้อยต้นท่านจะไม่ทำให้แก่กันเลย ด้วยครูบาอาจารย์ท่านเลือกคนไม่ใช่ทำให้ใครก็ได้ต่อเมื่อถึงยุคเราก็เลยตั้งค่ากำนัลครูเอาไว้ทำบุญอุทิศให้ครูบาอาจารย์ทั้งหลายดอกนึงเป็นแสนบาท ก็ยังปรากฏคนไขว่คว้าต้องการบูชาและบอกต่อกันเป็นที่น่าอัศจรรย์รายไหนรายนั้นหากใช้และอาราธนามักจะเห็นผลทันตาโดยเฉพาะหากกระทำข่มใส่กับคนใหญ่คนโตที่มีอำนาจล้นฟ้าล้นเมือง เขาว่าเห็นผลทันตาจากหน้ามือเป็นหลังมือไม่กลั่นแกล้งซ้ำยังช่วยเหลืออนุมัติโครงการให้อย่างรวดเร็ว
    พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่เดิมนั้นใช้แผ่นทองคำตอนนี้มาใช้แผ่นทองแดงฟ้าผ่าทำให้แทนด้วยต้องกับตำราที่ต้องเอาทองแดงไปบวงสรวงเทวดา พระอินทร์เจ้าร้อนอาสน์เมื่อไหร่ประทานใส่ด้วยวชิระเพิ่มอานุภาพให้ทองแดงเมื่อนั้นจึงจะถือว่าใช้ได้ ท่านว่าเราม้วนไว้ภายในตะกรุดกันเสื่อมด้วยตั้งใจจะทำให้ทุกคนใช้เพื่อไม่ให้วิชาตกและหล่นหายไป ด้วยปกติจำเพาะจะมีกันในหมู่เศรษฐีและเจ้าสัวผู้มีอันจะกินเอาไว้ใช้ทำวิชาข่มใส่ผู้ที่ตนปรารถนาอยากเอาชนะเขาเพราะคนปกติคงจะไม่มีใครมาเช่าตะกรุดดอกนึงเป็นแสนบาทเช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านจึงนำยอดตะกรุดนี้มาม้วนรวมกับตะกรุดกันเสื่อมให้เป็นของดีแถมไปด้วยในตัว
    ซึ่งท่านว่าวิชานี้มีคุณอยู่มากถ้าใช้กับศัตรู ช้กับศัตรูที่คิดร้ายเรา ใช้กับศัตรูที่เล่นงานเรา ใช้กับศัตรูที่จองล้างจองผลาญเรา ใช้กับคนที่อยู่สูงกว่าเรามีอำนาจเหนือเรา ชอบข่มเหงรังแกเรา หรือแม้แต่เคยมีคนเอาไปใช้กับศรีภรรยาที่ชอบข่มสามี ชอบใช้อำนาจก็มีผลมาให้เห็นแล้วว่ากลับตาลปัตรดั่งหนูกลัวแมว ท่านว่าวิชานี้มันแรงแบบลำดับขั้นพอเห็นผลแล้วต้องรีบเอาออกทิ้งไว้ไม่ได้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เป็นบาปกรรมไม่บังควรเพราะถ้าทำไว้นานจากข่มมันก็จะกลายเป็นปราบแล้วก็กลายเป็นคำสาปจนกลายเป็นสะกดฝังพระธรณีอันร้ายแรงที่สุดไป ท่านว่าฝังธรณีคืออะไรก็คือข่มชนิดต่ำติดตี....(น)นั่นเอง ดังนั้นท่านจึงให้ใช้เพียงแค่ลำดับข่มกับปราบพอนิสัยเขาเปลี่ยนให้รีบเอาออกทันที ท่านว่าเราจะเห็นได้จากคนที่เราข่ม เขาจะเชื่อฟังเรา เออออไปกับเราง่ายๆ อ่อนต่อเรา อยู่ใต้เรา พูดอะไรก็คล้อยตามเชื่อเรา ดุจผู้น้อยกลัวผู้ใหญ่ให้ทำอะไรก็ทำไม่มีปากมีเสียง นี่คือการข่มการทำด้วยวิชา
    วิธีใช้
    เพียงแค่เขียนชื่อ นามสกุล คนที่เราต้องการข่มแล้วม้วนสอดไว้ในตะกรุดแล้วสวดอาราธนาด้วยคาถาธรรมกำจัดเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะข่มใส่ใครก็ให้กระทำดังนี้ คือใช้ชื่อนามสกุลเขาม้วนสอดไว้อาราธนาด้วยธรรมกำจัด แต่เมื่อเห็นผลเค้าโอนอ่อนผ่อนตามแล้วให้รีบเอาออกและเลิกกระทำ อย่าใส่ไว้นานจะเป็นเวรเป็นกรรมไป ดังนั้นตะกรุดนี้ไม่เหมาะแก่คนที่ลุถึงด้วยอำนาจโทสะจริตพยาบาทมาดร้ายผู้อื่น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ผ่านมาปกติจะเป็นคนเลือกของแต่สำหรับตะกรุดดอกนี้แล้วท่านว่าต่างกันมาก นั่นเป็นเพราะตะกรุดจะเรียกหาเจ้าของเอง หากมีบารมีจะได้เชิดชูวาสนา วิชา พระเวทย์เพื่อคุณค่าในชีวิตตนเองแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจะดลให้เห็นค่าความสำคัญแต่หากไร้วาสนาต่อให้คิดการณ์ยิ่งใหญ่เทียมฟ้าอย่างไรแม้เห็นท่านก็จะบังไว้ดุจเมฆหมอกบังนัยน์ตาให้คิดแต่เพียงว่าเป็นของไร้ค่า ไม่จำเป็น ไม่คู่ควรกับเรา วิชานี้ด้วยมีคุณอนันต์หากคนรู้คุณค่าและใช้เป็น ท่านว่าใช้ทางรวยก็จะรวย ใช้ทางชู้สาวก็จะได้เสมอใจ ใช้ทางหน้าที่การงานข่มเจ้านายใช้เพื่อความเจริญเพื่อขั้น ตำแหน่ง ฐานะ หน้าตาทางสังคม หรือแม้แต่จะใช้เพื่อทำลายผู้อื่นจากคนดีๆให้พินาศย่อยยับล่มจมไปก็ยังได้ สุดแล้วแต่ใจจะใช้ขึ้นอยู่กับสามัญสำนึกคน แต่ท่านว่ามีข้อห้ามอย่างเดียว ห้ามจริงๆเพราะถ้าทำชีวิตตัวเองจะตกต่ำทันทีนั่นก็คือห้ามเอาไปใช้กับบุพการีห้ามใช้กับพ่อแม่ห้ามทำการข่มใส่พ่อแม่ของตน ท่านว่าถ้าบุตรธิดาใดกระทำการข่มใส่พ่อแม่ของตนแล้ว บุตรนั้นย่อมต่ำกว่าเดรัจฉาน แม้เทวดาอารักษ์ครูบาอาจารย์ย่อมไม่ปกป้อง คุณแห่งวิชาทั้งหลายย่อมเสื่อมลง ท่านว่านี่คือข้อห้ามเพียงข้อเดียว ถ้าคนมีสติดีๆ ไม่กำเริบชั่วช้ากว่าเดรัจฉานก็คงไม่มีใครคิดกระทำการข่มใส่พ่อแม่ของตนแน่นอน

