"สวย"ด้วยสมุนไพร คำเตือนจาก"อภัยภูเบศร

สาวน้อยสาวมากในยุคปัจจุบัน คงไม่มีใครปฏิเสธเรื่องสวยๆ งามๆ บางคนพยายามสรรหาวิธีสร้างความสวยงามให้กับตัวเอง บางรายไปทำศัลยกรรมเพื่อให้ตัวเองดูแล้วไม่หย่อนยาน หน้าเด้งกระชับ หรือเสาะหาสมุนไพร ครีมบำรุงต่างๆ แต่ใครเลยจะรู้ว่าสมุนไพรหรือครีมเสริมความงามเหล่านั้น หากใช้ไม่ถูกวิธีหรือไม่รู้ว่ามีสรรพคุณอะไรบ้างที่อยู่ในส่วนประกอบของครีมเหล่านั้น อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี

อาจารย์สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรและเลขานุการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เผยว่า ในปัจจุบันสตรีที่รักสวยรักงามมักประสบปัญหาถูกหลอกลวง ซื้อครีมหรือนำสมุนไพรมาขัด พอกหน้า แต่แทนที่จะสวยกลับน่าเกลียด ดังนั้นสภาพสตรีที่อยากสวยด้วยสมุนไพร โดยนำไปขัดหน้า พอกหน้าต้องพึงระวัง เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดอาจกลายเป็นมนุษย์ลอกคราบไปโดยไม่รู้ตัว พึงระลึกไว้เสมอว่าก่อนเอาอะไร โปะ พอก ทา บนผิวหน้า เราต้องรู้จักมันอย่างดีว่ามีส่วนประกอบด้วยอะไรบ้าง แต่ละอย่างมีสรรพคุณอย่างไร และต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสมุนไพรตัวนั้นอย่างถี่ถ้วนเสียก่อน ควรเลือกซื้อสมุนไพรจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับ และต้องอ่านฉลากหรือข้อมูลจากตัวผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจนก่อนจะใช้

สูตรสมุนไพรที่ใช้ในการลอกหน้าส่วนใหญ่ ช่วงแรกมักจะใช้โลดทะนงแดงหรือนางแชง ซึ่งคนในสมัยก่อนจะรู้กันดีว่าสมุนไพรตัวนี้มีความระคายรุนแรง มักจะใช้เป็นสมุนไพรยาแก้พิษ โดยสมุนไพรชนิดนี้จะทำให้อาเจียนเพื่อเอาพิษออกมา และยังใช้ฝนทาเพื่อใช้ลอกหน้า แต่เวลาใช้ จะทำให้หน้าบวมแดง จนมีชื่อว่า "นางแซง" ซึ่งมีความหมายคือเมื่อนางใช้แล้วจะสาปแช่ง (ซึ่งเสียง "ช" ในภาษาอีสานจะออกเสียง "ซ") ดังนั้นการใช้ยาตัวนี้ต้องใช้ปริมาณนิดเดียว ต้องมีการควบคุมขนาดของการใช้เป็นอย่างดี แต่ในปัจจุบันผู้ผลิตส่วนใหญ่ไม่มีความรู้เรื่องของสมุนไพรจริงๆ แต่มีการขยายสาขากันอย่างรวดเร็ว จนเกิดผลข้างเคียงที่ส่งผลร้ายต่อผู้ใช้มาก

ในสมัยโบราณสมุนไพรหลายชนิดก็ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องประทินผิว ส่วนใหญ่แล้วเป็นพืชที่มีกลิ่นหอม มีสรรพคุณต้านอ๊อกซิเดชั่น แก้แพ้ แก้อักเสบ ฆ่าเชื้อโรค และบำรุงผิว ซึ่งสมุนไพรขัดหน้ามีประมาณ 10 ชนิด ที่โรงพยาบาลแนะนำได้แก่ บัวบก ฟ้าทะลายโจร ว่านนางคำ ว่านสาวหลง เปราะหอม ว่านน้ำ มะหาด ขมิ้นชัน ยา 5 ราก อันประกอบด้วย รากชิงชี่ รากคนทา รากมะเดื่อชุมพร รากย่านาง รากเท้ายายม่อม เป็นยาเย็นมีสรรพคุณลดอาการแพ้ ข้าวกล้องที่อุดมไปด้วย มีวิตามินหลายชนิด บำรุงผิวให้นุ่ม ชุ่มชื่น

สมุนไพรจากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์จะถูกนำมาบดเป็นผงละเอียดใช้เพื่อการขัด พอก และบำรุงผิวพรรณ และสามารถผสมเป็นสูตรเฉพาะที่เหมาะกับผิวแต่ละประเภท ทั้งผิวมัน ผิวแห้ง สำหรับสิว และลดจุดด่างดำ ยังสามารถผสมเป็นสูตรเฉพาะบุคคลก็ได้เช่นกัน หลักการผสมสมุนไพรแต่ละชนิดเข้าด้วยกันยึดหลักความสมดุลระหว่างสมุนไพรฤทธิ์ร้อนและเย็น

