โอนค่าจัดส่งตะกรุดครับ
ร่วมทำบุญบูชา มงคลตัดผ่านสวรรยามหากุมารต้นไฟอมฤต(สลายจุดชะลอชะตาสี่มหาฤทธิ์พญา) พ่ออาจารย์พล
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.
หน้า 140 ของ 457
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
อย่างไรก็รบกวนน้องกรณ์ช่วยเช็คให้ด้วยครับ เพราะของพี่ยังไม่มีรายชื่อ ครับ หากทางไปรษณีย์พิมพ์รายชื่อผิดครับตามที่น้องกรแจ้ง จากวีรชโย ชื่อที่จัดส่ง นายวีรชัย ภู่สีเขียว
-
-
-
พักผ่อนบ้างนะ รักษาสุขภาพ ไว้อยู่ร่วมสร้างบุญกันไปนานๆ
-
ได้รับตะกรุดแล้วครับ
-
ได้รับตระกรุดพระแม่ย่ากาลิกาเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณมากครับผม(f)
-
พระคาถา
อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้ก็จะมาลงคาถาต่อให้ สำหรับพระคาถาที่จะลงวันนี้เป็นพระคาถากันโจรแต่ก็มีอุปเท่ห์และวิธีใช้ที่ใช้ได้มากกว่ากันโจรผู้ร้าย ซึ่งถือว่าเป็นภัยในยุคปัจจุบัน ที่อย่างน้อยเราเองก็ควรจะเรียนและภาวนากันไว้บ้างเพราะการป้องกันนั้นย่อมดีกว่าตามแก้ทีหลัง
นาสสะโจรา ปัสสะหันติ นาติ มัญเญติ ขัตติโย สัพเพ อมิตเต ตัสติโย ปิตตานัง นะทุพภะติ
พระคาถานี้ท่านให้ภาวนาตอนจะนอน พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยนัยน์แห่งพระคาถานั้นต้องภาวนาถึง 108 คาบ ทีนี้หากจะไม่นับคาบก็ให้ภาวนาไปเรื่อยๆจนหลับถือว่าเป็นการภาวนาฝึกสมาธิฝึกกรรมฐานของตัวเองไปด้วย ก็ได้ประโยชน์หลายช่อง บางคนหลับยากก็อาจจะได้มากกว่า 108 ให้ภาวนาไว้โจรจะทำร้ายเราไม่ได้เลย เทวดาอารักษ์ท่านบังตาบังใจ เอาว่าไม่เกิดเหตุโจรกรรมก็แล้วกัน
นอกจากนี้พระคาถาข้างต้นยังใช้เสกน้ำล้างหน้าด้วย วิชานี้ให้เสกน้ำล้างหน้าได้ทุกวันทุกมื้อ ด้วยอานุภาพนั้นจะทำให้เรามีตบะเป็นมหาอำนาจ เป็นราชเสน่ห์ในตัว ท่านว่าเหมือนคนเรากลัวเสือเพราะรู้ว่ามันคร่าชีวิตเราได้ แต่ก็ยังชอบที่จะดูมัน เช่นนั้นไม่ต่างกันเลย
* ตรงจุดนี้หากไม่สะดวกจะภาวนาเสกน้ำล้างหน้าก็สามารถนำมาใช้ปลุกพระเครื่องหรือเครื่องรางได้ท่านว่ามีอานุภาพดุจเดียวกัน
ท้ายที่สุดพระคาถานี้ก็ยังมีอุปเท่ห์อยู่อีกสิ่งหนึ่ง นั่นคือสำหรับคนที่ต้องคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลทั้งหลาย อันนี้เป็นประโยชน์มากคนที่เรียนกฏหมาย เป็นนักกฏหมายเป็นทนายควรจะจดจำไว้ให้ขึ้นใจ ภาวนะบริกรรมก่อนจะขึ้นโรงขึ้นศาล เป็นคดีสิ่งใดก็ชนะสิ่งนั้นอธิษฐานใช้พระคาถาเสกปากตัวเอง