    พระปิดตามหากาฬเพชรกลับทั้งสามตำรับนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณพลิกแพลงใช้ได้ดุจตะกรุดทั้งสามทุกประการทั้งด้วยโลหะมีจำนวนน้อยมากจึงต้องหล่อองค์จิ๋วๆ ท่านว่าเป็นพระปิดตาที่แรงแบบมหากาฬแม้ตะกรุดสามชนิดนี้ก็มีค่านับหมื่นบาทแต่ท่านตั้งใจให้บูชาแค่หลักร้อย ทั้งที่ตั้งใจทำองค์เล็กนั้นก็ด้วยชนวนล้วนๆนั้นมีน้อยแม้เทองค์เล็กก็ยังได้น้อยอยู่ดี แต่รับรองว่าชุดนี้แรงมหากาฬแน่ๆตะกรุดสามชนิดใช้ได้อย่างไรพระปิดตาสาลิกาก็ทำได้ดังนั้นนอกจากนี้ท่านยังได้นำผงกสิณธาตุของพระอริยสงฆ์เหนือโลกถึงสามรูปฝังไว้ด้านหลังพร้อมกับผงเพลิงไฟประลัยกัลป์ของท่านอีก ท่านว่าผงที่บรรจุลงไปนั้นเป็นผงที่เกิดต่างกรรมต่างวาระของพระอริยเจ้าสามรูปนั่นคือหลวงพ่อโอภาสี,หลวงพ่อกบเขาสาริกาและหลวงปู่สรวง เป็นผงที่เกิดจากการเจริญเตโชกสิณบริกรรมของพระอริยเจ้าเรียกว่าผงสำเร็จกสิณก็ได้พระปิดตานี้จึงมีบารมีครูบาอาจารย์ทั้งสามรักษาอยู่ ซ้ำยังเพิ่มพุทธานุภาพการขับวิชาของพระปิดตานั้นอยู่ภายในให้แรงยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อรวมกับผงคุณวิชาเพลิงไฟประลัยกัลป์ของท่านด้วยแล้วยิ่งดีทางขับเสนียดดับล้างถอดถอนอาถรรพ์สารพัด ทั้งอวิชชาคุณไสยคุณผีคุณคนคุณเทวดามิจฉาทิฏฐิอสูรยักษ์เดรัจฉานต่างๆครบถ้วนทุกประการ

    คาถาบูชา
    - โอม นะโม สิทธิกาลังสะหุม เอตัง พุทธานะสาสะนัง ทิปะทุตะจะ วันนะ วัสสะ
    - กุมากาฉะละ โสมาเรสะ
    (ทรงมนต์)
    - อิติสุคโต อรหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปฐวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง

    - พุทธังสะระนังคัจฉามิ ธัมมังสะระนังคัจฉามิ สังฆังสะระนังคัจฉามิ ทุติยัมปิพุทธังสะระนังคัจฉามิ ทุติยัมปิธัมมังสะระนังคัจฉามิ ทุติยัมปิสังฆังสะระนังคัจฉามิ ตะติยัมปิพุทธังสะระนังคัจฉามิ ตะติยัมปิธัมมังสะระนังคัจฉามิ ตะติยัมปิสังฆังสะระนังคัจฉามิ พุทธังเจ้าจงรักษาข้าพเจ้าบัดนี้เทอญ ธัมมังเจ้าจงรักษาข้าพเจ้าบัดนี้เทอญ สังฆังเจ้าจงรักษาข้าพเจ้าบัดนี้เทอญ พุทธังกันจะ ธัมมังกันจะ สังฆังกันจะ นะระนะจะ นะระนะจะ นะระนะจะ พุทธังกำจัด ธัมมังกำจัด สังฆังกำจัด พุทธังสีกา ธัมมังสีกา สังฆังสีกา พุทธะคุณณัง ธัมมะคุณณัง สังฆะคุณณัง พุทธะรัตนัง ธัมมะรัตนัง สังฆะรัตนัง พุทธังระงับ ธัมมังระงับ สังฆังระงับ พุทโธพันธะจิตตัง ธัมโมพันธะจิตตัง สังโฆพันธะจิตตัง พุทธะกัญจายะ ธัมมะกัญจายะ สังฆะกัญจายะ พุทธังบำราบ ธัมมังบำราบ สังฆังบำราบ พุทโธคะราย ธัมโมระราย สังโฆสูญไป พุทธังคะราย ธัมมังคะราย สังฆังคะราย พุทธังหนีภัย ธัมมังหนีภัย สังฆังหนีภัย พุทธังคะราย ธัมมังคะราย สังฆังคะราย พุทธังสูญหาย ธัมมังสูญหาย สังฆังสูญหาย พุทโธณิท ธัมโมณิท สังโฆณิท(ธรรมกำจัด)


    *** พระปิดตาเพชรกลับสามตำรับนั้นเป็นปิดตาจิ๋วหรือปิดตาสาลิกาที่เน้นกฤติยาคมรุนแรงแบบ "มหากาฬ" รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ชุดนี้ท่านว่าถ้าไม่มีเงินบูชาตะกรุดที่มีราคารวมกันหลักหมื่นก็ใช้พระปิดตานี้ได้เหมือนกันด้วยหลอมมาจากตะกรุดบูชาฤกษ์ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่ามีแรงครูสูงทั้งยังเป็นเครื่องมงคลชุดสุดท้ายที่หลอมมาจากตะกรุดบูชาฤกษ์เหล่านี้ ท่านว่าก็มีแค่นี้ต่อไปไม่มีอีกแล้วนะชุดที่หลอมมาจากตะกรุดบูชาฤกษ์ด้วยต้องใช้เนื้อตะกรุดล้วนๆทั้งชนวนที่นำมาเข้ากันก็ทำยากกว่าตะกรุดเสียอีก ท่านว่ารายการนี้สำหรับคนเห็นค่าเค้าก็จะรีบมาเอาเองจะให้คนในครอบครัวห้อยหรือทำเป็นกำไลข้อมือ..เลี่ยมทำต่อกันเป็นสร้อคอก็ได้ทั้งสิ้นสุดแล้วแต่จะใช้และนานๆทีท่านจะทำเครื่องมงคลชุดจิ๋วแบบนี้ซักครั้ง

    ร่วมทำบุญบูชา พระปิดตามหากาฬเพชรกลับสามตำรับ(ขับเสนียด,พิฆาตไพรี,ข่ม,ปราบ,สาป,ฝังพระธรณี) บูชา 900 บาท

    147423079-230253265122007-4528567109586277983-n.jpg 147217113-436891727463778-2661197701863369970-n.jpg
    146480914-118862290131626-7856895428390133149-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2021
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    พระปิดตาชุดจิ๋วนี้ใช้แทนตะกรุดตำรับใหญ่ทั้งสามได้เลยและถือเป็นการทำพระปิดตาจิ๋วด้วยเนื้อชนวนล้วนๆ ซึ่งก็มีทักกันเข้ามาตั้งแต่เมื่อคืนในส่วนของคนที่ผมได้ให้ดูรูปไปก่อนว่าอยากจะฝากร้านเลี่ยมเขาเลี่ยมต่อเป็นสร้อยข้อมือบ้างหรือสร้อยคอบ้าง..ซึ่งก็ทำได้และน่าทำ เพราะนานๆทีพ่ออาจารย์ท่านจะสร้างเครื่องมงคลองค์เล็กๆที่ทำจากชนวนล้วนๆ ..และแม้จะเล็กก็ยังฝังผงวิเศษว่านยาครบสูตรแบบพิถีพิถัน

    แต่รายการนี้พระมีไม่มากเกรงว่าจะไม่ทั่วถึงกันผมเลยขอรับยอดใน PM ก่อนนะครับที่เหลือจองทางไลน์หรือโทรมาเหล่านี้ค่อยว่ากันอีกที
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    รายการนี้ถือเป็นเครื่องมงคลแบบจิ๋วชุดแรกๆเลย หลายท่านที่ถามหากันมานานว่าอยากได้ไว้ทำสร้อยหรือจะเลี่ยมห้อยก็สะดวกไม่ใหญ่ไม่หนักคอก็มีแค่รายการนี้นะครับ ผมว่าเอาไปดีไซน์เลี่ยมได้หลายแบบเลยนอกจากจะเป็นชุดจิ๋วที่แรงมากๆแล้ว แน่นอนว่าน่าเก็บเพราะยาไฟประลัยกัลป์นั้นแรงมากๆชนิดที่ว่าไปป่าช้าภูติผียังสงบราบคาบเช่นนี้ถึงเรียกว่าพระปิดตาชุด"มหากาฬ"
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    ส่วนใหญ่สอบถามกันมาทีทั้งจองไปฝากลูกฝากเมีย แต่ที่น่าสนใจคือเอาไว้ทำประคำมือสวมข้อมือ ผมถือว่าดีนะแปลกดีนั่งภาวนาแล้วนับประคำภควัมปิดตาแบบนี้สุดๆจริงๆ ก็แล้วแต่ที่ชอบครับรุ่นนี้ได้ทั้งห้อยเดี่ยวทั้งทำสายสวมคอเลย บางคนสลับกับหินหรือลูกปัดมงคลยิ่งสวย
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    เมื่อวานก็พอดีมี PM มาพูดคุยเรื่องพระผงมารฟ้าก็ขออนุญาติก้อปมาวางไว้นะครับ ใครมีเอามาห้อยมาขอท่านเถอะครับรายการนี้รับรองว่าท่านเก่งในเรื่องทางโลกจริงๆ

