ล.พ.ทวด บัวรอบ ปี41 อ.นอง วัดทรายขาว/พระคำข้าว/พระกริ่งมหาจักรพรรดิ์

สมาชิกใหม่ครับ แต่ติดตามอ่านพลังจิตมาหลายปีครับ

ผมทำบุญบ่อยครั้ง และนิยมสะสมพระมานานหลาย ๆ ปี และรู้สึกว่ามีจำนวนมากเกินไปซะแล้ว ทั้งมีพระที่หวงแหนมากหลาย ๆ องค์ และยังอยากเก็บสะสมอีกหลายองค์ ขอเปิดกรุ นำมาแบ่งให้ชาวพุทธและสมาชิกที่รักการสะสมพระเครื่องและมีความศรัทธาสูงนำไปบูชาครับ ขอรับรองว่าแท้ทุกองค์ครับ บางองค์รับจากหลวงพ่อนั้น ๆ บางองค์รับตรงการวัด บางองค์รับจากบุคคลที่น่าเคารพน่าเชื่อถือครับ ขออนุญาตนำมาโพสเสนอช้า ๆ ก่อนครับ

ประเดิมพระองค์แรก เป็นพระคำข้าว รุ่น 1 ครับ เงินได้ทั้งหมดทำบุญบริจาคเข้าเว็ปไซด์พลังจิตครับ

ส่วนองค์อื่น ๆ นั้น รายได้ส่วนหนึ่งจะเก็บเข้ากองทุนส่วนตัวเพื่อกฐินวัดต่าง ๆ / รายได้อีกส่วนหนึ่งจะเข้ากองทุนส่วนตัวเพื่อบำรุงวัด(ร่วมสร้างพระพุทธรูป-พระอุโบสถ-ศาลาฯ ฯลฯ) ทุกท่านจึงมีส่วนร่วมทำบุญต่าง ๆ ด้วยครับ / รายได้อีกส่วนหนึ่งเข้ากองทุนทำบุญส่วนตัวเพื่อเช่าพระวัดต่างๆ ครับ ฯลฯ

 

พระองค์แรก ที่นำเสนอนี้ เป็นพระที่หวงแหนอีกองค์ครับ ทั้ง ๆ ที่เก็บไว้หลาย ๆ ๆ องค์ก็ตาม เป็นพระชุดแรก ๆ ที่ได้รับจากองค์หลวงพ่อฯ ตอนนำถังสังฆทานถวายท่านที่บ้านซอยสายลม จะมีลูกศิษย์ขนาบซ้ายขวาคอยยื่นพระแจก ขณะที่หลวงพ่อจะให้พรว่า "รวย ๆ นะลูก" "เจริญนะลูก" ฯลฯ บางครั้งได้รับพระคำข้าวบ้าง พระหางหมากบ้าง ล็อกเก็ตบ้าง หมากบ้าง หนังสือบ้าง

พระคำข้าว (คงจะรุ่น 1 ครับ) ทำบุญ 1,600 บาท

องค์แรกที่ประเดิมนี้ เงินทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ขอบริจาคเข้าเว็ปไซด์พลังจิต
ท่านที่บูชาไปก็เสมือนได้ทำบุญสนับสนุนเว็ปไซด์ด้วยครับ รับประกันความแท้ตลอดชีวิต-เพราะไม่เคยเช่าบูชาจากที่อื่นเลยครับ

 

พระกริ่งมหาจักรพรรดิ์ หลวงปู่ดู่ (พระพรหมปัญโญ วัดสะแก)

เนื้อนวโลหะ ธรรมดา (ก้นไม่บุทองคำ)

ผมได้พระกริ่งนี้มาจากอาจารย์ท่านหนึ่งที่น่าเชื่อถืออย่างยิ่ง ท่านเข้ามาประกอบอาชีพในกรุงเทพ แต่พื้นเพเดิมท่านเกิดที่อยุธยา และปัจจุบันก็ยังมีบ้านอยู่อยุธยาด้วย ท่านอาจารย์ท่านนี้เข้าออกวัดสะแกและได้กราบหลวงปู่ดู่ตั้งแต่เด็ก ท่านได้รับพระกริ่งนี้มาจากครอบครัวของคหบดีใหญ่ในอยุธยาเมื่อไม่นานมานี้ โดยได้พระกริ่งนี้มาจำนวนหนึ่งไม่มากนัก

