62.ล่องใต้...ชมเกาะ เลาะหาด

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย สร้อยฟ้ามาลา, 21 พฤษภาคม 2013.

  1. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    เมื่อชิมมะม่วงหิมพานต์กันแล้ว(แต่สร้อยฟ้าฯ ไม่ได้ชิมนะ) และต่างคนต่างซื้อกลับบ้านกันเป็นที่พอใจ สถานที่ต่อไปก็จะไปไหว้พระกัน เมื่อมาภูเก็ตก็ต้องนึกถึงหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง

    [​IMG]


    วัดฉลองหรือวัดไชยธาราราม เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของภูเก็ต ใครมาภูเก็ตก็ต้องแวะนมัสการหลวงพ่อแช่มเพื่อเป็นสิริมงคล

    ประวัติวัดไชยธาราราม (วัดฉลอง)
    ใครเป็นผู้สร้างวัดฉลองและวัดฉลองมีประวัติสืบเนื่องมานานเพียงใด ไม่มีหลักฐานอ้างอิงที่แน่นอน แต่ตามทางสันนิษฐานนั้นเข้าใจกันว่าหลังจากเมืองถลางต้องพ่ายแพ้ศึกพม่าเมื่อ พ.ศ.๒๓๕๒ ต้นสมัยรัชกาลที่ ๒ เป็นเหตุให้ชาวถลางต้องหลบหนีภัยสงครามอันโหดร้าย กระจัดพลัดพรากกันไปหลายทิศทาง เช่น ตระกูลขุนนางผู้ครองเมืองถลาง ซึ่งเป็นลูกหลานของพระยาเพชรคีรีพิชัยสงครามรามคำแหง เจ้าพระยาถลาง(เทียน ประทีป ณ ถลาง) พากันหลบหนีไปทางด่านพระยาพิพิธโภคัย เข้าไปหลบซ่อนตัวที่เมืองพังงา และเลยเข้าไปในเมืองกระบี่ในภายหลัง(ซึ่งตระกูล "ประทีป ณ ถลาง" ได้ตั้งรกรากและสืบทอดทายาทอยู่ในเมืองกระบี่มาจนถึงทุกวันนี้) สายหนึ่ง ราษฎรส่วนใหญ่หนีไปตามลำน้ำกระโสม แขวงเมืองตะกั่วทุ่งเข้าสู่เมืองทางพังงาตอนเหนือแถบลุ่มแม่น้ำพังงาตั้งสายหนึ่งและอีกสายหนึ่งหนี กระเจิงมาทาง "เมืองมานิก" (มานิคคาม) ทะลุออกเมืองภูเก็ต(ที่บ้านกระทู้) แล้วหนีเรื่อยลงมาจนพบที่ราบกว้างริมลำน้ำใหญ่ (คลองบางใหญ่ตำบลฉลอง) เป็นชัยภูมิที่เหมาะที่จะตั้งรากสร้างชีวิตและชุมชนใหม่ จึงได้ยับยั้งอยู่ที่ทุ่งราบกว้างแห่งนี้ ขนานชุมชนของตนเองว่า "ชาวถลาง" (แล้วเพี้ยนผันไปเป็น "ชาวฉลอง" ในภายหลังตามความเปลี่ยนแปลงของภาษา) ชุมชนชาวถลางที่บ้านใหม่แห่งนี้ เป็นเพียงชุมชนย่อย มีผู้นำชุมชนที่สืบเชื้อสายเจ้าพญาถลาง (เทียน) เป็นแกนนำอยู่ (ซึ่งสืบทอดทายาทมาเป็น "ประทีป ณ ถลาง"อยู่ที่ฉลองจนถึงปัจจุบัน)



    ..............................................................

