ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จทิพย์สภาพมหาวงจรทวีโชตนาการ(ทิพย์โอสถส่องหน้าพระเจ้า) พ่ออาจารย์พล

เนื้อหามวลสารรายละเอียดต่างๆติดตามกันดีๆ..พ่ออาจารย์ท่านว่าพระแบบนี้องค์ธาตุแบบนี้เน้นให้สบายกันไปถึงเจ็ดชั่วชีวิต *** พลาดไปสิบปีร้อยปีเห็นเมื่อใดก็ช้ำใจที่หาไม่ทัน(ท่านว่า..รุ่นนี้เฉพาะองค์ธาตุก็เกินคุ้มแล้ว)

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

พ่อนั่งรวยนี่สมกับที่เรียกคู่บารมีจริงๆ เพราะมีคนมาเล่าว่าท่านตามคนมาเจอมาจองกันแล้ว...เดี๋ยวติดตามกันดีๆนะครับจะลงรายละเอียดให้พรุ่งนี้ค่ำๆ

 

แจ้งการส่ง EMS​

พี่ศิระ ED 4084 4336 8 TH

พี่คณพศ ED 4084 4337 1 TH

พี่วันชัย ED 4084 4338 5 TH

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

ลงรายละเอียดพ่อนั่งรับให้แล้วนะครับ ล่าสุดมีคนจีนขอเหมายอดหมดเลยแต่พ่ออาจารย์ท่านกำชับไว้ว่าไม่ได้ต้องแบ่งกันไปใช้เพราะรายการนี้ปาฏิหาริย์มันมีตั้งแต่ทำตะกรุดฝังแล้ว..ท่านว่าปาฏิหาริย์เยอะ

 

แจ้งการส่ง EMS​

พี่วุฒิชัย ED 4084 5697 6 TH

พี่วันชัย ED 4084 5698 0 TH

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

พรุ่งนี้ห้ามพลาดกันนะ ...ของสิ่งนี้ใช้หนึ่งเหมือนได้สองเลย

 

แจ้งการส่ง ems ​

พี่ปรีชา ED 4084 4713 5 TH

พี่จารุวรรณ ED 4084 4714 9 TH

พี่ทวีพงษ์ ED 4084 4715 2 TH

พี่สิทธิศักดิ์ ED 4084 4716 6 TH

พี่นวรัตน์ ED 4084 4717 0 TH

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

ใครชอบศาสตร์โบราณบรรพกาลวันนี้ติดตามกันดีๆนะ ศาสตร์นี้ท่านว่าแค่เดินก้าวเท้าก็พลิกหมากเกมชีวิตแล้ว

 

ร่วมทำบุญบูชา ลายลักษณ์อาญาสิทธิ์พระธุรวะซ่อมชีวิต(มหาตะกรุดฟ้าจรดดินลิขิตเหนือกาลควบคุม)

มหาเทพแต่ครั้งบรรพกาล... พ่ออาจารย์ท่านว่ายังมีมหาเทพองค์หนึ่งที่เดี๋ยวนี้แทบจะไม่มีใครรู้จักท่านกันเสียแล้ว..ชื่อก็ไม่ได้ยิน..รูปก็ไม่มีให้เห็น ### เว้นไว้แต่ผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่เมื่อโบราณกาลจะนอบน้อมต่อท่านลำพังคนธรรมดานั้นแทบจะไม่รู้จักท่านกันเลย ด้วยโลกนี้หมุนเวียนผันเปลี่ยนตามกาลเวลาพ่ออาจารย์ท่านว่ามติบรมครูเบื้องบนท่านให้สร้างและออกนามอันยิ่งใหญ่นี้ให้ปรากฏในโลกอีกคราหนึ่ง ท่านจึงยอมสร้างที่สุดแห่งเครื่องรางในสายบารมีของ "พระธุรวะ"

คนทั่วไปอาจจะเคยผ่านหูหรือแว่วเสียงว่าพระธุรวะนั้นเป็นเพียงพระสวามีแห่งพระแม่ธรณีนับแต่ครั้งบรรพกาลและรู้เพียงแค่ว่าท่านคือดาวเหนือ แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆแล้วพระธุรวะนั้นท่านเกี่ยวข้องกับสรรพชีวิตและอยู่เหนือการควบคุมทั้งปวง...ในโลกทุกยุคทุกสมัยจะมีกษัตริย์มีจักรพรรดิ์แต่ละราชวงศ์ลงไปปกครองมนุษย์ก็เป็นพระธุรวะนั่นเองที่แต่งตั้งบัญชาคัดสรรค์เป็นธุระให้กำเนิดเหล่าดาวกษัตริย์ทั้งหลาย..ท่านแต่งตั้งออกไปเช่นนี้ยุคไหนจะเป็นดาวกษัตริย์สงคราม..ยุคไหนจะเป็นกษัตริย์จอมปราชญ์..จะเป็นแบบไหนก็อยู่ที่การเลือกของท่าน อาจกล่าวได้ว่าในหมู่จอมคน..หมู่จักรพรรดิ์ชั้นยอดนั้นจะมีพลังของพระธุรวะสถิตย์อยู่แต่ละคนไม่มากก็น้อย

*** อำนาจแห่งพระธุรวะแม้เพียงเสี้ยวเดียวก็ยังเปลี่ยนคนให้กลายเป็นยอดเป็นที่สุดแห่งยุคสมัยได้ ด้วยองค์พระธุรวะนั้นเป็นอำนาจของแสงสว่าง..เป็นมหาเทพแห่งความบริสุทธิ์และจะช่วยให้คนสมมาตรปรารถนา ในทุกยุคทุกสมัยเมื่อมีการสักการะเจ้าชีวิตหรือมหาจักรพรรดิ์ก็ดุจเราได้สักการะตัวแทนแห่งพระธุรวะ พ่ออาจารย์ท่านว่าศาสตร์และความเชื่อที่ถูกลืมเลือนนับพันๆปีนี้เป็นยอดศาสตร์ ***ที่ถูกบิดเบือนและละทิ้งเพราะไม่ปรารถนาจะให้ผู้อื่นหรือมีผู้ใดได้ดีเสมอตน ด้วยรู้กันในหมู่มหาจักรพรรดิว่าพลังแห่งพระธุรวะจะยกคนขึ้นไปได้เรื่อยๆเพราะท่านบริสุทธิ์มาก..บริสุทธิ์จนไม่สนใจความบกพร่องของผู้ใด.. เช่นนั้นผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดด้วยอำนาจพระธุรวะจึงมีใจอิจฉาริษยาเขาย่อมกลัวผู้ที่จะมาทาบทามเทียบเคียงรัศมีอำนาจของตนเองจึงต้องปิดกั้นและทำลายเรื่องราวของพระธุรวะ ทำให้อาถรรพ์แห่งพระธุรวะนั้นถูกจำกัดไม่ให้แพร่หลายออกไป คนทั่วไปจึงไม่อาจทราบเกียรติคุณและคุณวิเศษในองค์พระธุรวะได้เลย..ยิ่งเวลาผ่านไปยาวนานมากเท่าไหร่ชื่อนี้ก็มีแต่จะถูกลืมมากไปเท่านั้นกลับกันตัวผู้ที่มีเศษเสี้ยวพลังแห่งพระธุรวะนั้นกลับมีชื่อเสียงก้องฟ้าก้องแผ่นดินมายาวนานนับร้อยปีพันปี

พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยโบราณนั้นพระธุรวะถูกยกย่องไว้เช่นจักรพรรดิแห่งฟ้าหรือผู้ควบคุมทวยเทพทั้งปวง(ด้วยตัวท่านอยู่เหนือการควบคุมใดๆ) เช่นนั้นท่านจึงถูกจับคู่กับพระแม่ธรณีผู้เป็นใหญ่แห่งแผ่นดินดังว่าฟ้าคู่ดินจึงจะร่วมกันปกครองและแต่งตั้งให้กำเนิดเหล่าจักรพรรดิของมนุษย์

### พระธุรวะนั้นมีอำนาจเกินหยั่งถึง
- เป็นมหาเทพที่ควบคุมโชคและคราเคราะห์ของแผ่นดินและสรรพสัตว์
- เป็นผู้ประทานอายุขัยแก่มนุษย์ด้วยรู้กาลเคลื่อนไหวแห่งสรรพชีวิต
- เป็นพระผู้สร้างยุคแรกเริ่ม (ความเจริญรุ่งเรืองและการเปลี่ยนแปลง..เทคโนโลยี คือสิ่งที่พระธุระวะจัดสรรค์ ยุคไหนจะให้กำเนิดบุคคลผู้คิดค้นสิ่งใดคือหน้าที่ของท่าน)
- มีอำนาจควบคุมบงการสรรพชีวิต
- มีอำนาจควบคุมสุริยันจันทราดาราจักรทั้งปวง (อยู่เหนือ..หลุดพ้นอำนาจแห่งดวงดาว)

- เป็นราชาสวรรค์ยุคบรรพกาลปกครองเหล่าเทพและมหาเทพนับหมื่นแสน

- เป็นผู้ถือลิขิตบัญชีอายุขัยสิ่งมีชีวิตอันปรากฏรูปนามในวัฏจักร(เช่นนี้ท่านจึงให้คุณและโทษได้แก่ทุกชีวิต..แม้เหล่ามหาเทพยังต้องเกรงกลัวท่าน)