ท่านที่เป็นสายตรงหลวงปู่ดู่ คงทราบประวัติกันดี ไม่ต้องอธิบายมากมาย ผมได้มา 2 องค์ องค์หนึ่งก้นบุทองคำ อีกองค์ก้นธรรมดา คือองค์นี้ครับ

ราคา 9,880 บาท ครับ รับประกันความแท้






ณ วันที่ 6 มี.ค.2554 นี้ ขอระงับรายการนี้ครับ
แล้วจักไปเริ่มต้นเสนอใหม่ในโอกาสต่อไป ขอบคุณครับ

 

พระกริ่งมหาจักรพรรดิ์ นวโลหะ ทั้ง 2 องค์ ที่ผมมีอยู่รวมทั้งพระกริ่งอื่น ๆ อีกสิบกว่าองค์ได้เคยนำไปให้ หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ เสกซ้ำให้ อีกทั้งจารก้นพระกริ่งซ้ำให้ด้วย (ตอนที่ท่านมากรุงเทพ ที่บ้านเพชรเกษม เมื่อ ก.ย. หรือ พ.ย. ปีที่แล้ว) เพื่อเพิ่มศรัทธาแก่ตัวผมเอง ไว้จะค้นหาภาพมาโชว์ซะหน่อย

หลวงตาม้าท่านนี้ ถือเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่ดู่อย่างแท้จริง เจริญรอยตามหลวงปู่ และปฎิบัติตามที่หลวงปู่ดู่เคยสั่งท่านไว้

เดี๋ยวค่อยเสนอพระกริ่งจักรพรรดิ์ นวโลหะ ก้นบุทองคำ และอุดผงจักรพรรดิ์และเส้นเกศา ครับ

 

ติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์ 089-4888211
หรือ pm หรือ email ก็ได้นะครับ

 

พระกริ่งมหาจักรพรรดิ์ นวโลหะ ก้นบุทองคำ (อุดผงจักรพรรดิ์และเกศา)

ของหลวงปู่ดู่ (พระพรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา)

มีรอยจารของหลวงปู่ดู่ ที่องค์พระหลายแห่งและที่ก้นพระกริ่ง
และหลวงตาม้าได้เมตตาจารซ้ำที่ก้นพระกริ่งเพิ่มเติมให้ด้วยครับ

ราคา 19,800 บาท (รวมค่าส่งแล้ว)

รับประกันความแท้




หมายเหตุ : มีผู้หวังดี และศรัทธาในองค์หลวงปู่ดู่ ได้สนทนาในเว็ปบางเว็ปว่า เป็นห่วงจะถูกโจมตีหากเสนอรายการพระกริ่งรุ่นนี้ซึ่งไม่แน่ใจที่มาที่ไปในการสร้างรุ่นนี้ ผมขอเสนอว่า ผมก็เช่าบูชามา2-3 องค์และเอาไว้ใช้ส่วนตัวด้วยความศรัทธา..อีกทั้งเสริมศรัทธาด้วยการนำไปขอเมตตาให้พระอริยะสงฆ์ศิษย์หลวงปู่ดู่จารที่ก้นพระกริ่งและฐานพระกริ่งและเสกซ้ำอีกครั้ง ผมก็สบายใจ ผู้ไม่ศรัทธาก็เป็นสิทธิส่วนตัว ครับ

ณ วันที่6 มี.ค.2554 ขอระงับรายการนี้ก่อนนะครับ
แล้วจะนำไปเสนอในโอกาสต่อไป ขอบคุณครับ
(ป.ล. ส่วนต้ว ผมยังคงศรัทธาและเชื่อในพระกริ่งนี้อยู่ครับ เป็นสิทธิส่วนตัวของผม
และของหลายๆท่านที่เชื่อ ส่วนท่านที่ไม่เชื่อไม่ศรัทธา-ก็เป็นสิทธิของท่าน ขอบคุณครับ)

 

โมทนาสาธุครับทุกท่าน ได้พระดีเยียม..ได้ร่วมบุญหลายรายการ 2ต่อ 3ต่อ ครับ

 

ประวัติหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

ชาติภูมิ

หลวงพ่อดู่ พรหมปัญโญ ท่านเกิดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2447 ตรงกับวันศุกร์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีมะโรง เป็นวันเพ็ญวิสาขปุรณมี ณ บ้านข้าวเม่า ตำบลข้าวเม่า อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โยมบิดาชื่อ พุด โยมมารดาชื่อ พ่วง นามสกุล หนูศรี มีพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน 3 คน ตัวท่านเป็นคนสุดท้อง เมื่อหลวงพ่อถือกำเนิดได้ไม่นาน มารดาของท่านก็เสียชีวิต และเมื่อท่านอายุได้ 4 ปี บิดาของหลวงพ่อก็เสียชีวิตอีก ทำให้หลวงพ่อกำพร้าตั้งแต่วัยเยาว์ ท่านจึงได้อาศัยอยู่กับยาย และ พี่สาวชื่อ สุ่ม เป็นผู้ดูแลเอาใจใส่ เมื่อท่านถึงวัยที่ต้องศึกษา ก็ได้ศึกษาเล่าเรียนที่ วัดกลางคลองสระบัว วัดประดู่ทรงธรรม และวัดนิเวศธรรมประวัติ ตามลำดับ
เมื่อตอนที่ท่านยังเป็นทารกมีเหตุอัศจรรย์ที่ทำให้เชื่อว่าท่านจะต้องเป็น ผู้มีบุญวาสนามาเกิด คือในช่วงหน้าน้ำหลาก คืนหนึ่งขณะที่บิดาและมารดากำลังทำขนมอยู่นั้น มารดาท่านได้วางตัวท่านไว้บนเบาะนอกชานบ้าน แต่ไม่ทราบด้วยเหตุใดตัวท่านได้กลิ้งตกลงไปน้ำ แต่เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่ตัวท่านกลับไม่จมน้ำ กลับลอยน้ำไปติดอยู่ข้างรั้ว กระทั่งสุนัขที่บ้านเลี้ยงไว้ มาเห็นเข้าจึงเห่าและวิ่งกลับไปกลับมา มารดาท่านจึงสงลัยว่าคงจะมีเหตุการณ์ผิดปกติ จึงได้ตามสุนัขออกมาดู ก็พบท่านลอยน้ำอยู่ติดกับข้างรั้ว

นับเป็นผู้มีบุญยิ่ง

 

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ (พระโพธิสัตว์เจ้า)

อุปสมบท

เมื่อท่านอายุได้ 21 ปี ก็ได้บรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมพ.ศ. 2468 ตรงกับวันอาทิตย์แรม 4 ค่ำ เดือน 6
ณ อุโบสถวัดสะแก ตำบลธนูอำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการามเป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อแด่ เจ้าอาวาสวัดสะแก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อฉายวัดกลางคลองสระบัว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับ ฉายาว่า “ พรหมปัญโญ

ศึกษาธรรม

ในพรรษาแรกๆ นั้น หลวงพ่อดู่ ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัด ประดู่ทรงธรรม (ในสมัยนั้นเรียกว่าวัด ประดู่โรงธรรม) โดยศึกษากับ ท่านเจ้าคุณเนื่อง พระครูชม หลวงพ่อรอด (เสือ) เป็นต้น
ในด้านการปฏิบัติ วิปัสสนากรรมฐาน นั้น หลวงพ่อดู่ ได้ ศึกษา กับ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม ผู้เป้นพระอุปัชฌาย์ และ หลวงพ่อเภา ซึ่งเป็นศิษย์องค์สำคัญของหลวงพ่อกลั่น และ มีศักดิ์เป็นอาของท่าน เมื่อท่านบวชได้พรรษาที่ 2 ประมาณปลายปี พ.ศ. 2469 หลวงพ่อกลั่นก็ได้มรณภาพ ท่านจึงได้ศึกษากับหลวงพ่อเภาเป็นหลัก นอกจากนี้ยังได้ศึกษาจากตำราที่มีอยู่ จากชาดกบ้าง ธรรมบทบ้าง และด้วยความที่ท่านเป็นผู้รักการศึกษา ท่านจึงได้เดินทางไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจาก พระอาจารย์อีกหลายท่าน ที่ จังหวัดสุพรรณบุรี สระบุรี ฯลฯ
เมื่อพ.ศ. 2486 ครั้นออกพรรษาแล้ว หลวงพ่อก็ออกเดินธุดงค์ จากวัดสะแก มุ่งหน้า สู่ป่าเขาแถบจังหวัดกาญจนบุรี ในระหว่างทาง ก็แวะนมัสการสถานที่สำคัญต่างๆ ทางพุทธศาสนา



