ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเทียมครูปรารถนาเป็นหนึ่งกุณฑธานเถระ(มาหลังได้ก่อน) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ลูกกรอก

    นานทีปีหนพ่ออาจารย์จะทำกุมารทองซักครั้ง วันนี้ก็เลยเอาบทความเรื่องลูกกรอกมาให้อ่านกันคร่าวๆ จะได้พิจารณาดูถึงความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ต้องเลี้ยง และไม่ต้องเลี้ยงอาศัยใช้ใจบูชาอย่างเดียว ก็ลองเทียบกันดู

    อัศจรรย์เหนือธรรมชาติ "ลูกกรอก"มีทั้งคนและสัตว์ ดุจดั่งมีจิตวิญญาณสถิต ให้คุณแก่ผู้เลี้ยงดู ป้องกันอันตรายให้โชค ให้ลาภ ต้องคอยเลี้ยงดูให้ดี

    ลูกกรอกแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ

    ๑. ลูกกรอกที่เป็นคน

    ๒. ลูกกรอกที่เป็นสัตว์ เช่น ลูกกรอกแมว ลูกกรอกสุนัข

    ลูกกรอกที่เป็นคนคือ ทารกที่ปฏิสนธิแล้ว มีอาการครบ ๓๒ แต่มีขนาด เล็กแค่คีบ หรือใหญ่กว่าเล็กน้อย แม้จะอยู่ในครรภ์ครบแล้วแต่ขนาดก็ไม่เพิ่มขึ้น ในทางการแพทย์ถือว่าเด็กนั้นเสียชีวิตตั้งแต่ในครรภ์ จึงไม่ถือว่าเป็นบุคคล ตามกฎหมาย แต่ในทางไสยศาสตร์นั้นถือว่า วิญญาณได้ปฏิสนธิในตัวลูกกรอก แล้ว วิญญาณฝังครองอยู่จนกระทั้งคลอดออกมา จึงทำให้ร่างกายลูกกรอก ไม่เน่า ไม่เปื่อยทั้งๆ ที่ในการแพทย์ถือว่าไม่มีชีวิตอยู่แล้ว

    ในทางไสยศาสตร์จึงถือว่า ลูกกรอกเป็นทารกที่มีวิญญาณครองแต่ไม่มีชีวิต ดังนั้นเมื่อคลอดออกมาจึงมีคติที่จะอาบน้ำอาบท่า ใส่เสื้อผ้า ใส่พาน แล้ว สักการบูชา โดยมีคติความถือว่าจะปกป้องรักษาผู้เป็นแม่ให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง มีโชคลาภ มีทรัพย์สินเงินทอง

    ที่น่าแปลกใจคือ ลูกกรอกที่ตั้งอยู่ในพานนั้นไม่มีการเน่าเปื่อย โดยไม่ต้องมียาสมุนไพรหรือสารเคมีใดๆ มาอาบไว้ ลูกกรอกบางรายคงสภาพอยู่ถึง ๖๐ ปี แต่ส่วนมากจะสลายกลายเป็นผุยผงเมื่อพ่อแม่เสียชีวิต

    ความศักดิ์สิทธิ์ หรือความขลังของลูกกรอก หาได้เกิดจากพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ หรือการปลุกเสกแต่อย่างใด แต่เชื่อว่าลูกกรอกนั้นมีวิญญาณสิงสถิตอยู่ คอยทำนุบำรุงอุ้มชูผู้เป็นพ่อเป็นแม่ และพ่อแม่ก็จะปฏิบัติต่อลูกกรอก เหมือนปฏิบัติต่อลูกตามวัยของเด็ก เช่น หาของกินให้ หาของเล่นให้ ชวนป้อนข้าว ไปไหนก็ชวนไปด้วย ผู้เป็นแม่บางรายรู้สึกได้เลยว่าในยามค่ำคืน ลูกกรอกจะมาดูดนมแม่ตอนที่แม่หลับ หรือกึ่งหลับกึ่งตื่น

    นักไสยศาสตร์บางรายถึงกับเที่ยวล่าหาลูกกรอก เที่ยวแสวงหาว่าที่ใดมีลูกกรอกบ้าง ก็ใช่วิชาอาคมเรียกเอาวิญญาณลูกกรอกไปใช้สอยเป็นข้าทาสบริวาร ดังนั้นพ่อแม่คนใดมีลูกกรอกจึงต้องหาอาจารย์ดีๆ มาทำพิธีป้องกันไม่ ให้คนอื่นมาเรียกเอาวิญญาณลูกกรอกไป

    ลูกกรอกที่เป็นสัตว์ ก็ให้คุณคล้าย ๆ กันคือ ให้โชคให้ลาภ มีหลายคนที่ สงสัยว่าลูกกรอกเป็นผู้ใช้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ใช่ แต่ลูกกรอกเป็นกึ่งเทพกึ่งผี จะมีอำนาจมากกว่า ระยะเวลามีชีวิต จากที่เคยพบเห็นจะมีอายุอยู่ที่ประมาณ ๒๐ ปี ซึ่งก็ถือว่าไม่นานนักและหากบ้านไหนคิดว่ามีลูกกรอกอยู่ในบ้าน ก็ควรรีบทำบุญ ถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศลให้โดยไว้

    วิธีบูชาลูกกรอกแมวรกแมว

    ๑.ทำการตั้งชื่อแมวให้นำติดตัวติดกระเป๋าพาเดินทางไปยังที่ต่างๆด้วยกัน เวลาเจอจังหวะมีโชคมีลาภขึ้นมาแมวจะบอกเอง หรือค้าขายก็ให้บอกแมวนั้น หรือจะไปเจรจาใดๆพูดจากับใครให้รักให้หลงให้เชื่อคล้อยตามก็บอกลูกกรอกแมว จะไปซื้อหวย เสี่ยงโชคการพนัน หรือจะทำอะไรก็ให้บอกลูกกรอกแมวนั้น หรืออาจจะบนก็ได้เช่นปลาทูสิบตัวเป็นต้น

    ๒.จุดธูปขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางในบ้าน ใช้ธูป ๑๒ หรือ ๑๖ ดอก จากนั่นแนะนำตัว ข้าพเจ้าชื่อ….อยู่

    บ้าน เลขที่…ขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายแห่งนี่ที่ปกปักรักษาบ้านข้าพเจ้าอยู่ จงเปิดทางเข้า-ออก ให้ลูกกรอกแมวชื่อ…ให้เข้า-ออกบ้านข้าพเจ้าได้โดยสะดวก เพื่อเสริมทรัพย์ เสริมบารมี การค้าการขาย โชคลาภ เมตตามหานิยม ขอให้เจ้าที่จงเปิดทาง ให้ลูกกรอกแมวด้วยเถิด

    ๓.หาภาชนะมาใส่ อาจจะวางไว้บนพานหรือหากล่อง แต่ควรหา ผ้าสีแดงมารองไว้ด้วย เลี้ยงและบูชาด้วยน้ำ นม อาหารแมว หรือปลาทู สิ่งที่แมวชอบกินกัน อาจจะทุกวัน ทุกวันพระ หรือประจำวันเกิดขึ้นอยู่ ผู้นำไปเลี้ยงบูชา เวลาทำบุญก็หมั่นอุทิศส่วนกุศล ผลบุญแผ่บุญกุศลไปถึงลูกกรอกแมวด้วย

    คาถาลูกกรอกแมว หรือรกแมว

    นะโม ๓ จบ
    มะ อะ อุ มา นิ มา มา
    คำพูดที่เราต้องการ ตัวอย่าง ขอให้ถูกหวย ขอให้.....มาซื้อของเรา มารักเรา มาหาเรา มาซิมามา (๙จบ)

    คาถาปลุกลูกกรอกแมว หรือรกแมว

    ตั้งนะโม๓จบ
    นะทุเตสัง ตะโตภุญชันติ โภชะนัง เมสัญเจ อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ โอเมตตันติโรทันตังเต เตจะรันตุเม สัพเพเมตตัง จิตตังจิตตัง เมตตัญจะ สัพโลกัสสะมิง นะชาลีติ มะชาลีติ พะชาลีติ ทะชาลีติ ๙จบ


    42413605_1981431478616774_4641150653719117824_n.jpg
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    จันทร์ซ้อนจันทร์
    อรุณสวัสดิ์ครับ เมื่อคืนที่ผ่านมาก็เป็นฤกษ์จันทร์ซ้อนจันทร์วันนี้ก็เลยยกความสำคัญของวันนี้มาให้อ่านกันคร่าวๆ

    ฤกษ์ "จันทร์ซ้อนจันทร์" เป็นฤกษ์ดี ที่โบราณนิยมปลุกเสกวัตถุมงคล ที่เกี่ยวกับเมตตามหานิยม โชคลาภ เช่น การลงนะหน้าทอง พระลักษณ์หน้าทอง การประจุว่าน ประจุวัตถุมงคลเกี่ยวกับเมตตาทั้งหลายทั้งปวง ซึ่งในแต่ละปีจะมีฤกษ์จันทร์ซ้อนจันทร์แค่วันเดียวหรือสองวันเท่านั้นบางปีก็ไม่มีเลย สำหรับฤกษ์จันทร์ซ้อนจันทร์นั้น เป็นฤกษ์ที่ตรงกับวันจันทร์และตรงกับวันที่พระจันทร์เต็มดวง