- มีอำนาจประทานความสูงส่งแก่นาฏลีลาฉากชะตามนุษย์

- มีอำนาจประทานยศศักดิ์ตั้งแต่สามัญจนถึงชาติแห่งมหาจักรพรรดิ์

- มีอำนาจเติมเต็มอายุขัยและความอุดมสมบูรณ์ในชีวิตผู้ภักดี

พ่ออาจารย์ท่านว่าคุณแห่งพระธุรวะนั้นไม่สามารถบอกได้ทั้งหมดเพราะข้างบนเขาไม่ให้พูด..แต่เพียงนี้ข้อใดข้อหนึ่งก็นับว่าประเสริฐมากแล้วเช่นนั้นท่านจึงเป็นมหาเทพชั้นสูงมาแต่เริ่ม..พ่ออาจารย์ท่านว่าหลังองค์อาตมันให้กำเนิดดวงดาวทั้งหลายก็เป็นพระธุรวะนี้ที่จัดระเบียบสุริยันจันทรามอบหน้าที่ให้ดวงดาวต่างๆทั้งบาปเคราะห์และศุภเคราะห์ ทั้งพระธุรวะยังเป็นผู้แบ่งแยกพลังบวกลบและความดีความชั่วออกจากกันเช่นนี้จึงเกิดเป็นกลางวันกลางคืนเกิดกาวหมุนเวียนหยุดนิ่งเคลื่อนไหวเกิดนาฏลีลาต่างๆในมหาจักรวาลมีร้อนมีเย็น..มีแข็งมีอ่อน..มีชายมีหญิง ประทานฤดูกาลให้แก่มนุษย์

ธาตุแห่งพระธุรวะนั้นคือธาตุที่เอายากที่สุด ด้วยพลังแห่งพระธุรวะนั้นแม้เศษเสี้ยวก็ยังเปลี่ยนชีวิตคนให้ขึ้นสู่จุดสูงสุดมีชื่อเสียงเป็นอมตะนับพันปี เมื่อจะทำวิชาที่ถูกลืมของพระธุรวะพ่ออาจารย์ท่านก็ต้องนำธาตุแห่งพระธุรวะมาห่อหุ้มตะกรุดเพื่อให้ตะกรุดมีกำลังแห่งพระธุรวะที่สมบูรณ์ที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาทำตะกรุดที่ท่านเรียกว่า"พระธุรวะซ่อมชีวิต"นั้น เป็นวิชาที่ถูกปิดเงียบและเก็บงำเอาไว้ แต่โบราณนับพันปีหมื่นปีแม้เหล่ามหาจักรพรรดิ์ยังต้องจาฤกษ์ลายลักษณ์นี้ด้วยทองคำใส่ไว้ในเครื่องประดับพระเศียร ...พ่ออาจารย์ท่านว่าลายลักษณ์แห่งธุรวะนั้นมีอำนาจยิ่งใหญ่มากแม้ประสิทธิ์แก่ผู้ใดเพียงย่างเท้าก้าวเดินออกไปพูดง่ายๆว่าชีวิตเปลี่ยนในทุกย่างก้าวของตนเอง แค่ย่างเท้าก้าวไปทำอะไรก็ตามพลังจักระก็เดินพอเราขยับตัวพลังฟ้าดินก็ส่งเสริมเป็นศาสตร์ที่ "เปลี่ยนคนบกพร่องในทุกๆด้านให้เป็นผู้ไม่บกพร่อง" เพียงย่างเท้าก้าวออกไปจะทำอะไรก็สำเร็จ
### ลายลักษณ์อาญาสิทธิ์แห่งธุรวะนี้มีอาถรรพ์มากด้วยควบคุมสภาวะธรรมทั้งเก้าที่เราข้องเกี่ยวและหลีกเลี่ยงไม่ได้ตั้งแต่เกิด..แก่..เจ็บ..ตาย..สุข..ทุกข์..ความยึดติด..การปล่อยวาง...และที่สุดคืออิสระภาพ บางอย่างที่มากเกินไปเช่นทุกข์หรือความเจ็บความกดดันจากชีวิตที่ปราศจากอิสระภาพ สิ่งเหล่านี้ชีวิตของใครขาดอะไรพ่ออาจารย์ท่านว่าอาญาสิทธิ์แห่งธุรวะปรับแต่งได้ทั้งสิ้น

ลายลักษณ์อาญาสิทธิ์แห่งธุรวะนั้น..เป็นดั่งราชรถที่ใช้ส่งเธอเหนือเงื่อนไขและเป้าหมายต่างๆที่ตัวเธอเองตั้งไว้ เป็นลายลักษณ์ที่ใช้เปลี่ยนสถานะคน(พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเอากันตรงๆก็คือในสมัยโบราณก็เปลี่ยนคนให้กลายเป็นเจ้าแคว้น..เปลี่ยนกษัตริย์ให้กลายเป็นพระเป็นเจ้า แต่ในสมัยนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาแค่เปลี่ยนฐานะชีวิตการเงินทื่เราเลือกไม่ได้ด้วยชาติกำเนิดก็พอ) เหนือสิ่งอื่นใดเลยพระธุรวะนั้นท่านถือบัญชีอายุขัยของสิ่งมีชีวิตทุกระบบในมหาจักรวาลทั้งท่านยังเป็นผู้สร้างวงจรทั้งหลายในสากลโลกนี้การจะเปลี่ยนหรือปรับให้ชีวิตเราอยู่เหนือเหตุผลและอำนาจการควบคุมแห่งพลังดวงดาวย่อมเป็นหน้าที่ของท่าน แต่ที่ของที่สุดแล้วลายลักษณ์อาญาสิทธิ์แห่งธุรวะนั้นมีอำนาจกำกับเป็นตายสรรพชีวิตได้...

*** ดั่งในอดีตที่เจ้าชีวิตมีอำนาจที่แท้จริงเหนือชีวิตชนทั้งหลายจนกลายเป็นธรรมเนียมสืบทอดต่อมา ...แม้อำนาจดั้งเดิมที่ใช้กำกับเป็นตายด้วยพลังแห่งธุรวะของกษัตริย์แต่โบราณที่มีอานุภาพเทียบเคียงเทพเจ้านั้นจะกลับอันตรธานหายไปนานแล้วเพราะศาสตร์เหล่านี้ถูกทำลายและปกปิดมาเนิ่นนาน ด้วยลายลักษณ์แห่งธุรวะนั้นจะให้ผู้ใดเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งมั่งมีมีชีวิตพลิกฟื้นสดใสหรือจะบัญชาให้ผู้ใดมีชีวิตที่เหี่ยวเฉาแห้งแล้งตายไปเช่นนี้ย่อมทำได้ นี่เองจึงถือว่าเป็นดาบสองคมเพราะตะกรุดนี้เป็นตะกรุดบัญชาชีวิต ที่กำหนดและกำกับเป็นตายด้วยอำนาจแห่งธุรวะ พ่ออาจารย์ท่านว่าลายลักษณ์นี้ที่จริงสมควรใช้เพียงเรื่องของตัวเองอย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นใช้กำกับเป็นกำกับความรุ่งเรืองให้ตัวเองเท่านั้นอย่าไปเปลี่ยนแปลงชีวิตใครตามใจชอบเพราะผลที่เราเปลี่ยนชีวิตคนอื่นต่อให้อ้างว่าทำไปด้วยความหวังดีก็ตาม มันจะทำให้เกิดการเรรวนและผันผวนในวัฏจักรชะตาของเขาเหมือนเราล้มตัวโดมิโน่พอล้มไปหนึ่งมันก็ล้มต่อๆกันไปและจะล้มจะพังไปทั้งระบบซึ่งตัวเราเองนั่นแหละที่จะรับกรรมตรงนี้ไม่ไหว ### พ่ออาจารย์ท่านจึงย้ำว่าให้ใช้กำกับเฉพาะตัวเองชีวิตใครชีวิตมันอย่าก้าวล่วงเพราะอาถรรพ์ลายลักษณ์แห่งธุรวะนั้นให้ผลทันตา

อาญาสิทธิ์พระธุรวะซ่อมชีวิต

ด้วยคติว่าพระธุรวะนั้นสว่างไสวมากที่สุด..และอยู่เหนือสุดดวงดาราทั้งปวง อาถรรพ์ของพระธุรวะจึงช่วยให้ชีวิตที่มืดมนกระจ่างขึ้นโดยพลันทั้งชีวิตที่ตกต่ำมากที่สุดก็สามารถขึ้นไปสู่จุดสูงสุดได้จะมั่นคงไม่สั่นคลอนเหมือนพระธุรวะที่ไม่เคลื่อนไหว อาญาสิทธิ์แห่งพระธุรวะนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ซ่อมชีวิตคนได้ ซ่อมในที่นี้ก็คือทำให้เป้าหมายของมนุษย์ชัดเจนและยิ่งใหญ่..เหนือสิ่งอื่นใดคือความมั่นคงเพราะชีวิตของผู้ที่มีพระธุรวะหนุนนำนั้นจะไม่เคยตกลงมาได้อีกไม่ว่าวันเวลาไหนย่อมอยู่ในจุดสูงสุดคงเดิมอย่างมั่นคงแบบนี้ ในยุคสมัยของเขาความสำเร็จของเขาที่เกิดจากอาถรรพ์พระธุรวะหนุนนำนั้นจะยิ่งใหญ่มั่นคงไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

