ร่วมทำบุญบูชา มงคลฟ้าบังตาปิดสัมพันธ์ชุดวณิพกสยบเซียน(ตกถังข้าวสารพ้นสัมผัสมาร) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    เรื่องปลดหนี้ที่ถามไว้ ติดตามพูดคุยกันวันพรุ่งนี้ห้ามพลาดนะ ;)
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    จากที่ถามมากันเมื่อวาน ท่านว่าถ้าเอาประสบการณ์ของที่คนเคยใช้ทวงหนี้กันได้ แล้วก็พวกเจ้าพ่อเจ้าแม่เงินกู้ชอบอาราธนาติดตัวกันก็ต้องจิ้งจกเก้าหางพญาฟันดะ หรือที่เรียกว่าจิ้งจกปลดหนี้กรรม แต่ของสิ่งนี้มีความเร้นลับอยู่ในตัวเองมาก ตอนเสกท่านว่าทุกอย่างก็ต้องใช้เคล็ดวิชาที่จะแก้อาถรรพ์ชีวิตคนมาทำทั้งสิ้น ดังนั้นจึงมีคุณมากมายไม่ใช่ดีเฉพาะเอาทวงหนี้ใครเฉยๆ

    ...จำกันได้หรือไม่ที่พ่ออาจารย์ท่านเคยเจอจิ้งจกเผือกหางใบโพธิ์ กางออกมาสวยงามถึงเก้าหางมาหลายวาระแล้ว ท่านว่าแต่เดิมนั้นเขาเป็นร่างจำแลงลงมาคอยสังเกตุดูศิษย์ขององค์ท้าวสหัมบดีบรมพรหม จะจิ้งจกที่ไหนก็ช่าง แต่ของท่านนั้น ท่านว่าเป็นจิ้งจกมหาพรหม ด้วยลงไว้เป็นสองลักษณะทั้งเชิญท่านมาและลงวิชาจิ้งจก พ่ออาจารย์ท่านว่าเชิญพระองค์ท่านและขออานุภาพท้าวสหัมบดีบรมพรหมให้นิรมาณกายมาช่วยเหล่าศิษย์

    มีจิ้งจกนี้ก็เหมือนอยู่ในสายพระเนตรของท่านเพราะเขาเป็นตัวแทนความรักความห่วงใยของท่าน ที่จำแลงกายคอยมาสอดส่อง ซ้ำยังมีกินไม่อดอยาก มีเสน่ห์เมตตาอย่างยิ่งตามสายวิชาจิ้งจก


    * ที่ยกมาเป็นเพียงคุณวิชาจิ้งจกเก้าหางคร่าวๆของพ่ออาจารย์ท่าน แต่สำหรับจิ้งจกตัวหัวโจก จ่าฝูง ติดอาวุธที่ลงอาถรรพ์พิเศษนี้ย่อมแตกต่างกันไปมากกว่านั้น ใครชอบสัตว์เทพหรือเครื่องมงคลพิเศษที่พิศดารและเป็นของในสายบารมีพ่ออาจารย์จริงๆต้องติดตามกันให้ดี

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2018
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่แมน EV 0224 6335 9 TH

    พี่ศิระ EV 0224 6336 2 TH

    พี่วิศณุกร EV 0224 6337 6 TH

    พี่ภาคภูมิ EV 0224 6338 0 TH

    พี่ธนากร EV 0224 6339 3 TH
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    - พูดคุยกันต่อรอบเย็นนะครับ

    หากใครยังจำได้ผมเคยลเรื่องจิ้งจกไว้ว่าเป็นยอดของดีที่คนมองข้าม เพราะเห็นมีประสบการณ์กับคนที่ได้ไปกันมากเหลือเกิน คิดดูเอาแล้วกันว่าเครื่องรางอะไรที่ระดับเจ้าพ่อเจ้าแม่เงินกู้จะวางใจเอามาอาราธนาใช้เอง อันนี้มันต้องเด็ดสุดๆจริงเค้าถึงวางใจใช้ได้ เพราะวันๆนึงเค้าต้องเดินตามทวงหนี้ลูกหนี้บุกบ้านเสี่ยงอันตรายไม่รู้พวกเบี้ยวหนี้จะโต้ตอบยังไง ปืนมันก็ไม่กลัว จะทวงหนี้แต่ละครั้งนี่แสนยากถึงขนาดเขาบอกว่าของเมตตาทำมาหากินธรรมดาใช้ไม่เห็นผลกันเลย แต่กับคนที่มีจิ้งจกของพ่ออาจารย์เค้าว่าอธิษฐานขอเอาบอกจิ้งจกว่าจะไปทวงใครนายไหนชื่ออะไรนึกหน้ามัน ลูกหนี้ไม่มีเบี้ยวเลย คนที่เบี้ยวๆทำตัวกร่างก็มือไม้อ่อนไหว้เราดีพูดกับเราดี คืนเราดีๆเฉยๆ

    ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านยังกล่าวว่าจิ้งจกของท่านไม่ได้มีดีอยู่แค่นั้น เพราะคนที่เค้าเอาไปใช้วันเดียวได้เมียถึงสี่ห้าคนก็มีเกิดขึ้นมาแล้วไม่รู้ว่าแบ่งเวลากันยังไง แน่นอนว่าปกติของวิชาจิ้งจกที่แก่อิทธิคุณสุดๆก็ให้ผลทางเรื่องเสน่ห์ชั้นยอด แปลว่ามันออกไปทางเสน่ห์ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย ที่ใช้ทำมาหากินเจริญก็มี นอกเหนือจากนั้นใครที่มีจิ้งจกพ่ออาจารย์อยู่กับตัว มีจิ้งจกพรหมนี้รักษา ว่ากันว่าชีวิตมักเป็นปรกติสุขดีไม่มีเรื่องวุ่นวายผ่านเข้ามากวนใจ ตรงนี้ท่านว่าไม่มีทุกข์จร... คนตาดีเขาบอกกันว่าแม้แต่เทพพรหมจะเข้าหาแอบแฝงผู้มีจิ้งจกพรหมคุ้มตัวยังต้องกะเด็นออกไม่สามารถทำอะไรร่างกายมนุษย์ผู้นั้นได้ เช่นนั้นผลของอำนาจเทพมิจฉาทิฏฐิ ปีศาจ อสุรกายภูติผีทั้งหลายนอกจากจะรังแกเราไม่ได้แล้วยังอยู่ห่างจากตัวเราอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าพวกมาดียังเข้าถึงยาก พวกจิตคิดไม่ดีนี่ร้อนเป็นไฟทีเดียว วิชาจิ้งจกของท่านนั้นมีอะไรที่แปลกและพิศดารเกินกว่าอำนาจพุทธคุณหรือเครื่องรางทั้งหลายอยู่มากนัก แต่ที่พิเศษสุดๆนั่นคือปลดหนี้กรรม

    นั่นเพราะจิ้งจกของท่านคือยอดสุดของวิชาจิ้งจก ซ้ำนานๆครั้งท่านถึงจะทำวิชาธรรมเก้าโกฏิประสิทธิ์ลงเครื่องมงคลใดๆด้วย เรียกได้ว่าหายากที่สุดก็ว่าได้ แต่จิ้งจกนั้นท่านกลับใช้วิชาธรรมเสริมไว้ด้วย กล่าวได้วาแค่ได้เห็นก็จี๊ดแน่นอนสำหรับคนชอบของแรงๆ

    * ก็ขนาดว่าในอดีตตอนลงเรื่องจิ้งจกนั้น ผมเผลอคิดไปเองว่าจิ้งจกรุ่นนี้เคยโพสลงนานแล้วทำไมไม่มีคนจองนะ คงเป็นเครื่องรางที่ไม่มีคนสนใจ ปรากฏว่ากลับมีคนทักกลับมาเต็มไปหมดจะบูชาและบอกเราว่าไม่เคยลงให้ร่วมทำบุญนะรายการนี้ ซึ่งเราก็มานึกได้ว่ายังไม่เคยลงให้ใครเช่านี่น่าและพ่ออาจารย์ท่านตอนนั้นก็ให้ใช้สงเคราะห์เฉพาะคนยังไม่ได้เปิดให้ใครร่วมบุญสัมผัสบารมีด้วย เราก็เลยเงียบๆไว้มาหลายปี เรียกว่าเป็นเครื่องรางที่เกริ่นไว้ข้ามเวลามาหลายปีก็ได้ ...***แต่จิ้งจกหัวโจกชนิดนี้ของท่าน มีวิธีการเลี้ยงเฉพาะแบบของท่าน เลี้ยงจิ้งจกยังไงให้ได้ดี ใหญ่โต ประสบความสำเร็จสูงสุด ติดตามกันดีๆ

    18879694_1440264909365685_3494860123350761472_n.jpg
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา จิ้งจกเก้าหางมงคลโสฬสเก้าโกฏิพญาฟันดะ(ปลดหนี้กรรม ฟันลูกเดียว)

    กรรมนั้นเป็นเหมือนเงา ยิ่งหนีก็จะยิ่งติดตาม ยิ่งพยายามหลบเลี่ยงมันก็จะยิ่งวิ่งเข้ามาหาเรา ด้วยประจักษ์รู้ดีเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ลงแผ่นจารอักขระด้วยวิชาชุดหัวใจพระเจ้าอันจะใช้ปลดหนี้กรรมรวมถึงปิดอบายภูมิโดยเฉพาะก่อนนำไปหล่อหลอมสร้างจิ้งจกเก้าหางมงคลโสฬสนี้