นิมิตธรรม

ในคืนหนึ่ง ในช่วงก่อน ปี พ.ศ.2500 เล็กน้อย หลังจากที่ท่านสวดมนต์ทำวัตรเย็น และเข้าจำวัดแล้วนั้น เกิดนิมิตไปว่าได้ฉันดาว ที่มีแสงสว่างมากเข้าไป 3 ดวง ขณะที่ฉันนั้นรู้สึกว่า กรอบๆ ดี เมื่อฉันหมดก็ตกใจตื่น ท่านจึงได้พิจารณานิมิตที่เกิดขึ้น ก็เกิดความเข้าใจในนิมิตนั้นว่า ดาวสามดวง ก็คือ ดวงแก้วไตรสรณาคมน์ นั้นเอง ท่านจึงท่อง
“ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ” ก็เกิดปิติขึ้นในจิตท่านอย่างท่วมท้น เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และมั่นใจว่า การยึดมั่นพระไตรสรณาคมน์ เป็นวิธี ที่เข้าสู่แก่นแท้ เป็นรากแก้วของพระพุทธศาสนา ท่านจึงกำหนดเอา พระไตรสรณาคมน์ เป็นองค์บริกรรมภาวนา

เมตตาธรรม

หลวงพ่อดู่ท่านให้การต้อนรับแขกอย่างเสมอเท่าเทียมกันหมด ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ ท่านจะพูดห้ามปรามหากมีผู้เสนอตัวเสนอหน้าคอยจัดแจงเกี่ยวกับแขกที่มาหาท่าน เพราะท่านทราบดีว่ามีผู้ใฝ่ธรรมจำนวนมากที่อุตสาห์เดินทางมาไกล เพื่อนมัสการและซักถามข้อธรรมจากท่าน หากมาถึงแล้งยังไม่สามารถเข้าพบได้โดยสะดวก ก็จะทำให้เสียกำลังใจ เป็นเมตตาธรรมอย่างสูงที่หลวงพ่อมีให้ศิษย์ทั้งหลาย และหากมีผู้สนใจการปฏิบัติกรรมฐาน มาหาท่าน ท่านจะเมตตาสนทนา

 

หลวงปู่ทวด

ท่านให้ความเคารพในองค์หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้เป็นอย่างมากทั้งกล่าวยกย่อง ว่าหลวงปู่ทวดท่านเป็นผู้ที่มีบารมีธรรมเต็มเปี่ยมเป็นโพธิสัตว์จะได้มาตรัสรู้ ในอนาคต ให้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ยึดมั่น และระลึกถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อติดขัดในระหว่างการปฏิบัติธรรม หรือประสบปัญหาทางโลก ท่านว่าหลวงปู่ทวดท่านคอยที่จะช่วยเหลือทุกคนอยู่แล้ว แต่ขอให้ทุกคนอย่าท้อถอยหรือละทิ้งการปฏิบัติ

fficeffice" /><O></O>

 

