สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร(สุก ไก่เถื่อน)ทรงเป็นเลิศในการเขียนและลบผงอิทธิเจ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย นะมัตถุ โพธิยา, 3 พฤษภาคม 2010.

  1. นะมัตถุ โพธิยา

    นะมัตถุ โพธิยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +2,269
    [​IMG]

    สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร มหาเถรเจ้า (สุกไก่เถื่อน)
    ทรงเป็นเลิศใน
    การเขียนและลบผงอิทธิเจ

    พระอาจารย์สุก
    พระองค์ท่านทรงมีความรู้เกี่ยวกับวิชาการ อันเกี่ยวเนื่องกับพระ
    กรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ จากผลพลอยได้อันเกิดมาจากการปฏิบัติพระกรรมฐาน ทั้ง

    วิชาการทางจิตทุกแขนง เช่น

    การเขียนผงอิทธิเจ ใช้ผงผสมทำ พระอรหัง
    ทรงทราบวิชาสูรยกลา จันทกลา
    วิชาหุงปรอทกายสิทธิ์
    วิชาการทำกระสุนคด
    การลงอักขระเลขยันต์
    วิชาทำธาตุกรรมฐานต่างๆ

    พระองค์ท่านจะทรงถ่ายทอดให้ เพื่อให้หายสงสัย
    ถ่ายทอดวิชาไปแล้ว ผู้รับการถ่ายทอดทำได้สำเร็จแล้ว
    พระองค์ท่าน ก็จะกล่าวสอนว่า

    ขอให้เอาไปใช้ ให้เป็นประโยชน์ต่อพระศาสนา


    ต่อมา ภิกษุสัทธิวิหาริก ของพระองค์ท่านทุกองค์ เมื่อสภาวะจิตถึงขั้นหลุดพ้น
    แล้ว ก็ไม่ได้ทำสิ่งนี้อีก

    พระอาจารย์สุก ครั้งสถิตวัดท่าหอยนั้น พระองค์ท่าน นอกจากจะบอกพระ
    กรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับแล้ว พระองค์ท่านยังบอกพระบาลีมูลกัจจายน์อีกด้วย
    สัทธิวิหาริกของพระองค์ท่านทุกองค์จะต้องเรียนพระบาลีมูลกัจจายน์ ตาม
    กำลังสติปัญญา เมื่อถึงสามพรรษาแล้ว พระภิกษุองค์ใดชอบทางไหนก็ไปศึกษาทางนั้น
    ทั้งคันถะธุระ และวิปัสสนาธุระควบคู่กันไปทั้งสองทาง

    การศึกษาพระบาลีคัมภีร์มูลกัจจายน์ ต้องศึกษาไปพร้อมด้วยองค์สี่คือ สุ คือการ
    ฟัง จิ การคิด ปุ การถาม ลิ การเขียน พร้อมด้วยองค์สี่ฉะนี้แล้ว การศึกษาพระบาลี
    มูลกัจจายน์ จึงสมบูรณ์แบบ

    หลักการเขียนพระบาลีมูลกัจจายน์นั้น เขียนด้วยอักษรขอม-บาลี ตัวอย่างเช่น
    อี มักรัสสะ เป็น อิ, เช่น กรี ลง อาคม เป็น สิ เป็น อกาสิ บ้าง หรือ อุง ลง อาคม
    เป็น สุง เช่น อาโรเจสุง แปลงเป็น อังสุง เช่น อกังสุ บ้าง และแปลงเป็น อิงสุ กริงสุ บ้าง

    ต่อมาแปลงจากขอมบาลีมูลกัจจายน์ มาเป็นตั้ง นะ โม พุท ธา ยะ
    และลบ นะโมพุทธายะ เป็นต้น จะเขียนแบบนี้ด้วยตัวขอม บนกระดานชนวน หรือกระดานไม้ลงลัก
    ขียนด้วยแท่งดินสอพองที่ละลายน้ำกรองสะอาดแล้ว นำเอาแท่งดินสอพองมาผสมกับน้ำข้าวปั้นเป็นก้อน

