///วัตถุมงคล/เครื่องราง...เริ่มหน้า 72..//

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pitiphat, 20 มกราคม 2018.

  1. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่983 หลวงปู่ทวด หลังยันต์นะโภคทรัพย์ หลวงพ่อดำ สำนักสงฆ์บกต้อ รุ่นแรก ปี๒๕๓๘ จ.ระนอง
    บูชา 200 บาท

    IMG_20181222_065546.jpg IMG_20181222_065536.jpg
     
  2. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่984 พระสมเด็จวัดพระยาสุเรนทร์ กทม. ย้อนยุค ผสมผงเก่า
    ***พระสมเด็จบึงพระยาสุเรนทร์ ถือกำเนิดที่ วัดพระยาสุเรนทร์ ตำบลสามวา อำเภอมีนบุรีเดิมวัดนี้ชื่อ "วัดบึงพระยาสุเรนทร์" ด้วยบริเวณใกล้ๆ ที่ตั้งวัดมีบึงขนาดใหญ่แต่ขณะนี้ทางวัดได้ดำเนินการถมบึงดังกล่าวแล้ว จนไม่สามารถทราบว่า ในอดีตเคยมีบึงใหญ่มาก่อน คือ ถมดินจนสูงเสมอ พื้นโดยรอบ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดพระยาสุเรนทร์" โดยตัดคำว่า "บึง " ออกไป แต่อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านละแวกนั้นตลอดจนนักสะสมพระเครื่องทุกระดับชั้น ก็ยังคงเรียกชื่อ "วัดบึงพระยาสุเรนทร์" เหมือนเดิมเพราะคุ้นหู และติดปากมาโดยตลอด

    ประวัติพระยาสุเรนทร์
    ท่านเจ้าพระยาสุเรนทร์ราชเสนา (พึ่ง สิงหเสนี) บุตรของ ท่านพระยามุขมนตรี และเป็นหลานของท่านเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์สิงหเสนี) ต้นตระกูลสิงหเสนี รับราชการทหารในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เมื่อได้รับการแต่งตั้งเป็น"พระยา" ถือศักดินา 4,000 ไร่ จึงออกไปจับจองที่ตามศักดินา ณ อาณาบริเวณอันเป็นที่ตั้งวัดบึงพระยาสุเรนทร์ในขณะนี้ เมื่อจับจองที่ตามศักดินาแล้วท่านได้ปลูกบ้านบริเวณบ้านฉาง ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านใต้ของวัดประมาณ 10 เส้น โดยเว้นช่วงที่ตรงบึงขนาดใหญ่ หรือบึงพระยาสุเรนทร์ จำนวน 48 ไร่ ไว้ ต่อมาท่านได้สร้างวัดขึ้น คือ วัดบึงพระยาสุเรนทร์ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2431 ในชีวิตบั้นปลายของ เจ้าพระยาสุเรนทร์ได้หันเหเข้ามาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานที่วัดบึงพระยาสุเรนทร์ที่ท่านได้สร้างไว้ และอุปถัมภ์เสมอมา โดยถือศีลและบวชเณรด้วย ( เหตุที่ท่านไม่อุปสมบทเป็นพระ เพราะมีโรคประจำตัว คือริดสีดวง คนโบราณเขาถือ)

    ใครสร้าง พระสมเด็จ บึงพระยาสุเรนทร์ ?
    หลังจาก เจ้าพระยาสุเรนทร์ สร้างวัดบึงพระนาสุเรนทร์และได้บรรพชาเป็นสามเณรท่านได้สร้างพระพิมพ์ เพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาตามคตินิยมแต่โบราณแล้วนำส่วนหนึ่งแจกแก่ผู้ต้องการนำไปบูชาติดตัวนอกนั้นบรรจุในองค์พระเจดีย์ข้างบึงพระยาสุเรนทร์และได้ฐานชุกชีพระประธานในพระอุโบสถ
    ท่านอธิการดวง สิงหเสนี เจ้าอาวาสวัดบึงพระยาสุเรนทร์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของ เจ้าพระยาสุเรนทร์ ได้สืบเสาะเกี่ยวกับประวัติการสร้างพระสมเด็จบึงพระยาสุเรนทร์ โดยสอบถามจากโยมบิดา (บุตรชายคนโต ของเจ้าพระยาสุเรนทร์) และผู้เฒ่าผู้แก่ที่ทันยุคทันสมัย นั้น พอสรุปได้ว่า พระยาสุเรนทร์เดิมทีเป็นผู้สนใจวิชาอาคม และได้รับการถ่ายทอดการปลุกเสกน้ำมันมนต์วิเศษของเจ้าพระยาบดินทรเดชา (ปู่) สำหรับออกทัพจับศึกให้ผิวหนังคงทนต่อศาสตราวุธทั้งปวงและก่อนที่ท่านจะบรรพชาเป็นสามเณร ยังสืบหาพระเกจิอาจารย์จอมขมังเวท ขอถ่ายทอดวิชาอาคมแขนงต่าง ๆ รวมทั้งขอผงวิเศษ และว่านศักดิ์สิทธิ์นานาชนิดเก็บรวบรวมรักษาไว้กระทั่งบรรพชาเป็นสามเณรได้ดำริสร้างพระพิมพ์ขึ้นด้วยตนเองโดยดำเนินการด้วยตนเองเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการแกะพิมพ์พระด้วยงาช้าง,ผสมผงกดพิมพ์พระ และการปลุกเสก

