สงสัยมาก ๆ เรื่องเจ้าขึ้นสวรรค์เมื่อก่อนวันตรุษจีน

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย pitikant, 2 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. pitikant

    pitikant สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +4
    เป็นเรื่องที่สงสัยมาหลายปีแล้วครับ....ว่าจะถามผู้รู้ก็ลืมทุกที...เมื่อก่อนวันตรุษจีนสัก 4 - 5 วันจะเป็นวันส่งเจ้าขึ้นสวรรค์เืพื่อเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้....จะมีการตั้งส้มหรือซาแซในวันนั้นแล้วจุดธูปกล่าวส่งเจ้าเพื่อขึ้นสวรรค์...คราวนี้ก็จะเริ่มตั้งคำถามเพราะอยากทราบจริง ๆครับดังนี้เลย

    1.เมื่อเจ้าขึ้นสวรรค์ปุ๊บจะมีดวงจิตหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาปกปักรักษาขณะที่เจ้าขึ้นสวรรค์หรือไม่ (ช่วงก่อนวันตรุษจีนถึงวันชิวสี่หรือหลังตรุษจีนอีก 4 วัน)

    2.ในวันไหว้ ก่อนวันชิวอิก 1 วัน (ใช่ซาจับหรือเปล่าไม่แน่ใจ) เราตั้งหมูเป็ดไก่ผลไม้กระดาษเงินกระดาษทอง เพื่อไหว้ศาลเจ้าที่ตี่จู้เอี๊ย "เรากำลังไหว้เจ้าที่ตี่จู้เอี๊ย หรือไหว้ผู้ที่มารักษาตี่จู้เอี๊ยครับ (เพราะเจ้าขึ้นวรรค์ไปยังไม่ลงมา)

    3.หรือเมื่อเจ้าขึ้นสวรรค์ไปแล้วศาลเจ้าที่จะว่างเปล่าหรือเปล่า

    4.ในวันชิวอิกเราตั้งส้มไหว้เจ้าตี่จู้เอี๊ย หรือไหว้ผู้ที่รักษาการแทนอยู่ในขณะนั้นครับ แล้วทำไมต้องตั้งไว้จนถึงชิวสี่ด้วยหล่ะครับ

    5.ในวันชิวอิกห้ามเผากระดาษเงินกระดาษทองจริงหรือไม่ ได้ยินมาบ่อยว่าห้ามจริงหรืิอเปล่าเพราะอะไรครับ

    6.คำถามนี้สงสัยเหมือนกันครับว่า เจ้าทุกองค์หรือเปล่าครับที่ขึ้นไปเฝ่้าเง็กเซียน..รวมถึงแม่ย่านางของรถ...เจ้าประตู (หมึ่งเซ้ง) ด้วยหรือเปล่าครับ แล้วถ้าไปกันหมดเลย..ขณะขึ้นไปทุกที่จะมีผู้มารักษาการแทนหรือเปล่าครับ
     
  2. Yurichan

    Yurichan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +97
    คำถามเหล่านี้ หลาย ๆ คนก็สงสัยครับ รวมถึงผมเมื่อในสมัยก่อนด้วย แต่พอมาศึกษาคำสอนของพระสุปฏิปันโนทั้งหลาย ความสงสัยก็เริ่มจะหมดไป

    ตอบแบบเดาเอานะครับ ความรู้ยังน้อยมาก ต้องรอท่านที่มีอภิญญามาตอบ

    1. เทวดาทั้งหลายท่านทีจิตเป็นทิพย์ มีอำนาจที่เกิดจากผลบุญที่ทำมา การที่ท่านจะไปไหนมาไหน คงไม่ต้องมีเทวดาชั้นสูงกว่ามารับไป