    จำกันได้หรือไม่ที่พ่ออาจารย์ท่านเคยเจอจิ้งจกเผือกหางใบโพธิ์ หางทั้งเก้ากางออกมาสวยงามถึงเก้าหางมาหลายวาระแล้ว ท่านว่าแต่เดิมนั้นเขาเป็นร่างจำแลงลงมาคอยสังเกตุดูศิษย์ขององค์ท้าวสหัมบดีบรมพรหม จะจิ้งจกที่ไหนก็ช่าง แต่ของท่านนั้น ท่านว่าเป็นจิ้งจกมหาพรหม ด้วยลงไว้เป็นสองลักษณะทั้งเชิญท่านมาและลงวิชาจิ้งจก พ่ออาจารย์ท่านว่าเชิญพระองค์ท่านและขออานุภาพท้าวสหัมบดีบรมพรหมให้นิรมาณกายมาช่วยเหล่าศิษย์ มีจิ้งจกนี้ก็เหมือนอยู่ในสายพระเนตรของท่านเพราะเขาเป็นตัวแทนความรักความห่วงใยของท่าน ที่จำแลงกายคอยมาสอดส่อง ซ้ำยังมีกินไม่อดอยาก มีเสน่ห์เมตตาอย่างยิ่งตามสายวิชาจิ้งจก

    พ่ออาจารย์ท่านได้หล่อจิ้งจกด้วยธาตุกายสิทธิ์ ทั้งวัชรธาตุ หยาดน้ำฟ้าและปรอทเข้ากับวิชาอักขระหัวใจพระเจ้าโดยเน้นให้มีดีจากข้างในสามารถปลดหนี้กรรมปิดทางอบายภูมิได้ ทั้งครูพรหมท่านยังกำชับไว้แต่เริ่ม ว่าจิ้งจกของเราต้องให้ท่านทำตะกรุดมหาลาภเก้าโกฏิฝังไว้ด้านหน้าบริเวณปากถึงท้อง หมายความว่าวิชานี้จะดึงดูดลาภมากมายเข้าสู่ปากเราตกถึงท้องเราให้อิ่ม ให้มี ให้เสพย์อยู่ตลอดเวลาไม่มีวันจางหาย พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้นับเป็นธรรมขั้นสูง เมื่อนำมาทำของมงคลจะนำความเจริญรุ่งเรือง นำพาโชคลาภโภคทรัพย์มาให้ แม้พกติดตัวไว้ไปค้าไปขายก็จะได้กำไรดี อาราธนาเสี่ยงดวงเสี่ยงโชคก็ได้ลาภมั่งมีเป็นกอบกำ จะมีชีวิตถึงขั้นเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีมีเงินใช้ไม่ขาดมือ ทั้งพลิกดวงชะตากลับร้ายกลายเป็นดีพลิกความจนให้เป็นความมั่งมี ทั้งยังหนุนดวงชะตา ใช้ค้ำชูชะตาหนุนดวงชะตาให้เจริญยิ่งขึ้นไปตลอดไม่มีวันตกต่ำ ท่านได้ยกขันคายคือขันห้า ขันแปด ผ้าแดง,ผ้าขาวยาวศอก,เทียนพันเล่ม ท่านว่ามีสูตรการลงด้วยเมื่อแต่งขันคายแล้วให้พินทุแผ่นจารทีละแผ่น จากนั้นก็ให้ลงโดยใช้สูตรแปดทิศาและสิบหกทิศา โดยกำหนดยามแต่ละยามและเป่าคาถาหันไปตามทิศนั้นก่อนลงอักขระพระคาถาวิชาพระเจ้าอุดมทรัพย์ ท่านว่าวิชานี้ลงยากเพราะเป็นวิชาธรรมในสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยท่านได้นำมาไหว้ครูเชิญครูตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐม รวมไปถึงพระอรหันต์ขีณาสพทั้งหลาย โดยจารลงถมด้วยคุณธรรมของพระพุทธเจ้าทั้งสามสิบแปดประการ ซ้ำลงเรียกลาภ เร่งลาภ ดึงลาภ หนุนทรัพย์ในดินหนุนกำลังพระธรณี พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันเชิญพระแม่ธรณีมาทำวิชาด้วย ตราบใดที่ยังมีแผ่นดิน ตราบใดที่เท้ายังเหยียบอยู่บนพื้นแผ่นดิน ที่จะรู้ยากรู้จน ที่ว่าไม่อุดมด้วยทรัพย์สินและโภคสมบัตินั้นเป็นไม่มีทีเดียว และด้วยอานุภาพของพระแม่ธรณีนี้ ตะกรุดนี้ยังมีพุทธคุณแฝงอีกด้วย แม้นว่ามีผู้ใดมุ่งร้ายมีจิตพยาบาทอาฆาตเรา หากเขาอยู่บนแผ่นดินของแม่ธรณีนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาทำอะไรเราไม่ได้เลย คนจะรวยจะเก่งแล้ว หากโดนสะกัดดาวรุ่ง โดนรังแก โดนให้ร้ายมันก็ไปไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง เช่นนี้ท่านจึงทำวิชาให้เกิดขึ้นพร้อมกัน ท่านว่าจะได้ไม่ประสบปัญหาจนชีวิตไม่สามารถก้าวและกระโดดต่อขึ้นไปได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าใครได้รับไปนับว่าโชคดีอย่างยิ่งเพราะวิชานี้เสด็จพระใหญ่ท่านกำชับมาว่าเป็นของจริงไม่มีวันเสื่อม ตราบใดที่พระเวทย์พระธรรมยังดำรงค์อยู่ในอนันตจักรวาลนี้ ตราบใดที่ธรรมอันสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายยังไม่เสื่อมลง ตราบใดที่จิตยังตั้งมั่นตระหนักในพระรัตนตรัย ธาตุธรรมอันเป็นธาตุตั้งต้นแห่งคุณวิชาย่อมไม่มีวันตกลงหรือเสื่อมจากจิตเราและจะคงอยู่กับเราเกื้อหนุนเราไปตลอดฉันใดก็ฉันนั้น ท่านว่านอกจากเป็นยอดของมหาลาภแล้วยังใช้ได้ครอบจักรวาล เมื่อทำตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านต้องสำเร็จด้วยบารมีสมเด็จพระศรีอริยเมตไตรยตามตำรา ด้วยท่านเป็นผู้ที่จะนำพาปุริสัทธรรมมาทุกห้องทุกไตรสู่มวลมนุษย์แลสรรพสัตว์น้อยใหญ่ในอนาคตกาล ***จุดนี้ท่านว่าอย่าปรามาสว่าเป็นตะกรุดดอกเล็ก เพราะทำยากมากเป็นของสูงค่า ท่านว่าเราทำให้ใช้กันแค่หนเดียวต้องคนที่มีบารมี มีความสัมพันธ์กับสายวิชาครูบาอาจารย์แต่โบราณเท่านั้นถึงจะมีโอกาสได้พบเจอและครอบครอง

    นอกจากนี้ในส่วนบริเวณหางครูพรหมท่านยังกำชับไว้ให้ฝังอาถรรพ์ด้วย "ดาบตัดกรรม" เมื่อท่านจะทำนั้นท่านได้พิจารณาถึงสภาวะของมนุษย์โดยรวมก่อน ว่าจะทำเครื่องรางให้เขารวยเพียงเท่านั้นมันคงไม่พอ เพราะถ้าจะรวยต้องต้านกระแสกรรมหนักได้ด้วย ไม่เช่นนั้นเครื่องรางก็ไม่สามารถส่งผลอะไรได้มากเนื่องจากสัตว์โลกยังอยู่ในกฏของกรรม จำต้องทำเครื่องสูงที่มีอานุภาพส่งผลโดยตรงกับกรรมนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงมาพิจารณาว่าจริงแท้ทีเดียว เครื่องรางประเภทดาบหรือพระขรรค์ที่สร้างได้ถูกต้อง ปลุกเสกมาดีนั้น ย่อมมีอานุภาพสูงสามารถใช้ริดรอนกรรมเก่าได้ เพราะเป็นของสูงใช้ผ่าใช้ตัดได้ทุกสิ่งและสำเร็จด้วยพุทธคุณ เป็นไปด้วยพุทธานุภาพและพรหมานุภาพ เมื่อท่านพิจารณาเช่นนี้แล้วจึงคิดว่าจะทำไว้เสียครั้งหนึ่ง โดยได้ใช้ไม้ตะเคียนฟ้าผ่าที่แรงและเฮี้ยนเข้าตำรามาแกะดาบไว้ ท่านว่าดาบนี้ต้องเก่งและต้องใช้ได้ดีมากทำตามตำราทุกอย่าง โดยท่านเสกตามตำราพิชัยสงครามประจุคุณจนเต็มทีละเล่ม ท่านว่าทำทั้งที่ต้องให้ดีที่สุด ลงด้วยวิชาลงเครื่องสูงลงตามเครื่องพิชัยสงครา, สำหรับถวายเจ้านาย เป็นพระแสงดาบที่ใครได้ครองไว้ ไม่ใช่จะมีแต่บุญ ยังต้องยิ่งด้วยบารมีที่สั่งสมมามากจึงจะได้พานพบและครอบครองได้ เมื่อได้ดาบตัดกรรมแล้วท่านได้เชิญครูพรหมขอเมตตาให้ท่านลงประสิทธิ์ให้อีกวาระหนึ่งด้วย