    พระผงอาภรณ์มารฟ้า(พ่อมารฟ้า) ศักดิ์สิทธิ์มากครับ ของบางอย่างที่อยากได้แค่เราคิดเฉยๆ ก็ได้มาง่ายอย่างคาดไม่ถึง ความคิดที่เมื่อก่อนเคยคิดไม่ออก ก็คิดออกอย่างง่ายดายมากครับ คนดีๆก็กลับเข้ามาในชีวิตครับ ตอนนี้ผมกำลังขอเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งกับพ่อมารฟ้าอยู่ครับ ถ้ามีความคืบหน้าจะมาเล่าให้คุณกรณ์ฟังอีกทีครับ
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่พรหมพล ED 5777 7970 5 TH

    พี่วุฒิชัย ED 5777 7971 4 TH

    พี่ศิระ ED 5777 7972 8 TH
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    ผลของเมตตา

    ท่านพระอาจารย์หลวงปู่ทิวา อาภากโรอุปมาเมตตามหานิยมเสมือนเมฆฝนของขลังที่มีเมตตามหานิยมเป็นเมฆ จิตที่มีเมตตาเป็นบรรยากาศความชื้น เมื่อมีเมฆผ่านความชื้นที่มีจะทำให้เกิดสายฝนโปรยลงมาได้จึงต้องสร้างเมตตาให้มีในจิตไม่พึ่งอาศัยของขลัง

    ชาวพุทธมีบทแผ่เมตตาให้ใช้หลายบทเช่นบทสัพเพสัตตาฯ และบทเมตตาอัปปมัญญา การปฏิบัติมีความเป็นลำดับที่เหมาะตามความตั้งมั่นของสมาธิจิต บทเมตตาอัปปมัญญาเป็นบทแผ่เมตตาแบบยาวที่สามารถอาศัยในการภาวนาต่อเนื่องจนถึงขั้นสูง มีการแผ่เมตตาต่อตนเอง ผู้ที่เป็นที่รัก ที่ไม่รักไม่ชังและที่ชังเป็นลำดับ เมื่อเมตตาจิตไม่แยกบุคคลทั้งสามประเภทและเสมอกับตนเองด้วยแล้วจิตก็จะมีเมตตาที่สูงยิ่งขึ้น

    หลวงปู่ทิวา อาภากโรแนะนำให้เจริญเมตตาที่มีความเสมอกันจนมีเมตตาเป็นอัตโนมัติ ท่านอธิบายว่าขั้นแรกเป็นการแผ่ให้กับตนเองและบุคคลประเภทต่างๆอย่างเสมอกันซึ่งจะทำให้จิตมีเมตตา ขั้นที่สองเป็นการแผ่แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายออกไปรอบทิศทางและขยายขอบเขตออกไปอย่างไม่จำกัดขั้นนี้ทำให้จิตมีพลังในสมาธิ ขั้นที่สามเป็นการทำให้จิตมีภวังค์อยู่ในเมตตาซึ่งเป็นการพักจิตและมีสุขเป็นวิหารธรรม ส่วนการแผ่เมตตาที่มีบทสั้นหรือสั้นมากๆก็มีประโยชน์อย่างยิ่งกระทำได้ตลอดเวลาและในทุกอิริยาบถ เมตตาในวิถีจิตหนึ่งๆเมื่อออกจากโทสะและความเศร้าหมองก็จะมีคุณค่าอย่างมาก ชาวพุทธใช้ชีวิตปกติด้วยเมตตาการสวดมนต์และพิธีไหว้พระมีบทแผ่เมตตาและบทสัพพมงคลคาถา(ภวตุสัพฯ)ซึ่งสำคัญยิ่ง การทำบุญกุศลจะมีการแผ่เมตตาและอุทิศบุญกุศลด้วยเสมอการสวดเป็นการท่องบริกรรมซึ่งช่วยให้จิตน้อมเข้าสู่ความสงบด้วย

    การอบรมปฏิบัติธรรมจะมีการกำหนดให้ต้องแผ่เมตตาด้วยเช่นกันการฝึกฝนเมตตาภาวนาอาจแตกต่างบ้างแต่ต่างอยู่บนหนทางเดียวกัน สายวัดมหาธาตุโดยท่านเจ้าคุณโชดก ญาณสิทธิมีการสวดเมตตาในพิธีกรรมฐานท่านให้ละโทสะมีขันติแล้วใช้บทสัพเพสัตตาฯแผ่เมตตาไปยังทิศต่างๆ ในสายอานาปานสติของท่านอาจารย์อูบาขิ่น-โกเอ็นก้าจะต่อท้ายการปฏิบัติธรรมด้วยการแผ่เมตตาสั้นๆให้สรรพสัตว์มีความสุขและหลุดพ้นทั่วกัน สำนักวัดป่าของไทยสืบทอดวิธีปฏิบัติแบบจตุรารักขกรรมฐานซึ่งมีเมตตาภาวนาเป็นหลักประการหนึ่ง จึงมีการเจริญเมตตาพรหมวิหารเป็นปกติและอาจมีการใช้บทแผ่เมตตาที่ยาวหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโมกำหนดตารางเวลาให้พระภิกษุเดินจงกรม ไหว้พระ เจริญเมตตาพรหมวิหารแล้วต่อด้วยสมาธิภาวนาปฏิบัติในช่วงเช้ามืด ก่อนจำวัดหัวค่ำและอีกครั้งหลังเที่ยงคืน

    สำนักสมถวิปัสสนาที่สืบทอดมาจากกรุงเก่ามีการแผ่เมตตาท้ายการภาวนา หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญแห่งวัดสะแกสอนให้แผ่เมตตาเมื่อถอนออกจากสมาธิแล้วต่อด้วยการพิจารณาธรรม หลวงพ่อฤๅษีฯแห่งวัดท่าซุงก็แนะนำอย่างเดียวกัน การแผ่เมตตาจึงกระทำได้ตลอดเวลาและในทุกระดับสมาธิ การสวดบทแผ่เมตตาเป็นบริกรรมภาวนาเกิดขณิกสมาธิการแผ่เป็นการน้อมจิตให้กระจายออกไปซึ่งช่วยประคองสมาธิ เมตตาภาวนาที่หยั่งลงในจิตจะเกิดอัปปนาสมาธิ เมตตาพรหมวิหารปกติเจริญได้ถึงรูปฌาน เมตตาจิตที่มีความสงบมากและหลุดพ้นจากความพยาบาทคือเมตตาเจโตวิมุติ การแผ่ออกไปอย่างไม่มีประมาณและตลอดโลกจะเป็นเมตตาอัปปมัญญา จิตสงบถึงอรูปฌาน ยิ่งเมตตาจิตเกิดในสมาธิที่สูงและห่างจากกิเลสเมตตาจิตที่แผ่ออกไปก็ยิ่งส่งผลมาก

    จิตที่เป็นเมตตาเจโตวิมุติเป็นจิตที่มีเมตตาสูงยิ่งจิตสงบถึงฌาน การแผ่เมตตาออกไปอย่างไม่จำกัดย่อมมีอานิสงส์สูงมากเมตตาในระดับของความนึกคิดและการสวดบริกรรมไม่อาจเทียบเท่าในเมตตาสูตร อานิสงส์ของเมตตาภาวนามีระบุไว้ 11 ประการ ได้แก่ 1หลับเป็นสุข 2ตื่นเป็นสุข 3ไม่ฝันร้าย 4เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย 5เป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลาย 6เทวดารักษา 7ไฟ ยาพิษหรือศัสตราไม่่กล้ำกราย 8จิตตั้งมั่นได้เร็ว 9สีหน้าสดใส 10ไม่หลงลืมสติตาย 11ถ้ายังไม่บรรลุอรหัตตผลย่อมเข้าถึงพรหมโลก เมตตาภาวนาจะให้อานิสงส์ทั้งหมดนี้ได้ตามกำลังของการปฏิบัตินั้นๆ ความรับรู้ถึงอานิสงส์ของเมตตาจะมีประโยชน์มากต่อพฤติกรรมของบุคคลและสังคม เมตตาเป็นความปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขและไม่อยู่ในกองทุกข์เช่นไม่มีทุกข์โศกโรคภัยเป็นต้นนี้รวมไปถึงความปรารถนาให้สรรพสัตว์สามารถหลุดพ้นด้วย เมตตาจิตไม่มีพยาบาทในสมาธิมีแต่ความสุขความปรารถนาดี การแผ่ออกไปย่อมได้รับความสุขความปรารถนาดีทั่วกัน
    - ส่วนแรกเป็นความรู้สึกที่มีความสุขผู้แผ่จึงย่อมหลับเป็นสุขตื่นเป็นสุขและไม่ฝันร้าย
    - ส่วนที่สองมาจากผลสะท้อนกลับของความรู้สึกทางบวกที่ผู้อื่นได้รับโดยปกติจะมีปฏิกิริยาในทำนองเดียวกัน ความมากน้อยขึ้นอยู่กับคุณภาพจิตของตนและผู้คนที่เกี่ยวข้องว่าเป็นอย่างไร
    ผู้ที่มีเมตตาจะไม่ประทุษร้ายและจะไม่ใช้ให้ผู้ใดกระทำสิ่งนั้นแทนตน เมื่อถูกให้ร้ายหรือทำร้ายก็ไม่ให้ร้ายหรือทำร้ายตอบโอกาสของความรุนแรงจึงลดลง เมื่อผู้ใดมีเมตตาผู้ที่เกี่ยวข้องก็จะได้รับบรรยากาศแห่งความสุขซึ่งเท่ากับช่วยรักษาอารมณ์ของผู้อื่นในขณะเดียวกัน