แม้คนที่กำลังหลงทาง สับสนไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อไปในทางไหนไม่ทราบเป้าหมายในชีวิตคืออะไร ..คนที่มีเป้าหมายในชีวิตที่เลือนลางไม่ชัดเจนยังเอาแน่เอานอนไม่ได้..ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรทำลงไปแล้วจะสำเร็จมากน้อยอย่างใด พ่ออาจารย์ท่านว่าพระธุรวะซ่อมชีวิตนั้นก็คือแสงที่จะเข้ามาทำให้ชีวิตคนชัดเจนมากขึ้น เปลี่ยนให้ชีวิตที่ง่อนแง่นกลับมามั่นคงไม่สับสนสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้แบบโดดเด่นเป็นสง่าเหนือกว่าชนทั้งหลายทุกคระกูลในยุคสมัยของเรา กำลังแห่งพระธุรวะนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นพลังที่ชี้นำทางให้ชีวิต..ทั้งยังจะนำให้เราตัดสินใจเลือกได้ในหนทางที่ถูกต้องไม่ผิดพลาดซ้ำสองซ้ำรอยความล้มเหลว ...มรรคาหนทางแห่งพระธุรวะที่ช่วยเราตัดสินใจนั้นจะเป็นทางที่ดีที่สุดและนำเราเข้าหาความสำเร็จได้ตลอด พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ตราบใดที่อาราธนาติดตัวจะไม่เดินในหนทางผิด..หนทางที่ล้มเหลว..หนทางที่ไม่มีทางประสบความสำเร็จเลย เหมือนชีวิตทำอะไรจับอะไรก็ถูกที่ถูกทางไปหมด *** เธอจำไว้นะคนเราต่อให้เก่งแบบฟ้าประทานอย่างไรถ้ามันอยู่ผิดที่ผิดทางทำให้ตายก็ไม่เจริญ กำลังแห่งพระธุรวะนี้จึงเป็นพลังที่บันดาลเป้าหมายและชี้ทางชีวิตคนให้ชัดเจน พ่ออาจารย์ท่านอุปมาว่าแม้ชีวิตที่มืดมิดที่สุดแสงแห่งพระธุรวะก็ยังนำทางออกไปได้เสมอๆ

ในยุคที่เป็นยุคแห่งการแข่งขัน มองไปทางไหนก็มีแต่อิทธิพลคนมีความสามารถคนที่ประสบความสำเร็จมากมาย..แต่คนๆนั้นกลับไม่ใช่เรา ดั่งว่าคนเหล่านั้นเปรียบกับดวงดาราที่มีเกลื่อนฟ้ามีกำลังมีแสงสว่างในชีวิตของแต่ละคน พ่ออาจารย์ท่านว่าก็นั่นแหละชีวิตของเราถ้าเราพอใจแค่นี้ก้แล้วกันไป แต่ถ้าเราอยากขึ้นมาอยู่เหนือดวงดาวทั้งหลายที่เราไมรู้หนทางจะข้ามผ่านพวกเขาก็ต้องใช้กำลังแห่งธุรวะเข้าแก้ เพื่อให้เราอยู่เหนือดวงดาวความสำเร็จของผู้อื่น..เพื่อให้ความสำเร็จของเรามั่นคง พ่ออาจารย์ท่านแนะนำว่าความสำเร็จจากอาถรรพ์พระธุรวะนั้นที่จริงมันมั่นคงมากๆ มากถึงระดับที่ว่าจะไม่แปรเปลี่ยนไปตามสุริยันจันทราหรือฤดูกาลตราบนั้นทีเดียว(นั่นคือชื่อเสียงเกียรติคุณที่ได้จากความสำเร็จจะปรากฏตลอดไป) ### ผู้ที่มีอำนาจแห่งธุรวะอยู่กับตัวนั้นนอกจากจะฉายแสงเจิดจรัสได้ด้วยกำลังความสามารถของตนเองไม่ต้องพึ่งสิ่งใดๆอีกแล้ว แม้แต่ตัวเราต่อไปในกาลเบื้องหน้าก็จะได้เป้นที่พึ่งแก่ผู้อื่นด้วย ...จากคนที่ไร้ทิศทางกลายเป็นเข็มชีวิตชี้ถูกผิดมีอำนาจคอยช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ที่ด้อยสถานะกว่า(พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องโตมาก..และโตเร็วขนาดไหนถึงจะเปลี่ยนจนจากผู้ตามเป็นผู้นำในหมู่ผู้นำได้)

ปาฏิหาริย์ในกำลังพระธุรวะ

กำลังของพระธุรวะนั้นน่าอัศจรรย์มากเพราะท่านช่วยในการชี้นำชะตาชีวิต ชี้นำการเดินทางในฉากนาฏลีลาแห่งภพที่ชีวิตเราต้องต้องผ่านเรื่องราวมากมายร้อยพัน แม้ชีวิตที่เราเป็น..ทางที่เราเดินจะลำบากยุ่งยากเป็นที่สุด..แม้ทางที่เราเดินจะมืดสนิทจนย่างเท้าก้าวต่อไปไม่ได้ นั่นแหละคนที่เจอวิกฤติชีวิตในระดับนี้จึงจะเห็นปาฏิหาริย์แห่งพระธุรวะได้ชัดเจนกว่าผู้ใด ..ผู้อื่นอาจจะใช้ให้ชีวิตที่ดีอยู่แล้วดีขึ้นไปอีกแต่ในทางกลับกับคนที่ติดลบใช้เพื่อจะเปลี่ยนชีวิตนั่นจึงเป็นปาฏิหาริย์แห่งธุรวะที่จะอยู่กับเราไปตลอด...พ่ออาจารย์ท่านว่าใครได้ตะกรุดนี้ไปในทุกสถานที่คือท่านตามหมดนะแม้เราไม่นึกถึงท่านก็ตาม หากเพียงวันไหนชีวิตเราตื้อๆมืดมนหาหนทางเดินไม่ออกให้กำตะกรุดเรียกนามธุรวะ..ธุรวะ..ธุรวะ..ซ้ำๆไปๆมาๆแบบนี้เราจะพบกับทางออกของปัญหาโดยฉับพลันดั่งในหนทางอันมืดมิดแหงนหน้ายังเจอแสงสว่างนำทางชีวิตให้ประสบทางออกในทุกปัญหา

"สำหรับผู้บูชา..ธุรวะคือแสงสว่างในชีวิตของเขาเอง..แสงชีวิตที่เป็นยิ่งกว่าคนรัก เป็นยิ่งกว่าเพื่อน เป็นยิ่งกว่าครอบครัวของเขา"
แม้ในวันที่ชีวิตไม่เหลือใครพระธุรวะก็จะไม่ทอดทิ้งและเป็นแสงสว่างแก่เราไปจนถึงที่สุด ในวันที่ชีวิตไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้นั่นแหละท่านจะคอยปลอบประโลมชีวิตเธออยู่ข้างๆเสมอเรียกว่ามีกันและกันและจะเป็นเครื่องรางที่เธอยึดถือไว้เพื่อใช้ก้าวผ่านวิกฤติไปด้วยกันได้อย่างชัดเจนที่สุด *** พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ทำยากทั้งผงที่ใช้พอกธาตุที่ใช้คลุกทุกอย่างทำยากและเอายากทั้งหมด รักษากันไว้ให้ดีๆอย่าทำหายเพราะท่านเป็นกายสิทธิ์ถ้าเอาไปทิ้งไว้ไม่ใช้ท่านแบบนี้คือบินหนีเลยอันตรธานหายได้เองแบบที่เรียกว่าวางๆไว้นานไปก็หาไม่เจอ เธอต้องจำเอาไว้ว่าตะกรุดดอกนี้เป็นแสงสว่างของชีวิตเธอพกไปได้ในทุกสถานที่ติดตัวได้ในทุกการกระทำ ขอเพียงอย่าทำหายรักษาเขาไว้ให้ดี

### มหาธาตุธุรวะซ่อมชีวิตที่หุ้มพอกตะกรุดนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามีอาถรรพ์มากการที่จะได้มาครอบครองนั้นยากเย็นเป็นที่สุด ถึงขนาดว่าแม้พระอริยะเจ้าผู้ทรงฤทธิ์อภิญญายังทำได้แค่เห็นแค่มองแต่ไม่อาจก้าวล่วงไปยึดครองได้...พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องขอต่อตัวท่านเองคือเทพดึกดำบรรพ์นามว่าธุรวะเมื่อท่านตั้งใจจะไปโปรดโลกจึงจะนำออกมาได้ มหาธาตุนี้นอกจากมีคุณใช้ซ่อมชีวิตที่บกพร่อง..ซ่อมแซมธาตุขันธ์ที่สึกหรอ..ปรับความสมดุลและอุณหภูมิปรับธาตุที่เสียหาย..ฟื้นฟูกำลังและเรี่ยวแรงที่ล้าหายให้กลับคืนมา นอกจากนี้แล้วยังใช้บรรเทาภัยพิบัติต่างๆถ้วนทุกประการได้ทั้งปวง ภัยพิบัติต่างๆที่จะเกิดขึ้นต่อชีวิตเราภัยทั้งหลายนั่นแหละป้องกันได้ทั้งสิ้น ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเลี่ยมเอาไว้ใช้ดีๆเถิดใช้ไปเรื่อยๆจะรู้เองว่ามหาธาตุนั้นโต้ตอบกับตัวเธอได้เป็นจิตรู้พูดคุยสื่อสารกันไปมาแรกๆอาจจะคิดว่าตนคิดไปเองแต่นั่นแหละท่านว่าเค้าจะพูดมากหรือน้อยก็อยู่ที่เจ้าของเป็นคนยังไง ถ้ามีบุญมากเขาก็จะขยายตัวขึ้นได้เองถ้ามหาธาตุเม็ดใหญ่ขึ้นและกระเทาะตัวออกมาพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องตกใจก็เก็บนำไว้บูชาเหมือนเดิมนั่นแหละเขาแค่แบ่งตัวและโตขึ้นเท่านั้น