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.2684782/[/MUSIC]

    ..............................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6852_1a.jpg
      IMG_6852_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      615.9 KB
      เปิดดู:
      727
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  2. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]


    พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ยานมุนี (หลวงพ่อแช่ม) สังฆปาโมกข์เมืองภูเก็ต ท่านเกิดที่ตำบลบ่อแสน อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา เมื่อปีกุน พ.ศ.๒๓๗๐ มรณภาพ พ.ศ.๒๔๕๑ หลวงพ่อแช่มได้สร้างบารมีไว้มาจนถึงปัจจุบันประวัติของหลวงพ่อแช่มในตอนหนึ่งเล่าว่า ในปี พ.ศ.๒๔๑๙ ตรงกับรัชสมัยของรัชกาลที่ ๕ กรรมกรเหมืองแร่เป็นจำนวนหมื่นในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงได้ซ่องสุมผู้คน ก่อตั้งเป็นคณะขึ้นเรียกว่า อั้งยี่ โดยเฉพาะพวกอั้งยี่ในจังหวัดภูเก็ตก่อเหตุวุ่นวายถึงขนาดจะเข้ายึดการปกครองของจังหวัดเป็นของพวกตน ทางราชการในสมัยนั้นไม่อาจปราบให้สงบราบคาบได้ พวกอั้งยี่ถืออาวุธรุกไล่ยิงฟันชาวบ้านล้มตายลงเป็นจำนวนมากชาวบ้านไม่อาจต่อสู้ป้องกันตนเองและทรัพย์สิน ที่รอดชีวิตก็หนีเข้าป่าไป เฉพาะในตำบลฉลองชาวบ้านได้หลบหนีเข้าป่าเข้าวัด ทิ้งบ้านเรือนปล่อยให้พวกอั้งยี่เผาบ้านเรือน หมู่บ้านซึ่งพวกอั้งยี่เผาได้ชื่อว่า บ้านไฟไหม้ จนกระทั่งบัดนี้ ชาวบ้านที่หลบหนีเข้ามาในวัดฉลอง เมื่อพวกอั้งยี่รุกไล่ใกล้วัดเข้ามา ต่างก็เข้าไปแจ้งให้หลวงพ่อแช่มทราบและนิมนต์ให้หลวงพ่อแช่มหลบหนีออกจากวัดฉลองไปด้วย หลวงพ่อแช่มไม่ยอมหนี ท่านว่า ท่านอยู่ที่วัดนี้ตั้งแต่เด็กจนบวชเป็นพระและเป็นเจ้าวัดอยู่ขณะนี้ จะให้หนีทิ้งวัดไปได้อย่างไร เมื่อหลวงพ่อแช่มไม่ยอมหนีทิ้งวัด ชาวบ้านต่างก็แจ้งหลวงพ่อแช่มว่าเมื่อท่านไม่หนีพวกเขาก็ไม่หนี จะขอสู้มันละ พ่อท่านมีอะไรเป็นเครื่องคุ้มกันตัวขอให้ทำให้ด้วย หลวงพ่อแช่มจึงทำผ้าประเจียดแจกโพกศีรษะคนละผืนเมื่อได้ของคุ้มกันคนไทยชาวบ้านฉลองก็ออกไปชักชวนคนอื่นๆ ที่หลบหนีไปอยู่ตามป่า กลับมารวมพวกกันอยู่ในวัด หาอาวุธ ปืน มีด เตรียมต่อสู้กับพวกอั้งยี่ พวกอั้งยี่เที่ยวรุกไล่ฆ่าฟันชาวบ้านไม่มีใครต่อสู้ก็จะชะล่าใจ ประมาทรุกไล่ฆ่าชาวบ้านมาถึงวัดฉลอง ชาวบ้านซึ่งได้รับผ้าประเจียดจากหลวงพ่อแช่มโพกศีรษะไว้ก็ออกต่อต้านพวกอั้งยี่ พวกอั้งยี่ไม่สามารถทำร้ายชาวบ้านก็ถูกชาวบ้านไล่ฆ่าฟันแตกหนีไป ครั้งนี้เป็นชัยชนะครั้งแรกของไทยชาวบ้านฉลอง ข่าวชนะศึกครั้งแรก ของชาวบ้านฉลอง รู้ถึงชาวบ้านที่หลบหนีไปอยู่ที่อื่น ต่างพากลับมายังวัดฉลอง รับอาสาว่าถ้าพวกอั้งยี่มารบอีก ก็จะต่อสู้ ขอให้หลวงพ่อแช่มจัดเครื่องคุ้มครองตัวให้ หลวงพ่อแช่มก็ทำผ้าประเจียดแจกจ่ายให้คนละผืน พร้อมกับแจ้งแก่ชาวบ้านว่า "ข้าเป็นพระสงฆ์จะรบราฆ่าฟันกับใครไม่ได้ พวกสูจะรบก็คิดอ่านกันเอาเอง ข้าจะทำเครื่องคุณพระให้ไว้สำหรับป้องกันตัวเท่านั้น" ชาวบ้านเอาผ้าประเจียดซึ่งหลวงพ่อแช่มทำให้โพกศีรษะเป็นเครื่องหมาย บอกต่อต้านพวกอั้งยี่ พวกอั้งยี่ให้ฉายาคนไทยชาวบ้านฉลองว่า พวกหัวขาว ยกพวกมาโจมตีคนไทยชาวบ้านฉลองหลายครั้ง ชาวบ้านถือเอากำแพงพระอุโบสถเป็นแนวป้องกัน อั้งยี่ไม่สามารถตีฝ่าเข้ามาได้ ภายหลังจัดเป็นกองทัพเป็น จำนวนพัน ตั้งแม่ทัพ นายกอง มีธงรบ ม้าล่อ เป็นเครื่องประโคมขณะรบกัน ยกทัพเข้าล้อมรอบกำแพงพระอุโบสถ ยิงปืน พุ่งแหลน พุ่งอีโต้ เข้ามาที่กำแพง เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่บรรดาชาวบ้านซึ่งได้เครื่องคุ้มกันตัวจากหลวงพ่อแช่มต่างก็แคล้วคลาดไม่ถูกอาวุธของพวกอั้งยี่เลย คณะกรรมการเมืองภูเก็ตได้ทำรายงานกราบทูลไปยังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระ กรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้คณะกรรมการเมืองนิมนต์หลวงพ่อแช่ม ให้เดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร มีพระราชประสงค์ทรงปฏิสันฐานกับหลวงพ่อแช่มด้วยพระองค์เอง หลวงพ่อแช่มและคณะเดินทางถึงกรุงเทพฯ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานสมฌศักดิ์หลวงพ่อแช่ม เป็นพระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญานมุนี ให้มีตำแหน่งเป็นสังฆปาโมกข์เมืองภูเก็ต อันเป็นตำแหน่งสูงสุดซึ่งบรรพชิตจักพึงมีในสมัยนั้นในโอกาสเดียวกัน ทรงพระราชทานนามวัดฉลองเป็นวัดไชยาธาราราม

