สงสัยเรื่อง การนั่งสมาธิตอนกลางคืน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย wingflyaway, 19 พฤษภาคม 2011.

  1. wingflyaway

    wingflyaway สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +0
    **พอดีลองหาหัวข้อกระทู้นี้แล้วไม่เจอน่ะค่ะ เลยมาตั้งกระทู้ ถ้าเคยมีคนตั้งไว้แล้วต้องขออภัยด้วยนะคะ


    คือส่วนตัวตอนวิงก์ฝึกนั่งสมาธิแรกๆจะหัดตอนกลางคืนน่ะค่ะ รู้สึกว่าเป็นช่วงที่สงบที่สุด และผลที่ได้ก็ดีมากๆเลยค่ะ จับสมาธิได้เร็ว.. จิตใจนิ่งสงบกว่าปกติ เคยมีถึงขนาดที่ว่านั่งสมาธิอยู่ จู่ๆก็มีความรู้วูบเข้ามา เป็นความรู้ที่ถูกจัดได้ว่าราวกับเป็น ความลับของจักรวาล


    - แต่ก็เพราะว่ามีอยู่หลายครั้งเช่นเดียวกันค่ะ ที่มีความรู้สึกคล้ายๆ ตกภวังค์ หรือ... คล้ายๆถูกดึงให้ออกจากร่าง ตอนแรกๆกลัวก็เลยมักหลุดจากสมาธิ ต่อไปเริ่มลองพยายามครองสมาธิไว้ แต่ก็ยังฝืน ไม่ไปตามแรงดูดนั้น
    - พอดีเด็กๆเคยมีประสบการณ์อยู่ด้วย ว่าด้วยว่าตัวเองเป็นคนที่สามารถเห็นอะไรที่คนอื่นเขาไม่ค่อยเห็นกันได้... เพื่อนๆทราบเลยเคยลองเล่นพวกคาถาเชิญวิญญาณ(พวกที่เอาไว้เล่นผีถ้วยแก้ว)แล้วเรียกวิญญาณวิงก์ ตอนนั้นก็เกิดความรู้สึกถูกดูดแบบนี้ แต่ตอนที่นั่งสมาธิอยู่ถูกดูดแรงกว่ามาก
    - พออาการนี้เกิด นานๆเข้าจะเห็นแสงสว่างจ้าไปหมด
    -เคยลองพยายามจะปล่อยตัวไปตามความรู้สึกนั้นแต่ก็ทำไม่ได้ค่ะ มักจะตกภวังค์ก่อนทุกครั้ง แต่บางครั้งตกแล้วก็ยังเห็นแสง


    มีความรู้สึกคล้ายว่า... กำลังลอยอยู่ ไม่ว่าจะนอนสมาธิหรือนั่งสมาธิ จะรู้สึกได้ว่าเตียงนอนเรากลายเป็นบางสิ่งคล้ายๆน้ำ และตัวเรากึ่งคล้ายจะสัมผัสกับเตียงแต่ก็ไม่สัมผัสกับมันเช่นเดียวกัน หลายครั้งรู้สึกคล้ายเส้นบางอย่างอยู่ในตัวเราร่วมด้วย เป็นเส้นที่ราวกับเป็นไขสันหลังเรา แต่มันก็ไม่ใช่ มันเย็นๆวูบๆเสียวๆ คล้ายจะส่องแสงได้ บางครั้งมีความรู้สึกกดดันร่วมอยู่ด้วยเล็กน้อยเวลาตกภวังค์



    ทีนี้วิงก์จึงเกิดความสงสัยกับอาการของตัวเอง ก็เลยไปหาข้อมูลตามเว็บไซต์ต่างๆ ไปเจอข้อความของคุณริว จิตสัมผัส กล่าวไว้ว่าจริงๆนั่งสมาธิตอนกลางคืนไม่ดี เพราะอาจจะทำให้เรามีเจ้ากรรมนายเวรเพิ่ม เกิดจากการที่วิญญาณต่างๆพบเห็นเรากำลังสร้างบุญจึงพยายามมาขอบุญหรือเอาบุญเราไป แต่เพราะเอาไปไม่ได้ บาปบุญของใครก็ของมัน ก็เลยกลายเป็นแค้นตามอาฆาต..เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราไปอีกตน


    ด้วยความไม่รู้กระจ่าง เลยเลิกนั่งสมาธิตอนกลางคืนแล้วพันมานั่งตอนกลางวันแทน... แต่ผลที่ได้ก็ไม่ดีเท่าเมื่อก่อนค่ะ มันไม่สงบเท่า จึงทำสมาธิลำบาก ไม่มีการเข้าภวังค์แล้ว แถมเวลาส่วนใหญ่ก็ต้องเรียน ต้องทำงาน บ้างก็ทำงานบ้าน ไม่สะดวกเท่ากลางคืน


    ทั้งนี้ทั้งนั้น จุดประสงค์ที่วิงก์เริ่มมาหัดนั่งสมาธิก็เพราะอยากขมาแก่เหล่าเจ้ากรรมนายเวร ให้เขาอโหสิกรรมให้ ถ้าต้องมีเจ้ากรรมนายเวรเพิ่มก็ไม่อยาก ถึงเลือกเปลี่ยนเวลานั่งสมาธิ
    แต่นั่งมาแล้วเราก็อยากทำให้ดีที่สุด ฝึกแล้วก็อยากฝึกให้แตกฉานกว่านี้ ไม่ใช่เอาแต่นั่งทำจิตนิ่ง เริ่มต้นยังไงก็เริ่มต้นอย่างนั้น


    - จึงอยากขอให้ทุกท่านช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ว่าอาการที่เป็นนั้น จริงๆมันเป็นอะไร... ดีแล้วหรือไม่ แก้ยังไง
    - แล้วถ้าอยากกลับมาทำสมาธิตอนกลางคืนจะเป็นอันตรายต่อการขอขมาเจ้าการนายเวรหรือไม่ จะมีเจ้ากรรมนายเวรเพิ่มได้จริงหรือเปล่า
    - มีใครทำสมาธิตอนกลางคืนบ้างคะ ผลเป็นเช่นไรบ้าง
     
  2. Ongsathit

    Ongsathit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +572
    -การเจริญภาวนาไม่ได้ขึ้นอยู่กับกลางวันกลางคืนหรอก ไม่เกี่ยวกับเจ้ากรรมนายเวรด้วย
    -ธรรมะ ของพระพุทธเจ้าไม่มีกาล
     
  3. เขามอ

    เขามอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +539
    สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม พระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว : สันธิฐิโก เป็นธรรมที่ ผู้ศึกษา และ ปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง : อะกาลิโก เป็นธรรมที่ปฏิบัติได้ และ ให้ผลได้ไม่จำกัดกาล ผมเองจะปฏิบัติ วิปัสนา กรรมฐาน ทุกคืน เพราะกลางวันต้องประกอบอาชีพ หาเลี้ยงครอบครัว สงบดีครับเสียงรบกวนน้อย ถ้าวันหยุด มีเวลาว่างก็ปฏิบัติกลางวันด้วย แรก ๆ ก็โดนสิ่งลึกลับลองของบ้างนิดหน่อย ท่านหลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ เคยกล่าวไว้ว่า บางครั้งเป็นเทวดา หรือ เพื่อน หรือ ญาติเรา มาล้อเล่น เวลา ออกจาก วิปัสนา กรรมฐานแล้ว ก็แผ่เมตตา อุทิศบุญกุศล ให้ เจ้ากรรม ฯ ญาติที่ตายไปแล้ว เทวดาทั้งหลาย ที่คุ้มครองเรา ภูมิเทวดาที่ดูแลพื้นที่ ที่เราอาสัยอยู่ พวกนี้เขารออนุโมทนาในบุญกุศลของเราอยู่แล้ว ขอให้กำลังใจปฏิบัติต่อไปครับ อย่าไปกลัวครับ ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ปฏิบัติธรรม
     