*** รายการนี้เป็นของอาถรรพ์พ่ออาจารย์ท่านว่าออกนามธุรวะๆๆไปสั้นๆแค่นั้น ออกชื่อท่านบ่อยก็ยิ่งดีไม่ต้องใช้คาถาใดๆเพราะกายสิทธิ์สื่อจิตได้ทันทีที่นึกถึงกันอยู่แล้ว ท่านว่ามหาเทพองค์นี้เพราะมีคุณอนันต์จึงถูกทำให้เป็นมหาเทพที่ถูกลืมไปด้วยความคับแคบของชนชั้นสูงในอดีตที่ไม่อยากให้มีใครได้มีเสมอตนหรือไม่อยากให้มีใครถูกยกขึ้นมาเทียบเคียงรัศมีวงศ์ตระกุลที่จะสืบวงศ์กษัตริย์ของตนพ่ออาจารย์ท่านว่าก็เป็นเรื่องนับพันปีหมื่นปีหลายยุคหลายสมัย..แต่เป็นเพียงบังเอิญว่าเรามาอยู่ในยุคที่นามแห่งธุรวะนั้นถูกลืมเลือนไป เช่นนั้นผู้ที่จะรับก็ต้องมีชะตาสอดรับกับพระธุรวะ..นั่นคือมีวาสนาที่จะอยู่เหนือการควบคุมแห่งโชคชะตา ### ตอนนี้ฉันจึงให้เปิดจองเสียก่อนด้วยบอกอะไรมากไม่ได้ ..มันเป็นเคล็ดที่ว่าถ้าพูดกันให้รู้ทั้งหมดทุกสิ่งจะไม่อยู่เหนือการควบคุม ผู้ที่จะเป็นเจ้าของได้จำเป็นต้องเป็นผู้ถูกเลือกโดยพระธุรวะเท่านั้น รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้นนะครับ

ร่วมทำบุญบูชา ลายลักษณ์อาญาสิทธิ์พระธุรวะซ่อมชีวิต(มหาตะกรุดฟ้าจรดดินลิขิตเหนือกาลควบคุม) บูชา 4,000 บาท

​

 

นานๆครั้งพ่ออาจารย์ท่านถึงจะสร้างเครื่องมงคลที่ข้องเกี่ยวกับมหาเทพยุคดึกดำบรรพ์..และนานๆครั้งถึงจะเห็นเครื่องรางที่ท่านทำแบบพิถีพิถันทั้งพอกผงพอกแร่...ธุรวะซ่อมชีวิต ทั้งรายการนี้ท่านทำด้วยศาสตร์ลายลักษณ์อาญาสิทธิ์แห่งธุรวะ

*** ดอกตะกรุดจะสวยงามเป็นประกายออกเหลือบปีกแมงทับเหลือบทอง แต่กล้องจับภาพไม่ได้

 

เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อเรื่องปาฏิหาริย์เมื่อสร้างตะกรุดลายลักษณ์อาญาสิทธิ์พระธุรวะกันนะครับ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

วันนี้ลงเรื่องตะกรุดให้ครบแล้วนะครับ รายการนี้ใครจองทันยินดีด้วย รอลุ้นเล่นๆกันยาวๆว่าธาตุของใครจะงอกจะโตก่อนกันแจ้งเข้ามาได้นะครับ

 

จะทำยังไงให้ตัวเองมีพลังใจได้ตลอดเวลา?​

1. ความหวัง
คนที่ใช้ชีวิตแบบไร้ความหวังก็ไม่มีวันมีแรงบันดาลใจ และความหวังจะเกิดขึ้นเมื่อเรามองเห็นโอกาส มองเห็นความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในชีวิต ซึ่งคนๆเดียวที่จะมอบความหวังให้กับเราได้ก็คือตัวเราเอง

เมื่อเราเปิดรับสิ่งใหม่ๆเข้ามาในชีวิต เปิดรับโอกาส ออกไปพบเจอกับผู้คนใหม่ๆ อ่านหนังสือใหม่ๆ ทำสิ่งใหม่ๆ ชีวิตของเราก็จะมีความหวังมากยิ่งขึ้น แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะเน้นย้ำให้เข้าใจตรงกันก่อน…..“สิ่งที่สำคัญกว่าการเปิดตัวออกไปทำสิ่งใหม่ๆก็คือ…. การเปิดใจต้อนรับสิ่งใหม่ๆ !!!” คนหลายๆคนมักจะพูดว่างานที่เขาทำอยู่ไม่มีความก้าวหน้าเลยเติบโตได้ยากโอกาสก็น้อยเต็มที……… ชีวิตมันจะไปมีความหวังอะไร ต้องออกไปทำงานใหม่ซะ ลาออกมาเป็นนายตัวเองจะได้มีความหวัง

แต่พอลาออกมาเจอกับภาระความรับผิดชอบที่มากขึ้นพอเจอการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น ก็บอกว่าโลกนี้มันเต็มไปด้วยการแข่งขันทำเริ่มต้นทำอะไรก็ยากลงทุนอะไรก็มีแต่ความเสี่ยง…. ชีวิตหมดหวังเหมือนเดิม!

ผมจะถามคนที่มาข้อคำปรึกษากับผมเสมอว่า…สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้มันมีโอกาสอะไรซ่อนอยู่บ้าง? ในตอนแรกๆพวกเขาจะไม่ชินกับคำถามแบบนี้สักเท่าไหร่เพราะคนทั่วไปมักจะแนะนำให้เขาเปลี่ยนงานหรือเปลี่ยนสิ่งที่ทำไปเลย แต่สิ่งที่ผมต้องการช่วยคนเหล่านั้นจริงๆก็คือให้เขาเริ่มต้นจากพื้นฐานที่สำคัญที่สุดเสียก่อน…………….. พื้นฐานทางความคิด! เมื่อเขาได้ยกระดับความคิดในการมองโอกาสให้เพิ่มขึ้นได้แล้วไม่ว่าเขาจะไปพบเจอเรื่องอะไรหรือตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เขาก็จะสามารถมองเห็นโอกาสและมีความหวังได้

ในสิ่งที่คุณกำลังทำ ‘อาจมีโอกาสที่คุณไม่เคยมองเห็นซ่อนอยู่’ บางครั้งการทำงานไกลบ้านและต้องเดินทางบ่อยๆกลับบ้านสัปดาห์ละครั้ง….อาจเป็นโอกาสที่ทำให้คุณรู้จักคุณค่าของการให้เวลากับครอบครัวมากยิ่งขึ้น บางครั้งการทำงานที่คุณไม่ชอบเลย อาจมีโอกาสที่จะทำให้คุณได้ไปพบเจอผู้คนใหม่ๆสังคมใหม่ๆที่จะพาคุณไปสู่งานที่คุณรักก็ได้ แค่เพียงคุณเลือกที่จะเปิดใจ เปิดรับโอกาสใหม่ๆ เปิดมุมมองใหม่ๆ เพื่อทำให้ชีวิตของคุณมีความหวังมากยิ่งขึ้น

2.ความชัดเจน
ความชัดเจน คือ พลัง คนส่วนมากมีชีวิตที่ขาดพลังก็เพราะว่าเขาไม่มีความชัดเจนกับชีวิตของตัวเองเลย เขาไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วเขาต้องการอะไร จริงๆแล้วเขาต้องการมีชีวิตแบบไหน

แม้ในบางครั้งอาจดูเหมือนว่าพวกเขารู้ว่าเขาต้องการอะไร เพราะเขาบอกว่าเขาต้องการมีความสุข เขาต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น เขาต้องการประสบความสำเร็จ……แต่ลึกๆลงไปแล้วเขาไม่สามารถตอบได้ว่า………ความสุข ความสำเร็จ และชีวิตที่ดีขึ้นที่พวกเขาพูดถึง…. คืออะไร? พอมันไม่ชัดเจนก็ถูกกระแสสังคมหรือคนรอบข้างพัดพาไปเรื่อยๆ เห็นใครทำอะไรแล้วดูดีก็เฮตามกันไป เห็นใครทำแล้วน่าสนุกก็เฮกันไปโดยที่ไม่ได้มาทบทวนเลยว่าจริงๆแล้วเราทำไปเพื่ออะไร?

ดังนั้นจงหาคำตอบของตัวเองให้ชัดเจนว่า“คุณเกิดมาทำไม และต้องการจะสร้างอะไรให้โลกใบนี้?”

3.ทำเต็มที่
การลงมือทำสิ่งต่างๆอย่างเต็มที่สุดความสามารถ คือเครื่องมือชั้นดีที่จะช่วยสร้างพลังและแรงบันดาลใจให้กับตัวคุณเอง ...ความหวังและความชัดเจนจะช่วยจุดพลังในตัวคุณให้ลุกโชนขึ้นมาในตอนแรก แต่การลงมือทำให้เต็มที่จะเป็นเชื้อเพลิงในการสร้างแรงบันดาลใจของคุณให้ร้อนแรงมากยิ่งขึ้น

เทคนิคง่ายๆที่มักใช้กับตัวเองเวลาที่ต้องลงมือทำงานหรือใช้ชีวิตและคาดหวังว่าจะทำมันให้ได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมก็คือถามตัวเองว่า….ถ้าฉันคือคนที่ยอดเยี่ยมสุดๆ และเก่งขึ้นกว่าปัจจุบันนี้
ฉันจะตัดสินใจและเลือกทำเรื่องนี้อย่างไร?