    เนื่องมาจากว่า พระจันทร์นั้นทางโหราศาสตร์ถือว่ามีลักษณะรูปกายผุดผ่อง มีรัศมียองใย สวยงาม ชวนหลงใหล พระจันทร์มีกำลังวัน ๑๕ เลขประจำวันจันทร์คือเลข ๒ พระประจำวันจันทร์คือพระปางห้ามญาติ หรือห้ามสมุทร โหราศาสตร์เรียกพระจันทร์ว่า "ดาวจันทร์" คนที่เกิดวันจันทร์ ส่วนใหญ่จะมีร่างกายกลมกลึง อ้อนแอ้น กิริยาวาจานุ่มนวล ชวนหลงใหล

    ในวันจันทร์ซ้อนจันทร์นั้น คนที่มีวัตถุมงคลที่เกี่ยวกับเมตตามหานิยม ควรนำไปประจุอาคมหรือปลุกเสกเพิ่มความขลัง หรือคนที่จะลงนะหน้าทอง พระลักษณ์หน้าทอง บรรดาเกจิรู้ว่าถ้ากระทำพิธีในฤกษ์จันทร์ซ้อนจันทร์ จะเกิดประสิทธิเมฯเป็นอย่างยิ่ง และการทำพิธีเกี่ยวกับเมตตามหานิยมในวันนี้ จะต้องทำสิ่งที่เป็นด้านขาวหรือด้านดีเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับด้านดำหรือไสยดำที่สกปรกหรือข่มเหงผู้อื่นแต่อย่างใด


    คาถาบูชาสำหรับผู้ที่เกิดวันจันทร์ คือคาถาอภยปริตร ซึ่งถ้ายิ่งสวดในวันมหาฤกษ์ "วันจันทร์ซ้อนจันทร์" ก็จะเป็นมงคลยิ่ง บทสวด "อภัยปริตร" พระพุทธมนต์ เป็นปริตรแห่งการให้อภัยและอโหสิกรรม


    อภยปริตร

    ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ

    โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
    ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
    พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
    ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
    โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
    ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
    ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
    ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
    โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
    ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
    สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
    สักกัต๎วา พุทธะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง
    หิตัง เทวะมะนุสสานัง พุทธะเตะเชนะ โสตถินา
    นัสสันตุปัททะวา สัพเพ ทุกขา วูปะสะเมนตุ เต
    สักกัต๎วา ธัมมะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง
    ปะริฬาหูปะสะมะนัง ธัมมะเตเชนะ โสตถินา
    นัสสันตุปัททะวา สัพเพ ภะยา วูปะสะเมนตุ เต
    สักกัต๎วา สังฆะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง
    อาหุเนยยัง ปาหุเนยยัง สังฆะเตเชนะ โสตถินา
    นัสสันตุปัททะวา สัพเพ โรคา วูปะสะเมนตุ เต

    อานิสงส์การสวดพระคาถา

    สวดบูชาป้องกันอันตรายต่างๆ ให้พ้นจากภัยพิบัติทั้งปวง อานุภาพเพื่อแก้ลางร้าย เหตุร้าย ฝันร้ายทำลายสิ่งอัปมงคลทั้งปวงให้มลายสิ้น แม้ว่าเกิดนิมิตฝันไม่ดี เกิดอาเพศสังหรณ์ใจไปในทางที่ไม่ดีให้สวดพระคาถานี้จะกลับให้เกิดเป็นความดีขึ้น แม้จะมีเคราะห์ร้ายต่างๆ เกิดขึ้น ให้ทำน้ำมนต์อาบเสียด้วย และหากมีฝันดี ลางดี ก็เพิ่มพลังให้ดียิ่งขึ้น หมั่นเจริญภาวนาไว้ เกิดสิริมงคลยิ่งนัก สามารถสวดคาถาได้ตอนเช้าหลังจากตื่นนอน และก่อนนอนด้วย ยิ่งให้คุณแก่ผู้สวดภาวนา อานุภาพดาวนพเคราะห์นั้น สามารถคุ้มครองเราให้พ้นจากการเคราะห์ร้าย กลายเป็นเคราะห์ดี หรือหนักกลายเป็นเบา ทำให้ศํตรูกลายเป็นมิตร ทำให้คนที่เกลียดชังเรากลายเป็นรักใคร่ หรือแม้เมื่อพระราหูดวงร้ายเสวยอายุ ดาวอื่นๆอีกทั้งเจ็ดแปดดวงที่เป็นมิตรกับเราอยู่นั้นก็จะเมตตาช่วยป้องกันมิ ให้พระราหูดวงร้ายเสวยอายุแก่เราได้ ชีวิตของมนุษย์ทุกคนในโลกนี้ย่อมเกี่ยวสัมพันธ์อยู่ในอำนาจของดวงดาวทั้ง เก้าดวง หากสวดอภัยปริตรก่อนนอนทุกคืน จะทำให้หลับสบาย ไม่ฝันร้าย

    การสวดอภัยปริตรเชื่อว่า อานุภาพของพระรัตนตรัยจะช่วยขจัดปัดเป่าลางร้ายและสิ่งอันเป็นอัปมงคลทั้งหลายอันเกิดจากเสียงสัตว์ต่างๆ และธรรมชาติอื่นๆ ตลอดจนลางร้ายที่ปรากฏทางความฝันให้พินาศไปสิ้นฯ



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2018
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แจ้งการส่งems
    พี่ภิญโญ EV 7736 6480 0 TH

    พี่ระพีศักดิ์ EV 7736 6481 3 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ EV 7736 6482 7 TH

    พี่ธีรนนท์ EV 7736 6483 5 TH

    พี่จักรพงศ์ EV 7736 6484 4 TH
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ก็เริ่มมีเรื่องเฮี้ยนๆของพ่อศรีมาเล่ากันบ้างพอหอมปากหอมคอแล้ว นับว่าเร็วมากเหมือนได้ไปก็เจอเลย เอาไว้เดี๋ยวจะหยิบยกขึ้นมาพูดกันนะ รับรองว่าใครไม่ทันได้ไว้ได้เสียใจกันเล่นๆแน่

    ส่วนที่ถามหาเครื่องมงคลว่ามีรุ่นไหนที่พ่ออาจารย์ท่านใช้มวลสารเก่าของครูบาอาจารย์มาทำบ้างนั้น อันนี้ที่จริงต้องเรียกว่าถึงมีท่านก็ไม่อยากให้เอามาลงหรือเอามาออก เพราะท่านเกรงคนใช้จะคุมใจไม่อยู่ชนิดที่เรียกว่าใครที่ได้ไปท่านต้องขอร้องไม่ให้น้อมใจเอาไปใช้ในเรื่องเพศ ให้เอาไปใช้ทำเงิน ทำฐานะให้มั่นคงอย่างเดียว...ก็เอาไว้ติดตามพูดคุยกันอีกที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2018
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ปภัสสร EV 4402 5401 6 TH

    พี่นฤชา EV 4402 5402 1 TH
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    พูดคุยยามเย็น

    ช่วงนี้รู้สึกว่าแดดจะแรงกว่าช่วงสิบปีก่อนมาก หลายๆคนมีทั้งฟื้นตัวและก็มีทั้งรวยไปแล้ว ซึ่งทุกคนก็ต้องอาศัยความกล้า ทั้งกล้าคิดและกล้าทำ บางคนต้องพลิกแพลงงาน แต่บางคนก็ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนงาน เปลี่ยนรูปแบบชีวิต หันมาศึกษาอะไรใหม่ๆหันมาลงทุนทำอะไรใหม่ๆถึงรุ่ง เรียกว่ายุคนี้ใช้ตรรกะเดิมๆเก่าๆยุคยี่สิบสามสิบปีก่อนไม่ได้แล้ว บางคนที่จมอยู่กับความกลัว ไม่กล้าเปลี่ยนก็จะบ่นว่าเงินหายาก

    อันนี้ก็จริง เพราะเรารู้สึกได้ว่าสมัยนี้ค่าเงินมันลดลง เงินร้อยเงินพันบางทีมันก็ซื้อของไม่ได้มากเหมือนตอนเราเด็กๆ เมื่อก่อนมือถือแบบดีๆนี่ก็999ได้ถือไว้ก็หน้าบานแล้ว ขึ้นมาอีกนิดท๊อปสุดๆนี่ก็แค่หลักพัน แต่เดี๋ยวนี้มือถือเครื่องเดียวจะเอาดีๆก็ต้องว่ากันหลายหมื่น ราคาที่ ราคาบ้าน ราคาสิ่งอุปโภคบริโภคทั้งหลายถีบตัวสูงขึ้น มันวิ่งขึ้นสวนกับรายได้ที่เท่าเดิมหรือลดลง เราสามารถเห็นและสังเกตุได้ง่ายๆตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยวยี่สิบบาทย้อนไปสักสิบปีที่แล้ว ยี่สิบบาทสามารถซื้อก๋วยเตี๋ยวได้ในปริมาณเต็มชามจนล้นเรียกว่าบางเจ้าแบ่งกันกินสองคนยังอิ่ม กับในปัจจุบันที่สี่สิบห้าบาทไม่สามารถกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าเดิม ชามเดิม ได้มากเท่าเดิม