สร้างพระ

หลวงปู่ดู่ท่านมิได้ตั้งตัวเป็นเกจิอาจารย์ การที่ท่านสร้างหรืออนุญาตให้สร้างพระเครื่องหรือพระบูชา ก็เพราะเห็นว่าบุคคลจำนวนมากยังขาดที่ยึดเหนี่ยงทางด้านจิตใจ เพราะศิษย์ หรือ บุคคลนั้นมีทั้งที่ใจใฝ่ธรรมล้วนๆ กับ ยังต้องอิงกับวัตถุมงคล ท่านเคยพูดว่า “ติดวัตถุมงคลยังดีกว่า ที่จะไปให้ติดวัตถุอัปมงคล” แม้ว่าหลวงปู่ดู่ท่านจะรับรองในความศักดิ์สิทธิ์ของพระเครื่องที่ท่านอธิฐาน จิตให้แต่สิ่งที่ท่านยกไว้เหนือกว่านั้นก็คือการปฏิบัติ การภาวนา นี้แหละเป็นสุดยอดแห่งเครื่องรางของขลังบางคนมาหาท่านเพื่อต้องการของดีเช่นเครื่องรางของขลังซึ่งมักจะได้รับคำตอบจากท่านว่า “ ของดีนั้นอยู่ที่ตัวเรา พุทธัง ธัมมัง สังฆังนี่แหละของดี ”

 

หลวงปู่ดู่เล่าถึงการสร้างพระ


หลวงปู่เคยเล่าให้ศิษย์ฟังอยู่เสมอว่าการสร้างพระพุทธรูปนั้น จะมีอานิสงส์มาก แม้จะองค์เล็กเท่าต้นหญ้าคาก็จะมีอานิสงส์ถึง 5 กัป หลวงปู่ยกตัวอย่างเช่น คนที่สร้างหลวงพ่อโสธรหลวงพ่อบ้านแหลม หลวงพ่อไร่ขิง ตอนนี้เขาเหล่านั้นยังเป็นเทพบุตรเทพธิดาและพรหมในชั้นต่าง ๆ เสวยความสุขอย่างไม่มีจบสิ้น เพราะผลบุญที่ได้นี้มันต่อเนื่องเมื่อมีคนไปกราบไปไหว้หลวงพ่อที่หนึ่งสายบุญเหล่านั้นก็จะไหลไปยังเทพบุตรเทพธิดาอย่างต่อเนื่องเหมือนสายน้ำตกแกก็ลองนึกดูเถิดว่าวัน ๆ หนึ่งมีคนไปกราบหลวงพ่อเหล่านั้นมากเพียงไรลูกศิษย์หลวงปู่เป็นส่วนมากจึงชอบสร้างพระเพราะหลวงปู่ไม่ได้กำหนดให้ผู้ใด ผู้หนึ่งผูกขาดในการสร้างของท่านคณะใดกลุ่มใดมีศรัทธาจะสร้างเพื่อเป็นกุศลต่อตนเองและส่วนรวมหลวงปู่ก็จะอนุญาตอยู่เสมอและหลวงปู่จะอนุโมทนาต่อเขาเหล่านั้นเป็นอย่างดี

มีอยู่ครั้งหนึ่งลูกศิษย์นั่งรวมกันอยู่ 10 กว่าคน มีคนหนึ่งพูดว่าพระขาวท่านนั่งตากแดดตากฝนมานานแล้วพวกเขาควรสร้างศาลาครอบพระขาวไว้เพื่อเป็นมหากุศลบ้างก็ว่าจะทอดพระป่าสร้างสิ่งต่าง ๆ มาทำบุญ แต่ในคนเหล่านั้นมีคุณช้าง ราชดำเนินได้กราบหลวงปู่ และได้บอกหลวงปู่ดู่ว่า กระผมจะสร้างพระชุดหนึ่งเพื่อนำเงินมาสร้างศาลาครอบพระขาว หลวงปู่จึงอนุโมทนาบุญด้วยและบอกว่ามีแผ่นชนวนอยู่ตรงนี้ที่ต้นเสาข้าง ๆ หลวงปู่ จำนวน 4,800 แผ่นซึ่งหลวงปู่ปลุกเสกไว้นานหลายปีแล้ว ซึ่งเป็นของป้าสอิ้งที่จะนำไปสร้างพระแตกแต่ยังไม่นำไปสร้างซะที หลวงปู่บอกว่า ตาช้างเอาไปก่อนแล้วค่อยหาแผ่นใหม่มาใช้ให้ยายสอิ้ง ซึ่งยายสอิ้งอยู่ ณ ที่นั้นด้วยยายสอิ้งจึงอนุโมทนากํบคุณช้างด้วยเลย

