ลองบอกเหตุจากพระเจ้ารุ้งกินน้ำกลับหัว

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ตันติปาละ, 9 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    ลองบอกเหตุจากพระเจ้ารุ้งกินน้ำกลับหัว(ตามความเชื่อของศาสนาคริสต์)

    คลิ๊กชมเลย
    รุ้งกินน้ำกลับหัว - เรื่องเล่าเช้านี้


    <embed src="http://www.clipmass.com/player2010/cm/cmp.swf?config=http://www.clipmass.com/player2010/cm/econfig.php?video=205611380276863,276863" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" width="425" height="355">
    รุ้งกินน้ำ กลับหัว ประหลาด - ดูคลิปทั้งหมด คลิกที่นี่

    เกิดปรากฏการณ์ รุ้งกินน้ำกลับหัว ที่ ปักกิ่ง ในปี 2007 เป็นเหตุการ์ประหลาดที่สุด บ่งบอกถึงเหตุการ์ที่ผิดธรรมชาติ

    [​IMG]
    เกิดรุ้งกินน้ำกลับหัวขึ้น ลือหึ่งสัญญาณร้ายภัยพิบัติ โบราณเชื่อเป็นรอยแสยะยิ้มพญายม ลางบอกเหตุว่าโลกเกิดสงครามระหว่างธรรมะกับอธรรม
    ระยะเวลา :00:01:59
    วันออกอากาศ : 8 กุมภาพันธ์ 2554

    [​IMG]
     
  2. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    เป็นเรื่องเป็นราวอีกครั้ง เมื่อ “ฟรีทีวี” เผยภาพ “รุ้งกินน้ำกลับหัว” พร้อมกับตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์และคำทำนายจาก “ท่านโหร” ว่าเป็นลางร้ายของบ้านเมือง ตลอดจนสัญญาณเตือนถึงภัยพิบัติ จนนักวิชาการต้องออกโรงชี้แจงว่าแท้จริงแล้วคือภาพของ “อาทิตย์ทรงกลด” รูปแบบที่หาดูได้ยากต่างหาก
    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td valign="baseline" align="center">ภาพอาทิตย์ทรงกลดต้นเหตุการวิพากษ์วิจารณ์ (kapook.com/รายการเรื่องเล่าเช้านี้)</td> </tr> </tbody></table>
    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td valign="baseline" align="center">(บน ซ้าย) ภาพอาทิตย์ทรงกลดแบบเส้นโค้งเซอร์คัมซีนิทัล (ขวาบน) และหลักการเกิดอาทิตย์ทรงกลดแบบเส้นโค้งเซอร์คัมซีนิทัลจากการหักเหของแสง ผ่านผลึก 6 เหลี่ยม และภาพล่างแสดงการเกิดอาทิตย์ทรงกลดในรูปแบบต่างๆ ผ่านการหักเหของแสงผ่านผลึกรูปทรงต่างๆ (atoptics.co.uk) </td> </tr> </tbody></table>
    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td valign="baseline" align="center">อาทิตย์ทรงกลดแบบเส้นโค้งเซอร์คัมซีนิทัล ที่หาดูได้ยาก (Cdlune1890) </td> </tr> </tbody></table>
    ภาพ “รุ้งกินน้ำกลับหัว” ต้นเหตุของกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงลางร้ายเป็นภาพท้องฟ้าที่บันทึกโดย ดร.แจ็กเกอลีน มิตตอง นักดาราศาสตร์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cambridge University) จากบริเวณบ้านพักของเขาในอังกฤษ ซึ่ง ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ ที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สวทช.และผู้ก่อตั้งชมรมคนรักมวลเมฆ อธิบายผ่านศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทยว่าภาพดังกล่าวไม่ใช่รุ้งกินน้ำแต่ อย่างใด

    ทั้งนี้ เนื่องจากปรากฏการณ์ในภาพนั้นไม่ได้เกิดจากการตกกระทบของแสงอาทิตย์ที่ผิว ของหยดน้ำและหักเหออกมาเป็นแสงสีรุ้งเหมือนรุ้งกินน้ำทั่วไป หากแต่เกิดจากการที่แสงอาทิตย์ไปตกกระทบผลึกน้ำแข็งหกเหลี่ยมในเมฆ แล้วหักเหผ่านผลึกออกมาจนเกิดเป็นแถบสีรุ้งที่เรียกว่า “ อาทิตย์ทรงกลด” (solar halo) และภาพสีรุ้งที่ปรากฏในภาพนั้นคือ อาทิตย์ทรงกลดแบบเส้นโค้งเซอร์คัมซีนิทัล (CircumZenithal Arc : CZA)

