วิชาแปลธาตุ (ปรอท)

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย tong_blackdevil, 27 กุมภาพันธ์ 2008.

  1. tong_blackdevil

    tong_blackdevil Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +53
    ปรอทเป็นสรรพยามีสรรพคุณมากมากจึงมีกระบวนการทำตามแบบโบราณดังนี้ใช้วิธีการดักจับปรอทตามน้ำคลำน้ำที่เน่าเหม็นปรอทจะมากินสิ่งที่เน่าเหม็นมีกรรมวิธีการดักจับหลายวีธี
    <O:p> </O:p>
    การทำปรอทให้บริสุทธิ์ <O:p></O:p>
    นำปรอทมาใส่ในชามกระเบี้องเคลือบนำข้าวที่หุงสุกใหม่ๆทิ้งเอาไว้ให้เย็นแล้วนำมาใส่ให้ท่วมปรอทคลุกเคล้าข้าวสุกกับปรอทให้เข้ากัน ด้วยไม้หรือกระเบื้องเคลือบพยายามบี้บดให้ปรอทแตกตัวสัก 15 นาทีหรือจนปรอทแตกตัวเป็นเม็ดละเอียดจะเห็นว่าข้าวสุกจะติดสีดำมากมายสุดท้ายล้างด้วยน้ำสะอาดโดยการเทน้ำสะอาดใส่ลงไปล้างหลายๆครั้งแล้วถ่ายน้ำออกหรือเทน้ำออกให้ระมัดระวังตามสมควรเนื่องจากปรอทมีน้ำหนักมากจะไม่เกาะติดสิ่งใดๆการล้างออกจึงทำได้ไม่ยากนัก <O:p></O:p>

    นำปรอทมาแช่น้ำปลาร้าหมั่นคนสักพักหนึ่งคนบ่อยๆทิ้งเอาไว้สัก 1 คืน รุ่งเช้าให้ล้างน้ำปรอทด้วยน้ำสะอาดเหมือนกับขั้นตอนแรกหลายๆครั้ง <O:p></O:p>
    ให้นำเอาตะใคร้ทั้งต้นทั้งใบมาตำให้ละเอียดนำไปคลุกเคล้ากับปรอทคนให้เข้ากันทิ้งไว้อีก 1 คืนนำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาดแบบเดียวกับการล้างน้ำในขั้นตอนแรก <O:p></O:p>
    เอาปรอทมาแช่น้ำมะดันหรือมะกรูดหรือน้ำมะนาวหมั่นคนบ่อยๆทิ้งเอาไว้ 1 คืนวันรุ่งขึ้นให้นำไปล้างด้วยน้ำสะอาด<O:p></O:p>
    เสร็จแล้วนำเอามาใส่เอาไว้ในขวดแก้วปิดฝาให้แน่นเพื่อกันมิให้ปรอทดูดเอาสิ่งที่เป็นพิษเข้ามาปะปนอีกปรอทที่ได้มานี้ยังเป็นของเหลวเชื่อกันว่าปรอทที่ผ่านวิธีการกรองเอาพิษออกแล้วนี้มีความบริสุทธิ์ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์

    การทำปรอทให้แข็งแบบโบราณ

    แบบที่ 1 ให้สะกดด้วยอาคมโดยนำเอาปรอทใส่ลงในกระทะเอาไม้สนเกี๊ยะจุดไฟใส่ใต้กระทะเป็นเชื้อเพลิงจากนั้นบริกรรมเติมไฟแต่ไม่ให้ร้อนมากชั่วเวลาหนึ่งให้ใส่ทองคำลงไปเพื่อล่อให้ปรอทแทรกตัวเข้าไปอยู่ในทองคำและแข็งตัวเมื่อปรอทแข็งตัวแล้วก็จะผ่อนไฟจนกระทั่งหยุดใส่ไหและเย็นลงในเวลาต่อมา<O:p

    ขั้นตอนต่อไปเป็นการบูชาเจ้าป่าเจ้าเขาก่อนที่จะเอาปรอทแข็งตัวแล้วนำเอาไปใส่เอาไว้ในพานวางตั้งเอาไว้หน้าหิ้งพระคลุมด้วยทองคำเปลว