การสร้างพระกริ่งนี้เป็นพระกริ่งรุ่นแรกของหลวงปู่ ๆ เมตตาเป็นพิเศษให้ฤกษ์เทพระกริ่งด้วยตนเองโดยให้ฤกษ์ว่า เริ่มเทได้ด้วยวันเพ็ญเดือน 12 เวลาย่ำรุ่งตอนพระออกบิณฑบาตร การสร้างพระกริ่งในครั้งนั้น คุณช้าง ราชดำเนินได้ให้ช่างที่มีฝีมือดี แกะพระกริ่งเป็นหน้าเชียงแสนลำตัวอ้วนและแข็งแรงดูแล้วเข้มขลังเป็นอย่างมากสร้างพระชัยอีก 1 องค์หล่อแบบโบราณโดยการเทในวัดรวกสุทธาราม เมื่อหล่อเสร็จสิ้นแล้วจึงนำไปให้หลวงปู่อุดใต้ฐานพระด้วยผงกัมมฐานมหาจักรพรรดิ์ และเกศาของหลวงปู่ปิดกั้นด้วยแผ่นทองแดง หลงงปู่จารย์ที่แผ่นทองแดงใต้พระกริ่งแล้วหลวงปู่เมตตาตั้งชื่อกริ่งนั้นว่า พระกริ่งไตรสรณคมณ์ พระชัยไตรสรณคมน์พระไพรีพินาศไตรสรณคมณ์ ส่วนมากลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดและปฏิบัติได้ดีแล้วผู้ที่เข้าถึงไตรสรณคมณ์ จะชอบพระกริ่งชุดนี้เป็นอย่างมากเพราะเมื่อนำไปใช้แล้วสามารถปฏิบัติได้เป็นอย่างดี บ้างก็ว่าพระกริ่งและพระชัยที่หลวงปู่สร้างนี้อธิษฐานใช้ทำให้เปิดได้ไปทั้ง 3 โลก จะใช้อะไรก็อธิษฐานได้ตามใจชอบแต่ต้องอยู่ในทำนองคลองธรรม มีคนไปถามหลวงปู่ว่า "หลวงปู่ครับพระของหลวงปู่นั้นมีเสื่อมไหม?" หลวงปู่ตอบให้ฟังว่า "หลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่องท่านอธิษฐานพระของท่านให้เสื่อมเมื่อสิ้นพุทธศาสนา แต่พระข้า ขออธิษฐานว่าถ้าละลายกลายเป็นน้ำเมื่อใด เมื่อนั้นหละแก ก็จะหมดพุทธานุภาพ"แม้หลวงปู่จะไม่สรรเสริญให้ลูกศิษย์ติดวัตถุมงคลให้ยึดการปฏิบัตให้ออกจากการพ้นทุกข์แต่หลวงปู่ก็บอกว่าพวกแกติดวัตถุมงคลดีกว่าไปติดวัตถุอัปมงคล

 

รูปหล่อ หลวงพ่อทวด บัวรอบ ปี 41 เนื้อเหลือง
(ปลุกเสกโดย พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว)ออกวัดทรายขาว

กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก และเริ่มมีประสพการณ์

ราคา 16,000 บาท รับประกันแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ หากสามารถยืนยันว่าเก๊ ยินดีคืนเงินเกินกว่าที่บูชาไป 2 เท่า (โดยสามารถยืนยันโดยบุคลลคณะบุคคลที่มีความรู้ความสามารถจริง)(และพระต้องอยู่ในสภาพเดิมไม่แตกหักไม่ล้างผิว)

กล้ารับประกันแท้แน่นอนเพราะจองและรับพระมาจากวัดโดยตรงครับ

เว็ปใกล้เคียงให้บูชากันที่หมื่นหกถึงหมื่นแปดครับ

ได้พระแท้ ได้ร่วมบุญหลายงานบุญด้วยครับ



ณ.วันที่ 8 ก.พ.2553 ขอยกเลิกรายการนี้ ครับ และอาจจะไปตั้งให้บูชาใหม่ภายหลังอันใกล้นี้ ครับ

 

email : somprasong888@gmail.com ครัย

 