    ดาบนี้ก่อนที่จะฝังท่านยังนำมาแช่อธิษฐานจิตในน้ำล้างดาบสังหารของเพชรฆาต ท่านว่าเอาอาถรรพ์เคล็ดวิชาที่ใช้คร่าชีวิตคนได้จริง ด้วยชีวิตก็คือสิ่งที่มีค่าที่สุด ถือว่าดาบนี้พิฆาตได้แม้กระทั่งสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับมนุษย์ ดังนั้นสิ่งมีค่าอื่นใดยิ่งไปกว่านี้ย่อมไม่มี ดาบนี้เป็นดาบฟันดะ ฟันลูกเดียว มีอะไรฟันเข้าเราหมด กอบโกยไว้หมดไม่เหลือให้ผู้อื่น ท่านว่าอธิษฐานจิตดีๆเวลาจะใช้จะเอาอะไรอยากได้อะไร อยากได้คนก็นึกถึงหน้าเขาเอาดาบฟันไป อยากได้โชคลาภจะเสี่ยงดวงก็มองไปที่หน้าเขาจินตภาพว่าเราเอาดาบฟันไป จะเจรจางานใหญ่ทำสิ่งสำคัญก็เหมือนกันท่านว่ามองหน้าเขาคิดว่าเราเอาดาบฟันไป อาถรรพ์คุณวิชาได้ลูกเดียวฟันลูกเดียวเป็นแบบนี้ดาบนี้ฝังไว้เป็นอาถรรพ์ที่หางจิ้งจกตามโองการครู ถือว่าเขาอยู่กับเราแล้วเวลาที่เขายกหางตีหรือฟาดฟันสิ่งใด ยังเท่ากับตัดและริดรอนผลกรรมให้เราด้วยอาถรรพ์แห่งไสยเวทย์ ทั้งยังเปิดช่องทางทำกินเปิดโอกาสชีวิตคนได้ด้วยคตินี้

    เมื่อจะเสกให้สำเร็จท่านได้นำว่านจิ้งจกทอง รากหญ้าตีนจิ้งจก กาฝากไม้กาหลง ไม้ดอกรัก ไม่ขนุน ไม้มะนาว ไม้คูณ ว่านดอกหอม ช้างผสมโขลง ดอกทอง เศรษฐี มหาโชค น้ำมันกะลาตาเดียว น้ำมันว่านไก่แดง ไก่ดำ น้ำมันชะมดเชียง นำมาเคี่ยวรวมกันจากนั้นแยกชนิดไว้เคี่ยวต่อด้วยสังขารจิ้งจกเดี่ยว จิ้งจกสองหัว จิ้งจกสามหัว จิ้งจกสองหาง จนถึงเก้าหางเป็นที่สุด หลังจากนั้นจึงนำจิ้งจกที่หล่อไว้ลงชุบตัวเสกในน้ำมันทีละชนิดจึงจะสำเร็จ ท่านว่าไม่ง่ายเลยกว่าจะทำน้ำมันสูตรต่างๆเหล่านี้และนำมาชุบทีละตนค่อยๆเสกไปจนสำเร็จ

    โดยปกติแล้ววิชาจิ้งจกเก้าหาง ท่านจะปลุกเสกเน้นให้คนใช้อธิษฐานได้สมดั่งใจดุจมีแก้วสารพัดนึกมีดีทุกอย่างจะทำอะไรก็เห็นผลทันตา ที่สำคัญท่านว่าหางทั้งจะปัดแกว่งไกว ยก ดีด ให้ท่านเจริญก้าวหน้า เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน มีพลังแฝงดึงดูดลาภแบบทวิทวีทำอะไรมักจะได้ผลเป็นที่น่าพอใจกว่าปกติถึงสองเท่า ทั้งคุณของวิชายังเด่นทางด้านเมตตา มหาเสน่ห์สาวรักสาวหลง ได้รับเมตตาความรักช่วยเหลือเกื้อกูลจากบุคลคลรอบข้าง แม้ค้าขายทำมาหากินก็ดี หรือจะประสานงานเจริญไมตรี ผูกไม่ตรีทำกิจการกับผู้ใดท่านว่าล้วนคล่องตัวทั้งสิ้น แม้จะใช้ไปในทางเสี่ยงโชค เสริมดวง ก็ทำได้สารพัดท่านว่าวิชาจิ้งจกนั้นคนใช้เป็นนี่เล่นพนันได้ทุกชนิดเลยจริงๆ

    ทั้งนี้จิ้งจกเก้าหางของท่านยังมีฤทธิ์เป็นเยี่ยม สามารถขอได้ บนได้ ให้สำเร็จสมประสงค์ไม่มีข้อห้าม พ่ออาจารย์ท่านสร้างจิ้งจกเก้าหางด้วยหัวใจมหาพรหมโดยเฉพาะทั้งอธิษฐานจิตหยุดอยู่เพียงณานโลกีย์(ตรงนี้ท่านว่าสำคัญมาก อะไรจะผิดจะถูกจิ้งจกช่วยได้ทั้งสิ้นไม่ติดคุณธรรมความดีแบบเทพพรหมทั้งปวง) เพื่อให้เป็นจิ้งจกที่แรงและขลังยิ่งกว่าสายไหนๆท่านว่าครูพรหมทำให้ถือว่าสูงสุดแล้วในสายวิชาจิ้งจกมหาบารมี ท่านว่าปลุกเสกจนมีเสียงร้องดังออกมาจากจิ้งจกเก้าหาง ตลอดทั้งมีจิ้งจกวิ่งมาจากทั่วสารทิศเต็มพิธีไปหมดแสดงให้เห็นว่าท่านเสกจิ้งจกถึงวิชาแน่นอน

    ในชีวิตของคนเรานั้นมีเรื่องทุกข์ใจอะไรบ้าง สิ่งที่มนุษย์ขาด ทั้งวาสนา โชคลาภ บุพเพสันนิวาส การงาน การประกอบอาชีพ การดำรงค์ชีวิต ทุกอย่างท่านว่าล้วนแต่มีปัญหาร้อยแปดพันประการทั้งนั้นแต่จิ้งจกหัวโจกนี้เขาย่อมเปลี่ยนปัญหาให้เป็นเรื่องไม่คาดฝัน เป็นสิ่งดีๆที่ทำให้เราปลื้มปิติเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งสิ้น

    และนอกจากนั้นชีวิตคนนั้นมักจะต้องอาถรรพ์ติดตัวมามากมายและอาถรรพ์เหล่านี้ก็ไม่มีวันเสื่อมหรือหมดไปด้วย เพราะคนเรานั้นต้องเดินทางไปเหยียบไปทับไปรับอาถรรพ์รับเสนียดในสถานที่ต่างๆเสมอๆ มักจะติดเสนียดติดอาถรรพ์จากสถานที่ต่างๆไม่ว่าจะที่ดิน บึง บ่อ ท่อ ทางทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านจึงลงกำกับมนต์แก้ธรณีสารในจิ้งจกไว้ ด้วยตั้งใจสร้างให้ไปตั้งตัวกัน ท่านจึงลงวิชาอันจะผลาญทำลายอาถรรพ์ในพื้นแผ่นดินทั้งหลายเสนียดจัญไรทั้งปวง แก้คุณไสย ผี พราย มนต์ ยาสั่ง ท่านว่าทำให้ครบหมดแล้ว

    วิชาจิ้งจกพรหมนี้หลังจากมีคนนำไปใช้แล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าภายหลังครูพรหมท่านลงมาขอว่าอย่าได้ทำอีก ให้ทำเต็มอาถรรพ์วิชาเช่นนี้เพียงครั้งเดียวเพราะว่ามันแรงเกินไป ถ้าตกไปอยู่ในมือผู้ที่ไม่มีคุณธรรมน้ำใจแล้วจะทำให้เกิดโทษแก่ผู้อื่น ซึ่งท่านก็รับว่าจะทำเพียงครั้งเดียวเพราะทั้งของฝังและการเสกจนสำเร็จวิชาจิ้งจกนั้นทุกอย่างไม่ง่ายเลย มีขั้นตอนมากและยุ่งยาก แค่มานั่งเคี่ยวน้ำมันทีละสูตร นำมาชุบแช่ทีละตัวเรียงไล่ไปจนครบน้ำมันทุกชนิดนี่ก็ลำบากแล้ว

    - ข้อสังเกตุเวลาบูชา เมื่อได้บูชาจิ้งจกมเก้าหางนี้ ต่อเมื่อได้ยินเสียงจิ้งจกร้อง โดยในสถานที่บริเวณนั้นไม่มีจิ้งจกปรากฏอยู่เลย…ท่านว่าอย่าตกใจไป นั่นแสดงว่าตัวท่านกำลังจะมีลาภใหญ่เข้ามาแล้ว ***อาราธนาห้อยเอวหรือพกต่ำกว่าเอวย่อมได้ทั้งสิ้น

    ***เลี้ยงจิ้งจกอย่างไร
    - จิ้งจกของพ่ออาจารย์นี้ท่านว่าให้เลี้ยงด้วยน้ำผึ้ง เปลี่ยนให้เขาทุกวันพระ แม้จะอาราธนาติดตัวเวลาเลี่ยมก็ควรจะเจาะรูเพื่อหยอดน้ำผึ้งให้เขากินด้วย ท่านว่าน้ำผึ้งหยดเดียวที่จิ้งจกเลียย่อมนำมาซึ่งความโกลาหลวุ่นวาย แต่หากนี่เป็นจิ้งจกพรหม น้ำผึ้งเพียงหยดนั้นจะนำมาซึ่งโชคลาภและสิ่งดีงามอย่างโกลาหลมืดฟ้ามัวดินทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าจะใช้ทางรักหรือทางหากินก็ระวัง อย่าไปเลี้ยงเขามากแค่พอประมาณเดี๋ยวจะเหนื่อย
    - จิ้งจกของท่านให้เลี้ยงด้วยไข่เจียว ถ้าจะบนอะไรไม่ต้องไปนึกอะไรมาก คิดอะไรไกล ท่านว่าเขาชอบแบบนี้ เวลาได้ลาภหรืออธิษฐานอะไรสำเร็จฉีกไข่เจียวใส่ถ้วยเล็กๆไหว้เขาก็ได้ หรือเวลาต้องการจะบนอะไรเขาก็บนด้วยไข่เจียวไปเลยก็ได้ ท่านว่ามันเลี้ยงง่ายแต่ให้คุณมาก