    2. เทวดาท่านมีอาหารทิพย์ที่เกิดจากบุญของท่านอยู่แล้ว ไม่ต้องมากินของที่คนทำบุญไปให้ เพราะมันเหม็นกลินของบาป อกุศลของคน เว้นแต่ผู้มีศีลซึ่งมีกลิ่นหอม เทวดาจะชอบอยู่ใกล้ผู้นั้น ส่วนผู้ที่จะมารับอาหารที่ทำบุญไป อาจเป็นบริวารของท่านก็ได้

    3. เมื่อเทวดาท่านมีจิตเป็นทิพย์ จิตนั้นเร็วที่สุด แค่นึกถึง หรือมีใครนึกถึง ท่านก็ทราบได้ทันที เพราะปกติท่านก็มีวิมาณของท่านเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องอยู่ในศาลเจ้าหรือศาลพระภูมิ

    4. ไม่ทราบธรรมเนียมจีนครับ แต่พอทราบว่า เราไหว้เทวดาไม่ได้เพราะขอหวย แต่ไหว้ในฐานะเคารพในคุณความดีของท่าน ท่านเกิดเป็นเทวดาเพราะทำความดีไว้มาก เทวดาจึงเป็นผู้ประเสริฐ

    5. ไม่ทราบธรรมเนียมจีนครับ แต่ถ้าเปลี่ยนไปทำบุญ บริจาคทาน แผ่ส่วนกุศลให้ทั่วจะดีมาก ๆ

    6. ตอบเหมือนข้อ 3 ครับ แค่นึกถึงท่านก็รู้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 กุมภาพันธ์ 2014
  3. AYACOOSHA

    AYACOOSHA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +2,253
    เดาเอาตามความเข้าใจเหมือนกันนะครับ ไม่มีใครมาแทนก็ยังเป็นองค์เดิมที่อยู่นั่นแหละ แต่ที่เขาทำพิธีกันก็เหมือนกับว่าเราทำการส่งญาติผู้ใหญ่หรือบิดามารดาที่จะไปทำธุระที่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศนั่นแหละ เพียงแต่ท่านเหล่านั้นมีกายอันเป็นทิพย์เรามองไม่เห็นท่าน ก็เลยต้องทำพิธีส่งกัน เพื่อให้ท่านรับรู้ว่าเราเคารพท่าน แต่ด้วยความเป็นทิพย์ของท่าน ท่านก็สามารถไป ๆมาๆได้ แต่ผมคิดว่าถ้าไม่มีเหตุอะไรร้ายแรงหรือเร่งด่วนแล้วล่ะก็ท่านก็คงไม่กลับลงมาอย่างแน่นอน สวัสดี...
     
  4. sirigul

    sirigul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +2,515
    เป็นประเพณีของชาวจีนเค้า พ่อแม่ปู่ญ่าตายาย บรรพบุรุษเค้าทำมาแต่ช้านาน เราก็ลูกหลานชาวจีนนะ แต่ไม่ค่อยเผาหรือไม่เผาแล้วก็ได้พวกกระดาษเงินกระดาษทองนี่ เหตุเพราะทำให้โลกร้อน เป็นมลพิษ เราไหว้ตามประเพณีแต่ไม่เผา แล้วใชวิธีถวายบุญกุศลท่านแทน โดยบอกกล่าวท่านว่าทำบุญสร้างบุญไรมา ขอให้ท่านโมทนากะเราด้วย พร้อมของบูชานี้ แล้วขอพรไรก็ขอไป ส่วนท่านจะไปสวรรค์เพื่อไปรายงานความดีความชั่วของมนุษย์ หรือจะไปไหนก็เรื่องของท่าน เราก็ต้องไหว้ต้องบูชาอยู่ดี หรือท่านไม่อยู่แค่วันเดียวจะเผาศาลท่านหรือไง (เค้าเรียก ซาแซ ซาแปลว่าสาม แซ แปลว่าสิ่งมีชีวิต เช่นพวกหมูเป็ดไก่ มองดูให้ดีๆในถาดใหญ่ตั้งบูชาต้องมีสิ่งมีชีวิตสามอย่างแน่ ) แต่เราไม่อยากบูชาเลย เราบูชาแค่ของหวานผลไม้ ด้วยเหตุผลว่า ยิ่งไหว้กันเยอะ หมูเป็ดไก่ ก็ยิ่งถูกฆ่ากันเยอะ ท่านไม่ว่าหรอก เราไหว้แต่ของบริสุทธ์ จิตเราก็บริสุทธื์ไปด้วย
    จาก จีนกลายพันธ์
     