  4. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    หากการปฏิบัติธรรม (ปรมัตถธรรม) ขึ้นอยู่กับเจ้ากรรมนายเวรอย่างมีผู้วาดภาพในใจนั่น ปรมัตถธรรม ซึ่งเป็นไปตามเหตุปัจจัยก็มีไม่ได้ พระพุทธเจ้าก็คงต้องรอให้เจ้ากรรมนายเวรโปรดปรานประธานความสำเร็จให้ แต่ไม่ใช่ พระพุทธเจ้าทรงเพียรพยายามด้วยพระองค์เองจนคืนวันตรัสรู้พระองค์ตั้งพระทัยเด็ดเดี่ยว...ดังนั้นความคิดว่ามีเจ้ากรรมนายเวรกลั่นแกล้งยังงั้นยังงี้ จึงเป็นความเห็นผิดประการหนึ่ง แล้วก็รวมถึงความเห็นผิดว่า การนั่งสมาธิจะต้องทำตอนกลางคืนด้วย (มีบางแห่งว่าสอนให้นั่งกลางวัน ไม่ให้นั่งกลางคืน) นี่ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ ฯลฯ

    ตอนนี้สิ่งที่จะต้องแก้ เพื่อมิให้สังขารขันธ์ปรุงแต่งให้เป็นนั่นนี่อีกต่อไป พึงแก้ด้วยกำหนดรู้สภาวะนั้นๆตามที่มันเป็นตามที่ปรากฎแก่เรา ณ ขณะนั้นแต่ละขณะๆ

    สงสัยเรื่องนั่งสมาธิตอนกลางคืน


    นำวิธีแก้อารมณ์จากลิงค์นี้ไปใช้ได้เลย

    http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=24320&start=15
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2011
  5. justonelife

    justonelife เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +190
    ติดใจข้อความนี้ครับ "ไปเจอข้อความของคุณริว จิตสัมผัส กล่าวไว้ว่าจริงๆนั่งสมาธิตอนกลางคืนไม่ดี เพราะอาจจะทำให้เรามีเจ้ากรรมนายเวรเพิ่ม เกิดจากการที่วิญญาณต่างๆพบเห็นเรากำลังสร้างบุญจึงพยายามมาขอบุญหรือเอาบุญเราไป แต่เพราะเอาไปไม่ได้ บาปบุญของใครก็ของมัน ก็เลยกลายเป็นแค้นตามอาฆาต..เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราไปอีกตน"

    รบกวนผู้รู้ ผู้มีธรรม ช่วยไขข้องใจครับ เพราะมันทำให้คนอยากนั่งสมาธิไม่กล้านั่ง หากการนั่งสมาธิตอนกลางคืนเป็นการเพิ่มเจ้ากรรมนายเวร ผมว่าก็ไม่ต้องไปทำดีอะไรแล้วครับ เท่าที่รู้มาการนั่งสมาธิ ภวานา ทำจิตใจให้สงบ เป็นอานิสงค์ที่มหาศาลที่สุด แล้วเหตุไฉนการเป็นการสร้างกรรมไปเสีย
     
  6. เขามอ

    เขามอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +539
    คุณ wingflyaway ลองไปหาดาวน์โหลด ไฟล์เสียง เทศนา ของหลวงพ่อ พุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน ท่านตอบปัญหา เรื่อง การนั่งสมาธิ ไว้ละเอียดมาก ปัญหาที่พบนั้น มีคำตอบหมดครับ น่าจะเป็นเว็ป ธรรมจักร.เน็ต ส่วนของเทศนา ครูอาจารย์ ขออนุโมทนา ในบุญกุศล ที่ได้ปฏิบัติตามพระธรรมของ พระผู้มีพระภาคเจ้า ครับ
     
  7. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    เราเป็นศิษย์พระพุทธเจ้า เชื่อพระพุทธเจ้าสิครับอย่าไปเชื่อคนอื่น
    พระพุทธเจ้าตอนที่จะตรัสรู้ ท่านก็บำเพ็ญสมาธิกลางคืนครับ ไม่เห็นท่านจะมีอะไรไม่ดีนี่ครับ