    อยู่มาวันหนึ่ง ภิกษุสัทธิวิหาริก เขียนเรียกสูตร เรียกนาม ตามพระคัมภีร์
    มูลกัจจายน์ เขียนแล้วเกิดไม่ติด จึงมารายงานพระอาจารย์สุก
    พระองค์ท่านทรงทราบเหตุจึงบอกให้ไปพลิกด้านหลังกระดานดู
    ภิกษุสัทธิวิหาริกนั้น ก็เห็น อักขระขอมทั้งหลายมาติดอยู่หลังกระดาน
    ภิกษุสัทธิวิหาริกนั้นจึงนำมาให้ท่านดู พระองค์ท่านก็กล่าวว่า
    ที่เป็นทั้งนี้ เพราะสมาธิจิตของท่านดี จึงติดทะลุไปด้านหลัง


    พร้อมกันนั้น พระอาจารย์สุกกล่าวว่า เมื่อท่านลบผงดินสอนี้ออกจากกระดาน
    แล้ว อย่าเอาไปทิ้ง เพราะมีอำนาจพระพุทธคุณอยู่ เหตุที่เป็นดังนี้ เพราะพระภิกษุ
    สัทธิวิหาริก ของพระองค์ท่านได้ศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ

    ครั้งนั้น พระอาจารย์สุก ดำริว่า สัทธิวิหาริกของท่านองค์นี้ มีแววทางนี้ จึง
    แนะนำให้ท่านเขียนผงขึ้น เพื่อเป็นการฝึกฝน สมาธิจิตให้กล้าแข้งกว่านี้ และเพื่อเป็น
    การระลึกนึกถึงพระพุทธคุณอยู่เนื่องๆด้วย จะได้ใช้เป็นบาทฐานของวิปัสสนาได้ดี
    กว่าเดิม

    พระองค์ท่านทรงแนะนำให้ตั้ง และลบอักขระ นะโม พุท ธา ยะ หรือ
    พระเจ้าห้าพระองค์ ดังนี้

    กาโรโหติสัมภะโว จงมาบังบังเกิดเป็น พระเจ้าห้าพระองค์ นะ โม พุท ธา ยะ เวลาลบ ว่าสูตรดังนี้

    ๐ นะ กุกกุสันโธ สูญโญ มะอะอุ ลบ นะ
    ๐ โม โกนาคมโน สูญโญ มะอะอุ ลบ โม
    ๐ พุท กัสสโปพุทโธ สูญโญ มะอะอุ ลบ พุท
    ๐ ธา สิริศากยะมุนี สูญโญ มะอะอุ ลบ ธา
    ๐ ยะ อริยะเมตตัยโย สูญโญ มะอะอุ ลบ ยะ


    พระอาจารย์สุก จะทรงบอกอุปเท่ห์ อันเกี่ยวเนื่องด้วยพระกรรมฐานห้องต่างๆ
    พระองค์ท่านจะต้องเห็นว่า สัทธิวิหาริกของพระองค์ท่าน เข้าใจในหลักของพระ
    กรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับดี มีจิตสมาธิดี เป็นคนไม่หลงงมงาย ใช้วิชาให้เป็น
    ประโยชน์ ต่อพระพุทธศาสนา

    --------------------------------------------------------------------------------------

    ขอบพระคุณที่มา
    เว็บสมเด็จสุก
    http://somdechsuk.com/download/bio_somdechsuk_full.pdf

    :cool::cool::cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2010
  2. นะมัตถุ โพธิยา

    นะมัตถุ โพธิยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +2,269
    หลักสูตรกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ
    ของสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร มหาเถรเจ้า (สุกไก่เถื่อน)

    ๑. สมถกรรมฐาน<O:p


    เครื่องสักการะพระรัตนตรัย
    บททำวัตรพระ
    คำปริยายขึ้นธรรม<O:p
    คำกล่าวขอขมาโทษ

    การศึกษาโดยลำดับ
    ลำดับสมาธิจิตในห้องพระพุทธคุณ<O:p
    คำอาราธนาพระกรรมฐาน (ปีติ ๕)
    คำอธิบายเวลากำหนดจิต
    วิธีนั่งเข้าที่ ภาวนา<O:p
    ก่อนนั่งสมาธิภาวนาพึงสำเหนียก
    หลังเลิกนั่งภาวนา
    วิธีแจ้ง(สอบอารมณ์)พระกรรมฐาน<O:p
    ลำดับแห่งการเจริญสมาธิ
    ปรากฎการณ์ เมื่อเจริญสมาธิสงบดีแล้ว<O:p
    คัมภีร์พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสกสูตร<O:p
    พระกรรมฐานที่ใช้สำหรับฝึก ตั้งสมาธิ <O:p