    บารมีหลวงพ่อแช่ม
    จากคำบอกเล่าของคณะผู้ติดตามหลวงพ่อแช่มไปในครั้งนั้นแจ้งว่ามีพระสนมองค์หนึ่งในรัชกาลที่ ๕ ป่วยเป็นอัมพาต หลวงพ่อแช่มได้ทำน้ำพระพุทธมนต์ให้รดตัวรักษา ปรากฏว่าอาการป่วยหายลงโดยเร็ว สามารถลุกนั่งได้ อนึ่ง การเดินทางไปและกลับจากจังหวัดภูเก็ตกับกรุงเทพมหานคร ผ่านวัดๆ หนึ่งในจังหวัดชุมพร หลวงพ่อแช่มและคณะได้เข้าพักระหว่างทาง ณ ศาลาหน้าวัด เจ้าอาวาสวัดนั้น นิมนต์ให้หลวงพ่อแช่มเข้าไปพักในวัด แต่หลวงพ่อเกรงใจและแจ้งว่าตั้งใจจะพักที่ศาลาหน้าวัดแล้วก็ขอพักที่เดิมเถิด เจ้าอาวาสและชาวบ้านในละแวกนั้นบอกว่า การพักที่ศาลาหน้าวัดอันตรายอาจเกิดพวกโจร จะมาลักเอาสิ่งของของหลวงพ่อแช่มและ คณะไปหมด หลวงพ่อแช่มตอบว่าเมื่อมันเอาไปได้ มันก็คงเอามาคืนได้ เจ้าอาวาสวัดและชาวบ้านอ้อนวอน หลวงพ่อแช่มก็คงยืนยันขอพักที่เดิม เล่าว่าตกตอนดึกคืนนั้น โจรป่ารวม ๖ คน เข้ามาล้อมศาลาไว้ ขณะคนอื่นๆ หลับหมดแล้ว คงเหลือแต่หลวงพ่อแช่มองค์เดียว พวกโจรเอื้อมเอาของไม่ถึง หลวงพ่อแช่มก็ช่วยผลักของให้ สิ่งของส่วนมากบรรจุปี๊บใส่สาแหรก พวกโจรพอได้ของก็พากันขนเอาไป รุ่งเช้าเจ้าอาวาสและชาวบ้านมาเยี่ยม ทราบเหตุที่เกิดขึ้นก็พากันไปตามกำนันนายบ้านมาเพื่อจะไปตามพวกโจร หลวงพ่อแช่มก็ห้ามมิให้ตามไป ต่อมาครู่หนึ่ง พวกโจรก็กลับมา แต่การกลับมาคราวนี้หัวหน้าโจรถูกหามกลับมาพร้อมกับสิ่งของซึ่งลักไปด้วย กำนัน นายบ้านก็เข้าคุมตัวหัวหน้าโจรปวดท้องจุดเสียดร้องครางโอดโอย ทราบว่าระหว่างที่ขนของซึ่งพวกตนขโมยไปนั้น คล้ายมีเสียงบอกว่าให้ส่งของกลับไปเสีย มิฉะนั้น จะเกิดอาเพศ พวกโจรไม่เชื่อขนของต่อไปอีก หัวหน้าโจรจึงเกิดมีอาการจุกเสียดขึ้นจนไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ เลยปรึกษากันตกลงขนสิ่งของกลับมาคืน หลวงพ่อแช่มสั่งสอนว่าต่อไปขอให้เลิกเป็นโจรอาการปวดก็หาย กำนันนายบ้านจะจับพวกโจรส่งกรมการเมืองชุมพร แต่หลวงพ่อแช่มได้ขอร้องมิให้จับกุมขอให้ปล่อยตัวไป ไม่เพียงแต่ชนชาวไทยในภูเก็ตเท่านั้นที่มีความเคารพเลื่อมใสในองค์หลวงพ่อแช่ม ชาวจังหวัดใกล้เคียงตลอดจนชาวจังหวัดต่างๆ ในมาเลเซีย เช่น ชาวจังหวัดปีนัง เป็นต้นต่างให้ความคารพนับถือในองค์หลวงพ่อแช่มเป็นอย่างสูง โดยเฉพาะชาวพุทธในจังหวัดปีนัง ยกย่องหลวงพ่อแช่มเป็นเสมือนสังฆปาโมกข์เมืองปีนังด้วย
    ชาวเรือพวกหนึ่งลงเรือพายออกไปหาปลาในทะเลถูกคลื่นและพายุกระหน่ำจนเรือจวนล่มต่างก็บนบานสิ่งศักดิ์ต่างๆ ให้คลื่นลมสงบ แต่คลื่นลมกลับรุนแรงขึ้น ชาวบ้านคนหนึ่งนึกถึงหลวงพ่อแช่มได้ก็บนหลวงพ่อแช่ม ว่าขอให้หลวงพ่อแช่มบันดาลให้คลื่นลมสงบเถิด รอดตายกลับถึงบ้านจะติดทองที่ตัวหลวงพ่อแช่ม คลื่นลมก็สงบ มาถึงบ้านก็นำทองคำเปลวไปหาหลวงพ่อแช่ม เล่าให้หลวงพ่อแช่มทราบและขอปิดทองที่ตัวท่าน หลวงพ่อแช่มบอกว่าท่านยังมีชีวิตอยู่จะปิดทองยังไง ให้ไปปิดทองที่พระพุทธรูป ชาวบ้านกลุ่มนั้นก็บอกว่าถ้าหาก หลวงพ่อไม่ให้ปิดหากแรงบนทำให้เกิดอาเพศอีกจะแก้อย่างไร ในที่สุดหลวงพ่อแช่มก็จำต้องยอมให้ชาวบ้านปิดทองที่ตัวท่านโดยให้ปิดที่แขนและเท้า ชาวบ้านอื่นๆ ก็บนตามอย่างด้วยเป็นอันมาก พอหลวงพ่อแช่มออกจากวัดไปทำธุระในเมือง ชาวบ้านต่างก็นำทองคำเปลวรอคอยปิดที่หน้าแขนของหลวงพ่อแทบทุกบ้านเรือนจนถือเป็นธรรมเนียม

