สมเด็จองค์ปฐม กับ พระพุทธชินราช ต่างกันยังไง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย the_club, 23 มกราคม 2008.

  1. the_club

    the_club เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    2,682
    ค่าพลัง:
    +15,283
    วันนี้มีเรื่องมาขอความรู้ครับ
    คือมันค้างคาใจมานานแล้วครับ ว่า สมเด็จองค์ปฐม กับ พระพุทธชินราช
    ต่างกันยังไง ถ้าไปเจอพระพุทธรูปลักษณะแบบนี้ เราจะรู้ได้ยังไง
    ว่าเป็นองค์ไหน สับสนครับ ผู้รู้ช่วยตอบผมที

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • howtosee.jpg
      howtosee.jpg
      ขนาดไฟล์:
      102.9 KB
      เปิดดู:
      16,288
  2. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,055
    ดูที่ฐานซุ้มเรือนแก้วครับ ของพระพุทธชินราชจะเป็นรูปยักษ์แบกไว้ทั้ง 2 ข้าง
     
  3. the_club

    the_club เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    2,682
    ค่าพลัง:
    +15,283
    ขอบคุณครับ ท่านใดมีจุดสังเกตุอื่นๆอีกมั๊ยครับ
    แต่บางที่ผมเคยเห็น ที่ฐานมียักษ์อยู่ 2 ข้าง เขาก็บอกว่าเป็นองค์ปฐมเหมือนกันนะครับ
     
  4. ball

    ball เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +1,094
    ผมไม่ทราบครับ แต่พระองค์ท่านทั้ง2 สวยงามมากๆครับ
     
  5. callmeletter

    callmeletter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2007
    โพสต์:
    487
    ค่าพลัง:
    +1,077
    เคยได้ยินมีคนบอกว่า สมเด็จองค์ปฐม กับ พระพุทธชินราช คือองค์เดียวกันครับ รอผู้รู้มาช่วยตอบอีกทีครับ
     
  6. the_club

    the_club เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    2,682
    ค่าพลัง:
    +15,283
    เคยได้ยินมาเหมือนกันครับ เห็นเขาบอกว่าตอนที่หลวงพ่อท่านสร้างสมเด็จองค์ปฐม ช่างที่แกะแบบ ไปดูแบบมาจากพระพุทธชินราชครับ ไม่รู้จริงป่าว

    แต่ผมว่าคงไม่ใช่องค์เดียวกันนะครับ เพราะว่าพระพุทธชินราช เป็นองค์ปัจจุบันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2008
  7. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,055
    หลวงพ่อบอกไว้เองว่าท่านชอบสร้างซุ้มเรือนแก้วไว้ด้วยครับ เป็นความชอบปกติของท่านในการสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่

    แต่ท่านก็แยกแยะระหว่างสมเด็จองค์ปฐมกับพระพุทธชินราช เช่นที่วัดท่าซุง ท่านก็สร้างสมเด็จองค์ปฐมไว้ที่วิหารสมเด็จองค์ปฐม และสร้างพระพุทธชินราชไว้ที่วิหารร้อยเมตร

    ใครจะสร้างแบบอย่างไร หรือกำหนด-กราบไหว้เป็นสมเด็จพระองค์ใดก็สุดจะตามรู้ได้ทุกกรณี ถ้าสงสัยใคร่รู้กรณีใดก็ค่อยๆศึกษา ถามไถ่เอาเถอะครับ แต่ถ้าเป็นรูปแบบดั้งเดิม องค์แรกที่ท่านสร้างขึ้นก็จะเป็นดังที่บอก หากเป็นพระพุทธชินราช ฐานทั้ง 2 ข้างของซุ้มเรือนแก้วจะเป็นรูปยักษ์แบก

    มีพระในสายหลวงพ่อเคยเมตตาบอกว่าพระพุทธชินราช คือองค์แทนสมเด็จพระพุทธกัสสป

    ทั้งเคยผ่านหูผ่านตาว่าพระยืน 30 ศอกก็เป็นองค์แทนสมเด็จองค์ปฐมด้วยเช่นกัน
     
  8. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,802
    ค่าพลัง:
    +18,984
    สาธุๆ...