คำถามนี้ช่วยกระตุ้นให้ลงมือทำสิ่งที่เลือกทำอย่างเต็มที่ ทำให้มีพลังและแรงบันดาลใจอยู่อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

4.การเรียนรู้
มีคำคมนึงกล่าวไว้ว่า….“เมื่อคุณเรียนรู้จากความล้มเหลวที่เกิดได้ คุณก็จะไม่มีวันพ่ายแพ้อีกเลย” ผมได้พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วว่า… เป็นจริงตามนั้น! เมื่อเรามีความหวังเรามีความชัดเจน และลงมือทำมันอย่างเต็มที่แล้วอีกองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ก็คือ “การเรียนรู้”

ทั้งการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆและการเรียนรู้จากทุกๆประสบการณ์ที่เกิดขึ้นคือกุญแจสำคัญอีก 1 ดอกที่จะทำให้คุณมีแรงบันดาลใจได้อย่างต่อเนื่อง

โทมัส เอดิสัน ทดลองหลอดไฟแล้วล้มเหลวนับพันครั้งแต่เขาเลือกที่จะเรียนรู้จากมัน เขาเรียนรู้ว่าตรงไหนที่มันได้ผลและตรงไหนที่มันไม่ได้ผลและเขาก็นำมาคิดหาวิธีการใหม่ๆ ซึ่งผมเชื่อว่านี่คือกุญแจสำคัญที่ทำให้เขามีแรงบันดาลใจที่จะผลิตหลอดไฟให้สำเร็จ แม้จะล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน

5.การขอบคุณ
คุณลักษณะสุดท้ายของการเป็นคนที่มีแรงบันดาลใจได้อย่างต่อเนื่องก็คือเขาต้องรู้บุญคุณของสิ่งที่เขามี และรู้จักขอบคุณสิ่งเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นความรู้ ประสบการณ์ หรือแม้แต่สิ่งของที่คุณมีอยู่ในปัจจุบัน เมื่อคุณเห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านั้นและเลือกที่จะขอบคุณมันแรงบันดาลใจของคุณก็จะลุกโชนได้อย่างไม่น่าเชื่อ

- ในตอนนี้ที่คุณยังมีลมหายใจอยู่ คุณได้กล่าวขอบคุณหรือยัง?
- ในขณะที่คุณยังมีที่ให้นอน มีข้าวให้กิน มีเสื้อผ้าให้ใส่คุณเห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านั้นและกล่าวขอบคุณบ้างหรือเปล่า?
- ในขณะที่คุณยังมีครอบครัว มีพี่น้อง มีเพื่อน มีสังคมดีๆอยู่ใกล้ๆ มีคนที่คอยห่วงใยคุณ คุณเคยขอบคุณพวกเขาเหล่านั้นไหม?

มองให้เห็นคุณค่าของเรื่องเหล่านั้นและจงกล่าวขอบคุณไม่ต้องเชื่อ……………….. ลองทำดู แล้วจะรู้เอง!

คุณลักษณะทั้ง 5 ข้อนี้ถือเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่จะการสร้างแรงบันดาลใจของคุณให้คงอยู่อย่างต่อเนื่องและเพิ่มมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ขอให้คุณฝึกฝนให้ตัวเองเป็นคนที่มีคุณลักษณะทั้ง 5 ข้อนี้อย่างต่อเนื่อง หมั่นฟังเสียงหัวใจแล้วคุณจะลืมตัวคุณที่ห่อเหี่ยวหมดพลังในวันนี้ไปตลอดกาล

​

 

มีคนเล่าว่าพระธุรวะแค่ออกนามท่านก็มาแล้ว..เดี๋ยวพรุ่งนี้มาติดตามพูดคุยกันนะครับ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

หลายๆคนลองภาวนานามพระธุรวะตั้งแต่ยังไม่ได้ตะกรุด...หลายๆคนบอกว่าแค่ออกนามท่านก็มาแล้ว บางท่านก็เลยรีบมาจองตะกรุดหลังจากที่เฉยๆไว้แต่แรกเพราะเป็นเทพที่ไม่เคยได้ยินไม่รู้จัก..แต่นี่แหละที่พ่ออาจารย์ท่านว่าขลังนัก *** ใครที่ได้รับตะกรุดไปลองภาวนานามท่านดูนะครับแล้วจะรู้ว่าแรงมากขนาดไหนสมกับที่พ่ออาจารย์บอกว่าท่านตามคนของท่านรึเปล่า

 

แจ้งการส่ง EMS​

พี่เกษมธิดา ED 4084 4906 5 TH

พี่ฐิตกาญจน์ ED 4084 4907 9 TH

พี่ณธพรหม ED 4084 4908 2 TH

พี่ภิญโญ ED 4084 4909 6 TH

พี่พิสุทธิ์ ED 4084 4910 5 TH

 

ร่วมทำบุญบูชา พรหมศาสตราพระเวทย์รับสังเวยพรหมประทานชะตา(ช้อนส่งสาส์นสวรรค์)

ย้อนกลับไปนานนับสิบปีได้มีกาฝากขนุนเกิดขึ้นพันรอบพรหมองค์ครูที่พ่ออาจารย์ท่านสักการะบูชา...ซึ่งองค์บรมครูปฐมพรหมนั้นได้โองการให้พ่ออาจารย์นำกาฝากนี้ไปแกะเป็นช้อนศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเรียกว่า"ช้อนส่งสาส์นสวรรค์" ขึ้นมาและนำไปประกอบพิธีบูชาไฟตักเนยใสใส่กองกูณฑ์อัคคีเพื่อบูชามวลเทพเจ้าชั้นสูง จากนั้นจึงเชิญองค์ปฐมพรหมมาลงอาถรรพ์ที่ช้อนสำคัญนี้

เอกอุเครื่องรางพรหมศาสตร์...พ่ออาจารย์ท่านว่าเคยเห็นกันมั๊ยพระพรหมบ้านไหนเมืองไหนก็ถือช้อนอยู่ในพระหัตถ์กันทุกองค์ เรียกว่าเป็นพรหมศาสตราเลยก็ว่าได้แต่ว่าช้อนนั้นสำคัญอย่างไร ทำไมพระพรหมทุกองค์จึงถือช้อนเหมือนกันหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ปฐมพรหมให้เราทำเครื่องรางชิ้นนี้เพราะอาศัยความพิเศษของมันท่านว่าเมื่อทำสำเร็จพรหมศาสตราเล่มนี้จะมีคุณโอบอุ้มมนุษย์ในยามทุกข์ยากมากกว่าอาวุธใดๆที่ใช้ฆ่าฟันทำลายกัน

- ช้อน ท่านว่าแค่ชื่อก็หมายถึงการช้อนขึ้นเป็นเครื่องรางที่มีคุณวิเศษ ช้อนศักดิ์สิทธิ์อยู่กับผู้ใดชีวิตมีแต่ขึ้นไม่มีตก จะถูกสรรพชีวิตและพระธรรมตลอดจนพระเวทย์โอบอุ้มไว้เสมอเขาจะช้อนเธอขึ้นวางในที่สูงไม่ร่วงหล่น เพราะช้อนแห่งปฐมพรหมนั้นเป็นอาถรรพ์ที่คั่นชีวิตคนได้มั่นคงที่สุด..มีช้อนแล้วมันร่วงไม่ได้..นี่คืออาถรรพ์ของช้อนส่งสาส์นสวรรค์ที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นตามโองการปฐมพรหม

- ช้อน โดยปกติเวลาเราถือช้อนก็ยามเรากินอาหารเข้าไป เช่นนี้จึงเป็นเคล็ดของผู้ที่ถือช้อนแห่งพรหมว่าจะมีกินตลอด ..มีกินเหนือวิสัยของมนุษย์...มีกินเกินพิกัดของเทพยดา..มีกินเสมอด้วยความสุขสบายแห่งพรหมเทพ วิถีชีวิตการทำมาหากิน,ความสะดวกสบายจากการใช้ชีวิต,ความสมบูรณ์ของมนุษย์ในอุดมคติ,ความสุขสมในการบริโภคกามคุณทั้งปวง สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เราจะอิ่มจากการถือช้อนแห่งปฐมพรหม

- ช้อน เอาไว้ใช้รับประทาน..พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติชีวิตคนนั้นไม่ได้ก็เสีย แต่อาถรรพ์ช้อนพรหมศาสตร์นี้จะเปลี่ยนจากได้หรือเสียให้เราได้รับ..มีแต่รับไปตลอดชีวิต คุณวิเศษแห่งช้อนปฐมพรหมนั้นก็คือเอาไว้รับประทาน พ่ออาจารย์ท่านว่าหมายถึงรับการประทานพรและสวัสดิมงคลจากพรหมเทพ เปลี่ยนจากชีวิตที่เสียไปให้ได้รับกลับคืนมาตลอดชีวิตเป็นการแก้อาถรรพ์เปลี่ยนแปลงพลังและอาถรรพ์ที่กดดันชีวิตเราทิ้งไป ต่อไปนึกจะเอาสิ่งใดก็ล้วนแต่เอามาได้ด้วยพ่อพระพรหมท่านหยิบยื่นให้ ### ให้เราได้รับการประทานความช่วยเหลือ,ให้เราได้รับการประทานสิทธิ,ให้เราได้รับการประทานพรชัย,ให้เราได้รับการประทานโชคลาภ,ให้เราได้รับการประทานสวัสดิมงคล,ให้กำลังแห่งปฐมพรหมประทานชีวิตใหม่ที่พลิกฟ้าเปลี่ยนโชคชะตาแก่เรา ให้โดยที่ไม่ต้องขอเปลี่ยนชีวิตที่มีแต่เสียเป็นได้รับไปตลอดด้วยอาถรรพ์แห่งช้อนปฐมพรหม

