*วัตถุมงคล เริ่มหน้า66*พระกรุ,ลป.สรวง เทวดาเล่นดิน,ลพ.ฤาษี,ลพ.หวล และอื่นๆ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pitiphat, 25 มีนาคม 2018.

  1. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่265 สมเด็จหินพระธาตุ เขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์
    ตามคำบอกเล่าจากชาวบ้านที่เชื่อต่อๆ กันมาว่า
    เคยมีคนนำหินลักษณะนี้ไปถามหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ว่าเป็นอะไรกันแน่
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำพอเห็นก็ยกมือไหว้ท่วมหัวแล้วบอกว่าเป็นพระธาตุปัจเจกพระพุทธเจ้า


    มีคนนำหินพระธาตุเป็นพระสมเด็จ แล้วนำไปให้ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ปลุกเสกปรากฏการณ์ว่าเมื่อถึงพิธีปลุกเสก หลังจากนั่งปรกแล้วถึงขั้นตอนที่ท่านจะประพรมน้ำพระพุทธมนต์ลงบนพระเครื่อง โดนพระเครื่องที่แกะจากหินพระธาตุแพ็กไว้ในลังไม่มีใครอื่นรู้ เมื่อหลวงพ่อคูณมาถึงลังพระสมเด็จหินพระธาตุ ก็ชะงัก ไม่ประพรมน้ำมนต์เหมือนลังอื่นๆ ที่ผ่านมา ญาติโยมจึงถามว่า ทำไมท่านถึงไม่พรมลังนี้ ท่านบอกว่า บารมีท่านไม่ถึง

    พระที่แกะจากหินนี้พุทธคุณสูงในตัว ไม่จำเป็นต้องปลุกเสกนับว่าเป็นของกายสิทธิ์ดีอยู่แล้ว พระชุดเดียวกันนี้ได้นำเอาไปให้ หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปลุกเสกอีกครั้ง แต่ก็ได้รับคำยืนยันแบบเดียวกับหลวงพ่อคูณ

    ต่อมามีคนนำไปให้เถระทางภาคเหนือช่วยอธิฐานจิตปลุกเสก เช่น ครูบาชัยวงศาพัฒนา
    วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม และครูบาผัด วัดศรีดอนมูล เชียงใหม่
    แต่ท่านเหล่านั้นบอกว่าไม่ต้องนำมาปลุกเสกหรอกเพาระเป็นของที่สูงส่งมาก
    มีบางคนนำไปให้คนทรงดู คนทรงบอกว่าอย่านำเข้ามาเพราะแสบตา โดยแลเห็นเป็นแสงสว่างเจิดจ้า
    ซึ่งครูบาหลายท่านต่างก็ยืนยันตรงกันว่าเป็นพระธาตุที่มีพลังมาก
    และในหนังสือมาตาบูชา ปิยารำลึกของคุณหญิงสุรีพันธุ์ ก็ได้กล่าวไว้เช่นเดียวกัน
    แม้แต่ หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ก็เคยบอกว่าเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องปลุกเสก
    ส่วนครูบาชัยวงศ์ท่านก็ได้รวบรวมหินพระธาตุจำนวนหนึ่งตั้งไว้ให้คนสักการะบูชาที่วัดของท่าน

    แม้แต่คนไต้หวันก็ศรัทธาในหินพระธาตุชนิดนี้มีการจ้างช่างในระเวกสามร้อยยอดแกะเป็นรูปเจ้าแม่กวนอิม
    นำไปสักกการะบูชาในประเทศของตน ต่อมาทางอุทยานฯเกรงว่าชาวบ้านจะนำหินลงมาจากภูเขาจนหมด
    จึงมีการประกาศห้ามนำหินชนิดนี้ลงจากเขาอีกเป็นอันขาด
    ซึ่งปัจจุบันค่านิยมในพระเครื่องที่แกะจากหินพระธาตุนี้ค่อนข้างสูงเพราะมีประสบการณ์ป้องกันภัยดีมาก

    เป็นศิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว

    อำนาจของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดนั้นมีมากมายเหลือคณานับ

    แต่หากจะทำการสรุปอานุภาพแห่งหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดแล้วสามารถสรุปได้ ๙ ประการด้วยกัน คือ

    >>๑. ดีทางร่มเย็นเป็นสุข บังเกิดความเย็นใจแก่ผู้ที่เป็นเจ้าของหากใครได้สัมผัสหินเสมอๆ จะทำให้สงบในใจแก่ผู้นั้น

    >>๒. ช่วยในการเจริญสมาธิภาวนา เรียกว่าเจริญในธรรม

    >>๓. เป็นเมตตามหานิยม ทำให้ผู้ที่พบเห็นเราเกิดความรักใคร่อยากช่วยเหลือแต่ไม่เด่นทางเสน่หา หรือเรื่องทางชู้สาว

    >>๔. ดีทางคุ้มครอง เป็นแคล้วคลาด คือผู้ที่พกพาหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดจะแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ สามารถรอดตัวโดยไม่ต้องเผชิญกับสถานการณ์เลย และยังดีทางคงกระพัน คือแม้ว่าต้องผจญด้วยเหตุการณ์อันไม่อาจหลบเลี่ยงได้แล้วก็เป็นคงกระพันรอด ตัวมาได้เสมอ

    >>๕. ดีทางโชคลาภ หินพระธาตุเขาสามาร้อยยอด เป็นสื่อนำสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต เรียกว่า ในหินพระธาตุนั้น มีกายสิทธิ์ภาคผู้เลี้ยงรักษาอยู่ภายในผู้ที่หมั่นนำเอาหินนี้มาสวดมนต์ ภาวนา นำมาพกติดตัวเสมอๆมักได้โชคได้ลาภไมขาดเลย

    >>๖. ดีทางสมบูรณ์ด้วยสุขภาพพลานามัย เนื่องจากหินพระธาตุนี้เป็นสิ่งที่สะสมปราณ ฟ้าดิน พระอาทิตย์ พระจันทร์ ขุนเขา ทะเล มานานนับร้อยนับพันปี จึงทำให้มีพลังชีวิตแห่งจักรวาลอยู่ในตัวอย่างสูงส่ง ผู้ที่พกหินนี้หรือมีหินพระธาตุอยู่ใกล้ๆตัวย่อมเป็นผู้ได้รับกระแสพลังปราณ อันลี้ลับ พลอยทำให้สุขภาพสมบูรณ์ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บมีอายุยืนนาน

    >>๗. ดีทางเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานประสบความสำเร็จในชีวิต หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด จะมีลักษณะเด่นคือ เมื่อนำหินมาเจียรแล้วจะมีลักษณะคล้ายพระอาทิตย์หรือพระจันทร์ทรงกลด อันเป็นมงคลลักษณะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของลายหิน โดยลักษณะดังกล่าว เป็นลักษณะแห่งพลังธรรมชาติที่นำพาความรุ่งเรืองความสำเร็จมาสู่ผู้บูชาดัง นั้นพลังลี้ลับศักดิ์สิทธิ์จากหินเขาสามร้อยยอดจึงเป็นแรงผลักดันอย่างลี้ ลับในการนำพาชีวิตของผู้นั้นไปสู่ความเจริญในหน้าที่การงานและความสำเร็จใน ชีวิต