    เมื่อกรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จมาจังหวัดภูเก็ตนิมนต์ให้หลวงพ่อแช่มไปหา ก็ยังทรงเห็นทองคำเปลวปิดอยู่ที่หน้าแข้งของหลวงพ่อแช่ม นับเป็นพระภิกษุองค์แรกของเมืองไทยที่ได้รับการปิดทองแก้บนทั้งๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ แม้แต่ไม้เท้าของหลวงพ่อแช่ม ซึ่งท่านถือประจำกายก็มีความขลัง ประวัติความขลังของไม้เท้ามี ดังนี้ เด็กหญิงรุ่นสาวคนหนึ่งเป็นคนชอบพูดอะไรแผลงๆ ครั้งหนึ่งเด็กหญิงคนนั้นเกิดปวดท้องจุดเสียดอย่างแรง กินยาอะไรก็ไม่ทุเลาจึงบนหลวงพ่อแช่มว่า ขอให้อาการปวดท้องหายเถิดถ้าหายแล้วจะนำทองไปปิดที่ของลับ ของหลวงพ่อแช่ม อาการปวดท้องก็หายไปเด็กหญิงคนนั้นเมื่อหายแล้วก็ไม่สนใจ ถือว่าพูดเล่นสนุกๆ ต่อมา อาการปวดท้องเกิดขึ้นมาอีก พ่อแม่สงสัยจะถูกแรงสินบนจึงปลอบถามเด็ก เด็กก็เล่าให้พ่อแม่ฟัง พ่อแม่จึงนำเด็กไปหาหลวงพ่อแช่มหลวงพ่อแช่มกล่าวว่าลูกมึงบนสัปดนอย่างนี้ใครจะให้ปิดทองอย่างนั้นได้ พ่อแม่เด็กต่างก็อ้อนวอนกลัวลูกจะตายเพราะไม่ได้แก้บน ในที่สุดหลวงพ่อแช่มคิดแก้ไข สถานการณ์เฉพาะหน้าได้โดยเอาไม้เท้านั่งทับสอดเข้าให้เด็กหญิงคนนั้นปิดทองที่ปลายไม้เท้า กลับบ้านอาการปวดท้องจุดเสียดก็หายไป ไม้เท้านั่งทับของหลวงพ่อแช่มอันนี้ยังคงมีอยู่และใช้เป็นไม้สำหรับจี้เด็กๆ ที่เป็นไส้เลื่อน เป็นฝี เป็นปาน อาการเหล่านั้นก็หายไปหรือชงักการลุกลามต่อไป เป็นที่น่าประหลาด

