สมเด็จพระนเรศวรทรงตรัสประกาศต่อเทพยดาทั้งปวง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ธัมมนัตา, 28 กันยายน 2007.

  1. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +9,768
    ในวันจันทร์แรม 2ค่ำ เดือนยี่ พ.ศ.2135 สมเด็จพระนเรศวรกับสมเด็จพระเอกาทศรถทรงเครื่องพิชัยยุทธ ให้ผูกช้างพระที่นั่งชื่อพลายภูเขาทองขึ้นระวางเป็นเจ้าพระยาไชยานุภาพเป็นพระคชาธารของพระองค์มีเจ้ารามราฆพเป็นกลางช้างนายมหานุภาพเป็นควาญอีกช้างหนึ่งชื่อพลายบุญเรืองขึ้นระวางเป็นเจ้าพระยาปราบไตรจักรเป็นพระคชาธารสมเด็จพระเอกาทศรถมีหมื่นภักดีศวรเป็นกลางช้างขุนศรีคชคงเป็นควาญ พร้อมด้วย นายแวงจตุลังคบาทพวกทหารคู่พระทัยสำหรับรักษาพระองค์
    <O:p</O:p
    ขณะนั้นเสียงปืนจากการปะทะกัน ระหว่างทัพหน้าของไทย กับทัพหน้าของพม่าดังขึ้นพระองค์จึงดำรัสให้จมื่นทิพเสนาปลัดกรมตำรวจ เอาม้าเร็วไปสืบข่าว ได้ความว่าพระยาศรีไสยณรงค์ได้ยกกำลังออกไป และได้ปะทะกับข้าศึกที่ตำบลดอนเผาข้าวเมื่อเวลาเช้าฝ่ายข้าศึกมีกำลังมากต้านทานไม่ไหว จึงแตกถอยร่นมาสมเด็จพระนเรศวรจึงปรึกษาแม่ทัพนายกองว่า สถานการณ์เช่นนี้ควรจะทำอย่างไรบรรดาแม่ทัพนายกองทั้งหลายกราบทูลว่า ควรให้มีกองทัพหนุนออกไปช่วยต้านทานข้าศึกไว้ให้อยู่เสียก่อนแล้วจึงให้ทัพหลวงออกมาตีภายหลังสมเด็จพระนเรศวรไม่ทรงเห็นชอบด้วยมีพระดำรัสว่า กองทัพแตกลงมาเช่นนี้แล้วจะให้กองทัพไปหนุน ไหนจะรับไว้อยู่มาปะทะกันเข้าก็จะพากันแตกลงมาด้วยกันควรที่จะล่าถอยลงมาโดยเร็วเพื่อปล่อยให้ข้าศึกยกติดตามมาอย่างไม่เป็นกระบวนพอได้ทีให้ยกกำลังส่วนใหญ่เข้าโจมตีข้าศึก ก็คงจะได้ชัยชนะโดยง่ายสมเด็จพระนเรศวรจึงมีรับสั่งให้จมื่นทิพเสนา กับ จมื่นราชามาตย์ขึ้นม้าเร็วรีบไปประกาศแก่พวกกองทัพหน้าของไทยว่าอย่าได้รั้งรอข้าศึกให้รีบล่าถอยหนีไปโดยเร็วกองทัพหน้าของพระยาศรีไสยณรงค์ก็พากันถอยหนีไม่เป็นกระบวน ข้าศึกเห็นดังนั้นก็พากันรุกไล่ลงมาด้วยเห็นได้ที จนไม่เป็นกระบวนเช่นกัน
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
  2. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +9,768

    สมเด็จพระนเรศวรสงบทัพหลวงรออยู่จน 11 นาฬิกาเห็นข้าศึกตามลงมาไม่เป็นกระบวน ก็สมคะเน ทรงดำรัสสั่งให้บอกสัญญาณกองทัพทั้งปวงให้ยกออกตีข้าศึกพระองค์และพระเอกาทศรถ ยกกองทัพหลวงเข้าโอบกองทัพหน้าข้าศึกทัพท้าวพระยาอื่น ๆ ได้ทราบกระแสรับสั่งได้เร็วบ้างช้าบ้างเนื่องจากเหตุการณ์กระทันหัน มีเวลาน้อยมากทำให้ยกไปไม่ทันเสด็จเป็นส่วนมากคงมีแต่กองทัพพระยาสีหราชเดโชชัยกับกองทัพเจ้าพระยามหาเสนาซึ่งเป็นปีกขวาตามกองทัพหลวงเข้าจู่โจมข้าศึกกองทัพหน้าของพม่าไม่คาดว่าว่าจะมีกองทัพไทยไปยอทัพก็เสียทีแตกหนีอลหม่าน<O:p</O:p