ช้อนสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอาถรรพ์มากเพราะองค์ปฐมพรหมท่านให้พ่ออาจารย์นำไปใช้จริงทุกเล่มในพิธีกองกูณฑ์อัคคีรับส่งสังเวยเทพเจ้าทั้งองค์ปฐมพรหมท่านยังลงอาถรรพ์แห่งพรหมศาสตรากำกับให้อีก พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าดูถูกรูปลักษณ์ว่าสิ่งนี้เป็นแค่ช้อน..แค่ช้อนเล่มหนึ่งอย่างเด็ดขาด..อย่าให้รูปลักษณ์ง่ายๆนี้หลอกตาเราได้ เพราะช้อนนี้องค์ปฐมพรหมท่านว่าลงอาถรรพ์มาเต็มเสมอด้วยพรหมศาสตราของท่าน..ที่ให้ใช้รับส่งสังเวยเทพเจ้าในพิธีบูชาไฟของพ่ออาจารย์นั้นก็เพื่อให้เครื่องรางนี้ใช้ส่งใช้ไล่ความมืดมิดไป เป็นอาถรรพ์กฤติยาคมแฝดที่จะประทานแสงสว่างเป็นที่พึ่งแก่ผู้ครอบครอง *** เธออย่าลืมนะเวลาเธอยกมือไหว้ขอพระเทพเจ้ากันถ้าจิตเธอไม่ใสไม่บริสุทธิ์ขอกันให้ตายไปข้างท่านก็ไม่รับรู้เสมือนคลื่นมันส่งไปไม่ตรงกับคนรับเหมือนเรากดโทรศัพท์ออกแล้วไม่มีคนรับสายเราก็ต้องพูดคนเดียว แต่ช้อนนั้นเป็นศาสตราที่ใช้ตักเนยใสสังเวยเทพเจ้าในพิธีบูชาไฟ เมื่อเธอถือช้อนแห่งปฐมพรหมแล้วเทพเจ้าจะรับรู้ถึงการบูชา..รับรู้ความเดือดร้อน..รับรู้พรที่ขอ..รับรู้สิ่งที่เธอเป็น เรียกได้ว่าช้อนนี้มีคุณอนันต์เพราะมันไม่ได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตเราโดยตรงแต่มันให้คุณสูงกว่าคือเชื่อมโยงเราเข้าหาพระเป็นเจ้าผู้เปี่ยมด้วยกรุณาให้ท่านเห็นทุกข์เห็นชะตาที่เล่นตลกกับเรา ..เมื่อท่านเห็นแล้วจึงเป็นที่มาแห่งการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เช่นนั้นจึงมีคติเดียวว่าช้อนนี้เป็นอาญาสิทธิ์แก่ผู้ถือให้ได้รับการประทานความสุขและความโชคดีไปตลอดชีวิตด้วยแรงอาถรรพ์แห่งปฐมพรหม

เคยทำกันหรือไม่
พ่ออาจารย์ท่านถามว่าเคยมั๊ย..เคยทำกันหรือไม่ เพื่อจะสังเวยแก่พระผู้เป็นเจ้าหรือเทพยดาครูบาอาจารย์ที่เคารพเราจะต้องใช้ดอกไม้ธูปเทียนอาหารผลหมากรากไม้ต่างๆ สิ่งเหล่านี้ถามกันจริงๆว่าท่านเสพย์หรือ..ท่านต้องการหรือ..ไอ้ที่ไหว้ที่ตั้งไว้นี่ท่านรับหรือ พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆมันปะปนกันนะเพราะเครื่องเซ่นเหล่านี้ถ้าฉันพูดตรงๆมันคือของไหว้ผีไม่มีใครตั้งเครื่องเซ่นแล้วคุยกับเทพเจ้าได้หรือเข้าถึงพระเป็นเจ้าองค์ใดเพราะเครื่องเซ่น แต่ต้องเข้าใจว่าคติความเชื่อในแถบบ้านเราเนี่ยเดิมเราไหว้ผีศรัทธาผีบรรพบุรุษเหล่านี้พอเรารับความเชื่อพุทธหรือพราหมณ์เข้ามาเราก็นำมาผสมผสานกันกลายเป็นไหว้พระไหว้เทพเจ้าเช่นเราไหว้ผี จะขออะไรก็ต้องไหว้แบบนี้ๆเป็นพิธีกรรมขั้นตอนของเรา

พ่ออาจารย์ท่านว่าแท้จริงแล้วการเข้าถึงพระเป็นเจ้าไม่ต้องไปเปลืองปัจจัยอะไรเลยเพราะเราเข้าถึงได้ด้วยศรัทธาและความเพียร..ไม่ใช่เครื่องเซ่น เช่นนั้น "ช้อนส่งสาส์นสวรรค์" จึงเป็นตัวแทนแห่งการสังเวยด้วยความเพียรความศรัทธาของเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าช้อนศักดิ์สิทธิ์แห่งปฐมพรหมนั้นไม่มีอะไรที่จะเป็นเรื่องธรรมดาตั้งแต่แรก เวลาเราถือช้อนขึ้นมายกมือไหว้ปฐมพรหมนั้นเจตนาความต้องการต่างๆย่อมส่งไปถึงท่านแล้ว ### ช้อนนี้จะหล่อหลอมความศรัทธาของเราที่มีต่อเทพเจ้าที่เรารักนับถือหลอมรวมกับจิตวิญญาณและธาตุทั้งห้าตั้งแต่ดินน้ำลมไฟอากาศอันเป็นต้นธาตุในร่างกายให้เราเป็นภาชนะที่ใช้รับความรักและปรารถนาดีจากพระเป็นเจ้า ความรักความปรารถนาดีนี้พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าความใส่ใจ เมื่อองค์ปฐมพรหมใส่ใจใครแล้วมันเกินกว่าการให้พรการร้องขอเมื่อยามเดือดร้อนใดๆทั้งสิ้นด้วยท่านจะอวยสุขสวัสดิมงคลให้เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องร้องขอสิ่งใดต่อท่านอีกเพราะเรามีชีวิตที่สมบูรณ์แล้ว เพียบพร้อมมากที่สุดที่มนุษย์จะมีได้แล้ว

ช้อนส่งสาส์นสวรรค์ *** วิธีใช้

- ใช้บรรจุดวงชะตาตน พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อรับไปให้เขียนชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดของเราม้วนใส่กระดาษบรรจุไว้ในหลอดตะกรุด ชะตาแห่งบุคคลนั้นจะได้รับการอวยพรจากปฐมพรหมฉับพลันทันที ชีวิตเขาจะบริบูรณ์ไปด้วยลาภยศชื่อเสียงและความสุขถ้วนทุกประการ

- ใช้บอกสิ่งที่ตนเองขัดข้องต่อเทพเจ้า ด้วยช้อนนี้เป็นพรหมศาสตราที่เป็นสื่อกลางทางโลกวิญญาณ พ่ออาจารย์ท่านว่าเวลาเรามีเรื่องเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือจากเทพเจ้าองค์ไหนให้เขียนชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดของเราพร้อมกับเรื่องที่เราเดือดร้อนสอดเอาไว้พร้อมระบุนามองค์เทพนั้นๆที่เราต้องการความช่วยเหลือจากท่าน...กาลแห่งทุกข์จะคลี่คลายทันที

- ใช้ขอพรจากเทพเจ้า ด้วยช้อนนี้เราสามารถเขียนปรารถนาหมื่นแสน..สิ่งที่ชีวิตตัวเองยังขาดตกบกพร่อง...สิ่งที่ชีวิตตนเองยังไม่ได้รับ,ยังไม่ได้,ยังไม่มี..สิ่งที่ตนเองต้องการแบบเร่งด่วน สิ่งเหล่านี้ขาดสิ่งใดอยากได้รับสิ่งใดพ่ออาจารย์ท่านว่าระบุชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดและสิ่งที่ปรารถนาให้ชัดเจนสอดเอาไว้ องค์ปฐมพรหมท่านจะบันดาลให้โดยฉับพลัน

- ใช้ร้องเรียน...เทพเจ้า ด้วยช้อนส่งสาสน์สวรรค์นี้ หากความปรารถนาใดที่นิ่งเงียบ สิ่งใดที่เคยหวังเคยตั้งใจและขอมาทั้งชีวิตแต่ยังไม่ได้รับ(ต้องไม่ใช่เรื่องไร้สาระและสิ่งที่ไม่มีวันเป็นจริงได้) พ่ออาจารย์ท่านว่าเขียนความขัดข้องนั้นสอดเอาไว้ เสมอเราได้ร้องทุกข์ร้องเรียนและฟ้องร้องเทพเจ้าทั้งหลายที่ละทิ้งเรา เทพเหล่านั้นย่อมหวาดกลัวอาชญาแห่งปฐมพรหมเป็นที่สุด ...วิธีนี้ไม่จำเป็นจริงๆอย่าใช้