    อารมณ์พระปีติ ๕ ประการ<O:p
    เข้าสับ ปีติธรรม เป็นอนุโลม เข้าสับปีติธรรม เป็นปฏิโลม<O:p
    เข้าคืบปีติธรรมเป็น อนุโลม เข้าคืบปีติธรรมเป็น ปฏิโลม<O:p
    เข้าวัด-ออกวัด-เข้าสะกด ปีติธรรมเป็น อนุโลม-ปฏิโลม<O:p
    พระปีติเจ้าทั้ง ๕ จัดเป็น ธาตุ อารมณ์ของยุคลธรรม ๖ ประการ<O:p
    เข้าสับยุคล ๖ เป็นอนุโลม-ปฏิโลม เข้าคืบยุคล ๖ เป็นอนุโลม-ปฏิโลม<O:p
    เข้าวัด-ออกวัด-เข้าสะกด ยุคลธรรมเป็นอนุโลม-ปฏิโลม<O:p
    พระยุคลธรรม ๖ จัดเป็นธาตุ สุขสมาธิ ๒ ประการ<O:p
    เข้าวัดออกวัด-เข้าสะกดสุขสมาธิเป็น อนุโลม-ปฏิโลม <O:p
    พระสุข พระพุทธา จัดเป็นธาตุ ลักษณะอาการของปีติ – ยุคล – สุข


    กายคตาสติกรรมฐาน
    ลำดับพระกรรมฐานอันนับเนื่องใน กายานุปัสสนา สติปัฎฐาน<O:p


    ห้องอานาปานสติ คำอาราธนาอานาปานสติ แสดงจุดอานาปานสติ ๙ จุด<O:p


    การพิจารณา กายคตาสติ คำอาราธนากายคตาสติ ห้องกายคตาสติ<O:p


    คำอาราธนากสิณสิบ ห้องกสิณสิบ<O:p


    การพิจารณาธาตุในกาย<O:p


    คำอาราธนาอสุภกรรมฐาน อสุภกรรมฐาน ๑๐ ประการ
    การพิจารณา อสุภสัญญา<O:p
    ความแตกต่าง แห่งบุคคลราคะจริต ในอสุภกรรมฐาน<O:p