    เมื่อโลกเปลี่ยนแล้วเราเปลี่ยนตามโลกไม่ทัน ก็จะมีปัญหาที่เรียกว่าหาเงินยาก และนับเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในวงจรชีวิตของสังคมมนุษย์ เพราะตั้งแต่โบราณถึงปัจจุบันการดำรงค์ชีวิตนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องใช้เงินในการกินอยู่ อย่างที่โบราณเขากล่าว่าถ้ามีเงิน ก็ยังใช้ผีโม่แป้งได้ เมื่อโลกเป็นยุควัตถุนิยมหลายๆสิ่งหรือแทบจะทุกสิ่ง ที่มนุษย์นำมาใช้วัดค่าความเป็นคนนั้น ล้วนซื้อหาได้ด้วยกำลังทรัพย์

    นับแต่พระเจ้าเงินตราหมดไป หลายๆคนก็รอมานานนับปี ว่าพ่ออาจารย์ท่านจะมีรุ่นพิเศษหรือมีอะไรที่ตอบโจทย์เรื่องการหาเงินได้แบบตรงประเด็นขนาดนี้อีกหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าของสิ่งนี้ย่อมมีแต่ติดแค่ปัญหาเท่านั้นเดียวคือมันใช้ได้มากกว่าอธิษฐานขอเงิน พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งนี้อย่านับแต่เงินหลักน้อยๆเลย ของสิ่งนี้แม้หนี้สี่สิบล้านคนที่เขาบูชาไปก็ยังใช้ปลดมาแล้ว แต่เมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อจำกัดดุจดาบสองคม

    ปกติพ่ออาจารย์ท่านให้บูชาของเสน่ห์ท่านก็ไม่ได้มีข้อจำเพาะท้วงติงอะไร แต่เฉพาะสิ่งนี้ท่านว่าเป็นของเก่าของครูบาอาจารย์ และเจตนาของครูบาอาจารย์ท่านไม่ประสงค์ให้เอาไปใช้ในทางเพศหรือกามคุณทั้งที่มันใช้ได้ จะเรียกว่าใช้ได้ดีขนาดเกินเลยความคาดคิดยิ่งกว่านิทานไปเลยก็ได้ แต่ท่านกลับไม่ให้ใช้แล้วก็ไม่ควรเสี่ยงที่จะขัด

    ด้วยประสงค์ของครูบาอาจารย์ท่านที่ให้เอาไว้ใช้ทำเงิน ทำความเจริญก้าวหน้าให้เกิดขึ้นกับชีวิตอย่างเดียว พ่ออาจารย์ท่านจึงสองจิตสองใจ จะให้ใครบูชามากไปก็ไม่กล้า เรียกว่ากล้าๆกลัวๆใจคน ท่านว่าของสิ่งนี้ไม่ได้ทำมาให้ใช้หาเมียแม้ว่ามันจะเป็นเสน่ห์ไม่ได้ด้อยไปกว่าเรื่องหาเงินก็ตาม ท่านจึงจะพิจารณาให้เฉพาะคนที่ตั้งเป้าและมีจุดหมายเอาไว้บูชาเพื่อขวนขวายทรัพย์จริงๆเท่านั้น ท่านว่าสำหรับคนที่บูชาให้จบที่เรื่องเงิน อย่าไปคิดเรื่องลาภทางอื่น


    ***...อันนี้ก็ต้องติดตามกันดีๆสำหรับคนที่บ่นๆเข้ามาเรื่องเงินฟืด มีโอกาสแค่ครั้งเดียว ต้องเอาไปบูชาและลุยกับชีวิตให้เต็มที่เลยอันนี้จะเห็นผลเร็วมาก เอาไว้พุดคุยกันอีกรอบหนึ่ง

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดี๋ยวมาติดตามคุยกันต่อนะ
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    มีบางคนบอกหลวงพ่อปานท่านมาตามถึงบ้าน บางคนก็ฝัน บางคนก็มีนิมิตเห็นหลวงพ่อท่านพายเรือโดยหัวเรือมีตะเกียงส่องแสงสว่างแหวกว่ายความมืดมารับตนลงเรือไปด้วย บางคนก็บอกว่าท่านมาปลุกให้ตื่นพร้อมยื่นพระให้แล้วก็ประหลาดใจทักไลน์มาหาซ้ำบอกว่าผมรออยู่นะ บ้างก็ว่านั่งอยู่ดีๆแล้วก็มีภาพหลวงพ่อแว้ปๆเข้ามาซึ่งปกติไม่เคยเป็นและทักมาเล่าให้ฟัง

    หลายๆอย่างก็น่าแปลกเพราะเรายังไม่ได้พูดหรือเอ่ยแม้แต่ครึ่งคำ ว่าเครื่องมงคลมีมวลสารของหลวงพ่อท่านใด ครูบาอาจารย์รูปไหน แต่หลายคนเหมือนจะรู้ล่วงหน้ากันทั้งหมด ก็ต้องยอมรับว่าบารมีครูบาอาจารย์ท่านเมตตาจริงๆ แต่...ย้ำอีกครั้งว่าของชิ้นนี้ที่หลายๆคนรออยู่ พ่ออาจารย์ท่านย้ำนักย้ำหนาไว้ ให้เอาไปใช้หาเงิน เอาไปใช้แล้วรวย ห้ามเอาไปขอเรื่องเพศ


    2016-02-12--08-26-27.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    มีคนเสนอว่าให้เปิดจองช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์เพราะวันธรรมดาช่วงแปดเก้าโมงกลัวจะมาไม่ทัน ก็จะให้จองกันช่วงวันเสาร์นะครับ เอาวันสบายๆแล้วหลายๆคนก็หยุดด้วย ;)
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ใกล้เข้ามาอีกหนึ่งวัน พรุ่งนี้ติดตามกันดีๆนะ
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ที่โอนไว้ทุกท่านจัดส่งให้วันพรุ่งนี้นะครับ
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    พรุ่งนี้ติดตาม...กันดีๆนะครับ บอกได้คำเดียวว่าแรงแบบจัดเต็มมาก ทั้งมีคนทักมาขอยอดล่วงหน้าอีกหลายคนแต่ผมไม่ได้เปิดยอดให้ใครเลย เอาไว้ให้ลุ้นพร้อมกันทีเดียว
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ก็มีคนรอมาตั้งแต่เช้ามืด ติดตามกันนะครับวันนี้เดี๋ยวจะลงให้
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าสัวทรงเรือจ้างอุดมลาภแหวกม่านรอดทุกข์ (เงินเต็มมือ)

    พ่ออาจารย์ท่านได้ดำริสร้างพระเจ้าสัวในบารมีหลวงพ่อปานท่านไว้รุ่นหนึ่ง ท่านว่าสายบารมีของหลวงพ่อท่านนั้นดีด้านหากิน หนุนคนที่ประกอบอาชีพต่างๆได้ทุกอาชีพอย่างน่าอัศจรรย์ พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำริที่จะเอาชนวนมวลสารสำคัญต่างๆที่เกี่ยวข้องกับหลวงพ่อปานซึ่งท่านได้รวบรวมไว้ยาวนานแล้ว นำมาสร้างพระบูชาครูให้คนที่ประกอบอาชีพทำมาหากินฝืดเคืองได้บูชา

    พระเจ้าสัวนี้เป็นองค์จำลองขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นสรรเพชุดาญาณ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เป็นกำลังที่มีครบทั้วบริสุทธิคุณ พระปัญญาคุณ พระมหากรุณาธิคุณ ทั้งยังเป็นคลังแห่งโภคทรัพย์ที่จักไหลมาจากจตุรทิศด้วยทรงเป็นประธานแห่งอริยทรัพย์ทั้งภายในและภายนอก พ่ออาจารย์นั้นแต่เดิมตั้งใจจะทำพระเจ้าสัวเพชรกลับ ท่านจึงเริ่มแกะแม่พิมพ์ตามความตั้งใจของท่าน แต่ท่านว่าแกะออกมาอย่างไรก็กลายเป็นมารวิชัยไปดื้อๆซะอย่างนั้นไม่ใช่เพรชกลับแต่อย่างใด ท่านจึงเริ่มแกะใหม่พอเสร็จออกมาก็เป็นมารวิชัยอีก ถึงขนาดในครั้งที่สามท่านวาดแม่พิมพ์ไว้คร่าวๆและแกะด้วยมือท่านเองก็ยังแกะออกมาเป็นมารวิชัย พ่ออาจารย์ท่านเห็นอัศจรรย์ถึงสามครั้งสามหน ท่านจึงประหลาดใจและสอบถามกับหลวงปู่ปานในขณะนั้นว่าทำไมทำออกมาได้อย่างนี้ไม่ตรงกับความตั้งใจของท่าน