    เหตุการณ์ตอนนี้มีเรื่องบันทึกไว้ในบางแห่งว่าขณะที่สมเด็จพระนเรศวรประทับรอฟังข่าวทัพหน้าอยู่นั้น ได้บังเกิดเมฆเยือกเย็นตั้งเค้ามืดอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือแล้วกลับกลายเป็นเปิดโล่งเห็นดวงตะวันสาดแสงสว่างกระจ่างตาสมเด็จพระนเรศวรและสมเด็จพระเอกาทศรถทรงเคลื่อนทัพตามเกล็ดนาคซึ่งตามตำราพิชัยสงครามได้กำหนดไว้ว่าในวันใดหัวนาคและหางนาคอยู่ทางทิศใดต้องไปตั้งทัพทางหัวนาคแล้วเคลื่อนทัพไปทางหางนาคเป็นการเคลื่อนที่ตามเกล็ดนาคไม่ให้เคลื่อนที่ย้อนเกล็ดนาคเมื่อช้างพระที่นั่งของทั้งสองพระองค์ได้ยินเสียงฆ้องกลองรบและเสียงปืนที่ทั้งสองฝ่ายยิงต่อสู้กันก็เกิดความคึกคะนองด้วยเหตุที่กำลังตกมันแล้ววิ่งถลันเข้าไปในหมู่ข้าศึกควาญไม่สามารถคัดท้ายอยู่บรรดาแม่ทัพนายกองและไพร่พลทั้งปวงตามเสด็จไม่ทันผู้ที่สามารถตามเสด็จไปด้วยได้คงมีแต่ผู้ที่มีหน้าที่อยู่ประจำช้างพระที่นั่งคือกลางช้าง ควาญช้างและจตุลังคบาท ที่มีหน้าที่รักษาเท้าช้างสมเด็จพระนเรศวรและสมเด็จพระเอกาทศรถทอดพระเนตรเห็นข้าศึกมีกำลังมากมายไม่เป็นทัพเป็นกองจึงทรงไสช้างพระที่นั่งเข้าชนช้างข้าศึกเหล่าข้าศึกพากันระดมยิงอาวุธมาดังห่าฝนแต่ไม่ถูกช้างทรง <O:p</O:p


    ทันใดนั้นก็บังเกิดตะวันตลบมืด ท้องฟ้ามืดมิดราวกับไม่มีแสงตะวันจนมองไม่เห็นกัน<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2007
  3. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +9,768
    สมเด็จพระนเรศวรทรงเห็นดังนั้นตรัสประกาศแก่เทพยดาทั้งปวงว่า
    <O:p</O:p

    "ให้เราบังเกิดมาในประยูรมหาเศวตฉัตรจะให้บำรุงพระ บวรพุทธศาสนาไฉนจึงมิช่วย ให้สว่างแลเห็นข้าศึกเล่า"


    พอตกพระโอษฐ์ลงบังเกิดเหตุอันเป็นอัศจรรย์อาถรรพณ์ พิศดารในบัดดล พระพายได้พัด โหมแรงจัดพัดควันอัน หมอกควันนั้นสว่างไปทั้งทุ่ง ทอดพระเนตรเห็นช้างเศวตฉัตร ๑๖ ช้าง มีช้างดั้งช้างกันยืน อยู่เป็นอันมาก แต่มิได้เห็นพระมหาอุปราชา ครั้นเหลือบไป ฝ่ายทิศขวา พระหัตถ์ เห็นช้าง เศวตฉัตรช้างหนึ่งยืนอยู่ ณ ฉายาไม้ข่อย มีเครื่องสูง และ ทหารหน้า ช้างมาก ก็เข้าพระทัยว่าช้างพระมหาอุปราชา พระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ ก็ขับพระ คชาธาร ตรงเข้าไป ทหารหน้าช้างข้าศึกต่างวางปืน จ่ารงมณฑกนกสับตะแบงแก้ว ระดมยิง เป็นห่าฝน แต่กระสุนปืน หาไดัต้อง พระวรกาย และพระคชาธาร แม้สักนัดเดียว ประหนึ่งมี ม่านแก้ว อาถรรพณ์สกัด กั้นไว้ <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2007
  4. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +9,768
    สมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้า ตรัสร้องเรียกด้วย พระสุรเสียง อันดังว่า<O:p</O:p

    'พระเจ้าพี่เรา จะยืนอยู่ใยในร่มไม้เล่าเชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกันให้เป็น เกียรติยศ ไว้ในแผ่นดิน เถิด กาลภายหน้าไปไม่มีกษัตริย์ที่จะได้ทำยุทธหัตถีอีกแล้ว' <O:p</O:p