    คาถาบูชา
    อะอิอะมะ อะมะอะอิ อะอิจะหัง อะมะสวาหะ เอหิอะมะ ปิยะธิกา มานิมานะ นะมะพะทะ ทะพะนะมะ มีเคล็ดอยู่ว่าเมื่อเราว่าคาถาจบแล้ว ต้องทำเสียง "จุ๊ จุ๊ จุ๊ จุ๊ " ตามไปด้วย พร้อมกับเคาะเบา ๆ ที่ตัวจิ้งจก
    จิ้งจกศัตรูพ่าย ภาวนาว่า ทมอึ ทมอือ อย่าอึ นะมะพะทะ ทะพะนะมะ

    รับจองเฉพาะทาง PM พ่ออาจารย์ทานสร้างจิ้งจกหัวโจกไว้ทั้งหมดเก้าตัว แต่มีให้ร่วทำบุญเพียงห้าตัว ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะผูกชะตาให้ผู้ใช้เป็นนายจิ้งจกพรหมอย่างสมบูรณ์ท่านว่าเพื่อประโยชน์เกื้อกูลใหญ่หลวงที่จะเกิดขึ้นซึ่งกันและกัน รายได้สมทบทุนวิหารทานสืบไป

    ร่วมทำบุญบูชา จิ้งจกเก้าหางมงคลโสฬสเก้าโกฏิพญาฟันดะ(ปลดหนี้กรรม ฟันลูกเดียว) บูชา 4,000 บาท

    36673326_2233329013620174_4352780824274272256_n.jpg 36620577_2233328996953509_6916001217579581440_n.jpg
    36606552_2233326600287082_217995360075776_n.jpg
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่สุรวุฒิ EV 0224 7664 4 TH

    พี่ศุภชัย EV 0224 7665 8 TH

    พี่บุญชนะ EV 0224 7666 1 TH
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    มีคนเล่าให้ฟังว่าได้รับพ่องั่งไปคืนแรกก็มาให้เห็นเลย เป็นผู้ชายตาสีแดงๆตัวสูงๆมายืนให้เห็น พี่เค้าว่าตื่นเต้นมาก รายการนี้ใครมีบูชาก็อาราธนากันดีๆนะครับ ไม่ต้องการการดูแลรักษาเน้นใช้งานแบบลุยๆอย่างเดียว

    ส่วนจิ้งจกนั้นมีคนบอกว่าเก่งมากเป็นของโกงมวลมนุษย์ อันนี้ก็เงียบๆกันไว้ เอาไว้ใช้เขาปุ้ปจะรู้เองว่ามันแปลกยังไง ที่ว่าทำอะไรได้อะไรก็ทวีคูณมากกว่าปกติ อะไรที่ควรได้มันก็ได้มากขึ้น ขอไปหนึ่งมันมาทั้งหนึ่งสองสามสี่..ถึงขนาดใช้หาเมียยังได้ทีสี่ห้าคน ถ้าใช้หางานหาเงินหาโชคก็ต้องได้มากกว่าปกตินี่เอง เรียกว่าใช้ง่าย ใช้ปุ้ปติดปั้ป ***มีเคล็ดลับแถมให้อีกหน่อย พ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานอะไรก็ตามถ้าเงียบ ให้ตักไข่เจียวใส่ถ้วยน้อยๆถวายเขาไว้ รับรองว่าไม่มีเงียบไม่มีหาย ท่านว่าท่านเลี้ยงให้ตลอดที่ผ่านมาทั้งไข่ทั้งน้ำผึ้งแรงแน่ๆ แถมยังพูดไว้ว่าถ้าไข่เจียวในถ้วยหายไปก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเขามากิน ถวายไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ดี คนที่ใช้จิ้งจกนี้เค้าพูดๆกันว่าไหว้ไข่ทีไรไข่หายประจำ พร่องบ้างก็มี หายไปทั้งชิ้นก็มี ท่านว่าไม่ต้องใส่ใจเพราะเขาเฮี้ยน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กรกฎาคม 2018
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ปกรณ์เกียรติ EV 0224 9124 4 TH

    พี่วิชัย EV 0224 9125 8 TH

    พี่ระพี่ศักดิ์ EV 0224 9126 1 TH

    พี่พรเทพ EV 0224 9127 5 TH
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    พูดคุยหรือฝากคำถาม PM ไว้เลยนะครับ ;)
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    มีคนถามหาจิ้งจกรายการย่อยกันมาหลายคนขอแบบไม่ฝังก็ได้ แจ้งไว้ว่าไม่มีนะครับ
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    พูดคุยยามเช้า

    อรุณสวัสดิ์นะครับ เห็นมีคนส่งเรื่องมาบ่อยว่าพระปิดตาของพ่ออาจารย์ท่านใช้ดี วันนี้ก็เลยจะลงประวัติพระมหากัจจายนะต้นเค้าแห่งการสร้างพระปิดตาไว้เพื่อให้อ่านเจริญศรัทธากันอีกรอบ

    ในครั้งพุทธกาล พระมหากัจจายนะเกิดในตระกูลพราหมณ์ที่อาศัยอยู่ในกรุงอุชเชนีแคว้นอวันตี บิดาของท่านคือ ปุโรหิตปิติวัจฉพราหมณ์ มารดาคือ นางจันทนปทุมาพราหมณีแห่งตระกูลกัจจายนะ พระมหากัจจายนะเกิดมาพร้อมกับลักษณะที่โดดเด่น คือ มีผิวพรรณผุดผ่องเหมือนทองคำ บิดามารดาจึงตั้งชื่อให้ท่านว่า “กาญจนะ”ซึ่งแปลว่า “ทอง” เมื่อเติบโตขึ้น หนุ่มน้อยกาญจนะได้ศึกษาไตรเพท ซึ่งเป็นวิชาความรู้ของพราหมณ์ตามธรรมเนียมพราหมณ์จนจบการศึกษา ต่อมาเมื่อบิดาถึงแก่กรรม หนุ่มน้อยกาญจนะก็ได้รับตำแหน่งปุโรหิตแทนบิดา และผู้คนพากันเรียกขานท่านว่า “ปุโรหิตกัจจายนะ” ตามนามของตระกูล

    วันหนึ่ง เมื่อพระเจ้าจัณฑปัชโชติ กษัตริย์แห่งกรุงอุชเชนี ทรงทราบข่าวว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นแล้ว ทรงอยากฟังพระธรรมเทศนาจึงทรงแต่งตั้งให้ปุโรหิตกัจจายนะไปกราบทูลอาราธนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เสด็จไปยังกรุงอุชเชนี ปุโรหิตกัจจายนะรับราชโองการแล้วเดินทางไปเฝ้าพระบรมศาสดาพร้อมด้วยผู้ติดตามอีก 7 คน

    เมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนา ปุโรหิตกัจจายนะและผู้ติดตามอีก 7 คน ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ถึงพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา จากนั้นพระบรมศาสดาประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาให้การบวชแบบเอหิภิกขุอุปสัมปทานั้น ไม่ได้มีลำดับขั้นตอนเหมือนการบวชในปัจจุบัน แค่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีพระดำรัสว่า “จงเป็นภิกษุมาเถิด” เท่านั้น เมื่อสิ้นพระดำรัส ผม หนวด และเครื่องนุ่งห่มของผู้บวชก็อันตรธานไป มีเครื่องอัฐบริขาร ได้แก่ บาตร สบง จีวร เป็นต้น บังเกิดขึ้นด้วยฤทธิ์และบุญญาธิการที่ผู้บวชสร้างสมมาแต่อดีตชาติ ทำให้ผู้บวชเป็นประดุจดังพระเถระที่มีพรรษาถึง 100 พรรษา

    เมื่ออุปสมบทแล้ว พระเถระทั้ง 8 ได้กราบทูลอาราธนาพระบรมศาสดาเสด็จสู่กรุงอุชเชนี ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากพระราชา แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีพระดำรัสให้พระมหากัจจายนะไปแทนเนื่องจากพระมหากัจจายนะเป็นพระภิกษุที่มีความรู้ความสามารถมาก ท่านจึงสามารถอธิบายธรรมะที่พระบรมศาสดากล่าวเพียงย่อ ๆ ให้ละเอียดได้ และสรุปเนื้อหาพระธรรมเทศนาที่ยาว ๆ ออกมาเป็นหัวข้อย่อย ๆ ได้ ทำให้ผู้ฟังเข้าใจธรรมะที่ลึกซึ้งได้โดยง่าย

    ดังนั้นเมื่อท่านไปถึงกรุงอุชเชนีแล้ว ท่านจึงสามารถแสดงธรรมให้พระราชาทรงเลื่อมใสได้โดยง่าย และสามารถประดิษฐานพระศาสนาในแคว้นอวันตีได้สำเร็จทำให้ทั่วทั้งพระนครรุ่งเรืองไปด้วยผ้ากาสาวพัสตร์ด้วยความสามารถนี้ ต่อมาพระบรมศาสดาจึงทรงยกย่องท่านว่าเป็นเอตทัคคะ คือเป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในด้านผู้อธิบายเนื้อความโดยย่อให้พิสดาร

    สำหรับเหตุแห่งความเป็นผู้เลิศในด้านผู้อธิบายเนื้อความโดยย่อให้พิสดารนั้น มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า “ปทุมุตตระ”

    ในสมัยนั้น พระมหากัจจายนะบังเกิดในตระกูลคฤหบดีผู้มั่งคั่ง และมีโอกาสไปฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วันหนึ่งท่านเห็นพระภิกษุรูปหนึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเอตทัคคะในด้านผู้อธิบายเนื้อความโดยย่อให้พิสดาร ท่านปรารถนาที่จะเป็นอย่างพระรูปนั้น จึงถวายมหาทานแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นเวลา 7 วัน แล้วตั้งความปรารถนาว่า “ด้วยผลแห่งสักการะนี้ ขอให้ข้าพระองค์พึงได้ตำแหน่งนั้นในศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง” พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเห็นว่าความปรารถนาของท่านจะสำเร็จ จึงทรงพยากรณ์ว่า “กุลบุตรผู้เจริญ ท่านจักเป็นยอดของเหล่าภิกษุผู้จำแนกอรรถแห่งคำที่ตรัสโดยสังเขปให้พิสดารในศาสนาของพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า”

