เดี๋ยวพรุ่งนี้จะส่งคำตอบที่ PM มาถามกันแล้วค้างไว้ให้ครบนะครับ ใครที่ยังไม่ได้ตอบไปก็รออีกนิดนึง:cool:
ร่วมทำบุญบูชา ผู้ไถ่โทษพระจักรพรรดิลวงสวรรค์กลืนหมื่นมรรคา(โชคสามซ้อนมหาประจักษ์) พ่ออาจารย์พล
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.
หน้า 173 ของ 465
-
-
พรุ่งนี้มาคุยกันเรื่องหวยนะ:cool:
-
คุยกันยามเช้า
อรุณสวัสดิ์นะครับ
สำหรับวันหยุดตื่นเช้าๆก็อย่าลืมสวดมนต์ และไปทำบุญบำรุงพระศาสนาตามกำลังกันนะ
รู้สึกว่าใกล้วันหวยออก พอดีเมื่อวานมีคนชวนไปหาหวย เค้าว่าวัดไหนไม่รู้ผมจำไม่ได้ มีคนขุดเจอต้นตะเคียนโบราณสามต้น ก็เลยไปขอหวยกันคาดว่าคนชอบหวยน่าจะไปกันเยอะ
ทีนี้พอมาคิดๆแล้ว ปกติเวลาคนจะขอหวยกับต้นตะเคียนหรือแม่นางตะเคียนนั้น ส่วนมากเห็นจะต้องเอาแป้งไปถูไปขัดหาเลขกัน ที่สมหวังก็มี ผิดหวังก็มี ส่วนใหญ่คนที่ได้โชคนั้นมักจะเป็นคนปากหวานๆอ้อนเก่งๆ ถูไปอ้อนไปบรรยายความเศร้าของชะตาชีวิตไป พูดให้เค้าสงสาร ถ้าได้จะแก้บนถวายอะไรก็ว่าไป
ก็เห็นแบบนี้กันบ่อยมีทุกงวด พอพูดเข้าเรื่องหวยเข้าเรื่องต้นตะเคียนแล้ว ก็อดที่จะพูดต่อไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านเองก็เคยพูดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน ท่านว่าหลายปีแล้ว ตอนนั้นคนแห่ไปถูต้นตะเคียนขอหวยกัน ตัวท่านผ่านไปเห็นเข้า ท่านว่าท่านไม่ได้อยากได้เลขก็เลยไม่ได้เข้าไปร่วมวงถูกับใคร ได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆ เป็นตะเคียนของวัดขี้เหล็กท่าผมจำไม่ผิด ท่านว่าที่ถูก็ถูกันไป ผมไม่ได้ถามว่าท่านไปยืนจ้องคือไปคุยกับนางตะเคียนหรือทำอะไร แต่ท่านเล่าให้ฟังว่าตัวเลขสีแดงๆมันลอยออกมาจากต้นตะเคียนเสมอหน้าท่านทีละตัวๆจนครบสามตัว
ท่านว่ามีท่านเห็นคนเดียวไม่มีใครเห็น ที่ถูก็ถูกันไปท่านว่าคืนนั้นจะไม่มีใครได้เลขกันเลย เพราะท่านไปอยู่ตรงนั้นเค้าเลยตั้งใจให้ท่านผู้เดียว ท่านก็เลยคิดว่าถ้าเค้าจะให้ไม่ต้องถูก็จะลอยออกมาประเคนให้แบบนี้ อันนี้ผมคิดว่าคงจะมีวาสนาหรืออะไรที่พวกเราไม่เข้าใจเกี่ยวข้องด้วย เพราะเป็นเราไปยืนจ้องทั้งวันก็คงไม่เห็นอะไร ปรากฏว่างวดนั้นหวยออกสามตัวตรงๆ แต่ท่านบอกคนอื่นแค่สองตัวอีกตัวให้ไปเติมกันเอาเอง
ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านมักจะมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้บ่อยๆ แต่ภายหลังนั้นอย่าว่าแต่จะใบ้หรือบอกอะไรใครกับตัวเลขที่พวกรุกขเทวดานางไม้ให้มา ทั้งๆที่มีคนถามกันเยอะ ท่านจะปฏิเสธว่าธุะไม่ใช่ ไม่ใช่หน้าที่ของท่าน ตัวเลขเหล่านี้ท่านถึงจะรู้ ถึงเค้าจะให้ แต่รู้ไปก็เท่านั้นใจเราไม่ได้นำพากับความโลภเช่นนี้ แต่ตรงกันข้ามท่านจะรู้ว่าต้นไหนมีญาณสถิตย์ ต้นไหนไปขอจะถูกกันบ่อยตามนี้เป็นต้น บางครั้งท่านก็จะบอกคนให้ไปขอเอง ถ้ามีวาสนาจะถูกยังไงมันก็ต้องถูก ต่อให้เค้าไม่ให้ไปหยิบไปดึงหวยมามั่วๆมันจะถูกก็ต้องถูกอยู่ดี ท่านว่าถ้าดวงมีการเสี่ยงขอเช่นนี้ย่อมไม่จำเป็น