    พระมหาอุปราชาได้ฟังดังนั้น ละอายพระทัยยิ่งนัก มีขัตติยราชมานะบ่าย พระคชาธาร ออกมารับ เจ้าพระยา ไชยานุภาพ เห็นช้างข้าศึกก็เร็วไปด้วยมีน้ำมันมิทันยั้ง จึงเสียทีพลาย พัทกอ ได้ล่าง แบก ลุนมา พระมหา อุปราชา ฉวยนาทีทอง จ้วงฟันด้วยพระแสง ของ้าว หมายที่พระเศียร สมเด็จพระนเรศวรทรงเบี่ยงพระองค์ หลบทัน พระแสง ของ้าวจึงฟัน ปีกพระมาลาขาดโดยที่ พระแสงของ้าวมิได้ต้องพระองค์ หลังจากเสียที พระคชาธาร พลายพัทกอ ที่พระ มหาอุปราชาทรงอยู่ พระคชาธารเจ้าพระยา ไชยานุภาพที่ สมเด็จ พระนเรศวร ทรงกลับได้เปรียบ สบัดลงได้ล่าง แบกถนัด พลายพัทกอ เบี่ยงเบนไป เป็น จังหวะที่ สมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้า ได้ที จ้วงฟันด้วยพระแสงพลพ่าย ต้อง พระอังสะ เบื้องขวาของพระมหาอุปราชาตลอดลงมา จนปัจฉิมุรา ประเทศซบลงกับคอช้าง ขณะเดียว กันกับ มหานุภาพ ควาญพระคชาธารพระนเรศวรต้องปืนข้าศึกตาย ระหว่าง สมเด็จ พระนเรศวรเป็นเจ้าทำยุทธหัตถี กับพระมหาอุปราชา.<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Yuthahathi.JPG
      Yuthahathi.JPG
      ขนาดไฟล์:
      71.6 KB
      เปิดดู:
      2,823
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2007
  5. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +9,768
    เหตุการณ์ในตอนนี้ วันวลิตได้บรรยายไว้ว่า
    ช้างข้าศึกพยายามเอางาเสยพระคชาธารให้ถอยห่างอยู่ตลอดเวลาแต่ในที่สุดพระคชาธารซึ่งเล็กกว่าก็ได้ทีช้างข้าศึกโดยช้างข้าศึกไม่ทันรู้ตัวขึ้นเสยช้างข้าศึกแล้วเอางวงตีด้วยกำลังแรงยิ่งนักจนช้างข้าศึกร้องขึ้นกษัตริย์มอญก็ตกพระทัยกษัตริย์ไทยเห็นได้ทีก็เอาพระแสงขอตีต้องพระเศียรกษัตริย์มอญแล้วใช้พระแสงทวนแทงจนกษัตริย์มอญตกช้างสิ้นพระชนม์แล้วทรงจับช้างทรงของกษัตริย์มอญนั้นไว้ได้ ทหารรักษาพระองค์ซึ่งตามมาโดยไม่ช้าก็แทงชาวโปรตุเกส ซึ่งนั่งอยู่เบื้องหลังกษัตริย์มอญนั้นตายเมื่อกองทัพมอญเห็นกษัตริย์ของตนสิ้นพระชนม์ก็พากันล่าถอยไม่เป็นกระบวนกองทัพไทยก็ไล่ติดตามไปอย่างกล้าหาญจับเป็นได้เป็นจำนวนมากฆ่าตายเสียก็มากที่เหลือนั้นก็แตกกระจัดกระจายไปประดุจแกลบต้องลมทหารมอญหลายพันคนต้องตกค้างอยู่และเมื่อต้องถอยทัพกลับโดยที่ขาดแคลนเสบียงอาหารจึงกลับไปถึงเมืองมอญได้น้อยคนนัก
    สมเด็จพระนเรศวรมีชัยในการกระทำยุทธหัตถีครั้งนี้พระเกียรติยศได้เลื่องลือไปทั่วทุกประเทศในชมพูทวีปด้วยถือเป็นคติมาแต่โบราณว่าการชนช้างเป็นยอดวีรกรรมของนักรบเพราะเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัว มิได้อาศัยกำลังพลหรือกลยุทธใดๆเป็นการแพ้ชนะกันด้วยฝีไม้ลายมือและความแกล้วกล้านอกจากนั้นโอกาสที่จะมีเหตุการณ์ดังกล่าวก็มีน้อยดังนั้นถ้ากษัตริย์พระองค์ใดกระทำยุทธหัตถีได้ชัยชนะก็จะได้รับความยกย่องว่ามีพระเกียรติยศอย่างสูงสุดถึงเป็นผู้แพ้ก็ได้รับการยกย่องสรรเสริญว่าเป็นนักรบแท้

