วิธีหล่อพระแก้วขนาดใหญ่ที่ถูกต้อง (ทุกปาง)

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ

ขอนอบน้อมแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

ผมขอเปิดเผยเคล็ดลับวิธีการหล่อพระแก้วทุกขนาดไว้ในกระทู้นี้ โดยเฉพาะขนาดใหญ่ที่มีหน้าตักเท่าไรก็แล้วแต่ ที่ท่านคำนวนแล้วว่า เมื่อหล่อเสร็จ จะยกไม่ไหว ไม่ว่าจะยกด้วยกำลังของมนุษย์หรือกำลังของเครื่องยนต์

หลายวันมานี้ ผมมีเวลาทบทวนสิ่งที่เขียนเป็นวิทยาทานไว้ และนึกได้ว่า ผมต้องแก้ไขคำว่า “Up Side Down” ว่า “ห้ามทำในขนาดใหญ่” และอื่นๆ เพราะตอนนั้น ความรู้มันยังไม่ตกผลึกเต็มที่ ผมสร้างพระพุทธรูปจากแก้วมาก็จริง แต่ขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักเป็นพันๆกิโลกรัมนั้นจีนสร้าง ส่วนผมเพียงเห็นคลิปตรวจชิ้นงานและบังเอิญโรงงานเขาให้เห็นสถานที่และเครื่องมือในการสร้าง ผมเขียนทุกอย่างไว้ก็จริงแต่ลืมบอกเรื่องเคล็ดลับไว้

ขอวิทยาทานนี้คู่กับชาวพุทธแท้ไปตราบจนเข้าพระนิพพาน

 

สำรองพื้นที่

 

สารบัญ

หน้า 1 ห้ามทำ up side down ในการหล่อพระแก้วขนาดใหญ่ ปางนั่งให้นั่ง ปางยืนปางนอนให้นอน

 

ปางนั่งถ้าเนื้อตันๆจะมีน้ำหนักมาก แคหน้าตัก 30 กว่านิ้ว บางรูปแบบน้ำหนักอาจถึง 1 - 2,000 กิโลกรัม ถ้าเราไป up side down ขณะหล่อ แม่พิมพ์ปูนปลาสเตอร์เกิดแตกออก องค์พระแก้วจะล้มได้ และต่อให้ไม่ล้ม หลังการหล่อก็จะต้องยกกลับด้าน ซึ่งตอนนั้นจะยกยาก

 

การเลือกวางแม่พิมพ์ปูนในท่านั่ง ต้องใช้ควบคู่กับการเพิ่มท่อในจุดอับ เช่น เข่า เท้า พระหัตถ์ และทุกจุดที่คาเว่าน้ำแก้วไหลเข้าได้ยาก

อีกทั้งการเทน้ำแก้วจากเบ้าที่ต้องใช้เครื่องยนต์ยกเทน้ำ การเทต้องเทแบบว่า เหมือนน้ำที่ออกจากปากท่อของหม้อต้มหรือกาน้ำ เพื่อพยายามให้น้ำแก้วที่ไหลลงจากด้านบนไม่กระทบช่องที่ไหลผ่าน

 

ศิลปินแก้วท่านหนึ่งกำลังยกเบ้าแก้วที่หลอมได้ที่แล้ว กำลังเทน้ำแก้วที่ปกติก็จะเป็นเช่นนี้คือ มีความหนืดสูง (แล้วแต่แต่ละสูตร หนืดมาก หนืดน้อย หรือแทบจะไม่หนืด) เบ้านี้จุน้ำแก้วได้เต็มที่หลายร้อยกิโลกรัม

แต่การเทน้ำแก้วลงแม่พิมพ์ปูนที่หันพระเศียรขึ้น จะต้องเตรียมงานค่อนข้างมาก (แต่ไม่เกินความสามารถ เพราะจีนทำอย่างนี้หลายโรงงาน)

 

ภาพนี้โรงงานเจี้ยงเหมินในคุนซาน จีน รับงานหล่อพระแก้วหนักองค์นี้หนัก 2 ตันให้ รพ ในไต้หวัน เขาเลือกใช้เบ้าหลอม 20 กว่า เบ้า แต่ละเบ้าหลอมแค่ 150 กก. เมื่อได้ที่แล้ว “คัด” เฉพาะเบ้าที่ไม่มีฟองอากาศมาเทใส่แม่พิมพ์ปูน แล้วอบนานหลายเดือนมาก