แม้ไม่ได้มีเหตุขึ้นโรงขึ้นศาลแต่อย่างใด แต่เป็นวันที่เราต้องการจะเจรจางาน ตกลงเรื่องสำคัญ ในการประกอบอาชีพทั่วไป ท่านว่าให้ภาวนาเสกปากไว้ เจรจาความสิ่งใดก็ชนะเขาดุจเดียวกัน ท่านย้ำมาว่าการพูดการเจรจานี่มีประโยชน์มากนะ ใช้ให้ถูกต้องให้เกิดคุณงามความดี อย่าเอาไปใช้ในทางที่ผิด เพราะคาถานี้มีคุณทางด้านเจรจา พูดสิ่งใดก็ชนะเขาทั้งหมด -
ได้รับตระกรุดแม่ย่ากาลีแล้วครับขอบคุณครับ
-
ผมจองตะกรุดรกแมว 1ดอกครับ
-
พระคาถา
พระคาถาบทนี้ พ่ออาจารย์ท่านให้ลงเผยแพร่ไว้ จะมีประโยชน์มากแต่ผู้ปกครองทั้งหลาย ซึ่งมีกุลบุตร กุลธิดา
ทั้งนี้ด้วยว่าหัวใจและความคาดหวังของผู้เป็นบิดามารดานั้น ย่อมปรารถนาให้ลูกหลานเชื่อฟัง เลี้ยงง่าย อยู่ในโอวาทการสั่งสอนของตนเพื่อจะได้เจริญเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ
ประกอบกับความเจริญ สิ่งยั่วยุและการเปลี่ยนแปลงของโลกทุกวันนี้ บางครั้งสังคม เพื่อนฝูงตลอดจนสิ่งล่อตาล่อใจเยาวชนทั้งหลาย ทั้งการยั่วยุและการชักชวนเหล่านั้น จะเป็นเหตุให้ลูกหลานออกจากการอบรมสั่งสอนของบิดามารดาอันได้ชื่อว่ามีความปรารถนาดีที่สุด นำไปสู่ความเสื่อม และกลายเป็นปัญหาสังคมต่อไป
พ่ออาจารย์ท่านมอบพระคาถาให้บทหนึ่ง เอาไว้ให้ผู้เป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครอง ที่เลี้ยงดูเด็กเล็กๆ ลูกๆหลานๆ ซึ่งมีความปรารถนาดีต่อกุลบุตร กุลธิดาเหล่านั้น พระคาถาบทนี้ท่านว่าให้เอาไว้สวดภาวนา
อุนะโมพุทธัสสะ เสยยะถีทัง อุนะโมธัมมัสสะ เสยยะถีทัง อุนะโมสังฆัสสะ เสยยะถีทัง หุลู สวาหาย
ท่านว่าพระคาถาบทนี้ให้สอนเด็กตั้งแต่เขายังเล็ก ให้รู้จักจำและภาวนา จะเป็นลูกที่เลี้ยงง่ายของพ่อแม่ อยู่ในโอวาทของบิดามารดา ไปเบื้องหน้าเติบใหญ่จะให้คุณ และเด็กนั้นจะรู้จักการภาวนามีสมาธิมาก หากแม้มิได้สอนให้เขาภาวนาแล้ว จะเป็นตัวของผู้เลี้ยงที่จะภาวนาก็ย่อมได้ โดยให้ใช้ภาวนาเสกเป่าที่ศรีษะลูกหลานได้ทั้งเช้าและเย็น เวลาจะเสกเป่าศรีษะของเขาให้ตั้งอารมณ์รักและเอ็นดูเอาไว้เถิด
ทั้งนี้แม้เป็นครูบาอาจารย์จะสอนศิษย์ก็ย่อมภาวนาได้ ท่านว่าภาวนาเอาเถิด เขาจะเชื่อฟังอยู่ในโอวาทไม่ก้าวร้าวทีเดียว ในทำนองเดียวกันแม้เป็นเจ้าคนนายคน ปกครองหมู่คนหรือลูกน้องร่วมงานก็ยังใช้ภาวนาได้เช่นกัน