ถ้าหากใครจะผลิตเพื่อจำหน่ายต้องมีการควบคุมกรรมวิธีการผลิต ควรมีการควบคุมความสะอาดอย่างดี บดละเอียดเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อผิว (ถ้าผงหยาบจะระคายผิว) ต้องเก็บในที่อุณหภูมิพอเหมาะต่ำกว่า 80 องศาเซลเซียส เพื่อรักษากลิ่นหอมให้คงอยู่ทนนาน และควรมีตรวจสอบเชื้อจุลินทรีย์ที่อาจปนเปื้อนอยู่ในผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีความปลอดภัย <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

สำหรับวิธีการใช้สมุนไพรพอกหน้า ทำได้ไม่ยุ่งยาก สามารถทำเองที่บ้านได้เพียงผสมกับนม โยเกิร์ต หรือน้ำสะอาดนำมาขัดหรือพอกผิว ถ้าเป็นผู้ที่มีผิวแห้งบอบบางแนะนำให้ผสมน้ำผึ้งเพิ่มขึ้นด้วยเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ถ้าผิวมันหรือมีจุดด่างดำก็ผสมน้ำมะนาว น้ำมะขาม ซึ่งมี AHA ธรรมชาติที่ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว แต่การขัดไม่ควรทำบ่อยเกินไป เพียงอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ก็น่าจะเพียงพอ เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดการระคายเคือง

ประโยชน์ของการขัดหน้าด้วยผงสมุนไพร จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ทำให้ผิวกระจ่างใส ไม่หม่นหมอง สรรพคุณต่างๆ ของสมุนไพรก็ช่วยประทินผิว บำรุงผิวให้ผุดผ่อง ผงสมุนไพรนี้ยังสามารถนำมาใช้ขัดหรือพอกผิวตัวก็ได้เช่นกัน และยังประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น เกลือขัดผิวเพื่อขัดตัว หรือผสมน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบเพื่อเพิ่มสรรพคุณการบำรุงผิวและช่วยบำบัด ผ่อนคลายอารมณ์ได้พร้อมกัน

อาจารย์ สุภาภรณ์ ฝากไปถึงสาวๆที่ชอบเข้าร้านเสริมสวยนวดหน้าว่า จะต้องจำให้แม่น ก่อนเข้ารับบริการในศูนย์ความงาม ว่าสมุนไพรที่เขาใช้คืออะไรบ้าง เรารู้จักไหม เคยใช้ไหม จะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไหน รวมทั้งการหมดอายุของผลิตภัณฑ์ ถ้าเริ่มใช้แล้วมีอาการคันหรือระคายเคืองให้หยุดใช้และรีบไปล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดทันที ล้างน้ำให้มากๆ เพราะถ้าช้าอาจเกิดอาการแพ้แบบรุนแรงขึ้นมาได้ และห้ามกลับมาใช้ต่ออีกเพราะอาจเกิดผลข้างเคียง

โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกของประเทศไทย ที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาสมุนไพรพื้นบ้านที่มีอยู่ในจังหวัดปราจีนบุรีมาพัฒนาเป็นยาใช้เพื่อบำบัดรักษาโรคให้แก่ผู้ป่วยมาตั้งแต่ปี 2529 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยเน้นยาง่ายเพื่อทดแทนการนำเข้ายาจากต่างประเทศ ซึ่งทางโรงพยาบาลสามารถพัฒนาให้เป็นผลิตภัณฑ์แล้วกว่า 68 ชนิด จนทุกวันนี้มีทั้งหน่วยงานของรัฐ เอกชน และนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมและรับบริการทางการแพทย์แผนไทยไม่ต่ำกว่า 500 คนต่อวัน ทำรายได้ปีละกว่า 100 ล้านบาท

โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ยังใช้การพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรไปฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน โดยมีส่วนร่วมกันกับชุมชนในการผลิตวัตถุดิบสมุนไพรเกษตรอินทรีย์ โดยไม่ใช้สารเคมี ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ป้องกันการปนเปื้อน มีการดูแลสมุนไพรด้วยวิธีธรรมชาติทั้งหมด และทำให้ชุมชนมีความรู้ มีความปลอดภัย สามารถผลิตปัจจัยการผลิต

อย่างไรก็ตาม พึงระลึกไว้เสมอว่า ก่อนการใช้สิ่งใดพอก ขัดหน้าควรดูองค์ประกอบของสิ่งนั้นๆ ให้ครบถ้วน เพื่อให้หน้าสวยๆ อยู่กับเราตลอดไป

 

เมื่อ2วันก่อยก็ซื้อผงขมิ้นขัดหน้าของอภัยภูเบศรมาใช้และทำตามขั้นตอนและวิธีการใช้ตามปกติค่ะ ปรากฎว่าพอตื่นมาตอนเช้าหน้า-ลำคอ บวมแดง และยังรวมไปถึงหลังมือข้อพับตามรอยที่น้ำไหลเวลาล้างหน้าค่ะ ซึ่งไม่แน่ใจว่าแพ้สมุนไพรตัวใดรึเปล่า มันจะมีอาการแสบ-ร้อน แต่ไม่มากนะค่ะ แดงและบวมค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้เราจะทราบได้อย่างไรค่ะว่าแพ้สมันไพรตัวใด