    แบบที่ 2 ใช้ปรอท, ดีบุก, น้ำตะใคร้, จุนสี, กัมมะถัน, น้ำประสานทองอย่งละเท่าๆกันสำหรับจุนสีและน้ำประสานทองมีพาให้ระมัดระวังหน่อยต้องนำมาให้ความร้อนให้แตกตัวก่อนเรียกว่าการฆ่าพิษนำทั้งหมดมากวนรวมกันให้เข้ากันจนเป็นสีรุ้งการหุงนำไปตั้งในเตาแก๊สก็ได้แล้วนำเอาไปเทลงในแบบพิมพ์ต่างๆเมื่อปรอทแข็งตัวได้รูปแล้วนำเอามาแต่งด้วยกระดาษทรายละเอียดและนำเอาไปใช้ตามเจตนารมณ์ต่อไป

    ข้อเสียของปรอทคือ กินทอง, กินดวงคนที่เกิดปีธาตุทองเช่นปีมะโรง,และกินคนที่มีชื่อว่าทองด้วย

    หมายเหตุ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านอย่างรอบคอบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 มีนาคม 2008
  2. jsoc

    jsoc Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +54
    ต้องระวังเพราะเป็นสารเคมีครับผม
     
  3. ศิษย์ท่านแช้ม

    ศิษย์ท่านแช้ม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +22
    คุณเพลิงน้ำแข็งความรู้เยอะจังไม่ทราบเป็นศิษย์ที่ไหนบอกได้ใหมครับ
     
  4. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    คงไม่มีใครเก่งเกินหลวงพ่อรอดที่ จ. อยุธยาครับ แต่ท่านมรณภาพแล้ว ผมเคยไปกราบตอนน้ำท่วม ปรอททำได้มากกว่าที่ท่าน เพลิงน้ำแข็ง ว่าอีกเยอะครับ
    ถ้าทำให้ปรอทบริสุทธิ์อย่างที่ท่านว่าเสร็จ แล้วเทลงที่ฝ่ามือประมาณ 2 สลึง บริกรรม
    คาถากำกับให้ปรอดแทรกซึมลงไปในฝ่ามือได้ ถือว่าท่านสำเร็จระดับต้น ๆ แล้วล่ะครับ
    ถ้าคนทั่วไปทดลองทำดู ผมว่า 24 ชม. มันยังไม่เข้าครับ แต่ถ้ายกครูเรียนแล้ว 2-3 นาที ก็หายเกลี้ยง (สำหรับบางคน)
    รักษาโรค เข้าป่างูตะขาบ แมงป่อง ไม่กล้าแหยม ภูตผีอมนุษย์ไม่กล้าแหย่ เพราะกลัวอานุภาพพลังเผาไหม้ ทำร้ายคู่ต่อสู้ (เอาเข้าที่ฝ่ามือพ้อมปรอท เรียกธนูมือ)
    ใครจะเรียนปรอท ต้องเริ่มวิชาที่ง่ายก่อน เช่นคงกระพัน ดับพิษน้ำมันเดือด เพราะวิชานี้คนที่เรียนด้วยกัน ไม่สำเร็จทุกคน

    ถ้าทำเข้าฝ่ามือได้ อย่าไปแกล้งเพื่อนที่เขาใส่ทอง หรือไปลองจับทองตามร้านนะครับ
    5555555555 บาปกรรม ๆๆๆๆๆๆๆๆ
    (เสกปรอทเข้าฝ่ามือเสร็จแล้ว จะทดลองเรียกออกก็ได้ครับ)
     
  5. ZeusInw

    ZeusInw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +333
    ขุดขึ้นมาใหม่
     
  6. สัทธาธิกะ

    สัทธาธิกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +373
    อนุโมทนาครับ แต่กระผมไม่อยากแนะนำให้ใช้นะครับ

    เพราะพิษที่ล้างออกไปติดกับข้าวนั้นมันเป็นพิษ

    ถ้าสัตว์ใดได้กิน ก็จะติดพิษเช่นกัน หรือเราฝังลงดิน

    สัตว์ที่อาศัยในดินก็มี พระแม่ธรณีก็ต้องรับพิษไปอีก

    อยากให้คิดก่อนจะเรียนนะครับ ^_^
     
  7. หมอพล

    หมอพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +4,175
    เรียน ท่าน.....ที่นับถือ..... ทุกท่านครับ

    ผมเคยไปเรียน วิชชา ปรอท....กับ ท่านอาจารย์ พันเอก ชม สุคันธรัต.....