    >>๘. หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด เป็นหินแห่งญาณทัศนะ ข้อดีในความหมายนี้คือ ผู้ที่พกพาหินพระธาตุเป็นประจำ จะบังเกิดญาณหยั่งรู้ที่พิเศษกว่าปุถุชน สามารถรู้เหตุดีร้อยล่วงหน้า เนื่องจากกระแสญาณบารมีจากเทพเซียนที่รักษาหินนั้นจะคอยสอดญาณหยั่งรู้หรือ บันดาลเทพสังหรณ์ให้แก่ผู้นั้น นับเป็นคุณวิเศษอันลี้ลับของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด

    >>๙. ค้ำคูณดวงชะตาไม่ให้ตกต่ำ คนที่รู้ว่าดวงชะตาตนเองไม่ดีหรือชงกับปีนั้นๆหากได้หินพระธาตุเขาสามร้อย ยอดมาบูชา อำนาจจากอริยะธาตุแห่งหินเขาสามร้อยยอดจะทำการเกื้อหนุนดวงชะตาของท่านไม่ ให้ตกต่ำลงไป ผ่อนหนักเป็นเบาสามารถรอดพ้นจากอำนาจ จากดวงดาวหรือผ่อนปรนภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นกับตัวท่านได้

    ข้อควรปฏิบัติ
    >๑. เชื่อมั่นในพุทธคุณของหินพระธาตุ อย่าคิดลองของ

    >๒. ไม่ทุบหรือทำลายหินพระธาตุ แต่แกะสลักเพื่อความสวยงามได้

    >๓. ปฏิบัติตัวอยู่ในศีลในธรรม


    คุณ กันทิมา@บุญ ปิดครับ

    IMG_20180518_215258.jpg
    IMG_20180518_215247.jpg
    IMG_20180518_215233.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2018
  2. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่266 สมเด็จวัดโพธิ์เกียบ พิมพ์6ชั้น
    พระสมเด็จกรุวัดโพธิ์เกรียบแตกกรุมาเมื่อปี2490 ที่วัดโพธิ์เกรียบ จากประวัติพระสมเด็จนี้ ได้รับมวลสารจากท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตมาปลุกเสก และมีการนำพระสมเด็จวัดเกศไชโยมาร่วมบรรจุกรุด้วย นักนิยมเลยเรียกว่าสมเด็จเกศไชโย กรุวัดโพธิ์เกรียบ จ.อ่างทอง เนื้อหามวลสารของพระสมเด็จวัดโพธิ์เกรียบจะหนึกนุ่ม นวลตา ไม่แข็งกระด่าง เชื่อถือในด้านพุทธคุณ เฉกเช่นเดียวกับ สมเด็จวัดเกศไชโย ไม่ต่างกันหรอกครับ ถ้าท่านนับถือสมเด็จโต สักวันคงมีบุญ มีวาสนาได้ครอบครอง สมเด็จวัดระฆัง บางขุนพรหม และวัดเกศไชโย

    ประวัติ พระสมเด็จ วัดโพธิ์เกรียบ พระที่เปรียบเสมือนคู่แฝดของ เกษไชโย
    นอกจาก พระสมเด็จเกษไชโย ที่เคยเอ่ยถึงไปก่อนหน้านี้ ยังมีพระที่เปรียบเสมือนคู่แฝดอยู่อีกชุดหนึ่งซึ่งเห็นว่า น่าจะนำมาบอกกล่าวให้ทราบกันเสียด้วยเลยเป็นไร เพราะไม่เพียงน่าสนใจตรงที่พระชุดนี้ล้วนมีรูปลักษณะ เป็นพระ กรอบกระจก อกร่อง หูบายศรี เท่านั้น แต่ยังเชื่อกันอย่างกว้างขวางมาโดยตลอดอีกว่า มีที่มาหรือจัดสร้างจากแหล่งเดียวกัน เพราะฉะนั้นจึงได้รับความนิยมชนิดเป็นที่ 2 รองไปจาก เกษไชโย ก็ว่าได้ แม้ชื่อที่รู้จักกันโดยทั่วไปจะฟังดูไม่ค่อยขลัง หรือชวนเลื่อมใสศรัทธา เพราะเรียกกันว่า พระสมเด็จ วัดโพธิ์เกรียบ ตามชื่อวัดที่นำพระชุดนี้มาแจกจ่ายให้ชาวบ้าน แต่กระนั้นกลับดูเหมือนจะไม่มีใครติดใจในเรื่องนี้ สังเกตได้จากกรณีที่ในปัจจุบันมีการเช่าหากัน ในราคาสูงกว่าเมื่อก่อนนับเป็นสิบเป็นร้อยเท่า
    แต่ก่อนที่จะกล่าวรายละเอียดเกี่ยวกับพระชุดนี้ เรื่องที่เห็นควรแนะนำลำดับแรกก็คือประวัติของวัด (และอดีตเจ้าอาวาสที่เกี่ยวข้องกับ พระสมเด็จ ที่ว่า) เพราะน่าจะช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ให้แก่ผู้อ่านอย่างค่อนข้างดี สำหรับประวัติของวัดนี้มีหลักฐานว่า สร้างในราว พ.ศ.2435 (สมัยรัชกาลที่ 1) แต่เพิ่งได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ.2400 (สมัยรัชกาลที่ 4) โดยมีชื่อเรียกตามชื่อหมู่บ้านมาตั้งแต่แรกว่า วัดโพธิ์เกรียบ

    วัดนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อย (ซึ่งไหลแยกตัวจากแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งขวา ที่ อ.เมืองชัยนาท ผ่าน อ.สรรคบุรี จังหวัดเดียวกัน จากนั้นเข้าสู่ อ.บางระจัน อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ผ่าน อ.โพธิ์ทอง อ.วิเศษชัยชาญ อ่างทอง แล้วไปบรรจบกับแม่น้ำสายเดิมที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา) ขึ้นกับการปกครองท้องที่หมู่ที่ 6 ต.สามง่าม อ.โพธิ์ทอง อ่างทอง ส่วนกรณีของผู้สร้างนั้นไม่ปรากฏหลักฐานแต่อย่างใด

    คงจับเค้าจับเงื่อนได้เพียงแค่เรื่องเจ้าอาวาสว่า ก่อนหน้าจะถึง พระครูโพธิสารสุนทร (รอด จนฺทสโร) ซึ่งนำ พระสมเด็จเกษชโย (รุ่นเก่า) มาแจกจ่ายในละแวกนี้ มีที่จำชื่อกันได้อยู่ 2 องค์ คือ หลวงพ่อเรือง และ หลวงพ่อแย้ม (ไม่ทราบนามฉายา) หลังจากที่ พระครูโพธิสารฯ ลาสิกขา องค์ที่ครองวัดสืบต่อมาได้แก่ พระครูจันทรโพธิคุณ (หยวก เกสโร) ผู้สร้าง พระสมเด็จวัดโพธิ์เกรียบ ครั้นท่านองค์นี้มรณภาพผู้ที่ได้รับแต่งตั้งตามลำดับก็คือ พระปลัดไพโรจน์ ปวฑฺฒโน พระครูใบฎีกาบุญมี วีรธมฺโม พระอธิการสวิง อนาวิโร และ พระสมุห์อำนวย สุคนฺโธ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน

    ในบรรดาท่านทั้งหลายเหล่านี้ เห็นควรที่จะกล่าวถึงประวัติเพียงแค่ 2 องค์เท่านั้น อันได้แก่ พระครูโพธิสารสุนทร หรือ พระครูรอด และ พระครูจันทรโพธิคุณ หรือ หลวงพ่อหยวก เพราะเกี่ยวข้องกับ พระสมเด็จ ที่ว่าทั้ง 2 องค์ โดยในเบื้องต้นขอกล่าวประวัติของ พระครูรอด ก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นจึงค่อยต่อด้วยเรื่อง หลวงพ่อหยวก

    สำหรับ พระครูรอด นั้น ไม่พบหลักฐานว่าเกิดปี พ.ศ.ไหน บิดา-มารดาชื่ออะไร และอุปสมบทที่ไหนเมื่อใด ใครเป็นพระคู่สวดอุปัชฌาย์ คงทราบเพียงว่าพื้นเพเดิมเป็นชาวลพบุรี (น่าจะมีนิวาสสถานอยู่ละแวกวัดตองปุ) เป็น พระสมุห์ ฐานานุกรมของ พระครูสุภารวินิต (เงิน) อดีตเจ้าคณะแขวง (อำเภอ) โพธิ์ทอง แต่ไม่แน่ว่าได้เป็นที่นั้นอยู่ก่อนหน้าหรือ หลังจากที่ย้ายมาอยู่ วัดโพธิ์เกรียบ แล้ว ครั้น พระครูสุภารวินิต (เล็ก) วัดเกาะ (ซึ่งเป็นเจ้าคณะแขวงสืบต่อจาก หลวงพ่อเงิน) มรณภาพ ก็ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวสืบต่อมา สมณศักดิ์สุดท้ายได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นที่ พระครูโพธิสารสุนทร

    แม้ประวัติจะค่อนข้างคลุมเครืออยู่มาก แต่จากการสัมภาษณ์พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ ทำให้มีข้อมูลพอจะอนุมานได้ข้อหนึ่งว่า น่าจะเกิดในราว พ.ศ.2420 หรือก่อนหลังไม่มาก โดยจับเค้าเอาจากคำบอกเล่าถึงพระเกจิอาจารย์ร่วมยุคสมัย โดยในบรรดาท่านเหล่านี้มี พระมหาพุทธพิมพาภิบาล (วร)? วัดไชโย อยู่ด้วยองค์หนึ่งซึ่งผู้เล่าระบุว่า น่าจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน หรือหากจะแก่อ่อนกว่าก็คงไม่เกิน 2-3 ปี และตอนที่ พระครูรอด ลาสิกขาน่าจะอายุประมาณ 63 หรือ 64 เป็นอย่างมาก และหากไล่เรียงไปถึงปีที่วายชนม์ หลายคนคาดเดาตรงกันว่าน่าจะก่อน 80 ราว 2-3 ปี

    สรุปเอาเป็นว่า หลังจากที่ หลวงพ่อรอด ลาสิกขาในราว พ.ศ.2483 ตามความตั้งใจ หลวงพ่อหยวก ได้รับมอบหมายให้ปกครอง วัดโพธิ์เกรียบ สืบต่อมา โดยก่อนหน้าที่จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอโพธิ์ทอง (เมื่อ พ.ศ.2508) นั้น ท่านได้รับหน้าที่เป็น เผยแผ่อำเภอ

    อย่างไรก็ดี ในที่เกี่ยวกับสมณศักดิ์นั้นถือได้ว่า มีความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นเป็นลำดับ โดยท้ายสุดได้รับการ เลื่อนขึ้นเป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ (ในนามเดิม) เมื่อ พ.ศ.2518 ซึ่งทั้งนี้คงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากความเอาใจใส่ในการปฏิบัติหน้าที่ทั้งในส่วนของเจ้าอาวาส และเจ้าคณะอำเภอ จนเป็นที่ประจักษ์ของพระสังฆาธิการชั้นเหนือขึ้นไป แต่เหตุที่ได้รับสมณศักดิ์ชั้นสูงสุดเพียงแค่นี้ก็เพราะว่า เมื่อล่วงมาถึงบั้นปลายชีวิต ของท่านเกิดอาการเจ็บป่วยกระเสาะกระแสะและทรุดหนักลงเรื่อยๆ กระทั่งถึงกาลมรณภาพ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2520 สิริอายุได้ 72 ปี มีพรรษา 52 นับแต่อุปสมบท
    นอกจากผลงานด้านต่างๆ ที่ยังปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน สิ่งหนึ่งที่ท่านได้ฝากเอาไว้เป็นอนุสรณ์ก็คือ พระสมเด็จวัดโพธิ์เกรียบ ซึ่งกล่าวได้ว่าน่าจะถือเป็น รุ่น 2 และ 3 หรือหากจะเรียกตาม พระสมเด็จเกษไชโย รุ่น (สร้าง) เขื่อน ก็คงต้องเรียกว่า พระสมเด็จวัดโพธิ์เกรียบ รุ่น (สร้าง) ศาลา (การเปรียญ) และ พระสมเด็จวัดโพธิ์เกรียบ รุ่น (สร้าง) โบสถ์ เพราะพระ (ทั้ง 2) รุ่นนี้ก็มีการนำผงเก่ามาผสมสร้างใหม่เช่นเดียวกัน โดยถือว่าพระรุ่นเก่าที่ อาจารย์รอด นำมาจากวัดไชโยนั้น เป็น พระสมเด็จวัดโพธิ์เกรียบ รุ่นแรก

    อย่างไรก็ดี เท่าที่ได้ยินได้ฟังมานั้น ผู้ชำนาญบางท่านระบุว่า พระสมเด็จวัดโพธิ์เกรียบ รุ่นนี้มีถึง 8 พิมพ์ ได้แก่
    1. พิมพ์ 7 ชั้นใหญ่
    2. พิมพ์ 7 ชั้นอกถ่าง
    3. พิมพ์ 7 ชั้นไหล่ยก
    4. พิมพ์ 7 ชั้นอกครึ่ง
    5. พิมพ์ 7 ชั้นอกตัน
    6. พิมพ์ 6 ชั้นอกตลอด
    7. พิมพ์เข่าบ่วง
    8. พิมพ์ปรกโพธิ์