    ซึ่งหลวงปู่ท่านก็เมตตาบอกให้แจ้งแก่ใจว่า " จะทำพระให้คนเขารวย ก็พระแบบนั้นพระกลับพระพลิกชีวิตคนก็มีถมไปแล้วไม่ใช่หรือ สมัยนี้จะเอาอะไรไปพลิกให้เขารวยได้อย่างไร... ก็สมัยนี้มารมันเยอะ ก่อนจะรวยก็ต้องผจญมารก่อน เช่นนั้นก็ต้องชนะมาร ข่มมารได้เรื่องรวยถึงไม่ใช่ปัญหา หากชนะไม่ได้ก็จะตายเพราะมารแล้วจะเอาอะไรไปรวยไปมั่งมี " อุปมาดังพระบรมศาสดาเมื่อท่านบำเพ็ญบารมีทั้งสี่อสงไขยกำไรแสนกัลป์นานแสนนานนับประมาณไม่ได้ทรงบรรลุอภิเษกสัมโพธิณาณเป็นพระบรมศาสดาผู้เลิศกว่ามนุษย์ เทวดา มาร พรหม ไม่มีใครเสมอเหมือน ก็ท่านผ่านอุปสรรคและชนะมารทั้งหมดทั้งสิ้นฉันใด การอัญเชิญพระพุทธบารมีของพระองค์ในลักษณะชนะมารก็ย่อมแหวกม่านพ้นจากปัญหาเหนือจากอุปสรรคทั้งปวงเช่นนั้น ย่อมมีพลานุภาพให้ปัญหา อุปสรรค หรือตัวมารของเราเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ให้เรามีชัย ให้เราชนะ ให้มารอันตรธานหายหมดไปฉันนั้น

    เมื่อเข้าใจเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงใช้แม่พิมพ์เจ้าสัวมารวิชัยนี้โดยทำตามคำชี้แนะเพิ่มเติมของหลวงพ่อปานท่าน คือให้พ่ออาจารย์ท่านทำพระเจ้าสัวทรงเรือจ้างพิมพ์แหวกม่าน ด้วยว่าพระเจ้าทรงเรือจ้างหรือนั่งไปในพาหนะนี้ ท่านว่าดุจชีวิตคนที่ว่ายอยู่ในกระแสธารแห่งสังสารวัฏ มีทั้งคลื่นทั้งลมต้องใช้กำลังทั้งหมดฝ่ากระแสน้ำที่เชี่ยวกรากกว่าจะไปหาที่เกาะที่ยึดได้ซักสิ่งหนึ่งก็ดิ้นรนกันแทบตาย ท่านว่าระหว่างคนที่ใช้แต่กำลังว่ายไปกับคนที่ไม่ต้องออกแรงมาก นั่งเฉยๆแต่ก็ไปถึงไว อย่างไหนดีกว่ากันก็คิดดู ให้พิจารณากันเอาเองว่าชีวิตทุกวันนี้ตัวเองเป็นประเภทไหน เป็นคนนั่งเรือ หรือคนแหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทรที่ต้องใช้ทั้งกำลังและความคิดสติปัญญามากกว่าคนอื่นเขา เข้าทำนองว่าไปถึงก็ช้าซ้ำใช้กำลังไปทั้งตัวจนเหนื่อยเจียนตาย ซ้ำบางทีก็อาจไปไม่ถึง

    ซ้ำหลวงพ่อปานท่านยังเปรียบเป็นเช่นพ่อแม่ครูอาจารย์ เป็นครู เป็นเสมือนเรือจ้างที่จะดูแลให้ชีวิตของลูกก้าวหน้าโดยไม่ย่อท้อ พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำใจของหลวงพ่อท่านเต็มเปี่ยมดุจเรือจ้างแหวกวังวนทะเลทุกข์แม้จะเจอปัญหาหรืออุปสรรคใดท่านก็ไม่เคยหยุดความตั้งใจที่จะส่งศิษย์ให้ถึงฝั่ง ด้วยท่านเปรียบดั่งครู เป็นดั่งเรือจ้างที่ต้องส่งเราผ่านม่านหมอก แหวกทุกข์โศก ส่งขึ้นให้ถึงฝั่งถึงความสำเร็จเช่นนั้น นี่จึงเป็นพลังแฝงอันแท้จริงของพระพิมพ์เจ้าสัวรูปนี้

    พ่ออาจารย์ท่านได้ใช้ดินท้องพระคลังพระเจ้าพิมพิสารที่ท่านได้รวบรวมไว้ด้วยถือเป็นมงคลเสมือนเป็นกระแสแห่งกำลังของคลังจักรพรรดิ ท่านว่าดินนี่อยู่ที่ไหนก็เรียกสมบัติได้เต็มท้องพระคลัง ท่านนำดินสำคัญมาเข้ากับผงวิเศษทั้งห้าและผงจินดามณีปั้นเป็นแท่งชอล์ก ก่อนจะนำมาลบถมผงวิเศษอีกหลายประการตั้งแต่ เศรษฐีนวโกฏิ ยอดเศรษฐี สุริยันทอแสง โภคทรัพย์จินดามณี ธนทรัพย์เก้าฤกษ์ หงส์คาบทรัพย์ มอญแปลงหาทรัพย์ ครุฑตะปปเหยื่อ ปัจเจกโพธิ์ พระเจ้าขอลาภ บุญญานุภาพพระสีวลี ซึ่งผงต่างๆเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านเน้นถึงความสำคัญอย่างมากเมื่อทำก็ต้องทำในเศรษฐีโยค เทวีฤกษ์ ภูมิปาโลฤกษ์ เป็นต้น เพื่อให้เป็นผงสำเร็จไม่มีอัปมงคลใดแฝงอยู่

    ท่านว่าผงบางตัวนี่แรงมาก ผงหลายๆตัวนี่ถ้าไม่ใช่สร้างพระเพื่อตั้งใจเรียกเงินเข้ามือคนท่านจะไม่ทำเลย อย่างเช่น
    - ผงยอดเศรษฐี นี่จะเรียกว่าโคตรเศรษฐีก็ได้ผงนี้ใครได้ไว้ท่านว่าทำอะไรไม่มีสะดุดเลย ด้วยเทวดาท่านแปลงมารักษาทุกอณูผงหากตั้งใจทำมาหากินแม้คำว่าเศรษฐีหรือมหาเศรษฐีก็ยังถือว่าน้อยไปพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องได้เป็นถึงยอดถึงโคตรเช่นนั้นพูดอีกทางนึงคือเป็นที่สุดนั่นเอง
    - ผงสุริยันทอแส ท่านว่าผงนี้สำคัญอุปมาเหมือนดวงอาทิตย์ ตราบใดที่โลกยังต้องแสงอาทิตย์ หรือตราบใดที่แหงนหน้ามองฟ้ายังเห็นแสงอาทิตย์ ท่านว่าตราบนั้นคนที่มีผงนี้อยู่จะตกอับอาภัพโชคไม่ได้เลย เมื่อแสงตะวันยังอยู่ฉันใดเราจะรุ่งเรือง รุ่งโรจน์ เจริญก้าวหน้าเช่นนั้น เสมอ ดุจว่าพระอาทิตย์ยังอยู่ยันต์นี้ผงนี้ก็ยังขลังตลอดไป คนที่ถือผงไว้จะหาความตกต่ำย่ำแย่ลำบากไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติยันต์นี้เป็นของสูงซึ่งโบราณจารย์ใช้ผูกกับดวงเมืองที่เสาหลักเมือง หนนี้ท่านเมตตานำมาทำเป็นผงลงให้ด้วยถือคติว่าเมื่อโลกแตกตะวันดับนั้นแหละเมืองถึงจะหายไป พระเจ้าสัวนี้ก็เช่นกัน ตราบใดไม่สิ้นแสงตะวันคนใช้เขาก็ย่อมรุ่งโรจน์ไม่ขาดเงินเช่นนั้น
    - โภคทรัพย์จินดามณี ท่านว่าผงนี้ก็สำคัญเพราะเป็นผงที่ใช้เบิกฤกษ์เปิดทาง ด้วยชีวิตคนนั้นหากทางปิด ดวงไม่เปิด ต่อให้ใช้พระทางโชคลาภก็ไร้ผล ท่านว่าแม้ถือฉลากรางวัลที่หนึ่งอยู่ในมือก็ยังมีเหตุให้ขึ้นเงินไม่ได้ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเราทำให้เพื่อเปิดทางโภคทรัพย์แบบเต็มกำลังทั้งเก้าฤกษ์ ให้กำลังนั้นหนุนนำ นำพาวาสนาเงินทองเข้าหาชีวิต
    - ธนทรัพย์เก้าฤกษ์ ท่านว่าดีทุกวัน ดีทุกฤกษ์ จะเรียกว่าผงห้ามจนหรือจนไม่เป็นก็ได้ ผงนี้จะมีคุณเน้นไปทางหาทรัพย์ง่าย ได้ทรัพย์แต่ละครั้งเป็นกอบเป็นกำ ดั่งที่โบราณว่าไว้ว่าผงยันต์นี้อยู่กับใครจะเป็นเจ้าสัวมีทรัพย์มาก ด้วยทรัพย์นั้นใช้ทั้งชาตินี้ไปจนถึงชาติหน้าก็ยังไม่หมด
    - หงส์คาบทรัพย์ ท่านว่าผงนี้เร่งให้เจริญ เจริญไปพร้อมกับความสุขไม่มีทุกข์เจือปน ห้ามเจ็บ ห้ามจน สุขล้นไปกับเงินทอง
    - มอญแปลงหาทรัพย์ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาหาทรัพย์ เพิ่มทรัพย์ ใช้ให้เงินทองไหลมาเทมา ทำอะไรก็สะดวก มีแต่กำไรไม่ขาดทุน จับอะไรก็ได้กำไร
    - ครุฑตะปบเหยื่อ ท่านว่าหมายมั่นปั้นมือจะทำกิจใดแล้วไม่มีรอด ไม่พ้นมือ ดุจเรากำหนดได้ ทุกสิ่งอยู่ในกำมือเราเช่นนั้น
    - ปัจเจกโพธิ์ ท่านว่ามีเงินทองทั้งยามหลับยามตื่น ลาภไหลมาไม่ขาด ทุกความปรารถนาจะต้องสำเร็จสมหวัง มีลาภสักการะมาก แลจักร่ำรวยในที่สุด
    - พระเจ้าขอลาภ ตำราว่าแม้มีทุกข์เข็ญเมื่อเอ่ยปากก็ต้อง
    ผ่านพ้นไป แม้เกิดทุพภิกขภัยหากปรารถนาแล้วไซร้ก็ยังผ่านพ้นกลับคืนความเจริญได้ฉันใดก็ฉันนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาสั้นๆขออะไรกับองค์พระท่านก็ให้
    - บุญญานุภาพพระสีวลี ท่านว่าผงนี้อยู่ไหนที่นั่นร่มเย็น อิ่ม อุดมสมบูรณ์ ไม่อดไม่อยาก เจริญด้วยเงินทองโภคสมบัติ พร้อมทั้งศุภมงคลได้แก่อายุ วรรณะ สุขะ พละ แกร่งกล้าบริบูรณ์ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านอุปมาดุจบุญของพระสีวลี ท่านว่าต่อให้บ้านเมืองเข้าสู่ยุคเข็ญแต่ด้วยบุญญานุภาพฝนที่แล้งก็ยังตก น้ำคลองที่แห้งขอดยังกลับมาเต็ม ป่าไม้ที่ยืนต้นตายยังกลับมาเขียวชอุ่ม เปลี่ยนจากความแห้งแล้งอดอยากเป็นความอุดมสมบูรณ์ คนที่เจ็บที่จนจะฟื้นตัว