ทั้งนี้พระคาถาก็เป็นอุปเท่หหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้แก่ผู้ใช้ แต่ว่าการจะเลี้ยงบุตรหลานให้เติบโตขึ้นเป็นพลเมืองดีไม่ถูกสิ่งยั่วยุครอบงำนั้น คำสอนของพ่อแม่และวิธีการอบรมก็เป็นสิ่งสำคัญ พ่ออาจารย์ท่านว่าพระคาถานั้นมีพุทธคุณจริง แต่ถ้าจะให้ดีพ่อแม่ก็ต้องใส่ใจตั้งใจอบรมสั่งสอนให้ความรักความอบอุ่นเต็มที่ด้วย -
นะหน้าทอง สาริกาลิ้นทอง
อรุณสวัสดิ์ครับ
เช้าวันนี้จะมาพูดถึงวิชาที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าใครๆก็รู้จัก วิชาที่เรียกกันว่านะหน้าทองกับสาริกาลิ้นทอง สองสิ่งนี้ ผู้ใดที่ไปหาพระผู้มีวิชาหรือปรารถนาเสน่ห์เมตตาก็จะไปขอทำพิธีลงกัน ตามสูตรการลงของแต่ละบุคคล
แท้ที่จริงนั้นในส่วนของวิชานะหน้าทองและสาริกาลิ้นทองเองก็ยังแบ่งแยกออกไปอีกหลายประเภท แต่สิ่งหนึ่งคือเวลาเราไปลงมานั้น มันจะมีกฏอยู่และส่วนใหญ่ผู้ที่ไปลงจะรักษากฏไม่ได้หรือผิดครู นำไปสู่ความเสื่อมแห่งคุณวิชานั่นเอง
มีหลายท่านปรึกษามาว่าไปลงมาแต่กลับมาก็ทำเสื่อมแล้วเช่นนอนกับแฟนแล้วผิดข้อห้ามหรือถุยน้ำลายลงโถส้วม เผลอด่าบุพการีผู้อื่น สารพัดข้อห้ามที่แตกต่างกันของแต่ละสำนักเอาว่าแทบจะไม่มีใครรักษาได้เลยทีเดียว และพอสำนึกรู้ว่าผิดไปแล้วก็มาเสียดายที่เดินทางไปลง เสียดายว่าตนเองนั้นทำให้คุณวิชาเสื่อม สุดท้ายก็มาถามกันดู คำถามเหมือนจะง่ายนะแต่ตอบยากชะมัดเลย ว่าทำผิดครูไปแล้วต่างๆนานาจะทำไงดี
อันนี้ง่ายๆเลย ถ้ารู้ความประพฤติตน นิสัยตน ว่ามันเอาไม่อยู่หรอก ก็ไม่ต้องไปลงไปทำ เหมือนจะเคยบอกไป กรณีนี้ก็เช่นกัน เหมือนกันเลยกับกรณีรอยสัก การสักยันต์ก็เหมือนกันแต่ละสำนักจะมีกฏข้อห้าม มีการสอนให้ภาวนา ไม่ใช่ไปสักมาเท่ๆโก้ๆ
พ่ออาจารย์ท่านบอกเสมอว่าสักให้เจ็บตัว ถ้ารักษาได้ก็ไม่ผิด แต่ถ้าไม่อยากเลอะเนื้อเลอะตัวใช้เป็นพระเครื่องหรือตะกรุดตามแต่ละสายวิชาเช่นนี้ก็พอแล้ว พอใจจะหยิบมาสวมเมื่อไหร่ก็ได้ ถอดออกเมื่อไหร่ก็ได้ เครื่องมงคลที่ทำมาอย่างดีแล้วทำเช่นไรก็ไม่มีวันเสื่อม กรณีนะหน้าทองกับสาริกาลิ้นทองนี้ก็คือกัน ถ้ากลัวผิดพลาดไป รักษาข้อห้ามไม่ได้ก็เอาเป็นตะกรุดหรือพระที่ลงวิชาไว้มาพกอาราธนาท่านว่าอานุภาพเท่ากันไม่ต่างกัน ซ้ำยังได้อาถรรพ์ผงวิเศษและคุณว่านยาผสานกับคุณแห่งวิชชา กลายๆว่าจะมีอานุภาพสูงกว่าเสียด้วย ทั้งนี้เมื่ออาราธนาแล้วจะไม่มีข้อห้ามและความเสื่อมเลยเพราะเป็นไปด้วยพุทธานุภาพและเทวานุภาพคลุมเอาไว้อยู่ ถ้าจิตเราไม่ไปยึดติดใช้วิธีนี้นับว่าสะดวกกว่า แต่ถ้าจิตเราเสื่อมทำอย่างไรมันก็เสื่อมวันยังค่ำ ไม่ใช่วิชาหรือพระพุทธคุณจะเสื่อม แต่เป็นที่ตัวตนของเรานี่เอง