    เรียนมาหลายอย่าง.....ท่านบอกผมว่า ... หลวงตาดำในดง สั่งให้ผมเรียน...เพื่อเป็นพื้นฐานของ "อภิญญา".... ตอนนั้น ผมเป็น สามเณรน้อย อยู่.....ก็เรียนๆๆๆ ไป ตามที่ท่านบอก....ท่านบอกว่า....อีกหน่อย วิชชา เหล่านี้ จะสูญหายไปหมด......ให้ผมเรียนไว้.....เพื่อช่วยคน.....เพราะ มีหลายวิชชา สามารถช่วยคนได้......

    วิชชาปรอท เอง.....ก็สามารถใช้รักษาโรค ได้หลายโรค.....(ใช้พิษฆ่าพิษ).....เพราะรังสีของปรอท มีอำนาจฆ่าเชื้อโรคได้......แต่ต้องสะกดพิษก่อน..........ท่านอาจารย์ชม เคยรักษาโรคมะเร็งให้คนหายมามาก.....ท่านว่า รักษาได้ทุกโรค....ที่มีเชื้อโรคเป็นมูลเหตุ.....บางคน ใกล้ตาย.....แต่ถ้า ... "ทวาร" ยังไม่เปิด...."ธาตุ" ยังไม่แตก....."ลมหายใจ" ยังไม่ขาด...... "กรรมดี" ยังรักษา.......ก็ยังสามารถช่วยให้รอดตายได้

    ส่วน... "ปรอทสำเร็จ" .....ต้องเป็นผู้ที่มีพลังจิตสูง....มีอาคมแก่กล้า......จึงจะสามารถทำได้.....มีฤทธิ์เสมอด้วย... "เหล็กไหล" ......( "เบี้ยแก้"....ที่ศักดิ์สิทธิ์ นั้น......ก็เนื่องจาก อำนาจแห่ง "ปรอท".....ที่ผ่านการปลุกเสกแล้วนั่นเอง.....จะเพิ่มอานุภาพให้กับ ปรอท มากขึ้นไปอีก....... เป็นรองก็แต่........พระพุทธคุณ......เหล็กไหล......และ ..."ปรอทสำเร็จ"....เท่านั้น....)

    ผมเคยเสก "ปรอท" เข้าตัว.....ตามที่ ท่านอาจารย์ ชม สอน.....ปรากฏว่า ตบทีเดียวหายหมด....ครั้งแรก ผมก็ตกใจ....นึกว่า มันหายไปไหนหมด......ท่านอาจารย์ ชม....หัวเราะชอบใจ....บอกให้ผม กำหนดจิตที่กลางฝ่ามือ....เพ่งถึง ปรอท.....พักเดียว มาจากไหนก็ไม่รู้.....เต็มมือ....คราวนี้ ท่านบอก ไม่ต้องตบมือแล้ว.....ให้กำหนดจิตอย่างเดียวพอ.....ผมก็ลองทำดู.....มันก็ซึมหายไปหมดทันที.....ท่านชมผมว่า.....ผมมีสมาธิดีมาก......เรียนอะไรก็ง่าย.....ท่านบอกว่า วิชชาเหล่านี้ต้องระวังให้มาก.....มีคุณอนันต์ โทษมหันต์.....ดีดนิ้วทีเดียว ทำให้คนตายได้....เรียกว่า "ธนูมือ".....เลือดจะไหลออกจากทวารทั้ง 9 ......ตายทันที........ท่านสอนผมอีกหลายอย่าง....ผมไปค้างที่บ้านท่าน แถว เตาปูน......3 วัน 3 คืน.......เมื่อปี 2538......รุ่งเช้า วันที่สอง.....ผมไม่รู้ จึงเอามือไปจับฝากระติกน้ำของผม ที่ทำด้วยตะกั่ว......สักพัก เห็นควันลอยขึ้นมาจากฝากระติก......พอไปจับดู ก็รู้สึกร้อนมาก.....ฝากระติก นั้น ค่อยๆ สลายกลายเป็นผงสีขาวเหมือนขี้เถ้า......ค่อยๆ เป็นรูพรุนตามที่นิ้วมือผมไปสัมผัส......พอท่านอาจารย์ ชม มาเห็นเข้า......ก็รีบสั่งให้ คนรับใช้ของท่าน นำฝากระติก นั้น ไปต้มน้ำ ให้ปรอทระเหยไปให้หมด........ท่านสั่งไว้ว่า อย่าเรียก ปรอท มาที่ปาก......เพราะจะทำให้ฟันหลุดได้ และ ถ้าเสก ปรอทเข้าตัวแล้ว......ห้ามไปโดนทองคำ เพราะจะกลายเป็นผงขี้เถ้าเหมือนกัน.......ท่านบอกว่า .... เข้าป่า ไม่ต้องไปกลัวอะไรเลย........สบายมาก.....มีแค่ น้ำกิน อย่างเดียวอยู่ได้เป็นเดือน.......ปัจจุบันนี้ ผมปฏิบัติธรรม อย่างเดียว......เรื่อง "ฤทธิ์" นั้น.......ปล่อยวางหมดแล้ว.......