    เหตุขึ้นองค์ฌานใน อสุภกรรมฐาน <O:p



    การได้องค์ฌานต่างๆ องค์ ๕ ในองค์ฌาน<O:p

    คำอาราธนา ปฐมฌาน คำอธิบาย ปฐมฌาน <O:p


    คำอาราธนา ทุติยฌาน คำอธิบาย ทุติยฌาน<O:p


    คำอาราธนา ตติยฌาน คำอธิบาย ตติยฌาน<O:p


    คำอาราธนา จตุถฌาน คำอธิบาย จตุถฌาน<O:p


    คำอาราธนา ปัญจมฌาน คำอธิบาย ปัญจมฌาน เหตุเรียก ปัญจมฌาน <O:p




    ปฐมฌาน มีวิสุทธิธรรม ๓๐ ทุติยฌาน มีวิสุทธิธรรม ๓๐<O:p


    ตติยฌาน มีวิสุทธิธรรม ๓๐ จตุตถฌาน มีวิสุทธิธรรม ๓๐ ปัญจมฌาน มีวิสุทธิธรรม ๓๐<O:p


    พิจารณาวิปัสสนาใน อรูปฌาน ฌานสูตร<O:p


    <O:p




    คำอาราธนา อนุสสติ การเจริญ อนุสสติต่างๆ<O:p


    พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ<O:p


    สีลานุสสติ จาคานุสสติ เทวตานุสสติ<O:p

    มรณานุสสติ อุปสมานุสสติ คำภาวนาในห้อง อนุสสติ<O:p


    อนุสสติกรรมฐาน กระแสธรรม ของพระโสดาบัน<O:p


    <O:p



    พรหมวิหาร ๔ และ คำอาราธนา คำภาวนา แผ่เมตตาในตน ๗ บท แผ่เมตตา ๑๐ ทิศ<O:p

    ออกทิศเมตตาพรหมวิหาร บทที่ ๑ ออกทิศเมตตาพรหมวิหาร บทที่ ๒<O:p


    ออกทิศเมตตาพรหมวิหาร บทที่ ๓ ออกทิศเมตตาพรหมวิหาร บทที่ ๔<O:p


    วิกุพพนา อาราธนา พิจารณาดู ๔ ทิศ อาราธนา พิจารณาดู ๘ ทิศ<O:p


    อาราธนา พิจารณาดู ๑๐ ทิศ เวียนทิศเมตตา ๕ รอบ แผ่เมตตา รอบนอก<O:p


    <O:p



    กรุณาพรหมวิหาร และ คำอาราธนา แผ่กรุณารอบใน แผ่กรุณา ๑๐ ทิศ

    <O:pแผ่ออกทิศกรุณา บทที่ ๑ แผ่ออกทิศกรุณา บทที่ ๒ แผ่ออกทิศกรุณา บทที่ ๓<O:p



    แผ่ออกทิศกรุณา บทที่ ๔ อาราธนา พิจารณาดู ๔ ทิศ อาราธนา พิจารณาดู ๘ ทิศ<O:p



    อาราธนา พิจารณาดู ๑๐ ทิศ เวียนทิศกรุณา ๔ รอบ




    มุทิตาพรหมวิหาร และ คำอาราธนา แผ่มุทิตาในตน แผ่มุทิตา ๑๐ ทิศ<O:p



    ออกทิศมุทิตาพรหมวิหาร บทที่ ๑ ออกทิศมุทิตาพรหมวิหาร บทที่ ๒<O:p


    ออกทิศมุทิตาพรหมวิหาร บทที่ ๓ ออกทิศมุทิตาพรหมวิหาร บทที่ ๔<O:p



    อาราธนา พิจารณาดู ๔ ทิศ อาราธนา พิจารณาดู ๘ ทิศ อารธนา พิจารณาดู ๑๐ ทิศ<O:p



    เวียนทิศมุทิตา ๔ รอบ คำแผ่มุทิตารอบนอก
    <O:p



    อุเบกขาพรหมวิหารและคำอาราธนา คำแผ่อุเบกขารอบใน แผ่ทิศอุเบกขา ๑๐ ทิศ<O:p



    ออกทิศอุเบกขาพรหมวิหาร บทที่ ๑ ออกทิศอุเบกขาพรหมวิหาร บทที่ ๒<O:p



    ออกทิศอุเบกขาพรหมวิหาร บทที่ ๓ ออกทิศอุเบกขาพรหมวิหารบทที่ ๔<O:p



    ออกทิศอุเบกขาพรหมวิหาร บทที่ ๕<O:p



    อารธนา พิจารณาดู ๔ ทิศ อาราธนา พิจารณาดู ๘ ทิศ อาราธนา พิจารณาดู ๑๐ ทิศ
    เวียนทิศอุเบกขา ๕ รอบ แผ่อุเบกขารอบนอก ๕ รอบ<O:p