    กรุแตก
    พระสมเด็จบึงพระยาสุเรนทร์ แตกกรุเป็นปฐมครั้งแรกเมื่อคราวสงครามอินโดจีน ปี พ.ศ. 2485 ขณะนั้น โยมชุ่ม สิงหเสนี (โยมบิดาของท่านอธิการดวง) และท่านอาจารย์กร่ำเจ้าอาวาสสมัยนั้นได้นำพระที่พบภายในองค์พระเจดีย์มอบให้ จอมพล ป. พิบูลสงคราม แจกแก่ทหารจำนวนสามถุงใหญ่ ประมาณว่าหลายพันองค์
    ต่อมาในปี พ.ศ. 2512 ทางวัดได้ทำการเปิดกรุอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ที่ใต้ฐานชุกชีพพระประธานในพระอุโบสถ และได้นำพระออกจำหน่ายให้ประชาชนผู้เสื่อมใสศรัทธาทำบุญบูชาองค์ละ 500 บาท เพื่อนำปัจจัยสมทบทุนบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะให้รุ่งเรืองวัฒนาสืบไป
    แบบพิมพ์
    พระสมเด็จบึงพระยาสุเรนทร์ที่พบ และเล่นหากันเป็นมาตรฐานสากลยอมรับกันนั้นมีอยู่ 5 พิมพ์ด้วยกัน คือ
    1. พิมพ์สมเด็จฐาน 3 ชั้น
    2. พิมพ์สมเด็จฐานแซม
    3. พิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์
    4. พิมพ์พระเจ้า 5 พระองค์
    5. พิมพ์สมเด็จเล็บมือ หรือบางท่านเรียก"พิมพ์ซุ้มกอ"
    นอกจากทั้ง 5 พิมพ์ดังกล่าวแล้วท่านผู้รู้ (เซียน) บางท่านยังกล่าวว่า มีพิมพ์พิเศษอีกด้วยคือ พิมพ์ห้า เหลี่ยม และพิมพ์ทรงเจดีย์ แต่ยังไม่ค่อยพบเจอเพียงแต่ได้ยินได้ฟังมาอีกทอดหนึ่งดังนั้นไม่ขอ ยืนยันแน่ชัด

    เนื้อพระ
    มีเฉพาะเนื้อผงเพียงเนื้อเดียวเท่านั้นเนื้อละเอียดปานกลาง และแน่นแกร่งพอสมควร สีเขียวอมเทา ซึ่งสีนี้ละม้ายคล้ายคลึงกับ พระสมเด็จปิลันทน์ วัดระฆังและพระกรุวัดท้ายตลาด แต่ไม่ถึงกับเหมือนเลยทีเดียวบางองค์สีเขียวอ่อน บางองค์สีเขียวเข้มไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสภาพที่ผ่านการห้อยบูชาหรือสัมผัสจับต้องมากน้อยเพียงไร เพราะเนื้อพระหากสัมผัสเหงื่อ หรือจับต้องบ่อย ๆ จุดนูน หรือจุดที่ต้องสัมผัส เช่น ซุ้ม , พระพักตร์,ฐาน ฯลฯ เนื้อจะจัดเข้มแลดูมันฉ่ำใสคล้ายเนื้อ "ผงน้ำมัน" ทำให้สีพลอยเข้มจัดไปด้วย
    จุดสังเกตอย่างหนึ่งที่ควรจดจำก็คือ เนื้อพระมักจะลั่นร้าวแตกปริ (ในองค์ที่ยังไม่ผ่านการใช้) แสดงให้เห็นถึงความเก่าแก่อย่างชัดเจนแต่ในองค์ที่ไม่เห็นรอยสั่นร้าวแตกปริอาจเป็นเพราะคราบกรุ และขี้กรุบดบังไว้นอกจากนี้น้ำหนักพระจะมากไม่สมดุล กับขนาดด้วย