    หลวงปู่ชื้น พุทธสโร....วัดญาณเสน....อยุธยา.....ครูบาอาจารย์ของผมอีกองค์หนึ่ง.....ก็สำเร็จวิชชา "ปรอท".....ในสมัยที่ท่านยังแข็งแรง.....ความจริง ท่านสำเร็จธรรม นานแล้ว......แต่อยู่ว่างๆ เลยทำดูเล่นๆ......ทำจนได้ "ปรอทสำเร็จ" .....และ แปรธาตุ ตะกั่ว เงิน และ ปรอท...หากใช้ ทองคำหนัก 1 บาท.....จะได้ ทองคำหนัก 10 บาท.....โดยใช้สมุนไพร ชื่อ ... "สุวรรณขีด".....ด้วย......พอทำได้ ท่านก็โยนทิ้งลงน้ำไปหมด.......ท่านว่า ทิ้งลงแถว สะพานทางเข้าวัดเชิงท่า นั่นเอง......เพราะตอนท่านทำ ท่านทำร่วมกับอดีตเจ้าอาวาสวัดเชิงท่า......ใกล้ๆ วัดญาณเสน นั่นเอง.....อาจารย์ของหลวงปู่ชิ้น....ชื่อ พระอาจารย์ เสน เตชะธัมโม......เป็นพระธุดงค์.....พลังจิตสูงมาก....เคยมีทหารมาขอของดีท่าน.....ท่านเลยเอาเศษผ้าเหลืองเก่าๆ มาเขียนอักขระ 3 ตัว ว่า....เพ เพ เพ....(เป็นอักษรขอม)....ทหาร ก็ดีใจ เอาไปลองปืนทันที......ปรากฏว่า นัดแรก ยิงไม่ออก.......นัดที่สอง ยิงออก แต่ไม่โดนผ้ายันต์เลย (ทั้งๆที่ จ่อยิงใกล้ๆ).......พอ นัดที่สาม ยิงออกอีก แต่คราวนี้ ลูกกระสุนดันวิ่งย้อนกลับ เฉียดหน้า คนลองยิงไปเลย.......หลวงปู่ชื้น ท่านบวชกับ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ แห่ง สระบุรี......หลวงพ่อยอด ก็เป็นพระที่ไม่ธรรมดา องค์หนึ่ง.......

    ก่อนที่ท่านจะละสังขารไม่กี่ปี.....ท่านได้สั่งให้ผมไปหาต้น.....(ต้นอะไร....ก็จำชื่อไม่ได้แล้ว ต้องขออภัยด้วย)....มา........แล้วท่านจะทำ..."ปรอทสำเร็จ"....ให้......ผมหาอยู่ 3 ปี......หาไม่ได้......เลยอดได้......"ปรอทสำเร็จ"....

    แต่ ท่านก็ให้ความเมตตาผมมาก........มากจนสุดจะบรรยาย......มีอะไรดีๆ....ท่านจะให้ผมหมด......สอนผมทุกอย่าง........ผมรักและเคารพบูชาท่านมาก......เคยเอาเท้าของท่าน......มาวางบนศรีษะ......มารู้ภายหลังว่า...หลวงปู่ดู่ วัดสะแก....เรียกท่านว่า....หลวงพี่ชื้น.....และ ยกย่องว่า......ท่านเป็น "พระทองคำ" ด้วย.....