    ยุคนิทธวรรค เมตตากถา อัปปมัญญา พรหมวิหาร
    <O:p


    <O:p


    คำอาราธนาอาหาเรปฏิกูลสัญญา คำภาวนาอาหาเรปฏิกูลสัญญา<O:p



    อธิบายอาหาเรปฏิกูลสัญญา อานิสงส์อาหาเรปฏิกูลสัญญา<O:p


    <O:p




    คำอาราธนาจตุธาตุววัฏฐาน ปฐวีธาตุ ๒๐ โกฏฐาส อาโป ๑๒ โกฏฐาส<O:p


    เตโช ๔ โกฏฐาส วาโย ๖ โกฏฐาส<O:p






    คำอาราธนาอรูปกรรมฐาน คำภาวนาอรูปกรรมฐาน อรูปฌาน มีวิสุทธิธรรม ๓๐<O:p



    อธิบายอรูปวิโมกข์ การพิจารณาวิปัสสนา ในอรูปฌาน<O:p



    ฌานสูตร การเข้าฌาน เป็นบาทของ วิปัสสนา
    <O:p


    <O:p


    ๒. วิปัสสนากรรมฐาน
    <O:p<O:p


    วิปัสสนากรรมฐาน สีลวิสุทธิ เป็นอย่างไร สีลวิสุทธิ<O:p
    สีลวิสุทธิ ชื่อว่าญาณ เรียกว่า สีลมยญาณ จิตตวิสุทธิ
    <O:pทิฏฐิวิสุทธิ เป็นอย่างไร ทิฏฐิวิสุทธิ ทิฏฐิวิสุทธิ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ธรรมทิฏฐิญาณ
    <O:pกังขาวิตรวิสุทธิ มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ
    <O:pปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ ญาณทัสสนวิสุทธิ


    โสดาปัตติมรรคญาณ สกทาคามิมรรคญาณ
    <O:pอนาคามิมรรคญาณ อรหัตตมรรคญาณ
    <O:pโสดาปัตติผลญาณ สกทาคามิผลญาณ
    <O:pอนาคามิผลญาณ อรหัตตผลญาณ


    <O:p<O:pวิมุตติญาณ ลักษณะ ๓ อนิจจลักษณะ ทุกขลักษณะ อนัตตลักษณะ
    <O:pมนสิการโดยความ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา

    <O:pอนุวิปัสสนา ๓ วิปัสสนาญาณ ๑๐ สัมมสนญาณ อุทยัพพยญาณ
    <O:pวิปัสสนูกิเลส ๑๐

    <O:p<O:p
    ภังคานุปัสสนาญาณ ภยตูปัฏฐานญาณ อาทีนวญาณ นิพพิทาญาณ<O:p
    มุญจิตุกามยตาญาณ ปฏิสังขารุเปกขาญาณ สังขารุเบกขาญาณ<O:p
    อุปมาด้วยกา ของพวกเดินเรือทะเล อนุโลมญาณ
    <O:pญาณในปฏิสัมภิทาวรรค

    วิโมกข์มุข ๓ อนุวิปัสสนาวิโมกข์ ๓ <O:p


    โพธิปักขิยธรรม ๓๗<O:p

    สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ มรรค ๘
    <O:p<O:p
    วิปัสสนาภูมิ ๖<O:p
    ขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ อินทรีย์ ๒๒
    <O:pปฏิจจสมุปบาท อริยสัจ ๔


    โอรัมภาคิยสัญโญชน์ อุทธัมภาคิยสัญโญชน์
    <O:pสักกายทิฏฐิ เป็นอย่างไร วิจิกิจฉา เป็นอย่างไร สีลัพพตปรามาส เป็นอย่างไร
    <O:pกามราคะ เป็นอย่างไร ปฏิฆะเป็นอย่างไร มานะเป็นอย่างไร<O:p
    รูปราคะ เป็นอย่างไร อรูปราคะเป็นอย่างไร อุทธัจจะ เป็นอย่างไร
    <O:pอวิชชา เป็นอย่างไร


    ให้พรแก่สัตว์ ทั้งหลาย ให้พรแก่ร่าง ให้พรแก่มาร <O:p
    ปะจุร่าง การประหานกิเลส
    <O:pอภิธรรมปิฏก – ธัมมสังคณี


    โสดาปัตติมรรค โสดาปันผล ๓ ประเภท
    สกทาคามีผล สกทาคามิมรรค
    <O:pอนาคามิมรรค อนาคามีผล
    อรหัตตมรรค อรหัตตผล <O:p


    --------------------------------------------------------------------------------------------------



    ขั้นตอนการปฏิบัติพระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ


    <O:pสมถะกรรมฐาน มัชฌิมาแบบ ลำดับ
    รูปกรรมฐาน ตอน ๑
    <O:p๑.ห้องพระปีติห้า
    <O:p๒.ห้องพระยุคลหก
    <O:p๓.ห้องพระสุขสมาธิ
    <O:pพระกรรมฐาน ๓ ห้องนี้เป็นพระกรรมฐาน สำหรับฝึกตั้งสมาธิ เป็นพระกรรมฐานต่อเนื่องของจิต จากจิตหยาบ ไปหาจิตที่ละเอียด ถึงขั้นอุปจารสมาธิเต็มขั้น หรือ เรียกว่ารูปเทียมของปฐมฌาน สอบนิมิต เป็นอารมณ์