    เมื่อมรณภาพ บรรดาศิษย์ได้ตรวจหาทรัพย์สินของหลวงพ่อแช่มปรากฏว่าหลวงพ่อแช่มมีเงินเหลือเพียง ๕๐ เหรียญเท่านั้น ความทราบถึงบรรดาชาวบ้านปีนังและจังหวัดอื่นในมาเลเซีย ต่างก็นำเงินเอาเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น มีข้าวสาร มีคนมาช่วยเหลือหลายเรือสำเภา งานศพของหลวงพ่อแช่มจัดได้ใหญ่โตมโหฬารที่สุดในจังหวัดภูเก็ต หรืออาจจะกล่าวได้ว่ามโหฬารที่สุดในภาคใต้ แม้ว่าหลวงพ่อแช่มจะมรณภาพเป็นเวลานับกว่าหนึ่งร้อยปีมาแล้วก็ตาม ชื่อเสียงเกียรติคุณและบารมีของท่านก็อยู่ในความทรงจำของผู้คนสืบมาจนกระทั่ง ปัจจุบันนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6846_1a.jpg
      IMG_6846_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      563.2 KB
      เปิดดู:
      439
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  3. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    นอกจากหลวงพ่อแช่มแล้ว ยังมีหลวงพ่อช่วง และหลวงพ่อเกลื้อม ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านมาก ซึ่งท่านทั้งสองมีชื่อเสียงการปรุงสมุนไพรและรักษาโรค ถึงแม้ว่าปัจจุบันท่านจะมรณภาพไปแล้ว แต่ก็ยังมีชาวบ้านที่มีเรื่องทุกข์ร้อน ก็จะไปกราบไหว้ บนบานไม่ขาดสาย ปัจจุบันนี้ได้ ประดิษฐานองค์ท่านทั้งสามที่วิหารมณฑปที่สร้างอย่างสวยงาม ซึ่งในแต่ละวันจะมีผู้คนทั้งชาวไทยและต่างชาติต่างมา กราบไหว้เป็นจำนวนมาก


    [​IMG]