    อันนี้ไม่ทราบเลยครับ จำได้แต่ว่าอ่านในหนังสือ องค์ปฐมท่านให้สร้างแบบพระพุทธชินราช แต่ก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วต่างกันรึเปล่า
     
  9. leoman

    leoman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +910
    ยืนยันตามพี่คนเก่าครับ สมเด็จองค์ปฐมมีแต่ซุ้มเรือนแก้ว ไม่มียักษ์

    ที่คุณเห็นบางองค์มียักษ์ด้วยเพราะคนสร้าง หรือคนถวายไม่เข้าใจตรงนี้ครับ
    ก็เลยสร้างแบบที่มียักษ์ไปด้วย ทำให้พักหลังมีสมเด็จองค์ปฐมแบบที่มียักษ์ครับ
     
  10. มุนีญา

    มุนีญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +1,001
    เท่าที่ทราบ สมเด็จองค์ปฐมจะมีใบหน้าเรียวกว่า พระพุทธชินราชจะมีใบหน้ารูปเหลี่ยมค่ะ และปลายสังฆาฏิของสมเด็จองค์ปฐมจะเป็นหยักส่วนของพระพุทธชินราชจะเรียบค่ะ ไม่ทราบว่าจะถูกต้องหรือเปล่านะค่ะ
     
  11. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,055
    พระพุทธลักษณะของสมเด็จองค์ปฐม

    1.หลวงพ่อบอกเน้นไว้ คือ พระพักตร์อิ่มมาก ไม่ใช่เรียวยาวครับ ที่วัดท่าซุงก็สร้างหน้าอิ่ม แต่เวลาถ่ายรูปออกมามักจะดูเรียวยาว ผิดจากองค์จริง

    2.ถ้าจำไม่ผิด ครั้งสร้างองค์ที่วัดท่าซุง ดูเหมือนเป็นพุทธบัญชาให้ประดับเพชรที่เล็บนิ้วก้อยนะครับ (ต้องเช็คกับประวัติการสร้างที่หลวงพ่อบันทึกไว้)

    3.หลวงพี่เล็กบอกว่ามีอุณาโลมสีแดง

    ส่วนสังฆาฏินี่ไม่ได้สังเกตไว้ แต่ที่เคยสังเกตไว้เอง ดูเหมือนว่าพระพุทธชินราชเต็มรูปแบบจะมีสังวาลย์สะพายแล่งด้วย
     
  12. ยารักษาผมร่วง

    ยารักษาผมร่วง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +334
    เมื่อ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้เจริญพระกรรมฐานแล้ว จึงได้อาราธนาสมเด็จองค์ปฐม ขอพบพระพุทธองค์ท่าน ก็ปรากฏให้เห็น ทรวดทรงสวยงามมาก หน้าของท่านอิ่ม เหมือนรูปไข่ แก้มอิ่ม ทรงยิ้มน้อยๆ ริมฝีปาก ไม่บุ๋ม ไม่เหมือน พระพุทธเจ้าที่เขาปั้นกัน จะพบว่าช่างเขาปั้นแก้มตรงปากจะบุ๋มลงไป แล้วสมเด็จองค์ปฐม ก็แสดงรูปร่าง สมัยเป็นมนุษย์ และก็เปลี่ยนมาเป็น ปางพระนิพพาน พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ก็ถามว่า ถ้าจะปั้นรูปของพระองค์ จะให้ปั้นแบบไหน จะให้ ปั้นปางพระนิพพานหรือมนุษย์ พระพุทธองค์บอกว่า ให้ปั้นแบบนี้ก็แล้วกัน พระพุทธองค์ทรงแสดงภาพให้ดู เป็นเหมือนกับ พระพุทธรูป และมีเรือนแก้ว แบบพระพุทธชินราช รูปที่ทรงให้ปั้น ไม่เหมือนกับ รูปจริงของท่าน แต่พระองค์ท่านต้องการ ให้ปั้น แบบที่ท่านต้องการ พระพุทธองค์ได้มาแสดงภาพ ให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อดูถึง 3 วัน ติดๆ กัน วันละประมาณ 1 ชั่วโมง พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ก็ได้ดูอย่างละเอียด แต่ก็คิดในใจว่า ช่างเขาปั้น แต่เขาไม่เห็นภาพ เขาจะปั้นได้ไม่เหมือน จึงได้ขอบารมีพระองค์ท่าน เวลาช่างปั้น ขอได้โปรดดลใจ ให้เป็นไปตามพระพุทธประสงค์ พระองค์ท่านก็ยอมรับ
    คัดย่อจากหนังสือ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    วัดจันทราราม ( วัดท่าซุง ) จ.อุทัยธานี
     