วันนี้ก็เอามาพูดคุยกันสบายๆ เป็นเรื่องเล่าให้ฟังกันตอนเช้าๆ งวดนี้ก็คงมีคนเล่นกันเยอะ อย่าลืมว่าเล่นกันแต่พอดี อย่าทำตัวเองให้เดือดร้อนไฟล์ที่แนบมา:
-
-
เดี๋ยวอาทิตย์ที่จะถึงนี้ติดตามดีๆ มาแจ้งเตือนกันล่วงหน้า เรียกว่าพลาดไม่ได้แน่ๆ
-
คุยกันยามเช้า
ก็อรุณสวัสดิ์สำหรับวันหยุดนะครับ
ก็ตั้งแต่เริ่มทำกระทู้มาก็มีหลายครั้ง และหลายคนตั้งใจมาปรึกษา เกี่ยวกับเรื่องกลัวการถูกกระทำบ้าง คิดว่าถูกคนอื่นทำคุณไสยบ้างจะแก้กันอย่างไร ยิ่งเป็นผู้หญิงนี่จะจิตตกไปเลย เพราะกลัวของ กลัวการป้ายยา กลัวคนใช้มนต์คาถาและอาคม เรียกว่าสารพัดจะกลัว
ความจริงแล้วอันนี้พูดกันตรงๆนะ สิ่งพวกนี้มันเกิดมาจากจุดเล็กๆนั่นคือความอิจฉาริษยากัน บางคนไปโดนของมาแล้วมานั่งคิด ว่าตัวเองก็ไม่มีศัตรูที่ไหน ใครจะทำ บ้าเป็นไปไม่ได้เราออกจะอัธยาศัยดี บางครั้งความเก่ง ความเด่นเกินไป อาจจะไปกระตุ้นประสงค์ร้ายหรือสร้างความริษยาให้กับใครก็ได้
เดี๋ยวนี้เรื่องคุณไสยเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายเพราะมีการทรงเจ้าเข้าผีกันเกลื่อนเมือง ขนาดที่ท่านเรียกว่ามีทุกจุดทุกที่ทุกรูทุกเลี้ยว แล้วเจ้าเหล่านั้นก็แปลกเสียด้วย คือชอบสร้างเวรกรรม ชอบทำตามปากคนทำตามอามิสสินจ้าง ใครเป่าหูเข้าหน่อยว่าคนนั้นคนนี้เค้าไม่ดีทำตนเดือดร้อน พูดกันไม่กี่คำก็ทำกันแล้ว มันง่ายขึ้นถึงขนาดนั้น ง่ายตามความตกต่ำของจิตใจมนุษย์
สำหรับการพูดคุยวันนี้ก็แนะนำพระคาถาสองบทให้ท่องหรือภาวนา สำหรับคนที่กลัวการกระทำคุณไสย หรือคิดว่ากำลังโดน มีคนปองร้ายคิดไม่ดีกับเราก็จำไว้เรียนไว้ภาวนากัน
บทแรก นะโม นะพุทธะ พุทธัสสะ โมเพชรชะกรึง พุทอิสวาสุ ปามะอะอุ ยะอะมะ บทนี้ท่านว่าควรภาวนาไว้ กันคนที่คิดไม่ดีกับเรา ท่านว่าต่อให้เก่งมาจากโลกไหนก็ตาม เราภาวนาบทนี้ไว้ทุกวันๆ เค้าเล่นใช้คาถาอาคมกับเราไม่ได้ เรียกคาถาไม่ได้
บทที่สอง พุทธัง อะเรโส ตัตโถทันตา สะราอัตถะ ชุมนุมอักขระทั้งหลาย สวาหะ บทนี้ท่านให้ภาวนาไว้ ท่านวาต่อให้มีความรู้แค่ไหนชำนาญอักขระเลขยันต์เพียงใด จะใช้จะผูกยันต์ทำร้ายเรา ท่านว่าบทนี้ภาวนาไว้เหมือนบทแรก ท่องคู่กันก็ได้จะได้มีอานุภาพครอบคลุมทีเดียว อานุภาพแห่งเลขยันต์กระทำอะไรเราไม่ได้เลย ไม่ว่าจะทำให้เรารักเราหลง ปองร้าย สาปแช่ง หรือกระทำคุณต่างๆ ท่านว่าแค่สองบทนี้ก็ทำตัวสบายๆ ใช้ชีวิตกันตามอัธยาศัยลอยลำจากเรื่องพวกนี้ไปได้ แต่ต้องเรียน ท่องจำ และรู้จักนำมาภาวนา