  5. ชีวอน

    ชีวอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +763
    ผมเป็นคนไทยไม่ได้มีเชื้อสายจีนครับ แต่ผมจะตอบท่านตามแบบที่ผมได้ศึกษามานะครับ คนไทยเชื้อสายจีนจะเอาประเพณี ต่างๆที่ยึดถือจากเมืองจีนมาด้วย ตามแบบพุทธมหายานครับ และ เจ้า ที่คุณหมายถึงก้อคือเทวดาตามแบบพุทธหินยาน และเจ้าที่เข้าทรงในงานต่างๆนั้นก้อคือเจ้าที่เป็นภุมมเทวาครับ ส่วนจะเทพองค์นั้นองค์นี้ หรือ เง็กเซี่ยนฮ่องเต้ ถ้าเอาตามแบบ วิชาการแล้วก้อคือ บุคคลที่เคยมีชีวิตที่คนในสมัยนั้นนับถือให้เป็นเทพเจ้า ทั้งก่อนที่จะเสียชีวิตหรือเสียชีวิตไปแล้ว เลยมีการบูชาคุณธรรมอะไรบ่างอย่าง ยกย่องขึ้นเป็นเทพเจ้าต่างๆนาๆ (อันนี้ถ้าไปขัดกับหลักความเชื่อของใครก้อขออภัยด้วยนะครับเพราะผมศึกษาตามหลักวิชาการมาหรือท่านจะหาข้อมูลวิชาการตามที่ต่างๆอ่านดูก้อได้นะครับ) เพราะเทพมีเยอะมากครับ บวกกับเรื่องเล่าหรืออ่านในตำราตามๆกันมา อย่าลืมนะครับว่าตำนานนั้น ทำให้จิ้งจกกลายเป็นโคตรไอ้เข้ได้ ส่วนในศาสนาพุทธหินยานนั้น เทวดาที่รับเครื่องเซ่นของมนุษย์เป็นสินบนนั้น 99% เป็นภุมมเทวาครับ เพราะมีสภาวะคล้ายเรามากที่สุดเคยทำอะไรตอนเป็นคนไว้ก้อจะต้องทำสิ่งนั้นตามความเคยชินครับ ส่วนจะอ้างเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่อันนี้ก้อแล้วแต่จะอ้างกันครับ แต่อย่าลืมว่าเทวดาหรือเจ้าชั้นสูงนั้น ท่านมีอาหารทิพย์ และที่สำคัญ80% จะไม่ลงมาบนโลกครับ ขนาดอากาศเทวายังแทบจะไม่ลงมาเลยครับ และเทพทางจีนส่วนมากจะเป็นอากาศเทวาชะส่วนใหญ่ครับ(อันนี้ตามที่ผมได้ศึกษามานะครับถ้าจะไปขัดหลักความเชื่อของใครก้อขออภัยมานะที่นี้ด้วย) เอาละเข้าคำถามแต่ผมจะตอบตามแบบของผมนะครับ 1.เมื่อเจ้าขึ้นสวรรค์ปุ๊บจะมีดวงจิตหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาปกปักรักษาขณะที่เจ้าขึ้นสวรรค์หรือไม่ (ช่วงก่อนวันตรุษจีนถึงวันชิวสี่หรือหลังตรุษจีนอีก 4 วัน) ตอบ.เทวดาที่ดูแลเขตแดนที่ท่านอยู่นั้นจะมีทั้งหัวหน้าเขตและบริวารหรือผีบ้านผีเรือน มีกำหนดหน้าที่ดูแลเขตแดนของท่านประจำอยู่แล้วครับ ไม่สามารณขึ้นไปบนอากาศเทวาได้ นอกจากหัวหน้าเขตที่มีหน้าที่ดูบันชีบุญบาปแล้วต้องส่งต่อตามสายการปกครองไปให้หัวหน้าเขตที่เป็นอากาศเทวาอีกทอดหนึ่งทุกขึ้น15ค่ำ 2.