  13. ยารักษาผมร่วง

    ยารักษาผมร่วง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +334
    ประวัติและการสร้างสมเด็จองค์ปฐม
    สมเด็จองค์ปฐม ท่านเป็น พระพุทธเจ้าพระองค์แรกของโลก ทรงพระนาม สมเด็จพระพุทธสิกขี เนื่องจากพระพุทธ เจ้า ได้ตรัสรู้แล้วมากมายนับได้แสนองค์ ฉะนั้นพระนามของพระองค์จึงซ้ำกัน โดยเฉพาะพระนามสมเด็จพระพุทธสิกขี มีด้วยกัน 5 พระองค์ จึงได้ขนานนามของสมเด็จองค์ปฐมว่า สมเด็จพระพุทธสิกขีที่ 1 จึงนับได้ว่า พระพุทธองค์ ทรงเป็น สมเด็จองค์ปฐมบรมครู อย่างแท้จริง ​
    สมัยที่พระพุทธองค์ ได้ทรงอุบัติในโลกมนุษย์ ซึ่งขณะนั้น คนมีอายุขัยประมาณ 8 หมื่นปี พระพุทธองค์ทรงผนวชออกมหาภิเนษกรมณ์ เมื่อพระชนมายุได้ 4 หมื่นปี หลังจากผนวชได้ 2 หมื่นปี จึงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้ เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์แรกของโลก พระพุทธองค์ทรงโปรดเวไนยสัตว์ ประมาณ 2 หมื่นปี จึงได้เสด็จดับขันธปรินิพาน
    พระพุทธองค์ ทรงใช้เวลาอันยาวนานถึง 40 อสงไขยกัปเศษ ในการบำเพ็ญพระบารมี เพื่อแสวงหาพระโพธิญาณ ด้วยพระองค์เองทรงใช้เวลาอันยาวนานในการบำเพ็ญพระบารมี เนื่องจากพระพุทธองค์เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก จึงไม่มีแบบอย่างที่จะให้พระพุทธองค์ ได้ศึกษาเป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อบรรลุ พระโพธิญาณ ระยะเวลาที่บำเพ็ญพระบารมี จึงใช้ ถึง 40 อสงไขยกัปเศษ
    การพบสมเด็จองค์ปฐม ครั้งแรกของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เมื่อประมาณ พ.ศ. 2511 คืนหนึ่ง พระเดชพระคุณหลวงพ่อกำลังสอนพระกรรมฐาน และเมื่อเสร็จจากการแนะนำ ก็ได้ทำสมาธิ ก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน ปรากฏขึ้น คือเห็นพระพุทธเจ้าในปางพระนิพพานทรงยืน สองแถวยาวเหยียดไปข้างหน้าแล้ว ก็พนมมือ พระเดชพระคุณหลวง พ่อมีความรู้สึกในใจว่า บางทีอาจจะเป็น อุปาทาน เพราะว่า พระพุทธเจ้า ไม่เคยก้มศรีษะให้ใคร แม้แต่บ้านเรือน เล็กๆ หลังคา ตํ่าๆ หาก พระพุทธองค์เสด็จเข้าไป หลังคาก็จะสูงขึ้นเอง แต่เวลานี้เห็น พระพุทธเจ้ายืนพนมมือ เมื่อนึกเพียงนี้ ก็เห็นภาพหลวงปู่ปาน ปรากฏขึ้นข้างหน้า หลวงปู่ปานท่านบอกว่า
    " คุณ..ไม่ใช่อุปาทาน ประเดี๋ยวพระพุทธเจ้าองค์ปฐมจะเสด็จมา "
    อีกประมาณ 5 นาที ปรากฏว่ามีพระพุทธเจ้าอีกองค์ รูปร่างท่านใหญ่โตมาก สูงมาก มาในรูป ของปางพระนิพพาน เดินมาระหว่างช่องกลาง พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ก้มศรีษะ แสดงความเคารพ พอพระองค์ เดินไปถึง พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทรงตรัสว่า
    " ข้าจะนั่งที่ไหนหว่า... ในเมื่อไม่มีที่นั่ง ข้าก็เอาหัวแกเป็นแท่นก็แล้วกัน "
    พระพุทธองค์ ก็เลยนั่งบนหัว ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ แล้วทรงตรัสกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า
    " นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ก่อนที่แกจะสอนพระกรรมฐานก็ดี จะพูดธรรมก็ดี บอกฉันก่อน ฉันจะให้พูดตอนไหน จะให้เทศน์ตอนไหนให้ว่าตามนั้น "
    เป็นอันว่าเมื่อใดก็ตาม ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเทศน์ก็ดี สอนพระกรรมฐานก็ดี สอนธรรมก็ดี พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ไม่เคยได้พูดตามใจคิดเลย เป็นเพราะพระพุทธองค์ ท่านดลใจ ให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูด และแนะนำธรรม ซึ่งบางครั้ง อาจจะไม่เป็นที่ถูกใจของทุกคน เพราะพระพุทธองค์ ท่านอาจจี้จุด เฉพาะคนใดคนหนึ่ง แต่บางคน อาจจะไม่ถูกใจก็ได้ นี่เป็นเรื่องธรรมดา พระเดชพระคุณหลวงพ่อก็คิดว่า เมื่อพระพุทธองค์ท่านมีบุญคุณอย่างนี้ จึงคิดที่จะหล่อรูปของท่าน
     
