วัดลามะ’หย่งเหอกง’รวมพลังศรัทธาชาวพุทธทั่วโลก

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 3 ตุลาคม 2017.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,319
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,274
    ค่าพลัง:
    +9,598
    วัดลามะ’หย่งเหอกง’รวมพลังศรัทธาชาวพุทธทั่วโลก

    e0b8b0e0b8abe0b8a2e0b988e0b887e0b980e0b8abe0b8ade0b881e0b887e0b8a3e0b8a7e0b8a1e0b89ee0b8a5e0b8b1.jpg

    วัดหย่งเหอกง หรือ ที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ “วัดลามะ” เป็นวัดโบราณที่รวมวัฒนธรรมของ 4 ชนชาติของจีน คือชนชาติฮั่น, แมนจู, มองโกล และทิเบต ผสมผสานกันอย่างลงตัวและสมบูรณ์แบบ ถือเป็นแห่งเดียวในประเทศจีน

    ก่อนที่จะมาเป็นวัดที่นี่เคยเป็นวังขององค์ชาย 4 พระนามว่าหย่งเจิ้ง พระราชโอรสในองค์จักรพรรดิคังซี แห่งราชวงศ์ชิง สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1694 ต่อมา เมื่อองค์ชายองค์จึงได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิ หรือฮ่องเต้พระองค์ทรงพระราชทานพื้นที่ส่วนหนึ่งของวันแห่งนี้ให้กับลามะนิกายหมวกเหลือง (เป็นนิกายย่อยนิกายหนึ่งของศาสนาพุทธนิกายธิเบต) เมื่อพระองค์เสด็จสวรรนคตแล้วจักรพรรดิเฉียนหลง ผู้ทรงสืบทอดบัลลังก์ทรงได้พระราชทานพื้นที่ทั้งหมดให้กับศาสนาสถานที่แห่งนี้จึงเปลี่ยนเป็นวัดลามะ อย่างสมบูรณ์ได้แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสักการะและมาชมความงามของสถานที่แห่งประวัติศาสตร์นี้ไม่ต่ำกว่าปีละ 1 ล้านคน

    วัดลามะ มีโบราณวัตถุและโบราณสถานที่ทรงคุณค่าน่าสนใจหลายอย่าง เมื่อเข้ามาถึงด้านในวัด เราต้องซื้อตั๋วเข้าชมคนละ 25 หยวน แล้วต้องเดินผ่านสวนอันร่มรื่นเข้าไปด้านใน พร้อมกับไปรับธูป โดยไม่เสียเงินฟรี พนักงานจะให้ธูปเรามาเป็นกล่อง มีธูปหลายดอก พอผ่านประตูเข้าไปก็ จะเห็นลานกว้าง มีนักท่องเที่ยว กำลังไหว้พระขอพร กัน เราก็จัดการ ไหว้พระ ดูวิธีไหว้ตามเขา ก่อนที่จะเข้าไปไหว้พระขอพรด้านใน ซึ่งมีอยู่หลายชั้น

    “ประตูจาวไถ่”

    เป็นประตูที่ 2 นับจากซุ้มประตูที่จำหน่ายตั๋วต้องเดินจากทางเข้าผ่านแนวต้นแปะก๊วยโบราณ มาประมาณ 100 เมตร จึงจะถึงประตูชาวไทยซึ่งเป็นซุ้มประตูก่อนที่จะเข้าไปในเขตวัดและตำหนักด้านข้างมีแผ่นป้ายขนาดย่อมบอกเล่าประวัติความเป็นมาของวัดลามะและด้านบนเป็นชื่อประตูที่กำกับไว้ด้วยตัวอักษร 4 ชนิดคือภาษาแมนจู ฮั่น มองโกล และธิเบต

    กระถางธูปโบราณที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในปักกิ่งซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังของวิหารจตุโลกบาลคนจีนมีความเชื่อว่าถ้าหากโยนเหรียญเข้าไปในกระถางจะพบกับโชคลาภ

    “ตำหนักเทียนหวัง”

    หรือวิหารจตุโลกบาลเป็นวิหารแรกที่เจอเมื่อผ่านประตูชาวไทยด้านหน้าวิหาร มีรูปปั้นสิงห์สำริดขนาดใหญ่ 2 ตัวยืนเฝ้าประตูด้านซ้ายและขวา และด้านในประดิษฐานองค์พระศรีอริยเมตไตรยในแบบของลามะทิเบต และท้าวจตุโลกบาล เมื่อเดินอ้อมไปทางด้านหลังจะพบกับพระเหว่ยโถ พระผู้คุ้มครองวัดและเป็นผู้อารักขาองค์พระศรีอริยเมตไตรยนั่นเอง

    “วิหารหย่งเหอกง”

    ด้านหน้าของวิหารหย่งเหอ เป็นที่ตั้งของเขาพระสุเมรุสัมฤทธิ์จำลอง ที่เป็นตัวแทนทางความเชื่อของพุทธศาสนาเรื่องนรกโลกมนุษย์และสวรรค์ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์คือองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า (องค์กลาง) พระพุทธเจ้าในอดีต (ด้านขวา) และพระพุทธเจ้าในอนาคต (ด้านซ้าย) และรูปพระอรหันต์ 18 อรหันต์

    “วิหารว่านฝูเก๋อ”

    หรือ หอมหมื่นสุข เป็นวิหารที่ตั้งอยู่ในสุดและเป็นวิหารที่มีความสูงที่สุดด้วยเพราะภายในประดิษฐานพระพุทธรูปพระศรีอริยเมตไตรย ปางยืนที่แกะสลักด้วยไม้จันทร์หอม สีขาวสูง 26 เมตร ฝังอยู่ใต้ดิน 8 เมตร อยู่เหนือพื้นดินอีก 18 เมตร พระพุทธรูปทั้งองค์มีน้ำหนักประมาณ 100 ตัน เป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักจากต้นไม้ต้นเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลกและได้รับการบันทึกไว้ ใน guinness book ด้วยถือเป็นจุดสำคัญจุดที่ 3 ของวัด

    ด้วยความสำคัญทางประวัติศาสตร์และความงดงามอันยิ่งใหญ่ของวัดลามะจึงถือเป็นจุดหมายหลักหลักของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนปักกิ่งจากทั่วสารทิศไม่ว่าจะเป็นชาวจีนฝรั่งรวมถึงชาวไทยซึ่งมักจะมากันเป็นกรุ๊ปทัวร์เพื่อมากราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล

    สำหรับการเดินทาง มาที่ วัดลามะยงฮอร์คองค์ สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน Line 2 ลงที่สถานี Yonghegong ทางออก C จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนน Yonghegong st. ประมาณ 100 เมตร ประตูทางเข้าวัดจะอยู่ซ้ายมือ วัดเปิดเวลา 09.00-16.30 น. ค่าเข้าชมคนละ 25 หยวน

    ————————————————-

    เรียบเรียง โดย น้ำสีฟ้า สุพัฒนา บุญธรรม




    ขอขอบคุณที่มา
    http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=814080
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 ตุลาคม 2017

แชร์หน้านี้

Loading...