    <O:p
    การที่ทรงได้ชัยชนะอย่างงดงามในครั้งนี้เป็นที่เลื่องลือไปทั่วทุกทิศานุทิศตลอดทั่วเขตแดนสุวรรณภูมิข้าศึกศัตรูไม่หาญกล้ามาเบียดเบียนราชอาณาจักรไทยอีกเลยถึง 160 ปี เป็นการสร้างรากฐานให้กรุงศรีอยุธยาได้มีโอกาสพัฒนาบ้านเมืองจนเป็นยุคทองในวลาต่อมา </O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2007
  6. ร่มโพธิ์

    ร่มโพธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,952
    ข้าพระพุทธเจ้า...และเหล่าบรรดาสมาชิกเวปพลังจิต ขอกราบแทบพระบาทของพระองค์ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้...ด้วยปกป้องผืนแผ่นดินไทยไว้ให้ชนรุ่นหลังได้สืบทอดต่อกันมาจนเป็นชาติไทยอยู่ได้จนทุกวันนี้...ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2007
  7. nutnun_k

    nutnun_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +1,021
    อ่านแล้วน้ำตาไหล มาอยู่เมืองนอก คนไทยบางคนอายที่จะเป็นคนไทย ไม่สามัคคีกันเลย
     
  8. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +9,768
    เชิญทุกท่านร่วมทำบุญบวงสรวงให้พระองค์ท่าน 7 ตุลาคม 2550 ที่วัดวรเชษฐ์ อยุธยา
    ครั้งนี้คือการบวงสรวงใหญ่ อาจเรียกได้ว่าไม่เคยจัดมาก่อนหน้านี้ เพราะวัดถูกทิ้งร้างมาไม่ต่ำกว่า 240 ปี หลังเสียกรุงครั้งที่สองในปีพ.ศ.2310
    สภาพวัดถูกเผาทำลายขนาดหนัก แต่ความมหัศจรรย์พระปรางค์ประธานองค์ใหญ่ยังโดดเด่นเป็นสง่าอยู่คู่วัดมากว่า 400 ปีแล้ว
    การทำบุญครั้งนี้จึงมีความหมายมากดังนี้
    1.เป็นการสืบพระศาสนาให้ครบ 5000 ปี และถวายเป็นพระราชกุศลให้พระมหากษัตริย์ของอยุธยา

    2.เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาแด่องค์พระมหากษัตริย์และบรรพบุรุษที่ได้กอบกู้ชาติจนมาถึงเรา ณวันนี้ ถ้าไม่มีพวกท่านเหล่านั้น จะไม่มีแผ่นดินในวันนี้
    3.เป็นการรวมพลครั้งยิ่งใหญ่ของ ขุนพล ไพร่ฟ้า เสนา ทั้งหลาย ที่เคยร่วมทุกข์สุขกันมาแต่เก่าก่อน
    4.เป็นการสืบต่อชะตาประเทศ เพราะพลังแห่งบุญนี้จะส่งผลถึงเทพยดาที่ปกป้องรักษาบ้านเมืองให้พ้นทุกข์ร้อนและมีความร่มเย็นต่อไป
    5.เป็นการวางแผนการพัฒนาวัดวรเชษฐ์อย่างเป็นรูปธรรมให้เป็นจริง หลังถูกทิ้งมานาน 400 ปี
    ให้ทางราชการเห็นว่ามีผู้ที่จงรักภักดีพร้อมที่จะร่วมสนับสนุนพัฒนาวัดต่อไป
    6.เป็นสัญญลักษณ์ บอกให้พวกนอกศาสนาที่ไม่หวังดี ให้รู้ว่าสิ่งที่เขาพยายามทำลายวัดอยู่ไม่มีทางทำได้ ธรรมะย่อมชนะอธรรมเสมอ

    หากท่านไม่ติดภารกิจใดขอเชิญมาวัด ทำบุญร่วมกันครับ

    *ใครมีกล้องวีดีโอ โปรดเตรียมไว้ อาจมีเหตุการณ์มหัศจรรย์ที่ท่านคาดไม่ถึงเกิดขึ้น
     
  9. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,015
    ค่าพลัง:
    +17,915
    อนุโมทนาด้วยครับ...อ่านบทความนี้แล้ว...บังเกิดขนลุกซู่อยุ่นานเลยทีเดียว...^O^
     
  10. dark-green

    dark-green เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +310
    Sa - tu - na - ja. I love thai history.
     
  11. อหิงสกะกุมาร

    อหิงสกะกุมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +145
    มหัศจรรย์ยิ่งขอรับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...