* ก็มีคำถามเข้ามา ถ้าน่าสนใจผมจะยกมาตอบให้ ถือว่าอย่างน้อยคนที่อ่านก็จะได้รับประโยชน์ร่วมกันนะครับ -
คืนนี้สวดมนต์แล้วอย่าลืมอาราธนาครูบาอาจารย์มาฟัง และสุดท่ายที่สำคัญ แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทุกภพภูมิด้วยนะครับ ทุกวันนี้เชื่อว่าคนทุกข์มากกว่าสุข ช่วยกันแผ่เมตตากันมากๆได้ทั้งตัวเองและผู้อื่น
-
คุยกันยามเช้า
อรุณสวัสดิ์ครับ
ก็มาพูดคุยกันยามเช้า สำหรับวันนี้จะมาสนทนากันในเรื่องของเครื่องมงคลที่เรียกว่าสายพราย อันนี้เห็นมีสอบถามเข้ามาว่าวัตถุมงคลที่ตนเองเช่าบูชาอยู่นั้นมีส่วนผสมของกระดูกสัตว์แล้วทำการปลุกเสกในป่าช้าเช่นนี้จะเป็นพรายมั๊ย ก็ต้องตอบว่าพรายครับ
ก็อยากทำความเข้าใจไปพร้อมๆกันว่าเดี๋ยวนี้ลูกเล่นเยอะเวลาจะเช่าหากพิจารณาดีๆ การสำเร็จเครื่องมงคลด้วยพระพุทธานุภาพ จำเป็นหรือไม่ต้องเอาไปเสกในป่าช้า บางครั้งตัววัตถุมวลสารที่นำมาสร้างก็เป็นพวกกระดูกคนหรือสัตว์ ต่อให้ไม่มีกระดูกก็ตามที แต่ไปเสกในที่ทางอาถรรพ์ก็เพื่อดึงคุณภูติผีเหล่านั้นให้มาสถิตย์คอยรับใช้ผู้บูชานี่เอง
พ่ออาจารย์ท่านเคยพูดว่า เครื่องมงคลทั้งหลายที่ท่านเสกนั้น ผู้บูชาไปจะเหมือนมีซึ่งเทพยดาคอยปกปักรักษาเป็นเงาตามตัว จุดนี้ก็ต้องมาพิจารณากันว่าเราอยากมีเทพหรือผีเป็นเงาตามตัว ต้องบอกว่าเขาอยู่กับเราชั่วชีวิต จะเห็นวาหลายปัญหาที่ปรึกษาเข้ามาคือบูชาพรายแต่เลิกแล้วเอาไปทิ้งแล้วบ้างขายต่อแล้วบ้าง แตทำไมเค้ายังตามตัวเราอยู่ ยังไม่จากไปเช่นนี้ ดังนั้นต้องคิดให้ดีก่อนที่จะทำอะไร
ส่วนใหญ่นั้นพรายทั้งหลาย(ขอเรียกสั้นๆว่าพรายแทนที่พระกระดูกผีทั้งหลาย) มันจะไม่ได้ใช้ตลอดรอดฟั่งหรอก เราอย่าลืมว่าเขาเองก็มีกรรมที่จะต้องไปชดใช้ แล้วอีกกรณีหนึ่งคือตอนไปนำมานั้นได้ทำพันธะสัญญาอย่างไร หรือไปคร่าเอาวิญญาณมาด้วยพระคาถา จุดนี้การจะใช้งานก็ขึ้นอยู่กับคนเสกด้วยว่ามีวิชาแค่ไหน คุมได้มั๊ย ถ้าคุมได้พรายก็เชื่อฟังดี ถ้าคุมไม่ได้ล่ะ คนเสกเขาจะเป็นอย่างไรอันนี้อย่าไปคิดให้เสียสมองเลย คิดถึงคนเอาไปใช้ดีกว่าว่าจะมีสารรูปเช่นใด
อันนี้ที่ยกตัวอย่างไม่รวมในกรณีที่คนเสกตายแล้วนะครับ แน่นอนว่าไม่มีใครจะเป็นอมตะอยู่ได้ ยิ่งเมื่อคนเสกไม่มีชีวิตอยู่หรือไปรับบุญรับกรรมในภูมิอื่นแล้ว ถ้ารับบุญก็ดีไป แต่ถ้ารับกรรม พรายเหล่านี้จะยิ่งน่ากลัวนักด้วยว่าไม่มีสิ่งใดควบคุมเขาแล้ว แทนที่คนบูชาจะได้สบายใจ กลับต้องมานั่งหาเครื่องเซ่นไหว้เอาใจเขา ถ้าไม่เซ่นก็เล่นกับดวงเรา เอาว่าถึงคราวซวยชีวิตมีอันตรายแน่นอน