    ปิดครับ

    IMG_20180518_215317.jpg
    IMG_20180518_215306.jpg
    unnamed (4).jpg unnamed (5).jpg 1815007-5.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2018
  3. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่267 พระพุทธชินราช เนื้อดิน เจาคุณโพธิ์ วัดชัยพฤกษ์มาลา
    ท่านเจ้าคุณโพธิ์ได้สร้างพระเนื้อดินเผาไว้หลายพิมพ์ทรง เพื่อแจกให้แก่ศิษย์ ทั้งปวง เล่าขานกันว่าท่านเจ้าคุณโพธิ์สำเร็จผง เป็นพระคณาจารย์ผู้เรืองวิทยาคุณ และท่านได้ทำผงผสมคลุกเคล้ากับ ดินปั้นหม้อที่ขุดได้จากเมืองปทุมฯ และนนทบุรี และท่านก็ได้ทำพิธีปลุกเสกที่วัดบางอ้อยช้างนั่นเอง ครั้นเมื่อท่านได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดชัยพฤกษมาลา ท่านจึงได้นำพระเครื่องดังกล่าวมาบรรจุไว้ที่เพดานพระอุโบสถวัดนี้
    พระเนื้อดินวัดชัยพฤกษมาลาฯ นี้
    เด่นทางด้านเมตตามหานิยม มีโชคลาภ และโภคทรัพย์ มีอยู่ด้วยกันหลายพิมพ์ และ มีขนาดเล็กไม่ใหญ่มาก เนื้อดินเผามีหลายสีด้วยกัน แต่ส่วนมากมักจะเป็นสีเหมือน ใหม่ สนนราคาไม่แพงนักราคาประมาณหลักพันต้นๆ ที่ไม่ค่อยสวยอาจจะแค่หลักร้อยครับ แล้วแต่พิมพ์ทรงและความสวยสมบูรณ์ครับ นับว่าเป็นพระเก่าที่น่าสนใจพอสมควร
    ปิดครับ

    IMG_20180518_214751.jpg IMG_20180518_214740.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2018
  4. Perfectionist

    Perfectionist เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    659
    ค่าพลัง:
    +1,444
    ผมโอนรายการนี้แล้วนะครับ รายละเอียดทาง pm ครับ
    ขอบคุณครับ
     
  5. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ขอบคุณครับ จัดส่งให้ครับ
     
  6. BKSK

    BKSK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +158
    จอง รายการที่265 สมเด็จหินพระธาตุ เขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์
     
  7. Klay9

    Klay9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2007
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +621
    ได้รับพระแล้วขอบคุณครับ
     
  8. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองครับ
     
  9. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ขอบคุณครับ
     
  10. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่268 ปลัดขิกไม้กาฝาก 3 นิ้ว ครูบาคำเป็ง อาศรมสุขาวดี จ.กำแพงเพชร
    ปลัด แกะจากไม้กาฝาก ดีมากในด้านเสน่ห์ ค้าขาย สมดังกับการกล่าวขานถึงว่า ท่านเป็นเทพแห่งพลังดูด ก่อนใช้อธิษฐานจิตนึกถึงหลวงปู่ "ขอบารมีครูบาคำเป็งให้ปลัดขิก นำคนมาซื้อของไว้ ๆ นำโชคมาให้ นำเงินทองเข้าร้าน "
    ปิดครับ
    IMG_20180521_215211.jpg
    IMG_20180521_215157.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2018
  11. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่269 ภาพถ่ายกรอบกระจกเก่า ขนาด 7*10 นิ้ว หลวงพ่อพรหม และวัดช่องแคสมัยก่อน
    หลวงพ่อพรหม องค์หน้าสุด ตามด้วยหลวงพ่อแบ็งค์ครับและพระลูกวัด ภาพนี้มีคนถ่ายไว้เมื่อสมัยก่อน พอดีได้พบเห็นเลยนำมาให้ชมกัน กระดาษนั้นอัดขึ้นมาใหม่ครับ เห็นบรรยากาศสมัยก่อนอดคิดไม่ได้ว่าปัจจุบันวัดช่องแค ถูกพัฒนาขึ้นมากจนเจริญได้ถึงทุกวันนี้ นับว่าเป็นบารมีของหลวงพ่อพรหมโดยแท้ที่เดียว
    ปิดครับ
    IMG_20180522_205514.jpg
    IMG_20180522_205454.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2019
  12. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่ 270 พระนางพญาฐานตาราง กรุดอนลาน เนื้อดิน สุโขทัย
    พระนางพญาฐานตาราง กรุวัดดอนลาน เนื้อดิน จังหวัดสุโขทัย ในช่วงหลายๆปีมานี้นักสะสมพระเนื้อดินได้ให้ความสนใจกันมาก เพราะเริ่มมีประสบการณ์และพุทธศิลป์สวยงาม แต่มูลค่ายังถูกมาก ทั้งๆที่มีอายุการสร้างประมาณ 600 กว่าปี สวยงาม คม ชัด ลึก น่าเก็บสะสมมาก.
    กรุมาตรฐานในจังหวัดครับ มีขึ้นหลายพิมพ์ เล็ก ใหญ่ ฐานตาราง เนื้อหามีหลายโซน ทั้งละเอียด หยาบ และ แกร่งแร่(เรียกเนื้อเตา)

    นายสติ ปิดครับ
    IMG_20180523_203934.jpg
    IMG_20180523_203925.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2018
  13. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่ 271 พระสมเด็จหลวงปู่ลำภู พิมพ์ใหญ่ วัดใหม่อมตรส เนื้อผงใบลาน
    พระสมเด็จหลวงปู่ลำภู พิมพ์ใหญ่ เนื้อผงใบลาน ผสมผงเก่าพระสมเด็จบางขุนพรหมที่แตกหักที่กรุแตกในปี2500 จากกรุพระบางขุนพรหมมาผสมมากที่สุด น่าใช้น่าบูชาที่สุดครับ
    คุณศิริชัย ปิดครับ
    IMG_20180523_203044.jpg
    IMG_20180523_203027.jpg
    IMG_20180523_203010.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤศจิกายน 2018
  14. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่ 272 รูปถ่ายหลวงปู่หมุน 1 นิ้ว วัดป่าบ้านจาน ต.จาน อ.กันทรารมณ์ จ.ศรีสะเกษ
    คุณ moccuri ปิดครับ

    IMG_20180524_213153.jpg
    IMG_20180524_213144.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2018
  15. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่273 รูปถ่ายหลวงพ่อกวย 1 นิ้ว ออกวัดซับลำใย โดยพระอาจารย์ตั้ว(ศิษย์เอกของหลวงพ่อกวย)
    ปิดครับ