รูปหล่อหลวงพ่อทวด บัวรอบ รุ่นแรก อ.นอง ปี 41

วัตถุประสงค์การจัดสร้าง
-ตามที่วัดทรายขาวได้ดำเนินการก่อสร้างมณฑป เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปยืนประทานพร สูง 7.9 เมตร มาบัดนี้มณฑปดังกล่าวได้แล้วเสร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีจากแรงศรัทธาของประชาชน เหลือเพียงการตบแต่งเล็กน้อยเท่านั้น ท่านพระครูธรรมกิจโกศล (นอง ธัมมภูโต) จึงได้ดำเนินการเททองเล่อพระพุทธรูปเป็นปฐมฤกษ์ ที่วัดทรายขาว เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2541 เวลา 14.49 น. ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มาร่วมพิธี และในการนี้ยังได้เททองหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อทวด เหยียบทะเลจืด วัดช้างไห้ พิมพ์บัวรอบ (บางส่วน)โดยใช้พิมพ์เดิมของวัดช้างไห้ โดยการเทหล่อดินไทยโบราณ ตามสมัยก่อนทุกประการ หลวงพ่อทวดพิมพ์บัวรอบนี้ สร้างขึ้นเพื่อมอบสำหรับประชาชนที่ร่วมสมทบทุนสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ สูง 7.9 เมตร

พระทั้งหมดจะปลุกเสกเดี่ยวโดย พระครูธรรมกิจโกศล (อ.นอง ธัมมภูโต) วัดทรายขาว จ.ปัตตานี

และพิเศษคือ ได้บรรจุผงเนื้อว่านหลวงพ่อทวด รุ่นแรก ปี 2497 วัดช้างไห้ ลงไปในองค์พระหลวงทวดที่จัดสร้างครั้งนี้ทุกองค์
ngamtham88 26มี.ค.2553

 

รูปหล่อหลวงพ่อทวด พิมพ์บัวรอบ ปี 41 (หล่อโบราณ)

เนื้อชนวนมวลสาร และพิธีกรรม

ใช้สูตรนวะโลหะชนิดพิเศษกลับดำ ตามตำหรับของวัดสุทัศน์เทพวราราม ประกอบด้วย แผ่นยันต์ ตามตำหรับการสร้างพระกริ่งวัดสุทัศน์ และแผ่นพระยันต์จากพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณ ทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ รวมแผ่นยันต์ทั้งสิ้นกว่า 300 แผ่น โลหะเงินหนักประมาณ 9 กิโลกรัม ทองคำบริสุทธิ์ 49 บาท ทั้งนี้ได้อาราธนาพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม เป็นองค์ประธานพิธีเททองหลอมเนื้อนวะโลหะและหล่อองค์พระหลวงพ่อทวดภายในปริมณฑลพิธี ที่มีพระเกจิอาจารย์นั่งปรกทั้งสี่ทิศ ก่อนทำพิธัก็ได้มีการบวงสรวงอย่างถูกต้อง โดยพราหมณ์ ขจร นาคะเวทิน จากกองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง โดยการประกอบพิธัในครั้งนี้ เน้นทุกขั้นตอนให้ถูกต้องและดีเยี่ยม เพื่อให้พระหลวงพ่อทวดที่จัดสร้างขึ้น ดีทั้งนอกและใน ทั้งนี้พระหลวงพ่อทั้งหมดจะปลุกเสกเดี่ยวโดย พระครูธรรมกิจโกศล (อาจารย์นอง ธัมมภูโต) ที่วัดทรายขาว จ.ปัตตานี

และที่พิเศษ คือ ได้บรรจุผงเนื้อว่านหลวงพ่อทวด รุ่นแรก ปี 2497 วัดช้างไห้ ลงไปในองค์พระหลวงพ่อทวด ที่จัดสร้างครั้งนี้ทุกองค์
ngamtham88 27มี.ค.2553

 

เหรียญหล่อใบโพธิ์ เล็ก สมเด็จพระญาณ ฯ เนื้อเงิน ปี 38
ญสส.82 สร้างโดยแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ฯ

พิเศษ 2,000 บาท

ขนาด ประมาณ เท่าเหรียญ 50 สตางค์ ปัจจุบัน

 

เหรียญหล่อใบโพธิ์เล็ก สมเด็จพระญาณฯสมเด็จพระสังฆราช