    คราบกรุ - ขี้กรุ
    สำหรับ พระที่แตกกรุเมื่อคราวสงครามอินโดจีน คือ พบที่องค์พระเจดีย์ข้างบึงใหญ่ จะมีคราบกรุหรือดินขี้กรุน้อย ถ้ามีก็จับเกาะ ติดแค่ประปราย ไม่มากนัก ผิดกับพระที่ขึ้นจากใต้ฐานชุกชีพพระประธานในพระอุโบสถซึ่งมีคราบกรุขี้กรุขาวนวลจับเกาะทั่วทั้งองค์ แต่คราบนี้จะเกาะเพียงแค่หลวม ๆ ไม่ติดแน่น
    ด้านหลัง
    ส่วนมากเท่าที่พบ จะมีรอยอักขระเหล็กจารอ่านได้ว่า "ติ ติ อุ นิ" อยู่ภายในเส้นยันต์ล้อมรอบ และอาจมีอักขระตัวอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น อุณาโลม เป็นต้น แต่บางองค์ด้านหลังเรียบไม่ปรากฏเหล็กจารก็มีเช่นกัน แต่น้อยมาก และจะด้วยความนิยมกว่า พระสมเด็จบึงพระยาสุเรนทร์มีการปลอมแปลงเลียนแบบมานานหลายสิบปีแล้ว แต่ฝีมือยังไม่วิวัฒนาการก้าวไกลถึงขนาดใกล้เคียงทั้งนี้เพราะความนิยม และราคาเล่นหายังไม่กระเดื้องแต่ต่อไปไม่แน่หากพระกรุนี้สนนราคาขึ้นหลักหลาย ๆ พันบาท หรือองค์หนึ่งเป็นหมื่นบาทละก็ ของเก๊ฝีมือระดับพระกาฬย่อมทะลักออกมาอย่างแน่นอนที่สุด

    พระสมเด็จบึงพระยาสุเรนทร์ มีพุทธคุณโดดเด่นในด้านคงกระพันชาตรีมีชื่อเสียงโด่งดังเกรียวกราวมากในสมัยสงครามอินโดจีน นอกจากนี้ยังเข้มขลังไปด้วย คุณวิเศษ ในด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ มหาโชคลาภด้วยเช่นกัน

    บูชา 200 บาท

    IMG_20181219_225749.jpg IMG_20181219_225740.jpg
     
  3. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่985 เหรียญวัดเขาวง(ถ้ำนารายณ์) รุ่นแรก สระบุรี ปี ๒๕๑๙
    ***เหรียญพิมพ์พระประธาน วัดเขาวง(ถ้ำนารายณ์) จ.สระบุรี ปี ๒๕๑๙ รุ่นแรก เนื้อทองแดงรมดำ พิธีปลุกเสกยิ่งใหญ่จากพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมจำนวนหลายๆ รูป อาทิเช่น หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง,หลวงปู่นาค วัดหนองโปร่ง,หลวงพ่อผัน วัดราษฎร์เจริญ,หลวงพ่อบาง วัดหนองพลับ,หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ,หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง,หลวงพ่อพริ้ง วัดโก่งธนู,หลวงพ่อเเพ วัดพิกุลทอง ฯลฯ