- ใช้สาปแช่งผู้อื่น การสาปแช่งหรือทำลายนั้นย่อมให้ผลอย่างร้ายแรงด้วยเป็นไปโดยอำนาจจากพระวรุณ เมื่อเราเขียนชื่อและความต้องการของบุคคลที่เราสาปแช่งและสอดไว้ให้เราอธิษฐานออกนามพระวรุณบุคคลนั้นย่อมมีอันเป็นไปโดยฉับพลัน

**** วิธีใช้ช้อนส่งสาสน์สวรรค์นั้นยังมีอีกมากเพราะใช้สื่อสารกับมหาเทพได้มากมายหลายพระองค์สมกับที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าช้อนสารพัดประโยชน์ *** พ่ออาจารย์ท่านว่าอยากได้รับการอนุเคราะห์จากมหาเทพองค์ไหน ง่ายๆเลยเราต้องรู้ความถนัดก่อน..ความถนัดว่ามหาเทพมหเทวีแต่ละพระองค์นั้นมีหน้าที่อะไรเหมือนเราจะทำธุระก็ต้องเลือกบุคคลให้ตรงงานแล้วจึงเขียนสิ่งที่ขอพร้อมกำกับนามองค์เทพนั้นๆสอดไว้ในช้อนพรหมศาสตรา พ่ออาจารย์ท่านยกตัวอย่างว่าถ้าความสำเร็จก็พระคเณศ,ถ้าลาภลอยก็พระลักษมี,ถ้าความมั่งคั่งในทรัพย์สินก็ท้าวกุเวร,ถ้าบำบัดทุกข์ก็พระนารายณ์,ถ้าทำลายความชั่วร้ายก็พระศิวะ,ถ้าเปลี่ยนแปลงดวงชะตาก็พระพรหม,ถ้าต้องการกำลังใจไฟชีวิตก็พระอุมา.........ท่านว่ารู้หน้าที่ออกนามได้ก็ใช้ได้ทั้งหมด

ช้อนส่งสาส์นสวรรค์นั้นพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าช้อนสารพัดประโยชน์ไม่ใช้เพียงใช้สอดความปรารถเราบอกกล่าวต่อเทพเจ้าโดยตรง ยังสามารถใช้หลังช้อนเคาะศรีษะตนเองเพื่อเร่งกาลเวลาแห่งความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตให้มาถึงโดยเร็ว...ใครที่ทำบุญมามากแต่ชีวิตตกอับ..ใครที่อยากเบิกบุญที่สร้างไว้...ใครที่โดนคนทักว่าให้ทนไปก่อนยังไม่ถึงเวลา ...สิ่งเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่า *** เอาช้อนพรหมศาสตร์นี้แตะศรีษะแล้วเคาะเก้าทีระลึกถึงองค์ปฐมพรหมบอกท่านไปเลยว่าต้องการเบิกบุญให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองขึ้นเพียงสั้นๆง่ายๆเท่านี้
*** ใช้รับประทานในสิ่งที่เอาไม่ได้ หลักใหญ่ๆของช้อนพรหมศาสตรานั้นท่านว่าให้เอาไว้ใช้แก้ไขข้อผิดพลาด สิ่งที่ชีวิตยังไม่ได้รับ สิ่งที่ปรารถนาจะเอาแต่ยังเอาไม่ได้ท่านว่านั่นแหละจะได้รับการประทานมาดุจพ่อพระพรหมท่านเสกสรรค์ขึ้นเพื่อเราเพราะเครื่องรางชิ้นนี้มีไว้แก้เคล็ดในเรื่องแบบนี้โดยเฉพาะ สิ่งที่เอาไม่ได้ในชีวิตของแต่ละคนย่อมหมายถึงความฝันสูงสุด..หมายถึงความสำเร็จ..หมายถึงเป้าหมายที่พยายามแล้วแต่ไปไม่ถึง ส่วนมากล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตสมบูรณ์ทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องรางนี้ใช้แก้เคล็ดในกรณีที่หยิบจับอะไรก็หลุดมือไม่ได้ดั่งใจเพราะรับประทานนี่ก็คือรับเอามันมีแต่รับและรับเข้าทางเดียวไม่มีไหลออกท่านจึงย้ำเสมอว่าอย่าให้รูปลักษณ์มันหลอกตานะ ช้อนนี้แก้อาถรรพ์ในชีวิตคนได้มากกว่าเครื่องรางหลายๆอย่าง

สารถีแห่งปฐมพรหม
ในช้อนทุกเล่มนอกจากพ่ออาจารย์ท่านต้องลงอาถรรพ์ตามที่ปฐมพรหมกำกับและให้หัวใจในการทำยันต์ตามสูตรต่างๆเพื่อผนึกลงไว้ขับเคลื่อนอาถรรพ์ภายในแล้ว ท่านยังกำกับให้พ่ออาจารย์หล่อรูปอวตารของท่านเป็นปางที่ท่านเรียกว่าวัชระกายหรือพ่อพรหมเพชร ท่านว่าปางนี้เป็นปางพิเศษที่สื่อจิตกับผู้ศรัทธาได้รวดเร็วทั้งยังมีอำนาจรุนแรงอุปมาดังสายฟ้าที่เป็นพลังของฟ้าสวรรค์ย่อมมีกำลังรุนแรงและรวดเร็วกว่าสิ่งใด พ่อปู่พรหมเพชรนั้นท่านว่าเวลาเราเดือดร้อนให้นึกถึงท่านก่อนเพียงเท่านี้สาส์นที่ฝากไว้ในช้อนพรหมศาสตร์ทุกสิ่งท่านจะนำเรื่องไปได้ทันใจรวดเร็ว พ่ออาจารย์ท่านว่าปู่พรหมเพชรนี่แรงมากนะเพราะท่านเป็นกายทิพย์ของปฐมพรหมแม้ในเหล่ามหาพรหมทั้งหลายยังออกนามท่านว่า"สารถีแห่งปฐมพรหม"

สารถีแห่งปฐมพรหมคือผู้นำเรื่องราวต่างๆที่ได้รับรู้ไปขยายความต่อปฐมพรหมต่อเหล่าพรหมและมหาเทพ เพื่อให้กาลแห่งทุกข์ให้เรื่องเดือดร้อนในชีวิตเรานี้ได้คลี่คลายอย่างรวดเร็วท่านมีอำนาจเชื่อมต่อภูมิมนุษย์กับเหล่าพรหม ### เธอต้องเข้าใจธรรมเนียมของเหล่าพรหมนะ ต้องเข้าใจและต้องเข้าให้ถูกช่องทาง เธอต้องรู้ว่าในมหาจักรวาลนั้นทุกภพภูมิเมื่อเหล่ามหาพรหมต้องการจะติดต่อหรือสื่อสารเพื่อช่วยเหลือสรรพชีวิตคณะมหาพรหมทั้งหลายเขาจะเลือกตัวแทนลงไปเพื่อรับเรื่องราวนำมาถ่ายทอดสู่หมู่พรหมนั้นหรือเพื่อถ่ายทอดวิทยาการต่างๆ..ไม่ใช่ใครก็ได้มาทำหน้าที่แต่เป็นธรรมเนียมมานับอสงไขยเวลามิได้เลย ธรรมเนียมที่กำหนดขึ้นโดยเหล่ามหาพรหมที่จะตั้งผู้แทนขึ้นทำงานในแต่ละยุคของแต่ละโลกธาตุเมื่อเหล่ามหาพรหมต้องการจะรับสาส์นหรือถ่ายทอดสาส์นนั้นแก่สรรพชีวิตก็จะทำผ่านตัวแทนที่เราเรียกว่าสารถีแห่งพรหมนั้น ปกติสารถีแห่งพรหมก็จะเลือกมาจากมหาพรหมองค์ใดองค์หนึ่งแต่ในกาลครั้งนี้เป็นเหตุพิเศษของการเกิดขึ้นในพรหมศาสตราที่มีอำนาจดุจสารถีแห่งพรหมอย่างแท้จริงพ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ปฐมพรหมท่านจึงตั้งใจให้ปู่พรหมเพชรลงมา ....ท่านว่าจริงๆแล้วสิ่งที่มนุษย์ปรารถนาเพื่ออ้อนวอนต่อเทพเจ้าท่านว่าไปร้อยคนจะบังเอิญได้ซักคนจริงๆแล้วนั่นไม่เกี่ยวกับเทพเจ้าเลย แต่เพราะเขามีธรรมเนียมมีช่องทางมีผู้แทนของเขาอยู่แต่เรากลับไม่ใช้แล้วเมื่อไหร่มันจะส่งถึงกันเล่า