    นอกจากมีคุณสมบัติอันเลิศข้างต้นแล้วพระมหากัจจายนะยังมีคุณธรรมที่สูงส่ง มีศีลาจารวัตรที่งดงาม เป็นที่เคารพรักของมนุษย์และเทวดาดังจะเห็นได้ว่า เวลาที่ท้าวสักกเทวราช (พระอินทร์)ได้พบพระมหากัจจายนะ ก็จะทรงเข้าไปอุปัฏฐากรับใช้และนวดเท้าทั้งสองของท่าน แม้แต่พระบรมศาสดายังทรงกล่าวยกย่องพระมหากัจจายนะท่ามกลางหมู่สงฆ์ว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีทวารอันตนคุ้มครองแล้วในอินทรีย์ทั้งหลายเช่นเดียวกับมหากัจจายนะบุตรของเรา ย่อมเป็นที่รักของเหล่าเทวดา”

    พระมหากัจจายนะมิเพียงเปี่ยมด้วยคุณสมบัติและทรัพย์สมบัติ แต่ท่านยังเลิศด้วยรูปสมบัติ คือมีผิวพรรณละเอียดอ่อนผุดผ่องดุจทองคำ และมีรูปร่างสง่างามคล้ายคลึงกับพระบรมศาสดา จนทำให้หลายๆคนเข้าใจผิดว่าท่านคือพระบรมศาสดา.

    วันหนึ่ง ขณะที่พระมหากัจจายนะกำลังห่มจีวรจะเข้าไปบิณฑบาตในเมือง มีบุตรชายของเศรษฐีแห่งเมืองโสไรยะคนหนึ่ง ชื่อโสไรยะ นั่งยานพาหนะผ่านมากับบรรดาสหาย ครั้นนายโสไรยะเห็นวรรณะอันงดงามผ่องใส ดึงดูดตาดึงดูดใจของพระเถระ ก็เกิดความคิดอกุศลขึ้นมาว่า “พระเถระรูปนี้สวยจริงหนอ ควรจะเป็นภรรยาของเรา หรือมิฉะนั้น ภรรยาของเราก็ควรจะมีผิวพรรณงดงามเหมือนพระรูปนี้”

    ด้วยบาปหนักที่จาบจ้วงพระอรหันต์ ทำให้นายโสไรยะกลายร่างเป็นผู้หญิงในทันที นายโสไรยะซึ่งขณะนี้กลายเป็นนางโสไรยะไปแล้ว รู้สึกตกใจและอับอายมาก จึงรีบลงจากยานพาหนะแล้วเดินไปยังกรุงตักสิลาบรรดาเพื่อนฝูงของนายโสไรยะพากันออกตามหาเขา แต่ก็หาไม่พบ ส่วนบิดามารดาของเขาก็เศร้าโศกเสียใจ เพราะคิดว่าบุตรคงเสียชีวิตไปแล้ว

    ฝ่ายนางโสไรยะได้ติดตามกองเกวียนของพ่อค้าไปจนถึงกรุงตักสิลา เมืองหลวงของแคว้นคันธาระ บุตรชายของเศรษฐีแห่งกรุงตักสิลาเห็นนางมีรูปงามจึงเกิดความรักและรับนางเป็นภรรยาทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน 2 คน ก่อนหน้านี้ เมื่อครั้งเป็นผู้ชาย โสไรยะมีบุตรอยู่แล้ว 2 คน ดังนั้นจึงเท่ากับว่าเขาได้เป็นทั้งพ่อและแม่ เป็นทั้งสามีและภรรยาในชาติเดียวกันต่อมา เขามีโอกาสกราบขอขมาพระมหากัจจายนะ เมื่อท่านอโหสิกรรมให้ เขาจึงคืนร่างเป็นชาย แล้วขอบวชในสำนักของท่าน และได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์

    ส่วนสาเหตุที่ทำให้พระมหากัจจายนะมีผิวพรรณวรรณะที่งดงามผ่องใสนั้น เกิดจากการทำบุญด้วยทองคำในสมัยพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งนั้น พระมหากัจจายนะเคยถวายแผ่นอิฐทองคำมีค่าแสนหนึ่ง ทำเป็นฐานของพระสุวรรณเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและตั้งความปรารถนาว่า “ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่บังเกิดขึ้นจากการถวายแผ่นอิฐทองคำนี้ ขอให้สรีระของข้าพเจ้าจงมีวรรณะเหมือนทองคำทุกภพทุกชาติ” ด้วย
    อานิสงส์แห่งบุญพิเศษนี้ ทำให้ความปรารถนาของท่านบังเกิดเป็นความจริง คือ ได้เกิดมามีผิวพรรณวรรณะงดงามเป็นพิเศษโดดเด่นยิ่งกว่าคนทั่วไป

    ย้อนไปในสมัยพระปทุมุตตรพุทธเจ้าท่านก็เคยถวายอาสนะที่ทำด้วยแก้วผลึกที่ฉาบทาด้วยทองชมพูนุทซึ่งเป็นทองคำบริสุทธิ์ มีฉัตรทำด้วยรัตนะทั้ง ๗ ประการ กางกั้นไว้บนยอดและถวายพัดวาลวีชนี พัดบวรจามรี แด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยอานุภาพแห่งการบูชาในครั้งนี้ ทำให้ท่านได้เสวยทิพยสุขในเทวโลก ได้บังเกิดเป็นเทพราชาผู้เป็นใหญ่ใน
    สวรรค์เป็นเวลายาวนานถึง 10 กัป มีรัศมีแผ่ไปโดยรอบร้อยโยชน์อยู่เป็นนิจและได้ไปบังเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้มีฤทธานุภาพมาก มีรัตนชาติบังเกิดขึ้นมากมายเหลือคณานับ ล้วนส่องสว่างโชติช่วงดังอาทิตย์อุทัย ตลอดทั้งกลางวันกลางคืน

    พระมหากัจจายนะระลึกชาติไปดูประวัติการสร้างบารมีของท่านในชาตินั้นก็พบว่าเมื่อท่านถวายอาสนะที่ทำด้วยแก้วผลึก ที่ฉาบทาด้วยทองชมพูนุทอันเป็นทองคำบริสุทธิ์ เพื่อเป็นที่ประทับนั่งของพระปทุมุตตรพุทธเจ้าแล้ว พระองค์ตรัสว่า“ผู้ใดได้ถวายอาสนะที่ทำด้วยทองและแก้วนี้ เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว ผู้นั้นจักเป็นจอมแห่งเทวดาเสวยเทวรัชสมบัติอยู่ 10 กัป จักมีรัศมีแผ่ไปโดยรอบตลอดร้อยโยชน์ ครั้นมาสู่มนุษยโลกแล้ว จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีพระนามว่าปภัสสระ จักเป็นผู้มีเดชอันรุ่งเรือง จักได้เป็นกษัตริย์มีรัตนะ 8 ประการ โชติช่วงอยู่โดยรอบทั้งกลางคืนกลางวันดังพระอาทิตย์อุทัยฉะนั้น”เมื่อระลึกชาติเห็นความดีที่ทำไว้แล้วท่านก็บังเกิดความปลื้มปีติเป็นยิ่งนัก

    อานิสงส์จากการถวายอาสนะแก้วผลึกฉาบทาด้วยทองชมพูนุทแด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้าและถวายแผ่นอิฐทองคำสร้างเจดีย์ เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมทั้งบุญอื่น ๆ ที่ท่านตั้งใจทำ ส่งผลให้พระมหากัจจายนะได้เสวยสุขทั้งในสวรรค์และในโลกมนุษย์ เวียนว่ายตายเกิดอยู่แต่ในสุคติภูมิเท่านั้น ในชาติสุดท้าย ท่านได้มาเกิดในตระกูลพราหมณ์ ซึ่งเป็นวรรณะที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดของอินเดียในสมัยนั้น และมีผิวพรรณงดงามดุจทองคำ แถมยังพรั่งพร้อมด้วยสมบัติทั้งปวงที่มนุษย์พึงปรารถนา คือ รูปสมบัติ คุณสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และบริวารสมบัติ เมื่อบวชแล้วท่านได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ได้เป็น 1 ใน 41 พระภิกษุสาวกที่ได้รับตำแหน่งเอตทัคคะ ได้เป็น 1 ใน 80 อสีติมหาสาวก และพรั่งพร้อมด้วยคุณสมบัติ คือ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ประกอบด้วยปฏิสัมภิทาญาณ 4 คือ มีความรู้แตกฉานในอรรถ ธรรม นิรุกติและปฏิภาณ


    1207072486.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2018
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    คนที่บอกว่าจิ้งจกใช้ได้ไปในทางพิเศษ เป็นของแปลก ไม่ทันที่จะบูชาและบางคนก็บอกว่าค่าบูชาสูงไป ถามกันมาหลายคนว่ามีอะไรที่พิเศษใช้ได้เฉพาะทางแบบนี้มั๊ยเอาที่สามารถบูชาได้ปัจจัยไม่สูงมาก อันนี้ก็ติดตามกระทู้ไว้ให้ดีๆ เพราะถ้าลงแล้วจะได้ไม่พลาดกันอีก
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ใครชอบวิชาพัดโบก (วิชาในตำนาน)...แถมเป็นวิชาพัดโบกสายมหาจักรพรรดิ์ ......ต้องติดตามพูดคุยกันดีๆนะครับ
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    อรุณสวัสดิ์ครับ พูดคุยกันเช้าวันนี้เกี่ยวกับเรื่องของวิชาพัดโบกที่หลายๆคนจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าวิชานี้นอกจากจะเอาไว้โบกใช้เป็นเสน่ห์ให้หญิงสาวลุ่มหลง ยังนำไปใช้ในทางที่ดีๆให้ธุรกิจ กิจการตนเองเจริญรุ่งเรือง มีคนอุดหนุน มีคู่ค้าเยอะกว่าปกติได้ด้วย

    พ่อาอจารย์ท่านชำนาญวิชาพัดโบกมากถึงขนาดทำธงพัดโบกไว้ใช้ของท่านเองแน่นอนว่าย่อมไม่ธรรมดา แต่วิชาพัดโบกที่จะกล่าวถึงในที่นี้นอกจากจะใช้เพื่อให้เกิดอิทธิคุณดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังเป็นวิชาพัดโบกพิเศษที่ใช้พัดให้มาหาก็ได้ หรือโบกให้กลับไปก็ได้ ทั้งยังใช้พัดความเจริญ โชคลาภ ความสุขเข้ามาได้ โบกความทุกข์ โรคภัย กรรมเวรให้ออกไป...