    เหรียญเหรียญวัดเขาวง(ถ้ำนารายณ์) รุ่นแรก สระบุรี ปี ๒๕๑๙ เป็นสายปฏิบัติธรรมหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ประวัติความเป็นมาของวัด ตั้งอยู่ที่วัดเขาวง บ้านเขาวง หมู่ ๕ ตำบลเขาวง อำเภอพระพุทธบาท ห่างจากตัาอำเภอพระพุทธบาท ประมาณ ๓ กิโลเมตร ที่ปากถ้ำมีอักษรมอญโบราณ (ปัลลวะ) ซึ่งเป็นแบบอักษรของชาวอินเดียฝ่ายใต้ ปรากฎมีในภาคกลาง และภาคใต้ของประเทศไทยในสมัยก่อนสุโขทัย จนวิวัฒนาการมาเป็นอักษรขอมและ มอญโบราณ ซึ่งพ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรง นำมาดัดแปลงประดิษฐ์เป็นต้นกำเนิดอักษรไทย จนถึงทุกวันนี้อักษรจารึกถ้ำนารายณ์ มีข้อความ ๓ บรรทัด ถูกจารึกในสมัยพุทธศตวรรษที่ ๑๒ (ยุคทวาราวดี)ในยุคนั้น ชนชาติมอญมีอำนาจรุ่งเรือง อักษรจารึก เขียนเป็นคำบอกร้อยแก้ว กรมศิลปากรแปลไว้ว่า “กัณทราชัย ผู้ตั้งแคว้นอนุราธปุระ ได้มอบให้พ่อลุงสินาธะ เป็นตัวแทนพร้อมกับชาวเมือง (อนุราธปุระ) จัดพิธีร้องรำ เพื่อเฉลิมฉลอง(สิ่ง)ซึ่งประดิษฐานไว้แล้วข้างในนี้” อ้างอิงจาก (เทิม มีเต็ม และจำปา เยื้องเจริญ กองหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร ‘จารึกบนผนังปากถ้ำนารายณ์’ ในวารสารศิลปากร หน้า ๕๓-๕๗ ม.ป.ป.) จารึกนี้บอกให้ทราบว่า ท้องถิ่นแถบนี้มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นเวลานาน และอาจจะเคยเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง มาก่อน ซึ่งคำว่า ‘อนุราธปุระ’ เป็นชื่อเมืองโบราณในประเทศศรีลังกา ซึ่งเป็นเกาะทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย และอาจจะแสดงว่าชาวลังกากับคนท้องถิ่นนี้ (มอญโบราณ) มีการติดต่อสัมพันธ์กัน จึงมีการอ้างชื่อเมือง เพื่อกำหนดให้ระลึกถึงกัน พร้อมทั้งจารึกอักษรไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้เปรียบเทียบศึกษาจาก บันทึกในพงศาวดารหลายฉบับระบุว่า ในสมัยอาณาจักรสุโขทัย และกรุงศรีอยุธยา รัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (พ.ศ.๒๑๖๓-๒๑๗๑) เคยมีปรากฏคณะสงฆ์ไทยเดินทางไปเมืองลังกาเพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาทที่เขาสุมนกูฏ แต่พระภิกษุลังกาได้บอกว่ามีรอยพระพุทธบาท ในประเทศไทยที่เขาสุวรรณบรรพต และเกิดการค้นพบรอยพระพุทธบาทบริเวณเทือกเขานี้ในเวลาต่อมา หรืออาจจะหมายถึงการแลกเปลี่ยน วัฒนธรรมพระพุทธศาสนาลังกาวงศ์และสยามวงศ์ตามที่ปรากฏในพงศาวดารของชาติไทยเราด้วย ก็อาจจะเป็นได้ วัดเขาวง ตั้งอยู่เลขที่ ๖๒/๑ หมู่ที่ ๕ ตำบลเขาวง อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี โดยได้รับอนุญาตสร้างวัดเมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๐ และได้รับอนุญาตให้ตั้งวัดตามลำดับ จนกระทั่งได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๑ มีบริเวณกว้าง ๓๐ เมตร ยาว ๕๑ เมตร เนื้อที่ ๑,๕๐๐ ตารางเมตร ดำเนินการผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๖ สถานที่แห่งนี้เป็นศาสนสถานมาเป็นเวลายาวนาน สืบความไปถึงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงเสด็จจากวังนารายณ์เมืองละโว้(ลพบุรี) ไปว่าราชการที่กรุงศรีอยุธยา ทรงผ่านประทับแรม ณ ถ้ำนารายณ์ ... และสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ซึ่งทรงเสด็จมานมัสการรอยพระพุทธบาท ก็ได้เสด็จประทับพักแรมในถ้านารายณ์ ซึ่งมีอากาศเย็นสบายตลอดปี และจากจารึกอักษรผนังปากถ้ำก็ปรากฏหลักฐานว่า ถ้ำนี้ได้เคยเป็น ที่บำเพ็ญกุศลมาตั้งแต่สมัยอนุราธปุระ เมื่อกว่า ๑,๒๐๐ ปีมาแล้ว ผ่านความรุ่งเรืองและเสื่อมโทรมและฟื้นฟูขึ้นเป็นวัดตามประเพณีการปกครองแผ่นดินและ การสืบพระพุทธศาสนา ดังกล่าวข้างต้น ปัจจุบันนี้ โดยการนำของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) และพระธรรมสิทธินายก (ธงชัย สุขญาโณ) แห่งวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร วัดเขาวง ได้พัฒนาขึ้นมาสู่สภาพวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนของกรมศิลปากรแล้วเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๕ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๙ ตอนพิเศษ ๑๑๙ ง และยังเป็นแหล่งพันธุ์ไม้และสัตว์หาดูยาก คือโมกราชินี (Wrightia SIRIKITIAE D.J. Middleton&Santisuk) จันผา, นกหัวจุก, กระรอกเผือก ฯลฯ เพื่อรักษาไว้เป็นมรดกวัฒนธรรมศาสนาของชาติไทยสืบไป วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดสระบุรี และปฏิบัติกรรมฐานตามสาย พระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) มีหลักเจริญภาวนา มหาสติปัฏฐานสูตร รับผู้เข้าพัก ปฏิบัติธรรมตลอดทั้งปี ตามระเบียบและจารีตของสำนัก
    คุณshaj ปิดครับ

    IMG_20181219_225140.jpg IMG_20181219_225128.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2018
  4. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่986 เหรียญรูปเหมือนเต็มองค์กนกข้าง(รุ่น๒.) ลพ.ทวีศักดิ์ ชุตินธโร วัดศรีนวลธรรมวิมล กทม. พ.ศ.๒๕๒๓
    ในอดีตนั้น หลวงพ่อทวีศักดิ์ (เสือดำ ในอดีต.) เคยเป็นขุนโจร รุ่นเดียวกับ เสือใบ และเสือมเหศวร ที่ต้องออกปล้นเดือนละ ๒ ครั้ง โดยยึดหลักเหมือนกัน คือ ปล้นเฉพาะคนรวย นำทรัพย์สินออกมาช่วยคนจน จึงถูกทางราชการตามล่า โดยเฉพาะขุนพันธรักษ์ราชเดช ก็เคยประมือกันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน จนสุดท้าย จึงตกลงกันว่า เลิกปล้น ก็เลิกปราบ..
    บูชา 200 บาท