แต่ถ้าทำเนื้อกลวง อบแค่วันสองวัน ซึ่งผมว่า ดีต่อทุกฝ่าย รักษ์โลก แถมราคาถูก และแสงที่ออกจากองค์พระเมื่อเปิดไฟสวยกว่ามาก

เครดิต : 匠门琉璃工厂 中国

 

สูง 132 公分 หรือ 132 ซ.ม. นั่นเอง น้ำหนัก 2,000 กก.

 

นอกจากองค์นี้ ยังหล่ออีกหลายองค์ เรียกว่า สร้างไม่ทัน และไม่ใช่มีโรงงานเดียว มีอีกหลายโรงงานในหลายมณฑลมาก องค์ละนับร้อยล้านบาท เศรษฐกิจจีนก้าวไปไม่หยุด

 

พิธีประดิษฐาน

 

ถ้าออกแบบเป็นเนื้อแก้วกลวง ใช้หลอดไฟอยู่ภานในองค์พระแก้วจะสวยมาก

 

ถ้าพรุ่งนี้ว่างพอจะมาเล่าต่อนะครับ

 

การออกแบบพระแก้วเนื้อกลวง ขณะนี้ผมยังไม่มีภาพตัวอย่างให้ชมนะครับ มีแต่การออกแบบหล่อแผ่นแก้วขนาดเท่ากับผนัง ซึ่งก็ใกล้เคียงกับเนื้อกลวง แสงจะเฉลี่ยเกลี่ยได้ทั่วกว่าแบบตัน

ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องพระแก้วตัน ทั้งแพง ทั้งอบนานหลายเดือน ทั้งแสงก็สู้อย่างกลวงไม่ได้เลย

 

ท่านที่เคยอ่านคลิปที่เจี้ยงเหมินสร้างพระแก้ว 2 ตันคงจำภาพด้านหลังได้นะครับ มันคือภายในของโรงงานหล่อพระแก้วเจี้ยงเหมินแห่งคุนซานครับ

การยกแผ่นหล่อแล้ววางให้แดดหรือแสงตกกระทบจากด้านหลัง เป็นวิธีที่ดูชิ้นงานได้ดีที่สุดวิธีหนึ่งครับ

ที่เขาวางตะแคงเพราะที่ตั้งเขามีขนาดนั้น

 

การตั้งใจทำสีอื่นแทรกเข้าแก้วสีหลักแบบเช็งสไตล์ ผมรู้ว่าเป็นรสนิยมแบบจีนยุคเก่า ซึ่งปัจจุบันเราแทรกสีต่างได้ดีกว่าเดิมเยอะ

อย่างว่าครับ ขึ้นกับเจ้าของงาน

 

แผ่นนี้ติดตั้งแล้ว ใช้สปอตไล้เฉพาะจุดเน้นการส่องไฟครับ

สังเกตได้ว่า แสงสปอตขาดไป 2 ตำแหน่ง ซึ่งอาจเพราะตัวแผ่นของสปอต** ไม่มีในขนาดนั้น ก็ควรสั่งทำครับ

หมายเหตุ
** = แผ่นที่ว่านี้ สั่งปลิตทีละแผ่นจะแพงมาก แต่ยังไงก็คุ้มค่าครับ

 

ภาพนี้ผมนำภาพพระแก้วตันมาแทนอย่างกลวง ถ้ากลวงแสงจะเฉลี่ยเกลี่ยได้ดีเหมือนครึ่งด้านบน แต่องค์นี้ตัน แสงครึ่งด้านล่างจึงดูออกว่าตัน

ถ้ากลวงแล้ววางตำแหน่งหลอดไฟดีๆ จะเฉลี่ยเกลี่ยแสงทั่วถึงหมดครับ

 

ถ้าองค์ขนาดสูง 2 เมตรถึง 2.5 เมตร ความหนาเฉลี่ย 12 มม. ก็น่าจะเพียงพอ และเป็นการสร้างรักษ์โลกด้วย เพราะอบแค่ 4 ชม.