  14. เด็กวัดป่า

    เด็กวัดป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +727
    อนุโมทนาสาธุ ด้วยครับผม สำหรับที่มาครับ องค์พระงดงามทั้งคู่ครับ
     
  15. ยารักษาผมร่วง

    ยารักษาผมร่วง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +334
    <TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    พระพุทธชินราช
    พระพุทธปฏิมากรอันงดงามที่สุดของเมืองไท
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) ตรัสสรรเสริญว่า
    "...ก็นี่แหละ พระพุทธชินราช นี้เป็นพระพุทธรูปปฏิมากรดีล้ำเลิศ ประกอบไปด้วยพุทธลักษณะอันประเสริฐมีสิริ อันเทพยดาหากอภิบาลรักษาย่อมเป็นสักการบูชา นับถือมาแต่สมัยโบราณ แม้พระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาที่ได้มีพระเดชานุภาพมโหฬาร ปรากฏในแผ่นดินก็ทรงนับถือสักการบูชามาหลายพระองค์"และอีกพระองค์หนึ่ง...
    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ที่พสกนิกรชาวไทยถวายพระนามพระองค์ท่านว่า "สมเด็จพระปิยมหาราช" ก็ได้ทรงสรรเสริญเอาไว้อีกด้วยว่า"...จะหาพระพุทธรูปองค์ใดงามเสมอพระพุทธชินราชนั้นไม่มีแล้ว" นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๖) ก็ได้ทรงสรรเสริญต่อมาอีกว่า
    "...ตั้งแต่ข้าพเจ้าได้เห็นพระพุทธรูปมานักแล้ว ไม่เคยรู้สึกปลื้มใจจำเริญตาเท่าพระพุทธชินราชเลย ที่ตั้งอยู่ในนั้นก็เหมาะนักหนา วิหารพอเหมาะกับพระ มีที่ดูได้ถนัดและองค์พระก็ตั้งต่ำพอดูได้ตลอดองค์..."
     