    กระแสของเมตตาทั้งในระดับของจิตและพฤติกรรมที่สืบเนื่องกันจึงมีผลต่อความสัมพันธ์ทางสังคม สังคมรอบข้างย่อมมีความสุขสงบและมีมิตรไมตรีตามไปด้วย เมตตารวมทั้งความกตัญญูเป็นความดีงาม การภาวนาที่ระลึกถึงเมตตาและกตัญญูจึงเป็นสุภกรรมฐาน การแผ่เมตตาเริ่มที่มารดาบิดาและผู้มีพระคุณก่อนผู้ใกล้ชิดและผู้อื่นจากนั้นจึงขยายวงออกไปทั้งประเภทบุคคลและสัตว์โลกที่มองไม่เห็นจิตที่ปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขและพ้นทุกข์นั้นย่อมเป็นที่สรรเสริญแม้ว่าเทวดาและอมนุษย์จะมิได้จัดอยู่ในภพของมนุษย์ซึ่งโลกสมัยใหม่ถือเป็นเรื่องเหนือจริง การแผ่เมตตาต่อเทวดาและอมนุษย์ก็จะช่วยให้รู้สึกมั่นคงปลอดภัยและไม่หวาดระแวงเทวดาและอมนุษย์ที่รับรู้ได้ย่อมมีสาธุการด้วย พระพุทธองค์ตรัสว่าผู้ที่เจริญเมตตาเจโตวิมุติจะเป็นผู้ที่อมนุษย์กำจัดได้ยาก สำหรับความศรัทธาเรื่องเทวดาและอมนุษย์บางรายมีจิตที่โลดโผนอาจมีประสบการณ์ทางจิตที่โลดโผนตาม ยากที่จะบอกได้ว่าสิ่งที่สัมผัสนั้นจริงหรือไม่อย่างไรเพราะเป็นประสบการณ์และการตีความเฉพาะบุคคล อย่างไรก็ตามบุคคลจำนวนมากมักส่งจิตออกไปเห็นสิ่งที่ไม่มีบ้างสัมผัสสิ่งที่พิเศษจริงเช่นกลิิ่นหอมประณีตเป็นต้น การสัมผัสนี้มาจากจิตที่สงบ ย่อมไม่อาจมาจากจิตที่กังวลสงสัย การแผ่เมตตานั้นเป็นการสละสุขให้สัตว์โลกอย่างเสมอกัน จึงไม่ควรติดใจว่าเทวดาและอมนุษย์อย่างเช่นนักสิทธิ์วิทยาธรเปรตหรืออสุรกายมีจริงหรือไม่และจะรับกระแสจิตได้อย่างไร สมัยหนึ่งพระพุทธองค์ตรัสแก่พระมาลุงกยบุตรว่าเมื่อต้องลูกศรมีพิษพึงมุ่งรักษา ไม่มัวถามว่าผู้ยิงมีวรรณะใด ผิวสีใด อยู่ที่ไหน เกาทัณฑ์เป็นเช่นไรหรือว่าตนต้องรู้จักลูกศรให้ดีเสียก่อน

    เมตตาภาวนาทำให้จิตเข้าถึงฌานจิตมีความสงบและความสุข ความปรารถนาดุจไฟความโลภดุจพิษและความโกรธดุจศัสตราย่อมเสื่อมดับในใจตน ร่างกายได้รับประโยชน์จากจิตที่พัฒนาไป ศัตรูได้เห็นไมตรีผู้ที่มีอารมณ์โกรธพยาบาทก็อาจรับรู้ถึงกระแสเมตตาของผู้อื่น ปฏิกิริยาที่เป็นความรุ่มร้อนการแก่งแย่งให้ร้ายและการโกรธแค้นก็จะเบาบางลงด้วย การแผ่เมตตาเป็นการน้อมจิตที่นำพาไปในสมาธิการปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอและมีการเจริญเมตตาร่วมด้วยจะทำให้จิตสงบไม่กังวลและตั้งมั่นได้อย่างรวดเร็ว ในพระสูตรมีกล่าวถึงผิวพรรณสีหน้าที่สดใสซึ่งชี้ว่าพุทธสาวกที่อยู่ในวิหารธรรมอันละเอียดปกติมีอินทรีย์ที่ผ่องใส ดังเช่นที่พระสารีบุตรทักพระโมคคัลลานะและพระอนุรุทธเป็นต้น เมตตาภาวนาเป็นภาคสมถะผู้ที่เจริญเสมอๆมักมีจิตที่สงบไม่เครียดและมีการพักผ่อนทางสมอง มีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบการเจริญเมตตาว่ามีผลที่ช่วยลดระดับของสารความเครียดในร่างกายและมีผลต่อความถี่ของคลื่นสมองซึ่งสัมพันธ์กับการพักผ่อนนอนหลับด้วย เมตตาจิตเป็นจิตแห่งความสุขจึงมีผลดีต่อร่างกายการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันนับว่าพบความสัมพันธ์นั้นบ้างแล้ว การไม่หลงลืมสติตายเป็นผลมาจากการเจริญภาวนาเกิดขึ้นในกระบวนการปฏิบัติทางจิตที่มีสติสัมปชัญญะ สติที่เท่าทันจะมีความสมบูรณ์มากขึ้นตามสมาธิจิตเมื่อถึงวาระสุดท้ายสติที่เท่าทันและสมบูรณ์จะช่วยให้จิตตั้งมั่น เมตตาจะทำให้จิตไม่เพ้อและจากไปด้วยความสุขสงบ

    หลวงปู่ทิวา อาภากโรกล่าวว่า ผู้ที่เจริญเมตตาเป็นประจำจะจากโลกไปโดยไม่ทุกข์ไม่แย้งกับความตายการยอมตายที่มีจิตลึกจะไปเกิดในสวรรค์ชั้นสูง ถ้าปฏิบัติไม่ถึงนิพพานก็ไปพรหมโลก ถ้าสมาธิไม่ถึงก็ไปสวรรค์ท่านแนะนำว่าเมตตาภาวนาเป็นบารมีที่ต้องสร้าง ในอนุรุทธสูตรพระอนุรุทธตอบคำถามพระเถระเรื่องเทวดามีรัศมีแตกต่างกันว่าเป็นเพราะเมื่อครั้งเป็นมนุษย์มีการน้อมใจแบบมหัคคตะที่แตกต่างกันในความบริสุทธิ์และขอบเขตของการแผ่เมตตาอัปปมัญญาเป็นการแผ่ที่สามารถพาจิตผ่านรูปฌานไปจนถึงอรูปฌานที่ 2 ถ้าเจริญถึงขั้นอุเบกขาอัปปมัญญาซึ่งไม่ทุกข์ไม่สุขหรือว่างจากอารมณ์ของเมตตาก็จะพาจิตไปถึงอรูปฌานที่ 3 จิตที่อยู่กับรูปฌานและอรูปฌานเป็นการเข้าถึงรูปพรหมและอรูปพรหม พรหมเป็นชั้นต่างๆของจิตที่สูงและละเอียดกว่าภพภูมิของเทวดาถ้าปฏิบัติไปยังไม่ถึงขั้นบรรลุธรรมจิตจะอยู่ที่ภพของพรหมซึ่งมีชั้นพรหมสุทธาวาสสำหรับพระอนาคามี แม้ยังไม่ถึงวาระสุดท้ายของชีวิตความสุขอันประณีตจะเกิดกับตน ความหอมแห่งเทพและพรหมที่ไม่เคยสัมผัสได้ก็จักได้สัมผัส ความรับผิดชอบและอริยทรัพย์ที่ไม่เคยรู้จักจะได้รู้จัก..เมตตามหานิยมที่ให้เท่ากับเมตตามหานิยมที่มี