มันต่างกันในตัวเอง เครื่องมงคลที่เป็นพรายกับเทพ เทพเขาไม่ต้องการนะเครื่องเซ่นสังเวย เขามาอยู่กับเราก็เพราะอยากเห็นเราทำความดี ยิ่งเราทำดีเขาก็จะยิ่งสบช่องช่วยเหลือเกื้อกูลได้มาก เพราะเขาลงมาสร้างบารมี เขาเลือกเราเป็นเจ้าของเครื่องมงคลที่เขาดูแลอยู่แล้วติดตามเรา เพื่อหวังที่จะสร้างบารมีไปพร้อมกับเรา คอยสรรเสริญยินดีกระทำอนุโมทนาการเวลาเราทำบุญทำกุศล คอยผลักดันให้สิ่งดีงามเข้ามาในชีวิต ซ้ำยังปกป้องคุ้มครองเราด้วย พ่ออาจารย์ท่านจึงว่าไม่จำเป็นต้องเซ่นเลย ถ้าจะเซ่นก็เซ่นด้วยคุณงามความดีนี่แหละเอามาว่ากัน
แล้วก็อย่าไปคิดว่า เอ้ะ ท่านมาอยู่กับเราเช่นนี้ คุณงามความดีเราจะถดถอยหรือไม่ จะมาดูดบารมีเราไปหรือเปล่า ความดีนั้นเป็นของที่ต่างคนต่างสร้างทำแทนกันไม่ได้ ท่านคอยอนุโมทนากับเราเวลาเราทำทานทำการกุศลเวลาเราแผ่เมตตาให้เทพรักษากาย เทวดาทั้งหมื่นโลกธาตุในแสนโกฏิจักรวาล ท่านได้ตรงนั้น ท่านคอยช่วยเหลือสงเคราะห์เรา นั่นคือการสร้างบารมีของท่าน ท่านได้ตรงนั้น พ่ออาจารย์ท่านให้พึงจดจำไว้ว่า คุณงามความดีอันชนใดได้พึงกระทำแล้วย่อมหาได้พร่องเลยแม้แต่ธุลีหนึ่งไม่ ยิ่งท่านอุโมทนาการก็จะยิ่งเพิ่มพูนเสียด้วยซ้ำไป นี่คือภาวะการสร้างบารมีร่วมกัน เป็นภาวะการณ์เกื้อกูลกันนั่นเอง
แต่ในทางตรงกันข้าม พรายนั้นที่อาจารย์นักสร้างทั้งหลายพยายามพูดหลอกคนว่าสร้างบารมีร่วมกัน บูชาไปเถิดปลอดภัย ต้องเข้าใจว่าแท้จริงแล้วนี่แหละที่เขาดูดกลืนสิ่งที่เราสร้างและสะสมมาให้พร่องน้อยถอยกำลังลง ไม่ใช่ภาวะอิงอาศัยที่เกื้อกูลกัน แต่เป็นสภาวะปรสิตที่ฝ่ายหนึ่งได้และฝ่ายหนึ่งเสียประโยชน์ ดังนั้นคนบูชาพรายหลายคนจึงไร้สง่าราศีหน้าดำดวงตก มีกลิ่นตัวไม่ต่างกับซากศพก็มี แล้วก็อย่าไปโทษใครเขา นั่นเป็นเพราะเรายกขาเดินเข้าไปหาเรื่องด้วยตัวเอง เรามีอาวุธคือสติปัญญาความคิด เอาไว้พิจารณาไตร่ตรองสิ่งต่างๆก่อนจะพึงกระทำ แถมยังมีสติถ่วงดุลย์ยึดขาเราไว้อย่างมั่นคง เพราะเราไปหลงในกิเลสความอยากทั้งหลาย ไม่ได้ใช้เสียซึ่งปัญญาพิจารณา ซ้ำยังทำลายตัวสติที่เป็นดุจโซ่ที่ตรึงเราเอาไว้ด้วยตัวของเราเอง เช่นนี้ก็อย่าไปโทษใครเลย