    พ่ออาจารย์ท่านนำผงสำคัญมาผสมกับไม้รอดคุก ด้วยท่านถือคติว่าหากติดอยู่ในคุกก็โดนจำกัดสิทธิเสรีภาพเป็นทุกข์อย่างที่สุด แต่หากรอดจากคุกแล้วนั่นก็คือชีวิตพ้นจากความจำกัด รอดแล้ว พ้นแล้ว รอดจากความทุกข์แล้ว โดยท่านได้นำไม้รอดคุกหรือทุกข์นี้มาเสกเพิ่มอาถรรพ์ก่อนพลีเป็นผงผสมผงวิเศษทั้งสิ้นดังกล่าวข้างต้น ท่านว่าเท่านี้ก็ถือว่าพ้นทุกข์และก็รอดทุกข์ได้ถ้วนทุกประการ

    ท่านทำเจ้าสัวเรือจ้างแหวกม่านนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าหลวงพ่อปานท่านดำริไว้ให้คนใช้เป็นเศรษฐี ดังนั้นพระนี้จึงเป็นทั้งพรและกำลังอันประเสริฐที่ต้องย้ำเน้นว่าเมื่ออาราธนาติดตัวแล้วต้องเป็นเจ้าสัวเป็นเศรษฐีทุกคน จะรวยน้อยรวยมากอันนี้ท่านว่าย่อมขึ้นอยู่กับวาสนา แต่ที่เป็นเจตนาเปลี่ยนแปลงไม่ได้และสำคัญเหรือสิ่งอื่นใดคือต้องรวยขึ้นทุกคน ด้วยแรงครูและคุณพระรัตนตรัย พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นพระที่ทำยากและมีอะไรที่ลึกเกินไปกว่าตาจะมองเห็น พ่ออาจารย์ท่านว่าพระทุกองค์นั้นจะต้องจำเพาะเจาจงอาราธนาบารมีพระอรหันต์ขีณาสพซึ่งก่อนบวชเคยเป็นเศรษฐีมีโคตรมีต้นตระกูลสูงมีชีวิตที่สุขสบายมารักษาทั้งแปดทิศ ได้แก่พระยสะกุลบุตร...เป็นต้น เพื่อจะให้กำเนิดพระเศรษฐีที่เป็นของใช้ของเศรษฐี ให้ใช้แล้วเกิดเป็นเศรษฐี พ่ออาจารย์ท่านว่าขอแค่พร้อมและตั้งใจทำงาน หมั่นทำทานรักษาศีล ทุกสิ่งจะดีขึ้นโดยฉับพลัน

    ด้วยเป็นเจ้าสัวพิมพ์แหวกม่านท่านว่าก็ต้องแหวกมันได้จริงๆ เพราะหากคนจะรวยแต่อุปสรรคเยอะได้มาเท่าไหร่มันก็หมด หลายคนบอกว่าพอบูชาเครื่องมงคลของท่านเงินเข้ามากจริงแต่ก็มีใช้ออกไปมากตามจังหวะชีวิตเช่นกัน ดังนั้นท่านเห็นว่าทำเท่าไหร่เขาก็ไม่รวยทำได้แต่เพียงทรงตัวไม่ทรุดตัวเช่นนั้น ทั้งนี้ด้วยมติบูรพาจารย์ในโลกทิพย์ให้ทำพระเจ้าสัวแหวกม่านเพื่อลบทั้งปัญหาแลปัดเป่าอุปสรรคขัดขวางนานัปการ ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเราที่ชีวิตมีปัญหานี่ก็ย่อมหลีกไม่พ้นปัจจัยเหล่านี้ไม่ว่าจะความจน การเงิน หนี้สิน การงาน สังคม การเรียน ความรัก ครอบครัว เพื่อนฝูงและปัญหาเกี่ยวกับคน เมื่อแหวกม่านก็ต้องแหวกปัญหาทั้งหมดพร้อมทั้งส่งให้ชีวิตดีขึ้นเจริญรุ่งเรืองขึ้น ท่านว่าต่อจากนี้หันหน้าไปทิศใดทางไหนย่อมมองไม่เห็นปัญหาเลย ดั่งที่กล่าวไปแล้วนั่นเป็นคุณของพระพิมพ์แหวกม่านที่ควรมีและควรจะเป็น แต่พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเพียงเท่านั้นยังไม่พอ เพราะสมัยนี้คนเราเขาไม่ได้มีปัญหาแค่เรื่องเพียงเท่านั้น ด้วยว่าสิ่งเหล่านั้นยังเป็นสิ่งที่มองออก คิดตก หรือเห็นได้รู้สึกได้ แต่สิ่งที่มองไม่เห็น คิดไม่ตก รู้สึกไม่ได้เล่า พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละคือปัญหาและอุปสรรคอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นคุณผีคุณไสย เคราะห์กรรม คำสาป อำนาจฝ่ายต่ำที่ฉุดให้เราจมลง เจ้ากรรมนายเวรที่ตามล้างตามผลาญให้ตายไปข้างหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะทำพระแหวกม่านพอเขาเอาไปอาราธนาแล้ว ไอ้ตัวปัญหาที่มองไม่เห็นเหล่านี้ก็ต้องแหวกต้องคลี่คลายด้วย ต้องค่อยๆเบาลง บางลง และหมดสิ้นไปตามลำดับนั่นแหละจึงจะใช้ได้