สองบทนี้ท่านก็ให้ลงเป็นวิทยาทาน เพราะว่าต่อไปจะได้ไม่ต้องกลัวหรือหวาดระแวงใครอีก มีหลายคนดวงตกก็จะไปโทษการถูกคุณถูกของก็มี เป็นว่าพอมีอะไรไม่ดีก็หาที่โทษใส่ไว้ก่อน ท่านว่าภาวนาสองบทนี้แล้วก็สบาย เอาตัวเอาหน้ารอดไม่ต้องไปกังวลว่าจะมีใครรังแก เพราะครูบาอาจารย์ท่านคุ้มอยู่เหนือหัวเหนือเกล้า
เช้าวันนี้ก็พูดคุยกันสบายๆ อะไรที่เป็นประโยชน์สำหรับคนหมู่มากก็จะนำมาลงเรื่อยๆไฟล์ที่แนบมา:
-
-
เดี๋ยวรอบเย็นมาพูดคุยกันนะครับ
-
พรุ่งนี้ต้องติดตามกันนะครับ ห้ามพลาด:cool:
-
วันนี้จะลงเรื่อง ตะกรุดพระเทพบิดรมหาญาณ(ศาสตร์หงสา) ติดตามกันนะครับ
-
ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระเทพบิดรมหาญาณ(ศาสตร์หงสา)
เนื่องจากมีหลายๆคนได้ถามกันเข้ามาว่าพ่ออาจารย์ท่านทำตะกรุดรุ่นไหนที่พกง่ายๆมีจิตมีชีวิตเช่นวิชาพระศรีหรือนางพิมพ์ ให้คุณเหมือนพวกเพชรพญาธรอะไรพวกนี้บ้างหรือไม่
ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นโดยปกติแล้วจะไม่เห็นพ่ออาจารย์ใช้วิชามหาศาสตร์ทางฝ่ายพม่ารามัญมากนัก เมื่อพิจารณาแล้วท่านจึงออกเสียวาระหนึ่งเพื่อบูชาครู ซึ่งตะกรุดพระเทพบิดรมหาญาณ(ศาสตร์หงสา)นี้ ก็เป็นวิชาเอกดังกล่าวที่ท่านกล่าวว่ามีตัวมีตน เร็วแรงเสียยิ่งกว่าสิ่งใดๆ
ท่านว่ามหาศาสตร์เช่นนี้ไม่มีใครเขาทำกัน เหมือนของต้องห้าม เหนือกว่าไสยศาสตร์ของเขมรหรือฝั่งสยามมากนัก ไม่ต้องกล่าวถึงเลยว่าจะได้ครอบครองกันง่ายๆ เพราะทำยากตั้งแต่หาชนวนมวลสสาร แม้กระทั่งการลงจารอักขระก็ต้องใช้ยันต์และคุณวิชาประกอบกันจนเป็นรูปร่างเครื่องทรง ท่านว่ายากกว่าการจารเสกขึ้นรูปนามตามธรรมดา เพราะทุกอย่างนั้นมีขั้นตอนและถูกกำกับไว้อยู่แล้ว เมื่อสำเร็จได้ไปคนใช้เท่านั้นจะรู้ว่าคำที่กล่าวว่า สำเร็จ ศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์นานัปประการนั้นมิได้เกินความจริงเลย ผู้ได้ครอบครองไว้ย่อมเป็นยอดคนมีครบทุกอย่างดั่งใจปรารถนา เหมือนมหาราชบุเรงนองผู้ชนะสิบทิศแต่ครั้งอดีตที่เคยถือวิชานี้เช่นกัน ก็แล้ววิชาเช่นนี้ ใครเล่าเค้าจะทำให้กันง่ายๆ จากคนธรรมดากลายเป็นพระราชา กลายเป็นมหาราชที่มีทุกอย่าง ท่านว่าคิดเท่านั้นก็แล้วกันไม่แปลกเลยว่าทำไมถึงหวงห้าม
พ่ออาจารย์ท่านได้บัดพลีก้อนตะกั่วมาทุบตีหล่อหลอมลงจารยันต์มหากำเนิดเกิดรูปนาม ชำระธาตุ ก่อนจะส่งไปรีดเป็นแผ่นแล้วนำมาเข้าพิธีลงสรงมุรธาวารี ก่อนจะนำมาลงอักขระยันต์ตามฤกษ์ยามวันเวลาบังคับ ท่านว่ากว่าจะได้แต่ละดอกนั้นเรียกสูตรว่ากันจนหมดฤกษ์ ยากนักที่จะทำและรวบรวมได้เสียจำนวนหนึ่ง