    ..ท่านว่าสำหรับคนที่สถานการณ์ชีวิตตึงเครียด วิชาพัดโบกนี้ช่อยผ่อนลงได้ ทั้งจัด ปัด ขับไล่ รักษา เยียวยา ทำให้คลายลง ทุเลาลง บรรเทาลง แก้ความลำบากยุ่งยากขัดข้องให้หมดไป...พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ยังทำอะไรได้อีกมากเพราะเป็นวิชาสายบารมี เป็นพัดโบกมหาจักรพรรดิ์ เป็นของเล่นพระอรหันต์ เป็นของใช้เทวดา

    *** วิชาพัดโบกสำคัญนี้จะดีอย่างไร และพ่ออาจารย์ท่านลงไว้ในอะไรต้องติดตามกันดีๆ นานๆครั้ง นานมากจริงที่พ่ออาจารย์ท่านจะยอมให้คนบูชามีโอกาสใช้อิทธิมงคลชุดพิเศษเช่นนี้

    rrb.jpg
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    tFv.jpg
    **** หากยังจำกันได้ ครั้งหนึ่งพ่ออาจารย์ท่านเคยเปิดให้บูชาเหรียญหล่อไตรภูมินี้ กล่าวได้ว่ามงคลสักการนี้ย่อมกลายเป็นของในตำนานไปแล้วเนื่องจากมีประสบการณ์มากและหลายๆคนที่ได้โชคลาภแบบไม่คาดฝันก็เอาไปเลี่ยมทองบูชาแม้ต้องใช้กรอบทองตัดพิเศษที่หนักมากก็ตาม บางคนก็ไปเช่ารูปหล่อพระสีวลีขนาดใหญ่มาบูชาและนำเหรียญไตรภูมินี้บรรจุไว้ภายในพร้อมกับถวายสร้อยทองคำอยู่เนืองๆตามวาสนาโชคลาภที่ครูท่านเมตตาให้รับไว้

    จากตำนานสู่สิ่งที่กำลังจะก้าวขึ้นเป็นตำนาน คู่แห่งอัครสาวกผู้เป็นเลิศทางอุดมทรัพย์ อุดมด้วยลาภสักการะ ในอดีตใครที่เคยพลาด หนนี้ติดตามกันดีๆ นอกจากวิชาพัดโบกอันลือลั่นแล้ว แน่นอนว่าตัวเหรียญหล่อเองยังทรงพุทธคุณสูงทั้งสวยงามอย่างมาก พลาดแล้วโอกาสเช่นนี้ย่อมไม่มีมาอีก
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    พรุ่งนี้ติดตามกันดีๆนะครับ มีคนขอจองล่วงหน้าเยอะมากเมื่อทราบว่าเป็นวิชาพัดโบกแต่ผมให้เอาไว้รอพร้อมกันทีเดียวคนอื่นจะได้ไม่เสียโอกาส ห้ามพลาดกันเลย
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา พระโกยทรัพย์กอบวาสนาไตรภูมิ(มหากัจจายนะโปรดสัตว์ทรงวิชาพัดโบก)

    วิชาพัดโบกนั้น แต่โบราณที่ทำไว้จนโด่งดังเห็นจะมีหลวงปู่กราด หลวงปู่ทิม หลวงปู่อี๋เช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านก็เช่นกันที่ผ่านมาเคยมีคนถามหาว่าพ่ออาจารย์ท่านลงวิชาพัดโบกแบบเต็มวิชามั๊ยอยากจะได้ไว้บูชา เพราะพวกเขารู้กันดีว่าวิชานี้เป็นของในตำนาน หาคนลงคนเสกได้ยาก ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็ให้บอกแต่เพียงว่า ครูเก่าครูก่อนครูผู้เฒ่า ท่านทำของท่านมาดีแล้ว อยากได้ก็ไปหาเอาโน่น หลวงปู่กราด หลวงปู่ทิม หลวงพ่ออี๋โน่น ซึ่งทุกคนล้วนแต่บ่นกันไม่หยุด เพราะของเก่าแท้ๆนั้นหาได้ยากและมีราคาแพง ใครทันได้ยุคนั้นก็หวงแหนดุจมรดก จะให้ไปหาของเก่านั้นมันเกินกำลังและไม่รู้จะไปหาที่ไหน

    เมื่อคนถามมาเยอะขึ้น ท่านจึงนำพัดโบกที่ท่านทำไว้มาฝังหลังพระโกยทรัพย์กอบวาสนาไตรภูมิ ..โดยพ่ออาจารย์ท่านว่าพัดโบกของเรานั้นเราทำด้วยเคล็ดวิชา แตกต่างจากครูในอดีตเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเรา นอกจากจะลงวิชาพัดโบกไว้แล้ว ยังเป็นพัดแก้วของจักรพรรดิ เป็นวิชาพัดโบกสายจักรพรรดิ

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำด้ามไม้ตาลปัตรของครูบาอาจารย์ยุคเก่าก่อนมาแกะเป็นรูปพัดวาลวิชนี เพื่อถือเคล็ดที่จะปัดเสียซึ่งอุบาทว์จัญไรทั้งปวงออกไป ให้ชีวิตกลับตาลปัตรในบัดดลทันที ที่เลวร้ายให้กลับมาดี ที่ดีก็ให้พบชะตาวาสนาที่สูงขึ้น ทั้งพัดนี้ยังใช้พัดความเจริญ โชคลาภ ความสุขเข้ามาได้ โบกความทุกข์ โรคภัย กรรมเวรให้ออกไปก็ได้ ท่านว่าสำหรับคนที่สถานการณ์ชีวิตตึงเครียด วิชาพัดโบกนี้จะช่วยผ่อนลงได้ ทั้งขจัด ปัด ขับไล่ รักษา เยียวยา ทำให้คลายลง ทุเลาลง บรรเทาลง แก้ความลำบากยุ่งยากขัดข้องให้หมดไป ทั้งนี้เพราะเป็นวิชาสายบารมี เป็นพัดโบกมหาจักรพรรดิจึงต่างจากวิชาพัดโบกโดยถ้วนทั่ว ท่านว่าเป็นของเล่นพระอรหันต์ เป็นของใช้เทวดา

    ท่านว่าวิชานี้ทำยาก เมื่อได้ด้ามตาลปัตรมาแล้วก็ต้องเอามาแกะ เสร็จแล้วเอาไปแช่ไว้กับเครื่องยาในสายวิชาการทำพัดโบกทั้ง ไม้ไก่กุก ไม้แหย่แย้ ขมิ้นขาว ไพลดำ ฯลฯ ซึ่งว่านบางตัวอย่างไพลดำนี่ท่านว่าก็เป็นของที่ทรงอิทธิคุณในตำนาน มีค่าเสมอเหล็กไหลน้ำหนึ่งทีเดียว ดังนั้นการจะทำพัดโบกเต็มวิชาได้แต่ละครั้งมันมีพิธีมากมาย ขาดไปก็ไม่สำเร็จ เมื่อได้วัสดุอาถรรพ์เหล่านี้มาแล้ว จึงนำมาบดให้ละเอียดและปลุกเสกตามกรรมวิธีอีกรอบหนึ่ง แล้วจึงนำมาผสมกับน้ำมันว่านเพื่อแช่พัดโบกตาลปัตรนั้น พอได้ฤกษ์งามยามดีจึงนำไปปลุกเสกด้วยคาถาพัดโบกอีกคำรบหนึ่งพร้อมทั้งเชิญบารมีพระมหาจักรพรรดิลงมาช่วยสำเร็จวิชาพัดนี้ด้วย ท่านว่าต้องเสกจนพัดไม้นั้นสั่นสะเทือนเหมือนต้องลม บ้างก็ปลิวก็กระเด็นออกนอกพาน จึงจะถือมาสำเร็จตามตำรา ถ้าเสกแล้วไม่สั่นพัดวางอยู่นิ่งๆท่านว่าใช้อย่างไรก็ใช้ไม่ได้ เพราะเสกไม่สำเร็จ ไม่มีอานุภาพ

    อันพัดโบกนี้จะใช้เป็นเมตตามหานิยม ท่านว่าแม้พกไว้เฉยๆกับตัว คนที่ที่ค้าขายก็จะขายของดีเป็นเทน้ำเทท่า ที่ทำกิจการอื่นๆลูกค้าก็จะเข้ามาก อุดหนุนมาก เป็นที่รักแก่คนทั้งหลาย แต่ถ้าจะเล่นทางผู้หญิงอย่างเดียว ท่านว่าพัดนี้ให้ต้องลมพัดไปทางทิศไหนที่มีสตรีที่เราหมายปอง สตรีนั้นเมื่อถูกต้องพัดโบก แม้ว่ากำลังไถนาอยู่ก็ถึงกับทิ้งคันไถตามชายที่มีพัดโบกไปทันที แต่มีข้อแม้ว่าเมื่อได้เขาเป็นภรรยาแล้วต้องเลี้ยงดูเขา ห้ามทิ้งขว้างอย่างเด็ดขาด มิฉะนั้นจะเกิดโทษภายหลัง