    IMG_20181219_225022.jpg IMG_20181219_225031.jpg
     
  5. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,248
    ค่าพลัง:
    +6,460
    ขอจองครับ
     
  6. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองครับ
     
  7. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่987 พระพิมพ์ซุ้มกอเนื้อผง หลวงพ่อโหน่ง วัดอัมพวัน รุ่น ส.ป.อ. สุพรรณบุรี ปี ๒๕๓๔ (ย้อนยุค)
    เป็นพระเนื้อผงพุทธคุณ ผสมผงว่านเกสร ดอกไม้บูชาพระ พิมพ์ซุ้มกอ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพระ หลวงพ่อโหน่ง อินทสุวัณฺโณ วัดอัมพวัน (วัดคลองมะดัน) อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
    ........พระรุ่นนี้จัดเป็นที่ระลึกและหาทุนสร้าง สำนักงานการประถมศึกษา อ.สองพี่น้อง (ส.ป.อ.) ปีพ.ศ.2534
    มีพระคณาจารย์ ร่วมพิธีพุทธาภิเสก
    อาทิ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ เป็นประธาน
    หลวงปู่อินท์ วัดขื่อชนก
    หลวงพ่อแบนวัดดอนกลาง ฯลฯ
    พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย เมตตาโชคลาภเจริญรุ่งเรือง คงกระพันและมหาอุต
    พระซุ้มกอ เนื้อผง รุ่นนี้ แม้จะสร้างไม่ทันในสมัยที่ หลวงพ่อโหน่งยังมีชีวิตอยู่แต่ก็จัดได้ว่า เป็นพระซุ้มกอ ที่น่าบูชาเป็นอย่างมาก เพราะมวลสารดี พิธีดี เจตนาในการสร้างดี มีประสบการณ์ พอสมควร สำหรับผู้ที่ได้บูชาติดตัว

    บูชา 200 บาท

    IMG_20181223_165148.jpg IMG_20181223_165137.jpg
     
  8. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่988 พระเนื้อดิน พิมพ์พุทธโธน้อย หลังกาบหมาก ไม่ทราบที่
    บูชา 200 บาท

    IMG_20181223_165251.jpg IMG_20181223_165242.jpg
     
  9. กันทิมา@บุญ

    กันทิมา@บุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2018
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +401
    จองค่ะ
     
  10. กันทิมา@บุญ

    กันทิมา@บุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2018
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +401
    จองค่ะ
     
  11. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองครับ
     
  12. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองครับ
     
  13. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่989 ตะกรุดหนังเสือ ไม่ทราบที่ เลี่ยมพร้อมใช้
    บูชา 200 บาท

    IMG_20180707_152301.jpg
     
  14. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่990 หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม พระผงพิมพ์ขี่เสือฝังตะกรุด 1 ดอก ปี2534
    พระผงของขวัญ๕เสาร์หลังยันต์แม่ทัพ จัดสร้างปี๒๕๓๔ ที่วัดบางพระโดยมีหลวงพ่อเปิ่นเป็นประธานในการปลุกเสกและจัดสร้าง และกดพิมพ์เป็นปฐมฤกษ์ และมีพระภิกษุและสามเณรภายในวัดตลอดจนลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อเปิ่นช่วยในการจัดสร้างจนครบตามจำนวน พระผงของขวัญ๕เสาร์รุ่นนี้ หลวงพ่อเปิ่นท่านได้ปลุกเสกเดี่ยวทุกวันเสาร์ของเดือน๕ รวมทั้งหมด๕ครั้งด้วยกันคือ ครั้งที่๑ เมื่อวันเสาร์ที่๑๖มีนาคม๒๕๓๔ ตรงกับวันขึ้น๑ค่ำเดือน๕ ครั้งที่๒เมื่อวันเสาร์ที่๒๓มีนาคม ๒๕๓๔ ตรงกับวันขึ้น๘ค่ำเดือน๕ ครั้งมี่๓ เมื่อวันเสาร์ที่๓๐มีนาคม๒๕๓๔ ตรงกับวันขึ้น๑๕ค่ำเดือน๕ ครั้งที่๔เมื่อวันเสาร์ที่๖เมษายน๒๕๓๔ตรงกับวันแรม๗ค่ำเดือน๕ และครั้งที่๕ครั้งสุดท้ายเมื่อวันเสาร์ที่๑๓เมษายน๒๕๓๔ ตรงกับวันแรม๑๔ค่ำเดือน๕ และตะกรุดทองคำแท้ฝังอยู่ในองค์พระด้วยครับ จึงถือได้ว่าเป็นพระที่พิธีการสร้างดีและมวลสารดีรุ่นหนึ่งของหลวงพ่อเปิ่น
    บูชา 200 บาท