    <O:p<O:p
    รูปกรรมฐาน ตอน ๒
    <O:p๔.ห้อง อานาปานสติ ๙ จุด ทำให้จิตละเอียดขึ้น ถึงอัปปนาสมาธิ หรืออัปปนาฌาน<O:p</O:p
    ๕.ห้อง กายคตาสติกรรมฐาน
    <O:p๖.ห้องกสิณ ๑๐ ประการ
    <O:p๗.ห้องอสุภ ๑๐ ประการ เพื่อละราคะ
    <O:p๘.ห้องปัญจมฌาน
    <O:pห้องพระอานาปานกรรมฐาน ถึงห้องปัญจมฌาน เป็นรูปกรรมฐาน สอบนิมิต เป็นพระกรรมฐานต่อเนื่องใน<O:pกายคตาสติกรรมฐาน และกายานุปัสสนาสติปัฎฐาน
    <O:pพระโยคาวจร ผู้เจริญอานาปานสติ เจริญอาการ ๓๒ เจริญกสิณ ๑๐ ประการ เจริญอสุภะ ๑๐ ประการ <O:pเจริญปัญจมฌาน พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า เป็นการเจริญกายคตาสติกรรมฐานทั้งสิ้น ย่อมได้รับอานิสงส์<O:pมากมาย เปรียบเหมือน น้ำเต็มขอบสระ กาบินมาแต่ทิศใดย่อมดื่มกินน้ำได้ทุกทิศ

    <O:p<O:p
    อรูปกรรมฐาน (สอบสภาวธรรม)
    <O:p๙.ห้อง อนุสสติ เจ็ดประการ เป็นคุณธรรม ของพระโสดาบัน
    <O:p๑๐.ห้อง อัปปมัญญาพรหมวิหาร
    <O:p๑๑. ห้อง อาหาเรปฎิกูลสัญญา<O:p
    ๑๒.ห้อง จตุธาตุววัฏฐาน
    <O:p๑๓.ห้อง อรูปฌาน
    <O:pตั้งแต่ห้อง อนุสสติ ๗ ประการ ถึงห้องอรูปฌาน เป็นอรูปกรรมฐาน สอบอารมณ์ สอบสภาวธรรม <O:pจิตได้สภาวธรรมเต็มที่ การเจริญวิปัสสนา ก็แจ่มแจ้งยิ่งขึ้น เมื่อจะขึ้นวิปัสสนาฌาน ให้ทำฌานสมาบัติแปด ถอยมาถึง ตติยฌาน แล้วเจริญ พระวิปัสสนา
    <O:p


    (จบสมถะ)


    <O:p
    วิปัสสนากรรมฐาน มัชฌิมาแบบ ลำดับ
    <O:p๑.เจริญวิสุทธิเจ็ดประการ เอาองค์ฌาน เป็นบาทฐาน<O:p
    ๒.พระไตรลักษณะญาณ ๓<O:p
    ๓.พระอนุวิปัสสนา ๓<O:p
    ๔.พระวิโมกข์ ๓ ประการ
    ๕.พระอนุวิปัสสนาวิโมกข์ ๓
    <O:p
    ๖.พระวิปัสสนาญาณ ๑๐<O:p
    ๗.พระโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ เป็นบาทรองรับวิปัสสนา<O:p
    ๘.สัญโญชน์ ๑๐ เพื่อให้รู้กิเลสที่จะละ<O:p
    ๙.ออกบัวบานพรหมวิหาร เจริญเพื่อละพยาบาท เป็นหนทางสู่ มรรค ผล นิพพาน


    <O:p
    (จบ-สมถะ-วิปัสสนามัชฌิมา แบบลำดับ)


    -------------------------------------------------------------------------------------------------------


    ขอบพระคุณที่มา
    เว็บสมเด็จสุก
    http://somdechsuk.com

    :cool::cool::cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...