เมื่อท่านลงจารเสร็จแล้วจึงนำมาอุดผงมวลสารสำคัญโดยลบยันต์มหาวิญญาณกำเนิด ผูกจิตมหหาภูติศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา ท่านว่าวิชาทำผงนี้เป็นของพระกศยปเทพบิดรซึ่งเป็นมหาเทพผู้ประทานชีวิตและชาติพันธุ์หมู่สัตว์ทั้งผอง เมื่อจะทำต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องธาตุและระบบชีวิตอย่างแตกฉาน เมื่อสำเร็จจะบรรจุสิ่งใดก็ตาม หากตั้งมั่นกำหนดให้มีอานุภาพเพียงไหน มีชีวิตอย่างไร ท่านว่าย่อมเป็นไปตามจิตนึกคิดมีอานุภาพเพียงนั้น มีความสำเร็จเพียงนั้น เป็นผงที่มีญาณมีธาตุมีตัวรู้ทุกอณู เสมือนเราได้ผูกพรหมลิขิตขึ้นมาด้วยตัวเอง วิชาเช่นนี้ท่านว่ายากนัก ถ้าไม่ทำมาบรรจุในตะกรุดครูนี้เพื่อเสริมส่งให้มีอานุภาพยิ่งๆขึ้นไป ท่านว่าผงแบบนี้ท่านจะไม่ลบเด็ดขาด มันฝืนกรรมสัตว์มากไปเพราะสัตว์ทุกผู้ทุกนามนั้นล้วนมีความคิดความต้องการเป็นของตนเองทั้งสิ้น
เมื่อท่านลบผงสำเร็จแล้วจึงนำผงนั้นมานวดกับน้ำมันอันมีพรรณคุณวิเศษต่างๆก่อนจะบรรจุไว้ในตะกรุด ซึ่งท่านว่าจุดสำคัญอยู่ตรงนี้ เพราะน้ำมันชนิดต่างๆนั้นล้วนมีอานุภาพแตกต่างกันไป ค่อยๆนวดเข้ากับผงจนจับตัวเป็นก้อน นวดไปประสิทธิ์มนต์จินดามณีไป น้ำมันทั้งหลายย่อมดูดซึมเข้าอณูเนื้อส่งผลให้ผงนั้นมีอานุภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก
- น้ำมันตาชูชก ท่านว่าขออะไรใครก็ได้ ขออะไรใครเขาก็เต็มใจให้ ถึงขั้นว่าเลือดในอกยังยกให้ได้ชีวิตนี้ไม่มีหวงอะไรกับเราทั้งสิ้น ท่านว่าน้ำมันชูชกนี้ใช้ได้ทุกทาง ขอคนอื่นเค้าได้หมด แม้เราจะขอสิ่งใดกับตะกรุดแน่นอนว่าย่อมได้ด้วยเช่นกัน
- น้ำมันไก่กุก เป็นวิชามหาวนหมาเวียน รักไม่สร่าง สุดแล้วแต่จะใช้ท่านว่าอธิษฐานเอาเถิดจะใช้ทางทำมาหากินหาโชคลาภก็ได้แล้วได้อีก จะใช้ทางเสน่หาก็รักแล้วรักอีก
- น้ำตาปลาพะยูน ซึ่งหาของแท้ยากนัก แม้แต่คนใต้ยังยกย่องว่าแรงเสียยิ่งกว่าน้ำมันพราย เอาว่าน้ำมันพรายนั้นแรงแค่ไหน น้ำตาปลาพะยูนที่เสกทับประจุวิชาแรงกว่านั้นจนเทียบไม่ติด
- น้ำมันสาลิกาป้อนเหยื่อ ท่านว่าน้ำมันนี้ต้องใช้ธาตุอาถรรพ์นกที่ตายตามตำรา ซึ่งหายากมาก กว่าจะได้ทำและทำได้จนทำสำเร็จนั้นใช้เวลานานนัก มีอานุภาพดีครอบจักรวาล ตามแต่จะอธิษฐานบูชาเล่นได้ทุกทาง
- น้ำมันช้างโขลงหรือกัวเผาะก็เรียก ท่านว่านี่มหากำเนิด เป็นวิชาทางราคะ หมอเสน่ห์หมอส่วยชอบใช้ เอาไปใช้ได้ทุกทาง เพราะคนที่เขาเห็นเราจะมีความปรารถนารักใคร่เมตตาเราแต่ผู้เดียว ทำงานก็รักยิ่งกว่าลูกในอก ครองคู่ก็รักลืมชีวิต