    IMG_20180702_204710.jpg IMG_20180702_204654.jpg
     
  15. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,248
    ค่าพลัง:
    +6,460
    จองเป็นรายการแถมครับ
     
  16. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบครับ
     
  17. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่991 ผ้ายันต์มงคลเศรษฐีนวารหคุณมหาลาภ ๑๐๐๐ หลวงพ่อแดง สิริภทโท วัดห้วยฉลองราษฎร์บำรุง อุตรดิตถ์
    หลวงปู่แดง สิริภทฺโท ปี 2555 อายุ 96 ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดห้วยฉลองราษฎร์บำรุง หมู่ที่ 2 บ้านห้วยฉลอง ต.ถ้ำฉลอง อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ อัตโนประวัติ เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2459 ปีมะโรง ที่บ้านนาตารอด ต.หาดงิ้ว อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายพลอยและนางบาง เพ็ชรสวัสดิ์ เป็นบุตรคนที่ 7 ในจำนวนพี่น้อง 7 คน ช่วงอายุได้ 12 ปี บิดามารดาพาไปบวชเณรกับหลวงพ่อฮวบ เจ้าอาวาสวัดสามัคยาราม ต.บ้านด่าน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจน ช่วงที่บวชเณรอยู่นั้น ได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและศึกษาตำราเรียนสมุนไพรจากใบลาน พร้อมทั้งศึกษาคาถาบาลี เลขยันต์จากหลวงพ่อฮวบ เป็นเวลา 4 ปี ก็ได้สึกออกมาช่วยเหลือพ่อแม่ทำงาน กระทั่งอายุครบได้ 20 ปี ก็ได้อุปสมบท มีหลวงพ่อไซร์ ติสฺสโร เจ้าอาวาสวัดช่องลม (วัดหนองเหี้ย) ต.แสนตอ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เป็นพระครูอุปัชฌาย์ จากนั้นได้ศึกษาวิชาไสยเวท วิชาอาคมด้านแคล้วคลาด ผูกดวง ดูดวง พร้อมทั้งเรียนภาษาบาลีและตำรายาสมุนไพรเพิ่มเติมอย่างตั้งใจจนเรียนสำเร็จ และเรียนจนกระทั่งจบนักธรรมตรี บวชเรียนอยู่ได้นานเกือบ 8 ปี สึกออกมาและมีครอบครัวรวมระยะเวลาที่เล่าเรียนอยู่กับหลวงพ่อฮวบและหลวงพ่อไซร์(วัดชองลม)นานถึง 13 ปี เมื่อมีครอบครัวแล้ว ก็ได้นำวิชาที่เล่าเรียนมาประกอบอาชีพเป็นหมอสมุนไพรรักษาโรคทั่วไปและโรคร้ายให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ ที่ใครเป็นแล้วก็ตามมักจะรักษาไม่หาย แต่เมื่อมาถึงหมอแดง โรคร้ายดังกล่าวจะหายไปทันที เพราะเชื่อกันว่าได้นำตัวยาสมุนไพรชนิดหนึ่งมาต้มพร้อมกับเป่ามนต์ไสยเวทไปด้วย ระหว่างที่เป่ามนต์ไสยเวทก็ได้ระลึกนึกถึงพระพุทธชินราช ซึ่งเป็นพระครูบาอาจารย์ใหญ่ประจำมณฑลภาคเหนือ ในระหว่างที่เคี่ยวตัวยาทำให้ได้ยาที่สมบูรณ์แบบ จนได้รับฉายาว่า พ่อเลี้ยงแดง มีชื่อเสียงโด่งดังไปในหมู่บ้านและดังไปไกลทั่วทุกสารทิศในภาคเหนือ อยู่กับครอบครัวจนมีบุตร-ธิดารวมกัน 4 คน ช่วงเวลาเช้าและเย็นมักจะหาเวลาเข้าวัดสม่ำเสมอเพื่อปฏิบัติธรรม ถือศีลภาวนา หรือแม้แต่อยู่ที่บ้านก็หาเวลานั่งสมาธิและปฏิบัติธรรมมิได้ขาด จนคนในหมู่บ้านเลือกให้เป็นมรรคนายกวัด ในช่วงมีพิธีงานบวช งานบุญก็จะเรียกหาใช้ให้เป็นผู้นำทางด้านศาสนพิธี ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ นำสวดมนต์เช้า สวดมนต์เย็น และนำสวดในพิธีต่างๆ ที่สำคัญทางศาสนา กระทั่งอายุได้ 73 ปี บุตร-ธิดา ได้โตจนมีครอบครัวสามารถเลี้ยงหาดูแลตนเองได้แล้ว ไม่น่าเป็นห่วงอะไรอีกต่อไป จึงได้บวชเป็นพระภิกษุอีกครั้ง โดยมี หลวงพ่อฟัก ภูริปัญโญ หรือ พระครูนิกรธรรมรักษ์ เจ้าอาวาสวัดหาดงิ้ว ต.หาดงิ้ว อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เป็นพระครูอุปัชฌาย์ มีพระอาจารย์วิเชียร เจ้าอาวาสวัดเกาะเรไร และ พระอธิการอารมณ์ เจ้าอาวาสวัดช่องลม ต.แสนตอ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เป็นพระคู่สวดกรรมวาจาจารย์-อนุสาวนาจารย์หลังจากที่บวชแล้วก็ได้มาอยู่ที่พักสงฆ์ห้วยฉลอง บ้านห้วยฉลอง หมู่ที่ 2 ต.ถ้ำฉลอง อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ โดยมีญาติโยมร่วมกันสร้างกุฏิมุงหลังคาสังกะสีให้จำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียวพร้อมทั้งสร้างโรงอบยาสมุนไพร เพื่อรักษาโรคด้วยไสยเวทให้ชาวบ้านในหมู่บ้าน ทั้งได้นำวิชาความรู้ด้านอาคมแคล้วคลาด เมตตามหานิยม ผูกดวง ดูดวง ตามที่ได้เล่าเรียน หลวงปู่แดง กล่าวว่าการดำรงตนเป็นพระภิกษุต้องยึดเอาศีล 227 ข้อเป็นที่ยึดเหนี่ยว พร้อมกับหมั่นสวดมนต์ไหว้พระ นั่งภาวนาทำจิตสมาธิให้มั่นและแน่วแน่ นึกถึงครูบาอาจารย์ที่พร่ำสอนมา คติธรรมที่สั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาคือผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้ว ย่อมจะทำให้ชีวิตมีแต่ความก้าวหน้า มั่งมีศรีสุข ครอบครัวมีแต่ความอบอุ่นสำหรับสิ่งที่คนทั่วไปยกย่องเป็นเกจิอาจารย์นั้น หลวงพ่อแดงบอกว่ารู้สึกเฉยๆ ไม่ได้นิยมชมชอบกับสิ่งที่เยินยอออกมา ก็ได้แต่อุเบกขานิ่งเสีย เงินที่ได้มาก็ตั้งใจที่จะทำการสร้างอุโบสถให้สำเร็จลุล่วงเพียงอย่างเดียว ยึดมั่นในหลักคำสอน ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้รับผลที่ไม่ดีตอบแทน กรรมเป็นเครื่องชี้วัดของคนทุกผู้ทุกนาม สำหรับมุมมองเครื่องรางของขลังและวัตถุมงคลต่างๆนั้น หลวงพ่อแดงบอกว่าเครื่องรางของขลังเป็นวัตถุอย่างหนึ่ง ที่สามารถเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของ

    คนให้มีสมาธิ จิตใจไม่ฟุ้งซ่าน เมื่อไม่ฟุ้งซ่านก็เกิดความศรัทธาในสิ่งนั้น ความศรัทธาบวกกับคุณงามความดีที่ได้สร้างสะสมเอาไว้ก็จะก่อให้เกิดพลังอำนาจ และพลังนี้จะเป็นผู้ทำลายสิ่งชั่วร้ายที่จะเกิดกับตน อยู่ที่ว่ามีความเชื่อมากน้อยแค่ไหน ผู้ที่มีวัตถุมงคลหรือเครื่องรางของขลัง จะต้องยึดมั่นถือมั่นทำในสิ่งที่ดี ถือศีล 5 ศีล 8 ผลดีก็จะตอบแทนภายหลัง แต่ถ้าทำชั่วเครื่องรางของขลังต่อให้ดีแค่ไหน ก็ใช่ว่าจะคุ้มครองคนชั่วได้!!

    บูชา 200 บาท

    IMG_20181214_220133.jpg
     
  18. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่992 พระผงพระพุทธชินราช รุ่นปิดทอง 2547 วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร(วัดใหญ่) จังหวัดพิษณุโลก โค๊ต คมชัดลึกตอกข้างองค์
    บูชา 200 บาท
    IMG_20190106_220915.jpg IMG_20190106_220906.jpg IMG_20190106_220853.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2019
  19. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่993 รูปหล่อพระนาคปรก วัดป่าดอนหายโศก หนองหาน อุดรธานี ปี2533 เกจิสายอีสานร่วมปลุกเสก
    พระพุทธรูปและพระเครื่องในลักษณะการที่เรียกว่า “ปางนาคปรก” เป็นชื่อเรียกพระพุทธรูปลักษณะนั่งสมาธิ และมีพญานาคแผ่หัวเป็นพังพานขึ้นจากไหล่ไปปรกพระเศียรของพระพุทธรูป แต่เดิมทำเป็นรูปพญานาคเป็นมนุษย์ มีรูปงู ๗ หัว เป็นพังพานขึ้นจากไหล่ไปปรกพระเศียร (ศีรษะ) ในกิริยาที่พญานาคทำท่านมัสการพระพุทธเจ้า ต่อมาภายหลังทำพญานาคเป็นรูปงูขดตัวเป็นฐานตั้งพระพุทธรูปนั่งสมาธิบนตัวพญานาคและมีพังพานและหัวของพญานาค ๗ เศียร ปรกอยู่