    557000001349001.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    พรุ่งนี้ติดตามพูดคุยกันนะครับ

    เดี๋ยวต้องทำความเข้าใจเรื่องเลี่ยมพระกันก่อนนะครับ ไม่อยากโดนบ่นและไม่อยากให้ไม่พอใจกันเพราะจริงๆผมไม่ได้รับเลี่ยมแต่หลายท่านอยากฝากให้เลี่ยม เพราะช่างเค้าทำให้ถูกจะองค์เท่าโทรศัพท์ดอโฟนรึเล็กเท่าเม็ดฟักทองเขาก็เอาร้อยเดียว ซึ่งเรื่องเลี่ยมก็จะดำเนินการเลี่ยมให้เป็นปกติ

    หากสังเกตุเรื่องที่ผมส่งของจะเห็นว่าโอนมาผมก็เว้นวันสองวัน อันนี้อยากให้ทำความเข้าใจกันเพราะมีหลายท่านฝากเลี่ยมบางทีก็หลายรายการอย่างน้อยเราก็นั่งแท้กซี่ไปกลับเพื่อไปเลี่ยมให้โดยเฉพาะและยังต้องหาอะไรทำนั่งรอจนกว่าจะถึงคิวแล้วเค้าเลี่ยมเสร็จ

    ซึ่งผมยอมให้ตรงนี้เพราะพี่หลายๆคนบ่นว่าหาร้านเลี่ยมพระยากที่วันสองวันสามวันผมจะส่งของทีก็ติดที่เรื่องนี้ ผมก็เลยจะรวมยอดที่ฝากเลี่ยมให้ได้สี่ห้าองค์แล้วไปเลี่ยมทีเดียวทุกครั้ง ตรงนี้ต้องทำความเข้าใจกันนะครับเพราะแม้แต่คนเลี่ยมเค้ายังถามผมเลยว่าคุ้มหรอค่ารถไปกลับสองร้อยกว่าบาทมาเลี่ยมทีละองค์เค้าเลยให้รวมมาได้หลายๆองค์ค่อยมาเลี่ยมทีเดียวเพราะเค้าบอกว่าเกรงใจผมเราก็อยู่ไกล และค่ารถผมก็ไม่เคยคิดกับใครเลยแม้แต่คนเลี่ยมพระเค้ายังบอกว่าให้บวกค่ารถไปในค่าเลี่ยมพระเลยเค้าว่าเค้าเห็นใจให้บอกคนอื่นว่าเค้าขึ้นราคาค่าเลี่ยมไปก็ได้แต่อันนี้ถ้าใครฝากเลี่ยมกับผมจะรู้ดีว่าไม่ว่าไซด์ใหญ่หรือเล็กอย่างไรก็ราคาเดิมคือร้อยเดียวผมไม่เคยบวก

    ซึ่งตรงนี้ผมยอมทำให้แล้วก็อยากจะแจ้งว่าในกรณีที่รวมยอดและไปเลี่ยมแล้ว อยู่ดีๆฝากเลี่ยมมาโดดๆองค์เดียวหรือบอกว่าผมรอได้อะไรแบบนี้ซึ่งผมเพิ่งไปเลี่ยมให้มาอันนี้ก็จะขออนุญาติคืนเงินไปนะครับเพราะเราต้องยอมรับว่าจังหวะที่ผมรอให้โอนมาพร้อมๆกันแล้วออกไปให้ทีเดียวเราไม่โอนมาให้ตรงกับคนอื่นเขา ทีนี้ถ้าใครถามจะรู้ได้ไงว่าผมไปเลี่ยมให้เมื่อไหร่ อันนี้คนที่ฝากเลี่ยมกันผมเชื่อว่าเค้าดูออกโคตรง่ายเลย ก็ช่วงที่เงียบไปวันสองวันนั่นแหละผมจะแวะไปดำเนินการณ์ต่างๆให้ ..โอเคนะอย่าบ่น อย่าน้อยใจถ้าผมส่งตังคืนในบางครั้ง ต้องยอมรับว่าผมนั่งรอรวมยอดให้พร้อมกับคนอื่นอยู่แล้วแต่ในบางทีท่านอาจจะโอนมาเวลาคลาดกันไม่ตรงกันอะไรแบบนี้ผมก็จะคืนไป เรียนทำความเข้าใจกันสบายๆนะครับผมก็เกรงใจเวลาหลายคนบ่นๆเรื่องเลี่ยมบางทีก้ต้องดูด้วยว่ากำหนดผมส่งของจะวันนี้แล้วท่านเพิ่งโอนมาแน่นอนว่าไม่ทันเลี่ยมแบบนี้

     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลสนองศรัทธานาราซิมฮา(เทพวิญญาณมหาโจรจ้าวโลก)

    *** เทพพยนต์ ที่เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความศรัทธาทั้งมวลของผู้บูชา ...ดั่งว่าองค์นรสิงห์นั้นเป็นอวตารปางเดียวของพระเป็นเจ้าที่อุบัติมาเพื่อสนองศรัทธาสาวก

    *** เทพพยนต์ ที่มีอำนาจร้ายกาจมีฤทธิ์ฉกาจฉกรรจ์ ดั่งองค์นรสิงห์ที่แม้แต่หิรัณยกศิปุผู้อมตะสามารถเอาชนะหกภพสถาปนาตนเองขึ้นเทียมพระเป็นเจ้ายังสามารถสังหารได้โดยง่าย

    *** เทพพยนต์ ที่พ่ออาจารย์ท่านขออนุญาติองค์นารายณ์สร้างขึ้น..เพื่อเป็นเครื่องราง..และใช้เป็นผู้รับใช้โดยเฉพาะ

    *** เทพพยนต์ ที่สร้างขึ้นให้มีกำลังดั่งองค์นรสิงห์ผู้ปราบปราบทุกข์เข็ญให้ราบคาบ ผนวกกับวิชาสายมหาโจรที่ปรารถนาจะลักโชค..โขมยดวง..โขมยใจ..โขมยสมบัติ..ปรารถนาสิ่งใดก็โขมยมาได้ด้วยท่านว่าไม่มีสิ่งไหนที่มหาโจรจะนำมาไม่ได้ แม้สิ่งที่ปรารถนาไม่ใช่ของเรา..ไม่เกี่ยวข้อง..ไม่สัมพันธ์กับเรา..หากปรารถนาแล้วไซร้ย่อมได้ครอบครอง

    *** เทพพยนต์ ที่สร้างด้วยวิชามหาโจรและยังมีฤทธิ์ดุจองค์นรสิงห์ผู้เป็นจ้าวโลก เช่นนั้นจึงเป็นเทพวิญญาณมหาโจรจ้าวโลกผู้ที่มีสิทธิเหนือทุกสิ่งในโลกและยังเป็น..บริวารที่สนองตอบต่อคำสั่ง..สนองตอบต่อแรงศรัทธาของเรา

    *** เทพพยนต์ วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจะแรงแค่ไหนไม่ได้ขึ้นอยู่กับคาถาที่เอาไปท่อง จะลักโชค..จะปรารถนาขุมสมบัติ..หรือวาสนาใดๆใหญ่เกินตัวแค่ไหนไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งใดๆเลยนอกจากความศรัทธา..เธอศรัทธามากเขาก็มีกำลังมากนำความปรารถนาใหญ่โตมาให้สำเร็จเพียงลัดนิ้วมือเดียว ..ถ้าเธอศรัทธาน้อยผลที่จะได้ก็น้อยลง..ยิ่งศรัทธามากยิ่งได้ผลมาก..ยิ่งศรัทธาโดยไร้ข้อสงสัยกังขายิ่งนำมาซึ่งบุญวาสนาในความปรารถนาอันเกินชะตาตนเอง

    *** เทพพยนต์ ที่สนองตอบต่อความศรัทธาของผู้บูชาเพียงเท่านั้นดั่งบริวารที่ต้องการเพียงความเชื่อใจจากผู้เป็นนาย ดั่งทหารเอกที่จะคอยดูแลเป็นเพื่อนร่วมชีวิตกันตลอดไป พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์นาราซิมฮานั้นมีฤทธิ์และอาถรรพ์ร้ายกาจเกินกว่าพระนารายณ์ทุกปาง...ถ้าพูดถึงความดุ..ความเด็ดขาด..และกำลังฤทธิ์แล้วแม้ร่างต้นอย่างพระวิษณุนารายณ์ก็หาได้มีมากไปกว่าท่าน