    พระอรหันต์ทั้งหลายที่เมื่อท่านนิพพานแล้ว ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก ได้หลุดพ้นจากเจ้ากรรมนายเวรไปตลอดกาล ท่านถึงอรหัตผลได้ก็เพราะมีความเพียรในการทำสมาธิทั้งกลางคืนกลางวัน แต่ก็ไม่ได้ทำจนตึงไปจนฝืนการพักผ่อนของร่างกาย

    ถ้ายังไม่สบายใจ ทำสมาธิกลางคืนแล้ว ก็ใช้บทอุทิศส่วนกุศลของวัดท่าซุงสิครับ ลองเซิร์จดูนะครับ ในบทนี้มีการอุทิศกุศลจากการทำบุญซึ่งรวมถึงการทำสมาธิให้ผลบุญถึงแก่เจ้ากรรมนายเวร และในบทมีการขออโหสิกรรมเค้าด้วยด้วย ดังนั้นแนะนำให้ทำสมาธิกลางคืนแล้วอุทิศกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรบ่อยๆดีกว่านะครับ ได้สองต่อเลย เพราะเจ้าของกระทู้ก็จะได้สะสมบารมีจากการทำสมาธิเพื่อไปสู่ความพ้นทุกข์อย่างถาวรได้ง่าย แถมยังได้อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรและขออโหสิกรรมเค้าด้วย เจ้ากรรมนายเวรน่าจะลดไปเยอะเลยครับ
     
  8. wingflyaway

    wingflyaway สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +0
    วิงก์ก็ไม่ทราบค่ะ อาจเป็นไปได้ว่ามีผู้แอบอ้าง... ว่าเองเออเองแล้วนำชื่อของคนมีชื่อเสียงมาเสริมความน่าเชื่อถือก็ได้ พอเราไปอ่านก็เลยเชื่อตามนั้นอีก วิงก์เองก็สงสัยตอนที่พบเหมือนกันค่ะ แต่ก็กันไว้... มาจนถึงทุกวันนี้ผ่านไปจะครึ่งปีแล้วเห็นจะได้ ถึงได้มาตั้งกระทู้ถาม
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,435
    ค่าพลัง:
    +35,463
    เจ้ากรรมนายเวรจะมาเพิ่มก็ให้เค้ามาเลยครับมาเยอะๆเลยยิ่งดีครับ....ดีซะอีกซิครับที่เค้ามาได้ เราก็อุทิศส่วนกุศลให้เค้าไปครับ.คุณ ริวพูดนั่นเป็นประสบการณ์ส่วนบุคคล อาจจริงในส่วนที่เค้าพบ..แต่เจ้ากรรมนายเวรถ้าเค้าจะมาเค้าไม่เลือกเวลาหรอกครับ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะสัมผัสได้หรือเปล่าเท่านั้นว่าเค้ามา...และคุณริวเค้าก็ไม่บอกวิธีการแก้ไขใช่ไหมหละครับ.. มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอกครับ..อุทิศส่วนกุศลไปถ้าเค้ารับได้จริงๆเค้าจะไม่มาให้เห็นอีกครับ..ส่วนเรื่องอาการอย่างนั้นตอนทำสมาธิ..เป็นอาการปกติที่สามารถเป็นได้แม้ในขณะเวลานอนหลับ.เป็นช่วงที่สมาธิไม่มากเท่าไร.แต่เป็นช่วงที่จิตมีความเป็นทิพย์เฉยๆ.ไม่มีอะไรอีกครับ.และอาการแบบนี้หละครับที่เราจะพบจะเห็นอะไรได้ หรือติดต่อได้..ยังไม่เข้าปฐมฌานอีกประมาณ 7ถึง 8 ขั้นตอนกว่าจะถึงจุดที่จิตแยกกับกายครับ.หลักคือ ไม่ต้องไปคิด.สักแต่ว่ารู้ แต่ว่าเห็นก็พอและไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ ว่ากลางวัน กลางคืน.สนใจเพียงแต่ตัวเราก็พอดูความเหมาะสม ดูเวลา ดูสภาพแวดล้อมและ มาดูจิตใจเราก็พอ.การเชื่อต้องประกอบด้วยเหตุด้วยผลและพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง...จะเชื่อก็เชื่อหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าดีที่สุดแล้วครับ..แม้แต่ครูบาร์อาจารย์เก่งๆ ก็อ้างอิงพระองค์ท่านทั้งนั้น..
    เป็นกำลังใจให้นะครับ..คุณอาจจะรู้สึกแปลกๆเฉยๆครับกับอาการอย่างนี้ใหม่ๆมีโอกาสเป็นได้ทุกคนครับ เดี๋ยวก็ชินเองครับ..อย่าไปคิดนะครับเดี๋ยวสมาธิจะไม่ก้าวหน้า...เป็นกำลังใจให้ครับ..
    อนุโมทนาครับ...
     