    วิชานี้นับว่ามีอุปเท่ห์หลายอย่างไม่ว่าจะเรียกคน เพียงนึกถึงใครให้ท่องคาถาพัดโบกแล้วยืนเหนือลมให้ลมพัดแล้วอธิษฐานไปทำไม่เกินเจ็ดวันคนที่เรานึกถึงต้องมาหา ถ้าเกลียดใคร ใครมาบ้านอย่างเจ้าหนี้มาทวงหรือคนที่เราไม่ต้องการมาหาภาวนาคาถาจากที่โบกเข้ามาก็ให้เปลี่ยนเป็นโบกออกไป คนที่เราไม่ต้องการพบเขาจะกลับไปทันที

    หลายๆคนจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าวิชานี้นอกจากจะเอาไว้โบกใช้เป็นเสน่ห์ให้หญิงสาวลุ่มหลงชนิดเดินตามกลับบ้านแล้ว ยังนำไปใช้ในทางที่ดีๆให้ธุรกิจ กิจการตนเองเจริญรุ่งเรือง มีคนอุดหนุน มีคู่ค้าเยอะกว่าปกติได้อีกด้วย เรียกได้ว่าวิชาพัดโบกพิเศษนี้จะใช้พัดให้คนมาหาก็ได้ หรือแม้แต่จะใช้โบกให้กลับไปก็ได้ถ้าเราไม่ต้องการประสบพบหน้า พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ได้หลายทางขึ้นอยู่กับเจตนาว่าจะดีหรือชั่ว จะใช้ทางไหน จะโบกเอาอะไร ท่านว่าถ้าโบกเป็นก็ได้ทรัพย์สินศฤงคาร ได้สิ่งที่ดีในชีวิต

    วิชาพัดโบกนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจจะทำเต็มวิชาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ท่านว่าไม่ใช่เพราะเครื่องยาหายากและบางอย่างมีราคาสูงมากจนประเมินค่านับแสนนับล้านบาทแม้กระทั่งขาดซักอย่างยังไม่ได้ แต่ที่ยากจริงๆคือทำแล้วต้องเสกให้สำเร็จปรากฏเหตุนิมิตต้องตำราถึงจะมีอิทธิคุณเสมอด้วยของที่ครูเก่าก่อนท่านทำไว้


    ท่านได้พิจารณาดีแล้วจึงนำพัดโบกเต็มวิชานี้มาฝังไว้ด้านหลังองค์ครูพระมหากัจจายนะของท่าน ...เมื่อครูให้สร้างพระสังกัจจายน์ออกจาริกโปรดสัตว์ พ่ออาจารย์ท่านได้รับนิมิตจากครูพระมหากัจจายนะให้ปั้นรูปท่านซึ่งพ่ออาจารย์ถือเป็นบรมครูสายเอกของท่านในลักษณะปางนี้ มีหลายครั้งที่คนสอบถามเข้ามาว่าเมื่อไหร่หนอท่านจะทำพระสังกัจจายน์ซักที เป็นเดือน เป็นปี ก็แล้ว ทำไมยังไม่เอาออกมาให้บูชา เราก็ได้แต่บอกเขาว่ารอก่อนๆ ยังไม่ถึงเวลา ท่านเตรียมของท่านไว้แล้ว ทำทั้งทีท่านก็อยากจะเอาให้ดีที่สุดเหมือนกัน

    ทำไมพ่ออาจารย์ท่านถึงสร้างพระมหากัจจายนะ ...พ่ออาจารย์ว่านอกจากท่านจะเป็นเอกด้านลาภสักการะ เป็นผู้มากเมตตาจนแม้แต่พระอินทร์เจ้าสวรรค์ยังต้องลงมาถวายปรนนิบัติท่านแล้ว คติแห่งการสร้างรูปพระมหากัจจายนะนี้จะดีเด่นสุดๆทางมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม ความเจริญด้วยลาภผล เอกลาภ ลาภสักการะทั้งปวง แต่ของเรานี้ยังอธิษฐานไปทางเปิดสมอง เปิดภูมิปัญญาให้กับชนที่ศรัทธาอีกด้วย ท่านว่าสมัยนี้คนมีกรรมทางความคิดกันมาก พอคิดผิดก็ทำผิด ดำเนินชีวิตแบบผิดๆแก้ไขไม่ได้ เรียกว่าพอก้าวไปผิดก้าวเดียวแล้วนั้นก็ถึงกับล่มจมทันที ส่งผลในระยะยาวให้ชีวิตที่เหลือไปต่อไม่ได้

    พ่ออาจารย์ท่านจึงได้หล่อพระมหากัจจายนะไว้ด้วยธาตุกายสิทธิ์ ครูพระสังกัจจายน์ของท่านนี้ดีอย่างไร ท่านว่าแต่โบราณกาลมา นี่แหละคือที่สุดของพระมหาเถระที่ทรงภูมิรู้และวิชชา ซ้ำยังนำความอุดมสมบูรณ์ร่ำรวยด้วยทรัพย์สินศฤงคารมาสู่ผู้ศรัทธา ทั้งตัวท่านยังประกอบด้วยสิริโฉมงดงามเป็นเลิศยังความเข้าใจผิดให้เกิดแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย แม้ดำเนินไปที่แห่งใดเทพเทวาตลอดจนมนุษย์ก็ตื่นตระหนกประดุจดั่งว่าสมเด็จพระชินสีห์เจ้าได้เสด็จมาเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าที่อื่นจะทำอย่างไรเราไม่รู้ แต่วิชาการสร้างพระสังกัจจายน์ของท่านนั้น มันอยู่ที่ศรัทธาของผู้บูชา ยิ่งศรัทธามากยิ่งให้ผลมาก วิชานี้ตอบสนองกับความศรัทธาโดยตรง ให้คุณเด่นทุกเรื่องรวยทุกทาง ถามว่าจะใช้ด้านไหน มีด้านไหนบ้างที่ไม่มีจะง่ายกว่า ไม่ว่าจะเมตตามหานิยม ทำมาหากินเจริญรุ่งเรือง โชคลาภ เสี่ยงโชค เป็นเสน่ห์ติดตาต้องใจแก่สตรีเพศ นำความปลอดโปร่งแจ่มใสมาสู่ผู้บูชา แม้จะเรียนศึกษาหรือใช้งานสรรพวิทยาเหล่าใด ก็จะเรียนได้ไว เรียนได้สำเร็จ นำวิชาไปประกอบกิจได้อย่างแตกฉาน

    พร้อมกันนั้นท่านยังได้ขอเมตตาครูพระในนิพพานทำวิชาให้ โดยให้องค์พระมหากัจจายนะสำเร็จรูปท่านเอง ท่านว่าพระเถระเจ้านั้นเป็นครูที่ดี กอปรไปด้วยเมตตาสูงสุดไม่เลือกชนชั้นวรรณณะไม่เลือกว่าองค์พระสังกัจจายน์นี่ประดิษฐานไว้ที่ไหนจะช่วยใคร พวกเธออย่าทำเป็นเล่นไปนะ ถึงจะใส่วิชาพระสังกัจจายน์เอาไว้ แต่เวลาเสกก็ยากใช่ที่เพราะต้องกราบอาราธนาพระมหากัจจายนะในนิพพานท่านลงมาเสกสำเร็จรูปเหมือนของท่านด้วยองค์ท่านเองมีอานิสงค์มากนัก คนที่บูชาจะรู้ได้ว่าอยู่กับบุญ เสวยบุญ ปรารถนาสิ่งใดตั้งใจให้สงบ ปล่อยใจให้ว่างเปล่า อธิษฐานไปกับพระมหากัจจายนะนี้ มโนอธิษฐานนั้นย่อมไปถึงพระเถระเจ้า ท่านว่าเดี๋ยวรู้เอง

    เมื่อเสกแล้วท่านได้เชิญบารมีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าหนุนอีกคำรบหนึ่งด้วยนั่นคือบารมีของพระพุทธทีปังกรกับพระพุทธกัสสปะนั้นด้วยว่าจะอนุเคราะห์สัตว์โลกผู้ยากในกาลสืบไปภายหน้าโดยพระองค์ท่านได้รับคำอาราธนา ด้วยบารมีพระทีปังกรนั้นมีกำลังแข็งมากแรงมาก ส่วนพระกัสสปะนั้นจะเย็น สดชื่นและนุ่มนวล แต่เป็นเอกลาภมหาศาลทั้งคู่ เป็นที่สุดแล้วในโคตรวงศ์พระชินสีห์ทั้งปวงที่จะพึงมีพึงเกิดขึ้น อันธรรมดาว่าพระพุทธเจ้าทั้งหลายนั้น ทุกพระองค์มีบารมีเต็มเหมือนกันหมด เรื่องลาภสักการะนั้นก็เช่นกัน แต่สำหรับสองพระองค์นี้ถือเป็นที่สุดในพุทธวงศ์จริงๆ