    ด้านหลังพ่ออาจารย์ท่านได้นำสิ่งมงคลสักการะของครูบาอาจารย์มาฝังกำกับอิทธิคุณไว้ ท่านว่าพระรุ่นนี้แรงครูสูงมาก ให้ใช้กันให้ดีๆ ด้วยแรงครูนั้จะพลิกและเปลี่ยนชีวิตได้เลย
    - ขวดน้ำมันแทนครู พ่ออาจารย์ท่านได้นำสิ่งแทนครูของหลวงพ่อปานที่ท่านเก็บเอาไว้ใส่ลงไปในขวด ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นของมีค่า ไม่สามารถประเมิณค่าได้ทั้งสิ้น ท่านได้จารตะกรุดโภคทรัพย์ตำรับหลวงพ่อปานใส่ไว้ด้วย ท่านว่าตะกรุดนี้ฉมังนักเราเชิญหลวงพ่อท่านมาเสกเต็มวิชาเสียคำรบหนึ่งก่อน ท่านยังอุทานว่า "ตะกรุดนี้ใครมีไว้เงินไม่ขาดมือ" ซึ่งปกติแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยก่อนหลวงพ่อท่านจะทำตะกรุดนี้ให้กับเฉพาะคนที่มีแววจะเป็นเจ้าสัวเป็นเศรษฐีไปชั่วลูกชั่วหลานเท่านั้น ท่านได้นำตะกรุดบรรจุลงไปในขวด พร้อมกับหัวเชื้อสีผึ้งของหลวงพ่อปานแท้ๆขนาดเมล็ดถั่วเหลือง ท่านว่าสีผึ้งนี้แม้เมล็ดถั่วเหลืองยังมีอานุภาพมากสามารถนำไปหุงขยายใส่สีผึ้งธรรมดาได้นับพันนับหมื่นตลับ ทั้งมีอานุภาพมากใช้ได้ไม่เว้นไม่ว่าจะเสน่ห์หรือโชคลาภ ท่านแม้เอาไปอธิษฐานสร้างโบสถ์ก็ยังสร้างเสร็จได้ อธิษฐานปลดหนี้ก็ได้ขอให้เป็นเรื่องเงินๆทองๆท่านว่าใช้ได้ทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าสีผึ้งนี้เปรียบดั่งดาบสองคมท่านกลัวคนจะเอาไปป้ายกันจึงจำต้องบรรจุไว้ในขวดให้ใช้เฉพาะขอเงินขอโชคอย่างเดียว ท่านว่ามีเงินเดี๋ยวทุกอย่างมันก็เข้ามาเองห้ามเอาไปขอเรื่องเพศเด็ดขาด นอกจากนี้ท่านยังได้นำทรายเสกของหลวงพ่อปานที่ใสดุจพระธาตุมีอานุภาพดุจกำแพงแก้วเจ็ดชั้น ทั้งดับล้างภูติผีและอัปมงคลทั้งหลายใส่ลงไปด้วยพร้อมกับผงทำพระของหลวงพ่อปาน สุดท้ายท่านนำน้ำมันงาเก่าของหลวงพ่อปานที่แข็งเป็นก้อนแล้วนำมาหุงกับน้ำมันหัวไพรของท่านเป็นสุดยอดน้ำมันเมตตา น้ำมันชาตรีตำรับเก่าใส่ลงไปในขวดหล่อเลี้ยงอิทธิวัตถุธาตุเหล่านี้อีกรอบหนึ่งด้วย ท่านว่าขวดน้ำมันนี้สำคัญเป็นของแทนครู แค่หลับตานึกถึงหลวงพ่อปานท่าน ขอบารมีท่าน อยากได้อยากอธิษฐานอะไรก็ขอเอาย่อมสำเร็จทั้งสิ้น
    - แร่ทองบันดาล เป็นแร่ทองแดงบาดาลของหลวงพ่อปานที่ครูท่านมอบให้ไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่รู้จะเอาไปทำหรือไปหล่ออะไรดี จึงนำมาตัดเป็นชิ้นชนวนฝังไว้ในองค์พระ ท่านว่าทองแดงบาดาลที่หลวงพ่อปานท่านเสกไว้ย่อมเป็นของมีอานุภาพ ซ้ำยังพ้องกับนามมงคลว่าทองบันดาล ก็คือบันดาลโภคทรัพย์เงินทอง ด้วยถือคติว่าแม้ไม่มีทางได้ ไม่มีทางมี ไม่มีทางรวย ท่านว่าขนาดขึ้นชื่อว่าไม่มีหนทางก็ยังบันดาลเอาได้ เป็นมงคลดั่งอุปมาเช่นนั้น
    - ชิ้นแร่เงินล้าน เป็นชิ้นแร่เกาะล้านของหลวงพ่อปานที่สมัยก่อนท่านเสกไว้และใช้ผสมในเนื้อพระบางอย่างของท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าถือคติคำว่าล้านเหมือนกันจึงนำมาอธิษฐานด้วยคาถาเงินล้านขอบารมีหลวงพ่อปานอีกคำรบหนึ่งเลยเรียกว่าแร่เงินล้าน ท่านว่าแร่นี้ดุจมีกำลังเป็นทั้งหลักให้ยึดเกาะนำพาเงินล้านมาให้เรา ทั้งบันดาลเงินทองโชคลาภได้สารพัด ท่านว่าไม่ว่าใครจะมีเก็บกันเท่าไหร่ต่อไปต้องตั้งต้นกันที่หลักล้านขึ้นไปเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็เป็นเศรษฐีไม่ได้
    - ตะกรุดคู่ยกตน ท่านว่ามีคุณยกตรให้เป็นใหญ่ ยิ่งใหญ่ ยิ่งโตกว่าอะไรทั้งหมด ซ้ำยังเป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เทวดาทุกชั้นฟ้าให้ความช่วยเหลือมนุษย์และอมนุษย์ถ้วนหน้าให้ความเอ็นดูเกื้อกูล เป็นผู้ปราศจากภัยพิบัติทั้งหลายทั้งปวง ท่านว่าไม่ว่าจะภัยใหญ่ทุกข์ใหญ่เอาว่าจะไม่เกิดกับเรา ไม่ว่าจะคิด จะทำ จะจับต้องอะไรจะสำเร็จเจริญงอกงามรุ่งเรืองสถาพร ไม่ว่าจะไปทิศไหนเขาก็ให้การต้อนรับ จะให้ความช่วยเหลือ จะให้การอุดหนุน จะยกให้เหนือกว่าผู้อื่น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระรุ่นนี้ฉันตั้งใจเสกให้มีปาฏิหาริย์มาก ทุกขั้นตอนตั้งแต่ทำผงไปจนถึงกดองค์พระ เพื่อให้คนนำไปใช้เจอปาฏิหาริย์เสมอกัน ท่านว่าคนใช้พระที่องค์หนึ่งทำในฤกษ์กับอีกองค์ ไม่ตรงฤกษ์หรือฤกษ์ต่างกันเช่นนี้ผลที่ได้ก็ย่อมไม่เท่ากัน พ่ออาจารย์ท่านจึงเน้นเรื่องฤกษ์ยามมาก ท่านว่าขอแค่มีฤกษ์แม้บางครั้งตีสามตี่สี่ก็ต้องนั่งรอทำ ท่านว่าพระรุ่นนี้ฉันอธิษฐานฝากหลวงพ่อปานให้ท่านส่งคนใช้ให้ถึงฝั่ง ให้เขามีความสุขไม่เดือนร้อนทั้งกายและใจ มีพลังมากทั้งกำลังกายและกำลังสติปัญญา ประสบความสุขความเจริญครบถ้วน ท่านว่าทำให้ทุกอย่างแล้ว ต่อให้แย่แค่ไหนได้ไปก็ต้องดีขึ้น ต้องดีวันดีคืน ไม่มีคำว่าขาดแคลน

    คาถาบูชา
    อุอากะสะ นะชาลิติประสิทธิลาภา มหาลาโภ โชคะวันตัง เอหิจงมา ธะนะปาตัง มากะมายังอักขะโต ปาระติโย วันทิตตะวา นะมามิหัง (ท่านว่าหมั่นสวดบูชาแล้วเงินเต็มมือ ทรัพย์ไม่พร่อง)


    * พระเจ้าสัวเรือจ้างพ่ออาจารย์ท่านว่ามีอยู่แค่หกองค์เท่านั้นและท่านเก็บไว้อาราธนาเององค์หนึ่งจึงเหลือให้บูชาเพียงห้าองค์ ท่านว่าองค์พระนี้ล้วนแต่มีเจ้าของที่มีตราบุญบัญญัติกำหนดไว้แล้วเสมอกันทุกองค์ โดยท่านพูดทิ้งเอาไว้ว่าเดี๋ยวเค้าเห็นเค้าก็รู้สึกกันได้เพราะหลวงพ่อปานท่านจะจัดสรรค์เฉพาะคนของท่านให้มาเอาไปใช้เอง

    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าสัวทรงเรือจ้างอุดมลาภแหวกม่านรอดทุกข์ (เงินเต็มมือ) บูชา 4,000 บาท

    42627993_733634626992463_3106975304657141760_n.jpg 42645589_2085550781774130_7984898984189624320_n.jpg
    42629582_717396908652983_5119804198849871872_n.jpg
    2016-02-12--08-26-27.jpg
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    พระเจ้าสัวพิมพ์ท้องเรือรุ่นนี้นับว่าองค์เล็กมากกว่ารุ่นก่อนๆ ขนาดประมาณพระสมเด็จ พระขุนแผนทำนองนั้น เพราะพ่ออาจารย์ท่านตั้งใจทำเอาไว้ให้ห้อยไม่หนักคอ ขนาดกำลังดีไม่ใหญ่เกินไป
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ชัยวัฒน์ EV 7737 7708 6 TH

    พี่วีระพัฒน์ EV 7737 7709 0 TH

    พี่กฤตยชญ์ EV 7737 7710 9 TH

    พี่ทวีพงษ์ EV 7737 7711 2 TH

    พี่วิชัย EV 7737 7712 6 TH

    พี่แมน EV 7737 7713 0 TH

    พี่รุ่งเรือง EV 7737 7714 3 TH
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    เจ้าสัวเรืองจ้างชุดนี้ย่อมกลายเป็นรายการพระในตำนานแน่นอน เพราะนอกจากอาถรรพ์ความแรงแล้วขนาดก็กำลังห้อยสวย บางคนบอกว่าตื่นมาเฝ้าหน้าจอแต่เช้าเลยครับ ชุดนี้ใครได้ไปก็ขึ้นคอดีๆ...ห้อยเดี่ยวสบายใจเลย
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    การรู้สึกตัว ปลุกธาตุรู้


    "การรู้สึกตัว" รู้เพื่อไปปลุกธาตุรู้ หรือจิตผู้รู้ให้เด่นขึ้นมา


    ให้รับสัมผัสถึงสิ่งต่างที่มากระทบกาย (เอาแค่หมวดกายพอ) แค่ให้รู้ เช่นเดินไปธรรมดาปกติ เวลาเท้ากระทบพื้น ก็ให้รู้สึกตัวเป็นสติ "แค่รู้" เวลาลมพัดผ่านกายก็ให้รู้