    IMG_20180524_213213.jpg IMG_20180524_213203.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2019
  16. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่274 พระสิวลีหลังพระแม่ธรณีบีบมวยผม หลวงปู่หมุน ออกวัดซับลำใย ปี ๔๓
    พระสิวลีหลังพระแม่ธรณีบีบมวยผม หลวงปู่หมุน ออกวัดซับลำใย ปี ๔๓ ขนาดองค์พระโดยประมาณ กว้าง x หนา x สูง : ๒๒.๖๙ x ๗.๒๙ x ๓๓.๙๒ มม. สร้างจากชนวนผงพุทธคุณเกจิอาจารย์ต่างๆ กว่า ๓๕๐ คณาจารย์ ที่พระอาจารย์ตั้วได้รวบรวมไว้ ด้านหน้าพระสิวลีพุทธคุณโดดเด่นด้านโชคลาภ,เงินทอง.. ด้านหลังพระแม่ธรณีแคล้วคลาดปลอดภัย...หลวงปู่หมุนอธิฐานจิตปลุกเสกให้แก่วัดซับลำใยเพื่อนำรายได้มาสร้างศาลาและหล่อรูปเหมือนของท่านหลวงปู่ พระผงสิวลี จัดสร้างโดยอาจารย์ตั้ว วัดซับลำใย ประมาณปี ๒๕๔๓ พระสิวลีหลังพระแม่ธรณีเนื้อผงชมภูนุช หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ออกวัดซับลำใย จัดสร้างโดยพระอาจารย์ตั้ว ผู้ซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่หมุนที่หลวงปู่ครอบครูรับเป็นศิษย์ เมื่อสังเกตุให้ดี วัตถุมงคลของวัดซับลำใยนั้นไม่ค่อยแพร่หลายตั้งแต่สมัยแรกๆ นั้นเหตุเพราะว่าทางวัดไม่ค่อยได้ลงโฆษณาเท่าไรนักคนเก็บสะสมจึงไม่ค่อยรู้จักกัน แต่ดังจากปาก ต่อปาก เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานนัก เนื่องจากต่างพบเจอเรื่องราวเนือธรรมชาติจริงๆ ชนวนเชื้อผงพุทธคุณเกจิอาจารย์ต่างๆ ที่พระอาจารย์ตั้วได้รวบรวมไว้ซึ่งรวมถึงผงเก่าที่ได้รับจาก หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท ด้วยอีกจำนวนหนึ่ง ด้านหน้ารูปพระสิวลี พุทธคุณโดดเด่นด้านโชคลาภ,เงินทอง และด้านหลังรูปพระแม่ธรณี แคล้วคลาดปลอดภัยครับ นำผงชมภูนุชและผงอื่นๆอีกหลายคณาจารย์มากดเป็นพระสิวลี สำหรับผงชมภูนุชนั้นถือได้ว่าผงนี้เป็นสุดยอดผงของสายนี้เลยก็ว่าได้ครับ เด่นทางด้านเมตตามหาลาภมหาเสน่ห์เป็นที่สุด ท่านพระอาจารย์ตั้วได้นำมากดพิมพ์ทำเป็นพระมีไม่กี่พิมพ์ หนึ่งในนั้น คือพระพิมพ์พระสิวลีเนื้อผงชมภูนุชรุ่นนี้ ผงชมภูนุชนี้ โดดเด่นเรื่องเมตตาเป็นอย่างมาก ในตอนแรกอาจารย์ตั้วเอาผงนี้มาทำลูกอมเพียงอย่างเดียวแต่ในตอนหลังท่านเอามาทำเป็นพิมพ์พระทั้งหมด พระหลวงปู่หมุนรุ่นนี้ได้ เข้าพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลใหญ่ที่วัดซับลำใย เมื่อวันที่ ๕ ธ.ค. ๒๕๔๒ โดยมีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากมายเข้าร่วมพิธี อาทิ หลวงปู่ละมัย, หลวงปู่หงษ์, หลวงพ่อรวย, หลวงพ่อเพี้ยน, หลวงปู่ธีร์, หลวงพ่อไสว เป็นต้น โดยหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล เป็นประธานในพิธีในครั้งนี้ด้วยครับ เนื่องด้วย พระอาจารย์สมุห์ภาสน์ มงคลสงโฆ ศิษย์เอกของหลวงพ่อกวย ชุตินธโร เจ้าอาวาสวัดซับลำไย ผู้บุกเบิกและสร้างวัดซับลำไยจนมีที่ดินเกือบ ๑๐๐ ไร่ กำลังดำเนินการสร้างวิหารถวายหลวงพ่อกวย ผู้เป็นอาจารย์ จนใกล้เสร็จ แต่ยังขาดปัจจัยอีกพอสมควร ด้วยความเลื่อมใสและศรัทธาในบารมีของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโลจึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่หมุน จนได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หมุนหลายๆอย่างและด้วยความกตัญญูในครูบาอาจารย์ซึ่งได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หมุนมาโดยตลอดซึ่งพระอาจารย์เองให้ความเคารพมากด้วยนั้นในวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๔๓ ซึ่งวัดซับลำไยจะได้มีการทำพิธีเททอง เบิกฤกษ์ สร้างรูปหล่อหลวงปู่หมุน เท่าองค์จริงขึ้น พร้อมสร้างพระกริ่งและวัตถุมงคลอื่นๆในเอกลักษณ์ของหลวงปู่หมุน ตามที่หลวงปู่หมุน ท่านได้กล่าวกับพระอาจารย์สมุห์ภาสน์ ผู้เป็นศิษย์ก่อนสร้างวัตถุมงคลรุ่นมหาสมปรารถนาว่า... "นี่คุณสมุห์ภาสน์ ฉันจะอนุญาติให้คุณสร้างวัตถุมงคลของฉัน เพราะฉันเห็นแก่สมุห์ภาสน์ที่สร้างวิหารเทิดพระเกียรติยังไม่เสร็จ อีกอย่างคุณสมุห์ภาสน์อยู่เบื้องหลังการสร้างพระให้กับคนอื่นเขาสำเร็จมามากแล้วถึงตัวเองวัดตัวเองบ้างก็ยังไม่ทำอะไรขึ้น" หลวงปู่หมุนกล่าวเมื่องานยกช่อฟ้า วิหารที่วัดซับลำไย ซึ่งในตอนนั้น พระอาจารย์สมุห์ภาสน์ ก็ได้กราบเรียนหลวงปู่หมุน ไปว่า "หลวงปู่ขอรับ กระผมไม่มีเงินทุนพอที่จะจัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆตามที่หลวงปู่เมตตาแนะนำให้เลยขอรับ"มีซิฉันจะให้เธอสมปรารถนาทุกอย่างนั้นแหละ" หลวงปู่หมุนกล่าวอย่างมั่นใจและเมตตามากๆ และนี่คือที่มาของการจัดสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล พระผู้มีประกาศิตต่างๆในตัวท่าน ซึ่งก่อนจะถึงวันในพิธีทุกอย่างก็ราบเรียบทุกประการ สมดั่งคำกล่าวของหลวงปู่หมุนทุกประการท่านเป็นพระอริยะสงฆ์ผู้มีวาจาสิทธิ์จริงๆ ครับผม