    สมัยที่ท่านยังแข็งแรง ท่านจะสงเคราะห์คนที่เป็น โรคริดสีดวงทวาร.....ด้วย วิชชา "สูญฝี".....โดยจะตอกตะปูที่เสาไม้.....แล้วบริกรรมคาถา.....เพ่งจิตไปที่ผู้ป่วย......ไม่เกิน 3 - 7 วัน......หายสนิท......ปัจจุบัน สรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย......ท่านเคยป้อนข้าวผม ตอนที่ผมเป็นเณรน้อยด้วย......ก่อนป้อน ท่านจะเสกคาถานานมาก....ป้อนให้ผม 3 คำ......แล้วให้พรว่า......จงสำเร็จทุกอย่าง......ผมก็ก้มลงกราบที่เท้าท่าน......บางครั้ง ผมก็จะป้อนข้าวให้ท่าน (ถ้าไปตอนฉันเพลพอดี หรือ ไปถึงตั้งแต่ 8 โมงเช้า แล้วอยู่ยาว....) ........ไปหาท่านทุกครั้ง.....ท่านก็จะท่องกลอนธรรมะให้ผมฟัง.....เป็นกลอนธรรมะที่ไพเราะมากๆ......ท่องกลอนเสร็จ......ท่านก็จะเอามือของท่านมากุมที่หัวของผมไว้.....แล้วสวด บทสัจจกิริยคาถา (นัตถิเม ฯ ).....แล้วกล่าวอัญเชิญพระรัตนจักรชัยสิทธิ์.......พร้อมกับประพรมน้ำมนต์ จนตัวผมเปียกชุ่ม.....เสร็จแล้ว ท่านก็จะสอนธรรมะต่อ......บางที ก็ให้นั่งสมาธิตามท่าน......โดยท่านจะคุมจิตให้......ตอนหลัง ก่อนท่านจะละสังขาร ได้สั่งให้ผมไปต่อวิชชากับหลวงปู่ทวด.....(ท่านเรียก หลวงปู่ดู่.....ว่า หลวงปู่ทวด...)......ท่านบอกให้ผมไปนั่งสมาธิที่ วัดสะแก.....แล้วหลวงปู่ทวดจะมาสอน......ตอนนั้น ผมยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่นัก......พอไปนั่งที่วัดสะแกจึง "รู้"......รู้ว่าอะไรเป็นอะไร.....และต้องทำอย่างไรต่อไปอีก.......ค้นหาตัวเองเจอแล้ว......สบายตัวแล้ว.....ไปมาทุกสำนัก.....ทั้ง วิชชาธรรมกาย มโนมยิทธิ ยุบหนอพองหนอ ฯลฯ.......ไปมาหมด.......ก็ดีหมดทุกสำนัก ทุกวัด........แต่พอมาเจอทางของตัวเองแล้ว.......ก็จบ......ไม่ต้องดิ้นรนแสวงหาอะไรแล้ว.....มันพอแล้ว......อิ่มแล้ว......เหลือแต่... พยายามละสังโยชน์ 10 .....และ .... หมั่นสร้างบารมี 10 ..... เท่านั้น......

    สุดยอดในด้านอธิบายธรรมให้เข้าใจง่าย......ต้อง..... หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง

    สุดยอดแห่งบารมีธรรม.......ต้อง .....หลวงปู่ทวด ...(หลวงปู่ดู่ วัดสะแก)

    สุดยอดแห่งการปฏิบัติในยุคปัจจุบัน..........ต้อง..... หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    ครูบาอาจารย์ทุกรูปทุกองค์......ต่างก็มีคุณธรรมความดี......ผมขอกราบนอบน้อมแด่ทุกท่านทุกองค์.......ขอน้อมนำคำสอนและบารมีธรรมของทุกท่านทุกองค์มาสถิตอยู่ภายในตัว ด้วยเทอญ.........จนกว่าจะถึงซึ่ง "พระนิพพาน"......เทอญ

    ขอคารวะ.....ทุกท่าน

    หมอพล.....