    จุดที่ต้องรู้นี้สําคัญมาก ให้รู้แค่รู้ถึงความรู้สึกที่กายถูกโดนลมเท่านั้น อย่าไปให้ความหมายใดๆ อย่าไปคิด แค่รู้ว่ารับรู้ถึงความรู้สึกตัว โดยไม่มีอะไรต่อ ไม่คิดต่อ ไม่มีความหมายต่อ เช่นลมพัดกระทบกาย แค่ รู้ แต่ไม่ไปคิดแปรความหมายว่าลมแรงลมช้าลมร้อนลมเย็น "แค่รู้สึกตัว" อย่าไปให้ความหมายแม้แต่ไปคิดว่าเป็นลมด้วย นี้หล่ะคือการรับรู้

    ถึงความรู้สึกตัวที่มันมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ เป็นสติที่บริสุทธิ์ ปราศจากความคิด เป็นการเจริญวิปัสสนา แบบสติปัฏฐาน 4 ในหมวดกาย ครับ ทําอันนี้ให้ได้กันทุกคนนะ สิ่งนี้เมื่อทําบ่อยๆแล้วจะทําให้สติมีกําลังมากขึ้นมาเรื่อยๆ จนก้าวหน้าในวิปัสสนาอย่างมากๆ

    หลังจากที่ รู้สึกในชีวิตประจําวันได้บ่อยแล้ว และให้ดีให้ทําควบคู่ไปกับการตามรู้ลมหายใจ ไปในชีวิตประจําวันด้วย ให้ทําบ่อยๆในทุกวันที่นึกได้ ให้ทําไปเรื่อยๆ อย่าไปเพ่งอย่าไปเกร็ง ทําไปเรื่อยๆเล่นๆ อย่าอยากได้สภาวะ แล้วจะได้เองโดยไม่รู้ตัว ถ้าไปอยากได้ไปคิดมากไปลังเลสับสนตอนทํา มันจะไม่ได้อะไร ให้ทําไปเลย ทําเล่นๆ ทําได้อย่างนี้ มรรคผลก็ไม่ไกลแล้วครับ

    ให้รู้แค่ความรู้สึกตัวไปเรื่อยๆ ครับ เมื่อไหร่เผลอ! ก็ให้รู้ตัว ให้กลับมา รู้ความรู้สึกตัวพอ ความรู้สึกตัวจะค่อยๆเด่นชัดขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นการเจริญสติวิปัสสนา จาก" ตอนแรกที่รู้แค่แว๊ปเดี๋ยว " แค่แว๊ปเดียว เท่านั้นนะ ไม่ต้องไปพยายามรักษาความรู้สึกตัว ถ้าไปพยายามให้รู้สึกตัวต่อไปนานๆ จะกลายเป็นการพยายามไปรู้สึกตัว จะไม่ใช่ความ" รู้สึกตัวที่บริสุทธิ์ " จะเป็น "การคิดรู้สึกตัวแทน " แยกดีดีนะครับ ตรงนี้หล่ะ ที่ไปสับสนกันทําผิดกันมาก ทําให้วิปัสสนาไม่เจริญ ปัญญาญาณที่จะรู้ธรรมจึงไม่เกิดกันครับ

    การเดินจงกรม

    ให้เดินสบายๆแบบเบาๆโล่งๆไม่ได้คิดอะไรไม่ได้ให้ความหมายใดๆ " รับรู้ความรู้สึกได้ที่กาย " เช่นเท้ากระทบพื้นก็ให้รู้แล้วจบ (ไม่ใช่ไปตามรู้เท้าก้าว กลายเป็นไปคิดเพ่งเท้าก้าวไป จะกลายเป็นสมถะ) ทําอย่างนี้ถึงเป็นการเจริญวิปัสสนาครับ หรือรู้วูบๆวาบๆแว๊ปเดียว ตอนลมพัดผ่านกาย หรืออยู่เฉยๆวูบผ่านกายผ่านกระประสาทกระแสเลือดในกาย แค่รู้ นั้นหล่ะ รู้ความรู้สึกตัวแล้ว

    การเดินจงกรมถ้าจะทําสมถะในการเดินจงกรมให้เพ่งไปที่การก้าวย่างของเท้าก็จะได้สมถะเหมือนกันครับ เช่นตามรู้การก้าวย่างของขาเท้า จะได้สมถะครับ แต่ถ้าไม่ตามดูตามรู้ แต่แค่รู้แว๊ปๆ ตอนเท้ากระทบพื้น เกิดรู้ความรู้สึกตัว จะเป็นการเจริญสติความรู้สึกตัว จะเป็นการเจริญวิปัสสนาญาณเพื่อจะเอาปัญญาญาณในการรู้ธรรมได้เอง เพื่อเอามรรคผลครับ

    แต่สรุปทําอะไรแล้วดีแล้วชอบ ทําไปก่อนเลยครับไม่เป็นไร พอสมถะเข้มแข็งขึ้นมากๆ เดี๋ยวพอมาเจริญวิปัสสนามันก็จะไปได้เร็วมากๆครับ แต่ถ้าจะเอาแต่สมถะแล้วไม่เอาวิปัสสนามาช่วยในตอนท้าย ปฏิบัติไปมากๆก็ไปได้แค่พรหม ไม่ถึงนิพพาน


    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    คนที่จองเจ้าสัวมามีแต่คนบอกว่าเห็นรูปหลวงพ่อปานท่านแว้ปๆมาทั้งนั้นเลย บางคนก็บอกว่าพอแว้ปๆแล้วสะกิดใจแปลกๆเลยไล่ดูกระทู้ ก็แปลกดีครับ
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    หนีนรก...... การเจริญสมาธิในพุทธานุสสติกรรมฐาน

    ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย สำหรับตอนนี้ก็เป็นตอนที่ ๙ในเรื่อง ความเป็นมาของการหนีนรกเพราะการปฏิบัติเพื่อการหนีนรกนี้บรรดาท่านพุทธบริษัท ความจริงเป็นการปฏิบัติไม่ยากเลย
    เพียงแค่มีกำลังใจ คุมใจไว้ไม่ให้ไหลไปสู่อารมณ์ของความผิดคือ ที่มีอารมณ์คิดว่าร่างกายนี้จะไม่ตายส่วนใหญ่ของบุคคลเรามักจะคิดว่าร่างกายไม่ตายและตามปกติจริงๆ ไม่คิดเลยเสียด้วยซ้ำไปทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าการเกิดมาแล้วความจริงมันต้องตายแต่คนคิดถึงความตายจริงๆ หายากมีหน้าที่อย่างเดียวจะประกอบอาชีพ จะทรงอาชีพให้ดีเป็นยังไงรวยขนาดไหน หรือว่าทำยังไงเราจึงจะสวย ทำยังไงจะเป็นคนดีที่จะคิดว่าการตายคราวนี้เ ราจะไม่ยอมไปอบายภูมินี่หายากแต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่เกิดมาในโลกเพราะการเกิดมานี้เราได้รับผลกฏของกรรม ๒ ประการบังคับคือ กุศลกรรมอย่างหนึ่ง และอกุศลกรรมอย่างหนึ่งขณะใดที่อกุศลกรรมบังคับ ขณะนั้นเราจะไม่คิดถึงตามความเป็นจริงไม่ยอมรับนับถือกฏของธรรมดาขณะใดที่กุศลชาติก่อนให้ผลดลใจเวลานั้นจะมีความเห็นถูกอยู่เสมอตอนนี้จึงมาเตือนกันไว้ ว่าเมื่อเราตายแล้วการตายมีสภาพไม่สูญ ทางที่จะไปก็คือ
    ๑. อบายภูมิ แดนของความทุกข์
    ๒. สุคติ มีสวรรค์ พรหมโลก และนิพพาน แล้วก็
    ๓. ยับยั้งไว้ที่มนุษย์โลก

    แต่ถึงกระไรก็ดีบรรดาท่านพุทธบริษัทถ้าเราไม่สร้างความดีไว้ กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ก็เป็นมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความยากไร้อย่างยิ่งข้อนี้บรรดาท่านพุทธบริษัทชายหญิง จะทราบตอนที่พูดถึงศีลธรรมวันนี้เราก็มาเตือนกันไว้ก่อน ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทซึ่งเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระชินวรจงพากันคิดถึงตามความเป็นจริงว่า เราเกิดมาแล้วเราต้องตายการตายถ้าจิตใจของเราไม่ผ่องใส ประกอบไปด้วยอารมณ์ที่เป็นอกุศลเราก็ไปอบายภูมิ มีนรกเป็นต้นถ้าจิตใจของเราประกอบไปด้วยกุศลก็ไปสุคติ มีสวรรค์เป็นต้น