    พร้อมกันนี้ท่านยังได้ขอเมตตาครูพระมหากัจจายนะไว้ให้สงเคราะห์ลูกหลาน ด้วยว่าโลกนั้นเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว ลาภผลจากการทำมาหากินจึงไม่เพียงพอ ท่านจึงขอให้ครูพระและเทพเทวดาสัมมาทิฏฐิที่รักษาวิชาพัดโบกนั้นได้อนุเคราะห์ผู้บูชาสมควรแก่กาลและยุคสมัย พ่ออาจารย์ท่านว่าใครที่ทำมาหากินลำบากก็ให้การเสี่ยงโชค ลาภลอยที่ได้มาง่ายๆฟลุ๊คๆเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ ใครที่ทำธุรกิจก็ให้เจอคู่ค้าคู่อุปถัมภ์ที่ดีใหญ่โตเจริญยิ่งๆขึ้นไป ***เมื่อจะเสี่ยงโชคนั้นท่านว่าจะซื้อหวยหรือทำอะไรก็ดีให้อธิษฐานกับองค์พระแล้วโบกพัดเข้าหาตัวเรา เมื่อทำแล้วเกิดปิติขนลุกขนชันท่านว่าจะทำอะไรก็เร่งทำเถิดสำเร็จแน่ แม้เสี่ยงดวงซื้อหวยก็ถูกแน่เกินร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่หากทำแล้วรู้สึกเฉยๆ ท่านว่างวดนั้นให้ระงับไว้ก่อนอย่าไปเล่นมันเลยจะเสียเงินเปล่า หรือถ้าจะทำกิจการใดๆที่มีนิมิตว่าไม่สำเร็จก็ให้ขอบารมีองค์พระท่านช่วยเหลือ

    คาถาบูชา
    ขอลาภพระมหากัจจายนะ กัจจายะนะมะหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโหปัจจะยาทิมหิ มะหาลาภังภะวันตุเม ลาเภนะอุตะโมโหติ โสระโหปัจจะยาทิมหิ มะหาลาภัง สัพพะลาภา สะทาโสตถิ ภะวันตุเม
    คาถาใช้พัด นะโมพุทธายะอิติปิโสภะคะวา อิติปาระเมตตาตึงสา อิติสัพพะมาคะตา คนทั้งหลายรักหลงยุมาคะตา อิติโพธิมะนุปปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม พิศวาสหลงใหล พิสมัยแนบเนื้อ ใจจิตคิดถึงเคล้าคลึงวิญญา นะเมตตา โมกรุณา พุทเป็นที่รัก ธาให้เห็นประจักษ์ ยะให้ยินดี ยะละลวยหันตะวา ธาเมามัว พุทพาเอาตัวมาหา โมมาสมสู่ นะรักกูอยู่จนวันตาย โอมจิตติจิตติ หญิงชาย เห็นหน้าจงงงงวยจงใจรัก ใจอ่อนละมัย ไปมาหาสู่ ให้เร่งมา รึลือ รึลือ เอหิพรหมมาจิตตังมาด้วยพระวินัย ยันเถตังถิตังกะระณียัง เมตตังงจิตติ ขันติมะอิตถีโยจะปุริสา สมณพรหมณา เมตตาจะมหาราชา สัพพะเสน่หาจะปูชิโต สัพพะสุกขังมหาลาภัง ราชาโกธังวินาสสันติ สัพพะโกธังวินาสสันติ ปิโยเทวะมนุสสานัง ปิโยพรหมมานะมุตตะโม จิตติมาหา เอหิพันธะ ปิยังมะมะ


    ครูพระมหากัจจายนะทรงวิชาพัดโบกนี้สำคัญนัก แม้พ่ออาจารย์ท่านยังอาราธนาติดตัวเสมอ ท่านว่าแก้เรื่องยุ่งเหยิงวุ่นวายในชีวิตเราดีแท้ ด้วยท่านเป็นผู้รู้แจ้ง เป็นผู้มากเมตตา เรื่องใดแก้ไม่ตกหมักหมมมานาน เป็นปัญหาโลกแตกอาราธนาขอบารมีท่านล้วนคลี่คลายทันตาทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านถึงกับออกปากว่าอย่าว่าแต่เรื่องมนุษย์เลย แม้ปัญหาเทวดาท่านก็แก้มาเยอะแล้ว ยิ่งครูพระมหากัจจายนะนี้เราใส่พัดโบกของเราไว้ด้วย ท่านว่าจะยากอะไรกัน อะไรร้ายๆไม่ดีก็ให้มันเข้ามา ขอบารมีคุณพระรัตนตรัยยกพัดขึ้นพัดออกไป ก่อนออกทำงานหรือตื่นนอนก็ดีอธิษฐานใจดีๆพัดสิ่งไม่ดีออกไปให้หมด ท่านว่านั่นจะเป็นวันที่ดีไม่มีเรื่องยุ่งยากน่ารำคานใจใดมารบกวนเราได้เลย ถ้าชีวิตมีเวรกรรมมาก สำนึกรู้ตัวว่ากฏแห่งกรรมดำเนินและสนองต่อเราในด้านลบอยู่ ท่านว่าก็อธิษฐานเอาพัดนี้นี่แหละ พัดไอ้โรคเวรโรคกรรมออกไปจากตัวเราให้ทุเลาบรรเทาลงเสีย พัดเข้าตัวเองปัดออกไปให้หมด ****เราบอกได้เท่านี้ว่าให้ขยันทำหน่อยเดี๋ยวดีเอง วิชาพัดโบกนี้ใช้ได้หลายทางไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

    ***เคล็ดการใช้ ท่านว่าคนที่บูชาให้อาราธนาไว้สององค์ องค์หนึ่งมัดติดปลายไม้ปักไว้ที่สูงในบ้านหรือสำนักงาน ท่านว่าจะพัดเอาแต่สิ่งดีๆเข้าบ้าน บ้านจะเป็นบ้าน คนในบ้านจะมีความสุข ทั้งปัดเรื่องร้ายออกไป ถ้าเป็นที่ขายของหรือที่ทำงานก็จะอุดมไปด้วยลาภสักการะหนุนชะตาหนุนชีวิตคนในสถานที่นั้นไม่ให้ตกต่ำ ส่วนอีกองค์หนึ่งต้องอาราธนาไว้คู่ตัวเสมอๆ พ่ออาจารย์ท่านดำริสร้างให้ครั้งเดียว ท่านว่าทำยาก ใครมีบุญวาสนาถึงพร้อมก็ให้ได้ไว้บูชา

    ร่วมทำบุญบูชา พระโกยทรัพย์กอบวาสนาไตรภูมิ(มหากัจจายนะโปรดสัตว์ทรงวิชาพัดโบก) บูชา 2,500 บาท

    36823165_2237587313194344_3140762390740598784_n.jpg 36798342_2237587286527680_1857347676463431680_n.jpg
    36811414_2237575553195520_4822871226819018752_n.jpg
    511423e4913e6865d4d1ea29769ff1ee.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ศิระ EV 4399 8642 1 TH
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    พรุ่งนี้มาติดตามพูดคุยกันนะ :)
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    พูดคุยยามเช้า

    อรุณสวัสดิ์กันนะครับ เห็นมีคำถามเข้ามาเรื่องของพญาปุริสาทซึ่งชื่อก็คล้ายๆกับพระยาโปริสาทในชาดก แถมลักษณะการกินยังคล้ายกันแล้วชื่อก็คล้ายกันอีก จะต่างกันแค่เพียงหนึ่งกินผี แต่อีกหนึ่งกินคนเท่านั้น

    แต่ทั้งนี้ก็ควรแยกกันให้ออกว่าทั้งสองนั้นไม่ใช่ตัวบุคคลคนเดียวกันแต่อย่างใด ด้วยพระยาโปริสาทนั้นเป็นอดีตชาติของพระองคุลิมาลเถระ ต่างจากพญาปุริสาทซึ่งเป็นยักษ์เทวดา ที่ถามมาว่าทั้งสองเป็นองค์เดียวกันมั๊ย อันนี้ก็ยืนยันอีกครั้งว่าไม่ใช่นะครับ


    พญาปุริสาท(ยักษ์ปุริสาท) นั้น เป็นหนึ่งในสี่มหาอำมาตย์ของท้าวเวสสุวรรณผู้เป็นเจ้าแห่งภูติผีปีศาจและยักษ์ทั้งปวง มีหน้าที่เป็นผู้รักษาคุ้มครองพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุเจดีย์ต่างๆ ทั้งนี้พญาปุริสาทยังมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยตลอดจนพฤติกรรมของยักษ์แลภูติผีบริวารต่างๆด้วย โดยพญาปุริสาทท่านจะกิน(บริวาร)ผีที่ไม่อยู่ในคำสั่งเป็นอาหาร ดังนั้นพวกภูติผีปีศาจจะเกรงกลัวพญาปุริสาทมาก

    คณาจารย์สมัยก่อนจึงนิยมสร้างเป็นรูปเคารพ,แผ่นยันต์, ผ้ายันต์ หินชนวนตลอดจนถึงมหาว่านยาเป็นรูปพญาปุริสาทขึ้นมาเพื่อให้ชาวบ้านติดตามบ้านเรือน ตามประตูทางเข้าหรือพกติดตัวไปในที่ห่างไกลทุรกันดารเพื่อขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายสิ่งไม่ดีต่างๆได้ หรือแขวนทางประตูหน้าและประตูหลังสำหรับบ้านที่มีคนป่วย เนื่องจากเชื่อว่าภูติผีปีศาจจะไม่มาซ้ำเติมโรคที่เป็นอยู่ให้หนักกว่าเดิม ทำให้คนป่วยมีโอกาสทำการเยียวยารักษาให้หายได้ในเร็ววัน

    และทางศาสตร์พม่านั้นครูบาอาจารย์สมัยก่อนเรียกว่าองค์สย่า จะนำยาทั้งหลายที่หาได้มาทำการเล่นแร่แปรธาตุ(หลุง)บดบนถ้วยกระโหลกอาถรรพ์แล้วนำเขี้ยวเสื้อมาคน เสกยัดพลังจนศักดิ์สิทธ์แล้วนำมาพอกปั้นเป็นแท่งมหาว่านยาต่างๆ โดยอาจจะพอกเป็นรูปหรือแกะจากแท่งยาให้เป็นรูปพญาปุริสาทด้วย ว่ากันว่าจะต้องใช้มนตราและเวลาตลอดทั้งชีวิตของผู้สร้าง เพราะสร้างมั่วๆไม่ได้ ด้วยครูแรงมากจึงทำให้เป็นเครื่องรางอย่างหนึ่งที่มีฤทธิ์มาก

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...