    ปิดครับ
    IMG_20180524_213133.jpg
    IMG_20180524_213118.jpg
    4-wm.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2019
  17. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่275 หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน พิมพ์หลวงปู่ทวด หลังพระพิฆเนศ ปางอิทธิฤทธิ์ ปี 2543 เนื้อแร่ผสมว่านมงคล
    พระพิมพ์หลวงปู่ทวด หลังพระพิฆเนศ ปางอิทธิฤทธิ์ เสนอ จัดสร้างโดยศิษย์สายวัดสุทัศน์ ในปี2543 โดยมีหลวงปู่หมุนวินิจฉัยเลือกพิมพ์พระ เป็น เนื้อผง สร้างทั้งหมด 4 เนื้อ ผสมมวลสารแบบต่างๆ เสกเดี่ยว 1พิธี และได้นำพระชุดนี้ที่ทางลูกศิษย์ท่านสร้างและนำไปถวายให้ท่านปลุกเสกบนกุฏิ ท่านที่วัด บ้านจาน ตลอดพรรษาปี 43 แล้วนำมาเข้าพิธีพระกริ่งจอมไทย ที่วัดสุทัศน์ อีกด้วยในปี43 เคยมีลูกศิษย์เคยถามท่านว่า
    หลวงปู่พระของท่านรุ่นไหน ขลังที่สุด หลวงปู่หมุนท่านชี้มาที่ ***พระพิมพ์หลวงปู่ทวดนี้เลย***

    เนื้อที่มีการจัดสร้าง ดังนี้
    1.เนื้อแร่ผสมเหล็กน้ำพี้
    2.เนื้อแร่ผสมใบลาน
    3.เนื้อแร่ผสมว่านมงคล
    4.เนื้อแร่ผสมขมิ้นเสก***
    วาจา สิทธิ์ของหลวง ปู่หมุน ที่ได้กล่าวไว้ก่อนละสังขาร ซึ่งลูกศิษย์และชาวบ้านต่างจดจำได้ติดหู คือ "..ของๆฉันสร้างเองกับมือ ใครมีไว้บูชาจะ หมุนโชคลาภร่ำรวยตลอดเวลา ทำมาค้าขึ้น ไม่มีวันจนประกอบสัมมาอาชีพใดก็รุ่งเรือง เจริญลาภยศสรรเสริญ จะมีชื่อเสียงหอมขจรขจาย ขอให้เป็นคนดี คิดดี ทำดี ละเว้นชั่ว คุณพระจะรักษา เทวดาจะคุ้มครอง แม้นว่าฉันจะตายไป ของๆ ฉันจะขลังกว่านี้อีกหลายร้อยเท่า น้ำลาย ไอปาก ลมปราณที่ประจุลงไปด้วยพลังจิตอันเข้มขลังของฉัน ย่อมเป็น หนึ่งบ่เป็นสอง ครบเครื่องเป็นองค์พระที่ดีทั้งนอก ดีทั้งใน ฝากไว้ในแผ่นดิน ให้เลื่องชื่อลือนาม ลือเรื่องถึงเมืองแมน " คำบูชาหลวงปู่หมุน ตั้ง นะโม 3 จบ แล้วกล่าวว่า “ตัวกูลูกพระพุทธองค์ ครูสิทธิ์ ครูธงค์ องอาจไม่ประมาทครู พบรอยก้มดู เจอครูกราบ ไหว้ แล้วว่า ( อิ มะ มะ มา มา (รวม 7 ครั้ง)

    ปิดครับ
    IMG_20180524_213037.jpg
    IMG_20180524_213025.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2019
  18. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่276 หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน พิมพ์หลวงปู่ทวด หลังพระพิฆเนศ ปางอิทธิฤทธิ์ ปี 2543 เนื้อแร่ผสมใบลาน
    พระพิมพ์หลวงปู่ทวด หลังพระพิฆเนศ ปางอิทธิฤทธิ์ เสนอ จัดสร้างโดยศิษย์สายวัดสุทัศน์ ในปี2543 โดยมีหลวงปู่หมุนวินิจฉัยเลือกพิมพ์พระ เป็น เนื้อผง สร้างทั้งหมด 4 เนื้อ ผสมมวลสารแบบต่างๆ เสกเดี่ยว 1พิธี และได้นำพระชุดนี้ที่ทางลูกศิษย์ท่านสร้างและนำไปถวายให้ท่านปลุกเสกบนกุฏิ ท่านที่วัด บ้านจาน ตลอดพรรษาปี 43 แล้วนำมาเข้าพิธีพระกริ่งจอมไทย ที่วัดสุทัศน์ อีกด้วยในปี43 เคยมีลูกศิษย์เคยถามท่านว่า
    หลวงปู่พระของท่านรุ่นไหน ขลังที่สุด หลวงปู่หมุนท่านชี้มาที่ ***พระพิมพ์หลวงปู่ทวดนี้เลย***

    เนื้อที่มีการจัดสร้าง ดังนี้
    1.เนื้อแร่ผสมเหล็กน้ำพี้
    2.เนื้อแร่ผสมใบลาน
    3.เนื้อแร่ผสมว่านมงคล
    4.เนื้อแร่ผสมขมิ้นเสก***
    วาจา สิทธิ์ของหลวง ปู่หมุน ที่ได้กล่าวไว้ก่อนละสังขาร ซึ่งลูกศิษย์และชาวบ้านต่างจดจำได้ติดหู คือ "..ของๆฉันสร้างเองกับมือ ใครมีไว้บูชาจะ หมุนโชคลาภร่ำรวยตลอดเวลา ทำมาค้าขึ้น ไม่มีวันจนประกอบสัมมาอาชีพใดก็รุ่งเรือง เจริญลาภยศสรรเสริญ จะมีชื่อเสียงหอมขจรขจาย ขอให้เป็นคนดี คิดดี ทำดี ละเว้นชั่ว คุณพระจะรักษา เทวดาจะคุ้มครอง แม้นว่าฉันจะตายไป ของๆ ฉันจะขลังกว่านี้อีกหลายร้อยเท่า น้ำลาย ไอปาก ลมปราณที่ประจุลงไปด้วยพลังจิตอันเข้มขลังของฉัน ย่อมเป็น หนึ่งบ่เป็นสอง ครบเครื่องเป็นองค์พระที่ดีทั้งนอก ดีทั้งใน ฝากไว้ในแผ่นดิน ให้เลื่องชื่อลือนาม ลือเรื่องถึงเมืองแมน " คำบูชาหลวงปู่หมุน ตั้ง นะโม 3 จบ แล้วกล่าวว่า “ตัวกูลูกพระพุทธองค์ ครูสิทธิ์ ครูธงค์ องอาจไม่ประมาทครู พบรอยก้มดู เจอครูกราบ ไหว้ แล้วว่า ( อิ มะ มะ มา มา (รวม 7 ครั้ง)