ในยุคปัจจุบันนี้พรายมันมาหลายแบบ บางครั้งแฝงมาในคราบพุทธคุณก็มี ถ้าไม่ใช่ผงพรายของหลวงปุ่ทิม ที่ท่านมีภูมิจิต ภูมิธรรมสูง ถ้าเสกไม่ได้เช่นหลวงปู่ทิมท่านว่าอย่าไปคิดจะเล่นเลย บางอาจารย์ดังก็ใช้การออกทีวีบ้างสื่อดาราบ้างขายภูติผีโดยเจือเข้าไปในตุ๊กตาบ้างผสมเข้าไปในของให้คนใช้บ้าง เช่นนี้อันตราย โดยเฉพาะเวลาจะเช่าบูชาอะไรให้พิจารณาให้ดี ดูให้รอบคอบว่าเขาเสกอย่างไร ถ้าเสกในป่าช้าหรือเชิงตะกอนอะไรเทือกนี้ ก็ควรคิดพิจารณาเสียให้หนักๆเลย
วันนี้ก็เอามาพูดคุยกันยามเช้า ที่เลือกพูดเพราะอยากจะให้ระวัง เนื่องจากสิ่งเหล่านี้มันเป็นเหมือนระเบิดเวลา เป็นภัยระยะยาวเพราะเขาเอาเราถึงตาย ถ้าโชคดีเราตายก่อนมันก็ยังอยู่ในบ้านอยู่กับคนที่เรารักอยู่กับลูกหลานของเราเอง -
กราบนมัสการบูชาคุณบรมครู พรหมฤาษีนารทกันนะครับ ขอบารมีท่านให้ปกปักรักษาผู้มีชะตาต้องกันทุกคน องค์นี้มีวรรณณะทองคำเหลือบม่วง องค์จริงจะสวยกว่าในภาพ เห็นแล้วเผลอนึกไปถึงปรอทกินทองเลยครับ ซึ่งก็ส่งแบบนี้ไปหลายองค์แล้ว อันนี้เป็นองค์ที่ท่านหยิบให้ส่งวันนี้ นำมาให้ชมกันครับมีหลายวรรณณะนอกจากสีเงินยวง สวยงามดีตามบารมีองค์นารทมุนีและธาตุกายสิทธิ์ ดีทุกสีครับเพราะเนื้อเดียวกัน
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
บารมีพรหมฤาษีนารท องค์นี้ของพี่อีกท่านหนึ่งที่ท่านมอบมาให้ เห็นแล้วอดถ่ายรูปไม่ได้ องค์พระมีวรรณณะสีทองคำเข้ม เจือด้วยสีม่วง น้ำเงิน ส้ม เสียที่กล้องผมไม่สามารถถ่ายภาพเสมือนของจริงได้ ก็เลยถ่ายได้เท่าที่เห็น หากไม่ถามถึงมวลสารที่ผนึกไว้ด้านหลัง เฉพาะครูพรหมฤาษีนารทบารมีท่านอย่างแรง :cool:
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
เกมส์ที่จะเล่นกันครั้งนี้จะแจกตะกรุดหนุนดวงนารายณ์พลิกแผ่นดิน ติดตามกันดีๆนะครับ:cool:
-
ก่อนนอนวันนี้ก็อย่าลืมสวดมนต์และแผ่เมตตากันนะครับ ย้ำบ่อยๆทำที่ไหนก็ได้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น :cool:
-
เตรียมของจัดส่งให้วันนี้ บารมีครูพรหมฤาษีนารท ถือว่าเป็นบุญตาตัวเองอีกครั้ง ได้เห็นหลายแบบจริงๆ เสียแต่ว่ากล้องเราไม่ดีจึงถ่ายภาพมาให้ชมชัดๆไม่ได้ บางองค์ก็ออกสีเขียวระเรื่อ บางองค์ก็เหมือนผลึกแก้ว บางองค์ก็ผิวเหมือนทองคำแซมม่วงงดงาม มีหลายท่านถามว่าเป็นเพราะอะไร ผมก็ตอบไม่ได้ เพราะเนื้อเดียวกันสร้างเสกพร้อมกัน แต่วรรณณะต่างกัน คงจะเป็นไปด้วยบารมีและแรงครู ก็มากราบครูพรหมฤาษีนารทไว้ในที่นี้อีกวาระหนึ่ง ขอให้ผู้ที่ได้บูชาไปโชคดีนะครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ได้รับตะกรุดรกแมวแล้ว ขอบคุณครับ
หน้า 140 ของ 457