ปู่พรหมเพชรนั้นไม่เพียงจะถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆสู่เทพเจ้าทั้งท่านยังเป็นผู้เชื่อมต่อพลังชีวิตเราเข้ากับกำลังแห่งมหาพรหมด้วย ..พ่ออาจารย์ท่านว่าตัดปัญหาในเรื่องที่เราจูนไม่ติดคือสื่อสารกับเทพพรหมทั้งหลายไม่ได้ทำให้การสักการะและคำขอไม่ประสบผลสำเร็จ แบบนี้จึงต้องใช้ปู่พรหมเพชรช่วย พ่ออาจารย์ท่านว่าสารถีแห่งพรหมนี้ไม่ใช่คนขับรถม้าให้พระพรหมนั่งนะอย่างได้เข้าใจผิด แต่เป็นการอุปมาว่าเป็นผู้ชักพาตัวเธอเข้าหาเหล่ามหาพรหมดุจเป็นฑูตจากองค์ปฐมพรหมเช่นนั้น ท่านจะช่วยคลี่คลายปัญหาคนที่ไม่สามารถเข้าจึงพระเป็นเจ้าได้เนื่องจากเวรกรรมเบียดเบียนก็ดี,จิตไม่ผ่องใสก็ดี ท่านว่านี่แหละจะหนุนกำลังให้ความปรารถนาของเธอสำเร็จอย่างรวดเร็วโดยไม่มีข้อแม้ ท่านว่าเร็วทันตาทันใจสายฟ้าสวรรค์ฟาดสู่โลกมนุษย์เหมือนกับฟ้าแลบฟ้าร้องเพียงแค่เรากะพริบตาท่านก็ทำหน้าที่ของท่านเสร็จแล้ว

ในพรหมศาสตรานั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ปฐมพรหมนั้นท่านควบคุมการลงผงการดึงพลังจักรวาลสู่ผงในสายวิชาพรหมศาสตร์ทุกชนิดที่สำเร็จด้วยเวทย์สวรรค์ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงที่นำมาลบเพื่ออุดฝังในช้อนเล่มนี้ฉันไม่อยากจะพูดเลยว่าข้างบนเขาทำมาให้เป็นผงสำเร็จด้วยส่วนหนึ่ง นอกจากผงที่พ่ออาจารย์ท่านลบแล้วองค์ปฐมพรหมยังกำชับว่าให้รอท่านทำผงให้ก่อน(ซึ่งทีแรกพ่ออาจารย์ท่านก็แคลงใจว่าจะทำยังไง)แต่พอได้มองหาแล้วจึงเข้าใจเพราะมันปรากฏขึ้นเองในกองกูณฑ์อัคคีโดยในเวลานั้นพ่ออาจารย์ท่านไม่ได้ก่อไฟหรือทำพิธีอะไรเลยจึงไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะเป็นขี้เถ้าใดๆทั้งสิ้น ทั้งผงนี้ยังมีวรรณะขาวบริสุทธิ์ท่านจึงรู้ว่าเป็นผงทิพย์ที่องค์ปฐมพรหมประทานมาให้ใช้เฉพาะกาลเพื่อสร้างพรหมศาสตรานี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้มีอภินิหาริย์มากเพราะเป็นของสำเร็จจากมหาพรหมเช่นนั้นเราจึงกำชับไว้นักหนาว่าท่านเลือกคนของท่าน คนที่มีวาสนาคนที่ชะตาพร้อมไม่ใช่ใครก็ได้ นั่นแหละทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นเป็นพรหมศาสตรานั้นล้วนมีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับมหาพรหมทั้งสิ้น *** นอกจากฝังอุดผงสำคัญแล้วองค์ปฐมพรหมท่านยังกำชับให้พ่ออาจารย์นำธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดขึ้นในไฟพิธี คือมหาธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากไฟศักดิ์สิทธิ์มีสัณฐานเป็นก้อนแข็งตัว เป็นธาตุพิเศษที่ผ่านไฟชำระบาป ผ่านการกลั่นตัวจากไฟพระเวทย์พ่ออาจารย์ท่านได้เก็บรวบรวมธาตุสำคัญนี้ไว้จำนวนหนึ่ง ท่านให้นำเอาธาตุสำคัญนี้มาฝังในช้อนทุกเล่มด้วยดุจกฤติยาคมแฝดที่ผู้ถือช้อนจะได้ชุบชีวิตเปลี่ยนชะตาเปลี่ยนเป็นคนใหม่ผ่านไฟพระเวทย์อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งยังเป็นของอาถรรพ์ที่มีอำนาจรุนแรงในการเชื่อมต่อภพภูมิเพื่อเชื่อมมนุษย์เข้าหาเทพเจ้าด้วยเป็นมหาธาตุที่เกิดในไฟอัคคีแห่งพิธีกรรม

### พ่ออาจารย์ท่านให้เปิดจองช้อนพรหมศาสตร์แห่งปฐมพรหมนี้ก่อน ท่านว่าให้ลงรายละเอียดไว้คร่าวๆเพื่อที่จะเบิกตาเบิกใจคนให้กระจ่างชัดว่าช้อนนี้ไม่ใช่ของธรรมดา..ไม่ใช่ศาสตราพื้นบ้านอย่าไปถูกรูปลักษณ์และความธรรมดาของเขาล่อลวงเอาเลย ท่านว่าให้เปิดจองไปก่อนแล้วค่อยลงรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้งหนึ่ง(ของที่ฝังล้วนมีอาถรรพ์สุดยอดมากๆเป็นรูปอวตารแห่งปฐมพรหมเป็นปางพิเศษแห่งความสำเร็จทันตาทันใจที่ลงมาช่วยผู้ที่ถือช้อนพรหมศาสตร์โดยเฉพาะ) พ่ออาจารย์ท่านว่าหนนี้องค์ปฐมพรหมท่านเอาเฉพาะคนของท่านเท่านั้นไม่เอาคนนอกเลย เพราะผู้ที่จะถือช้อนพรหมศาสตร์ของท่านได้ต้องเป็นลูกหลานที่มีวาสนาเคยสัมผัสกับจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เท่านั้น ท่านจึงให้เป็นไปตามวาสนาในชะตากรรม..ใครจะมีวาสนาได้เปลี่ยนชีวิตจากคนเข็ญใจกลายเป็นคนคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดก็หนนี้ ท่านว่าพรหมศาสตราชิ้นนี้มีคุณเป็นอนันต์สุดแต่จะนำไปใช้ เดี๋ยวเปิดประวัติเต็มๆองค์พรหมท่านว่าพวกมารพวกคนนอกสายฝ่ายอื่นเขาจะมาเอากันไปทั้งหมดไม่เหลือให้ลูกหลานท่านเลยท่านจึงให้เปิดจองรับยอดก่อนหนนี้

ร่วมทำบุญบูชา พรหมศาสตราพระเวทย์รับสังเวยพรหมประทานชะตา(ช้อนส่งสาส์นสวรรค์) บูชา 4,000 บาท

​

 

ปัญหาทุกข์ใด..ถ้าปรารถนาส่งตรงถึงองค์ปฐมพรหม..ส่งตรงถึงเทพเจ้าก็แค่สอดมันเข้าไป พ่ออาจารย์ท่านว่ามีช้อนนี้ก็สบายไปหมื่นเรื่องไม่ต้องเสียเวลานั่งเซ่นสรวงจัดพิธีใดๆหมดเงินหมื่นเงินแสนเพื่อจะสักการะขอความช่วยเหลือจากเทพเจ้า
**** พ่ออาจารย์ท่านว่าช้อนนี้เป็นพรหมศาสตรา เป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้เพื่อความเจริญรุ่งเรืองและยกฐาน..ยกชะตา..ยกชีวิตของตนเอง ท่านว่าองค์ปฐมพรหมท่านทำให้เสมอด้วยช้อนพระเวทย์ของท่านเพื่อให้ช้อนนี้เป็นช้อนพระเวทย์รุ่นแรก..ครั้งแรก..และครั้งเดียวที่จะปรากฏขึ้นในโลกเดี๋ยวจะมาลงรายละเอียดให้ครบรับรองว่าทั้งผงทั้งองค์พ่อที่ฝังอยู่นั้นเด็ดจริงๆทันตา..ทันใจมากๆ

 

รายการช้อนนี้หลายๆคนมองว่าธรรมดา แต่พออ่านเข้าใจแล้วจองยอดมาบางคนว่าดีกว่าไม้ครูเสียอีก...อย่างที่พ่ออาจารย์ท่านบอกแต่แรกว่าเป็นเทพอาวุธ *** แต่ไม่ได้มีไว้เพื่อฆ่าใคร เพราะเรื่องหลักคือเป็นเทพศาสตราที่เอาไว้ใช้เพื่อความเจริญรุ่งเรืองเบิกทางเดินชีวิต...เทพอาวุธแบบนี้ท่านว่าหายากและทำยากที่สุด

 

มีคนตาดีเค้าเล่าให้ฟัง ก็มีข้อความเข้ามาตั้งแต่ตีห้าพี่เค้าว่าอธิษฐานอยากชมบารมีพรหมศาสตราทีนี้เหล่ามหาพรหมลงมาแต่สุทธาวาสลงมากันมากมายสว่างไสวที่สุด เห็นเหล่ามหาพรหมพี่เค้าจึงตั้งจิตอธิษฐานว่าช่วงนี้บนโลกมีแต่เรื่องมีแต่ปัญหามากมายพี่เค้าเลยอธิษฐานบอกคณะพรหมทั้วหลายบอกว่าพ่อช่วยหน่อยสิ แล้วก็มีคณะพรหมตอบว่าที่เธอขอชมบารมีพรหมศาสตราพวกเราก็มาให้เห็นแล้วพี่เค้าว่าแล้วมหาพรหมทั้งหมดก็หายเข้าไปในช้อนพรหมศาสตร์ของพ่ออาจารย์พร้อมกับมีเสียงดังออกมาว่าของแบบนี้อีกเป็นกัปกัลก็หาที่ใดทำไม่ได้เหมือนปฐมพรหม เป็นมงคลมาก สว่างมาก