    ปล. ... ท่านอาจารย์ ชม.....ก็เคยเล่าถึง ... หลวงปู่รอด.....ให้ฟังด้วยครับ.....ว่า เชี่ยวชาญในปรอทมาก....แต่ไม่แน่ใจว่าจะใช่ ... วัดประดู่ทรงธรรม ... หรือไม่นะครับ......

    และ ท่านอาจารย์ ชม....เคยถามปัญหาธรรมผมด้วยว่า......มนุษย์ เกิดมาจากอะไร ?........รู้ไหมครับ.....อะไรคือ คำตอบ.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2009
  8. cmessage

    cmessage สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +11
    คุณตาชม

    ผมไม่ขอออกความเห็นเยอะนะครับ ขอบอกแค่ว่าวิชานี้มีจริง เพราะผมเห็นคุณทำมาตั้งแต่เด็ก คุณตา ชม สุคันธรัต เป็ฯคุณตาผมเองบางคนอาจจะเคยได้ยินชื่อมาบ้าง แต่ไม่อยากออกความเห็ฯมากเพราะคนอ่านมีทั้งคิดในทางกุศลและอกุศล คนไม่เคยเห็นอาจจะไม่เชื่อและผมเองก้ไม่ได้บอกว่าดีหรือไม่ดีแต่บอกแค่ว่ามีจริงนะครับ ผมเองตอนเด็กก้ไม่ทราบหรอกว่าคนเขาเรียกว่าอะไรเห็นสิ่งที่คุณตาทำให้ดูโดยที่เราไม่ได้อ่านเพราะเราเห็นอยุ่แล้ว เอาเป็นว่าศึกษากันเป็นนานาจิตตังแล้วกันครับ มีธรรมมะเป็นสิ่งสำคัญของทุกวิชาครับ;aa48
     
  9. city

    city เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +627
    ก่อนที่ท่านจะละสังขารไม่กี่ปี.....ท่านได้สั่งให้ผมไปหาต้น.....(ต้นอะไร....ก็จำชื่อไม่ได้แล้ว ต้องขออภัยด้วย)....

    ต้นที่คุณจำไม่ได้ ผมทายว่าคือต้น สรรพยา หรือที่ทางลาวหรืออีสานเรียกต้นยาใหญ่ ซึ่งเท่าที่รู้มามีไม่กี่ต้น มีสรรพคุณมากมายและหนึ่งในนั้นคือการทำ ปรอท ให้เป็น ปรอทสำเร็จหรือแก้วสารพัดนึก ถ้าเป็นตัวผู้เรียกแก้วจักรพรรดิ์ผู้เมียจะเรียกแก้วราหู ส่วนผมเองยังไม่เคยไปเห็นต้นจริงๆเคยเห็นแต่ในรูปถ่ายจากวัดมะม่วงขาวที่นครฯซึ่งเป็นของสงฆ์ผมไม่อยากยุ่งแต่ถ้าอยู่ในป่ายังไม่ได้เข้าไปดู ซึ่งการทำตามที่พระอาจารย์ท่านหนึ่งบอกไว้ก็ง่ายมากแต่ยังไม่ขอบอกนะครับ ส่วนการที่ใครอยากจะทำปรอทสำเร็จเอาไว้ดูเล่นหรือทดสอบสมาธิตัวเองผมจะบอกวิธีทำ เผื่อใครอยากลองมีแค่ 4-5 ขั้นตอนเท่านั้น
    1.ไปหาปรอทมา ไม่ว่าจะวิธีไหน ทั้งการดักเอง จ้างเขาดักมาหรือซื้อมาเพราะผมดูแล้วมีคนหาหรือดักได้แล้วทำไม่เป็นอยู่พอสมควรแล้วเอามาขาย
    2.ใช้หมาก พลู ปูนกินหมากตำผสมกันปั้นให้เป็นก้อนแนะนำให้ใส่หมากเยอะหน่อยจะได้เหนียวและปั้นง่าย ปั้นให้เป็นเบ้า(คือเป็นก้อน)เอาปรอทมากรอกใส่แล้วปั้นให้กลมให้หนาสักหน่อย ทิ้งไว้ไม่นานก็จะเริ่มแห้งไปเรื่อยๆ
    3.เป็นวิธีทำให้ปรอทแข็งเป็นก้อนและจะเริ่มมีฤทธิ์มากขึ้น โดยการนำก้อนปรอทมาสวดด้วยคาถาชัยมงคลคาถา(พาหุงฯ) สวดทุกๆวันๆละกี่จบก็ได้แล้วแต่ความสามารถ สวดไปเรื่อยๆจนกว่าปรอทในเบ้าจะแข็งตัวถึงจะใช้ได้ โดยการเขย่าดูถ้าปรอทแข็งตัวแล้วจะมีเสียงดังขลุกๆชัดเจนแต่ถ้ายังก็จะเหมือนเสียงน้ำเหมือนเราเขย่าเบี้ยแก้โดยทั่วไป ถือว่ายังใช้ไม่ได้ ดังนั้นการที่จะสวดจนปรอทแข็งตัวได้ต้องอาศัยสมาธิและพลังจิตที่ดีพอสมควร
    4. ...............
    5. ...............