    พระครูครุกิจจานุการ (หลวงพ่อช่วง) ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๑๘ มรณภาพ พ.ศ.๒๔๘๘ ท่านมีความเชียวชาญทางการเชื่อมกระดูกเป็นพิเศษ หลวงพ่อช่วง ชาวบ้านส่วนใหญ่มักให้ฉายาท่านว่า "เป็นหลวงพ่อซึ่งประกอบด้วยพรหมวิหารสี่ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขาท่านมรณะเมื่ออายุ ๗๐ พรรษา

    พระครูกิจจานุการ (หลวงพ่อเกลื้อม) ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๔ มรณภาพ พ.ศ.๒๕๒๑ ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดฉลองได้ ๓๓ ปี ได้บูรณะซ่อมแซม พระอุโบสถมณฑป อนุสาวรีย์หลวงพ่อช่วง หลวงพ่อเกลื้อมได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูครุกิจจานุการเดียวกับหลวงพ่อช่วง เป็นพระครูชั้นเอก หลวงพ่อเกลื้อมมรณภาพด้วยสาเหตุหัวใจวายด้วยความสงบเมื่อ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๒๑

    พระศรีปริยัติสุธี (เฟื่อง รักรอด ป.ธ.๙) อดีตเจ้าอาวาสวัดฉลองเป็นชาวจังหวัดพัทลุง เกิดเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๗๔ ได้รับมอบหมายให้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไชยธาราราม (ฉลอง) ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๑ – ๒๕๒๒ จึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส ปกครองดูแลพระภิกษุสามเณรและทนุบำรุงวัดไชยธาราม สืบมาท่านมีความรู้ด้านภาษาขอม วิชาสถาปัตยกรรมและวิชาการเกี่ยวกับแผนผังแบบแปลนทั่วไปและท่านเจ้าคุณศรีฯ มีความรู้ในวิชาต่อกระดูกอันเป็นกิจกรรมหลักอย่างหนึ่งสำหรับบริการประชาชนของวัดไชยธารารามแต่เดิมมา

    [​IMG]

    การปิดทองรูปหล่อจำลองหลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อช่วง หลวงพ่อเกลื้อม มีความเชื่อกันว่าบารมีของหลวงพ่อแช่มจะช่วยส่งเสริมชีวิตให้มีความเจริญด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ และถ้าปิดทองที่มือของท่านก็จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ทำมาค้าขึ้นจับสิ่งใดก็เป็นเงินเป็นทอง
    คาถาบูชา(ท่องนะโม ๓ จบ) อะหังวันทามิทูระโต อะหังวันทามิทาตุโย อะหังวันทามิสัพพะโส
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  4. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]


    ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สะดุดตามากที่สุดเมื่อเข้ามาในวัดฉลองคือ พระมหาเจดีย์พระจอมไท เป็นเจดีย์ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อไม่นาน ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านหลังของวัด บริเวณชั้นแรกจะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปรางค์ต่างๆ มากมาย และบริเวณด้านข้างผนังจะเป็นภาพวาดพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ตอนประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพาน ที่งดงามมาก เมื่อขึ้นไปด้านบนสุดจะเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ และด้านนอกของเจดีย์ สามารถที่จะชมทิวทัศน์ของบริเวณในวัดทั้งหมดได้อย่างสวยงาม แต่พวกเรามาไม่ทัน พระมหาเจดีย์ปิดไปเสียก่อนจึงอดเข้าไป...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6813_1a.jpg
      IMG_6813_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      473.8 KB
      เปิดดู:
      427
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  5. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6820_1a.jpg
      IMG_6820_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      466.4 KB
      เปิดดู:
      411
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  6. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6821_1a.jpg
      IMG_6821_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      497.2 KB
      เปิดดู:
      404
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  7. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6836_1a.jpg
      IMG_6836_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      479.5 KB
      เปิดดู:
      392
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  8. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ถัดจากพระมหาเจดีย์ขึ้นมา จะเห็นวิหารท่านเจ้าวัด(ที่จริงมาถึงวัดฉลอง เขาให้มาไหว้ท่านเจ้าวัดก่อน) คือพระประธานในวิหารเก่าแก่อันเป็นที่ตั้งของวัดฉลองแต่โบราณ ก่อนย้ายออกมาตั้งอยู่ในที่ปัจจุบัน ซึ่งด้านซ้ายจะมีรูปหล่อของชายชรานั่งถือตะบันหมาก ชาวบ้านเรียกว่า "ตาขี้เหล็ก" ส่วนด้านขวามีรูปหล่อเป็นยักษ์ เรียกว่า "ท้าวนนทรี"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2013
  9. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    หลวงพ่อท่านนอกหรือหลวงพ่อเจ้าวัดหรือท่านเจ้าวัด
    ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถเก่าทางด้านทิศตะวันออก อุโบสถที่สร้างขึ้นใหม่พ่อท่านนอกมีประวัติวัดฉลองแต่เดิมมานั้น ได้สร้างอยู่ทางทิศเหนือของวัดฉลองในปัจจุบันและได้สร้างพระประธานขึ้นไว้องค์หนึ่งทางทิศตะวันออกของบริเวณวัด แล้วสร้างวิหารด้วยวัสดุที่หาได้จากป่าและทุ่งนาแบบง่ายๆ ไม่พิถีพิถันแต่อย่างใด ส่วนอุโบสถสำหรับพระสงฆ์จะปฏิบัติสังฆกรรม ชาวบ้านได้ช่วยกันขุดสระขึ้นสระหนึ่ง กว้างยาวประมาณ ๑๐ วา สี่เหลี่ยมจัตุรัสแล้วสร้างอาคารเป็นอุโบสถขึ้นกลางสระน้ำแห่งนั้น ถือว่าเป็น "อุโบสถน้ำ" ให้สงฆ์ลงไปปฏิบัติสังฆกรรมได้เสมือนหนึ่งอุโบสถทั่วไปที่ได้ผูกพันธสีมาไว้แล้ว (ตามพุทธบัญญัตินั้น สถานที่ที่พระภิกษุสงฆ์จะร่วมปฏิบัติสังฆกรรมได้จะต้องมีอาณาเขต จำกัด เรียกว่า "พัทธสีมา" โดยจะต้องมีหลักฐานสมมติขึ้นเป็น "นิมิต" ที่แน่นอน เช่นมีก้อนหินวางไว้ให้ปรากฏแก่สายตา ผู้คนรู้เห็นว่าเป็นเขตสงฆ์ หรือจะปฏิบัติสังฆกรรมในสถานที่อันล้อมรอบด้วยน้ำเป็นเขตจำเพาะไม่เชื่อมต่อกับแผ่นดินทั่วไปก็ด้วย พระภิกษุสงฆ์สูงพรรษาได้เล่าว่าสระน้ำหรือขุมบังหลวงเคยเป็น "โบสถ์น้ำ" ของวัดฉลองมาแต่สมัยก่อน ครั้นภายหลังได้สร้างโบสถ์ใหม่ผูกพัทธสีมาเสร็จแล้วก็เลิกใช้โบสถ์น้ำ (ในปัจจุบันสระน้ำ) หรือขุมบัวหลวง ที่กล่าวถึงได้รับการถมดินจนกลายเป็นที่ราบคือ บริเวณที่ปลูกสร้างศาลาบริการดอกไม้ธูปเทียนแก่ผู้ไปนมัสการหลวงพ่อ