    อาทิตย์ทรงกลดแบบเส้นโค้งเซอร์คัมซีนิทัลนี้ เกิดจากแสงอาทิตย์พุ่งเข้าผิวด้านบนของผลึกน้ำแข็งรูปหกเหลี่ยมแบนๆ ที่อยู่ภายในเมฆระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ เมฆซีร์โรสเตรตัส (Cirrostratus) แล้วหักเหภายในผลึกรูปแผ่นทะลุออกไปทางผิวด้านข้าง ซึ่งแสงที่เดินทางผ่านผลึกจะปรากฏเป็นเส้นโค้งสีรุ้งอยู่เหนือดวงอาทิตย์ โดยมีส่วนโค้งหงายขึ้น และมีสีแดงอยู่ด้านใกล้ดวงอาทิตย์

    “ปรากฏการณ์นี้เคยเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงฤดูฝนเมื่อปี 2553 โดยมีสมาชิกชมรมคนรักมวลเมฆ บันทึกภาพไว้ได้” ดร.บัญชากล่าว

    เส้นโค้งนี้มีลักษณะเสมือนหนึ่งเป็นส่วนโค้งของวงกลมที่อยู่รอบจุด ยอดฟ้า หรือจุดจอมฟ้า (zenith) ซึ่งเป็นจุดเหนือศีรษะ จึงเรียกว่า เส้นโค้งเซอร์คัมซีนิทัล (circumzenithal arc) หรือ เส้นโค้ง CZA โดยคำว่า circum นั้นมีรากศัพท์เดียวกับ circle ที่แปลว่าวงกลม และบางคนยังมองว่าเส้นโค้ง CZA เปรียบเสมือน “รอยยิ้มขนาดยักษ์บนท้องฟ้า”

    เส้นโค้ง CZA จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อดวงอาทิตย์อยู่ต่ำ หรือมีมุมเงยสูงจากขอบฟ้าไม่เกิน 32.3 องศา เท่านั้น เพราะที่ค่านี้ เส้นโค้ง CZA จะอยู่ใกล้จุดจอมฟ้าและจางลงจนมองไม่เห็น และโดยเราจะเห็นเส้นโค้ง CZA ได้ชัดเจนเมื่อดวงอาทิตย์มีมุมเงยในช่วง 15-25 องศา

    ดร.บัญชา กล่าวว่า คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าอาทิตย์ทรงกลดคือ วงกลมสีรุ้งล้อมรอบดวงอาทิตย์ หรือ การทรงกลดแบบวงกลม 22 องศา แต่ความจริงแล้วการทรงกลดของดวงอาทิตย์มีลักษณะที่แตกต่างกันมากกว่า 30 รูปแบบ เนื่องจากผลึกน้ำแข็งรูป 6 เหลี่ยม ที่ล่องลอยอยู่ในเมฆเมฆซีร์โรสเตรตัสนั้นมีถึง 3 แบบ ได้แก่ 1. ผลึกรูปแผ่น 2. ผลึกรูปแท่ง และ 3. ผลึกรูปพีระมิด อีกทั้งแสงอาทิตย์สามารถตกกระทบผ่านผลึกน้ำแข็งได้หลายทิศทาง จึงทำให้มีอาทิตย์ทรงกลดหลายรูปแบบ

    “ภาพ “รอยยิ้มสีรุ้ง” หรือ การอาทิตย์ทรงกลดแบบเส้นโค้งเซอร์คัมซีนิทัลนี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ไม่ง่ายนัก มองในแง่การเรียนรู้วิทยาศาสตร์จึงถือว่าเป็น “เรื่องดี” และเชื่อว่าเราจะยังมีโอกาสได้เห็นปรากฏการณ์อาทิตย์ทรงกลดรูปแบบอื่นๆ จำนวนมาก"

    "อีกทั้งเมื่อเดือนมิถุนายน 2553 ประเทศไทยก็ได้เกิดการทรงกลดแบบซันด็อก (Sun Dog) ที่อุบลราชธานีและศรีษะเกษ ซึ่งสร้างความประทับใจและทำให้คนจำนวนไม่น้อยสนใจท้องฟ้าและธรรมชาติรอบตัว เรา” ดร.บัญชากล่าว

    นาวาเอกฐากูร เกิดแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์ (LESA) ให้ความเห็นแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ต่อปรากฏการณ์อาทิตย์ทรงกลดว่า เป็นปรากฏการณ์สามัญที่เกิดขึ้นบ่อย เพียงแต่เกิดขึ้นในช่วงจังหวะเวลาสั้นๆ และเกิดขึ้นในบางมุมเท่านั้น และในกรุงเทพฯ ก็เกิดขึ้นบ่อย แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยแหงนหน้ามองฟ้าจึงไม่ค่อยเห็น โดยส่วนตัวเขาจึงต้องพกกล้องตลอด เพราะหลายครั้งเห็นปรากฏการณ์แล้วบันทึกภาพไม่ทัน


    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 กุมภาพันธ์ 2554 19:28 น.
     