    ฉะนั้นขอบรรดาท่านพุทธศาสนิกชนถ้ามีความรู้สึกนึกคิดว่า เราจะต้องตายก็ตัดสินใจไว้ก่อนว่า การตายคราวนี้ ไม่ยอมไปอบายภูมิจะขอยึด พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ เป็นที่พึ่งต่อไปและจะนำศีลห้า เป็นกำแพงกั้นอบายภูมิไว้โดยจะรักษาศีลให้บริสุทธิ์ผุดผ่องตลอดกาลตลอดสมัยอันนี้เราเตือนกันไว้นะบรรดาท่านพุทธบริษัทแต่ว่าคนเตือนซิ จะนึกถึงเรื่องนี้วันละกี่ครั้งก็ไม่ทราบ

    ต่อนี้ไปเราก็มาพูดถึงพุทธานุสสติกรรมฐานแต่ความจริงพุทธานุสสติกรรมฐานนี่ บรรดาท่านพุทธบริษัทเราจะพูดกันไปยังไงก็ไม่จบ ทั้งนี้เพราะอะไรเพราะว่าความดีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีมากมายนักก็เป็นอันว่าการเจริญสมาธิในพุทธานุสสติกรรมฐานก็เป็นการทรงไว้ซึ่ง สติและสัมปชัญญะ คือ สตได้แก่การนึกไว้สัมปชัญญะ การรู้ตัวนึกไว้ว่า เวลานี้เรามีอารมณ์ดีหรืออารมณ์ชั่วรู้ตัวว่าเรามีความคิดดีหรือคิดชั่ว หลงผิดหรือหลงถูกถ้าขณะใดเราลืมความดีหรืออารมณ์ชั่วรู้ตัวว่าเรามีความคิดดีหรือคิดชั่ว หลงผิดหรือหลงถูกถ้าขณะใดเราลืมความดีของพระพุทธเจ้า ถ้าลืมไปนี่แสดงว่าเราพลาดท่าแล้ว บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายตายแล้วอาจจะไปอบายภูมิก็ได้

    แต่ว่าขณะใดที่เรานึกไว้ถึงพระพุทธเจ้า ภาวนาถึงท่านก็ดีนึกถึงความดีของสมเด็จพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้าก็ดีนึกยอมรับนับถือเคารพพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งก็ดีนึกยอมรับนับถือเคารพพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งก็ดีอย่างนี้เป็นพุทธานุสสติถือว่ามีอารมณ์แจ่มใสถ้าตายเมื่อไรมีความสุขเมื่อนั้น

    และการภาวนาหรือกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก เช่นภาวนาว่า "พุทโธ"หรือ "สัมมาอรหัง" หรืออะไรก็ได้ ตามใจเพราะว่าการภาวนานึกถึงความดีของพระพุทธเจ้านี่ ไม่มีขอบเขตจำกัดจะถือว่าภาวนาอย่างนั้นถูก ภาวนาอย่างนี้ถูก อันนี้ใช้ไม่ได้ก็ต้องถือว่าถูกด้วยกันทั้งนั้นอีกประการหนึ่งก่อนภาวนา ถ้าเรานึกถึงพระพุทธเจ้าถือว่าเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน

    ถ้าจะถามว่าการภาวนานี้ดีอย่างไรหรือว่าการพิจารณาการนึกถึงพระพุทธเจ้านี่ ดีแบบไหนถ้าเราตั้งใจใช้คำภาวนาเป็นปกติอารมณ์ตั้งใจคิดว่า ภาวนานี่ถูกหรือผิดถ้าเรารู้ว่าถูกหรือรู้ว่าผิด ถ้าผิดก็กลับใจเสียใหม่ ภาวนาให้ถูกหรือว่าการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก อย่างนี้เป็นการระงับนิวรณ์

    คำว่า "นิวรณ์" ความจริงไม่อยากจะพูดถึงเพราะว่าถ้าพูดถึงนิวรณ์แล้ว บรรดาท่านพุทธบริษัทจะท้อถอยแต่ในเมื่อการปฏิบัติเข้ามาถึงก็ต้องพูดกันคำว่า "นิวรณ์" ที่ในพระไตรปิฏกท่านแปลว่า "คุณชาติกั้นความดี"ขอประทานอภัยนี่ตามแบบนักธรรมโทตามหลักสูตรของนักธรรมโท ท่านบอกว่าคุณชาติกั้นความดีแต่ว่าในพระไตรปิฏกท่านกล่าวว่า เป็นกิเลสหยาบที่ทำปัญญาให้ถอยหลังนั่นก็หมายความว่า นิวรณ์ ๕ ประการอย่างใดอย่างหนึ่งถ้าฝังอยู่ในใจของเราในขณะที่เราภาวนาก็ดีในขณะที่พิจารณาหรือนึกถึงพระพุทธเจ้าก็ดีถ้านิวรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเข้ามาแทรกตึ๊กเข้าให้ในใจของเราอย่างนี้ท่านถือว้าปัญญาถอยหลังเสียแล้วกิเลสหยาบที่มีความร้ายแรงมาก เข้ามาสิงใจก็รวมความว่า ใจของเราชั่วไปเกลือกกลั้วกับกิเลสหยาบกิเลสที่จำทำให้เราลงอบายภูมิ
    กิเลสหรือว่านิวรณ์ ๕ ประการก็คือ
    ประการที่ ๑ อารมณ์ความรักในระหว่างเพศที่เรียกกันว่า "กามฉันทะ"
    ประการที่ ๒ ความโกรธ ความพยาบาทมีการจองล้างจองผลาญซึ่งกันและกัน
    ประการที่ ๓ คือ ความง่วง
    ประการที่ ๔ อารมณ์ฟุ้งซ่านเกินไปควบคุมกำลังจิต กำลังใจไม่อยู่ ภาวนาไม่ถูกหรือลืมภาวนาไปเลย
    ข้อที่ ๕ ได้แก่การสงสัยในผลของการปฏิบัติ
    ทั้ง ๕ ประการนี้บรรดาท่านพุทธบริษัทถ้าอย่างใดอย่างหนึ่งสิงใจของเรา ในขณะที่ภาวนาก็ดี
    ในเวลาที่พิจารณาก็ดี ก็ถือว่าเราพลาดจากความดีไปเสียแล้วถ้าจะถามว่าพลาดหมดไหม ก็ต้องตอบว่าพลาดไม่หมดเพราะว่าขณะที่เราพลาดมีอยู่ เพราะว่าการเริ่มต้นเราเอาจิตเข้าไปรับรู้ลมหายใจเข้าออก แล้วเราภาวนาควบคู่กันไปหรือคิดถึงพระพุทธเจ้าในอารมณ์ของเราควบคู่กันไปอย่างนี้ถือว่าตอนนั้นเราได้กำไร ใจของเราเต็มไปด้วยมหากุศลสามารถจะนำตนไปสู่สุคติได้แบบสบายๆ

    แต่ว่าในขณะที่ภาวนาไปก็ดี รับรู้ลมหายใจเข้าออกก็ดี พิจารณาก็ดีนานๆ ไปสักนาที ๒ นาที ๓ นาที ที่ฝึกใหม่ๆ นะจิตอาจจะพลาด คิดถึงเรื่องอย่างอื่นเข้ามาแทรกแซงบ้างก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา อย่าตำหนิตนว่าเลวเกินไปเพราะว่ากำลังใจของเรานี้ คบกับการฟุ้งซ่านมานานนับอสงไขยกัปอยู่ๆ จะบังคับให้อยู่ในขอบเขตจริง ๆ น่ะ มันเป็นไปไม่ได้แต่ว่าต้องอาศัย สติ คือความระลึกนึกไว้สัมปชัญญะ การรู้ตัวเรื่องอารมณ์เผลอเราห้ามไม่ได้แน่นอน ต้องเผลอแน่ ถ้ารู้ตัวขึ้นมาเมื่อไรภาวนาผิดไปแล้วหรือคิดผิดไปแล้วอย่างนี้เราก็เริ่มต้นใหม่ เอาจิตเข้าจับลมหายใจเข้าออกแล้วภาวนาอย่างนี้ใช้ได้ ก็เรียกว่า มีการผ่อนสั้นผ่อนยาวความจริงไม่ได้ตั้งใจจะผ่อนแต่ว่าอารมณ์จิตที่มันฟุ้งซ่านผ่อนเอง อย่างนี้ถือว่าชนะ

    ถ้าหากว่าจิตใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทในขณะที่ภาวนาอยู่หรือพิจารณาอยู่ เกิดชนะนิวรณ์ขึ้นมาจะมีอะไรเป็นผลก็ตอบว่า กำลังจิตของบรรดาท่านพุทธศาสนิกชนจะมีความสุขอย่างหาที่เปรียบมิได้ถ้าจะถามว่าการชนะนิวรณ์ต้องชนะทั้งวันใช่ไหมก็ต้องตอบว่า ไม่ใช่ ชนะเฉพาะที่เราภาวนาหรือพิจารณาเท่านั้นคือ เป็นการยับยั้งไม่ให้นิวรณ์เข้ามากวนใจถ้าเราจะทำลายกันจริงๆ เฉพาะนิวรณ์นี่การทรงฌานโลกีย์ก็ดีหรือว่าเป็นพระโสดาบันหรือสกิทาคามีก็ดีเราไม่สามารถจะห้ำหั่นนิวรณ์ให้เด็ดขาดได้ได้แต่เพียงยับยั้งนิวรณ์ชั่วคราวเท่านั้น....


    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...