ในวันไหว้ ก่อนวันชิวอิก 1 วัน (ใช่ซาจับหรือเปล่าไม่แน่ใจ) เราตั้งหมูเป็ดไก่ผลไม้กระดาษเงินกระดาษทอง เพื่อไหว้ศาลเจ้าที่ตี่จู้เอี๊ย "เรากำลังไหว้เจ้าที่ตี่จู้เอี๊ย หรือไหว้ผู้ที่มารักษาตี่จู้เอี๊ยครับ (เพราะเจ้าขึ้นวรรค์ไปยังไม่ลงมา) ตอบ.ไหว้ภุมมเทวาแถวบ้านหรือเจ้าแถวบ้านและวิญญาณเร่รอนทั้งหลายครับ ส่วนเทพที่ท่านคิดไว้นั้นไม่มาหรือไม่มีครับ ส่วนศาลตี้จู้เอี้ย นั้น ไม่มีใครอยู่หรือถ้ามีก้อเป็นผีบ้านผีเรือนหรือเจ้าที่ๆเขาอยู่บ้านคุณครับ แต่ส่วนมากไม่อยู่เพราะเขามีที่ของเขามีบ้านของเขาไม่มาอยู่ที่เล็กๆเหรอครับ 3.หรือเมื่อเจ้าขึ้นสวรรค์ไปแล้วศาลเจ้าที่จะว่างเปล่าหรือเปล่า ตอบ.ข้อนี้เหตุผลตามคำตอบข้างบนครับ 4.ในวันชิวอิกเราตั้งส้มไหว้เจ้าตี่จู้เอี๊ย หรือไหว้ผู้ที่รักษาการแทนอยู่ในขณะนั้นครับ แล้วทำไมต้องตั้งไว้จนถึงชิวสี่ด้วยหล่ะครับ ตอบ.ข้อนี้ผมไม่ทราบและตามเหตุผลก้อคงจะตามประเพณีที่ได้สืบทอดกันมาครับ 5.ในวันชิวอิกห้ามเผากระดาษเงินกระดาษทองจริงหรือไม่ ได้ยินมาบ่อยว่าห้ามจริงหรืิอเปล่าเพราะอะไรครับ ตอบ.ตามประเพณีครับ ในส่วนหินยานนั้นไม่มีการเผากระดาษเงินกระดาษทองครับ เพราะนอกจากภพมนุษย์นั้นทุกภพใช้บุญบารมี ไม่จำเป็นต้องใช่เงินทองครับ
    6.คำถามนี้สงสัยเหมือนกันครับว่า เจ้าทุกองค์หรือเปล่าครับที่ขึ้นไปเฝ่้าเง็กเซียน..รวมถึงแม่ย่านางของรถ...เจ้าประตู (หมึ่งเซ้ง) ด้วยหรือเปล่าครับ แล้วถ้าไปกันหมดเลย..ขณะขึ้นไปทุกที่จะมีผู้มารักษาการแทนหรือเปล่าครับ ตอบ.
    เง็กเซียนฮ่องเต้นั้น ถ้าตามแบบผู้ที่นับถือทางพุทธหินยานก้อคือพระอินทร์ แต่ถ้าตามหลักวิชาการ คือ ประมาณยุคต้นกำเนิดจีน มีฮ่องเต้ชื่อว่าพระเจ้าเสียวเหา หรือฮึ้งตี้ฮ่องเต้ หรือ จักรพรรดิเหลือง เป็นต้นกำเนิดของชาวจีนยุครุ่งเรือง ในบางตำราของจีนได้กล่าวยกย่องพระเจ้าเสี่ยวเหาว่า เมื่อพระองค์สวรรคต ได้เป็นเทพ (เซียน) แห่งสวรรค์ ด้วยบุญบารมีของพระองค์ที่สั่งสมมา ต่อมาจึงได้รับการยกขึ้นเป็นจอมเทพทั้งหลาย คือ เง็กเซียนฮ่องเต้ อันนี้ตามวิชาการนะครับ ถ้าเง็กเซียนคือพระอินทร์ เจ้าทั้งหลายก้อคงจะหมดสิทธ์ ครับ นอกจากเจ้าของท่านจะเป็น หัวหน้าระดับอากาศเทวาขึ้นไป หรือมียศบารมีทิพย์ ที่พอจะเข้าเฝ้าขึ้นไปถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงค์ได้ (อันนี้ตามที่ผมได้ศึกษามานะครับ รอให้ผู้ที่รู้ท่านอื่นมาตอบบ่าง ถ้าผิดพลาดประการใดกับความเชื่อหรือประเพณีผมกราบขอขมามานะที่นี้ด้วยครับ ) ขอบคุณที่รับฟังขอบคุณครับ
     