  10. amornvut

    amornvut Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +82
    ถ้าจะมาเพิ่มอ่ะน่ะ จะกลางวันกลางคืนก็เพิ่มได้
    เรานั่งสมาธิ บุญกุศลมหาศาลมากมาย เราให้ไปมันไม่ได้ลดลงเลย
    พวกเค้ามาขอบุญกุศล ก็เหมือนมีคบเพลิงแต่ไม่มีไฟ
    เราทำสมาธิภาวนา ก็เหมือนคบเพลิงที่จุดไฟ
    มันอยู่ที่คุณอธิษฐานหรือแผ่เมตตาให้เค้ายังไง


    มีอยู่เรื่องหนึ่ง (ย่อๆ)
    มีพระท่านกำลังเดินจงกรมอยู่ แล้วเทวดาเห็นเข้า
    ก็เลยถามพระองค์นั่นว่า พระคุณเจ้าท่านกำลังทำกิจใดอยู่
    เรากำลังเดินจงกรมอยู่ เทวดาเลย สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญด้วย

    สภาวะที่มันเกิดขึ้น มันยังไม่ชิน มันยังไม่คุ้น มันยังไม่เคย
    อย่าไปติดกลางวัน กลางคืน จะที่ไหนๆก็นั่งได้
    ถ้าจิตมันฝึกมาดีแล้ว มันไม่หวั่นไหวหรอก
    ก่อนจะนั่งสมาธิ ขอให้ลืมความรู้สัญญาจำความให้หมด
    ทำแบบไม่รู้ ฝึกความเพียรเยอะนะครับ
    อธิบายให้ละเอียดยังไง ก็ไม่เท่ากับคุณปฏิบัติ รู้ เห็นเอง
     
  11. amornvut

    amornvut Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +82
    (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)

    เรื่องธรรมะเป็นของเห็นได้ยากเหมือนกัน

    ธรรมะมีประจำไม่ใช่เฉพาะบุคคลเท่านั้น
    แท้จริงธรรมะเป็นของมีอยู่ทั่วหมดในโลกอันนี้
    ที่ท่านเรียกว่ารูปธรรม นามธรรมนั่นเอง

    ที่คนมองเห็นได้ยากก็เพราะพื้นฐานภูมิของใจมันยังมืดอยู่ด้วยกิเลส
    ซึ่งไม่สามารถจะรับรองหรือรับเอาธรรมะนั้นมาไว้คิดพิจารณาค้นคว้า
    ได้แก่ใจยังไม่สงบ

    ความสงบของใจเป็นพื้นฐานที่ตั้งของธรรมะ ธรรมะเป็นความสงบ

    คือคนเราโดยมากหาธรรมะ มีแต่คิดส่งส่ายออกไปภายนอก ถึงรู้ก็ตามเถิด

    รู้ตามปริยัติที่บัญญัติไว้ในตำรา
    หรือว่าพิสูจน์ตามหลักฐานคือศัพท์หรือคำบาลีนั้น
    ยังไม่ใช่ตัวธรรมะที่แท้จริง

    เป็นแต่รู้ตามตำรา
    จะเอามาใช้ให้ได้ประโยชน์อย่างแท้จริงยังไม่ได้ก่อน

    ต่อเมื่อรู้ด้วยปัจจัตตังเฉพาะตนเท่านั้น
    จึงจะนำเอามาใช้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่

    ฉะนั้นจึงเป็นของเห็นได้ยาก

    อนุโมทนาด้วยนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...