    คุณ อาณัติ ปิดครับ
    IMG_20180524_213008.jpg
    IMG_20180524_212955.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2018
  19. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่277 พระสิวลีหลังพระแม่ธรณีบีบมวยผม หลวงปู่หมุน ออกวัดซับลำใย ปี ๔๓
    พระสิวลีหลังพระแม่ธรณีบีบมวยผม หลวงปู่หมุน ออกวัดซับลำใย ปี ๔๓ ขนาดองค์พระโดยประมาณ กว้าง x หนา x สูง : ๒๒.๖๙ x ๗.๒๙ x ๓๓.๙๒ มม. สร้างจากชนวนผงพุทธคุณเกจิอาจารย์ต่างๆ กว่า ๓๕๐ คณาจารย์ ที่พระอาจารย์ตั้วได้รวบรวมไว้ ด้านหน้าพระสิวลีพุทธคุณโดดเด่นด้านโชคลาภ,เงินทอง.. ด้านหลังพระแม่ธรณีแคล้วคลาดปลอดภัย...หลวงปู่หมุนอธิฐานจิตปลุกเสกให้แก่วัดซับลำใยเพื่อนำรายได้มาสร้างศาลาและหล่อรูปเหมือนของท่านหลวงปู่ พระผงสิวลี จัดสร้างโดยอาจารย์ตั้ว วัดซับลำใย ประมาณปี ๒๕๔๓ พระสิวลีหลังพระแม่ธรณีเนื้อผงชมภูนุช หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ออกวัดซับลำใย จัดสร้างโดยพระอาจารย์ตั้ว ผู้ซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่หมุนที่หลวงปู่ครอบครูรับเป็นศิษย์ เมื่อสังเกตุให้ดี วัตถุมงคลของวัดซับลำใยนั้นไม่ค่อยแพร่หลายตั้งแต่สมัยแรกๆ นั้นเหตุเพราะว่าทางวัดไม่ค่อยได้ลงโฆษณาเท่าไรนักคนเก็บสะสมจึงไม่ค่อยรู้จักกัน แต่ดังจากปาก ต่อปาก เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานนัก เนื่องจากต่างพบเจอเรื่องราวเนือธรรมชาติจริงๆ ชนวนเชื้อผงพุทธคุณเกจิอาจารย์ต่างๆ ที่พระอาจารย์ตั้วได้รวบรวมไว้ซึ่งรวมถึงผงเก่าที่ได้รับจาก หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท ด้วยอีกจำนวนหนึ่ง ด้านหน้ารูปพระสิวลี พุทธคุณโดดเด่นด้านโชคลาภ,เงินทอง และด้านหลังรูปพระแม่ธรณี แคล้วคลาดปลอดภัยครับ นำผงชมภูนุชและผงอื่นๆอีกหลายคณาจารย์มากดเป็นพระสิวลี สำหรับผงชมภูนุชนั้นถือได้ว่าผงนี้เป็นสุดยอดผงของสายนี้เลยก็ว่าได้ครับ เด่นทางด้านเมตตามหาลาภมหาเสน่ห์เป็นที่สุด ท่านพระอาจารย์ตั้วได้นำมากดพิมพ์ทำเป็นพระมีไม่กี่พิมพ์ หนึ่งในนั้น คือพระพิมพ์พระสิวลีเนื้อผงชมภูนุชรุ่นนี้ ผงชมภูนุชนี้ โดดเด่นเรื่องเมตตาเป็นอย่างมาก ในตอนแรกอาจารย์ตั้วเอาผงนี้มาทำลูกอมเพียงอย่างเดียวแต่ในตอนหลังท่านเอามาทำเป็นพิมพ์พระทั้งหมด พระหลวงปู่หมุนรุ่นนี้ได้ เข้าพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลใหญ่ที่วัดซับลำใย เมื่อวันที่ ๕ ธ.ค. ๒๕๔๒ โดยมีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากมายเข้าร่วมพิธี อาทิ หลวงปู่ละมัย, หลวงปู่หงษ์, หลวงพ่อรวย, หลวงพ่อเพี้ยน, หลวงปู่ธีร์, หลวงพ่อไสว เป็นต้น โดยหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล เป็นประธานในพิธีในครั้งนี้ด้วยครับ เนื่องด้วย พระอาจารย์สมุห์ภาสน์ มงคลสงโฆ ศิษย์เอกของหลวงพ่อกวย ชุตินธโร เจ้าอาวาสวัดซับลำไย ผู้บุกเบิกและสร้างวัดซับลำไยจนมีที่ดินเกือบ ๑๐๐ ไร่ กำลังดำเนินการสร้างวิหารถวายหลวงพ่อกวย ผู้เป็นอาจารย์ จนใกล้เสร็จ แต่ยังขาดปัจจัยอีกพอสมควร ด้วยความเลื่อมใสและศรัทธาในบารมีของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโลจึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่หมุน จนได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หมุนหลายๆอย่างและด้วยความกตัญญูในครูบาอาจารย์ซึ่งได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หมุนมาโดยตลอดซึ่งพระอาจารย์เองให้ความเคารพมากด้วยนั้นในวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๔๓ ซึ่งวัดซับลำไยจะได้มีการทำพิธีเททอง เบิกฤกษ์ สร้างรูปหล่อหลวงปู่หมุน เท่าองค์จริงขึ้น พร้อมสร้างพระกริ่งและวัตถุมงคลอื่นๆในเอกลักษณ์ของหลวงปู่หมุน ตามที่หลวงปู่หมุน ท่านได้กล่าวกับพระอาจารย์สมุห์ภาสน์ ผู้เป็นศิษย์ก่อนสร้างวัตถุมงคลรุ่นมหาสมปรารถนาว่า... "นี่คุณสมุห์ภาสน์ ฉันจะอนุญาติให้คุณสร้างวัตถุมงคลของฉัน เพราะฉันเห็นแก่สมุห์ภาสน์ที่สร้างวิหารเทิดพระเกียรติยังไม่เสร็จ อีกอย่างคุณสมุห์ภาสน์อยู่เบื้องหลังการสร้างพระให้กับคนอื่นเขาสำเร็จมามากแล้วถึงตัวเองวัดตัวเองบ้างก็ยังไม่ทำอะไรขึ้น" หลวงปู่หมุนกล่าวเมื่องานยกช่อฟ้า วิหารที่วัดซับลำไย ซึ่งในตอนนั้น พระอาจารย์สมุห์ภาสน์ ก็ได้กราบเรียนหลวงปู่หมุน ไปว่า "หลวงปู่ขอรับ กระผมไม่มีเงินทุนพอที่จะจัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆตามที่หลวงปู่เมตตาแนะนำให้เลยขอรับ"มีซิฉันจะให้เธอสมปรารถนาทุกอย่างนั้นแหละ" หลวงปู่หมุนกล่าวอย่างมั่นใจและเมตตามากๆ และนี่คือที่มาของการจัดสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล พระผู้มีประกาศิตต่างๆในตัวท่าน ซึ่งก่อนจะถึงวันในพิธีทุกอย่างก็ราบเรียบทุกประการ สมดั่งคำกล่าวของหลวงปู่หมุนทุกประการท่านเป็นพระอริยะสงฆ์ผู้มีวาจาสิทธิ์จริงๆ ครับผม
    ปิดครับ
    IMG_20180524_213059.jpg
    IMG_20180524_213047.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2018
  20. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่278 ปลัดขิกหิน หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย จ.นครนายก
    ++ คัดลอกประวัติของท่านมาจาก http://www.itti-patihan.com
    ขออนุญาตเผยแพร่และขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
    ประวัติหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย

    นามเดิมของท่านคือ สนิท นามสกุล มีพงษ์ เกิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2468 ( ในแผ่นดินรัชกาลที่ 6 ) ณ บ้านบางกุ้ง
    ต.บางกุ้ง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เมื่อครบอายุบวชท่านได้อุปสมบทที่วัดท่าเรือ เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2491 โดยมีท่านพระครูอุทัยธรรมธารี (หลวงพ่อตี่ สุริยวงศ์สวัสดี) วัดท้าวอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการจรูญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการทองพูนเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ยสินธโร”
    + ประวัติการศึกษาของหลวงพ่อสนิท
    เมื่ออุปสมบทแล้วท่านได้เดินทางกลับมายังวัดลำบัวลอย และเป็นยุคที่วัดเสื่อมโทรมที่สุด เพราะเจ้าอาวาสองค์เก่าได้ลาสิกขาไป เหลือแต่บรรดาพระภิกษุหนุ่ม และสามเณรน้อยดูแลความประพฤติกันเอง โดยมีภิกษุเพียง 2 พรรษาเป็นผู้ควบคุมดูแลหมู่คณะ เมื่อครั้งที่ท่านยังเป็นพระภิกษุหนุ่มท่านก็มิได้นิ่งนอน ทำวัตรสวดมนต์เสร็จกิจก็ท่องเจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน ครบถ้วนกระบวนความเป็นเครื่องยังชีพ ที่ต้องไปสวดร้องท่องบ่นฉลองศรัทธาที่มานิมนต์ นอกจากท่านร่ำเรียนเจ็ดตำนาน สิบสองตำนานแล้ว หลวงพ่อท่านยังค้นคว้าร่ำเรียนพระธรรมวินัย อันเป็นคำสั่งสอนเวไนยสัตว์ให้หลุดพ้นจากกิเลส เครื่องตรึงรัดมัดใจ ให้หลงในลาภสักการะและยศถาบรรดาศักดิ์ต่างๆ และเรียนรู้กฏระเบียบแห่งการปกครอง และคำบัญญัติข้อห้ามของพระภิกษุ สามเณร แต่ว่าสอบนักธรรมในพรรษาแรกไม่ได้
    + ประวัติด้านการศึกษาพระเวทย์
    ในปี 2496 หลังจากหลวงพ่อสนิทอุปสมบทได้ 6 พรรษา ซึ่ง หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย ท่านได้สอนพระภิกษุ-สามเณรในวัด จนสอบนักธรรมตรีได้หลายองค์ ทางพระเถระชั้นผู้ใหญ่จึงให้หลวงพ่อสนิทท่านสอบนักธรรมสนามหลวง หลวงพ่อสนิทท่านจึงสอบนักธรรมสนามหลวงผ่านถึงนักธรรมชั้นโท ในปีหลังๆ ต่อมาท่านก็ไม่ได้ไปสอบอีกต่อไป คงรับหน้าที่อบรมสั่งสอน
    พระลูกศิษย์ลูกหาเสมอมา
    เกี่ยวกับทางด้านการศึกษาค้นค้าทางด้านพุทธาคม เนื่องจากหลวงพ่อสนิทท่านสนใจทางไสยศาสตร์และโหราศาสตร์ได้เสาะแสวงหาอาจารย์ร่ำเรียนคัมภีร์ เลขยันต์ เวทมนต์ คาถาอาคมขลังสรรพวิยาคุณต่างๆจนแตกฉาน ชำนิชำนาญด้านสรรพคุณไสยด้านถูกกระทำย่ำยีจากศัตรู รู้รอบด้านการแก้สรรพพิษ ยาเบื่อ ยาเมา และยาสั่ง จาก “ หลวงพ่อดำ วัดกุฎิ ” เกจิอาจารย์
    ผู้เรืองวิทยาคม เป็นเจ้าตำรับผู้สร้าง พระปิดตา เนื้อตะกั่วดำ พิมพ์ปักเป้า อันลือชื่อด้านการป้องกันพิษยาสั่ง และคงกระพันชาตรี
    + ศิษย์อาจารย์เส็ง ซื่อสัตย์ วัดสันทรีย์
    เมื่อครั้งสมัยหนุ่มแน่นนั้น หลวงพ่อสนิท ยสินธโร ได้เดินทางไปปราจีนบุรี เสาะหาอาจารย์ชื่อดังที่สร้างและปลุกเสก
    “ จระเข้โทน “ กับพระอาจารย์เส็ง แห่งวัดสันทรีย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดสันทรีย์ ครั้งแรกในการสร้างและปลุกเสกจระเข้โทนเกิดขึ้นราวๆปี 2470 เป็นเนื้อตะกั่วสีดำ ขนาดลำตัวยาวราวๆ 4 เซนติเมตร หลวงพ่อสนิทท่านมีศักดิ์เป็นหลานของ พระอาจารย์เส็ง ซื่อสัตย์ ซึ่งพระอาจารย์เส็งท่านเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดสันทรีย์ ตั้งแต่ปี 2435 จนถึง 2476 และท่านได้ลาสิกขาบท ซึ่งต่อมาเมื่อหลวงพ่อสนิท มาฝากตัวร่ำเรียนวิชาจระเข้โทนที่วัดสันทรีย์ ซึ่งหลังจากท่านได้ลาสิกขาบทแล้วท่านได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้หลวงพ่อสนิทจนหมดสิ้น และท่านได้ถ่ายทอดวิชาจระเข้โทนจนสำเร็จ จนหลวงพ่อสนิทสามารถสร้างจระเข้โทน เนื้อชินตะกั่วสีดำ และสร้างจระเข้ปางนารายณ์อวตารหลังลูกศรนารายณ์ (จระเข้รุ่นจันทร์เพ็ญ) ในเวลาต่อมา
    นอกจากนี้ท่านยังได้เรียนวิชาแพทย์แผนโบราณจาก พระครูอุทัยธรรมธารี (หลวงพ่อตี่ สุริยวงศ์สวัสดี) วัดท้าวอู่ทอง
    จ.ปราจีนบุรี อีกด้วย และได้เดินทางไปศึกษาพระเวทย์จากหลวงพ่อพระอาจารย์ทองดำ วัดโคกหม้อ จ.นครสวรรค์ จนสำเร็จวิทยาคมต่างๆ ทั้งตำรายาโบราณการสูญฝี และโรคภัยต่างๆอย่างชำนาญ
    + หลวงพ่อสนิท มรณภาพเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2542 สิริอายุรวม 74 ปี พรรษา 51 และได้มีการพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ.2544 ท่ามกลางศิษยานุศิษย์ และสาธุชนผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์หลวงพ่อสนิท ปรากฏว่าวันงาน ผู้คนแขกเหรื่อมากันจนแน่นขนัดวัด จนล้นออกมานอกวัด นับเป็นประวัติการณ์ และเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ สรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย และเส้นเกศาที่เคยปลงเก็บไว้ก็แปรสภาพเป็นพระธาตุอย่างน่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง

    ปิดครับ

    IMG_20180526_214902.jpg
    IMG_20180526_214910.jpg IMG_20180526_214844.jpg IMG_20180526_214854.jpg IMG_20180526_214923.jpg IMG_20180526_214935.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...