    พยนต์เทพวิญญาณมหาโจรจ้าวโลกนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นรูปที่มีอาถรรพ์มากที่สุดนอกจากมีฤทธิ์รุนแรงสร้างปาฏิหาริย์ได้เร็วทันทีแล้วยังเป็นปางพิเศษที่อุบัติมาเพื่อสนองศรัทธาสาวก ### พ่ออาจารย์ท่านจึงถือเป็นเคล็ดว่านาราซิมฮานี้หากมีศรัทธาแล้วแม้ปรารถนาสิ่งใดท่านย่อมสนองตอบทุกสิ่ง ทั้งยังเป็นของสูงที่สร้างได้ยากด้วยผงมวลสารต่างๆนั้นพ่ออาจารย์ท่านใช้ของแรงๆที่ต้องบริสุทธิ์และมีฤทธิ์ทั้งนั้นมาทำ

    หุ่นเทพวิญญาณ(พยนต์)ออกศึก
    พ่ออาจารย์ท่านละเมียดละไมกับการทำพยนต์เทพวิญญาณอย่างมากท่านว่า
    ด้วยพยนต์นั้นมีหลายสายหลายแขนงหลายประเภทจะผูกขึ้นทำอะไรก็อยู่ที่เจตนามีทั้งหุ่นที่ใช้ทางเมตตาให้คนเอ็นดูเรา,หุ่นที่ใช้ทางเสน่ห์เรียกคนมารักเรา,หุ่นที่ใช้ทางโชคลาภให้เขาหาเงินเปิดทางธุรกิจให้เรา,หุ่นที่ใช้ทางคุ้มครองให้เขาป้องกันสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นและเป็นอันตรายกับเรา,หุ่นที่ใช้ทางอำนาจเพื่อปกครองบริวารและทำให้ผู้อื่นครั่นคร้ามหวาดเกรงเรา,หุ่นตัวครูผู้เป็นหัวหน้าของบรรดาพยนต์ทั้งหลายดุจนายทัพที่คอยคุมบริวาร,หุ่นนารายณ์ที่มีฤทธิ์อำนาจดั่งเทวดามีรัศมีดั่งไฟประลัยกัลป์...หุ่นเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเราก็เคยทำมาทั้งสิ้นแล้วแต่เมื่อจะทำเทพวิญญาณนาราซิมฮานั้นท่านว่าจะลงเป็นแค่พยนต์นารายณ์เฉยๆก็กระไรอยู่ท่านจึงรวมลงไว้ทุกศาสตร์ของการทำหุ่นวิชาเพื่อจะให้รวมเข้ากับวิชาสายมหาโจรทำให้เป็นยอดหุ่นที่เก่ง..และทำเป็น..เอามาได้..ในทุกอย่างที่เราปรารถนา ดั่งว่านาราซิมฮานี้มีอำนาจแห่งพยนต์ทุกหมวดหมู่เป็นยิ่งกว่าหุ่นนายทัพดั่งพยนต์ที่ติดอาวุธทุกทางพร้อมสรรพ ### พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะใช้แล้วให้เลี่ยมเปิดหน้าเปิดหลังจะดีที่สุดเพราะพยนต์นี้แรงมากจริงๆควรพกแบบไม่เลี่ยมอะไรเลยเพราะเขาเน้นใช้งานจริงแต่หากจะเลี่ยมก็ควรเปิดหน้าหลังหรือฝั่งใดฝั่งหนึ่งไว้กันกรอบจะแตกในอนาคตเพราะกรอบแค่นั้นเอาเค้าไม่อยู่ฤทธิ์เขาเยอะ จะเน้นใช้ทางไหนก็บอกกล่าวได้ทั้งสิ้นทั้งยังเป็นตัวตายตัวแทนที่ไม่มีวันตาย(ด้วยจ้าวโลกนั้นเป็นอมตะ) ทั้งการทำหุ่นเทพวิญญาณนาราซิมฮานี้ยังเกี่ยวกับวิชาพยนต์นารายณ์ซึ่งสูงสุดแล้วในวิชาผูกหุ่นแต่พ่ออาจารย์ท่านว่ายังมีที่เหนือกว่าก็คือการทำพยนต์ในอวตารของพระเป็นเจ้าหรือนาราซิมฮาอย่างพยนต์เทพนรสิงห์นี้ ถือเป็นเทพวิญญาณที่ปราบไตรภพได้ราบคาบจึงอาจเรียกได้ว่าทรงไตรภพทั้งยังเป็นปางสนองศรัทธาคืออุบัติเพราะคำอ้อนวอนของผู้ภักดีเป็นปางที่ทรงอำนาจแบบเหมาะสมต่อการสนองศรัทธาที่สุด...ลำพังหุ่นออกศึกก็น่ากลัวฤทธิ์เยอะแล้ว..หุ่นนาราย์ปางนาราซิมฮาออกศึกฉีกร่างศัตรูแบบนี้ยิ่งดุกว่าฤทธิ์เยอะกว่าไปอีกไกลมากๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าของแบบนี้ไม่ใช่ดุแล้วจะไม่ดีแต่นี้เขาดุแล้วให้คุณยิ่งดุมากยิ่งช่วยได้มาก ยิ่งดุมากฤทธิ์ยิ่งเยอะมากแรงครูสูงมาก ท่านว่าถ้าจะเอาพยนต์ที่เป็นดั่งคนปัญญาอ่อนทำอะไรไม่ได้เดินเล่นวิ่งเล่นหาประโยชน์อะไรไม่ได้แบบนั้นก็ไม่ต้องเอานาราซิมฮานี้ไป เพราะพยนต์ออกศึกถือว่าเป็นพยนต์ที่ทรงศักดิ์สูงสุดกว่าสิ่งใดแถมเป็นเทพวิญญาณนาราซิมฮาออกศึกแบบนี้แน่นอนว่าย่อมเข้าไปเสริมสิ่งที่เรียกว่า"ศักดิ์"ทั้งหลายของผู้ใช้งาน ทั้งศักดิ์ฐานะยศศักดิ์การเข้าถึงความเป็นใหญ่ทั้งหลายสรุปรวมไปที่นี่หมด พ่ออาจารย์ท่านเผยเคล็ดว่าแม้ครุฑเป็นของสูงนะแต่หุ่นนาราซิมฮาเหยียบครุฑได้เช่นนั้นย่อมอยู่เหนือกว่าอำนาจใดในโลกทั้งหมด