- น้ำมันว่าน เป็นว่านตระกูลเสน่ห์ทั้งดอกทอง รักซ้อน จันทร์หอม เถาว์หลง เสน่จันทร์ ต่างๆเป็นต้น ท่านว่าว่านเหล่านี้ปลูกและกู้ตามตำรากว่าจะได้นั้นจึงยากแลนำมาทำน้ำมันเพื่อเอาฤทธิ์ว่านยาแต่ละชนิดมาใช้
- น้ำมันชะมด ท่านว่าเป็นมหาจังงัง แตะตรงไหนอยู่ตรงนั้น โดนอะไรก็เคลิบเคลิ้มคล้อยตาม ท่านว่าทุกอย่างเป็นไปตามปากไม่ขัดใจเราเลย
- น้ำมันสาริกาตายตอมซาก ท่านว่าก็ตายคารัง ไปไหนไม่รอด เป็นมหาสะกดให้คิดถึงเรา ใช้ได้ทุกทาง ทั้งเสน่ห์และมหานิยม ใช้ให้ลูกค้าติดใจกลับไปแล้วต้องมาหาอีก หรือใช้ให้คู่ครองไม่เบื่อหน่ายก็ได้
- น้ำมันแย้ลงรู ท่านว่าเป็นเคล็ดทางเสน่ห์ที่ว่ามันอยู่ในรูไหนก็ต้องกลับเข้ารูนั้น ซื่อสัตย์จริงใจไม่แปรเปลี่ยน
- น้ำมันเทพรัญจวน ท่านว่าดีทุกทางไม่ต้องกล่าวอะไรมาก เทวดายังมาช่วยตอนทำ เอาว่าเทวดายังหลง คนธรรมดาไม่ต้องพูดถึง
- น้ำมันกบกินเดือน ต้องพลีซากกบอันมีอาถรรพืต้องตำรามาเคี่ยว เป็นมหาเสน่ห์อย่างรุนแรง
ท่านว่าน้ำมันแต่ละอย่างนั้นกว่าจะทำได้ต้องใช้เวลานาน ท่านว่านานนับสิบปีก็ไม่ผิดเพราะกว่าจะหามวลสารและหุงตามตำราแต่ละชนิดได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จะเรียกว่าตะกรุดรุ่นนี้คือสิ่งที่ตกผลึกทางวิทยาคมก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านเมตตานำมานวดเข้าผงให้ท่านบอกว่าเหมือนทำอาหาร จะได้มีครบรส สุดท้ายก็แล้วแต่จะนำไปใช้เถิด เพราะมีหมดครบทุกสิ่ง
ตะกรุดพระเทพบิดรมหาญาณ(ศาสตร์หงสา)นี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องเสน่ห์ไม่ต้องกล่าวถึง เพราะเสน่ห์เมตตามหานิยมนั้นแรงมากถึงขั้นตบะแตก ซ้ำยังเรียกโชคเรียกลาภให้เข้ามาสู่ชีวิตเราอย่างง่ายดาย ใครขาดคู่ก็พบคู่ ใครขาดสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้นสมความมุ่งมาตร ชะตาวาสนาฟ้าหนุนส่ง ที่ไม่เคยเกิดมีก็จักมีเอาว่าขออะไรก็สำเร็จสิ่งนั้น ฝูงชนทั้งหลายจะนิยมใกล้ชิดสนิทสนม คู่ครองจะไม่รู้หน่ายคลั่งใคล้ให้เกียรติเรา มีครบทั้งทางด้านสะกด วนเวียน มีฤทธิ์กำราบได้ทั่วไม่ว่าจะเป็นวิชากุมารหรือเพชรพญาธร ดวงจิตเจตภูติต่างๆล้วนตกอยู่ในอำนาจมหาภูติวิญญาณนี้ทั้งสิ้น ต่างกับกุมาร พยนต์ หรือเพชรพญาธรต่างๆ เพราะเป็นศาสตร์ลับที่ท่านไม่สามารถพูดหรือบอกอะไรได้ ท่านว่าทำไว้ได้แค่หนเดียวเมื่อสำเร็จแล้วต่อไปย่อมไม่มีอีก