    พระพุทธจริยาที่เสด็จประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขภายในวงขนดของพญานาคมุจลินท์นาคราชที่ขดแวดล้อมพระกายอยู่นี้ เป็นเหตุให้สร้างพระพุทธรูปปางนี้ขึ้นมา เรียกว่า ปางนาคปรก

    เรื่องพระปางนาคปรกนี้ นิยมสร้างเป็นพระนั่งบนขนดตัวพญานาคเหมือนเอานาคเป็นบัลลังก์ดูสง่า องอาจเป็นพระเกียรติอำนาจของพระองค์อย่างหนึ่ง ได้ลักษณะเป็นอย่างพระเจ้าของพราหมณ์ ถ้าจะรักษาลักษณะของพระพุทธรูปตามประวัติ ก็จะเป็นไปอีกในลักษณะหนึ่งคือ พระพุทธรูปจะมีพญานาคพันรอบพระวรกายด้วยขนดตัวพญานาคถึง ๔-๕ ชิ้น จนบังพระวรกายมิดชิด เพื่อป้องกันฝนและลม จะเห็นได้ก็เพียงพระเศียร พระศอ และพระอังสาเป็นอย่างมาก ทั้งเบื้องบนก็มีหัวพญานาคแผ่พังพานปกคลุมอีกด้วย

    คติความเชื่อเรื่อง “พญานาคกับศาสนา” ปรากฏทั้งในศาสนาพราหมณ์และพุทธศาสนา สำหรับศาสนาพราหมณ์ “นาค” มีความสำคัญหลายประการ ตัวอย่างเช่น เป็นบัลลังก์ขององค์พระวิษณุในไวกูณฑ์ ที่เรียกว่า “วิษณุอนันตศายินปัทมะนาภะ” หรือ “นารายณ์บรรทมสินธุ์” หรือใน “ครุฑปุราณะ” เรื่องพญานาควาสุกรีที่พันรอบเขา มิลินทระในคราวกวนเกษียรสมุทรเพื่อทำน้ำอมฤต การเป็นเทพพาหนะของพระวรุณ หรือพระพิรุณ ซึ่งทำหน้าที่ให้ฝน การเป็นสัตว์สำคัญที่เฝ้ามหานทีสีทันดรล้อมรอบเขาพระสุเมรุ ตลอดจนการกล่าวถึงนาคในปุราณะต่างๆ

    นอกจากเรื่องราวของ “นาค” ยังสัมพันธ์กับพงศาวดารเขมร ซึ่งกล่าวถึงนาคว่าเป็นต้นบรรพบุรุษของขอมโบราณ และมักมาปรากฏช่วยสร้างเมืองอยู่เสมอ จนเมื่อชาวขอมจะสร้างศาสนาสถานต่างๆ ก็มักจะจำลองรูปพญานาคไว้ บ้างก็ถือว่านาคเป็นตัวแทนของสะพานสายรุ้งที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับสวรรค์ด้วย

    ส่วนพุทธศาสนา เป็นที่ทราบกันว่ามีความนิยมสร้างพระพุทธรูปปางนาคปรก อันเกี่ยวเนื่องกับพญานาคที่ชื่อ “มุจลินท์” ซึ่งมาแผ่พังพานปกป้องพระพุทธองค์ และกลายเป็นพระประจำวันเสาร์ นอกเหนือไปจากเรื่องพญานาคเลื่อมใสในพุทธศาสนาถึงขนาดปลอมตนมาขอบวชจนเรียกว่า “บวชนาค” มาจนถึงปัจจุบันนี้

    นอกจากนี้ หากพิจารณาอาคารสถาปัตยกรรมจะพบเห็นเค้าเงื่อนที่พญานาคทำหน้าที่ปกป้องดูแลพระศาสนาอย่างเอาจริงเอาจัง เช่น การทำช่อฟ้า รวยระกา ใบระกา และหางหงส์ เป็นรูปพญานาค หรือการทำคันทวยเป็นรูปนาค เรียกกันว่า “นาคทัณฑ์” ล้อมรอบอุโบสถ วิหารไว้

    บูชา 200 บาท
    IMG_20190106_220953.jpg IMG_20190106_220942.jpg
     
  20. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่994 ตะกรุดสาริกา นะเมตตา มหาโชคลาภ หลวงพ่อตึ๋ง วัดหลวงพ่อปากแดง พร้อมใช้เลี่ยมเดิม ขนาด 1.5 นิ้ว
    บูชา 250 บาท

    IMG_20190106_220647.jpg IMG_20190106_220638.jpg IMG_20190106_220629.jpg IMG_20190106_220614.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...