  3. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    รุ้งกินนํ้ากลับหัว...ลางร้ายกลียุด

    รุ้งกินนํ้ากลับหัว...ลางร้ายกลียุด

    เมื่อเกิดรุ้งกินน้ำหลังฝนตก ในยามเช้า หรือ เย็น วงโค้ง รุ้งกินน้ำ ซึ่ง มีอยู่ 7 สี ได้แก่ ม่วง คราม น้ำเงิน เหลือง แสด แดง จะโค้งไปตามส่วนโค้งของ เปลือกโลก

    แต่ในภาพ เป็นรุ้งกินน้ำมีวง โค้งตรงกันข้ามกับรุ้งกินน้ำธรรมดา เป็นโค้งกลับด้าน ซึ่งแน่นอนว่า ปรากฎการณ์ เช่นหาดูได้ยากยิ่ง

    การปรากฏของรุ้งกินน้ำ ส่วนใหญ่ เป็นช่วงเวลาสดใส นกส่งเสียงร้องพร้อม กับอากาศดีบริสุทธิ์ แต่เมื่อใดรุ้งกินน้ำ ปรากฏกลับด้านจึงเป็นสัญญาณเตือนว่า กลียุคกำลังบังเกิด

    รุ้งกลับหัวกลับหาง ทีศัพท์ทางอังกฤษ เรียกว่า เซอร์คม เซนิฮัล อาร์ค (Circumge nithal Arc) หรือ วงแหวนครึ่งขอบฟ้าซึ่ง มีคำอธิบายโดยนักปราชญ์ เมื่อ 100 กว่าปีก่อน นี่คือรอย แสยะยิ้มพญายม (Cruach"s Grin)

    ทักเกอร์ แม็คคาร์ทนีย์ นักมนุษย์ วิทยาชาวอเมริกัน ที่ฟิลลาเดลเฟีย อธิบายว่า "ครู แอ็ค" เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งของชาว เซลติกโบราณ (บรรพบุรุษชาวอังกฤษ)เป็น แห่งความตาย และการทำลายล้าง การสร้าง รุ้งกินน้ำกลับด้านขึ้นบนท้องฟ้าจึงเป็นคำ เตือนจากเทพเจ้าครูแอ๊คว่า วาระสุดท้าย ของโลกกำลังมาถึงแล้ว

    หรือในคัมภีร์ไบเบิลของชาวคริสต์ ได้วาดภาพรุ้งกินน้ำกลับด้านเอาไว้ โดยระบุว่า เป็นลางบอกเหตุว่าโลกกำลังเกิดสงครามระหว่าง ธรรมะ กับ อธรรมขึ้นแล้ว

    คำทำนายจากยุคโบราณหาก นำมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์ของโลกใน ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ยอมรับว่าเข้าเค้า โดยเฉพาะปรากฏการณ์โลกร้อนที่กำลังเกิดขึ้น อาจนำพาไปสู่วาระสุดท้ายของโลกของ เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ได้

    นักอุตุนิยมวิทยาในยุคปัจจุบัน ก็มีคำอธิบายถึงการเกิดรุ้งกลับหัวว่าเกิด จากภาวะภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง ไปอย่างรุนแรง

    การเกิดรุ้งกินน้ำธรรมดา เกิดขึ้นโดย แสงแดดสาดส่องผ่านละอองน้ำ หรือ อากาศชื้น ในชั้นบรรยากาศ

    แต่รุ่งกินน้ำกลับหัวเกิดจากการ ผสมผสานอย่างผิดธรรมชาติ นั่นคือการ ผสมปนเป ระหว่างอากาศร้อนกับอากาศหนาว เหนือชั้นบรรยากาศ แล้วสะท้อนกลับมาเหมือน กระจก จึงเกิดรุ้งกินน้ำกลับหัวขึ้นมา