ที่ท่านตั้งชื่อว่าพระเทพบิดรมหาญาณนั้น เพราะตะกรุดนี้เป็นตะกรุดผูกมหาญาณจอมภูติขึ้นมา มีฤทธิ์เสด็จจรไปบนเบื้องนภากาศสุราลัยเข้าได้หมดทุกภพภูมิ เหนือกว่าเหล่านักสิทธิ์วิทยาธรทั้งหลาย ทั้งยังมีเดชมาก ยิ่งเก่งมากก็ยิ่งช่วยได้มาก ไวมาก สำเร็จมาก ประกอบกับได้นำมาอุดผงในสายบารมีองค์มหากำเนิดคือพระกัศยปเทพบิดร ซึ่งเป็นมหาเทพ มหาฤาษี ผงนี้มีบารมีสูงมาก ท่านว่าก็มากพอที่จะให้กำเนิดเกิดมีได้ทุกอย่าง แม้แต่ระบบชีวิตชาติพันธุ์จิตวิญญาณต่างๆ รูปร่างลักษะรายละเอียดท่านยังให้กำเนิดได้จะนับอะไรกับความปรารถนาในใจคน ซึ่งเป็นลูกหลานของท่าน พ่ออาจารย์ท่านตั้งชื่อตะกรุดนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่พระเทพบิดรกัศยป และถือเป็นนัยน์อีกอย่างหนึ่งด้วยว่ามหาญาณจอมภูติอันมีเดชมากนี้ เปรียบดุจกับพ่อที่มีเมตตาต่อลูกทุกอย่าง ช่วยสุดใจเขา เป็นทุกข์เป็นร้อนไปกับเราไม่ทอดทิ้งกัน
เมื่อท่านนำตะกรุดมาอุดผงที่นวดกับน้ำมันประเภทต่างๆแล้ว จึงนำมาเชิญครูเสกอีกคำรบหนึ่ง ท่านว่าแม้ลำพังตัววิชาตะกรุดก็มีคุณมากแล้ว ตะกรุดนี้มีวิธีใช้สำคัญนัก เมื่อเลี่ยมแล้วให้เจาะรูที่ปลอกตะกรุดด้วย จะขออะไร จะบูชายกมือจบไหว้ก็ให้หาน้ำหอมขวดเล็กๆพกไว้ ขออะไรเขาก็ฉีดบูชาไปเสียทีหนึ่ง ไม่ต้องบนบานศาลกล่าวกันลืม ถวายน้ำหอมนี่แหละท่านว่ายิ่งฉีดบ่อยยิ่งแรง เลือกเอากลิ่นที่ตัวเราเองชอบ ย้ำว่ากลิ่นที่ตัวเราเองชอบเท่านั้น ถ้ารู้สึกว่าอ่อนหรือฉุนจมูกมากไปไม่เอา
คาถาบูชา
จิเจรุนิจิตตัง เจตสิกกัง รูปังนิพพานัง ตังนิพพุตัง ทะนะมะพะ ปฐวีธาตุทีฆังวา มะอะอุจิตตัง จุตะติ จิตติจิตตัง จิตมนุษย์หญิงชายทั้งหลายทั่วทั้งแผ่นดิน มีจิตมารักกูทุกผู้ทุกคน อุอะมะเกลื่อนกล่นกันมา อะมะอุรักกูอย่าขาด สัพพะรักกู มหารักกู ภวันตุเม
* พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่าตะกรุดนี้มีดวงจิตอันผูกเข้ากับเจ้าของผู้เป็นนายทุกดอก คุณแห่งวิชาได้กำหนดผู้ครอบครองไว้ตั้งแต่ต้น เมื่อญาณของพระเทพบิดรสถิตย์แก่ร่างผู้ใดย่อมเป็นเหตุ เป็นบ่อเกิดให้เจริญรุ่งเรื่องไม่รู้จบ ท่านว่าท่านอุดผงลบล้วนๆให้จึงสร้างบูชาครูไว้ได้เพียง 5 ดอกเท่านั้น สำหรับท่านที่ต้องการบูชาก็ให้แจ้งเฉพาะทาง PM รายได้สมทบทุนจตุปัจจัยให้วัดในถิ่นทุรกันดารและประสบอุทกภัยต่อไป
ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระเทพบิดรมหาญาณ(ศาสตร์หงสา) บูชา 4,000 บาทไฟล์ที่แนบมา:
-
-
แจ้งการส่ง EMS
พี่สุเมธ EQ 6824 2872 7 TH -
วันนี้ไม่ค่อยได้ตอบอะไรใครนะครับ พอดีเปลี่ยนยาทานเเล้วมันมีปฏิกิริยาเลยต้องนอนพัก ใครมีอะไร PM ทิ้งไว้นะเดี๋ยวเข้ามาตอบ:cool:
-
อรุณสวัสดิ์ครับ
วันนี้ก็ติดตามเดี๋ยวมีเรื่องมาพูดคุยกันนะ:cool: -
แจ้งการส่ง EMS
พี่ไววิทย์ ER 0390 5293 6 TH -
เดี๋ยวมีเวลาผมจะมาลงเรื่องเล่นเกมส์ของเดือนนี้ให้นะ
-
เอาเป็นวันพรุ่งนี้เช้านะครับ มาติดตามร่วมเล่นเกมส์กัน
-
ร่วมเล่นเกมส์ รับตะกรุดเกราะแก้วกำแพงจักรวาล