  6. CharnK

    CharnK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +1,453
    ในฐานะลูกหลานคนจีน ผมคิดว่าพวกเราติดสีลพตปรามาสกันมากเกินไป สิ่งเหล่านี้เป็นขนบธรรมเนียมมาตั้งแต่ในยุคที่คนจีนยังไม่รู้จักพระพุทธศาสนา พวกเราที่โชคดีได้มาอยู่ในแดนแห่งธรรมะที่เป็นกำเนิดแห่งพระอรหันต์หลายพระองค์แล้ว ควรใฝ่หาแก่นของพระศาสนามากกว่าหลงติดยึดมั่นในกระพี้ว่าเป็นสรณะครับ
     
  7. Yurichan

    Yurichan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +97
    เราไหว้ที่ความดีของเทวดาครับ เกิดเป็นเทวดาได้ต้องมีความดีไม่มากก็น้อย เราก็ควรมีมานะทำความดีให้เหมือนเทวดาเหล่านั้นบ้าง เป็นเทวนุสติ ตามคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ของที่ไหว้ก็พอแก่ฐานะ ที่เหลือก็ทำบุญบริจาคทานตามความเชื่อของศาสนาของแต่ละท่าน ทำความดีไม่มีแบ่งศาสนาครับ นรก สวรรค์ พรหม นิพพาน ที่เดียวกันหมด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 กุมภาพันธ์ 2014
  8. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743

    สาธุ ส่วนตัวมองเป็นคนจีนเหมือนกันค่ะ ตั้งแต่เด็กคุณพ่อคุณแม่มักจะพาไปวัดไหว้พระทำบุญและไหว้เจ้าอยู่เสมอๆ แต่พอโตขึ้นก็ได้มาฝึกมโนมยิทธิ ได้รู้จักการทำบุญสังฆทาน และรู้จักการอุทิศส่วนกุศล ทำให้เรามีความเข้าใจในหลายสิ่งหลายอย่างมากขึ้นค่ะ


    ส่วนตัวเรามองอย่างนี้นะคะว่า เจ้าที่เราเคารพบูชาท่านั้น ตอนนี้เราก็ไม่ทราบว่าท่านเป็นเทวดา เป็นพรหม เป็นพระอริยเจ้าเข้าพระนิพพานไปแล้ว หรือว่ายังเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทและเป็นการสร้างบุญกุศลให้เกิดกับเรา เวลาที่ไปไหว้เจ้า เราจะตั้งจิตเคารพในความดีของท่านนั้นๆค่ะ และอุทิศบุญกุศลที่เราทำตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันแก่ท่านทั้งหลายด้วย ซึ่งจุดนี้เรามองว่ามีแต่ได้กับได้แก่ตัวเราค่ะ :)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2014

แชร์หน้านี้

Loading...