    ดร.แจ็คเกอลีน มิตตอง นักดารา ศาสตร์ อวกาศแห่งแคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ เป็นผู้ถ่ายภาพรุ้งกินน้ำกลับหัว ภาพนี้ได้จาก ท้องฟ้าใกล้บ้านพัก

    "จับไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มา ก่อน จับอายุ 60 ปี แล้วยังแปลกใจกับ ปรากฎการณ์ประหลาด"

    รุ้งกินน้ำกลับหัวเมื่อเกิดขึ้น จะมีแสง สว่างมากกว่ารุ้งกินน้ำธรรมดา หลายเท่า เชื่อกันว่าวงโค้งกลับหัวเกิดจากการสะท้อน แสงมาจากวงแหวน ฮาโลหรือฉัพพรรณรังสีของดวงอาทิตย์
     
  4. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    • [​IMG]


      8 ก.พ. 54 รายงานข่าวแจ้งว่า ภาพปรากฎการณ์สุดประหลาด “รุ้งกินน้ำกลับหัว” ครั้งนี้ถูกเปิดเผยโดย ดร.แจ๊คกาลีน มิตตัน นักดาราศาสตร์อวกาศแห่งแคมบริดจ์ ของประเทศอังกฤษ หลังเธอสามารถบันทึกภาพดังกล่าวได้ที่หน้าบ้านของเธอเมื่อปี 2008 เมื่อภาพดังกล่าวปรากฎออกมาก็ทำให้หลายๆ คนที่ได้เห็น ต่างพากันตื่นตกใจ และเชื่อว่าอาจเป็นสัญญาณเตือนกลียุคกำลังเกิดขึ้นก็เป็นได้
      โดยคำทำนายโบราณเรียก ปรากฎการณ์นี้ว่าเป็น “รอยแสยะยิ้มพญายม (Cruach”s Grin)” ซึ่งเชื่อว่าเป็นคำเตือนจากเทพเจ้าถึงวาระสุดท้าย ของโลก
      ขณะที่ในคัมภีร์ไบเบิลของชาวคริสต์ ก็ได้มีภาพวาด “รุ้งกินน้ำกลับหัว” ประกอบอยู่ในคัมภีร์ด้วย โดยระบุว่าภาพดังกล่าวเป็นลางบอกเหตุโลกกำลังเกิดสงครามระหว่างธรรมะกับ อธรรมขึ้น
      ด้านนักอุตุนิยมวิทยาได้มีคำอธิบายถึงปรากฎการณ์ดังกล่าวว่า เกิดจากภาวะภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรง การเกิด “รุ้งกินน้ำกลับหัว” นั้นอาจเกิดจากการผสมผสานอย่างผิดธรรมชาติ
      โดยเรียกปรากฏการณ์นี้เรียกว่า ปรากฏการณ์แสง (the optical phenomenon a circumzenithal arc) โค้งออกไปยังดวงอาทิตย์ ซึ่งเกิดขึ้นจากการหักเหของแสงในมุมที่เหมาะสมกับผลึกน้ำแข็ง ละอองน้ำ หรือ อากาศชื้น ในชั้นบรรยากาศ แสดงสีรุ้งสดใส
     
  5. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    เอาข่าวมาให้ดูจากหลายๆที่ สรุปว่ามันเกิดที่ใหนปีใหนแน่ เพราะทุกอันเป็นภาพเดียวกัน

    สื่อนี่แปลกหาความจริงไม่มีเลย

    จีนถ่ายได้ปี 2007
    อังกฤษถ่ายได้ปี 2008
    ข่าวรายงานปี 2011

    ใช้วิจารณญานดูนะครับ
     
  6. gnungnun

    gnungnun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    334
    ค่าพลัง:
    +357
    ผมเห็นหลายๆกระทู้เลยที่บอกว่าเป็นความเชื่อทางศาสนาคริสต์ ในเนื้อข่าวบอกเป็นภาพวาดประกอบBible ก็เหมือนภาพประกอบนิทานชาดกแหละครับ ผู้วาดมักจะใส่ความเชื่อในท้องถิ่นนั้นๆลงไปด้วย

    ในส่วนของBibleเองไม่มีเรื่องรุ้งกินน้ำกลับหัว เรื่องรุ้งกินน้ำในBibleออกจะไปในทางดีด้วยซ้ำครับ

    ในพระไตรปิฎกของเรามีพูดถึงรุ้งอยู่ ก็ออกไปในทางเปรียบเทียบว่าสวยงามครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2011

แชร์หน้านี้

Loading...