  16. ยารักษาผมร่วง

    ยารักษาผมร่วง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +334
    พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งหมายถึงปางชนะมารนั่นเอง หล่อขึ้นด้วยทองสัมฤทธิ์ มีหน้าตัก ๕ ศอก คืบ ๔ นิ้ว เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพิษณุโลก สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย คู่กันกับพระชินสีห์ ถือกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศไทย โดยจะหาพระพุทธรูปอื่นใดมีลักษณะงดงามเท่าไม่มีอีกแล้ว ดุจเทพยดาเสด็จลงมาจากสรวงสวรรค์ แล้วสรรค์สร้างบันดาลดลให้พระพุทธรูปองค์นี้งามไปหมดทุกส่วนสัด ประจักษ์พยานนั้นจะเห็นได้จากพระมหากษัตริย์ของเมืองไทยทั้ง ๓ รัชกาล ได้ทรงสรรเสริญเอาไว้อย่างเป็นหลักฐานว่าพระพุทธชินราชงดงามประการใด
    ท่านผู้ใดที่ได้ไปกราบนมัสการพระพุทธชินราช ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลกแล้ว ท่านจะเห็นได้ด้วยตาตนเองว่าในชีวิตอันสั้นของท่านนี้ได้มีบุญมหาศาลที่ได้มีโอกาสมากราบไหว้เคารพสักการะพระพุทธรูปอันสำคัญยิ่งของเมืองไทยแล้ว ท่านจะมีความเลื่อมใสศรัทธาจนบอกไม่ถูก มีความซาบซึ้งต่อพระศาสนา มีความเยือกเย็น สดชื่นแจ่มใส หายจากความเหนื่อยยากที่เดินทางมาไกล เพราะท่านได้มาพบมาเห็นสิ่งอันเป็นบุญตาเข้าแล้วในชาตินี้
    พระพุทธชินราชองค์นี้ปรากฏหลักฐานว่าได้สร้างขึ้นในสมัย พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก ซึ่งเป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงแสนในยุคสมัยนั้น ตามตำนานระบุเอาไว้ว่าในระหว่างนั้นประมาณก่อนพุทธศักราช ๑๕๐๐
     
  17. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,055
    หลวงพ่อเคยสร้างพระพุทธชินราชตั้งแต่ยังไม่มาอยู่วัดท่าซุง ท่านเล่าไว้ตอนหนึ่งว่าครั้งนั้นพระพุทธชินราชแสดงปาฏิหาริย์สงเคราะห์ชาวบ้านให้ฝนตกตามที่หลวงพ่อกล่าวขอ อีกตอนหนึ่งท่านเล่าว่าพระพุทธชินราชบอกกับหลวงพ่อว่า คนอื่นเขาไม่รู้จักท่าน มีแต่หลวงพ่อที่รู้จัก