อรุณสวัสดิ์นะครับ
สำหรับการร่วมเล่นเกมส์ในวาระนี้ ก็จะเป็นเกมส์ง่ายๆต่อจากวาระก่อน คือให้แต่ละท่านร่วมสนุกด้วยการพิมพ์รายละเอียดของศีล5 ว่าศีลทั้งห้าข้อนั้นตนเองรักษษศีลข้อไหนได้บ้าง อันนี้พูดกันตามความจริงไม่ต้องอาย อย่างน้อยจะได้เป็นอนุสติและเตือนตัวเองด้วยว่าเราขาดเราเกินตรงไหน เมื่อรู้ตัวแล้วจะได้น้ำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงต่อไป พ่ออาจารย์ท่านว่าศีล5 นั้นหอมหวาน เป็นของประเสริฐเป็นเครื่องคุ้มกันรักษาอย่างยิ่ง ดั่งที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่าคุณแห่งศีลมีอยู่ในโลก แม้พระอริยเจ้าก็ยังรักษาศีล เป็นเรื่องสำคัญที่จะจำกัดกรอบการใช้ชีวิตตลอดจนความรู้สึกนึกคิดของตนให้อยู่ในระบบคุณธรรม
โดยการร่วมเล่นเกมส์วาระนี้ ก็จะนำตะกรุดเกราะแก้วกำแพงจักรวาลออกมามอบให้ ซึ่งตะกรุดนี้มีจำนวนน้อยมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาที่บูรพาจารย์ทั้งงหลายท่านนิยมใช้กันบ้างเสกเป่าเป็นคาถาหรือลงเป็นอักขระเลขยันต์ ท่านว่าด้วยวิธีต่างๆก็มีคุณเสมอกันทั้งสิ้น
ตะกรุดเกราะแก้วกำแพงจักรวาลนั้น เป็นดั่งกำแพงแก้วทั้ง 7 ชั้น กางครอบคลุมผู้อาราธนาไว้ทั้งสิบทิศ อันประกอบด้วยมหาทิศทั้งสี่รวมทิศย่อยต่างๆดังนี้
- ทิศอุดร หรือทิศเหนือ
- ทิศทักษิณ หรือทิศใต้
- ทิศบูรพา หรือทิศตะวันออก
- ทิศประจิม หรือทิศตะวันตก
- ทิศอีสาน หรือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
- ทิศอาคเนย์ หรือทิศตะวันออกเฉียงใต้
- ทิศพายัพ หรือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
- ทิศหรดี หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้
- ปฐพี หรือภาคพื้นดิน
- อากาศ หรือทิศเบื้องบนขึ้นไป
ท่านว่าเป็นการคุ้มครองแบบปลอดภัยสูงสุด เพราะเกราะแก้วนั้นกางกั้นทุกสัดส่วนปิดมิดชิดไม่มีพื้นที่ว่าง วิชานี้มีหลายขนานหลายตำรา ของสมเด็จโตท่านก็มี พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่าเกราะแก้วของสมเด็จโตนั้นจะต้องตั้งจิตอาราธนาพระปริตรแต่ละบทถ้วนทุกบทที่เป็นพระพุทธพจน์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาครอบคลุมตรึ่งเอาไว้ จึงเป็นเกราะแก้วที่มีอานุภาพมาก ท่านว่าเพราะทำเช่นนี้จึงทำได้ยาก กว่าจะทำได้แต่ละวารจะเสกเล่นๆไม่ได้เลย
พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้มีเจ้าของทุกดอก เค้าจะอยู่กับคนที่มีศีลมีคุณความดีเสมอกัน แม้คนทุศีลถือไว้ย่อมจะอันตรธานหายไปในวันหนึ่งวันใดอย่างแน่นอน เราก็เลยยกเรื่องศีลมาพูดคุยใช้เป็นเกมส์เล่นกันในวาระนี้ ให้สอดคล้องกับคำท่าน