    หุ่นเทพวิญญาณออกศึกฉีกร่างศัตรูแบบนี้เป็นหุ่นที่จัดอยู่ในประเภทที่ทรงอิทธิฤทธิ์สูงสุดแล้วในไสยเวทย์(ทั้งเกตุได้ว่าที่ผ่านมาพ่ออาจารย์ท่านทำหุ่นหลายลักษณะแต่ท่านไม่แตะหุ่นออกศึกเลยเพราะอาถรรพ์สูงและในชีวิตท่านทำหุ่นนาราซิมฮาอันมีเกียรติยศสูงสุดไว้แล้ว ท่านจึงถือว่าจะไม่ทำหุ่นออกศึกใดๆอีก) ด้วยเป็นวิชาที่แรงครูสูงให้ผลแรงด้วยอำนาจสูงสุดของพระเป็นเจ้าสูงสุดผู้ที่ใกล้ชิดมนุษย์คอยปกปักรักษาคอยสนองศรัทธาผู้ภักดีคอยจัดการสิ่งเลวร้ายเพื่อรักษาสมดุลย์แห่งธรรม พ่ออาจารย์ท่านว่าหุ่นเทพวิญญาณนั้นมีคุณสูงใช้กันแก้สิ่งเลวร้ายที่จะเข้ามายุ่งยากกับเราได้ทั้งหมดแบบชะงัดนักปรารถนาสิ่งใดจะสำเร็จ"แบบนารายณ์ดั้นเมฆ" นี่คืออาถรรพ์ลับในนาราซิมฮาท่านว่าลงหนนี้ต้องลงครบสูตรนารยณ์ทั้งหมดแตกแขนงไปทั้งผงวิชาคุมทัพเบื้องซ้ายเบื้องขวาดั่งพยนต์ครูเช่นนั้นท่านจึงว่าทำยากเพราะกว่าจะได้ผงแต่ละอย่างไม่มีใครเขามานั่งลบแล้ว เพื่อให้หุ่นนี้มีอำนาจทุกสิ่งกลายเป็นนักรบผู้พิทักษ์เราพอกดพิมพ์ได้ก็ต้องพลีกรรมนำหุ่นถวายพระวิษณุเจ้าจนครูพระวิษณุเจ้าเบื้องบนท่านอวตารอุบัติเป็นเทพวิญญาณนาราซิมฮาถึงพร้อมไปด้วยอาการสามสิบสองเกิดฤทธิ์สูงเกินกว่าหุ่นวิชาทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าหุ่นนี้พกใส่กระเป๋ากางเกงก็ได้เพราะทำขึ้นในฐานะบริวารแต่ให้เน้นพกติดตัวอย่าเอาไปวางไว้เฉยๆ เพราะเมื่อติดตัวเราไว้เขาจะรองรับสิ่งไม่ดีทั้งหลายดั่งเป็นตัวกรองเอาแต่สิ่งดีๆเรื่องดีๆมาหาเรา เป็นหุ่นที่เน้น..ให้คุณ ไม่มีโทษใดๆเพราะไม่ได้สร้างขึ้นจากพรายผีหากแต่เป็นกำลังเทพเจ้าทั้งสิ้นนำติดตัวไปได้ทุกที่ไม่มีข้อห้ามไม่มีความเสื่อมใดๆ ทั้งพ่ออาจารย์ท่านยังได้ทำการทดลองใช้ด้วยตนเองว่าเกิดผลจริงมากมายหลายลักษณะจนท่านยอมรับว่าแรงและเร็วดังใจด้วยใช้สนองศรัทธาดั่งเทพวิญญาณแต่ทำงานเป็นบริวารเหมือนพยนต์จะเรียกว่าเป็นพยนต์สายเทพก็ได้ท่านว่ามันไม่ใช่แค่เอาไว้กันภูติผีปีศาจป้องกันคุณไสยเหล่านี้ แต่หากติดตัวเอาไว้จะเปรียบได้กับมีเทพนักรบคอยปกป้องคอยป้องกันเราจากสิ่งที่คาดไม่ถึงทั้งหลายในชีวิต
    *** วิธีใช้ ท่านว่าให้นำเทพวิญญาณนาราซิมฮานี้ไปวางไว้บนศรีษะแล้วสังเกตุอาการตัวเอง หากรู้สึกปวดหรือเจ็บตามส่วนต่างๆของร่างกายทันทีนั่นคือมีสิ่งไม่ดีแฝงอยู่อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เราเจ็บป่วย..ทำให้ชีวิตเราพังพินาศ...เป็นคุณผีคุณไสยที่เราไปต้องไปโดน ท่านว่าแก้ได้ง่ายๆก่อนจะนอนก็ให้เอาเทพวิญญาณนาราซิมฮาวางไว้บนหน้าผากทำไปเรื่อยทุเลาสิ่งเหล่านี้มันจะทุเลาเบาบางและหายไปจากร่างกายเราเอง..เช่นนี้เรียกว่าหมดปัญหาทั้งหลายขจัดสิ้นถึงต้นตอย่อมกลับมาซ้ำมาทำลายเราอีกไม่ได้
    ทั้งการที่เราเอาเทพวิญญาณนาราซิมฮานี้ไว้เหนือศรีษะนอกจากจะปัดเป่าสิ่งผิดปกติทั้งหลายในตัวเราแล้ว
    เขายังจะช่วยบอกเหตุเภทภัยอาถรรพ์อาเพศทั้งหลายที่จะเกิดจะมีขึ้นแก่เราทั้งสิ้น หากเรามีศัตรูคิดร้ายหมายทำลายเราอยู่จะเป็นคนก็ดี..จะไม่ใช่คนก็ดีสิ่งเหล่านั้นจะโดนสะกดด้วยมายาให้หวาดกลัวและเลิกตามตอแยเราทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานใช้เถอะตามสะดวกทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ

    เพราะหุ่นเทพวิญญาณนั้นมีความลึกซึ้งและมีขั้นตอนการสร้างพิศดารด้วยต้องพลีกรรมแก่พระวิษณุเจ้าจึงต้องใช้เครื่องเซ่นสังเวยให้ครบถ้วนพ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำให้ดีก็ต้องลงทุนมากแต่ท่านก็ทำตามลำดับขั้นไม่ข้ามขั้นตอนเพื่อให้ออกมาดีที่สุดจริงๆนับได้ว่าเป็นวาสนาของคนที่ชอบวิชาหุ่นสายขาวสายเทพแบบแรงๆซึ่งไม่เกี่ยวกับพรายกับผีที่จะได้ครอบครองหุ่นในหมวดนารายณ์ออกศึกที่เหนือกว่าหุ่นอื่นๆ ทั้งท่านยังทำจำนวนน้อยเพื่อฝากไว้เป็นตำนานทำเพื่อให้รู้ว่าครั้งหนึ่งท่านก็เคยสร้างเอาไว้สร้างเพื่อเน้นการอุบัติขึ้นของเทพวิญญาณนารายณ์ออกศึกนาราซิมฮาผู้มากตบะฤทธิ์ พ่ออาจารย์ท่านได้รวบรวมมวลสารว่านยาทั้งหลายมารวมกับผงมหาธาตุ,ผงวิชาคชสาร,ราชสีห์,คชสีห์เข้าด้วยผงรกช้าง,ไคลเสาตะลุงช้าง,แร่อาถรรพ์ที่อยู่กลางปราสาทเก้านคร....แต่ที่เด็ดขาดที่สุดคือผงเทพวิญญาณนาราซิมฮาเพราะท่านต้องหาต้องหารวบรวมและซื้อเขี้ยวเสือร้อยแปดเขี้ยวมาบดเป็นผงดุจแป้งสาลีตั้งแต่โคร่ง,ไฟ,ลายเมฆ,ดาว,ดำพ่ออาจารย์ท่านว่าทั้งหาเองทั้งขอซื้อเขาสะสมไว้เพื่อทำนาราซิมฮานี้หนเดียวด้วยตัวท่านเป็นจ้าวแห่งสัตว์เป็นราชาแห่งโลกจึงต้องสร้างจากวัตถุทนสิทธิ์มีฤทธิ์ในตัวของสัตว์ที่ดุที่สุดถึงร้อยแปดแทนอาถรรพ์บารมีครูทุกชั้นฟ้าทั้งร้อยแปดพระองค์ นำผงเขี้ยวนั้มาปั้นเป็นแท่งชอล์คเขียนลบผงลงวิชาผูกหุ่นจุติปฏิสนธิไปตามกลบทนารายณ์ทีละตัวๆจนชักรูปลงธาตุปลุกขันธ์วิญญาณนารายณ์ซิมฮาหรือนรสิงห์มหาปราบจึงจะใช้ได้ นอกจากนี้ยังต้องนำมาเข้ากับผงแก้วตาเสือผงหัวใจเสือและว่าทางมหาอำนาจอย่างที่สุดอีกด้วยอีกด้วยจึงจะแรงเป็นที่สุด(ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านใส่ขวดบรรจุไว้เป็นดั่งหัวใจนาราซิมฮา) พ่ออาจารย์ท่านว่าสร้างพยนต์เทพวิญญาณตัวนี้ขั้นตอนยุ่งยากและค่าใช้จ่ายสูงถามแค่ว่าผงเขี้ยวเสือแท้ๆเหล่านี้ที่อื่นเขาขายกันเป็นกรัมนะของมันมีราคาสูงเช่นนั้นท่านจึงว่าใครได้เครื่องมงคลชิ้นนี้นับว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเพราะถือว่าได้ของเกินราคามากๆที่เราพากเพียรสร้างขึ้นมาให้ใช้ทั้งยังแก่ด้วยมวลสารทำให้สร้างได้จำนวนน้อย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเทพวิญญาณนี้ดีทุกทางเพราะท่านทำตะกรุดวิชามหาโจรคุมทัพไว้ดุจเป็นหัวใจเทพพยนต์อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งแม้ตัวตะกรุดนี้ยังทำขึ้นจากตะกั่วขอมโบราณพันปีที่นำมาลงถมคลี่เป็นแผ่นยาวตีตารางลงอักขระด้วยมือทั้งสองด้าน(จะเห็นว่ายากและนานมากๆกว่าที่พ่ออาจารย์จะเอาตะกรุดลงถมตะกั่วขอมโบราณมาฝังอะไรซักรุ่น ทั้งหนาๆดอกเขื่องๆแบบนี้แยกขายก็ตกสี่พันแน่นอน) แต่ท่านเอามาฝังให้เพื่อให้เทพวิญญาณเอาได้ทุกสิ่งที่เราปรารถนาดุจดั่งมหาโจรที่ประสงค์สิ่งใดของใครก็ช่วงชิงเอามาได้ทั้งจะเป็นบริวารอันภักดีที่สุด ท่านว่าหุ่นในหมวดนารายณ์ออกศึกฉีกร่างศัตรูแบบนี้มีอาถรรพ์แรงกล้าปกติไม่มีใครเขาทำให้ใช้กันหรอกแม้ชีวิตเราก็ทำได้เพียงครั้งเดียวเพราะมวลสารแบบนี้...ไม่บ้าพอตัวก็ทำไม่ได้