    ชวนให้เข้าใจเอาเองว่าพระพุทธชินราชองค์สำคัญๆ หลวงพ่อเป็นผู้สร้างไว้เองทั้งนั้น
     
  18. ยารักษาผมร่วง

    ยารักษาผมร่วง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +334
    การสร้างพระพุทธรูปสำคัญจึงเกิดขึ้นในเวลาต่อมาด้วยความพิถีพิถันยิ่ง
    มีการระดมช่างปั้นองค์พระที่ชำนาญการมาปั้น ออกแบบพระพุทธรูปสำคัญนี้ ซึ่งทรงต้องการสร้างรวม ๓ องค์ด้วยกัน แล้วทรงขอให้ช่างปั้นพระพุทธรูปที่ศรีสัชนาลัยมาช่วยกันออกแบบปั้นพระพุทธรูปอีกด้วย ช่างเหล่านี้เป็นผู้ชำนาญการยิ่ง เป็นที่เล่าลือกันอยู่ในเวลานั้น
    ช่างผู้ชำนาญการปั้นออกแบบพระพุทธรูปจากศรีสัชนาลัย ๕ คน ที่มาร่วมพิธีการ ได้แก่ ษาอินทร์ ษาพราหมณ์ ษาพิษณุ ษาราชสังข์ และ ษาราชกุศล ซึ่งเป็นพราหมณ์ทั้งหมด
    พราหมณ์ทั้ง ๕ สมทบกับช่างฝีมือปั้นพระพุทธรูปจากนครเชียงแสน จากหริภุญชัย ที่ทรงเลือกเฟ้นมาก็ดำเนินการ การออกแบบปั้นพระพุทธรูปรวม ๓ องค์ด้วยกัน ตามพระราชประสงค์
    <TABLE style="TEXT-INDENT: 10px" width="100%"><TBODY><TR><TD width="14%">
    องค์ที่ ๑
    </TD><TD width="84%">พระพุทธชินราช มีขนาดหน้าตักกว้าง ๕ ศอก คืบ ๔ นิ้ว
    </TD></TR><TR><TD width="14%">
    องค์ที่ ๒
    </TD><TD width="84%">พระพุทธชินศรี มีขนาดหน้าตักกว้าง ๕ ศอก คืบ ๔ นิ้ว
    </TD></TR><TR><TD width="14%">
    องค์ที่ ๓
    </TD><TD width="84%">พระศรีศาสดา มีขนาดหน้าตักกว้าง ๔ ศอก คืบ ๖ นิ้ว
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    การออกแบบปั้นองค์พระ กำหนดให้มีพุทธลักษณะละม้ายกับพระพุทธรูปสมัยเชียงแสน แต่ไม่เหมือนกับพระพุทธรูปแบบศรีสัชนาลัยหรือสุโขทัย
    พระองค์ต้องการให้ออกแบบองค์พระให้ละม้ายไปทางพุทธลักษณะ ในสมัยเชียงแสนบ้าง ศรีสัชนาลัยบ้าง สวรรคโลกบ้างหรือสุโขทัยก็เอามาแต่งเติมเข้าด้วยกันบ้าง เรียกว่าการออกแบบให้แปลกออกไปกว่าที่อื่น แต่จะต้องงดงามน่าเลื่อมใส
    แล้วไม่นานนัก การออกแบบปั้นพระพุทธรูปทั้งสามองค์ก็บรรลุผลสำเร็จไปได้ด้วยดี มีการกำหนดเททองหล่อขึ้นทันทีตามแบบที่จัดขึ้น และตามฤกษ์ยามที่กำหนด คือ วันที่ ๕ เดือน ๔ ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีเถาะ สัตตศก จุลศักราช ๓๑๗ ปี พระพุทธศักราช ๑๔๙๘
    การเททองนั้น จึงเต็มไปด้วยพระเถระชั้นผู้ใหญ่เป็นจำนวนมากมายมาร่วมพิธีการครั้งนี้ ทั้งพระภิกษุสงฆ์ฝ่ายคณะคามวาสีและอรัญวาสี ร่วมด้วยพระอุบาลี พระคีรีมานนท์ วัดเขาสมอแคลง เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ นับว่าเป็นพิธีที่ใหญ่ยิ่งทีเดียว
     
  19. the_club

    the_club เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    2,682
    ค่าพลัง:
    +15,283
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
     
  20. ครึ่งชีวิต

    ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    [​IMG] สาธุ ขอรับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010388.JPG
      P1010388.JPG
      ขนาดไฟล์:
      62.1 KB
      เปิดดู:
      229

แชร์หน้านี้

Loading...