สักยันต์

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 12 กุมภาพันธ์ 2007.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,175
    สักยันต์ ไม่มีคำปรากฏในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน แต่เป็นการสมาสของคำว่า สัก และคำว่า ยันต์

    สักหมายถึงการใช้เหล็กแหลมจุ่มหมึกหรือน้ำมันแทงที่ผิวหนังให้เป็นอักขระ เครื่องหมาย หรือลวดลาย

    ถ้าใช้หมึก เรียกว่า สักหมึก ถ้าใช้น้ำมัน เรียกว่า สักน้ำมัน

    ยันต์หมายถึงรูปต่างๆ ที่เขียนลงบนแผ่นโลหะหรือผ้า และลงอักขระหรือเลข เพื่อใช้เป็นของขลัง

    การสักยันต์ไม่มีประวัติความเป็นมาที่แน่นอน คาดกันว่าอาจมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น ในรัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เพื่อเป็นการทำเครื่องหมายแสดงหลักฐาน เช่น สักข้อมือ แสดงว่าได้ขึ้นทะเบียนเป็นชายฉกรรจ์ หรือเป็นเลกมีสังกัดกรมกองแล้ว หรือการสักหน้าเพื่อแสดงว่าเป็นผู้ที่ต้องโทษปาราชิก

    ก่อนจะพัฒนานำความเชื่อทางไสยศาสตร์เข้ามารวมไว้ เป็นการสักเพื่อความแข็งแกร่งของจิตใจ และอยู่ยงคงกระพัน

    การสักยันต์เพื่อให้อยู่ยงคงกระพันนั้นปรากฏในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน และวรรณกรรมอื่นๆ

    การสักต้องมีพิธีกรรมหลายอย่าง เช่น ก่อนสักจะต้องไหว้ครู ในการสักจะต้องประกอบด้วยการร่ายเวทมนตร์

    อาจารย์สักแต่ละคนจะมีรูปแบบของลวดลายเป็นของตนเอง และผู้ต้องการสักสามารถเลือกลายได้ตามต้องการ ส่วนมากจะเป็นสัตว์ในเทพนิยาย และเป็นอักขระขอม หรือเลขยันต์ อาจจะสักลายทั้งสามประเภทผสมกัน

    ปัจจุบันการสักยันต์เสื่อมความนิยมไปมาก เนื่องจากได้รับอิทธิพลความเชื่อมาจากชาวตะวันตก ที่มองผู้ที่มีลายสักว่าส่วนใหญ่มักเป็นขี้เมา คนจรจัด เป็นนักเลง และคนชั้นต่ำ

    คนเมืองมีความรู้สึกว่าลายสักเป็นวัฒนธรรมของคนบ้านนอกคนไม่มีการศึกษา ทำให้ศิลปะบนผิวหนังประเภทนี้เกือบจะสูญไป

    แต่คนบางกลุ่มยังคงความเชื่อดั้งเดิมเอาไว้ เช่น

    สัญลักษณ์บางอย่างของลายสักสามารถทำหนังเหนียวได้ ศัตรูยิงไม่ออก ฟันไม่เข้า

    หรือช่วยให้รอดพ้นจากสถานการณ์อันเลวร้าย

    ลวดลายที่นิยมในบรรดาผู้สักลายที่ให้ผลทางไสยศาสตร์แบ่งเป็น 2 ชนิด คือเพื่อผลทางเมตตามหานิยม มักจะสักเป็นรูปจิ้งจก หรือนกสาริกา เพื่อให้มีเสน่ห์เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป ให้ผลดีทางการเจรจา ค้าขายทำให้เจริญรุ่งเรืองทำมาค้าขึ้น

    การสักลายเพื่อผลทางอยู่ยงคงกระพันชาตรี จะนิยมลวดลายซึ่งเป็นตัวแทนความดุร้ายปราดเปรียว ความสง่างาม ความกล้าหาญ ได้แก่ ลายเสือเผ่น หนุมานคลุกฝุ่น หงส์ และลายสิงห์

    ส่วนลายที่เปรียบเสมือนเกราะป้องกันภยันตราย เช่น เก้ายอด ยันต์เกราะเพชร หรือลายยันต์ชนิดต่างๆ

    แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดซึ่งเป็นแก่นแท้ของการสักเพื่อผลทางไสยศาสตร์ และถือกันว่าเป็นหัวใจของการสัก คือ คาถาที่กำกับลวดลายสัก

    อาจารย์สักแต่ละคนจะถือเป็นเคล็ดลับ ไม่เปิดเผยให้แก่ผู้ใดเป็นอันขาด นอกจากลูกศิษย์ที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้รับถ่ายทอดวิชาสืบต่อไป

    นอกจากนั้น ยังมีผู้นิยมสักเพื่อความสวยงาม มีลวดลายขึ้นอยู่กับความต้องการหรือรสนิยมของผู้สัก เช่น รูปผู้หญิงเปลือย ผีเสื้อ ดอกไม้ หัวใจ ฯลฯ

    บอกนิสัยใจคอของผู้สัก หรือบอกอดีตความประทับใจ ที่ต้องการประทับตราไว้กับตัวตลอดไป

    เช่น ชื่อคน ชื่อประเทศ วันเดือนที่สำคัญ เป็นต้น

    วันนี้สักยันต์กลับมาดังเปรี้ยงปร้างใหม่

    เมื่อนักเรียนประถมศึกษาที่สระแก้ว แห่กันไปสักยันต์เกือบยกโรงเรียน
     
  2. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,513
    ค่าพลัง:
    +27,183
    การสักยันต์คือการย่อหัวใจคาถาพระพุทธคุณต่างๆมาไว้บนตัว
    สำหรับนักรบโบราณที่ไม่มีเวลาสวดมนต์
     
  3. tuesp

    tuesp สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2007
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +17
    สำนักสักยันต์อาจารย์หนู จ.ปทุมธานีของจริง
     
  4. มดดํา

    มดดํา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +129
    (i) ต่างสำนัก ต่างวิธีการ....ในยุกโลกาพิวัตณ์(โลกเสื่อม)เราจะเอารอยสักไปทำอะไร?......ขอเชิญร่วมกันทำดี ละชั่ว ทำใจให้สงบ...มุ่งสู่นิพาน..สาธุ(f)
     
  5. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,513
    ค่าพลัง:
    +27,183
    เอารอยสักไปเป็นพุทธานุสติ ธรรมนุสติ สังฆานุสติ ศีลานุสติ มรณานุสติ เทวตานุสติ กายคตานุสติ ไงจ๊ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...