    คาถาบูชา(ถ้าใจสื่อใจแล้วคาถาจำยากท่านว่าไม่ต้องท่องก็ได้)
    อุกกรัมเวดัม มะฮาวิชชะณุมสะรันตัม สะระวะโตมุกคัม นาราซิมฮัม ธีชานาม มะภรัตตรัม บริตจูรึ บริตจุม นะมามีอะฮัม


    ### นานๆซักครั้งหนึ่งที่พ่ออาจารย์จะทำวิชาสายมหาโจร...แต่ที่เหนือไปกว่านั้นท่านได้นำวิชามหาโจรนี้มาผนวกกับเทพวิญญาณผู้เป็นจ้าวโลกสามารถสงบระงับดับปัญหาได้ทุกสิ่ง เมื่อเป็นมหาโจรจ้าวโลกนั้นแน่นอนว่าทุกสิ่งในโลกนี้ย่อมไม่มีสิ่งใดเกินอำนาจพระเป็นเจ้าจะนำมามอบให้เพราะวิชามหาโจรนี้...ท่านว่ามัน เอา ! ได้ทุกอย่าง

    ### ทั้งอาถรรพ์ร้ายแรงในองค์นาราซิมฮายัง
    ใช้กำจัด..ขจัดศัตรูเสี้ยนหนามชีวิตให้สูญหายอย่างเด็ดขาด ชีวิตที่มีหมู่มารไพรีคอยขวางจะคิดจะทำอะไรก็มีแต่ศัตรูขวางไม่จบสิ้นสร้างความเดือดร้อนระคายเคืองแก่ตนเองจะมากบ้างน้อยบ้างก็ดี ชีวิตที่เจอแต่คนริษยา..คนอิจฉานินทา..คนนำโทษทุกข์มาให้ไม่หยุดหย่อนก็ดี นั่นแหละท่านปราบให้อริสูญหายราบคาบไปจากชีวิตทั้งสิ้น

    ###
    อาถรรพ์สามประการในเทพวิญญาณมหาโจรจ้าวโลกก็คือ..ปราบ...เปลื้อง...โปรด(ท่านว่าปราบเราบอกไปแล้วแต่เปลื้องกับโปรดนั้นยังบอกไม่ได้ แต่เธอก็คงพอเดาได้เพราะมันชัดเจนอยู่แล้ว)
    - ด้วยเป็นเทพวิญญาณที่ใช้เปลื้องความอัตคัดทุกข์ยากลำบากทั้งหลายเรียกว่าเป็นบริวารที่คอยสนับสนุนเราทุกทางเพื่อจะเปลื้องตัวปัญหาและความทุกข์ออกจากเราให้ได้อย่างหนึ่ง
    - ด้วยเป็นเทพวิญญาณที่จะคอยโปรดคือสนองศรัทธาในตัวเรายิ่งศรัทธามากยิ่งแรงมาก..ยิ่งศรัทธามากยิ่งให้คุณมากเพราะศรัทธานี้เป็นดั่งสะพานเชื่อมใจให้เทพวิญญาณสนองศรัทธาของเราได้ทุกอย่าง จะปัญหาใหญ่น้อยใดๆท่านว่าคาถาไม่ต้องท่องเลยขอแค่ใจเราศรัทธาเขายิ่งมากยิ่งเห็นผลมาก เห็นมั๊ยว่าใช้งานได้ง่ายเพียงนี้ดีกว่าท่องคาถาจำยากๆแต่ใจไม่ศรัทธามันก็ไร้ผลใดๆ แบบนี้นาราซิมฮาของเธอจึงแรงขึ้นเรื่อยๆ..แรงขึ้นได้อีกและได้อีกตามศรัทธาที่เป้นพลังใจไม่รู้จบของแต่ละคน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านพูดมากก็ไม่ได้ตามสไตล์ท่านเพราะว่ามันจะเป็นการชี้โพรงให้กระรอก ลำพังที่บอกกันอยู่นี้ก็ถือว่ามากเกินพอแล้วพยนต์แบบนี้เอาไว้รับศึก...ไม่ใช่ศึกที่ไหนหรอกแต่เป็นศึกชีวิต..ศึกในชะตาตน อย่าดูผิดคิดสั้นไปว่าจะไปรบกับใครสมัยนี้ม้อยู่เฉยๆคนยังให้ร้ายอยากรบกับเราเยอะแยะไปท่านว่าออกไปทำงานไปใช้ชีวิตใช่จะมีแต่มิตรภาพแน่นอนว่าเมื่อมีมิตรก็ย่อมมีศัตรูเช่นนั้นศึกชีวิตมันจะจบลงก็ต่อเมื่อเราสิ้นชีวิตนั่นแหละ ท่านว่าพยนต์เทพวิญญาณนาราซิมฮาเอาไว้รับศึกชีวิตเช่นนี้

    พ่ออาจารย์ท่านให้เปิดจองรายการนี้ก่อนที่จะลงรายละเอียดทั้งหมดท่านว่าของสิ่งนี้ดุจองครักษ์หานายรู้ใจ รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น แอบบอกว่าวิชาสายมหาโจรของท่านนั้นบางคนเคยนำไปใช้ยักยอกเอาเป้าหมายและความสำเร็จหรือของรักคนอื่นมาแล้วแต่ท่านบอกว่าที่ทำไปนั้นยังนับว่าเด็กๆเพราะตัวพยนต์มหาโจรหนนี้ไม่ใช่พยนต์ธรรมดาแบบนั้นหากแต่เป็นนาราซิมฮา...ผู้เป็นเจ้าโลกา

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลสนองศรัทธานาราซิมฮา(เทพวิญญาณมหาโจรจ้าวโลก) บูชา 4,000 บาท
    148928909-249460016657212-1008459468504909143-n.jpg 148561234-3679754075424587-5916964467371862004-n.jpg
    148906668-106239214735662-8187467146561019111-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2021
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    นาราซิมฮาปางนี้พ่ออจารย์ท่านเรียกของท่านว่าปางจับเหยื่อเพราะครูท่านให้แกะเป็นองค์นาราซิมฮาที่จับหิรัณยกศิปุพาดตักสังหารฉีกร่างกาย เช่นนั้นจึงเป็นพยนต์บริวารที่ใช้ในทางปราบปราบพิฆาตศัตรูอย่างร้ายแรงและดุเป็นที่สุด ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านพูดว่าปางจับเหยื่อขอให้ล๊อคเป้าเหยื่อจำหน้าไดแล้วไม่มีพลาด..ไม่ใช่ว่าจะใช้ให้ไปฆ่าเขาสังหารเขา..แต่ขึ้นชื่อว่าเหยื่อของเรา เราจะทำอะไรก็ได้
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,310
    ค่าพลัง:
    +17,480
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    รายการนาราซิมฮานี่คนถามกันมาทั้งคืนจริงๆเดี๋ยวผมทยอยตอบให้นะครับ เพราะเป็นพระพิมพ์ที่แปลกคือองค์นรสิงห์กำลังชำแหละร่างเทพอสูรหิรัณยกศิปุ เรียกว่านานๆจะมีเครื่องมงคลพิมพ์พิเศษแบบนี้ที่พ่ออาจารย์ท่านว่าอาถรรพ์ทางสนองความศรัทธาและทำลายศัตรูคู่อาฆาตรุนแรงมาก

    ส่วนรายละเอียดเดี๋ยวมาลงให้พรุ่งนี้นะครับวันนี้ขอเคลียร์เรื่องไหว้กับส่งของรอบสายให้วันนึงนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...