    ที่เหลือผมขอติดไว้ก่อนล่ะกัน
    ถ้าใครที่สามารถสวดจนปรอทในเป้าแข็งตัวได้แล้วติดต่อมาผมจะบอกวิธีต่อ
    อย่าลืมนะครับเป็นการฝึกจิตและสมาธิอย่างหนึ่ง
    แต่ถ้าใครคอยไม่ไหวหรือไม่อยากรอ ท้อแท้แต่อยากได้ ผมแนะนำให้ไปบูชา
    ลูกแก้วของหลวงพ่อฤาษีฯมาใช้ก่อนก็ได้นะครับ แต่ถ้าใครคิดว่าได้มาแล้วจะ
    ประสบผลสำเร็จทุกอย่างคุณคิดผิดนะครับ สิ่งใดที่เกินกฏแห่งกรรมและไม่มีบุญ
    ที่เจ้าของหรือผู้ครอบครองทำเพิ่มอยู่เรื่อยๆท่านช่วยไม่ได้นะครับ กลับไปอ่าน
    ประวัติการสร้างในหนังสือสมบัติพ่อให้ให้ดีท่านสอนให้เราปฏิบัติธรรมดีๆนี่เอง
    ทั้งการท่องคาถาปัจเจกฯหรือคาถาเงินล้าน และการเพ่งลูกแก้วจนเกิดนิมิต
    เพราะถ้าเราได้ของดีสักแค่ไหน แต่ถ้าเราไม่รู้จักวิธีใช้ก็ไม่เกิดประโยชน์มันจะ
    กลายเป็นเหมือนพวกเซียนพระที่บ้าแต่วัตถุ มีพระดีหรือของดีอยู่ก็แค่ของสะสม เอาแค่โชว์หรืออวดเพื่อนฝูงใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้
     
  10. หมอพล

    หมอพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +4,175
    ต้นอะไร ก็ไม่ทราบหรอกครับ......ทราบแต่ว่า.....ใต้ใบมีสีแดง มีขนอ่อนๆ ถ้าไปโดนเข้า จะคันมาก......

    ท่านบอกชื่อมาเหมือนกัน.....แต่เนื่องจากหลายปีแล้ว.....ผมเลยลืม.....ไม่ใช่ ต้นสรรพยา หรอกครับ.......

    แต่ก็ช่างมันเถอะครับ.......ของดี ที่ครูบาอาจารย์ท่านทำไว้ให้ ก็มีอยู่ตั้งเยอะแยะมากมาย.....จริงไหมครับ.......แหะๆ.....

    สาธุ....ครับ

    "ติดวัตถุมงคล ดีกว่าติดวัตถุอัปมงคล"...........และ............"ถ้าทำเป็นแล้ว (ภาวนา).... ไม่ต้องห้อยพระ ก็ได้" .....

    วาทะธรรม.....หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ......วัดสะแก

    พุทโธ ธัมโม สังโฆ........

    ธรรมะสวัสดี......

    หมอพล.....

    (จำได้แล้วครับ.......ว่าต้นอะไร เพิ่งนึกออก.....แหะๆ......)
     