ท่านว่าทำเป็นตะกรุดดอกเล็กๆ ใครก็ใช้กันได้ทุกคน แม้กาลนี้สืบไปเบื้องหน้าไม่ว่าจะอันตรายมหันตภัย ภัยธรรมชาติ อุบัติเหตุ หรือการกระทำจากฟ้าดิน เทพ ตลอดจนมนุษย์และอมนุษย์ทั้งปวง ท่านว่าพูดสั้นๆ เอาว่าเรารอดปลอดภัยคงรูปคงนามไว้ถ้วนทุกประการไม่สูญสลายไปก่อนจวบจนสิ้นอายุขัยแน่นอน จะคุ้มตนก็สวดพระคาถาให้กำแพงนี้คลุมตน จะคุ้มคนอื่น คุ้มบ้าน คุ้มเมือง คุ้มประเทศ ท่านว่าก็สวดคาถาแล้วนึกให้กำแพงนั้นกว้างใหญ่ไพศาลครอบคลุมทุกสิ่ง ท่านว่าทำได้เสมอใจ เป็นไปด้วยพระพุทธานุภาพแล
คาถาบูชา
พุทธัง สัตตะรัตนะมหาปการัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สัตตะรัตนะมหาปการัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สัตตะรัตนะมหาปการัง สะระณัง คัจฉามิ
* ก็ใช้กติกาเดิม เริ่มเล่นเกมส์กันได้เลย หมดเวลาวันพรุ่งนี้ตอน 6 โมงเย็นไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ร่วมเล่นเกมส์
ศีล 5 ที่รักษาเป็นปกติก็คือศีลข้อ 1 ละเว้นจากการฆ่
าสัตว์ เบียดเบียนชีวิตสัตว์อื่น ข้อ 2 ละเว้นจากลักทรัพย์ และข้อ 5 ละเว้นจากการดื่มสุราครับ ก็ตั้งใจจะรักษาศีล 5 ให้ครบนะครับ -
ร่วมเล่นเกมส์
ทุกๆวันพยายามรักษาศีล5 ให้ครบทั้ง 5 ข้อครับ บางวันอาจเผลอผิดไปบ้าง ก็ตั้งใจรักษาใหม่ ศีลข้อที่เผลอผิดไปบ้างเป็นบางวันคือข้อ 1 คือเผลอไปตบยุงตาย -
ร่วมเล่นเกมส์ครับ การรักษาศิล 5 จริงๆแล้วถ้าตรวจศิลของผมไม่ผ่านครับ
ข้อ 1 ห้ามฆ่าสัตว์ ส่วนใหญ่ไม่เจตนา เช่น มด หรือยุง
ข้อ 2 ห้ามเอาทรัพย์สินของผู้อื่นที่เขาไม่ให้ อาจจะหยิบมาใช่โดยพละการไม่ได้บอกเขา
ข้อ 3 ห้ามนอกใจภรรยา เที่ยวหญิงบริการ แค่คิดก็ผิดแล้วครับ
ข้อ 4 ห้ามพูดโกหก ส่อเสียด นินทา ก็มีบ้าง
ข้อ 5 ห้ามดื่มสุรา ผมรักษามาได้ เกือบ3ปี ช่วงหลังกลับมากินยามเข้าสังคม
หากเราตรวจศิลด่างศิลทะลุ ตามเวปที่ลงไม่ผ่านครับ สวดมนต์ผมก็กล่าวรับศิลเช้าเย็นเป็นกิจวัตร ครับ -
ร่วมเล่นเกมส์ครับ
สำหรับศีลที่คิดว่ารักษาได้บริสุทธิ์จริงๆคือ ศีลข้อ 5 ครับ ละเว้นจากการดื่มสุราและของมึนเมา ส่วนข้ออื่นๆก็มีความพยายามทรงไว้ให้บริสุทธิ์ครับ เช่น ข้อ 1 ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ เท่าที่ประเมินตนเองน่าจะรักษาได้ประมาณ 70-80% ครับ
ข้อ2 ละเว้นจากการขโมยหรือหยิบฉวยของจากผู้อื่นข้อนี้ก็พยายามทรงไว้ให้ได้80-90% ครับ
ข้อ 3 ละเว้นจากการประพฤติผิดในกาม ทรงไว้ได้70-80% (ในทางกายกรรม)
ข้อ4 ละเว้นจากการพูดโกหกและเสียดสี ทรงไว้ได้ประมาณ 60-70% ครับ ทุกวันนี้พยายามอย่างยิ่งที่จะหลีกเลี่ยงมิให้กล่าวมุสาและกล่าวผสุรวาทครับ
หน้า 173 ของ 465