    แต่เดิมนั้นวิหารหลวงพ่อนอกวัดประกอบด้วยพระพุทธปฏิมากรที่รู้จักว่า "หลวงพ่อนอกวัด" องค์หนึ่งเป็นประธาน แล้วยังมีปูนปั้นอสูรอยู่ ๒ ตน ชาวบ้านเรียกว่า "ท้าวนนทรี" ซึ่งความจริงเป็นรูปปั้นของ "นนทรีอสูร" หมายถึงเทพเจ้าผู้รับใช้พระศิวะ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพวกเทพซึ่งเป็นบริวารพระศิวะมีตำแหน่งเป็นมณเฑียรบาล ชาวบ้านเรียกเพี้ยนเป็น "ท้าวนนทรี" ประมาณปี พ.ศ.๒๔๘๐ มีชาวบ้านคนหนึ่งป่วยสติไม่สมประกอบเข้าไปให้หลวงพ่อพระครูครุกิจจานุการ (ช่วง กิสลัย) ทำการรักษาด้วยการรดน้ำมนต์ ระหว่างที่ทำการรักษาอยู่นั้น ตกกลางคืนพวกญาติของคนไข้และศิษย์วัดก็จัดคนไข้ไว้ในกุฏิหลังหนึ่ง มาอยู่วันหนึ่งคนไข้หลุดออกไปได้ เข้าไปในวิหารหลวงพ่อท่านนอกวัด ใช้ไม้ทุบทำลายภาพปั้นนนทรีอสูรตนที่อยู่ด้านซ้ายมือขององค์หลวงพ่อนอกวัดชำรุดเสียหายไม่อาจซ่อมแซมได้ หลวงพ่อพระครูครุกิจจานุการ(ช่วง กิสลัย) จึงได้นำเอารูปปั้นคนแก่ที่เรียกกันว่า "ตาขี้เหล็ก" มาวางไว้แทนที่จนถึงทุกวันนี้
    ตาขี้เหล็กมีประวัติความเป็นมาในคราวที่ช่วงทำการปั้นพระประธานในอุโบสถ คงเห็นว่าเศษวัสดุเหลือใช้อยู่บางส่วน จึงปั้นคนแก่นั่งชันเข่าตะบันหมากขึ้นไว้เล่นๆ ตามอารมณ์ขันแล้วไม่รู้จะไปตั้งไว้ที่ใด เลยวางไว้ที่ส่วนหน้าพระประธานองค์กลางพอดี ชาวบ้านเข้าไปปิดทองพระพุทธรูปพระประธานแล้ว ก็เลยปิดทองให้ตาขี้เหล็กด้วย ตาขี้เหล็กจึงมีส่วนได้รับอานิสงส์กลายเป็นคนขลัง มีอานุภาพแปลกๆ ซึ่งมักกระเดียดไปทางขี้เล่นขี้หัว เช่น มีคนตั้งสินบนให้ตาขี้เหล็กว่า "ถ้ามีกระบืองานของชาวบ้านที่ล่ามผูกไว้ในนา หลุดจากหลักล่ามเข้าต่อสู้กันแล้วก็จะให้บุหรี่ฝรั่งตาขี้เหล็ก สูบเป็นรางวัล ๒ มวนบ้าง ๓ มวนบ้าง คือ กระบืองานของชาวบ้านมักหลุดออกมาชนกันตามที่บนไว้ จึงมาถึงในปัจจุบันจึงมักมีคน นำบุหรี่มาจุดแล้วนำแหย่เข้าไปในปากที่อ้าอยู่ บุหรี่ก็มีควันโขมง
    หลวงพ่อนอกวัดเป็นพระพุทธปฏิมากรที่สร้างขึ้นในสมัยเจ้าอาวาสวัดฉลององค์แรก ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า " พ่อท่านเฒ่า " ประดิษฐานอยู่ในวิหารดั้งเดิมไม่ได้ย้ายไปไหน เพียงแต่มีการปฏิสังขรณ์ให้แข็งแรงมั่นคงและสวยงามขึ้นตามลำดับ และตามกาลเวลาเท่านั้น
     
  10. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    ท่านเจ้าวัด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6822_1a.jpg
      IMG_6822_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      524.6 KB
      เปิดดู:
      400
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  11. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    ท่านเจ้าวัด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6823_1a.JPG
      IMG_6823_1a.JPG
      ขนาดไฟล์:
      514.2 KB
      เปิดดู:
      456
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  12. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    ท่านเจ้าวัด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6831_1a.jpg
      IMG_6831_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      465.2 KB
      เปิดดู:
      408
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  13. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    ท่านเจ้าวัด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6832_1a.jpg
      IMG_6832_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      503.2 KB
      เปิดดู:
      405
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  14. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    ท้าวนนทรี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6824_1a.jpg
      IMG_6824_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      534.6 KB
      เปิดดู:
      671
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  15. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    ท้าวนนทรี

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6825_1a.jpg
      IMG_6825_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      475.8 KB
      เปิดดู:
      609
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  16. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    ตาขี้เหล็ก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6828_1a.jpg
      IMG_6828_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      503.8 KB
      เปิดดู:
      554
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  17. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    พระวิหาร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6844_1a.jpg
      IMG_6844_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      452.6 KB
      เปิดดู:
      403
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  18. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6851_1a.jpg
      IMG_6851_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      493.2 KB
      เปิดดู:
      371
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  19. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6864_1a.JPG
      IMG_6864_1a.JPG
      ขนาดไฟล์:
      517.5 KB
      เปิดดู:
      407
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  20. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6866_1a.jpg
      IMG_6866_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      541.2 KB
      เปิดดู:
      361
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...