  11. cmessage

    cmessage สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +11
    ยังอยู่

    คุณตาชมยังมีชีวิตอยู่นะครับ
     
  12. สืบสาน

    สืบสาน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีความสนใจในวิชาปรอท ผมมีความใคร่รู้ใคร่ศึกษาเกี่ยวกับการเป่าปรอทเข้าตัว และได้เคยศึกษาการเป่าปรอทเข้าตัวมาบ้าง เพื่อรักษาคนที่เจ็บป่วย แต่ยังไม่แตกฉาน ใครที่มีความรู้เกี่ยวกับการเป่าปรอทเข้าตัว สามารถคุยกับผมได้นะครับ ถ้าสนใจจะคุยกรุณาให้รายละเอียดไว้แล้วผมจะติดต่อกลับนะครับ ขอบคุณครับ
     
  13. สืบสาน

    สืบสาน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    อยากคุยกับคุณphon007 ครับ

    ผมสนใจข้อความที่คุณโพสต์ไว้นะครับ ผมจะคุยกับคุณได้อย่างไรมั้งครับ ผมอยากรู้เพิ่มเติมครับ ถ้าคุณมีความกรุณาก็ติดกลับมานะครับ ขอบคุณครับ
     
  14. อธิปพงษ์

    อธิปพงษ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +13
    หวัดดีคับ emcssage..ผมคิดถึง อาจารย์ พ.อ.ชมคับ..ทั่นยังมีชีวิตอยู่หรือป่าว และสอนคาถาได้หรือป่าว...คนชัยนาท
     
  15. NiwornFree

    NiwornFree สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2009
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +1
    In Chiang Mai has a man name "Nai Khan" he can put his hand in the hot oil when he cooked his fried chicken(his job, to sell fried chicken) and he also use his hane in the hot oil instead of other tool. So I wondered that it the same thing he has or not.
     
  16. whitejoker

    whitejoker สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +15
    โมทนา สาธุ ผมคิดว่า เป็น กาม ตัณหา และ ความยึดติด ครับ ^^
     
  17. whitejoker

    whitejoker สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +15
    เมตตาขอทราบหน่อยครับ

    เห็นกระทู้ เกี่ยวกับเรื่อง ปรอท ครับ โมทนา สาธุ ผมอยากทราบเรื่อง การรักษาโรคโดยใช้ปรอท และวิชาสูญฝีครับ ผมสนใจมากจริงๆ นะครับ เคยได้ข้อมูลมาว่า ขั้นสูงสุดของวิชาปรอทคือสามารถรักษาโรคได้ และข้อมูลวิเศษเกี่ยวกับปรอทต่างๆ มา ก็เคยคิดเหมือนกันครับ ว่าจะเรียนด้านรักษาโรค จากวิชาปรอท เพื่อช่วยคน ผมต้องการศึกษาไว้ครับ เพราะต้องการใช้รักษา ตนเอง แม่ และครูบาอาจารย์ ครับ เมตตารบกวนสอบถามหน่อยนะครับ ถ้าหากคุณหมอพล ได้รับเมลนี้ เมตตา ยิงมาที่เบอร์นี้หน่อยนะครับ 087-1810044 ครับ หรือ เมตตาแอดเมลนี้ด้วย ถ้าออนบ่อยๆ นะครับ จะได้คุยกัน phoenix_book@hotmail.com ถ้าเป็นไปได้เมตตาสอนผมด้วยนะครับ คงได้ช่วยเหลือผู้คนและพระสงฆ์องค์เจ้าอีกเยอะเลยครับ โมทนา สาธุ นบธรรม ธัมภวัฒน์ ครับ
     
  18. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,635
    ผมไปฝึกมาที่ถ้ำวัวแดง แต่เป็นการทำธาตุกายสิทธิ์ ตามวิธีการของหลวงปู่ละมัย ใช้หมากพลู ปูนแดง ตำให้ละเอียด แล้วเอาปรอทหยอดใส่ตรงกลางปั้นให้เป็นลูกอมเอาไว้ฝึกอภิญญา ปรอท เมื่อล้างพิษ เอาสูนเข้าตัวรักษาโรคได้
     
  19. ทองคำขาว

    ทองคำขาว สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +2
    ปรอด

    ช่วยกันเก็บรักษาวิชาดีๆ อย่าให้สาบศุนย์
    จะเข้ามาอ่นอีก ได้ความรู้
    ขออนุโมธนาด้วยครับ
     
  20. หมอเป่า

    หมอเป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +687
    ท่านที่หาอยู่ผมช่วยขุดเด้อ
     

แชร์หน้านี้

Loading...